Monday, 30 June 2025
TheStatesTimes

'ดร.อานนท์' เล่าบรรยากาศ เจอ 'เพนกวิ้น' ที่ศาล เดียวดายหน้าบัลลังก์ ไร้เงากองเชียร์เหมือนก่อน

(29 เม.ย. 65) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า กองเชียร์สามกีบที่หายไป ปล่อยให้เพนกวิ้นเดียวดายหน้าบัลลังก์ศาล 

ผมไปศาลอาญารัชดาเช้านี้ คดี มาตรา 112 ที่เพนกวิ้นเป็นจำเลย เคยไปมาหลายครั้งแล้ว แต่เพนกวิ้นไม่มาศาล อ้างว่าป่วย แต่มีใบแพทย์จากกรมราชฑัณฑ์ว่าไม่ป่วย และแต่ก่อนทุกครั้งที่ไปจะมีมวลชนสามกีบมากมาย ตำรวจต้องกั้น และต้องดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุด ตรวจสแกนบัตรประชาชนอย่างละเอียด และห้ามม็อบสามกีบเข้ามาในเขตรั้วศาล แต่วันนี้เงียบเหงามาก ม็อบสามกีบไม่มี ตำรวจไม่มา ไม่ได้กั้นอะไร และเพนกวิ้นก็มาแบบเงียบๆ กับน้องสาวและทนายอย่างเดียวดายหน้าบัลลังก์ ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาครับ

จบการรายงานข่าว


ที่มา : https://www.facebook.com/784302727/posts/10160138108707728/

อดีต - ปัจจุบัน มองวิวกรุงเทพ จากมุมเดียวกัน ผ่านห้วงเวลา 100 ปี ณ ยอดภูเขาทอง

วิวกรุงเทพจากภูเขาทอง
มุมเดียวกัน ห่างกัน 100 กว่าปี

ภาพบน
วิวกรุงเทพจากภูเขาทองที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่แอดเคยเห็น
สะพานผ่านฟ้ายังไม่มี
ถนนราชดำเนินยังไม่สร้าง
(ถนนราชดำเนิน เริ่มสร้างปี พ.ศ. 2442)

‘ดีพร้อม’ ขยายผล นโยบาย ‘ดีพร้อมแคร์’ ปั้นรายได้ภาคใต้ตอนบนแล้วกว่า 269 ลบ. 

(29 เม.ย. 65) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค ผ่านการดำเนินนโยบายดีพร้อมแคร์ (DIPROM CARE) ยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และการส่งเสริมการตลาด เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนมีความพร้อมในทุกมิติ ชูตัวอย่างผลสำเร็จการส่งเสริมผู้ประกอบการทุกระดับผ่านการดำเนินงานของศูนย์ดีพร้อมเซ็นเตอร์ 10 (DIPROM CENTER 10) อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรชุมชน การยกระดับและเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ รวมถึงการส่งเสริมผู้ประกอบการประมงในการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนเพิ่มขึ้น 15 เท่าจากงบประมาณที่ได้รับคิดเป็นมูลค่ากว่า 269 ล้านบาท

ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องกระจายการดำเนินงานให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถสร้างความเข้มแข็งในระดับเศรษฐกิจภูมิภาค อันจะเป็นฟันเฟืองที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ตอนบน เป็นหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบแนวทางให้ ดีพร้อม เร่งขับเคลื่อนภายใต้นโยบายดีพร้อมแคร์ (DIPROM CARE) ที่ได้ปรับประยุกต์การดำเนินการให้สอดคล้องบริบทของพื้นที่ โดยการปรับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 เป็น ‘ดีพร้อมเซ็นเตอร์ 10’ (DIPROM CENTER 10) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในพื้นที่ที่ส่งเสริมผู้ประกอบการอย่างเข้มข้นในทุกระดับมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้กระจายการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนจนสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่า 269 ล้านบาท คิดเป็น 15 เท่าจากงบประมาณดำเนินการ ประกอบด้วย…

>> ยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ ผ่านการดำเนินโครงการสำคัญ อาทิ โครงการสร้างเครือข่ายผู้นำธุรกิจพันธุ์ดีพร้อม (DIPROM HEROES) สร้างเครือข่ายผู้นำในชุมชนได้กว่า 25 ราย โครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม (คพอ.) หรือ DIPROM MINI MBA ที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการพร้อมกับสามารถสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการให้มีเกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ สร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ให้มีโอกาสทางธุรกิจผ่านการอบรมเชิงลึกในรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการปูพื้นฐานไปสู่การต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีศักยภาพ

>> เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ผ่านการดำเนินการของศูนย์แปรรูปเกษตรอุตสาหกรรมและศูนย์ออกแบบดีพร้อมที่มุ่งเน้นการให้บริการเครื่องจักร เพื่อยกระดับกระบวนการผลิต การแปรรูปผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับความต้องการของตลาดอย่างครบครัน ทั้ง 13 ศูนย์ทั่วประเทศ กระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาคเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใช้บริการ รวมทั้งสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี AI ในทุกกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งยังส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมให้เข้าถึงเครื่องจักรกลที่ทันสมัย 

>> พัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของชุมชนให้แสดงถึงอัตลักษณ์และสามารถเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่

กทม. ประกาศพร้อมจัดการเลือกตั้ง เล็งถก ศบค. หาแนวทางให้คนติดโควิดได้เลือกตั้ง

กทม.พร้อมจัดการเลือกตั้ง เตรียมหารือ ศบค. แนวทางดำเนินการสำหรับผู้มีสิทธิที่ติดโควิด-19

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 65 นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อมการเตรียมเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ณ สำนักงานเขตดินแดง และสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีนายสมชัย สุรกาญจน์กุล ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร และคณะ พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่

ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในการตรวจความพร้อมการเตรียมเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแผนงานที่วางไว้ ได้แนะนำเรื่องการเพิ่มชื่อ-ถอนชื่อ การดูแลประชาชนที่มาติดต่อราชการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ระมัดระวังปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิมาใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมถึงจะมีการจัดทำเว็บไซต์ที่แจ้งรายละเอียดของผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่าตนจะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่ไหนเพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงสมัครเป็นสมาชิกสำนักงานแห่งหนึ่ง อ้างมีสิทธิพิเศษต่างๆ หลอกลวงเรียกค่าสมัครและค่าอื่นๆ ในหลายพื้นที่

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนภัยตามกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอ แก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงสมัครเป็นสมาชิกสำนักงานแห่งหนึ่งซึ่งตั้งขึ้นมาเอง อ้างมีสิทธิพิเศษต่างๆ โดยเรียกเก็บค่าสมัครและค่าอื่นๆ มีประชาชนที่ได้รับความเสียหาย มูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท

จากกรณีดังกล่าวมีประชาชนในพื้นที่ จว.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.พุทไธสง จว.บุรีรัมย์ เมื่อเดือน ธ.ค.64 เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพที่ได้หลอกลวงให้ได้รับความเสียหายรวมมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท จากนั้นพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาในคดีทราบจำนวน 3 ราย ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน  และได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีและผู้ต้องหาไปยัง พนักงานอัยการ จว.บุรีรัมย์ ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.64 เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว โดยมีพฤติการณ์แห่งคดีมิจฉาชีพได้หลอกลวงให้ผู้เสียหายสมัครสมาชิกสำนักงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล จว.ลพบุรี ซึ่งตั้งขึ้นมาเอง พร้อมอ้างว่าจะได้รับการช่วยเหลือ มีสิทธิพิเศษต่างๆ ซึ่งผู้สมัครจะต้องเสียค่าสมัครรายละ 1,500 บาท ค่าตัดชุดประจำตำแหน่งชุดละ 1,800 บาท ค่าบัตรสมาชิก 200 บาท รวมถึงอ้างว่าจะได้เงินเดือนๆละ 5,000 บาท หากเสียชีวิตก็จะมีค่าปลงศพให้สมาชิกอีกรายละ 60,000 บาท  ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อไปสมัครเป็นจำนวนหลายราย สร้างความเสียหายห้วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส 

ในทางคดีขณะนี้ทางสำนักงานอัยการ จว.บุรีรัมย์ ได้มีหนังสือให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนประเด็นในคดีเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาของทางอัยการ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยถึงปัญหาและภัยจากการหลอกลวงในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงผ่านรูปแบบสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเกิดเสียหายได้อย่างรวดเร็ว เป็นวงกว้าง จึงกำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนถึงแนวทางป้องกัน หากมีการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลโดยได้สั่งการและกำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ให้สร้างการรับรู้ถึงภัยการหลอกลวงในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ให้ทำการสืบสวนสอบสวน ปราบปรามอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด จริงจัง เห็นผลเป็นรูปธรรม การหลอกลวงลักษณะดังกล่าวนอกจากจะเป็นการตอกย้ำพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หากมีการชักชวนผ่าน  สื่อสังคมออนไลน์ยังเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากเตือนภัยประชาชน ขอให้ตรวจสอบข้อมูลลักษณะดังกล่าวให้ดี โดยปกติแล้วจะไม่มีองค์กรที่ดำเนินการในลักษณะนี้ ที่อ้างว่าจะให้ความช่วยเหลือไม่ให้ถูกจับกุมเมื่อกระทำความผิดตามกฎหมาย ซึ่งไม่มีอยู่จริง รวมถึงขอฝากแนวทางการหลีกเลี่ยงป้องกันการถูกหลอกลวงจากแก๊งมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ อาทิ การฉ้อโกง การหลอกลวงให้ลงทุน โดยเฉพาะกรณีที่หลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ดี หลีกเลี่ยงข้อเสนอที่ฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นไปได้หรือมีเงื่อนไขในลักษณะที่ได้ผลตอบแทนสูง ง่าย ไม่ซับซ้อน  หากได้รับความเสียหายให้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สลิปการโอนเงิน ข้อมูลการติดต่อ ทั้งภาพนิ่งหรือคลิปวีดีโอ เพื่อแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

“อวสาน อวาตาร์ Twitter เมื่อ Elon Musk เข้ามาล้างบาง” | MEET THE STATES TIMES EP.75

📌“อวสาน อวาตาร์ Twitter เมื่อ Elon Musk เข้ามาล้างบาง” !
📌จับตาการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เขย่า “โลกTwitter” !

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

“โครงการหลวงจากจุดเริ่มต้น สู่การต่อยอดอย่างยั่งยืน” | MEET THE STATES TIMES EP.76

📌 “โครงการหลวงจากจุดเริ่มต้น สู่การต่อยอดอย่างยั่งยืน”
📌 ตามรอย “โครงการหลวง” เริ่มต้นจากพ่อ ต่อยอดเพื่อคนไทย

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

'ตร.' สั่ง ผบช.ภ.1 รายงานชี้แจง เหตุนำภาพผิดมาประกอบการแถลงข่าว คดีแตงโม ยืนยันไม่มีผลต่อสำนวนในคดี เพียงแค่ต้องการสื่อให้ ประชาชนเข้าใจง่าย

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. ได้ชี้แจงถึง กรณีที่ตำรวจภูธรภาค 1 ได้แถลงสรุปสำนวนการสอบสวนคดีแตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ต และอาจมีความคลาดเคลื่อนเรื่องการนำเสนอด้วยวีดิทัศน์ประกอบการแถลงข่าว

เรื่องนี้ ได้รับคำยืนยันจาก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) ว่าวีดิทัศน์ที่มีการนำภาพผิด มาใช้ประกอบนี้ ไม่ได้อยู่ในสำนวนการสอบสวนที่ส่งมอบให้กับพนักงานอัยการ แต่การจัดทำวีดิทัศน์นี้ทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการแถลงข่าว เพื่อให้ประชาชนเข้าใจได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

จิม โจนส์ (Jim Jones) ‘ผีบุญอเมริกัน’ ผู้ปิดฉากลัทธิ ด้วยการพาสาวกฆ่าตัวตายหมู่กว่า 900 ชีวิต

ประชาชนในพื้นที่อีสานประสบพบกับความยากลำบากจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะการขาดแคลนแล้งน้ำเป็นประจำ

ระยะนี้บ้านเรามีผู้พยายามนำเรื่องราวของ ‘ผีบุญ’ อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 121 ปีล่วงมาแล้ว โดยมีการตีไข่ใส่สีว่าผีบุญเป็นวาทกรรมที่ถูกสร้างขึ้นโดยฝ่ายรัฐ ทั้งๆ ที่ผู้นำขบวนการนั้นตั้งตัวเป็น ‘ผีบุญ’ เอง โดยให้ความหมายของผีบุญว่าเป็น ‘ผู้มีบุญ’ ซึ่งก็คือ การอวดอ้างตัวเองว่า เป็นผู้วิเศษ มีฤทธิ์ มีเดช เหนือมนุษย์ธรรมดาทั่วไป ได้รับบัญชาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มาสร้างความมั่งคั่งผาสุกให้กับราษฎร ซึ่งชัดเจนแน่นอนว่าเป็นการโกหกหลอกลวงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แต่ก็ทำให้คนที่งมงายเชื่อได้เป็นจำนวนมาก

บรรดากบฏผีบุญถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมไว้ที่ ทุ่งศรีเมือง อุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. 2444

ในสมัยนั้น มีผีบุญเกิดขึ้นในภาคอีสานหลายราย ด้วยเพราะประชาชนในพื้นที่ต้องประสบพบกับความยากลำบากจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะการขาดแคลนแล้งน้ำเป็นประจำ ทำให้ผู้ที่มักใหญ่ใฝ่สูง อยากมีอำนาจออกมาปลุกปั่นว่า เป็นเพราะรัฐบาลสยามส่งคนมาปกครองแล้วเก็บภาษีไปปรนเปรอคนกรุงเทพฯ ประกอบกับผู้คนที่อาศัยอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและความเจริญมาก ยังมีความเชื่อเรื่องภูตผีและไสยศาสตร์ จึงถูกบรรดาเหล่าผีบุญหลอกลวงได้อย่างง่าย ๆ และกบฏผีบุญไม่ได้ถูกปราบปรามโดยรัฐบาลสยามเท่านั้น เพราะมีผีบุญปรากฏในดินแดนรัฐบาลอินโดจีนของฝรั่งเศส จึงถูกปราบปรามโดยรัฐบาลอินโดจีนของฝรั่งเศสด้วย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2479 จึงถูกรัฐบาลอินโดจีนของฝรั่งเศสกำราบปราบปรามจนหมดสิ้น

ภาพวาดเจ้าพระฝาง (พระพากุลเถระ (มหาเรือน) ) ผู้ตั้งชุมนุมเจ้าพระฝาง

ผีบุญรายสำคัญอีกรายหนึ่งที่เกิดขึ้นก่อนครั้งนี้คือ ‘เจ้าพระฝาง’ (พระพากุลเถระ (มหาเรือน) ) ผู้ตั้งชุมนุมเจ้าพระฝางภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2310 โดยมีอิทธิพลจนสามารถยึดครองหัวเมืองฝ่ายเหนือได้เป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งถูกปราบปรามในปี พ.ศ. 2313 โดยกองทัพของพระเจ้ากรุงธนบุรี (พระเจ้าตากสินมหาราช) เรื่องราวของผีบุญ ซึ่งอวดอ้างตัวเองว่าเป็นผู้วิเศษนั้นจึงมีมานานมาแล้ว แม้ปัจจุบันก็ยังคงมีผู้ที่มีพฤติการณ์และพฤติกรรมเช่นนี้อยู่ในรูปแบบของการต้มตุ๋นหลอกลวง นำไปสู่การดำเนินคดีมากมายหลายกรณี แต่ขบวนการไม่ได้ใหญ่โตจนกลายเป็นการก่อการกบฏต่อบ้านเมือง เพียงแต่เป็นการหลอกลวงเพื่อหาผลประโยชน์ที่เป็นทรัพย์สิน เงิน ทอง

เดวิด โคเรช’ (David Koresh) เจ้าลัทธิแบรนช์ดาวิเดียน (Branch Davidians) ผีบุญอเมริกัน

ในประเทศที่เจริญแล้วก็มีเรื่องราวของเจ้าลัทธิที่มีพฤติการณ์และพฤติกรรมไม่ต่างจากผีบุญในบ้านเราเช่นกัน ได้เคยเล่าเรื่องของ จุดจบ ‘เดวิด โคเรช’ (David Koresh) เจ้าลัทธิแบรนช์ดาวิเดียน (Branch Davidians) เมืองเวโก้ มลรัฐเท็กซัส https://thestatestimes.com/post/2022041605 ซึ่งก็ถือว่าเป็นผีบุญอเมริกันคนหนึ่งที่จบเรื่องราวลงพร้อมด้วยกว่าแปดสิบชีวิตของสาวก แต่ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี ‘ผีบุญอเมริกัน’ ที่นำสาวกไปจบชีวิตมากที่สุดอยู่อีกคนหนึ่ง…

จิม โจนส์ (Jim Jones) หรือชื่อเต็มว่า เจมส์ วาร์เรน โจนส์ (James Warren Jones)

เขาผู้นั้น คือ จิม โจนส์ (Jim Jones) หรือชื่อเต็มว่า เจมส์ วาร์เรน โจนส์ (James Warren Jones) เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2474 (ค.ศ. 1931) ในเขตชนบทของเมือง Crete มลรัฐ Indiana สหรัฐอเมริกา เป็นบุตรชายของ James Thurman Jones กับ Lynetta Putnam

ในวัยเด็ก โจนส์ มีชื่อเล่นว่า จิมมี่ เขามีเชื้อสายไอริชและเวลส์ ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในชุมชนเคร่งศาสนา เขาเติบโตเป็นผู้ที่มีความศรัทธาในคริสต์ศาสนาอย่างแรงกล้า โดยเริ่มท่องจำ Bible ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ พออายุสิบสองก็สามารถเทศน์สอนเด็กในละแวกบ้านได้ราวกับเป็นนักเทศน์จริง ๆ

ประวัติของจิมระบุว่า ครอบครัวของเขาค่อนข้างมีปัญหา เพราะบิดาเป็นทหารพิการจากพิษของอาวุธเคมีในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้มีปัญหาในเรื่องการหายใจ ทำงานได้ไม่มากนัก ซ้ำได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เศรษฐกิจถดถอยจนต้องสูญเสียบ้าน ส่วนตัวจิมเองก็มีปัญหาในการคบเพื่อนทำให้มีเพื่อนยาก

เมื่ออายุได้ 17 ปี จิมได้เข้าเป็นนักเรียนฝึกหัดเพื่อจะเป็นนักบวชของนิกาย Methodist พออายุ 21 ปี เขาก็ได้แต่งงานกับ Marceline Baldwin ซึ่งทำงานเป็นพยาบาล แล้วต่อมาจิมก็ออกจากนิกาย Methodist มาเป็นนักเผยแผ่ศาสนาหรือนักเทศน์อิสระ

ที่ตั้งแรกสุดของนิกายโบสถ์แห่งมวลชน (Peoples Temple) เมือง Indianapolis มลรัฐ Indiana

พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) จิมก่อตั้งนิกาย (ลัทธิ) โบสถ์แห่งมวลชน (Peoples Temple) ขึ้น เพื่อเผยแพร่คำสอน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวอเมริกันผิวสีในเขตสลัม ให้ความช่วยเหลือแก่ชาวอเมริกันผิวสีในรูปของอาหาร ที่พัก และหางานให้ทำ แต่ถูกต่อต้านจากชาวอเมริกันผิวขาวที่มีทัศนคติเหยียดสีผิว แต่จิมก็ไม่ยอมแพ้ และทำการเผยแผ่ศาสนาต่อไปเรื่อย ๆ โดยขณะนั้นพลเมืองอเมริกันผิวสีในเมือง Indianapolis เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งสหรัฐอเมริกาก็มีการรณรงค์เพื่อการมีส่วนร่วมในทางการเมืองของชาวอเมริกันผิวสี ขณะที่ตัวจิมเองก็มีพรสวรรค์ในการเทศน์มาก จนทำให้จำนวนผู้ศรัทธาในตัวเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้โบสถ์แห่งมวลชนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตามไปด้วย โดยในปี พ.ศ. 2502 (ค.ศ. 1959) จิมได้รับเด็กผิวสีและเด็กเชื้อสายเกาหลีมาเป็นบุตรบุญธรรมอย่างละคน นอกเหนือไปจากลูกสองคนของเขากับภรรยา จนมีลูกทั้งหมดเก้าคน และเรียกครอบครัวของเขาเองว่า ครอบครัวแห่งสายรุ้ง (Rainbow Family)

Martin Luther King Jr. (ซ้าย) และ Malcolm X (ขวา)

เชื่อกันว่า จิม ได้รับอิทธิพลทางความคิดมากมายหลายเรื่อง อาทิ การต่อต้านสงคราม และการรณรงค์เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ จากสาธุคุณ Martin Luther King Jr. กับ Malcolm X และพรรคเสือดำ (Black Panther Party : BPP) ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหว และขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อชาวอเมริกันผิวสี เขาเชื่อถือศรัทธาในสังคมอุดมคติเป็นแบบสังคมนิยมซึ่งไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ และเริ่มทำการรณรงค์เพื่อต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว ทั้งการเดินขบวนและออกรายการโทรทัศน์ โดยจิมเองเชื่อและมีทัศนคติว่า รัฐบาล และผู้ที่แยกตัวออกจากโบสถ์แห่งมวลชนเป็นศัตรูของเขา และเขาจึงมีผู้คุ้มกันอยู่ข้างตัวเกือบตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมีการส่งคนไปเฝ้าดูตามบ้านของผู้แยกตัวออกจากโบสถ์แห่งมวลชนอีกด้วย

โบสถ์แห่งมวลชน Redwood Valley ใกล้กับเมือง Ukiah มลรัฐ California

ในปี พ.ศ. 2508 (ค.ศ. 1965) จิมได้ย้ายโบสถ์แห่งมวลชนมายัง Redwood Valley ใกล้กับเมือง Ukiah มลรัฐ California และต่อมาในปี พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) จิมก็ย้ายโบสถ์แห่งมวลชนไปยังนคร San Francisco เขาเทศน์ในเรื่องความเสมอภาคในเชื้อชาติ ให้ความช่วยเหลือคนยากจน คนตกงาน คนที่มีคดีติดตัว ผู้ติดยาเสพติด โบสถ์แห่งมวลชนเติบโตอย่างรวดเร็ว มีสาวกมากมายหลายพันคน เขาได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการเมืองท้องถิ่น ด้วยการสร้างเครือข่ายเส้นสายในหมู่นักการเมือง จนทำให้โบสถ์แห่งมวลชนมีอำนาจมากเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ต่อมาเขาได้รับเลือกให้เป็นประธานกรรมการการเคหะแห่งนคร San Francisco จิมเริ่มมีพฤติกรรมที่รุนแรงมากขึ้น เริ่มปฏิเสธพระเจ้า มีสภาพจิตใจผิดปกติ มีอารมณ์รุนแรง และต้องพึ่งยาระงับประสาท จิมชักชวนให้สาวกบริจาคสมบัติทั้งหมดแก่โบสถ์แห่งมวลชน แล้วมาใช้ชีวิตในโบสถ์ เด็ก ๆ ถูกแยกจากครอบครัว และสั่งให้สาวกเรียกเขาว่า ‘บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์’ และเริ่มสร้างความเชื่อถือศรัทธาในการฆ่าตัวตายหมู่ ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้วิญญาณของทุกคนได้เป็นหนึ่งเดียว และได้รับความสุขอันเป็นนิรันดร์ ณ โลกใบอื่น

โจนส์ทาวน์ (Jones town) บนพื้นที่กว่า 300 เอเคอร์ ประเทศกายอานา ทวีปอเมริกาใต้

'ผบ.ตร.' นำมวลชนปลูกจิตสำนึก 'เฉลิมพระเกียรติ' จิตอาสารักษ์ป่าชายเลนหาดท่าหลา ภูเก็ต

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 ที่บริเวณ ป่าชายเลนหาดท่าเฉลิมพระเกียรติ หมู่ 2 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ประธานในพิธี พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้  ในโครงการ "จิตอาสารักษ์ป่าชายเลนหาดท่าหลาเฉลิมพระเกียรติ" เพื่อระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยภายในงานมี ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่ายเอกชน ข้าราชการ นักเรียนนักศึกษา และประชาชนจิตอาสา รวมกันกว่า 3,000 คน เข้าร่วม

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมจิตอาสารักษ์ป่าชายเลนหาดท่าหลาเฉลิมพระเกียรติ ทางสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ สมาคมชาวภูเก็ต ได้ร่วมกันจัดโครงการดังกล่าวเพื่อระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ตามพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษาและต่อยอดพระราชกรณียกิจของพระราชบิดา ผสานร่วมกับแนวคิดเรื่องจิตอาสา ทั้งยังเป็นการดำเนินกิจกรรมตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเป็นการสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมส่วนรวม และร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่มีความคิดริเริ่มมาจากจิตสำนึกที่ดีที่ต้องการจะฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ผสานกับหลักคิดที่ว่า เราทำความดีด้วยหัวใจ ถือเป็นโครงการที่มีหลายภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อที่จะสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนและประเทศชาติ ทำให้พื้นที่ป่าในบริเวณป่าชายเลนหาดท่าหลาเฉลิมพระเกียรติมีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติให้แก่ประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมปลูกต้นไม้จำนวน 2,500 ต้น มีการเก็บขยะมูลฝอยและการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในพื้นที่ เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ บนพื้นที่ ป่าชายเลนหาดท่าหลาเฉลิมพระเกียรติ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นป่าธรรมชาติ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top