Saturday, 21 June 2025
TheStatesTimes

ขอนแก่น – ฝนตกหนักน้ำท่วมถนนมิตรภาพ ยาวหลายกิโลเมตร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดฝนตกหนัก และมีลมกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่น ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉบับพลัน ทั้งถนนสายหลักสายรองรวมทั้งในซอยตามหมู่บ้าน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันบนถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ช่วง 4 แยกห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น ยาวไปถึงช่วง 4 แยกก่อนถึงโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร โดยปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาได้ไหลท่วมผิวจราจรบนถนนมิตรภาพ 4 ช่องทางจราจร เหลือเพียง 2 ช่องทางจราจรทั้ง 2 ฝั่งที่สามารถวิ่งได้ตามปกติ โดยระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 ซม. ซึ่งรถเล็กควรหลีกเลี่ยงอาจทำให้น้ำเข้าท่อและเครื่องยนต์ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครขอนแก่นได้ออกมาตรวจสอบและเปิดปากท่อเคลียร์เศษขยะออกให้น้ำสามารถระบายได้รวดเร็วขึ้น

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สำรวจตามตรอกซอกซอยพบว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังส่งผลให้น้ำท่วมถนนสายหรองและถนนในชุมชนหลายแห่ง รถเล็กไม่สามารถขับผ่านได้เนื่องจากปริมาณน้ำสูงประมาณ 50 ซม. โดยเฉพาะที่ถนนบ้านกอกหน้ามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในซอยสวัสดี ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดย 2 จุดนี้เป็นจุดที่น้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากปริมาณน้ำจะไหลมารวมกันในจุดนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมขังฉับพลัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถระบายน้ำทั้งหมดได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงหากฝนหยุดตก ขณะที่หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายในภาพรวมเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป

แม่ฮ่องสอน - ชายแดนสาละวินเสียงปืนยังดัง ราษฎรเมียนมาอพยพข้ามาฝั่งไทยแล้ว 179 ราย ทหารตรึงกำลังคุม ขณะที่ราษฏรไทยบ้านท่าตาฝั่งและแม่สามแลบ หวั่นโดยกระสุนลูกหลงอพยพออกจากหมู่บ้านไปอยู่พื้นที่ปลอดภัย

ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย - เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย -เมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน ประจำวันที่ 29 เม.ย. 64 น. ว่า จากสถานการณ์ของเมื่อวานที่ผ่านมา ยังมีเสียงปืน ชนิด ค.60 จำนวน 2 ลูก ทางทิศใต้ของ ฐานฯ แม่สะล็อก รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 1 กม. คาดว่า ทหารเมียนมา พบความเคลื่อนไหวของ กองกำลังKNU จึงทำการยิงอาวุธปืน ค.60 เพื่อป้องกันการลอบโจมตี ฐานฯ ต่อมาช่วงเย็นได้ยินเสียงปืน ค.60 จำนวน 2 ลูก ทางด้านทิศใต้ ฐานฯ ด๊ากวิน ของทหารเมียนมา ด้านตรงข้าม ฐานฯ บ.ท่าตาฝั่ง ฯ ห่างจากชายแดนไทย ประมาณ 1 กม. คาดว่า ทหารเมียนมา เห็นความเคลื่อนไหว กองกำลัง KNU จึงทำการยิงอาวุธเพื่อป้องกันการลอบโจมตีฐาน ผลการยิงทั้งสองช่วงไม่ทราบความเสียหาย ต่อมาในเย็นวันเดียวกัน  เวลา 17 .00 - 17.12 น ทหารเมียนมา ได้นำเครื่องบินปีกหมุน (ไม่ทราบแบบ) จำนวน 2 ลำ ปฏิบัติการทางทหาร จำนวน 6 ครั้ง เข้าโจมตีด้วยปืนกลทางอากาศ จำนวน 6 ชุด และสลับกับยิงลูกจรวดอากาศสู่พื้น บริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของฐานฯด๊ากวิน ต้านตรงข้าม บ.ท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 1.5 กม เพื่อสกัดและป้องกันรอบฐานที่มั่น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางฝ่ายความมั่นคงตามแนวชายแดนยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้        

      

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบในฝั่งประเทศเมียนมา มีราษฎรชาวเมียนมา ข้ามมายังฝั่งไทยจากเหตุความไม่สงบในเมียนมา อาศัยอยู่ใน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 3 แห่งรวมทั้งสิ้น 179 คน กระจายในพื้นที่ 3 จุด คือ บริเวณตรงข้ามฐานฯดาข่วย ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 68 คน  บริเวณห้วยอีนวล ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 39 คน  และ บริเวณห้วยโกเฮ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 72 คน

ในส่วน กรณีราษฎรไทย ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในประเทศมียนมา ใน 2 พื้นที่ รวมทั้งสิ้น 278 คน ได้จัดให้พำนักในพื้นที่รวบรวมพลเรือน 2 แห่ง คือ ราษฎรไทยพื้นที่ บ.แม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ได้อพยพไปยังพื้นที่รวบรวม พลเรือนโรงเรียนบ้านห้วยกองก้าด ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 450 คน เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา ณ ปัจจุบันบางส่วนได้ไปพักอาศัย ในบ้านญาติ ขณะนี้คงเหลือในพื้นที่พักรอ จำนวน 208 คน และ ราษฎรไทยในพื้นที่ บ.ท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จำนวน 70 คน ได้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย ที่พักริมห้วยกองคา ต.ท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง ซึ่งชาวบ้านที่อพยพออกมาส่วนใหญ่หวั่นกระสุนลูกหลงของการสู้รบในฝั่งประเทศเมียนมา

ขณะที่พื้นที่บ้านแม่สามแลบยังถูกห้ามไม่ให้สื่อมวลชนและบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องข้าเด็ดขาดเนื่องจากต้องป้องกันความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของสถานการณ์การณ์โควิด และ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และ ยังคง ตรึงกำลังมิให้มีการละเมิดหรือรุกล้ำอธิปไตย และ คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่ ผู้หลบหนีภัย และให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บตามหลักมนุษยธรรม


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร  อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

ส.อ.ท. เปิดผลสำรวจ '200 CEO ต่อแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ'​

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 5 ในเดือนเมษายน 2564 ภายใต้หัวข้อ “ความเห็นต่อแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่สนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ (ZEV หรือ Zero Emission Vehicle) และต้องการให้ภาครัฐเริ่มดำเนินการให้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าก่อนปี 2568

จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 200 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 75 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐเริ่มดำเนินการแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้เร็วขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายก่อนกำหนดในปี 2568 คิดเป็น ร้อยละ 47.0 รองลงมาเห็นด้วยตามกรอบระยะเวลาตามแผนฯ ที่จะเริ่มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2568 คิดเป็น ร้อยละ 31.5 และมีเสนอให้เลื่อนการดำเนินงานตามแผนฯ ออกไป 5 ปี และ 10 ปี คิดเป็นร้อยละ 11 และร้อยละ 10.5 ตามลำดับ 

สำหรับปัจจัยที่จะเป็นตัวเร่งทำให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ พบว่า 3 อันดับแรก ผู้บริหาร ส.อ.ท. ให้ความสำคัญกับเรื่องราคารถยนต์ไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา คิดเป็นร้อยละ 78.5 รองลงมาเป็นเรื่องการเพิ่มสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) ให้เพียงพอและครอบคลุมทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ 75.0 และถัดไปเป็นเรื่องระยะทางในการใช้งานที่เหมาะสมของรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งความสะดวกในการชาร์จ คิดเป็นร้อยละ 56.0

.

.

ทั้งนี้ หากมองถึงมาตรการของภาครัฐที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ พบว่า 3 อันดับแรก ผู้บริหาร ส.อ.ท. ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ตามปริมาณ CO2 คิดเป็นร้อยละ 76.5 รองลงมาเป็นการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่ Charging Station ให้จูงใจผู้ใช้งาน คิดเป็นร้อยละ 59.5 และการปรับปรุงภาษีรถยนต์ประจำปีเพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า คิดเป็นร้อยละ 55.5 ในส่วนการเตรียมความพร้อมของภาครัฐเพื่อรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต 3 อันดับแรก พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมการลงทุนตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) ให้มีสถานีเพียงพอและครอบคลุมในแต่ละพื้นที่ คิดเป็นร้อยละ 85.0 รองลงมาเป็นการบริหารจัดการซากรถยนต์และแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ คิดเป็นร้อยละ 65.5 และการเตรียมการจัดหาไฟฟ้าและพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานในระยะยาว คิดเป็นร้อยละ 54.5            

นอกจากนี้ FTI Poll ยังได้เจาะลึกถึงกรณีที่ภาครัฐจะเร่งรัดการใช้และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศจะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมในเรื่องใดบ้าง พบว่า 3 อันดับแรก ผู้บริหาร ส.อ.ท. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้มีการผลิตแบตเตอรี่ที่คุณภาพดีและมีราคาเหมาะสมภายในประเทศ คิดเป็นร้อยละ 65.5 รองลงมาเป็นการเตรียมการปรับปรุงโครงสร้างภาษีและพิกัดศุลกากรเพื่อส่งเสริมให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ คิดเป็นร้อยละ 62.5 และการช่วยเหลือผู้ประกอบการใน Supply Chain ของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป (ICE) ในการปรับตัวไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า คิดเป็นร้อยละ 61.5

ทั้งนี้​ จากผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมที่ควรจะต้องเร่งปรับตัวและได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อเตรียมความพร้อมตามแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ พบว่า 3 อันดับแรก คือ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ คิดเป็นร้อยละ 88.5 รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพและเกษตรกรที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นร้อยละ 49.0 และอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็นร้อยละ 46.5

นครสวรรค์ – แมลงกระเบื้องปีกแข็ งบุกบ้านเรือนชาวบ้าน ตำบลหนองพิกุล อ.ตากฟ้า

วันที่ 29 เมษายน 2564 อบต.หนองพิกุล ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน หมู่ 1 ต.หนองพิกุล ว่ามีแมลงกระเบื้องปีกแข็ง มาก่อกวนสร้างความรำคาญ และมีจำนวนมากขึ้นตามผนังบ้านและภายในบ้าน จึงแจ้งมายัง อบต.หนองพิกุล ให้เจ้าหน้าที่ช่วยไปกำจัดแมลงกระเบื้องปีกแข็งให้ด้วย ดังนั้น นางสุวรรณา แจ้งมณี นายก อบต.หนองพิกุล มอบหมายให้ นายบุญมั่น มั่นนวล เลขานายกฯ รองปลัดฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.หนองพิกุล และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เข้าช่วยเหลือชาวบ้านและทำการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงกระเบื้องภายในที่พักอาศัยของชาวบ้าน หมู่ 1 บ้านหนองพิกุล อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์  2 หลัง คือ บ้าน นางเล็กอิ่มแย้ม บ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 บ้านหนองพิกุล และบ้าน นางสาวลัดดา พันทะท้าว บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 บ้านหนองพิกุล

เนื่องจากแมลงกระเบื้องจะออกมาในช่วงฤดูฝน จึงได้นำเครื่องพ่นฝอยละออง ฉีดพ่นบริเวณโดยรอบที่อยู่อาศัย ฉีดให้โดนตัวแมลงจะตกมาตาย และสารเคมีที่ฉีดพ่นจะตกค้างอยู่ที่พื้นบริเวณบ้านประมาณ 6 เดือน ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง  หากบ้านเรือนประชาชนท่านใดมีแมลงกระเบื้องปีกแข็ง เข้ามาที่อยู่อาศัยจำนวนมากไม่สามารถกำจัดด้วยตนเองได้ โปรดแจ้งหรือมายื่นคำร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ อบต.หนองพิกุล ได้ในเวลาราชการ ถ้าไม่ติดภารกิจก็จะออกปฏิบัติในทันที ทันต่อเหตุการณ์ในการกำจัดแมงกระเบื้องปีกแข็ง ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านทันที 


ภาพ/ข่าว สมเกียรติ วงษ์อยู่น้อย ตาคลีรายงาน

'พลังประชารัฐ' เปิดศูนย์ช่วยเหลือ ปชช.เข้าถึงระบบบริการสาธารณสุข สายด่วน 02-939-1111 ระดมทีมงานรับเรื่อง 10 ศูนย์ทั่วประเทศ เร่งส่งต่อผู้ป่วย ถึงมือแพทย์ จำกัดวงแพร่เชื้อโควิด -19

วันนี้ 29 เมษายน 2564  พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวเปิด "ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 หรือ Call center ศปฉ.พปชร." ณ ที่ทำการพรรค ร่วมกับหัวหน้าศูนย์ภาค ทั้ง 10 ภาคพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการ เพื่อบูรณาการให้บริการประชาชนเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขรวดเร็วในภาวะ การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยมี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 หรือ ศปฉ.พปชร. เป็นประธานเปิดศูนย์ พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้อำนวยการพรรค นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรค  นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม.เขต 30 ในฐานะหัวหน้าภาคกทม. และ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.เขต 9

ร้อยเอกธรรมนัส  กล่าวว่าวันนี้ได้ทำการเปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 หรือ ศปฉ.พปชร. จำนวน 10 ภาค อย่างเป็นทางการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อโควิด-19 ให้เข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขได้อย่างรวดเร็ว และเป็นแนวทางในการจำกัดการแพร่ระบาดไม่ให้ขยายในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่เน้นย้ำให้การดูแลประชาชนให้ได้ทั่วถึงมากที่สุด

ทั้งนี้การเปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 ของพรรค เรามีสมาชิกกระจายอยู่ทั่วประเทศ ที่พร้อมในการดูแลประชาชนในทุกพื้นที่จึงมอบหมายให้ศูนย์ภาคที่มีอยู่ทั้ง 10 แห่ง เป็นศูนย์กลางรับเรื่อง และประสานงานกับสาธารณสุขในพื้นที่ โดยแต่ละภาคจะมีหัวหน้าศูนย์ ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการ ทั้งการจัดเจ้าหน้าที่รับเรื่องจากประชาชน การบริหารข้อมูล เพื่อจัดส่งไปยังสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“สถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ครั้งนี้ จะต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อให้การบริหารจัดการวิกฤต มีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนคนไทยทุกคน สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้โดยเร็ว รวมถึงรัฐบาลยังได้เร่งจัดหาวัคซีน เพื่อให้เพียงพอกับประชาชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันตามมาตรฐานสาธารณสุขสากล” ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว

นางสาวพัชรินทร์ ระบุว่าในส่วนการจัดตั้ง ศปฉ.พปชร. นับตั้งแต่ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามที่ได้รับมอบหมายจาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ให้เปิดดำเนินการร่วมกับศูนย์ภาคทั้ง 10 ภาค ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานกับ ส.ส.ในพื้นที่ ในการเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ พบว่าในพื้นที่ภาค1-9 ยังไม่พบปัญหาผู้ติดเชื้อมากนัก และไม่มีปัญหาการให้บริการผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารับการรักษา โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ จะอยู่ในพื้นที่ กทม. เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยจำนวนมาก

ด้านนายจักรพันธ์ กล่าวว่า กทม.ถือเป็นพื้นที่หัวใจของการแพร่ระบาด จะเห็นจากสถิติจาก ศบค. ที่รายงานการติดเชื้อในแต่ละวัน ขณะนี้เป็นผู้ป่วยจากกทม.ไม่ต่ำกว่า 50% ดังนั้นหากคุมการแพร่ระบาดในกทม.ได้ ตนเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้การควบคุมการระบาดระลอกนี้ได้เกือบทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาส.ส.กทม.ทั้ง 12 คน ของพรรคพลังประชารัฐ ได้ประสานหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนในเขตหรือนอกเขตตนเองอยู่แล้ว โดยข้อมูลที่รวบรวมได้ตั้งแต่การเริ่มระบาดรอบนี้มีกรณีประสานโรงพยาบาลมารับ การส่งตรวจหาเชื้อ และการช่วยเหลือผู้ที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้เนื่องจากสมาชิกหลักในครอบครัว ต้องเข้ารับการรักษาโควิด รวมมากกว่า 50 กรณี อย่างไรก็ตามแม้เจ้าหน้าที่ระดมสรรพกำลังแล้ว ในข้อเท็จจริง ก็ปรากฏว่ายังมีกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงการบริการภาครัฐได้ ดังนั้น ศปฉ.พปชร. นี้ ก็จะสามารถเข้ามามีบทบาทเป็นตัวกลางประสานความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ให้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยขั้นตอนการทำงานของศูนย์นั้น ท่านสามารถติดต่อมาที่หมายเลข 02 -939-1111  ซึ่งจัดรองรับไว้ 30 คู่สาย ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-21.00น. รวมถึงประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือผ่านการ Inbox มาในเพจ Facebook ของพรรคได้ที่ https://www.facebook.com/PPRPThailand/ พร้อมแจ้งรายละเอียด เราจะมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และเร่งนำข้อมูลส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ หรือศูนย์ภาคทั้ง 10 แห่งทั่วประเทศ เพื่อดำเนินงาน ประสานงานจัดส่งผู้ป่วยเข้าสู่การบริการสาธารณสุขโดยเร็ว

สำหรับหัวหน้าศูนย์ภาคของพรรค จำนวน 10 แห่ง ประกอบด้วย ภาค 1 นายยงยุทธ สุวรรณบุตร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 หัวหน้าภาค ภาค 2 นายฐานิสร์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เขต 1 หัวหน้าภาค ภาค 3 นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา เขต 7 หัวหน้าภาค ภาค 4 นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าภาค ภาค 5 นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา เขต 3 หัวหน้าภาค ภาค 6 นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 3 หัวหน้าภาค ภาค 7 นายสุชาติ อุตสาหะ ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 หัวหน้าภาค ภาค 8 นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 หัวหน้าภาค ภาค 9 นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา เขต 1 หัวหน้าภาค ภาค กทม. นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. เขต 30 หัวหน้าภาค


https://www.facebook.com/493026767870664/posts/1136918370148164/

ชลบุรี - ส่งอาหารจากใจ ให้บุคลากรทางการแพทย์ รพสิริกิติ์ฯ ทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด

นายกก่อตั้งและผู้ช่วยผู้ว่าการภาค แพรทอง สินชู  นายก รัมภาพรรณ์ อินมะโรง นายกสโมสรโรตารี มิตรภาพ สัตหีบ ภาค 3340 โรตารีสากล และสมาชิกสโมสรโรตารี มิตรภาพ สัตหีบ ภาค 3340 โรตารีสากล พร้อมด้วย น.อ. สมศักดิ์ พรหมมาลี ประชมรมผู้สูงอายุ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ นำคณะมอบอาหารกลางวันให้กับคณะ แพทย์ พยาบาล และบุคคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ในการทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19

โดยมี นอ.วิทวัช โลเกศกระวี ศัลยกรรมแพทย์ ออร์โธปิดิกส์ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นผู้แทนรับมอบ พร้อมกล่าวขอบคุณในมิตรภาพและมิตรไมตรีของ สโมสรโรตารี มิตรภาพ สัตหีบ และชมรมผู้สูงอายุ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่ได้นำอาหารมามอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในการเฝ้าระวังดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในวันนี้ นอกจากจะเป็นกำลังใจในการปฏิบัติงานแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมกันแก้ไขปัญหาวิกฤติจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นไปได้ ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ของ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ รู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจและขอขอบคุณในความมีน้ำใจนี้เป็นอย่างยิ่ง

นายกก่อตั้งและผู้ช่วยผู้ว่าการภาค แพรทอง สินชู และ น.อ. สมศักดิ์ พรหมมาลี ประชมรมผู้สูงอายุ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กล่าวว่า ได้นำอาหารมามอบให้ในวันนี้ เป็นการส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19  เพื่อสนับสนุนการทำงานของแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในการทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตลอดจนเป็นกำลังใจ แทนคำขอบคุณในความเสียสละของทีมแพทย์ทุกท่าน ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ภูเก็ต - ศรชล.ภาค 3 ”ลาดตระเวนทางทะเล ตรวจเข้ม !! เรือประมงในทะเล

ศรชล.ภาค 3 โดย น.อ.เกรียงไกร ลายเงิน หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต และ น.อ.ปุณณรัตน์ เลาวัณศิริ รอง ผบ.หมวดเรือเฉพาะกิจ ศรชล.ภาค 3ร่วมกับ เรือ ต.994 ร่วมบูรณาการตรวจเรือประมงในทะเล ตรวจเครื่องมือและสัตว์น้ำจากการทำการประมง ตรวจสภาพการจ้างสภาพการทำงาน และการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในกิจการประมงทะเล ตรวจการลักลอบเข้าเมืองของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ในภาคประมง และแจ้งให้ลูกเรือประมง และผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในการทำการประมง และการป้องกันโรคตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

นครพนม - ครอบครัวผู้ใจบุญ มอบเครื่องช่วยหายใจ สนับสนุนการรักษาผู้ป่วยโรงพยาบาลนครพนม

วันที่ 29 เมษายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า ในการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินที่อยู่ในภาวะวิกฤตนั้น เครื่องช่วยหายใจเป็นหนึ่งในเครื่องมือแพทย์ที่มีความจำเป็นและมีประโยชน์ต่อการรักษาเป็นอย่างมากเพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีระบบทางเดินหายใจผิดปกติ สามารถหายใจได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ ที่ผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจำเป็นจะต้องใช้

ซึ่งนับเป็นข่าวดีอย่างยิ่งของชาวนครพนม เพราะในวันนี้ทางโรงพยาบาลได้รับการบริจาคเครื่องช่วยหายใจ ยี่ห้อ CareFusion T Bird Series รุ่น VELA Plus จำนวน 2 เครื่อง ในราคารวม 900,000 บาท จากครอบครัวผู้ใจบุญ คือครอบครัวของคุณมัติกานต์ อินทร์ดี และ Mr. Alan Randall ที่ได้ติดต่อประสานผ่านทางนางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่เป็นลูกหลานชาวนครพนมจนนำมาสู่การนำเครื่องช่วยหายใจมามอบให้ในครั้งนี้

จึงขอเป็นตัวแทนชาวนครพนมและผู้ป่วยทุกคนที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพนมในการขอบคุณครอบครัวผู้ใจบุญที่มีจิตอันเป็นกุศลนำเครื่องช่วยหายใจมามอบให้ในวันนี้ โดยเครื่องรุ่นนี้มีคุณลักษณะที่โดดเด่น คือเป็นเครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตรและความดัน สามารถใช้กับผู้ป่วยได้ทั้งที่เป็นเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งสามารถควบคุมการปรับตั้งค่าด้วยระบบ Touch Screen หรือจะใช้ปุ่มหมุนก็ได้เช่นเดียวกัน มีระบบล็อคจอภาพที่แสดงผลปริมาตรของการหายใจ แสดงระยะเวลาและจำนวนครั้งของการหายใจ และค่าอื่น ๆ อีกหลายอย่างด้วยจอภาพสีชนิด LCD ขนาด 10.4 นิ้ว

มีการควบคุมการจ่ายอากาศด้วยระบบ Turbine สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Invasive และแบบ Non-invasive มีระบบช่วยหายใจสำรอง Apnea backup ventilation ที่สามารถเลือกการทำงานเป็นแบบ Volume หรือ Pressure สามารถใช้งานกับแหล่งจ่ายออกซิเจนได้ทั้งแบบ High pressure และ Low pressure มีระบบพ่นยาจากตัวเครื่อง โดยพ่นยาเฉพาะช่วงหายใจเข้า ซึ่งสามารถพ่นยาได้นานสูงสุด 60 นาที มีระบบ Leak Compensation ที่สำคัญคือมีแบตเตอรี่สำรองภายในตัวเครื่องในกรณีไฟฟ้าขัดข้องสามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมง


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม

ปทุมธานี – นายกแจ๊ส เดินหน้าพัฒนาสระเก็บน้ำพระรามเก้า ควบคู่ท้องฟ้าจำลองรังสิตเป็นแลนด์มาร์คแหล่งใหม่

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 เวลา 15:00 น. ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เพื่อร่วมประชุมวางแผน ขับเคลื่อนและบูรณาการการมีส่วนร่วมดำเนินการภายใต้โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมเพิ่มต้นทุนทางธรรมชาติให้แก่เมืองพื้นที่โครงการขยายผลสระเก็บน้ำพระรามเก้าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บนเนื้อที่ 1,700 ไร่ ให้เป็นแหล่งพักผ่อนออกกำลังกายของชาวปทุมธานี

โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี และ ดร.ปรีชา ชื่นชนกพิบูล เลขานุการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อม ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม , ผู้อำนวยการกองช่าง อบจ.ปทุมธานี ได้เยี่ยมสำรวจ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เพื่อวางแผนพัฒนาให้ควบคู่ไปกับโครงการพัฒนาสระเก็บน้ำพระราม 9 ซึ่งอยู่ระหว่างขอใช้พื้นที่จาก มูลนิธิชัยพัฒนา ให้เป็นแหล่งพักผ่อนออกกำลังกายของชาวปทุมธานี โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิตอยู่ติดกับสระเก็บน้ำพระรามเก้า ได้ให้บริการการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ภายในศูนย์ฯ มีกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านนิทรรศการ ค่ายวิทยาศาสตร์ ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ กิจกรรมเสริมทักษะ วิทยาศาสตร์เคลื่อนที่ การบริการวิชาการ การประกวดแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ และท้องฟ้าจำลอง

ว่าที่ ร.อ.อาศิส เชยกลิ่น ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต กล่าวว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ภายในสังกัดปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีพื้นที่ 60 ไร่ ในส่วนของตัวอาคารมี 4 ชั้น ที่ให้บริการชมนิทรรศการ 20 นิทรรศการ ที่รองรับน้อง ๆ นักเรียนเข้ามาเยี่ยมชมแล้วได้ความรู้กลับไป ซึ่งภายในนิทรรศการจะมีสิ่งที่น่าสนใจทั้งวิชาการและความสนุก นอกจากนี้ยังมีท้องฟ้าจำลอง ขนาด 160 ที่นั่ง ขนาดใหญ่ที่สุดรองจากทองฟ้าจำลองเอกมัย ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงที่เอากล้องตัวใหม่จากต่างประเทศเข้ามา คาดว่าเดือนตุลาคม 2564 จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ แต่ในส่วนที่ให้บริการด้านนิทรรศการยังคงให้บริการปกติ เรามีค่ายเยาวชนราคาประหยัด มีกิจกรรมเสริมสมองให้กับเด็ก ๆ  หน่วยงานไหนไม่มีงบประมาณ เราก็มีงบในการสนับสนุนเพื่อการศึกษาได้

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี  กล่าวว่า เนื่องจากผมได้มีนโยบายในการพัฒนาสระเก็บน้ำพระรามเก้า เมื่อมาดูในมุมสูงจะเห็นว่าสระเก็บน้ำพระรามเก้ามีขนาดใหญ่มาก เฉพาะฉะนั้นเมื่อสระเก็บน้ำพระรามเก้าและศูนย์วิทย์ฯ ต้องมีการพัฒนาไปด้วยกัน บริเวณนี้จะเป็นแลนด์มาร์คที่ดี อาจจะพัฒนามีหอสูงเพื่อชมวิวบริเวณนี้ซึ่งจะสวยงามมาก ในส่วนของสระเก็บน้ำพระรามเก้าเราทำแน่นอนที่จะทำเป็นสถานที่ออกกำลังกาย พี่น้องชาวปทุมธานีมาปั่นจักรยานรอบสระน้ำพระรามเก้า รวมถึงมีกิจกรรมทางน้ำ มีการแสดงขนบธรรมเนียมประเพณีทางน้ำ ประเพณีมอญ มีศูนย์อาหาร สินค้าโอทอปของจังหวัดปทุมธานี ทุกอย่างจะควบคู่กันไปหมด เพื่อจุงใจให้พี่น้องชาวจังหวัดอื่น ๆ มาท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานี และทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดปทุมธานีดีขึ้น สระเก็บน้ำพระรามเก้าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นปอดของคนปทุมธานี จากที่ตนเองได้ไปดูงานที่ต่างประเทศมาแล้วหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาทางการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่ง เศรษฐกิจนำเงินเข้าประเทศมากมายเราตื่นตาตื่นใจกับเขา แต่ในบ้านเรามีดีกว่าเขาเยอะขาดเเต่การพัฒนา ซึ่งสระเก็บน้ำพระรามเก้ามีพื้นที่กว่า 1,700 ไร่ ตนเองสามารถนำความรู้ที่ไปดูงานมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และพัฒนาเด็กไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นเด็กประถมศึกษาในจังหวัดปทุมธานีต้องมาดูท้องฟ้าจำลองที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ศึกษาดาราศาสตร์ที่จังหวัดปทุมธานี และเด็กที่อื่นต้องมาดูที่จังหวัดปทุมธานี นอกจากนี้ยังจะสร้างห้องสมุด อบจ.ปทุมธานี เพื่อคนปทุมธานีที่นี่ด้วย


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ  

แม่ฮ่องสอน - นายอำเภอแม่ลาน้อย สนธิกำลังป่าไม้ ตำรวจร่วมจับกุม 6 ผู้ต้องหา ฐานร่วมกันมีไม้สักท่อนไว้ในครอบครอง

เมื่อเร็ว ๆ นี้  นายชูชาติ คำมา นายอำเภอแม่ลาน้อย  ได้ร่วมกับทาง  นายนิพนธ์ วรนาม เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน พ.ต.ท.เดชา วิบูลกิจ สว.สส.สภ.แม่ลาน้อย นายวัชรพงศ์ จันทิมา ปลัดอำเภอแม่ลาน้อย พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 6 คน ตรวจยึดไม้สักท่อนจำนวน 7 ท่อน ปริมาตร 9.7 ลบ.ม. และรถยนต์ 3 คัน กระทำความผิดฐานร่วมกันมีไม้สักท่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และฐานร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต 

ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ได้รับแจ้งจาก ผู้หวังดี ว่ามีการลักลอบตัดไม้ บริเวณในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งขวา ท้องที่บ้านแม่แลบ ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้สนธิกำลังวางแผนและเดินทางมาถึงบริเวณตามที่ได้รับแจ้ง ได้พบชาย จำนวน 6 คน อยู่ในบริเวณที่มีการตัดไม้ ห่างออกไปจากบริเวณที่ไม้ถูกโค่นล้มออกไปประมาณ 30 เมตร พบรถบรรทุก 2 คันและรถเก๋ง 1 คัน ในบริเวณข้างเคียง ตรวจพบไม้ถูกโค่นล้มตัดทอนแล้ว จากการสอบถามชายทั้ง 6 คน ได้ให้การว่าไม้ดังกล่าวมีการซื้อขายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ปรากฏว่าเป็นไม้สัก จึงทำการจับพิกัดตอไม้ ปรากฏว่าไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่กรรมสิทธิ์แต่อย่างใด ซึ่งไม้ดังกล่าวขึ้นอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งขวา

สำหรับไม้สักท่อนของกลางได้ขออนุมัติพนักงานสอบสวนนำมาเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส. 25 (ท่าผาปุ้มเดิม) ตามระเบียบต่อไป คณะเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ลาน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีนายชูชาติ คำมา นายอำเภอแม่ลาน้อย เข้าร่วมเป็นผู้สอบสวนในครั้งนี้ด้วยตนเอง


ภาพ/ข่าว สุกัลยา / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top