Tuesday, 3 June 2025
TheStatesTimes

สตม. รวบผู้ต้องหาชาวเกาหลี OVERSTAY มี INTERPOL Red Notice คดีร่วมกับพวกฉ้อโกง ความเสียหายรวมกว่า 1,600 ล้านบาท

กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายเยจุน (นามสมมติ) อายุ 51 ปี สัญชาติเกาหลี โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถของคอนโดมิเนียมย่าน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี

พฤติการณ์จับกุม กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับหนังสือจากกงสุลฝ่ายตำรวจประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ประสานงานขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการผลักดันนายเยจุน (นามสมมติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับสาธารณรัฐเกาหลีในคดีฉ้อโกง และเป็นบุคคลเป็นที่ต้องการตัวของทางการสาธารณรัฐเกาหลี ตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ที่ A-6937/8-2022 ลงวันที่ 19 ส.ค.2565 โดยมีพฤติการณ์ในการกระทำผิด กล่าวคือ นายเยจุน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินของกลุ่มบริษัทหนึ่งในสาธารณรัฐเกาหลี ในระหว่างเดือน พ.ย. 2561 ถึงเดือน เม.ย. 2563 ได้ร่วมกับพวก สมรู้ร่วมคิดในการยักยอกทรัพย์สิน จำนวนเงินรวม 491 พันล้านวอน จากบริษัท 5 แห่ง เช่น Kales Hoidings Inc. Chankhanee Invest Inc. 

สตม.รวบผู้ต้องหาแดนมังกรหนีคดีฉ้อโกง ผู้เสียหาย 7,704 ราย มูลค่าความเสียหาย กว่า 6,000 ล้านบาท

กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กรณีสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย มีหนังสือขอให้จับกุมและผลักดัน นายเต๋อ (นามสมมติ) อายุ 49 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออกหมายจับและต้องการตัวไปดำเนินคดี ในความผิดฐานฉ้อโกง โดยมีพฤติการณ์กระทำผิด คือ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2557 นายเต๋อได้จดทะเบียนและก่อตั้งบริษัท Jiahe โดยไม่มีการอนุมัติจากผู้กำกับดูแลการเงินฝากสาธารณะ นายเต๋อได้แนะนำโครงการลงทุน "Great Health Industry" แก่นักลงทุนโดยการออกใบปลิวของขวัญ การจัดกิจกรรมและทัวร์ฟรี จากนั้นได้ถอนเงินฝากสาธารณะไปอย่างผิดกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ของการทำกำไร ทำให้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ จำนวน 7,704 ราย มูลค่าความเสียหาย 1.27 พันล้านหยวน (ประมาณ 6.35 พันล้านบาท) และในปี พ.ศ.2564 นายเต๋อ ได้หนีออกจากท่าอากาศยานนานาชาติโดยเที่ยวบิน Shanghai-Pudong  กก.1 บก.สส.สตม.ได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายเต๋อ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทางด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ บก.ตม.2 เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 ได้รับการตรวจลงตราประเภท THAILAND PRIVILEGE CARD (PE) และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด จึงได้ขออนุมัติ ผบก.สส.สตม. ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มีพฤติการณ์สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 

‘ธนวรรธน์’ เผย ศก.ไทยดีขึ้นต่อเนื่องหลังคลายล็อกโควิด คาด!! ปีใหม่เศรษฐกิจไทยสะพัดแสนล้านบาท

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 พบว่า ดัชนีมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 มาอยู่ที่ระดับ 47.9 เป็นผลมาจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ขยายตัวร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.5 

ทั้งนี้ มีปัจจัยบวกมาจากการผ่อนคลายมาตรการในการควบคุมโควิด 19 รวมถึงนโยบายในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการผ่อนคลายมากขึ้น โดยมีการปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 3.2 โดยเศรษฐกิจที่ขยายตัวมาจากแนวโน้มการบริโภคของภาคเอกชนที่มากขึ้น การลงทุนของภาครัฐและเอกชน รวมถึงเม็ดเงินจากภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

'กิตติรัตน์' ยันค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ทำได้จริง ชี้!! เคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อตอน 300 บาท

(8 ธ.ค. 65) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า... 

ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทในปี 2570 คนที่รู้จริงจะสนับสนุนและชื่นใจกับเรื่องนี้

การที่ภาคธุรกิจ กำลังแบกรับสภาพความไม่เติบโต และต้นทุนส่วนที่ไม่ใช่ค่าจ้างค่าแรงสูงกว่าที่ควรมายาวนาน เพราะรัฐบาลด้อยคุณภาพ บริหารไม่เป็นจึงอาจทำให้กังวลว่าการเพิ่มขึ้นของค่าแรงในอัตราที่พรรคเพื่อไทยเสนอนั้น เป็นภาระหนักหนา

ผมเห็นใจผู้ประกอบการ ธุรกิจ นายจ้าง ที่ต้องทนอยู่กับสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ แบบที่เป็นอยู่ ในรอบหลายปีที่ผ่านมา เพราะที่ผ่านมายอดขายไม่เพิ่มขึ้น (หรือหลายรายลดลงอีกด้วย) อยากถามว่าเป็นเพราะความผิดพลาดไร้ฝีมือในการบริหารงานของรัฐบาลนี้หรือเปล่า

ต้นทุนการประกอบการที่ไม่ใช่ค่าเงินเดือน ค่าจ้าง ที่สูงและสูงขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายที่สูงหลายรายการเป็นเพราะรัฐบาลบวกภาระภาษีเข้าไปในอัตราที่สูง เช่น ภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง หรือค่าสาธารณูปโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าไฟฟ้าที่แพง เพราะความผิดพลาดและไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลเอง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ผู้ประกอบการรายกลางรายเล็ก ต้องจ่ายสูงกว่าอัตราที่ควร (ขอให้สังเกต อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และอัตราดอกเบี้ยที่รายใหญ่จ่ายอยู่ ว่ามีความเป็นธรรมให้กับผู้กู้รายกลางและรายเล็กที่ทำมาหาเลี้ยงธนาคารอยู่หรือไม่

พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลที่ดี มีความสามารถบริหารเศรษฐกิจให้เติบโต อย่างมีวินัยทางการเงินการคลัง อย่างที่รัฐบาลพรรคไทยรักไทย และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเคยเป็นไม่สร้างภาระไปทิ้งให้คนในอนาคตต้องแบกรับ การดูแล ผู้ประกอบการ ให้ขายสินค้าและบริการได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นตลาดภายในประเทศ หรือตลาดส่งออก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ดี ซึ่งเพื่อไทยจะทำและทำสำเร็จมาแล้ว (ต่างจากผลงานของรัฐบาลชุดนี้ไหมลองพิจารณาดูนะครับ)

เมื่อปี 2555 เราเคยผลักดันให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท และอัตราเงินเดือนค่าตอบแทนทั้งระบบอย่างเป็นผลสำเร็จด้วยดี (แม้เพิ่งจะเผชิญกับมหาอุทกภัยครั้งใหญ่) ไม่มีกิจการที่ไม่สามารถอยู่รอด หรือปรับตัวไม่ได้จากนโยบายนี้ ในทางกลับกันผู้ประกอบการต่างเติบโต และจ้างงานเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงาน ลดจาก 0.7 เหลือ 0.6 ในปีถัดไป เราจะทำให้ผู้ประกอบการเข้มแข็ง ลดภาระที่ไม่จำเป็นลง และสามารถจ่ายค่าจ้างค่าตอบแทนที่สูง(ขึ้น) และสูงขึ้นให้กับคนที่ทำงานให้ท่านได้อย่างไม่ลำบากยากเย็น ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับ นายจักรพงษ์ แสงมณี คณะทำงานด้านยกเครื่องเศรษฐกิจ และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่กล่าวไว้ด้วยว่า “เราเคยผลักดันให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ จาก 212 บาทเป็น 300 บาท และอัตราเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท เมื่อปี 2555 อย่างเป็นผลสำเร็จด้วยดี อัตราการว่างงาน ลดจาก 0.7 เหลือ 0.6 ในปีถัดไป”

'กสทช.' เรียกเงินคืนจาก 'กกท.' 600 ล้าน ผิดกฎ Must Carry ทำบอลโลกจอดำ

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ บอร์ด กสทช. ได้ประชุม นัดพิเศษ เรื่อง การพิจารณาการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย

โดยที่ประชุมบอร์ด กสทช.จำนวน 6 คน มีมติเอกฉันท์ ให้การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. คืนเงิน 600 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) หลังจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ไม่สามารถดำเนินการตามกฎ “มัสต์แครี” จนทำให้เกิดปัญหาโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก หรือ IPTV จอดำ ไม่สามารถรับชมการแข่งขันเวิลด์ คัพ ครั้งนี้ได้

พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกสทช. ระบุว่า จากการประชุมล่าสุดของบอร์ดกสทช. มีมติ 6:0 ให้ส่งหนังสือทางปกครองเรียกเงินคืน 600 ล้านบาท จากทาง กกท. และให้คืนเงินภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งเป็นหนังสือ พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี (หากมี)

ก่อนหน้านี้ กสทช. ได้ส่งหนังสือถึง กกท. ขอคืนค่าสนับสนุน 600 ล้านบาท หลังจากระบบบอกรับสมาชิก IPTV จอดำ มีสาระสำคัญดังนี้ ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่าในบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่าง กสทช. กับ กกท. เรื่องการสนับสนุนค่าใช้จ่ายซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดครั้งนี้ ระบุว่า

'ชลน่าน' แจงนโยบายค่าแรง 600 บาท ชี้ เป็นวิสัยทัศน์ + ภาพฝัน ที่ตั้งเป้าภายในปี 70

(8 ธ.ค. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่กังวล สิ่งที่ประกาศเป็นวิสัยทัศน์ คือภาพที่เราฝันให้เป็นจริงที่ตั้งเป้าเอาไว้ภายในปี 2570 ว่า คนไทยและประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เช่น คนที่ทำงาน ควรที่จะได้รับค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน คนเรียนจบปริญญาตรีควรได้เงินเดือน 25,000 บาท

เมื่อเป็นวิสัยทัศน์และมีกระบวนการการจัดทำนโยบายต่าง ๆ เสร็จแล้ว หากจะประกาศเป็นนโยบายที่จะใช้รณรงค์หาเสียง ก็ต้องแจ้งไปที่กกต. เพื่อให้ทราบถึงแหล่งเงิน ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามที่กฎหมายกำหนด

9 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันต่อต้านการทุจริตสากล ร่วมตระหนักต้านการทุจริตทุกรูปแบบ

9 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันต่อต้านการทุจริตสากล หรือ วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (International Anti-Corruption Day) ถือกำเนิดขึ้นหลังจากที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหภาพสากล (The United Nation : UN) ที่มีมติเห็นชอบอนุสัญญา สหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต พ.ศ.2546 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2546 

จากนั้นประเทศภาคีสมาชิก จำนวน 191 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยได้เข้าร่วมลงนามในอนุสัญญาระหว่างวันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2546 ณ เมืองเมอริด้า ประเทศเม็กซิโก ด้วยเหตุนี้ UN จึงได้กำหนดให้ทุกวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปีเป็น 'วันต่อต้าน คอร์รัปชันสากล' 

ในขณะที่การจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ในวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปีนั้น เป็นหนึ่งในความร่วมมือระหว่างรัฐบาล, สำนักงาน ป.ป.ช., องค์กรต่อต้าน คอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อแสดงเจตนารมณ์มุ่งมั่นในการแก้ไข ปัญหาการทุจริตอย่างต่อเนื่องและปลุกกระแสสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ภายใต้แนวคิด 'Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต' 

'ครอบครัวรัตนพันธ์' ร้องนายกฯ สั่ง 'กลต.-ปปง.' สอบ 'เอสซี แอสเสท' พร้อมเร่งช่วยสู้คดียืดเยื้อ 6 ปี

(8 ธ.ค. 65) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ภายใน สนง.กพ. ได้มีครอบครัวรัตนพันธ์ จำนวน 5 คน นำโดย ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบความสุจริตและโปร่งใสในพฤติการณ์การดำเนินธุรกิจของ บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

เนื่องจากบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเรียกว่าบริษัทเอสซีฯ เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัท(มหาชน) จำกัด อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จดทะเบียน ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ชื่อบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีกรรมการผู้มีอำนาจประกอบด้วย นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์, นายณัฏฐ์พัฒน์ เอื้อใจ, นายอรรถพล สฤษฏิพันธวาทย์ กรรมการสองในสามคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญ สามารถกระทำการแทนและมีผลผูกพันบริษัท มีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยพัฒนาที่ดินและขออนุญาตจัดสรรเป็นหมู่บ้านจัดสรรเพื่อการอยู่อาศัยเพื่อจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่บุคคลทั่วไป และมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองและพรรคการเมือง ได้บริหารและดำเนินกิจการจนทำให้ครอบครัวรัตนพันธ์ ได้รับความเสียหายมายาวนานกว่า 6 ปี สูญเสียบ้านและที่ดินมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทเศษ

จึงขอให้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าตรวจสอบการกระทำของบริษัทเอสซีฯ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในวงกว้าง และขอให้กำชับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในประเทศไทย เนื่องจากพฤติกรรมการที่บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่มีมาตรฐานข้อบังคับในการนำเงินออกจากบริษัทอย่างชัดเจนและเคร่งครัด อาจจะนำไปสู่การเป็นเส้นทางการหลบเลี่ยงเส้นทางการเงิน หรือการนำเงินเข้าหรือออกนอกระบบได้อย่างง่ายดาย

10 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันรัฐธรรมนูญ วันสำคัญของระบบการปกครองไทย

วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นวันที่ระลึกถึงโอกาสที่ ในหลวง รัชกาลที่ 7 พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นวันที่ระลึกถึงโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และเป็นเครื่องกำหนดระเบียบแบบแผนของสังคม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นกฎหมายลำดับศักดิ์สูงสุดแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมายอื่นใดจะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญไม่ได้ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบการปกครองของประเทศ ซึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญแล้วทั้งสิ้น 19 ฉบับ อันแสดงให้เห็นถึงความขาดเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 นั้น ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ไทยเชิงการเมืองการปกครอง เมื่อคณะราษฎร ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการสายทหารบก ทหารเรือ และสายพลเรือน จำนวน 99 คน โดยมีพระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นหัวหน้า ได้ร่วมกันทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศจากพระมหากษัตริย์ เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด และมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ

ปตท. คว้า 3 รางวัล ASEAN CG Scorecard ประจำปี 2564 สะท้อน!! ‘กิจการดี-มีธรรมาภิบาล-นักลงทุนปลื้ม’

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนในอาเซียน (ASEAN CG Scorecard) ประจำปี 2564 โดยมีนายชฎิล ชวนะลิขิกร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารศักยภาพองค์กรและธรรมาภิบาล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้ารับรางวัลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณให้แก่บริษัทจดทะเบียนในอาเซียน ที่ดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่ง ปตท. ได้รับจำนวน 3 รางวัล ประกอบด้วย…

- รางวัล ASEAN Asset Class PLCs สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่ได้คะแนนการประเมินตั้งแต่ร้อยละ 75 หรือคิดเป็น 97.50 คะแนนขึ้นไป 
- รางวัล ASEAN Top 20 PLCs สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนสูงสุด 20 อันดับแรกในระดับภูมิภาคอาเซียน
- และรางวัล Country Top 3 PLCs สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกของประเทศไทย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top