Tuesday, 10 June 2025
TheStatesTimes

ชุมพร - จัดการประชุมคณะกรรมการจัดงานหนองใหญ่ มินิมาราธอน เดิน - วิ่งการกุศลครั้งที่ 4/2565

(28 พ.ย.65) ณ ห้องประชุมเกาะมัตตรา ศาลากลางจังหวัดชุมพร มีการประชุมคณะกรรมการจัดงานหนองใหญ่มินิมาราธอน เดิน-วิ่งการกุุศล ครั้งที่ 4/2565 โดยมีนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธาน ในส่วนของสมาคมชาวจังหวัดชุมพร ผู้เข้าประชุมประกอบด้วย พลเอกไพโรจน์ นาคฉัตรีย์ นายกสมาคม นายวิชิต ดิลกวิลาศ อุปนายกคนที่ 1 นายปรีดา เยี่ยมสวัสดิ์ อุปนายกคนที่ 2 นายลือชัย มณีศรี กรรมการและเลขาธิการ และนายวิโรจน์ แสงบางกา กรรมการที่ปรึกษา ผลการประชุมสรุปได้ว่า ทุกฝ่ายพร้อม ต่อมานายลือชัย มณีศรี กรรมการและเลขาธิการ ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดหมายเลขเบอร์วิ่ง(bib)ให้ และได้แจ้งในที่ประชุมให้ทราบความเป็นมาในการเสนอให้มีการจัดงานนี้ขึ้น

นายลือชัย เล่าว่า แม่ของตนเองเป็นลูกสาวของกำนันตำบลบางลึกคนหนึ่ง ได้เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านศาลาลอย เรียนมัธยมถึงชั้นมัธยม 6 ห้องเดียวกับพลเอกไพโรจน์ นายกสมาคม ที่โรงเรียนศรียาภัย และจบชั้น มศ.5 ที่ศรียาภัย เช่นเดียวกัน จากนั้นได้ไปศึกษาโรงเรียนป่าไม้ จังหวัดแพร่ จบมารับราชการในกรมป่าไม้และเติบโตขึ้นตามลำดับจนกระทั่งได้ดำรงตำแหน่ง ป่าไม้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และได้เข้าเฝ้าในหลวง ร.9 กับผู้ว่าฯขณะนั้นคือนายประสงค์ พิฑูรย์กิจจา รวม 29 ครั้ง ไม่นับการเข้าฟังการทรงดนตรี มีอยู่คืนหนึ่งขณะนั้นข่าวการจะสร้างโรงไฟฟ้าที่บ้านกรูดกำลังดัง เมื่อพระองค์ท่านเดินมาถึงผู้ว่า ได้ถามขึ้นว่า "ผู้ว่ามะกรูดภาษาอังกฤษว่าอย่างไร" ผู้ว่าหันมาที่ผมแล้วถามผมว่า "ป่าไม้ว่าไง" ผมตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดว่า "ไม่ทราบครับ" พระองค์ได้ยินคำตอบแล้วเพียงยิ้มๆ ผมดีใจมากเพราะคิดว่าจะถูกตำหนิ แต่กลับไม่ ผมจึงประทับใจพระองค์ท่านมาก เมื่อปี 2559 พระองค์ท่านสวรรคต ผมเสียใจมาก จึงได้บวชถวายเมื่อปลายปี 59 ถึงต้นปี 60 ได้เข้ายืนปลงสังเวชหน้าพระศพในเพศบรรพชิต และเคารพพระศพเมื่อเป็นฆราวาส ผมเคยบวชมาแล้วสมัยเป็นหนุ่ม บวชให้พ่อกับแม่ 1 พรรษา ความประทับใจยังคงมีอยู่เสมอมา คิดว่าทำอย่างไรจึงจะตอบแทนพระองค์ท่านได้อีก เมื่อคิดถึงหนองใหญ่ที่พระองค์ท่านได้ริเริ่มทำโครงการแก้มลิงไว้ จึงได้นำเสนอต่อที่ประชุมกรรมการสมาคมชาวจังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 3 กค.65 เมื่อที่ประชุมเห็นด้วยแล้วก็เตรียมขอถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้รับพระกรุณาอนุญาต โดยได้ไปยื่นเรื่องและติดตามที่กองงานในพระองค์ฯ ผมดีใจมากครับ

'กรณ์' ปลื้ม!! 9 ปี 'ข้าวอิ่มมหาสารคาม' ช่วยเกษตรกรปลดหนี้ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

'กรณ์' ลงนา เกี่ยว 'ข้าวอิ่มมหาสารคาม' ครบปี 9 ชาวนาปลื้ม ทำข้าวอินทรีย์ ปลดหนี้ทั้งหมู่บ้าน มุ่งมั่นทำเกษตรพรีเมียม ได้รับรางวัลระดับประเทศ 

(29 พ.ย. 65) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยคณะ เดินทางไปยัง จ. ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม เพื่อร่วมเกี่ยวข้าวอิ่ม ข้าวเกษตรอินทรีย์ ในโครงการเกษตรเข้มแข็ง โดยกล่าวว่า ปีนี้ครบ 9 ปี แล้วสำหรับข้าวอิ่มมหาสารคาม ซึ่งตนได้ริเริ่มตั้งแต่ปี 2556 ที่ หมู่บ้านหนองหิน จ.มหาสารคาม ด้วยการเปลี่ยนข้าวที่ใช้สารเคมีในการเพาะปลูก มาเป็นข้าวเกษตรอินทรีย์ จนได้รางวัลพันธุ์ข้าวยอดเยี่ยมระดับประเทศ เกิดการต่อยอดข้าวเป็นสินค้าพรีเมียมประจำจังหวัด ด้วยรสชาติของข้าวมหาสารคามที่อร่อยที่สุดในโลก และกำลังขยายผลเพิ่มมูลค่าสินค้าอีกหลายชนิด ทั้งข้าวพองธัญพืช รสชาติอร่อยมาก รวมไปถึงเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางบำรุงผิว สบู่ ฯลฯ ช่วยให้เกษตรกรปลดหนี้ มีเงินเก็บ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

นายกรณ์ กล่าวว่า ดีใจมากที่ปีนี้ ข้าวอิ่ม ได้รับรางวัล ข้าวคุณภาพอันดับที่ 3 ของประเทศ ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา จากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่รวมตัวกันด้วยความกล้าหาญ เปลี่ยนวิถีการปลูกข้าว เริ่มต้นจาก 7 ครัว เรือนปัจจุบันเพิ่มเป็น 171 ครัวเรือน ในพื้นที่นา 1,783 ไร่ ทำให้เห็นถึงความตั้งใจ และอดทน จนเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ และได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลผ่านโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาและเพิ่มมูลค่าผลผลิต ทั้งรถเกี่ยวข้าว โรงสีชุมชน เครื่องบรรจุสุญญากาศ ฯลฯ นับเป็นโอกาสที่ดีที่เกษตรกรจะได้ยกระดับมาตรฐานสินค้าให้น่าซื้อ มากยิ่งขึ้น 

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 21 – 25 พ.ย. 65 จับตาปัจจัย ‘บวก-ลบ’ ชี้ แนวโน้ม 28 พ.ย. – 2 ธ.ค. 65

สรุปสถานการตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 21 – 25 พ.ย. 65 จับตาปัจจัย ‘บวก-ลบ’ ชี้ แนวโน้ม 28 พ.ย. – 2 ธ.ค. 65

ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในสัปดาห์ล่าสุดยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจีนยังรุนแรง กดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน ล่าสุดทางการจีนรายงานผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทั่วประเทศในวันที่ 26 พ.ย. 65 อยู่ที่ 39,791 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสถานการณ์บานปลาย โดยประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงมาตรการ Lockdown ซึ่งเข้มงวดและยาวนานเกินไป อาทิ ในเมือง Shanghai, Beijing, Chengdu, Wuhan, และ Guangzhou ในบางเมืองประชาชนไม่สามารถออกนอกบ้านมานานกว่า 100 วัน

วันที่ 26 พ.ย. 65 รัฐบาลสหรัฐฯ ออกใบอนุญาตให้แก่ Chevron Corp. ผลิตน้ำมันดิบในเวเนซุเอลา เป็นเวลา 6 เดือน โดยยังคงมาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานเวเนฯ แต่ผ่อนผันให้เฉพาะน้ำมันดิบที่ส่งออกมาสู่สหรัฐฯ ทั้งนี้เวเนฯ ผลิตน้ำมันอยู่ที่ระดับ 700,000 บาร์เรลต่อวัน และ Reuters รายงาน Chevron ผลิตน้ำมันดิบในเวเนฯ ก่อนมาตรการคว่ำบาตร ที่ระดับ 200,000 บาร์เรลต่อวัน

ให้จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) วันที่ 13-14 ธ.ค. 65 ซึ่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขา San Francisco นางสาว Mary Daly คาดการณ์ว่า FOMC จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Federal Funds Rate: FFR) ขึ้น 0.75% อยู่ที่ 4.5-4.75%

'อนุพงษ์' ลงนามแปลงสัญชาติ 'ตู้ ห่าว' ตามขั้นตอน เหตุถูกชงชื่อก่อนนั่ง มท.1 และต้องทำหน้าที่ตาม กม.

เมื่อวันที่ (28 พ.ย. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย โดยปรากฏสำเนาเอกสารประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนพิเศษ 245 ง ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2557 ระบุชื่อบุคคลลำดับที่ 35 นายหาว เจ๋อ ตู้ เอกสารหนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย ลงวันที่ 26 มกราคม 2558 ของ นายหาวเจ๋อ ตู้ และปรากฏข้อความระบุว่า ‘อนุพงษ์ เผ่าจินดา คือ ผู้ที่ให้สัญชาติไทยแก่ ตู้ห่าว’

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า นายหาวเจ๋อ ตู้ แต่เดิมเป็นบุคคลสัญชาติจีน มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในพื้นที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ได้ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ต่อกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ กรณีเป็นสามีของบุคคลสัญชาติไทย และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา กระทรวงมหาดไทยได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอฯ และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย ในการประชุมครั้งที่ 2/2556 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 ซึ่งมีรองอธิบดีกรมการปกครองเป็นประธาน ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนกรมการกงสุล ผู้แทนกรมการจัดหางาน ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้ทรงคุณวุฒิเป็นอนุกรรมการ และได้นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ ในการประชุมครั้งที่ 3/2556 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกระทรวงแรงงาน ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร และผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะกรรมการตามกฎหมาย เพื่อเสนอแนะและให้ความเห็นประกอบการใช้ดุลพินิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ได้ใช้ดุลพินิจตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ พิจารณาอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยได้ แล้วแจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ทำพิธีปฏิญาณตน และประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติครั้งดังกล่าว มีมติเห็นควรเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยใช้ดุลพินิจอนุญาตให้คนต่างด้าวแปลงสัญชาติเป็นไทยได้ จำนวน 12 ราย เพราะเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนของการได้สัญชาติไทยตามที่กฎหมายกำหนด คือ

อว. เตรียมเด็กไทยสู่โลกอนาคต ผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม

เมื่อ (24 พ.ย. 65) ที่ผ่านมา ณ พิพิธภัณฑ์เด็กแห่งกรุงเทพมหานคร จตุจักร กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (ธัชชา) เตรียมเด็กไทยสู่โลกอนาคตผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม ร่วมกำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจในการสร้างพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ ในงานเสวนาวิชาการ 'สร้างพื้นที่เรียนรู้จากอดีตสู่อนาคต เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม'

ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงความสำคัญว่าทำไมต้องมีพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และศิลปกรรมช่วยพัฒนาเด็กและเยาวชนได้อย่างไร

“ศิลปะเป็นเรื่องของความงาม เป็นเรื่องของอารยสภาพ ทำให้จิตใจนุ่มนวล งดงาม อ่อนโยน ทำให้เกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขอบเขต และสร้างแรงบันดาลใจ บางครั้งภาษา หนังสือ ทฤษฎีก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เด็กและเยาวชนเกิดความคิด จินตนาการ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปลูกฝังให้เด็กเข้าถึงศิลปกรรม ไม่ใช่สำหรับที่จะทำให้เด็กมีอาชีพทางศิลปกรรมเท่านั้น แต่สำหรับเด็กทุกคนที่ต้องเข้าใจ เข้าถึง และสามารถเสพศิลปะได้อย่างเหมาะสมด้วย ทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสมองมีสองซีก คือ ซีกที่เป็นเหตุผล เป็นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ อีกซีกหนึ่งเป็นเรื่องความงาม ความนุ่มนวล อ่อนโยน เป็นสมองที่เกี่ยวกับศิลปะ สุนทรียะ อารยะ เด็กและเยาวชนควรจะได้รับการพัฒนาสมองทั้งสองซีก เด็กที่ได้รับการพัฒนาเช่นนี้จะเป็นกำลังสำคัญของบ้านเมือง ของโลกต่อไปในอนาคต

"และถ้าเราจะปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงศิลปะ จำเป็นต้องมีพื้นที่การเรียนรู้พิเศษ หรือถ้าจะปลูกฝังให้พัฒนาตนเองด้านศิลปะไปถึงศิลปะขั้นสูง ขั้นอัจฉริยะ ก็จำเป็นต้องปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ ในการนี้จึงจำเป็นที่ต้องมีพื้นที่การเรียนรู้โดยเฉพาะ”

ภายในงานมีการเสวนาวิชาการหัวข้อ 'สร้างพื้นที่เรียนรู้จากอดีตสู่อนาคต เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม' โดย...

ศ.(เกียรติคุณ) ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่าแนวทางการจัดพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม ต้องทำให้เกิดการสังเคราะห์ได้แบบองค์รวม ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และอย่าใช้เครื่องมือสำเร็จรูป ต้องให้เด็กได้ลงมือทำจริง

คุณโตมร ศุขปรีชา ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และนวัตกรรมการเรียนรู้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า พื้นที่เรียนรู้มีลักษณะเป็น ‘อุปทาน’ (Supply) ของความรู้ พื้นที่เรียนรู้จะเป็นเหมือนจุดโฟกัสของความรู้ ที่ทำให้เกิดการสร้างกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ขึ้นในพื้นที่นี้ และเป็น ‘ปลายทาง’ (Destinations) ของการสร้าง ‘อุปสงค์’ (Demand) ทางความรู้ในสังคม คือเมื่อกระตุ้นให้คนอยากเรียนรู้แล้ว จำเป็นต้องมีพื้นที่เรียนรู้ให้ได้ไปหาความรู้ด้วย

'เสี่ยเฮ้ง' ยื่นลาออกกรรมบริหาร พปชร. ชี้!! 'มีภารกิจ-เหตุผล' ที่ต้องกับลุงตู่

‘สุชาติ’ กราบลา ‘บิ๊กป้อม’ ร่อนใบลาออกจาก ‘กก.บห.พลังประชารัฐ’ แล้ว หลังเตรียมซบ ‘รทสช.’

(29 พ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ส.ส.ชลบุรี ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว และทางพรรคได้แจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้พ้นจากการเป็นผู้อำนวยการพรรค 

โดยการลาออกจากกก.บห.พรรคของนายสุชาติ หลังมีกระแสข่าวจะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) และหลังจากโพสต์เฟซบุ๊ก “นักเลงเมืองชล ลุงตู่ ปกป้องดูแล ผมมาตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี จะทิ้งลุงตู่ไปคนเดียว ผมจะเอาหน้ากลับมาบ้านได้อย่างไร เสียชื่อคนชลบุรีหมดสิครับ”

GC ภูมิใจใช้ ‘YOUเทิร์น’ บริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วจากเอเปคกลับสู่ระบบ

GC นำ 'YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม' บริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วจากการประชุม APEC 2022 รวม 360 กิโลกรัม ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 835.20 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ใหญ่ 93 ต้น

พลาสติกใช้แล้วจากการประชุม APEC 2022 จำนวน 360 กิโลกรัม จากจุดรับขยะภายใต้โครงการ แยก แลก ยิ้ม ของ OR นำเข้าสู่ ENVICCO ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้งตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน สามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 835.20 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ใหญ่ 93 ต้น GC ภูมิใจที่ได้สนับสนุนให้การประชุม APEC 2022 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีต่อโลก ดีอย่างยั่งยืน

https://www.facebook.com/watch/?v=1816303905401240

GWM แจงลูกค้าอย่าตกใจเปลี่ยนแบต 6 แสน ชี้ แค่ประเมินเบื้องต้น ยันจากนี้จะประสานประกันทุกเคส

GWM ชี้แจง ค่าเปลี่ยนแบต Ora Good Cat กว่า 6 แสนบาท ระบุ เป็นการประเมินเบื้องต้น จริงๆ เปลี่ยนแค่ฝาครอบพอ จัดตั้ง HOTLINE สายด่วนเพื่อรับปัญหาเกี่ยวกับแบตโดยเฉพาะ พร้อมส่งคนจาก สนง.ใหญ่คุยประกันทุกเคสเกี่ยวกับแบต

ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับรถยนต์ ORA GOOD CAT ที่แผงครอบแบตเตอรี่ใต้ท้องรถได้รับความเสียหาย หลังจากที่บริษัทประกันภัยได้ประเมินมูลค่าการซ่อมแล้วพบว่ามูลค่าการซ่อมมากกว่า 70% ของทุนประกัน ทางบริษัทประกันภัยจึงเสนอคืนทุนประกันเต็มจำนวนให้กับลูกค้านั้น

ล่าสุดทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทุกท่านทราบดังนี้

ในกรณีอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถไฟฟ้าและเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของลูกค้า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นเรื่องสำคัญและมีการกำหนดขั้นตอนการทำงานที่เป็นระบบ โดยทีมผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญและช่างเทคนิคได้เข้าทำการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแบตเตอรี่โดยใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะทาง โดยการตรวจสอบนี้จะครอบคลุม 3 ด้าน การทดสอบระบบแรงดันไฟภายในแบตเตอรี่และการทำงานของแบตเตอรี่ การตรวจสอบการรั่วไหลของระบบหล่อเย็น (Coolant) ภายในแบตเตอรี่ การตรวจสอบการรั่วไหลของฝุ่นและอากาศเข้าในแบตเตอรี่

สำหรับเคสนี้ จากการทดสอบด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง เราพบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลกับตัวแบตเตอรี่ภายในใดๆ ทั้งสิ้น จึงวิเคราะห์ให้ทำการเปลี่ยนเฉพาะฝาครอบแบตเตอรี่ที่ได้รับความเสียหายจากการกระแทกเท่านั้น ซึ่งค่าใช้จ่ายจะยังอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของบริษัทประกัน ซึ่งราคาที่มีการส่งให้บริษัทประกันเพื่อคำนวณความเสียหายในเบื้องต้นนั้น เป็นราคาของการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งลูก ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้นจากการสังเกตจากลักษณะภายนอกเท่านั้น

ซึ่งทางบริษัทฯ ต้องขออภัยกับการสื่อสารที่ไม่ถูกต้องและความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ที่ก่อให้เกิดความกังวลกับทางลูกค้าและผู้ที่ได้รับข่าวสารมา ณ ที่นี้ด้วย

เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและลดความกังวลของลูกค้าของเรา บริษัทฯ ขอชี้แจงแนวทางในการดำเนินงานและเริ่มดำเนินการ 'ในทันที' ดังต่อไปนี้

ลูกค้าที่เกิดปัญหาอุบัติเหตุและแบตเตอรี่ได้รับความเสียหาย ทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ สำนักงานใหญ่ จะเข้าไปร่วมพูดคุยและเจรจาแก้ปัญหากับบริษัทประกันให้กับลูกค้าใน 'ทุกเคส'

จัดตั้ง HOTLINE สายด่วนเพื่อรับปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่โดยเฉพาะ

‘อลงกรณ์’ เผย!! มีผู้อ้างชื่อทุเรียนไทย หลอกขายในจีน มอบทูตเกษตรในจีนตรวจสอบ - รักษาภาพลักษณ์ผลไม้ไทย

(29 พ.ย. 65) จากกรณีที่สื่อบางฉบับนำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่ามีการเผยแพร่คลิปทุเรียนซึ่งวางจำหน่ายในประเทศจีน ที่ผู้ขายอ้างว่าเป็นทุเรียนจากไทย จนทำให้ลูกค้าในเซี่ยงไฮ้หลงเชื่อซื้อกลับไปรับประทานในราคากิโลกรัมละ 200 หยวน หรือประมาณ 1,000 บาท แต่กลับพบว่ารสชาติไม่ใช่ของไทย และคลิปดังกล่าวยังถูกส่งต่อในประเทศจีนเป็นวงกว้างจนเกรงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะกระทบต่อชื่อเสียงของทุเรียนไทย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด-Fruit Board) เปิดเผยวันนี้ (29 พ.ย.) ว่า ทันทีที่ทราบข่าวได้รายงานต่อดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานฟรุ้ทบอร์ดโดยสั่งการทันทีในวันที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าว (28พ.ย) ให้ทูตเกษตรของไทยทั้ง 3 สำนักงาน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว ตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมกับเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยทันที 

โดยได้รับรายงานในตอนค่ำของวันวานจากกงสุลฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ว่า ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจุดจำหน่ายทุเรียนตามที่ปรากฏในข่าวแต่ไม่พบการขายทุเรียน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า กรณีที่เป็นข่าว เป็นรถขายทุเรียนริมทาง (รถกระบะ) ไม่ใช่การขายทุเรียนจากร้านค้าที่มีแหล่งที่ตั้งถาวร โดยปกติรถขายทุเรียนคันนี้จะจอดขายช่วงกลางคืนบนถนน Xinhua ของเมืองเซี่ยงไฮ้ ช่วงวันที่ขายก็ไม่แน่นอน แต่ส่วนใหญ่จะมาขายวันเสาร์อาทิตย์ ที่ผ่านมารถดังกล่าวไม่ได้มาจอดขายทุเรียน ณ บริเวณนั้นนานกว่าสัปดาห์แล้ว ราคาขายจะเป็นราคาต่อจินหรือ 500 กรัม ปกติทุเรียนไทยที่จำหน่ายในช่วงนี้ราคาประมาณ 25-40 หยวน/500กรัม หรือ 50-80 หยวน/กก. (หรือประมาณ 250-400 บาท/กก.)

ทั้งนี้ รถขายทุเรียนข้างทาง ส่วนใหญ่จะพบเห็นตามชานเมือง จอดขายริมถนนเฉพาะช่วงกลางคืน เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ และทุเรียนที่ขายก็เป็นทุเรียนตกเกรด คุณภาพต่ำ และส่วนใหญ่ราคาถูกกว่าร้านค้าผลไม้ที่ได้มาตรฐาน

จากการสอบถามข้อมูลจากตลาดค้าส่งทราบว่า รถขายทุเรียนข้างทางในเซี่ยงไฮ้เป็นรถกระบะมาจากมณฑลอื่น โดยพ่อค้าจะไปซื้อทุเรียนตกเกรดราคาต่ำ ในปริมาณมากๆ มาเร่ขายริมถนน โดยบางคันจะเปลี่ยนที่ขายไปเรื่อยๆ จะแกะเนื้อทุเรียนขายเฉพาะเนื้อ ไม่ขายทั้งเปลือก นอกจากนี้ เครื่องชั่งก็ไม่ได้มาตรฐาน จากการสอบถามคนที่เคยซื้อทุเรียนจากรถกระบะ จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุเรียนคุณภาพต่ำ รสชาติไม่อร่อย 

นอกจากนี้จากการสำรวจร้านจำหน่ายผลไม้ในพื้นที่ 5 ร้าน ทุเรียนไทยราคาสูงกว่าทุเรียนเวียดนาม  พ่อค้าบอกว่าทุเรียนไทยอร่อยและเป็นที่รู้จัก คนที่รู้จักทุเรียน ก็จะมักเลือกซื้อทุเรียนไทย ในสายตาผู้บริโภค จะไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างทุเรียนไทยและทุเรียนประเทศอื่นจากรูปลักษณ์ได้ แต่จะสังเกตความแตกต่างจากสติกเกอร์ที่ขั้วผลที่ระบุว่าเป็นทุเรียนจากประเทศไทยหรือเวียดนาม

นายอลงกรณ์กล่าวว่า สปษ.ปักกิ่ง ฝ่ายเกษตรฯ กว่างโจวและเซี่ยงไฮ้ ได้มีการรายงานและเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานทุเรียนที่ส่งออกมายังจีนอย่างต่อเนื่องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงควรให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพทุเรียนไทยก่อนการส่งออกเพื่อมิให้มีทุเรียนตกเกรด หรือทุเรียนคุณภาพต่ำมาจำหน่าย ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยในภาพรวม ตามนโยบายยกระดับคุณภาพและมาตรฐานผลไม้ไทยของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประธานฟรุ้ทบอร์ด 

ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายเกษตรทั้ง 3 สำนักงานร่วมกับทีมไทยแลนด์ในจีนเฝ้าระวังติดตามข่าวสารในสื่อออนไลน์และสื่อต่าง ๆ หากปรากฏข่าวที่กระทบต่อผลไม้ไทยให้ตรวจสอบและชี้แจงต่อสาธารณชนทันที

ปตท. - สยามพิวรรธน์ ผนึกพลังร่วมนำธุรกิจสู่เป้าหมาย สร้างความยั่งยืนให้ ‘สังคม-สิ่งแวดล้อม’

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ปตท. บริษัทพลังงานแห่งชาติที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและปิโตรเคมีครบวงจร พร้อมส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานแห่งอนาคตเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย และ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ โดยการนำของ สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทย 

นับเป็นครั้งแรกของการประสานพลังจากสององค์กรชั้นนำระดับประเทศ ที่จะร่วมกันดำเนินธุรกิจสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) โดยมี ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ร่วมลงนามความร่วมมือที่ครอบคลุมการดำเนินงานใน 3 ด้าน ได้แก่... 

1.) การจัดการพลังงานหมุนเวียนนำไปสู่เป้าหมาย Net Zero ผ่านความร่วมมือกับ บริษัท รี แอค จำกัด (ReAcc) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท.

2.) การบริหารจัดการขยะและของเสีย

และ 3.) โครงการการพัฒนาที่ยั่งยืนต่าง ๆ ในอนาคต ตอกย้ำวิสัยทัศน์และเป้าหมายการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจในประเทศไทยดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม

ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับสยามพิวรรธน์ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ ปตท. ในการส่งเสริมภาคธุรกิจไทย ให้หันมาใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น นำไปสู่การใช้พลังงานที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) เพิ่มศักยภาพการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืนของประเทศสู่เวทีโลกในอนาคต สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กรที่มุ่งสนับสนุนแนวทางการผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมส่งเสริมการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง 

โดยมีโครงการนำร่องด้านการจัดการพลังงานหมุนเวียนเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย Net Zero ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์ ที่จะเป็นต้นแบบการดำเนินธุรกิจที่ใช้แนวคิดความยั่งยืน โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ผ่านการซื้อใบรับรองสิทธิการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates : RECs) จาก ReAcc ซึ่งเป็นตัวแทนให้บริการซื้อขายด้านพลังงานสะอาดและความเป็นกลางทางก๊าซเรือนกระจก (Carbon Neutrality) ให้แก่บริษัทที่ต้องการจัดหาพลังงานหมุนเวียนสามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานไฟฟ้าดังกล่าวได้สะดวกมากขึ้น 

ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของทั้งสององค์กรในการมุ่งมั่นใช้พลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) ที่ก่อให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อน อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดในประเทศไทยให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ RECs ได้อีกด้วย

ด้านนางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า สยามพิวรรธน์สร้างความยั่งยืนผ่านทุกกระบวนการและในทุกธุรกิจที่ดำเนินการ (Sustainable Value In Process) เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันในทุกภาคส่วน ทั้งกับผู้คน สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ การผนึกความแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ ในฐานะผู้พัฒนาศูนย์การค้าที่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของผู้คนด้วยความคิดสร้างสรรค์ และได้ใช้สยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่ดำเนินธุรกิจแบบร่วมสร้าง (Co-creation) บุกเบิกแนวคิดที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยจับมือกับ ReAcc ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. ผู้ให้บริการซื้อขายพลังงานสะอาด จะทำให้เราสามารถพัฒนาต้นแบบของธุรกิจด้วยแนวคิดความยั่งยืน ร่วมฟื้นฟูและส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับคนรุ่นหลัง และเข้าไปอยู่ใกล้ชีวิตประจำวันของผู้คนได้ง่ายขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top