Wednesday, 18 June 2025
TheStatesTimes

สงขลา - แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะประชาชนชาวอำเภอนาทวี พร้อมเปิดฝายชะลอน้ำ สร้างความร่วมมือ ให้เกิดการตระหนักรู้ หยุดเชื้อ เพื่อชาติ

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางเป็นประธานเปิดฝายชะลอน้ำ ที่บ้านวังใหญ่ปลายรำ ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา พร้อมเยี่ยมเยียนสร้างขวัญกำลังใจแก่พี่น้องประชาชน ในวันขึ้นปีใหม่ไทย ประจำปี 2564 ตามขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมวิถีไทย และสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้พูดคุยกับผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และชาวบ้าน โดยเน้นย้ำการทำกิจกรรมช่วงเทศการวันหยุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดการตระหนักรู้ ให้ความสำคัญในการระมัดระวังตนเอง และยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด  โดยไม่ไปในที่แออัด ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง รับผิดชอบตนเองและสังคม หยุดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อ ร่วมกันหยุดเชื้อเพื่อชาติ จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ

สำหรับฝายชะลอน้ำ ที่บ้านวังใหญ่ปลายรำ นั้นมีพระครูสุวัฒนาภรณ์ (อาจารย์ภัตร อริโย) เจ้าอาวาสวัดนาทวี / รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลาพร้อมด้วย หน่วยทหารในพื้นที่ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น พี่น้องประชาชนในอำเภอนาทวี ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำการสร้างฝายมีชีวิตขึ้นในชุมชน เพื่อเป็นน้ำหล่อเลี้ยงผลผลิตด้านเกษตรกรภายในพื้นที่ ให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามขาดแคลนในช่วงฤดูแล้ง และชะลอระดับกระแสน้ำในยามฤดูฝนไม่ให้เกิดน้ำหลากเข้าพื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งฝายมีชีวิตดังกล่าวเป็นแนวคิดที่ให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ให้เกิดความรักความสามัคคี ด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาเป็นเครื่องมือในการดำเนินการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ จนนำไปสู่การสร้างทักษะการทำงานร่วมกัน อันเป็นแบบอย่างของการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง หมู่บ้านปลอดเหตุ และชุมชนปลอดภัย พี่น้องประชาชนมีความรักความสามัคคีกัน สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างยังยืนต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

‘ตรีนุช เทียนทอง’ สั่งปลัดกระทรวงศึกษาฯ ออกประกาศด่วน! ขยาย Work from Home -หน่วยงานในสังกัดงดจัดกิจกรรมทุกชนิดถึง 30 เม.ย.64 เข้มรับสมัครนักเรียนปีการศึกษา 2564 ยับยั้งการแพร่ระบาด โควิด – 19

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ในปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) และมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการแพร่ระบาดกระจายในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใย และขอความร่วมมืองดการจัดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น นั้น ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ตนได้สั่งการให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปรับปรุงประกาศ ศธ.เรื่อง การป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 โดยการปรับลดเวลาและวันทำงานของบุคลากรในสังกัด ศธ. ใหม่ โดยให้บุคลากรและหน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) ต่อเนื่องจากประกาศฉบับเดิม ตั้งแต่วันที่ 9 ถึงวันที่ 23 เมษายน ขยายเป็นถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 และจัดบุคลากรหมุนเวียนมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงานไม่เกินร้อยละ 10 หรือ ให้ Work from Home จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของบุคลากรทั้งหมด พร้อมทั้งให้ออกแนวทางปฏิบัติงาน เพื่อไม่ให้การทำงานพัฒนาการศึกษาของชาติสะดุด

“มาตรการที่ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น งดการจัดประชุม อบรม สัมมนา ของข้าราชการ นักเรียน และนักศึกษาในสังกัด ศธ. ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 ถ้าจำเป็นให้ใช้รูปแบบออนไลน์ งดจัดกิจกรรมใดๆ ที่มีการรวมกลุ่มของนักเรียน นักศึกษา ในช่วงปิดภาคเรียนนี้ ส่วนการดำเนินการรับสมัครนักเรียน นักศึกษา เข้าศึกษาต่อในสถานศึกษา ทั้งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) รวมถึงการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และ อื่นๆ ทราบว่าแต่ละสังกัด ก็มีการเปิดรับสมัครแบบออนไลน์แล้ว แต่ถ้ามีการรับสมัครในพื้นที่ด้วย หรือ จำเป็นต้องมีการสอบ การสัมภาษณ์ จะต้องดำเนินการตามมาตรการและขั้นตอนที่เข้มข้นสูงสุด

 

ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นจริงๆที่ต้องจัดกิจกรรมในระหว่างนี้ ต้องขอความเห็นชอบจากสาธารณสุขในพื้นที่ก่อน และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด -19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และขอให้บุคลากรในสังกัด ศธ.ทุกคน ดูแลตัวเองอย่างเข้มงวด หากพบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือ มีอาการที่อาจจะเข้าข่ายเป็นผู้ติดเชื้อจะต้องแจ้งผู้เกี่ยวข้องทันที รวมทั้งสื่อสารกับนักเรียนและผู้ปกครองให้ตระหนักถึงการดูแลตัวเองด้วย ” รมว.ศธ.กล่าว..

ที่มา : https://mgronline.com/qol/detail/9640000035467

 

‘บิทคอยน์’ ยังแรงต่อเนื่อง ล่าสุดราคาพุ่งทำนิวไฮแตะ 63,800 ดอลลาร์ ขานรับเอกชน สนใจอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล และยอมรับบิทคอยน์มากขึ้น

บิทคอยน์ ทะยานขึ้นทำนิวไฮในวันนี้ (14 เม.ย.64)  ก่อนที่ Coinbase Global Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นแพลทฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในสหรัฐ จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ในวันนี้ ซึ่งถือครั้งแรกที่บริษัทในธุรกิจดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความต้องการของนักลงทุนสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล

โดยเมื่อเวลา 10.50 น. ราคาบิทคอยน์พุ่งขึ้นแตะที่ 63,800 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และยังทำสถิติราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (All-time high )

นอกจากนี้ บิทคอยน์ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่บริษัทขนาดใหญ่ เช่น เทสลา, มาสเตอร์การ์ด, โกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์ และแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป ซึ่งเป็นธนาคารเก่าแก่ที่สุดของสหรัฐ ให้การยอมรับในบิทคอยน์มากขึ้น

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายซูเปอร์คาร์ ลัมโบร์กินี ในประเทศไทย ได้เปิดรับการชำระเงินซื้อรถยนต์ด้วยบิทคอยน์ และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ อีกด้วย

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานปรับปรุงประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานตามมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยกระดับการให้บริการภาครัฐในระบบดิจิทัล พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้

นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ยกเลิกประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานตามมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ฉบับวันที่ 15 ธันวาคม 2560 โดยปรับปรุงและออกประกาศฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับปรุงประกาศในครั้งนี้เพื่อยกระดับการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐให้อยู่ในระบบดิจิทัล ประชาชนได้รับความสะดวกในการรับบริการและสามารถตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐได้

โดยมีสาระสำคัญได้แก่ ลูกจ้างหรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถึงแก่ความตายสามารถยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานตามมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยลงทะเบียนขอรหัสผู้ใช้และรหัสผ่านทางเว็บไซต์ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (eservice.labour.go.th) เมื่อได้รับรหัสดังกล่าวแล้วสามารถยื่นคำร้องตามขั้นตอนในระบบการให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ได้ ทั้งนี้ขอให้เก็บรักษารหัสผู้ใช้และรหัสผ่านไว้เป็นความลับ เนื่องจากเป็นข้อมูลในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ระบบ และถือเป็นหลักฐานในการแสดงการลงลายมือชื่อของผู้ใช้ระบบในการติดต่อกับพนักงานตรวจแรงงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า การยื่นคำร้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้ระบบถือเป็นหลักฐานการยื่นคำร้องเป็นหนังสือตามแบบที่อธิบดีกำหนด โดยผู้ใช้ระบบสามารถติดตามผล ส่งเอกสารเพิ่มเติม หรือยกเลิกคำร้องตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระบบการให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ได้ ในส่วนของบรรดาคำร้องที่ได้ยื่นตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานตามมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานตรวจแรงงานก่อนประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ดำเนินการต่อไปจนกว่าคำร้องที่ยื่นไว้จะถึงที่สุด

‘รองโฆษกพรรคกล้า’ แนะรัฐบาล รวมแอปโควิด-สายด่วนเบอร์เดียว ลดความสับสน - ซ้ำซ้อน สะดวกต่อการใช้งาน ย้ำในสถานการณ์วิกฤต ข้อมูลต้องแม่นยำ

นางสาวภรณี วัฒนโชติ รองโฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงแอปพลิเคชันหลายตัว เช่น ไทยชนะ หมอชนะ ใกล้มือหมอ หมอพร้อม ไทยเซฟไทย และสายด่วนองค์กรต่างๆ ที่รัฐใช้รับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ว่า เป็นเรื่องที่ดี ที่รัฐใช้เทคโนโลยีและการจัดการข้อมูล เข้ามามีส่วนในการจัดการโรคระบาด แต่มองว่าการให้บริการทางข้อมูลต่อประชาชนในยามวิกฤตจะต้องกระชับ ชัดเจน และเข้าถึงง่าย มีข้อมูลที่ถูกต้อง ใช้ประโยชน์ได้จริง

นางสาวภรณี กล่าวว่า ตนเองเจอประสบการณ์ตรง ได้ไปใช้บริการธนาคารที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง และไปศูนย์การค้านั้นอีกครั้งในวันถัดมา จึงได้รับข้อมูลว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดมาใช้บริการที่ธนาคารเดียวกัน แต่กลับไม่ทราบช่วงเวลา โดยธนาคารปิดสาขาเพื่อทำความสะอาด จึงเกิดคำถามว่าเมื่อเช็คอิน "ไทยชนะ" ในการเข้าออกสถานที่แล้ว ทำไมจึงไม่ได้รับแจ้งข่าวสารที่จำเป็น ทำให้ไม่สามารถประเมินความเสี่ยงของการรับเชื้อ และหลักปฏิบัติตนที่เหมาะสม นอกจากนั้นยังมีคนใกล้ชิด หาข้อมูลเพื่อเข้าตรวจเชื้อโควิดผ่านแอป "หมอพร้อม" โดยให้ข้อมูลว่ามีโรงพยาบาลรอบตัวเป็นจำนวนมากให้เข้าตรวจได้ แต่พอจะไปตรวจจริงๆ กลับไม่พร้อมให้บริการ

รองโฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า อยากเสนอภาครัฐหรือผู้ที่รับผิดชอบแอปพลิเคชันต่าง ๆ เหล่านี้ว่า ควรจะมีข้อมูลที่ตรงกับข้อเท็จจริง และเป็นลักษณะ Real Time เพื่อให้ประชาชนใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอยากเสนอให้มีการรวมแอปพลิเคชัน ไว้ด้วยกันเพียงแอปเดียว และทำฟังชั่นการใช้งานให้ครอบคลุม รวมถึงสายด่วนต่างๆ ซึ่งมีอยู่หลายเบอร์ อยากให้รวมศูนย์เหลือเพียง 1 เบอร์ เพื่อป้องกันความสับสน สะดวกต่อการจดจำ และง่ายต่อการประสานงานให้ความช่วยเหลือประชาชน ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์การปฏิรูประบบ E-Government ของรัฐบาล ในการนำประเทศไทยสู่ยุค 4.0 และ 5.0 ต่อไป

'แรมโบ้' อัด เด็กหญิงหน่อย อย่าทำหูหนวก ตาบอด ตีกินทางการเมือง หลังซัดหนัก บิ๊กตู่ แก้โควิด-19 เย้ย อ่อนพรรษา ให้กลับไปติวมาใหม่

เมื่อวันที่ 14 เมษายน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายเทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน คณะทำงานด้านนโยบายและแผน พรรคไทยสร้างไทย ข้องใจเงินกู้ 40,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลกู้มารับมือโควิด-19 หายไปไหน นำไปใช้อะไรบ้าง ปล่อยปะละเลยให้เกิดการระบาดในรอบ 3 ว่า การกู้เงินนั้นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงไปแล้วว่าเพื่อนำมาใช้ในแผนงานหรือโครงการทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้กับประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ และ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งนายเทพฤทธิ์ได้เห็นแล้วว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปแล้ว มีมาตรการอะไรออกมาบ้าง เพื่อช่วยประชาชน ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลย จนเป็นที่พึงพอใจของประาชนว่ารัฐเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ผลดีกว่าหลายประเทศที่กำลังประสพปัญหายิ่งกว่าประเทศไทย

นายเสกสกล กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่าความไม่พร้อมของการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ที่ยังไม่เปิดให้คนไทยเข้าถึงการตรวจหาเชื้อได้ง่ายและฟรีนั้น ตนเองยืนยันยันว่าตามโรงพยาบาลรวมถึงในต่างจังหวัด ได้มีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกมาโดยตลอด และตรวจฟรีสำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก่อน ซึ่งการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อในแต่ละวันที่มีตัวเลขสูงนั้นก็มาจากการตรวจเชิงรุกทั้งนั้น  

นายเสกสกล กล่าวว่า ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนนั้นนายกฯได้ย้ำอยู่ตลอดว่าต้องเป็นไปตามกระบวนการ และนายกฯได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาบริหารจัดการให้เข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด ให้ได้ตามแผนที่วางเอาไว้ ขณะเดียวกัน อย.ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ของจอนห์สันแอนด์จอห์สันแล้ว เป็นวัคซีนรายที่สามและวัคซีนที่มีคุณภาพที่อย.จะอนุญาตตามมาอีกหลายชนิด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนครบทุกคนอย่างแน่นอน
  
นายเสกสกล กล่าวว่า การที่นายเทพฤทธิ์บอกว่าโควิดรอบนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทยนั้น นายเสกสกลมองว่า หากนายเทพฤทธิ์ไม่ชอบนายกฯ หรือรัฐบาล ก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ควรออกมาพูดเช่นนี้เพราะนอกจากจะไม่ให้กำลังใจแล้ว ยังเป็นการทำร้ายจิตใจของบุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ทำงานมาอย่างหนักไม่ได้หยุดเลยในการช่วยเหลือประชาชน

นายเสกสกล กล่าวว่า นายเทพฤทธิ์ อาจจะไม่เห็นการทำงานของนายกฯ รัฐบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ก็ไม่ควรออกมาพูดเช่นนี้ในขณะที่ทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชนร่วมมือร่วมใจกันให้สถานการณ์ ระบาดคลี่คลายลง ไม่ใช่จ้องแต่จะใช้วาทะตีกินทางการเมืองไม่คำนึงผลเสียหายหรือเป็นบ่อนทำลายจิตใจคนปฎิบัติหน้าที่ ที่ทุ่มเททำงานหนัก

นายเสกสกล กล่าวว่า พร้อมกันนี้ก็ขอให้มองในส่วนดีของนายกฯและรัฐบาลบ้าง ซึ่งการระบาดที่ผ่านมานายกฯทำได้ดี อย่าทำเป็นหูหนวก ตาบอด อย่าคอยแต่จะจ้องโจมตี ทำลายความน่าเชื่อถือนายกฯ และรัฐบาล ในขณะที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤติ  ซึ่งหากยังทำเช่นนี้ในทางกลับกันนายเทพฤทธิ์ กับพรรคไทยสร้างไทย จะหมดความน่าเชื่อถือเอง ขอเตือนเป็นพรรคการเมืองใหม่ควรเอาเวลาไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนจะดีกว่า ประชาชนจะได้ไว้วางใจให้มี ส.ส.ในสภาฯในการเลือกตั้งสมัยหน้าแต่ถ้ามีพฤติกรรมเช่นนี้ สมัยหน้าอาจจะไม่มีส.ส..เข้าสภาแม้แต่คนเดียว
 
"เพิ่งตั้งพรรคใหม่ คุณหญิงสุดารัตน์อนุญาตให้ออกมาพูดหรือยัง ก่อนจะพูดช่วยเปิดหูเปิดตาศึกษาข้อมูลให้กระจ่างว่ารัฐบาลนำงบประมาณไปใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าให้ประชาชนอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะอ้าปากใส่ความรัฐบาลให้เสียหาย อย่าคิดแค่สร้างกระแสตีกินให้พรรคใหม่มีชื่อในหน้าสื่อ พรรษายังอ่อนหัดทางการเมือง ไหนบอกพรรคเป็นความหวังใหม่ของคนไทย จะไปหวังอะไรได้ นี่ไม่น่าใช้ชื่อ พรรคไทยสร้างไทยหรอก เพราะไม่ช่วยคิดสร้างไทยเลยมีแต่จะทำลายไทย จึงขอเปลี่ยนชื่อไว้รอการเลือกตั้งใหญ่ที่จะถึงอีกปีเศษๆ ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า"พรรคไทยทำลายไทย" จะดีกว่าไหม ถ้าคนในพรรคมีสมองมีความคิดได้เพียงแค่นี้ พรรคคงไปไม่รอดเป็นแน่ ฝากคุณหญิงสุดารัตน์ เอาตัวนายเทพฤทธิ์ไปติวไปอบรมความคิดใหม่ๆที่สร้างสรรค์กว่านี้ด้วย ก่อนที่อนาคตพรรคจะตกต่ำไปยิ่งกว่านี้ ผมเตือนมาด้วยความหวังดี และห่วงใย" นายเสกสกลกล่าว

นราธิวาส - นิพนธ์ ลงพื้นที่นราธิวาส วันแรกของเดือนรอมฎอน เยี่ยมด่านป้องกันอุบัติเหตุฯ ด่าน COVID19 นำกำลังใจจากนายกรัฐมนตรี รองนายกฯ- มท.1- ครม. มอบให้แก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนใต้

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี2564 พร้อมทั้งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(COVID19) ณ บริเวณจุดตรวจจุดบริการประชาชนในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอไหงโก-ลก โดยมี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  นายบุญพาศ  รักนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่ทหาร - ตำรวจ   เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส  อส.และจิตอาสา ร่วมต้อนรับ  ณ บริเวณจุดตรวจที่ 1 บริเวณโรงเรียนบ้านบาตู  เขตเทศบาลตำบลต้นไทร อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส  จุดที่ 2 จุดตรวจบริเวณ ปตท.ปลักปลา ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส  จุดที่ 3 จุดตรวจหน้าสหกรณ์การเกษตรตากใบ ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และจุดตรวจที่ 4 จุดตรวจแยกบ้านน้ำตก เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก  อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดย รมช.มท.ได้มอบสิ่งของ น้ำดื่ม และหน้ากากอนามัยเพื่อบำรุงขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทั้ง 4 จุดตรวจ และ ติดตามแนะนำการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ประจำจุด

นายนิพนธ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า "ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน ที่ได้ทุ่มเทในการดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ในการเดินทางในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์  และวันนี้ก็เป็นวันแรกของเดือนรอมฎอน จึงขอถือโอกาสนี้ให้กำลังใจทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ COVID19 ก็อยู่ในช่วงที่วนเวียนกลับเข้ามาใหม่อีกระลอกหนึ่ง ดังนั้นมาตรการความปลอดภัยในการเดินทาง และมาตรการดูแลในเรื่องของ COVID19 ก็ยังเป็นมาตรการที่ต้องปฏิบัติควบคู่กันในจุดต่าง ๆ  รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในการช่วยกันคัดกรองประชาชนในเรื่องของความเร็วในการใช้ถนน ซึ่งยังถือว่าเป็นอันตรายระดับต้น ๆ  รวมถึงในเรื่องของการวัดอุณหภูมิ การสวมใส่หน้ากากอนามัย  การใช้แอลกอฮอล์ล้างมือ ก็ยังคงต้องปฏิบัติ ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงที่ออกมาตรการมา ก็เพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน จึงขอถือโอกาสนี้ย้ำเตือนถึงผู้ที่สัญจรไปมา ถึงเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน และการดูแลในเรื่องของCOVID19ควบคู่กัน"

"ขอถือโอกาสนี้ให้กำลังใจทุกคน และนำกำลังใจและความปรารถนาดีจาก นายกรัฐมนตรี รองนายกจุรินทร์    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และในนามของคณะรัฐมนตรีทุกท่าน มามอบให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ และเข้มแข็ง จึงขอฝากเรื่องที่ได้กราบเรียนไว้เบื้องต้น ในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน และการดูแลในเรื่องของCOVID19 โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ยังคงเป็นอันดับ 1  การขับรถด้วยความเร็ว และขับรถไม่สวมหมวกนิรภัยก็ยังคงเป็นอันดับ 1 อีกด้วย" รมช.มหาดไทย กล่าว

สหรัฐออกคำสั่งด่วน!!! ระงับการใช้วัคซีน ‘จอห์นสัน & จอห์นสัน’ หลังพบผลข้างเคียง อาการลิ่มเลือดอุดตัน

องค์การอาหารและยา และ กรมควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกาประกาศด่วน ให้ระงับการใช้วัคซีน Covid-19 จากบริษัทจอห์นสัน & จอห์นสันชั่วคราว เนื่องจากพบผู้รับวัคซีนบางรายเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน และเสียชีวิตแล้ว 1 ราย

โดยผู้ที่เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน เป็นผู้หญิงทั้งหมดจำนวน 6 ราย อายุระหว่าง 18 - 48 ปี รับวัคซีนจอห์นสันไปแล้วในระยะเวลาตั้งแต่ 6 -13 วันจึงเกิดอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งบริเวณที่เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน พบในเส้นเลือดสมอง และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย ทำให้สหรัฐจำเป็นต้องระงับการฉีดวัคซีนของจอห์นสันก่อนเพื่อตรวจสอบ

สหรัฐได้รับรองการใช้วัคซีน Covid-19 ของบริษัทจอห์นสัน เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2021 และเป็นวัคซีนที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากเพราะฉีดเพียงแค่เข็มเดียวเท่านั้น ซึ่งต่างจากวัคซีนตัวอื่นๆ ที่ต้องฉีดถึง 2 เข็ม จึงกลายเป็นหนึ่งในวัคซีนที่ได้รับการคาดหวังมาก

จนถึงตอนนี้สหรัฐได้ฉีดวัคซีนจอห์นสันให้กับชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 6.8 ล้านเข็ม และพบอาการลิ่มเลือดอุดตัน 6 เคส ถึงแม้จะเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นน้อยมากๆ หากเทียบกับจำนวนวัคซีนที่ฉีดไป แต่ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าผลข้างเคียงนี้จะเชื่อมโยงกับตัววัคซีนจริงหรือไม่.

นับเป็นการตัดสินใจที่รวดเร็วมากของ CDC และ FDA ของสหรัฐ แต่ข่าวนี้ก็มีผลกับความเชื่อมั่นของวัคซีนของจอห์นสันไม่น้อย ที่ส่งผลให้หุ้นของจอห์นสันตกลงทันทีถึง 3% ซึ่งตรงกันข้ามกับหุ้นของบริษัทคู่แข่งอย่าง Moderna ที่พุ่งขึ้นเกือบ 8% ส่วนหุ้นของ Pfizer และ BioNTech ก็เพิ่มขึ้นอีก 1% เช่นกัน.

แหล่งข้อมูล

https://edition.cnn.com/.../johnson-vaccine.../index.html

https://apnews.com/.../us-pause-j-and-j-vaccine-blood...

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-56733715

https://www.barrons.com/.../johnson-johnson-vaccine...

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=280966790195213&id=104132041212023

กาฬสินธุ์ – ร่วมสืบสานประเพณีเทศกาลสงกรานต์และวันครอบครัว เลี้ยงวิญญาณบรรพบุรุษวิถีภูไท

ชาวภูไทอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมสืบสานประเพณี “เหยา” เลี้ยงทะหลา (มเหศักดิ์หลักเมือง) บวงสรวงอนุสาวรีย์ อดีตเจ้าเมืองและวิญญาณบรรพบุรุษ เพื่อความเป็นสิริมงคล สร้างความรัก ความสามัคคี ในเทศกาลสงกรานต์และวันครอบครัว มีการละเล่นสาดน้ำเฉพาะกลุ่มของคณะหมอเหยาเพื่อพยากรณ์ฝนฟ้า ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข อสม.ตั้งจุดคัดกรอง ป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 ที่บริเวณหอทะหลา (มเหศักดิ์หลักเมือง) เชิงสะพานลำพะยัง ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ นายคงคา ชื่นจิต นายอำเภอเขาวง เป็นประธานพิธีเลี้ยงทะหลา (มเหศักดิ์หลักเมือง) บวงสรวงอนุสาวรีย์พระธิเบศร์วงศา (ด้วง) อดีตเจ้าเมืองกุดสิมนารายณ์คนที่ 2 และพระธิเบศร์วงศา (กินรี) อดีตเจ้าเมืองกุดสิมนารายณ์คนที่ 3 โดยมีนายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 นายนพรัตน์ สายสมบัติ พัฒนาการอำเภอเขาวง นายปุณณรัตน์ วรรณวงศ์ ครูโรงเรียนกุดกว้างสวาสดิ์วิทยา พร้อมด้วยผู้นำชุมชน กลุ่มสตรี เยาวชน แต่งกายด้วยชุดภูไท ซึ่งเป็นชุดแต่งกายพื้นเมือง ตั้งขบวนฟ้อนรำบวงสรวง ด้วยลีลาอ่อนช้อยสวยงาม สื่อถึงอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ภูไท

นายคงคา ชื่นจิต นายอำเภอเขาวง  กล่าวว่า พิธีเลี้ยงทะหลา (มเหศักดิ์หลักเมือง) บวงสรวงอนุสาวรีย์พระธิเบศร์วงศา (ด้วง) อดีตเจ้าเมืองกุดสิมนารายณ์คนที่ 2 และพระธิเบศร์วงศา (กินรี) อดีตเจ้าเมืองกุดสิมนารายณ์คนที่ 3 ดังกล่าว เพื่อน้อมรำลึกและแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ที่ได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกปีในเทศกาลสงกรานต์ ที่เริ่มจากวันที่ 13 เม.ย.วันสงกรานต์ วันที่ 14 เม.ย.วันครอบครัว และวันที่ 15 เม.ย.วันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีไทย นอกจากนี้ยังมีการสาธิตพิธี “เหยา” หรือการรักษาคนป่วยตามความเชื่อของชาวผู้ไท ที่สืบทอดจากมายาวนานหลายชั่วอายุ เพื่อให้ลูกหลาน เยาวชน ที่กลับบ้านในเทศกาลสงกรานต์ ได้ร่วมสืบสาน แสดงความกตัญญูกตเวที เสริมสร้างความรัก ความอบอุ่น ในครอบครัวและในชุมชน โดยทุกคนที่ร่วมพิธีปฏิบัติตนตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เช่น สวมหน้ากากอนามัย ตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ 

ด้านนายปุณณรัตน์ วรรณวงศ์ ครูโรงเรียนกุดกว้างสวาสดิ์วิทยา อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พิธีเหยาเป็นประเพณีที่เกิดจากความเชื่อของชาวภูไท ซึ่งเป็นพิธีสำหรับรักษาอาการเจ็บป่วย ที่ชาวภูไทอนุรักษ์และสืบสานมาอย่างเหนียวแน่น โดยหมอเหยาหรือผู้นำในการประกอบพิธีมีทั้งชายและหญิง หากเป็นชายจะเรียกว่าพ่อเมือง หรือหากเป็นหญิงเรียกว่าแม่เมือง ซึ่งพิธีบวงสรวงและเลี้ยงทะหลาในเทศกาลสงกรานต์หรือในวันครอบครัวนี้ มีการจัดเตรียมเครื่องบวงสรวงเซ่นไหว้ พานบายศรี ข้าวสาร  ไข่ไก่ ข้าวต้มมัด กล้วยสุก เหล้าขาว ยาสูบ พร้อมด้วยคณะหมอเหยา ทำการร่ายรำตามจังหวะดนตรีพื้นเมือง เป็นการบำรุงขวัญกำลังใจให้คนป่วยไข้หายเป็นปกติ ถือเป็นพิธีกรรมเกี่ยวกับความเชื่อในเรื่องของภูตผี วิญญาณ บรรพบุรุษ ยึดมั่นในความกตัญญู ที่สืบสานกันมาแบบรุ่นต่อรุ่นอย่างไม่เสื่อมคลาย

ทั้งนี้ พิธีเหยาเกิดจากเคยมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวมาก่อน รักษาตามกรรมวิธีทางการแพทย์ไม่หาย  จึงหันไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งวิญญาณบรรพบุรุษ ซึ่งชุมชนชาวผู้ไทเชื่อว่าสถิตอยู่ ณ หอทะหลา หรือมเหศักดิ์หลักเมือง ชาวผู้ไทแต่ละเผ่าจะมีกรรมวิธีเหยาที่คล้ายคลึงกัน แต่มีจุดหมายเดียวกันคือบอกกล่าว ขอขมา และร่ายรำช่วยรักษาอาการเจ็บป่วย พิธีเหยาจึงเป็นการติดต่อสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังเป็นการทำนายหรือดูลางบอกเหตุในบางกรณีได้ เช่น  พยากรณ์อากาศ  ทำนายโชคชะตา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในการประกอบพิธีเลี้ยงทะหลา (มเหศักดิ์หลักเมือง) บวงสรวงอนุสาวรีย์พระธิเบศร์วงศา พร้อมร่วมพิธีเหลา เพื่อแสดงความกตัญญูต่อวิญญาณบรรพบุรุษ สืบสานวัฒนธรรมประเพณี และปลูกจิตสำนึกลูกหลาน ที่มาเยี่ยมบ้านและก่อนเดินทางกลับไปทำงานหลังสงกรานต์ ได้รักบ้านเกิด ได้ร่วมกันขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคลในเทศกาลสงกรานต์ด้วยความสุข และเดินทางปลอดภัย ทั้งนี้ หลังสาธิตพิธีเหยาในวันครอบครัว ยังมีการทำนายฝนฟ้า โดยแม่เมืองเป็นผู้นำคณะหมอเหยา ร่ายรำรอบโอ่งบรรจุน้ำหน้าปะรำพิธี และร่วมเล่นสาดน้ำคลายร้อนอย่างชุ่มฉ่ำ ซึ่งพยากรณ์ว่าฝนฟ้าปีนี้จะดี มีฝนตกต้องตามฤดูกาล


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

‘เทพไท’ เรียกร้อง ผู้ติดเชื้อโควิด รับผิดชอบต่อสังคม จี้ รัฐเร่งดำเนินคดีเป็นตัวอย่าง

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ Facebook live กรณีผู้หญิงที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เดินทางกลับพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า กรณีดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นอย่างมาก มีการวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวในสังคมโซเชี่ยลถึงขั้นประณามถามหาความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของบุคคลอื่นอีกในโอกาสต่อไป

ซึ่งเป็นพฤติกรรมของผู้หญิงคนหนึ่งที่สร้างผลกระทบต่อสังคมเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้คนไทยทุกคน ได้มีความรับผิดชอบต่อสังคมให้มากกว่าเหตุผลส่วนตัว การที่มีผู้ติดเชื้อคนหนึ่งได้รับการตรวจเชื้อในโรงพยาบาลที่กรุงเทพมหานคร แต่มีความต้องการที่จะกลับมารักษาอาการป่วยที่ภูมิลำเนาของตัวเองนั้น ก็ควรจะหาวิธีการ หรือแจ้งต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับโรค เพื่อจะได้หาแนวทางหรือวิธีการส่งตัวกลับภูมิลำเนาเดิมได้อย่างปลอดภัย จะได้ไม่มีผลกระทบต่อสังคม

จึงอยากจะให้คนไทยทุกคนได้ตระหนักถึงปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขอให้เห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของส่วนตน เพราะถ้าหากคนไทยทุกคน ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ก็จะขยายการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว และมีผลกระทบต่อสังคมส่วนรวม ทำให้ประเทศชาติมีผู้ติดเชื้อมาก จนไม่สามารถจะรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้อย่างแน่นอน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top