Monday, 23 June 2025
TheStatesTimes

จับ ‘โลมาปากขวด’ นน. 120 กก.ว่ายน้ำหลง ส่งคืนท้องทะเลหมู่เกาะช้าง

วันนี้ 25 มี.ค.64 ศรชล.จังหวัดตราด ได้รับการประสานจาก ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดตราดว่า ได้รับแจ้งจาก ชาวบ้าน อ.เขาสมิง ว่าพบโลมา ว่ายน้ำวนเวียนอยู่ บริเวณประตูน้ำเขาสมิง ต.ทุ่งนนทรี อ.เขาสมิง จ.ตราด คาดว่าน่าจะว่ายน้ำหลงเข้ามาจากปากแม่น้ำตราด ห่างจากปากแม่น้ำประมาณ 20 กม.

ทาง ศรชล.จังหวัดตราด ได้มอบหมายให้ ร.ท.ภวัต กิตติโสภา นกบ.ศรชล.จังหวัดตราด และ จ.อ.องอาจ สัมมา จนท.ธุรการ ศรชล.จังหวัดตราด เดินทางไปร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือโลมาฯ ร่วมกับ หน่วยงานในพื้นที่ ประกอบด้วย จนท.จาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ประมงจังหวัด จนท.กู้ภัยในพื้นที่ และอาสาสมัครชาวบ้านในพื้นที่ อ.เขาสมิง พบว่าเป็นโลมา ปากขวด เพศผู้ ยาวประมาณ 2.5 เมตร หนักประมาณ 120 กก. คาดว่าว่ายน้ำหลงเข้ามาจากปากแม่น้ำตราด จึงได้ทำการล้อมจับด้วยอวนไว้

โดยทางแพทย์ ได้ประเมินแล้วว่า โลมา มีสภาพแข็งแรงดี จึงได้ลำเลียงไปที่ ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด อ.แหลมงอบ เพื่อลงเรือของอุทยานแห่งชาติเกาะช้าง ปล่อยกลับสู่ทะเล บริเวณท้องทะเลหมู่เกาะช้าง ต่อไป

ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปิด รพ.สนามแห่งที่ 7 ชูสมุทรสาคร “นำร่องฉีดวัคซีนเพื่อชาติ” หลังจากควบคุมสถานการณ์โรคระบาดได้ โดยพบผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 9 – 15 รายต่อวัน พร้อมปรับรูปแบบให้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนฯ

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 25 มีนาคม 2564 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะผู้บริหาร ได้ร่วมกันทำพิธีปิดโรงพยาบาลสนาม หรือ ศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 7 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย อ.เมือง จ. สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามที่มีขนาด 460 เตียง เปิดรับผู้ติดเชื้อตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มกราคม - 19 มีนาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อเข้าใช้บริการทั้งสิ้น 761 คน ซึ่งในพื้นที่ตำบลท่าทรายนี้ นับเป็นพื้นที่พบผู้ติดเชื้อสงสุดของจังหวัดสมุทรสาคร จำนน 9,907 คน คิดเป็นเกือบร้อย ละ 50 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด โดยหลังจากที่ปิดโรงพยาบาลสนามแห่งนี้แล้ว ก็จะปรับให้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้แก่ประชาชนในจังหวัดสมุทรสาคร โดยได้เริ่มดําเนินการมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้ว กว่า 5,000 คน

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า การเปิดโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร  รองรับสถานการณ์โรคโควิด 19 เป็นอีกเหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์ที่ชาวสมุทรสาครได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ดึงทรัพยากรที่มีอยู่เข้ามาช่วยต่อสู้กับโรคระบาดและแบ่งเบาภาระโรงพยาบาลในการดูแลผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ เป็นนวัตกรรมระดับโลกที่สำคัญต่อระบบสาธารณสุขของประเทศในการจัดการกับวิกฤต เพิ่มความมั่นใจให้ประชาชนถึงศักยภาพความเข้มแข็งและความเพียงพอของระบบสาธารณสุขที่จะรองรับผู้ ติดเชื้อจำนวนมาก โดยได้ตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ติดเชื้อถึง 10 แห่ง รวมกว่า 4 พันเตียง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ของโควิด 19 จ.สมุทรสาครมีแนวโน้มดีขึ้น จากมาตรการค้นหาและเฝ้าระวังเชิงรุก มาตรการ Bubble and Sealed ในโรงงานขนาดใหญ่ ที่นำผู้ติดเชื้อไปอยู่ในสถานที่กักกันจนปลอดเชื้อ และการตรวจหาภูมิคุ้มกัน รวมถึงมาตรการ DMHT เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ การคัดกรองอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ ทำให้จำกัดการระบาดได้ ประกอบกับการได้รับวัคซีน 2 แสนโดส สำหรับ 1 แสนคน โดยได้ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในจังหวัดแล้ว 40,715 คน ส่งผลให้พบผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 9 - 15 รายต่อวัน จึงได้ทยอยปิดโรงพยาบาลสนาม จนถึงวันนี้นับเป็นแห่งที่ 7 รวม ทั้งหมด 2,227 เตียง ส่วนอีก 3 แห่ง 1,985 เตียง ได้แก่ ศูนย์ห่วงโยคนสาครแห่งที่ 8 หรือโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียง (ส่วนนต่อเติมวัฒนาแฟคตอรี่),แห่งที่ 9 (บริษัทวิท วอเตอร์ซิสเต็มดีเวลลอปเม้นท์) และแห่งที่ 10 (ที่ดินของนางเง็กเน้ย ศิริชัยเอกวัฒน์) เพียงพอรองรับเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

แต่ทั้งนี้ “การปิดโรงพยาบาลสนามไม่ได้เป็นการประกาศว่าสถานการณ์โควิด 19 จบสิ้นหรือไม่มีการระบาดแล้ว แต่เป็นการ ส่งสัญญาณว่าต่อไปนี้การระบาดอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เพราะระบบโรงพยาบาลมีศักยภาพและความพร้อมรองรับผู้ป่วยได้ ซึ่งบทบาทและภารกิจในการดูแลผู้ป่วยโควิดที่ยังมีอยู่จะถูกส่งต่อให้กับโรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่มีศักยภาพในจังหวัดสมุทรสาคร 

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากที่จังหวัดสมุทรสาคร สามารถแสดงออกถึงศักยภาพด้านการควบคุมโรคด้วยการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามหรือศูนย์ห่วงใยคนสาครที่มีมากที่สุดของประเทศและดีที่สุดของประเทศ ภายใต้การบริหารจัดการของระบบสาธารณสุขแล้วนั้น ขั้นต่อไปก็อยากจะขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาคร และผู้ที่ทำงานหรือพักอาศัยอยู่ในจังหวัดนี้ ได้ร่วมกันต่อยอดแสดงถึงความสามัคคีอีกระดับหนึ่ง ด้วยการพร้อมใจกัน “ฉีดวัคซีนเพื่อชาติ ป้องกันโควิด 19” ที่รัฐบาลจะดำเนินการจัดสรรลงมาให้จังหวัดสมุทรสาครได้รับมากที่สุด และเป็นจังหวัดนำร่องที่มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนมากที่สุดอีกด้วย หากทั้งนี้ประเทศไทยสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนได้มากกว่าร้อยละ 60 เร็วเท่าไหร่ เราก็จะเปิดประเทศไทยเร็วมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่พี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาคร จะได้ร่วมกันแสดงออกการถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีด้วยการ “ร่วมกันฉีดวัคซีนเพื่อชาติ” เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และเพิ่มศักยภาพความปลอดภัยให้แก่บุคคลภายนอกอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์โควิด19 จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2563 - วันที่ 24 มีนาคม 2554 พบผู้ติดเชื้อ 17,195 คน จังหวัดได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนจัดหาสถานที่สร้างโรงพยาบาลสนามที่ไม่มีผลกระทบหรือสร้างความกังวลให้กับประชาชน โดยโรงพยาบาลสนามหรือศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 1 ใช้สนามกีฬาจังหวัด มี 700 เตียง เปิดใช้งานเมื่อ วันที่ 4 มกราคม 2564 รับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการมาดูอาการ 10 วัน ซึ่งในระหว่างนั้นหากมีอาการจะส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันทีชูชาตแดพยนต์ทีมข่าวสมุทรสาคร

สธ.เผยมีผู้เสียชีวิตจากเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตก หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 เร่งสอบข้อเท็จจริง แต่คาดไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะป่วยโรคนี้อยู่ก่อนแล้ว มีโอกาสเส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการให้วัคซีนป้องกัน โควิด-19 กล่าวถึงกรณี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีไข้หลังรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต้องเข้าโรงพยาบาล 4 วัน ว่าตนไม่ทราบเรื่องนี้เลย

แต่ที่ผ่านมาตามระบบการรายงานติดตามอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีนยังไม่พบว่ามีเคสที่มีอาการข้างเคียงรุนแรงแต่อย่างใด ส่วนรายงานอาการข้างเคียงส่วนใหญ่ที่พบเป็นอาการไม่มาก เช่น ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด และอาการมีไข้หลังการรับวัคซีน ก็เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่ประมาณ 1 วันหรือ 2 วันก็หายแล้ว

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ส่วนผลข้างเคียงรุนแรงที่พบ มี 2 ราย แพ้วัคซีนในลักษณะลมพิษขึ้น ส่วนอีก 1 ราย ที่กำลังนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณาอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีน คือ กรณีมีผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพอง แตกและเสียชีวิตหลังรับวัคซีน แต่คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับวัคซีน

เนื่องจากว่าผู้ป่วยรายนี้ป่วยโรคเส้นเลือดโป่งพองในท้อง อยู่ระหว่างรับการรักษาอยู่แล้ว ซึ่งโรคนี้มีโอกาสที่เส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา ซึ่งก็เกิดขึ้นหลังรับวัคซีน ดังนั้น ตามหลักแล้วเมื่อมีอะไรที่เกิดขึ้นระหว่างการรับวัคซีนก็ต้องนำเข้าคณะกรรมการเพื่อสอบสวนต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียดของผู้เสียชีวิต นพ.โสภณกล่าวว่า ขอให้สอบถามไปยังกรมควบคุมโรค เบื้องต้นคาดว่าอายุน่าจะไม่ถึง 60 ปี

.

ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000028891


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

มิงกาลาบาชีน สวัสดีค่ะ วันนี้ เอย่า ขอนำเสนอเรื่องราวนอกประเทศเมียนมาหน่อยนะคะ เพราะเมื่อเช้าเห็นข่าวพาดหัวตัวแรงว่า Facebook ได้ทำการแบนเพจของ 'Brian Berletic'

เขาคือใครนั่นหรือคะ ? เขาก็คือ Blogger ในช่อง Land Destroyer ที่ทำคลิปออกมาทั้งแฉเบื้องหลังม็อบทำลายสถาบันกษัตริย์ในประเทศไทย รวมถึงคลิปที่ชำแหละว่าเฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือของอเมริกาในก่อความวุ่นวายในประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่อาหรับสปริงมาจนถึงสถานการณ์ในเมียนมานั่นเอง

หลังจากที่เอย่าไปดูช่อง Land Destroyer แล้วเห็นได้ว่าไบรอันมีคลิปเยอะมาก และหลาย ๆ คลิปเป็นการแหกเบื้องลึก เบื้องหลังว่าตัวการใหญ่ในประเทศหลาย ๆ ประเทศนั้นมีสหรัฐอเมริกาหนุนหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

ไบรอัน เป็นคนที่พยายามแสดงให้เห็นถึงเบื้องหลังความวุ่นวายในประเทศไทยที่มาจากม็อบก็ดี รวมถึงคลิปอีกหลาย ๆ คลิปที่มีการแฉว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วุ่นวายในหลาย ๆ ประเทศและเมียนมาก็เป็นหนึ่งในนั้น

ย้อนกลับไปเมื่อสักเดือนที่แล้วไบรอันมีการลงคลิปในช่องของเขาพูดถึง Facebook เป็นเครื่องมือในการเป็นเครื่องมือของฝ่ายที่ทางอเมริกาหนุนหลังอยู่ โดยปิดกั้นการเข้าถึงของอีกฝ่าย (ดูได้จาก : https://youtu.be/d0telN24-kM)

.

.

รวมถึงการเปิดโปงเรื่ององค์กรโอเพ่นโซไซตี้ของ จอร์จ โซรอส โดยชำแหละให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจอร์จ โซรอสคือใคร

นอกจากนี้ยังฉีกหน้ารอยเตอร์ว่า เป็นสื่อสนับสนุนให้สหรัฐฯ กระทำผิดในต่างประเทศด้วย หากใครสนใจลองดูจากลิงค์นี้ได้ ซึ่งลิงค์นี้มีการบอกอย่างชัดเจนว่าทำไมกองทัพเมียนมาจึงจัดการอย่างเด็ดขาดกับ Mizzima Media รวมถึงการสมคบคิดครั้งใหญ่เพื่อบ่อนทำลายรัสเซียของรอยเตอร์และบีบีซี : 

.

.

ถึงจุดนี้ เรามาดูกันหน่อยว่าชายคนนี้เป็นใครกันแน่...

ไบรอัน เป็นอดีตนาวิกโยธินของสหรัฐอเมริกา ประจำการอยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่หลายปี และในขณะที่เขาประจำการอยู่นั้น เขาได้มาซ้อมรบกับกองทัพไทยทุกปีในชื่อการฝึก Cobra Gold ทำให้เขาได้มีโอกาสได้สัมผัสกับความเป็นไทยและเริ่มสร้าง Blog ขึ้นในชื่อ Anthony Cartalucci และปิดบังหน้าตา

แต่ไม่นานมานี้เมื่อเขาได้เริ่มทำช่อง Land Destroyer เขาได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงและทำการเปิดโปงม็อบต่าง ๆ ที่มีนัยยะว่าใครอยู่เบื้องหลังม็อบเหล่านั้น จนล่าสุดเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนได้ทราบข่าวว่า ไบรอันได้เข้าร่วมทีมกับทางสถาบันทิศทางไทยก่อนที่จะถูก Facebook แบนในวันนี้

เอย่าขอกล่าวสั้น ๆ ว่าการกระทำของ Facebook ในครั้งนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งต่างๆที่ไบรอันได้นำเสนอออกมานั้น มีมูลความเป็นจริง

ใครจะไปรู้ว่าภายใต้หน้ากากของกัปตันอเมริกานั้น อาจจะเป็นผู้นำขององค์กรไฮดราอย่างไอ้กระโหลกแดงก็เป็นได้

.

ที่มา: AYA IRRAWADEE


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

“สุพัฒนพงษ์” เผย รัฐบาล เตรียมความพร้อม ​เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว​ไตรมาส​ 4 ด้านภูเก็ต นำร่องจังหวัดแรก​

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน​ กล่าวก่อนประชุม​คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ที่ประชุมจะพิจารณา​ความก้าวหน้า​ของคณะกรรมการและที​มงานปฏิบัติการเชิงรุกด้านเศรษฐกิจที่ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของประชาชน​ และจากการติดตามข้อมูลผ่านเวทีเสวนา​ต่างๆ​ มองเห็นถึงโอกาสของประเทศไทยหลังโควิด-16 คลี่คลาย​ จะเป็นประเทศที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ​ โดยเฉพาะการขยายฐานการผลิตรวมถึงยังมีกลุ่มผู้สูงอายุที่จะเดินทางมาพักอาศัยในประเทศไทยหลังเกษียณ​ที่จะสามารถทำประกันสุขภาพได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม​ทางการแพทย์​ 

นายสุพัฒนพงษ์​ กล่าวว่า ส่วนแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวตามกำหนดการเดิมที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในไตรมาส​ที่ 4​ ก็จะมีการพิจารณาจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักโดยเฉพาะพื้นที่แถบอันดามัน​มาเป็นจังหวัดนำร่อง​ แต่เนื่องจาก​ยังไม่ทราบจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเนื่องจากทุกประเทศเพิ่งจะเริ่มฉีดวัคซีน​โควิด-19​ จึงต้องมีการประเมินสถานการณ์​ภาพรวมอีกครั้งว่า มีความคุ้มค่าหรือไม่ที่จะเปิดประเทศ​ เบื้องต้นมี จ.ภูเก็ตที่แสดงความจำนงเป็นจังหวัดนำร่อง​โดยเสนอขอ​เปิดจังหวัดก่อนไตรมาส​ 4​ และจะเสนอมายังภาครัฐว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง​

สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อดำเนินการแล้วจะต้องมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพื่อความคุ้มค่าและต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วย​ ทั้งนี้ได้ให้ทุกฝ่ายไปทำการบ้านในทุกมิติ​ ทั้งเชิงรุก-เชิงรับ ​โดยเฉพาะความพร้อมรองรับหากเกิดการแพร่ระบาดขึ้น​ โดยถอดบทเรียนจากจังหวัดสมุทรสาคร​ได้​ นอกจากนี้จะมีการรายงานการใช้ประโยชน์​จากโครงการต่างๆของรัฐบาล​ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน​เศรษฐกิจ​และบรรเทาความเดือดร้อนด้วย​ 

“อนุทิน” ยัน! รมต.สลับกระทรวง “คมนาคม-พาณิชย์” ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ทำงานคล่องตัวขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปรับครม.ที่ผ่านมา ที่มีการแลกกระทรวงกันของรัฐมนตรีช่วยของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ในส่วนของกระทรวงคมนาคมและพาณิชย์ ที่มองกันว่าอาจทำให้ไม่มีการคานอำนาจกันว่า ถ้ามองอย่างนั้น แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ไม่มีรัฐมนตรีช่วยใครจะมาคาน มันไม่เกี่ยวกันเลย รัฐมนตรีทุกคนโดยพื้นฐาน โดยหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การคานอำนาจคือสภาผู้แทนราษฎรที่คานอำนาจ ทำไม่ดีก็โดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ก็เห็นแล้วว่าไม่ใช่พวกมากจะลากไปได้ เห็นกันอยู่แล้วว่าผลโหวตออกมาเป็นอย่างไร ไม่เท่ากันสักคน

“หน้าที่ของรัฐมนตรีคือปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มันคานอำนาจกันเองในกระทรวงไม่ได้ รัฐมนตรีช่วยคนไหนกล้าคานรัฐมนตรีว่าการ เป็นไปได้หรือเปล่าล่ะ อำนาจทั้งหมดอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการ ดังนั้นมันไม่มี รัฐมนตรีช่วยต้องทำงานตามที่รัฐมนตรีว่าการมอบหมาย ดังนั้นการที่พรรคเดียวกัน กลุ่มเดียวกัน เป็นหัวหน้าเป็นลูกน้องกัน การทำงานก็มีประสิทธิภาพได้ ทำให้กระชับยิ่งขึ้น มองในแง่ที่ว่าทำให้งานรวดเร็วยิ่งขึ้นบ้างซิ อย่าไปมองแค่ว่าจะมาทำอะไรกัน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมารัฐมนตรีคนละพรรคอยู่กระทรวงเดียวกันทำงานไม่เข้าขากันหรือ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกกระทรวงมีรัฐมนตรีว่าการเป็นเจ้ากระทรวงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลหรอก ดีหรือไม่ดีอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการ  เมื่อถามว่าการสลับกระทรวงกันครั้งนี้ไม่มีเหตุผลทางการเมืองใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เหตุผลทางการเมืองก็คือการทำให้การทำงานคล่องตัวขึ้นไม่ดีกว่าหรือ 

“สมมุตผมเป็นรัฐมนตรีว่าการและมีรัฐมนตรีช่วยต่างพรรค ก็อาจจะมีความรู้สึกบ้างได้ว่า แหม เกรงใจเขา เกรงอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีคนมาออฟเฟอร์ว่า เอาไหม สลับกันไหม จะได้ทำงานได้เต็มที่ คล่องตัวขึ้น ผมก็เอา นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งไม่มีอะไรที่สลับซับซ้อนเลย อำนาจในความรับผิดชอบของกระทรวงแต่ละกระทรวงอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการเท่านั้น รัฐมนตรีช่วยเซ็นอะไรไป รัฐมนตรีว่าการก็ยังต้องรับผิดชอบ”

"บิ๊กป้อม" ยอมรับ สั่งถอด ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์จากวิป รบ. เป็นมาตรการลงโทษทางการเมือง ย้ำ ภท. พอใจแล้ว ฉุนสื่อฯ ถามให้ตีกัน

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบกรณี 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์งดลงคะแนนให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา ว่า เขาได้ลงโทษไปหมดแล้วและได้ขอโทษไปกับพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ไปบ้างแล้ว 

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล โดยถอด ส.ส.บางคนในกลุ่มดาวฤกษ์ ออกไปเป็นการลงโทษอย่างหนึ่งของพรรคพปชร.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใช่และให้ออกทุกตำแหน่งที่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเวลา 3 เดือน อีกทั้งดำเนินการลงโทษทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง 

เมื่อถามว่าพรรคภท. ยอมรับกับผลการลงโทษของพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “พรรคภท. โอเค” พร้อมกับหันไปตอบสื่อด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายว่า “สื่อจะถามทำไม ผมไม่เข้าใจเลย จะถามให้ตีกันให้ได้ แปลก  จะให้ตีกับใครล่ะ ให้ผมตีกับภท.หรือ"   จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวยืนยันว่า “จะไม่เกิดรอยร้าว กับภท.แล้ว ” 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แนวทางการลงโทษนี้ จะทำให้ พรรคภท.และพรรคพปชร. เกิดความสมานฉันท์ใช่หรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า มันเป็นแนวทางของพรรคการเมืองและส.ส. กลุ่มดาวฤกษ์ก็เป็นส.ส.สมัยแรก เขาอาจจะไม่เข้าใจ และการลงโทษก็ถือว่าเป็นกฎของพรรคการเมือง

ชง ศบศ. เปิดประเทศรับคนฉีดวัคซีนไม่ต้องกักตัว คาดนำร่อง ภูเก็ต-พัทยา-เชียงใหม่

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. วันที่ 26 มีนาคมนี้ กระทรวงกหารท่องเที่ยวจะรายงาน แนวทางการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนมาจากประเทศต้นทางครบ 2 โดสแล้วสามารถมาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่จะทำเป็นแซนด์บ็อกซ์ หรือจำกัดพื้นที่เพื่อทำการทดสอบ เบื้องต้นมองว่ามี 3 พื้นที่ที่มีความพร้อม คือ จังหวัดภูเก็ต ชลบุรี (พัทยา) และเชียงใหม่ แต่มีข้อแม้ว่า ถ้าทดลองทำเรื่องนี้จะต้องมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดให้ได้อย่างน้อย 70% ก่อนจึงจะเริ่มต้นทำได้

“ส่วนตัวมองว่าอยากให้เริ่มได้ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้  ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้คุยกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว รวมไปถึงทางจังหวัดทั้ง 3 แล้ว โดยจะเริ่มต้นจังหวัดที่มีความพร้อมก่อน คือ ภูเก็ต จากนั้นจึงทำที่พัทยา โดยขอให้ทางจังหวัดนำเสนอมาว่าต้องการวัคซีนจำนวนเท่าใด ล่าสุดทางภูเก็ต แจ้งมาว่าต้องการ 9.25 แสนโดส และพัทยา 9.5 แสนโดส ส่วนเชียงใหม่ยังไม่ได้แจ้งตัวเลขมา โดยรูปแบบการทำแซนด์บ็อกซ์นั้น จะทำก่อนในจังหวัดที่มีสนามบิน และเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวได้ในพื้นที่ หรือเส้นทางที่กำหนดไว้ หากครบ 7 วันไม่มีการติดเชื้อแน่นอน ก็สามารถเดินทางได้ทั่วประเทศ”

ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้รับหนังสือจาก 8 สมาคมท่องเที่ยว ประกอบด้วย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ สมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย สมาคมสปาไทย และสมาคมธุรกิจสายการบินประเทศไทย ซึ่งได้เสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและแผนการเปิดประเทศโดยไม่ต้องกักตัว 1 กรกฎาคม เพื่อต่อลมหายใจให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากผลกระทบของโควิด-19 ที่ยาวนานกว่า 1 ปี

“ครูกัลยา” ห่วงนักเรียนถูกราดซีม่า สั่งเร่งสอบข้อเท็จจริง เตรียมส่งคณะทำงานลงพื้นที่เยี่ยมเด็กพร้อมให้กำลังใจครอบครัว

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อมูลปรากฏเป็นข่าวกรณีที่นักเรียนพี่เลี้ยงชั้น ป.5 และชั้น ม.4 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เขาพนม จังหวัดกระบี่ ได้ใช้ยาซีม่าราดตามตัวเด็กชายภูผา บุตรชายนางจินตนา มาชะอุ้ม วัย 9 ขวบ ชั้น ป.2 ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยผิวหนังเกิดรอยไหม้ และมารดาของเด็กได้มารับตัวไปรักษาตัวที่ รพ.เขาพนม ในวันที่ 23 มีนาคม 2564 หลังจากเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับทราบเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้แสดงความห่วงใยมายังเด็กชายภูผาและครอบครัว และสั่งให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย และรายงานผลการสอบสวนมายังหน่วยงานต้นสังกัดโดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปยังจังหวัดกระบี่ เพื่อไปเยี่ยมนักเรียนคนดังกล่าวพร้อมให้กำลังใจกับครอบครัวที่ประสบเหตุ

นางดรุณวรรณ กล่าวต่อว่าตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับนายศักดิ์ชัย สุวรรณคต ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 เพื่อสอบถามเบื้องต้นถึงเหตุการณ์ดังกล่าวทราบว่าโรงเรียนอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และจะมีบทลงโทษไปตามกฎระเบียบของโรงเรียนต่อไป ทั้งนี้คุณหญิงกัลยาได้กำชับให้โรงเรียนทุกโรงเรียนเพิ่มมาตรการในการดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความรัดกุมในการตรวจตรา ตรวจสอบ โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีลักษณะเป็นโรงเรียนกินอยู่ประจำที่มีนักเรียนพักค้างในโรงเรียนอยู่ร่วมกันทุกชั้นปี ที่สำคัญคือต้องไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก 

“ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง ขอส่งกำลังใจให้น้องภูผาและครอบครัวและขอให้น้องหายป่วยโดยเร็ว และอยากเรียนทุกท่านให้ทราบว่าคุณหญิงกัลยา ในฐานะที่กำกับดูแลโรงเรียนราชประชานุเคราะห์มีความห่วงใยในปัญหาที่เกิดขึ้น และกำชับผู้เกี่ยวข้องให้เร่งสอบสวนข้อเท็จจริง โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงต้องไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นอีกในสถานศึกษาทุกแห่งภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้หากผลการสอบข้อเท็จจริงพบว่าคุณครู หรือนักเรียนพี่เลี้ยงมีข้อบกพร่องหรือมีความผิดพลาดในการดูแล ก็ให้โรงเรียนใช้มาตรการในการตักเตือนหรือลงโทษตามระเบียบ ข้อบังคับของทางโรงเรียนหรือทางราชการต่อไป ส่วนในกรณีของคดีความหากผู้ปกครองต้องการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องก็ถือเป็นสิทธิ และสามารถดำเนินการได้ภายใต้กระบวนการทางกฎหมาย” นางดรุณวรรณ กล่าว

ช่วยเกษตรกรข้าวโพด! จุรินทร์ นำเคาะ "รับประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564 ให้เกษตรกร"

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ) ครั้งที่ 2/5264 ที่ประชุมได้มีมติให้ความเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2564 วงเงินงบประมาณ 311,418,600 บาท 

สำหรับ พื้นที่ประกันภัย 2.86 ล้านไร่ ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรมีเครื่องมือจัดการความเสี่ยงด้านภัยพิบัติผ่านระบบการประกันภัย และเป็นการต่อยอดความช่วยเหลือของรัฐในการรองรับต้นทุนการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกรเมื่อประสบภัยพิบัติธรรมชาติ 7 ภัย ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ และภัยช้างป่า วงเงินคุ้มครอง 1,500 บาทต่อไร่ ภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด วงเงินคุ้มครอง จำนวน 750 บาทต่อไร่ 

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า โดยกรณีเป็นที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ ของ ธ.ก.ส. รัฐบาลจะรับจ่ายค่าเบี้ยประกันให้ 96 บาท/ต่อไร่ ธ.ก.ส. รับชดเชย 64 บาท/ต่อไร่ รวมเป็น 160 บาท/ต่อไร่ กรณีเกษตรกรทั่วไปที่ไม่ใช่ลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. จะแบ่งการรับประกันเป็น 3 พื้นที่ คือ พื้นที่เสี่ยงต่ำ 150 บาทต่อไร่ พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 350 บาทต่อไร่ และพื้นที่เสี่ยงสูง 550 บาทต่อไร่

นอกจากนี้ เกษตรกรยังสามารถซื้อประกันภัยเพิ่มเติมจากที่ได้เอาประกันภัยข้างต้นแล้ว โดยเกษตรกร จะเป็นผู้จ่ายเบี้ยประกันภัยเองตามระดับความเสี่ยงในแต่ละพื้นที่  คือ พื้นที่เสี่ยงต่ำ 90 บาทต่อไร่ พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 100 บาทต่อไร่ และพื้นที่เสี่ยงสูง 110 บาทต่อไร่ วงเงินคุ้มครอง 240 บาท/ต่อไร่ เมื่อประสบภัยพิบัติธรรมชาติ 7 ภัย และ 120 บาท/ต่อไร่ เมื่อประสบภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด

"ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเป็นผู้นำเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป โดยมีระยะเวลาขายประกันภัย แบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบที่ 1 สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูฝน นับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการ วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 และรอบที่ 2 สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 15 มกราคม 2565 " รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top