Sunday, 22 June 2025
TheStatesTimes

"อนุทิน" เปิดงาน "Smart living with COVID-19" ชู ประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 สุดเยี่ยม ตั้งมั่น ดูแลผู้ป่วยทุกคน แบบสุดความสามารถ

ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างการเปิดงานเสวนา Smart Living with covid-19 save ทุกลมหายใจ พาคนไทย ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ถึงประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ระบุว่า  

กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายมุ่งเน้นให้ประชาชนแข็งแรง สิ่งที่ตามมาคือเศรษฐกิจและประเทศไทยแข็งแรง ซึ่งเราทราบกันดีว่าสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อคนไทยอย่างมาก รวมทั้งสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข เรามีหน้าที่จัดการแก้ไขให้ผ่านไปด้วยดี

โดยช่วงเริ่มต้น การระบาดมาจากนักท่องเที่ยว ไทยได้ให้การรักษาผู้ป่วยอย่างดีจนสามารถกลับประเทศอย่างปลอดภัย สร้างความศรัทธาแก่ประชาคมโลกอย่างมาก โดยเฉพาะจีน  ผลจากการกระทำนั้นทำให้ไทยได้รับการสนับสนุนหลาย ๆ ด้านจากจีน โดยเฉพาะรัฐบาลไทยที่ได้รับการจัดสรรเวชภัณฑ์และสิ่งต่าง ๆ เป็นการตอบแทน ซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจระหว่างสองชาติอย่างมหาศาล และหลังจากนั้นเราก็ทำงานร่วมกันเรื่อยมา โดยเฉพาะวัคซีนซิโนแวค ที่ต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ แต่ที่เราสามารถนำเข้ามาได้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ไทยทำคุณงามความดีต่อชาวจีนจนเป็นที่ประจักษ์

ความสำเร็จของไทย ยังปรากฏให้เห็น เมื่อเทียบกับหลาย ๆ ชาติที่รักษาผู้ป่วยอย่างยากลำบาก และเลือกรักษาเฉพาะผู้ป่วยวิกฤติ  ขณะที่ไทย บุคลากรทางการแพทย์ถูกฝึกมาให้ความสำคัญกับทุกชีวิต เซฟทุกชีวิต ตามเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข 

ไทยทำทุกทางเพื่อรักษาทุกชีวิต เราไม่ต้องการเห็นความสูญเสียเกิดขึ้น ที่ผ่านมา ไทยมีอุปกรณ์  และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ทุกคนที่ป่วยในประเทศนี้ได้รับการรักษาให้ดีที่สุด ดูแลทุกคนอย่างเต็มที่ ทำทุกวิถีทางให้ผู้ป่วยรอด ไม่ให้มีคำว่า “มีผู้เสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการรักษา”  และสิ่งที่เราพูดได้เต็มปากคือ ในจำนวนผู้ที่เสียชีวิต ไม่มีใครถูกทิ้งขว้างจากระบบสาธารณสุขไทย

"นานาชาติยอมรับใน มาตรฐานการควบคุมป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีอัตราการเสียชีวิต อยู่ที่ร้อยละ 0.3 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก 7 เท่า และเมื่อเทียบกับการระบาดและรอบใหม่พบว่าอัตราการเสียชีวิตลดลงมาเหลือร้อยละ 0.1 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก 20 เท่า"

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องทำคือต้อง Smart Living ต่อไป รู้ทันโรค ตั้งการ์ด สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ และต้องรุกตลอดเวลา ให้โรคแพ้เรา และนอกจาก Smart Living แล้วเราต้อง  Smart work ด้วย เป็นสิ่งยืนยันว่าระบบสาธารณสุขไทยอยู่เหนือมาตรฐานที่วางไว้ และอีกไม่นาน หวังว่าวัคซีนป้องกันโควิด19 จะเป็นตัวปิดเกม 

ซึ่งวัคซีนที่ไทยเลือก ผู้เลือกคือหมอทุกท่าน ตนฟังคำแนะนำจากคณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย ใต้ชื่อแบรนด์ MIT หรือ Made in Thailand เราได้แบรนด์ระดับโลกมาผลิตในบ้านเรา คือแอสตราเซเนกา ซึ่งมีประสิทธิผลน่าพึงพอใจ  ทำให้อาการไม่รุนแรง ลดโอกาสการเสียชีวิต นี่คือเหตุผลที่คนไทยต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด  

“ขอแสดงความยินดีกับบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ผมภูมิใจที่ได้ทำงานกับทุกท่าน เรารักษาชีวิตแม่ลูกชาวเมียนมาร์ให้ปลอดภัย เรารักษาชีวิตแท็กซี่ อดีตผู้ป่วยก็กลับมาตอบแทนด้วยพลาสมา และได้หลักการปฏิบัติตัว เราประสบความสำเร็จในการทดลองยาฟาวิพิราเวียร์

ล่าสุดคือผู้ว่าสมุทรสาครที่เคยป่วยเข้าขั้นวิกฤติ แต่ด้วยความมุ่งมั่น และด้วยระบบการแพทย์ เราก็ Save Life ท่าน และเราจะ Save Life- Smart Living- Smart Working ให้ประเทศไทยเป็น Smart Country ต่อไป”

“สพช.ยกระดับฝีมือแรงงานนานาชาติ จัดฝึกอบรมระบบทางไกล (Online) ให้กับกลุ่มประเทศ GMS”

นางสาวสุขศรี ไล่กสิกรรม ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติ (สพช.) กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ประธานเปิดการอบรม รูปแบบการฝึกอบรมทางไกล หลักสูตรการสร้างสื่อมัลติมีเดียสำหรับการท่องเที่ยว 30 ชั่วโมง ในรูปแบบของการฝึกอบรมทางไกล ให้กับบุคลากรภาครัฐ และเอกชนระดับหัวหน้างาน ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) จำนวน 26 คน ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม -2 เมษายน 2564 ณ ห้องปฏิบัติการฝึกอบรมทางไกล สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

นางสาวสุขศรี ไล่กสิกรรม ผอ.สพช. เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2564 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้กำหนดรูปแบบการฝึกอบรมจำนวน 3 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบปกติ รูปแบบผสมผสาน และรูปแบบทางไกล เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการฝึกอบรมอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นการปรับกระบวนการฝึกอบรมให้สามารถดำเนินการได้ ในยุค New Normal โดยเฉพาะการฝึกอบรมรูปแบบทางไกล สถาบันได้นำมาใช้ฝึกอบรมให้กับกลุ่มประเทศ GMS และ IMT-GT ที่ปัจจุบันทุกประเทศต่างมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และงดเว้นการเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศยังคงมีความต้องการด้านการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานอย่างต่อเนื่อง

"วิษณุ" แนะ กฤษฎีกาแก้ปมกฎหมายประชามติ มั่นใจผ่าน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ ส.ว.บางส่วนระบุ หากร่าง พ.ร.บ. ประชามติผ่าน จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ ว่าบางมาตราอาจขัดรัฐธรรมนูญว่า ไม่รู้เขา ไม่รู้ว่าจะยื่นได้ด้วยหรือเปล่าด้วยซ้ำไป เพราะยังไม่ได้ดูมาตรา 10 , 11, 12 หากดูไปถึงมาตราเหล่านั้น เขาอาจจะเข้าใจและไม่สงสัยก็ได้ ถ้ายังสงสัยอยู่ก็มีสิทธิ์ยื่น 

เมื่อถามว่า ดูอย่างไรว่ามาตราเหล่านั้นจะไม่มีข้อสงสัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ กล่าวว่า ตอบไม่ถูก เพราะ กรรมาธิการ ต้องไปดูกันต่อโดยจะเริ่มดูวันที่ 1 เมษายน ซึ่งในเบื้องต้นตนได้แนะนำคณะกรรมการกฤษฎีกาไปแก้มาตรา 10 ,11 ,12 แล้วนำไปเสนอคณะกรรมาธิการ แต่ตนไม่ขอบอกว่าแนะนำไปอย่างไรบ้าง ถ้าเสียงข้างมากเค้ายอมก็เบาไปเยอะ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะยอมหรือไม่ยังไม่ได้ประชุม 

เมื่อถามว่า ตอนนี้ที่มีการแสดงความคิดเห็นต่างๆเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ประชามติยังมีความเป็นห่วงว่า กฎหมายจะตกในวาระ 3 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นไปตามที่เราคุยกันไว้ คิดว่าไปได้ ไม่มีปัญหาอะไร มั่นใจว่าจะผ่าน เพราะเมื่อแนะนำไปแล้ว คิดว่าแก้ได้ สิ่งที่วิตกกันหมดไป ปัญหาเหลือเพียงว่า ถ้ากรรมาธิการเสียงข้างมากข้างน้อยเขาไม่ยอมกันอีก เป็นเช่นนั้น ตนก็ไม่รู้แล้ว

จ.อุบลฯ และ กฟผ. ร่วมฟื้นฟูท่องเที่ยว หนุนเศรษฐกิจ ดันโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานหมุนเวียน และเป็น Landmark แห่งใหม่ของจังหวัด

จังหวัดอุบลราชธานี และ กฟผ. ร่วมฟื้นฟูท่องเที่ยว ดันโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานหมุนเวียน และจุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัด สร้างรายได้และอาชีพให้ชุมชน หนุนเศรษฐกิจจังหวัดในภาพรวม

วันที่ 29 มีนาคม 2564 นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร  ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร (Hydro-floating Solar Hybrid) หรือโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานหมุนเวียนและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.อุบลราชธานี โดยมีส่วนราชการท้องถิ่น สื่อมวลชน ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. เข้าร่วมงาน ณ เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี

นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า หนึ่งในยุทธศาสตร์ของการพัฒนาจังหวัดอุบลราชธานี คือ ส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว เพราะจังหวัดอุบลฯ มีแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประเพณีที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้การท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของจังหวัดอุบลราชธานี สำหรับเขื่อนสิรินธรของ กฟผ. นอกจากจะอำนวยประโยชน์ด้านชลประทาน การประปา การคมนาคมทางน้ำและการผลิตกระแสไฟฟ้าให้คนอุบลฯและประเทศไทยมาอย่างยาวนานแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย

โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อนสิรินธร จึงเป็นการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาชมความสวยงามของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ลอยน้ำไฮบริดแห่งแรกในไทย สอดรับกับแนวทางการพัฒนาจังหวัดอุบลราชธานี ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังทำให้ประชาชนในท้องถิ่นมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพและรายได้ มีความสุขอย่างยั่งยืน

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนมาผลิตไฟฟ้าเนื่องจากเป็นพลังงานสะอาดช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยพัฒนาโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร ขนาดกำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ เป็นแห่งแรกที่สามารถผลิตไฟฟ้าผสมผสาน (Hybrid) ระหว่างพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังน้ำเข้าด้วยกัน โดยนำนวัตกรรมระบบบริหารจัดการพลังงาน หรือ Energy Management System (EMS) มาช่วยประเมินผลและสั่งการให้โรงไฟฟ้าทั้งสองประเภทผลิตไฟฟ้าสอดคล้องกับช่วงเวลาได้อย่างเหมาะสม ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องยาวนานขึ้น ช่วยลดความไม่แน่นอนของพลังงานหมุนเวียน และช่วยเสริมระบบผลิตไฟฟ้าให้มีความมั่นคงมากขึ้น ถือเป็นการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำแรกของไทยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) ได้ในเดือนมิถุนายน 2564

นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้เตรียมพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานหมุนเวียนให้กับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป พร้อมสร้างเส้นทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway) เพื่อเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แห่งใหม่ เตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ประมาณปลายปี 2564 นี้ โดย กฟผ. จัดเตรียมจุดจำหน่ายสินค้าชุมชน ร้านขายของที่ระลึก ร้านเช่าจักรยาน จุดบริการรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยว บริเวณจอดแพท่องเที่ยว เป็นต้น คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อีกทางหนึ่ง

เสียชีวิตเพิ่ม โลมาอิรวดีเกยชายหาดบ้านเจ๊กลัก คลองใหญ่ จ.ตราด ยาวกว่า 2 เมตร

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 29 มี.ค. 64 นายเสาร์ พรมรอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านเจ๊กลัก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ได้รับแจ้งจาก นายสําลอง สุขเจริญ ลงวัย 72 ปีว่าพบซากโลมาตายเกยตื้นที่ชายหาดบ้านเจ๊กลัก หมู่ 1 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ขอให้มาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงแจ้งสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดเขตอำเภอคลองใหญ่ รุดตรวจสอบ

ไปถึงที่เกิดเหตุชายหาดบ้านเจ๊กลักพบซากโลมาอิรวดีความยาว 2 เมตรเกยชายหาด อยู่ในสภาพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็น จากการตรวจสอบพบว่าตายมาแล้วไม่ตํ่า 7 วัน เป็นโลมาเพศผู้ เจ้าหน้าที่จึงทําการผ่าพิสูจน์ไม่พบอาหารในกระเพาะและลําใส้ หลังจากนั้นจึงทำการตัดเก็บเนื้อเยื่อส่งพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยจังหวัดระยองเพื่อหาสาเหตุการตายต่อไป

นายสําลอง สุขเจริญ ลงวัย 72 ปี บอกว่ามาเดินเล่นชายหาดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พบซากโลมาตัวดังกล่าวถูกคลื่นซัดมาเกยชยหาด จึงโทรศัพท์แจ้งนายเสาร์ พรหมรอด ผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งโลมาอยทะเลมาเกยชายหาดที่อำเภอคลองใหญ่หลายครั้งแล้ว บางครั้งไม่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ต้องปล่อยให้เน่าคาชายหาดก็มี เนื่องจากหน่วยงานที่จะช่วยเก็บซากโลมามีเพียงอาสาสมัครสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดหน่วยงานเดียวเท่านั้น ที่ต้องทำหน้าที่เก็บเนื้อเยื่อ ส่งทางราชการ และทำการกลบฝังซากโลมาดังกล่าว


ภาพ/ข่าว  วิเชียร ม่วงสี  (ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด)

ครม.ตู่ 2/3 ถ่ายรูปชื่นมื่น “ดอน” ลาป่วยทำให้รูป ครม.ครั้งนี้ไม่ครบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี ภายหลังการปรับเปลี่ยน ในรัฐบาล ‘ประยุทธ์ 2/3’ โดยครั้งนี้ขาดเพียงนายดอนปรมัตถ์วินัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเนื่อง ซึ่งได้แจ้งลาป่วยกับที่ประชุม ครม. ทำให้การถ่ายรูปครั้งนี้มีรัฐมนตรีไม่ครบ ทั้งนี้ระหว่างถ่ายรูป พล.อ.ประยุทธ์ได้ทักทายบรรดารัฐมนตรีอย่างเป็นกันเอง และเมื่อถ่ายรูปเสร็จก็ได้กลับขึ้นห้องทำงานของจากไทยที่ฟ้าเพื่อเปลี่ยนจากชุดขาว เป็นชุดไทยก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

จับตา! ครม.ไฟเขียวกฎหมายบำเหน็จบำนาญ

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 มีนาคม 2564 ที่ประชุมเตรียมพิจารณาข้อเสนอของหน่วยงานต่าง ๆ หลายเรื่อง โดยเฉพาะวาระที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทางด้านเศรษฐกิจ โดยกระทรวงการคลัง เสนอร่างพ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ และร่างพ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ รวม 2 ฉบับ พร้อมทั้งเสนอโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2564 

ส่วน กระทรวงพลังงาน เสนอร่างกฎกระทรวงการรับฟังความเห็นของประชาชน สำหรับโครงการระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ และร่างกฎกระทรวงการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวโดยถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว รวมถึงเสนอร่างกฎกระทรวงระบบไฟฟ้าและระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าของสถานที่ประกอบกิจการก๊าซปีโตรเลียมเหลว

ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์ ยังเสนอผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การส่งเสริม เพิ่มขีดความสามารถและสร้างความเป็นธรรมทางการแข่งขันของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรมวุฒิสภา

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเตรียมรับทราบรายงานผลการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ถึงแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว และมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ โดยจะเริ่มนำร่องตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ ที่จังหวัดภูเก็ตก่อน และตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะขยายจังหวัดนำร่องเพิ่มไปยังจังหวัดกระบี่ ,พังงา ,เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ,เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และเชียงใหม่

‘บิ๊กป้อม’ โชว์ฟิต ไม่ง้อรถ เดินไปกลับตึกไทยคู่ฟ้า - ตึกบัญชาการ รอถ่ายรูปหมู่ ครม. ใหม่ ด้วยตัวเอง

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.บรรยากาศก่อนการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีใหม่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงทำเนียบในเวลา 7.56. น ก่อนถึงเวลานัดหมายถ่ายรูปหมู่กว่า 15 นาที แต่บังเอิญเจอกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กับรัฐมนตรีในสังกัดของพรรคภูมิใจไทย จึงชวนกันเดินไปถ่ายภาพหมู่ที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า

แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่านายกรัฐมนตรียังไม่ได้เดินทางออกจากบ้านพัก ทำให้พลเอกประวิตรต้องเดินทางกลับมาพักที่ตึกบัญชาการตามเดิม

ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่าการเดินของพล.อ.ประวิตรครั้งนี้ นับเป็นการเดินที่ยาวกว่าปกติ เนื่องจากไม่เคยเห็นภาพการเดินหลายร้อยเมตรภายในทำเนียบ เพราะปกติแล้วประวิตรจะใช้รถในการเดินทางไปยังจุดต่าง ๆ ในทำเนียบ


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

“เทพไท” หนุน รัฐฯ ยันจุดยืนไม่สนับสนุนใช้ความรุนแรงในเมียนมา ป้องกันการอพยพแถบชายแดน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของรัฐบาลไทยต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศพม่า ว่า จากการให้สัมภาษณ์ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงท่าทีของรัฐบาล “ไม่สนับสนุนพม่าใช้ความรุนแรงกับประชาชน” ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านของประเทศพม่า และมีการพึ่งพาทางด้านเศรษฐกิจในหลายด้าน 

จึงอยากให้รัฐบาลไทยได้ส่งสัญญาณ หรือออกแถลงการณ์ แสดงจุดยืนของประเทศไทย ในนามรัฐบาลไทยให้ชัดเจน ประกาศไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง และการใช้อาวุธสงครามปราบปราม เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติวิธีในประเทศพม่า ซึ่งการออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนอย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทย ไม่ถือว่าเป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงกิจการภายในของประเทศพม่าแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงการแสดงท่าทีและจุดยืนของประเทศไทยเท่านั้น 

แม้ว่าการปราบปรามประชาชนชาวพม่าของรัฐบาลเผด็จการทหาร จะเกิดขึ้นภายในประเทศพม่าก็ตาม  แต่ผลกระทบที่มีต่อประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือการอพยพของกลุ่มชาติพันธุ์ ชนกลุ่มน้อยและชาวพม่า ที่หนีการปราบปรามได้เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย และเพื่อเห็นแก่หลักมนุษยธรรม รัฐบาลไทยก็ควรหาแนวทางให้รัฐบาล เผด็จการทหารพม่า หยุดปราบปราม เข่นฆ่าประชาชนชาวพม่าในทันทีถ้ารัฐบาลไทยได้แสดงจุดยืนที่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากลแล้ว ประเทศไทยก็จะได้รับการสนับสนุน และการยอมรับจากประชาคมโลกอย่างแน่นอน

"อิทธิพล" เผย​ "มาดามเดียร์" แจงไม่ใส่แมสเล่นเซิร์ฟ เฉพาะตอนถ่ายรูป​

ที่ทำเนียบรัฐบาล​ นายอิทธิพล​ คุณปลื้ม​ รมว.วัฒนธรรม​ กล่าวถึงดราม่ากิจกรรมรัตนโกเซิร์ฟที่ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัยว่า​ ทางผู้จัดงานได้มีการแจ้งด้วยวาจามายังตนว่าจะมีการจัดงาน โดยจะมีการใส่ชุดไทยเล่นสเก็ต และตนได้ให้แนวคิดไปเรื่องมาตรการความปลอดภัย อย่าให้นุ่งสไบไปเล่นสเก็ตเยอะ เพราะกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุ​ แต่ก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อยดี​ ส่วนเรื่องการไม่สวมหน้ากากอนามัย​ ทางนางสาววทันยา​ วงษ์โอภาสี​ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ​ ได้ชี้แจงไปแล้ว ว่ามีการถอดหน้ากากเฉพาะตอนถ่ายรูป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top