Sunday, 29 June 2025
TheStatesTimes

“ดร.รัชดา” นำ กก.บห. หญิง แสดงเจตจำนง มุ่งมั่น ทำงานเพื่อประชาธิปัตย์ หวังเป็นส่วนสร้างศรัทธาจากพี่น้องประชาชนให้กลับคืน 

ดร.รัชดา ธนาดิเรก กก.บห. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขออภัยที่ทำให้รอ ไม่ได้มาแถลงตรงเวลาตามที่นัดไว้ ตามที่ได้เป็นประเด็นอยู่ในสื่อออนไลน์นั้น ต้องเรียนว่า มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากของพวกเรา กก.บห. พรรคหญิงทั้ง 7 คน ซึ่งประกอบด้วยตัวดิฉัน คุณเจิมมาศ จึงเลิศศิริ อ.ผ่องศรี ธาราภูมิ คุณศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่อยู่ด้วยกัน และอีก 3 ท่านที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ ก็คือ ส.ส. พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล คุณอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ซึ่งก็หาเสียงอยู่ คุณสุพัชรี ธรรมเพชร ก็ปฏิบัติราชการอยู่ 

ตลอดห้วงเวลา 10 วันที่ผ่านมา มันมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจากคนในพรรค แล้วก็มีเหตุการณ์ซ้ำซ้อน จนเกิดกระแสกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองที่พวกเรารักยิ่ง พวกเรามีความทุกข์ใจ เสียใจ และอยากมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน พวกเราไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ยิ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นผู้หญิง เรามีความเดือดเนื้อร้อนใจค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของคนในพรรค ของกรรมการบริหารพรรค เราไม่อยากแสดงสิ่งใดออกไปที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าพรรคมีความแตกแยก เรายังรักกัน พวกเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อพรรคในทุกๆ ด้านที่ได้รับมอบหมาย เรายังมีความมั่นใจในอุดมการณ์ของพรรค และหวังว่าในอนาคต พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างศรัทธาของพี่น้องประชาชนให้กลับมาสู่พรรคประชาธิปัตย์อีก เราน้อมรับทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เราพร้อมที่จะแสดงออกถึงความห่วงใย และเราจะไปปรับปรุงแก้ไขในทุกๆ สิ่งที่เราทำได้ 

ด้วยความที่เรารักพรรค สิ่งที่เราแสดงออก เราไม่อยากให้สังคมไปเข้าใจว่าพรรคมีความแตกแยก เพราะฉะนั้นวันนี้พวกเราทั้ง 4 คน ก็จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกพรรค และทั้ง 4 คนที่อยู่วันนี้ และอีก 3 คน ที่ได้ร่วมอุดมการณ์ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เราก็จะมุ่งมั่นทำหน้าที่สมาชิกพรรคอย่างเต็มที่ ส่วนในเรื่องของตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคนั้น ... 

เราก็จะรับผิดชอบในส่วนที่เราทำได้ หากมีการตัดสินใจอย่างใดก็จะมาแจ้งให้ทราบ แต่วันนี้เราไม่อยากให้สังคมคิดว่า ใครๆ ก็เดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนั่นไม่ใช่ความจริง 

สื่อโซโลมอน จวกมะกัน ปมบีบยกเลิกข้อตกลงกับจีน ซัด! ตลอด 30 ปี ไม่เคยเหลียวแล ตั้งแต่หลังสงครามโลก

เพจ “ลึกชัดกับผิงผิง” สื่อที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีน โพสต์ข้อความกรณีตัวแทนทำเนียบขาวเดินทางเยือนโซโลมอน ว่า ...

สื่อโซโลมอนชี้ สหรัฐฯ ลืมพวกเรานานแล้ว พอรู้สึกตัวก็มาบังคับให้เรายกเลิกข้อตกลงระหว่างโซโลมอนกับจีน

วันที่ 20 เมษายน 2022 นายมานัสเซห์ โซกาวาเร (Manasseh Sogavare) นายกรัฐมนตรีโซโลมอนยืนยันว่าได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงกับจีนแล้ว และกล่าวว่า “นี่สอดคล้องกับผลประโยชน์สำคัญที่สุดของโซโลมอน ส่งเสริมการพัฒนาแห่งชาติ ฟื้นฟูความมั่นใจของนักธุรกิจและนักลงทุนท้องถิ่น”

เรื่องดังกล่าวทำให้โซโลมอนกลายเป็น “ศูนย์กลางพายุ” ของมหาสมุทรแปซิฟิก 

วันที่ 22 เมษายน นายแคมป์เบลล์ ผู้ประสานงานกิจการอินโด-แปซิฟิก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งทำเนียบขาว ได้นำคณะผู้แทนไปเยือนโซโลมอนและจัดประชุมหารือกับนายกรัฐมนตรีโซโลมอน หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดสถานทูตประจำโซโลมอนเป็นเวลานานถึง 30 ปี และไม่เคยจัดคณะผู้แทนไปเยือนโซโลมอนในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา 

วันที่ 23 เมษายน โซโลมอนสตาร์ (solomon star) ที่เป็นสื่อสำคัญของโซโลมอนที่ติดตามรายงานข่าวเกี่ยวกับการเยือนของคณะผู้แทนสหรัฐฯ ครั้งนี้และชี้ชัดว่า “หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 วอชิงตันก็ลืมโซโลมอนโดยสิ้นเชิง พอตื่นขึ้นมาตอนนี้ก็มาบังคับให้นายกรัฐมนตรีโซกาวาเรยกเลิกข้อตกลงกับจีน”

รายงานข่าวของโซโลมอนสตาร์ระบุว่า หลังการประชุมสหรัฐฯ ได้ประกาศแถลงการณ์เชิงข่มขู่แสดงความห่วงใยต่อมาตรการการสร้างฐานทัพถาวรในโซโลมอน และจะมีปฏิกิริยาตอบโต้

รมว.คลัง ดับฝัน คนละครึ่ง เฟส 5 ยังไม่ออกตอนนี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ว่า กระทรวงการคลัง ขอประเมินภาวะเศรษฐกิจ และฐานะทางการคลังอีกระยะหนึ่ง โดยเมื่อโครงการคนละครึ่ง เฟส 4  ครบกำหนดสิ้นเดือนเม.ย.นี้ไปแล้ว จะยังไม่มีมาตรการต่อเนื่องในทันที 

ทั้งนี้เห็นว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ประชาชนออกเดินทางไปใช้จ่าย ออกไปท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร เริ่มจำหน่ายดีขึ้นบ้าง โรงงานเริ่มรับคนกลับเข้ามาทำงาน เพิ่มกำลังการผลิต และเอกชนบางรายอาจเริ่มจ่ายโบนัสในปีนี้  เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ความจำเป็นในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงมีความจำเป็นน้อยลง 

สาธารณะสุขไทย เจ๋ง WHO ยกเป็นต้นแบบประเทศที่ 3 มีความพร้อมรับมือภาวะฉุกเฉินโควิด

25 เม.ย. 65 ที่ โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเต็ล แอนด์ ทาวเวอร์ส กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกิจกรรมการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า (นำร่อง) หรือ Universal Health and Preparedness Review (UHPR) Pilot โดยมี ดร.สมิลา อัสมา (Dr. Samira Asma) ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก นพ.จอส ฟอนเดลาร์ (Dr.Jos Vandelaer) ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข บุคลากรจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวม 200 คน ร่วมงาน

นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีการบริหารจัดการและรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความมั่นคงด้านสุขภาพเป็นอันดับที่ 5 จากทั้งหมด 195 ประเทศ เป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวที่อยู่ใน 10 อันดับแรกของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชีย ที่มีความพร้อมในการรับมือการระบาดของโรคมากที่สุด เป็นผลจากการบูรณาการทำงานร่วมกัน มีการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขที่เกิดขึ้นทุกภาคส่วนของภาครัฐ และทุกภาคส่วนของสังคม (Whole-government and whole society response) ได้แก่ เครือข่ายภาคประชาชน อสม. ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ หน่วยงานด้านสาธารณสุข ภาคเอกชน และภาคธุรกิจอื่นๆ ผ่าน ศบค. ภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของระบบป้องกันควบคุมโรคในประเทศไทยในการขับเคลื่อนกฎหมายการดำเนินงานตอบโต้ภาวะฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้ประเทศไทยก้าวผ่านช่วงวิกฤติมาได้

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Dr.Tedros Adhanom Ghebreyesus) จึงเชิญให้ประเทศไทยเป็นประเทศต้นแบบประเทศที่ 3 นำร่องจัดกิจกรรมการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า ในการรับมือการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ข้อเสนอแนะระหว่างประเทศสมาชิกขององค์การอนามัยโลก และไทยเป็นประเทศนำร่องที่จะได้เผยแพร่ประสบการณ์สู่สาธารณะในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก 2565 เพื่อเป็นประโยชน์แก่ประเทศสมาชิก และเกิดการพัฒนาเครื่องมือและกลไกใหม่ รองรับวิกฤติด้านสาธารณสุขสำหรับใช้งานทั่วโลกในอนาคต

ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า การทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า เป็นการทบทวนอย่างครอบคลุมรอบด้าน ทั้งด้านสาธารณสุขและด้านอื่นๆ ซึ่งต้องใช้การตอบโต้จากทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน และภาคประชาชน โดยมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การฝึกซ้อมสถานการณ์สมมติ (Simulation Exercise) การสัมภาษณ์และประชุมกลุ่มย่อย, การพบผู้บริหารหน่วยงานระดับประเทศ และการตรวจเยี่ยมหน่วยงานระดับปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และความท้าทายของประเทศไทยในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะที่ผ่านมา

“บิ๊กบี้” ย้ำหน่วยทหารทั่วปท. บูรณาการความร่วมมือ ด้านความมั่นคงกับปท.เพื่อนบ้าน เข้มสกัดยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย ลักลอบเข้าเมืองเข้าไทย

ที่กองบํญชาดารกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมผ่านระบบออนไลน์กับหน่วยทหารทั่วประเทศ โดยได้สั่งการเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก เน้นย้ำการบูรณาการประสานความร่วมมือในทุกมิติงานด้านความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการสกัดกั้นยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้ทุกหน่วยบริหารจัดการสร้างพื้นที่ให้มีความปลอดภัยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศและประชาชนในพื้นที่ชายแดนภายใต้กรอบนโยบายของรัฐบาล

โดยผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวถึงการตรวจเลือกทหารกองประจำการที่เสร็จสิ้นลงอย่างเรียบร้อย ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการและชายไทยเป็นอย่างดี ประกอบกับมีผู้สมัครเป็นทหารกองประจำการตามที่กองทัพได้เชิญชวน ทั้งนี้ในเรื่องการดูแลและการจัดการฝึกทหารใหม่ กองทัพบกยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกันโควิด-19 ด้วยมาตรการที่สอดคล้องกับสถานการณ์โรค การตรวจคัดกรองหาเชื้ออย่างสม่ำเสมอ การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และการดูแลพื้นฐานทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโควิด-19 สำหรับการฝึกทหารใหม่ จะมุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาศักยภาพของทหารใหม่ให้เป็นผู้ที่มีวินัย มีความรักสามัคคี เสียสละ ทำประโยชน์เพื่อประเทศ รวมทั้งการคัดเลือกทหารใหม่ให้ได้ทำงานในตำแหน่งหน้าที่ตามความถนัดและมีโอกาสพัฒนาตนเองได้มากที่สุด

เกษตรฯ เปิดฤดูกาลหมอนทอง ดีเลิศที่คุณภาพเยี่ยม

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อ COVID - 19 ตั้งแต่ระดับสวนเกษตรกร และมาตรการควบคุมป้องกันแก้ไขทุเรียนอ่อนภาคตะวันออกปี 2565 ระดับสวนเกษตรกร เพื่อใช้เป็นมาตรฐานให้ทุกสวนผลไม้ส่งออกได้ยึดถือปฏิบัติ และเป็นแนวทางให้ทุกฝ่ายได้ดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเป้าหมายให้ทุเรียนไทยมีคุณภาพดีที่สุดในโลก และมีมาตรฐานความปลอดภัย โดยมีหน่วยงานราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ พร้อมเป็นพี่เลี้ยง และพร้อมแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ทั้งนี้ยังได้เปิดงานประชาสัมพันธ์ “Eastern Monthong Best Quality เปิดฤดูกาลทุเรียนหมอนทองตะวันออก ดีเลิศที่คุณภาพ ดีเยี่ยมเพื่อส่งออก” ณ สวนทุเรียนน้ำกร่อย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี โดยยอมรับว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตและการส่งออกผลไม้เมืองร้อนที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน มีมูลค่าการส่งออกเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยเราประสบปัญหาภาวการณ์แข่งขันที่มีข้อกำหนดและเงื่อนไขทางการค้าที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงการควบคุมสินค้าให้มีคุณภาพ และปัญหาผลไม้ราคาตกต่ำในช่วงผลผลิตกระจุกตัว 

ดังนั้น แนวทางที่จะพัฒนาภาคเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุเรียน จึงต้องพัฒนาทั้งระบบด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายบูรณาการทำงานร่วมกันทั้งเกษตรกร ล้ง ภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เน้นการผลิตที่สอดคล้องกับตลาดโดยยึดหลักตลาดนำการผลิต สร้างและขยายตลาดโดยเฉพาะตลาดภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ คือการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 

“โฆษกกห.” ชี้ บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม เอาจริง ปราบปรามค่ามนุษย์ วอน หยุดพาดพิง ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องค้ามนุษย์ ร้องขอความยุติธรรมกับกำลังทหารและกองทัพ ยกคดี “พล.ท.มนัส” หากช่วยกัน คงได้ประกันออกมาแล้ว 

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  เปิดเผยถึงกรณีมีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ จากสำนักข่าวอัลจาซีลา ที่ผ่านมา โดยมีการกล่าวพาดพิงว่า  ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์นั้น  ดูจะไม่ให้ความยุติธรรมกับกำลังทหารและกองทัพในภาพรวม  ซึ่งที่ผ่านมา กองทัพได้เข้าสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างแข็งขัน ในการแก้ปัญหาสำคัญๆที่เป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะ การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่สั่งสมมาต่อเนื่องยาวนานในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา 

“ขอยืนยันว่ากระทรวงกลาโหม สนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างแข็งขัน และมีนโยบายชัดเจนห้ามกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หรือ สิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด  ซึ่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นต้องกำกับดูแลกำลังพล หากปรากฏพบการกระทำผิดของกำลังพล ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่ต้องสอบสวนเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาให้ถึงที่สุด โดยให้สืบเชื่อมโยงกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่มีการปกป้องหรือยกเว้นเป็นเด็ดขาด  และกระทรวงกลาโหม จะไม่เก็บคนเหล่านี้ไว้ในกองทัพ ให้เกิดความเสื่อมเสียกับองค์กรและประเทศชาติ”พล.อ.คงชีพ กล่าว

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า สำหรับคดีการจับกุม พล.ท.มนัส ในข้อหาค้ามนุษย์ที่ผ่านมา เป็นการยืนยันถึงความจริงใจในการบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในสมัยยุครัฐบาล คสช.  โดยมีการทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมและองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งหากมีการช่วยเหลือ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและปกป้องกันจริง พล.ท.มนัส คงไม่ติดคุกและได้รับการประกันตัว  ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าคดีมีการสืบสวนออกหมายจับแล้ว 153 หมาย มีผู้ต้องหาถูกจับกุมแล้วกว่า 120 ราย  โดยเฉพาะการกล่าว หาเชื่อมโยงพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นแกนหลักระดับนโยบายของรัฐบาล ในการนำและขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังที่ผ่านมา จนสถานภาพและปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยดีขึ้นตามลำดับ  

โดยการกล่าวหาที่ไม่มีข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ จะเป็นการสร้างความสับสนกับสังคมและต่างประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับการประเมินสถานภาพการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของประเทศไทยที่จะมีขึ้น และจะกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติในภาพรวม

จุรินทร์ ยกมาตรการดูแลราคาสินค้าใกล้ชิด 18 หมวด ยังห้ามขยับขึ้น! พาณิชย์ ละเอียด! คำนวณต้นทุนล่วงหน้า ช่วยประชาชน 

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากรณีหลายภาคส่วนกังวลว่าน้ำมันจะขยับสูงขึ้นจะกระทบต่อต้นทุนผลิตและค่าขนส่ง และจะส่งผลต่อเนื่องให้สินค้าอุปโภคและบริโภคขยับราคาสูงขึ้นตามมานั้น เรื่องนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้นโยบายมาตั้งแต่ต้นและติดตามหากจะเกิดผลกระทบต่อราคาสินค้า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์โดย ให้กรมการค้าภายในขอความร่วมมือผู้ประกอบการ

ทั้งเรื่องตรึงราคาสินค้า 18 หมวด ได้แก่ อาหารสด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ข้าวสารถุง ซอสปรุงรส น้ำมันพืช น้ำอัดลม นมและผลิตภัณฑ์จากนม เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์ เหล็ก ปูนซีเมนต์ กระดาษ ยาเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ และบริการผ่านห้างค้าปลีกค้าส่ง

"ทั้งนี้ การพิจารณาปรับราคาสินค้า จะต้องพิจารณาตามต้นทุนที่แท้จริงและเป็นกรณีไป เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายมีต้นทุนไม่เท่ากัน ที่สำคัญหากมีการปรับราคาจะต้องไม่เป็นภาระกับผู้บริโภคมากจนเกินไป ขณะที่ผู้ประกอบการต้องอยู่ได้และสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ซึ่งทุกอย่างต้องสมเหตุสมผล ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีนโยบายให้ปรับราคาสินค้าและยังไม่มีการอนุญาตให้ปรับราคาสินค้าแต่อย่างใด" นางมัลลิกา กล่าว 

และ 2.ได้ขอความร่วมมือห้างไม่ปรับขึ้นราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ และหากมีผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายแจ้งขอปรับราคากับห้างขอให้แจ้งกรมการค้าภายในทราบก่อน และให้จัดเตรียมสินค้าอุปโภคบริโภคให้มีปริมาณเพียงพอและต่อเนื่อง เติมสต็อกสินค้าและชั้นวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค

รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในช่วงเทศกาลให้มากขึ้น เช่น น้ำมันพืช ข้าวสาร นอกจากนั้นได้สั่งการให้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจ เพื่อติดตามราคาจำหน่ายปลีกให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต มิให้มีการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หากพบว่ามีการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น สามารถร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 กรมการค้าภายในหรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด

"แผนดำเนินงานเพื่อลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าราคาประหยัดให้แก่ประชาชน โดยจัดทำโครงการ Mobile พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพราคาถูกว่าท้องตลาด ลดสูงสุด 60% สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ไข่ไก่เบอร์ M คละใหญ่ เบอร์ 2-3 น้ำตาลทราย ข้าวสาร น้ำมันปาล์ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แชมพู สบู่ ซอสปรุงรส  น้ำยาซักผ้า ยาสีฟัน หน้ากากอนามัย เป็นต้น สินค้าเกษตรตามฤดูกาล เช่น มะม่วง ทุเรียน สับปะรด เป็นต้น ซึ่งช่องการจำหน่ายแบ่งเป็น รถ Mobile 25 คัน และจุดจำหน่าย 75 จุด สถานที่จำหน่ายในพื้นที่เขต กทม. 50 เขต ตามแหล่งชุมชน เคหะชุมชน หรือสำนักงานเขต ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบจุดจำหน่ายได้ที่เว็บไซต์ของกรมการค้าภายใน ระยะเวลาดำเนินการเฟสนี้คือ 1 พฤษภาคม 2565 " ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว 

‘รัชดา’ นำทีม กก.บห. หญิง ปชป. เปิดใจ ยืนยัน ขอทำงานกู้วิกฤตศรัทธา ยังไม่ลาออก

ดร.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหาร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามที่ได้เป็นประเด็นอยู่ในสื่อออนไลน์นั้น ต้องเรียนว่า มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากของพวกเรา กก.บห. พรรคหญิงทั้ง 7 คน ซึ่งประกอบด้วยตัวดิฉัน คุณเจิมมาศ จึงเลิศศิริ อ.ผ่องศรี ธาราภูมิ คุณศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ที่อยู่ด้วยกัน และอีก 3 ท่านที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ ก็คือ ส.ส. พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล คุณอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ซึ่งก็หาเสียงอยู่ คุณสุพัชรี ธรรมเพชร ก็ปฏิบัติราชการอยู่ 

ตลอดห้วงเวลา 10 วันที่ผ่านมา มันมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจากคนในพรรค แล้วก็มีเหตุการณ์ซ้ำซ้อน จนเกิดกระแสกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองที่พวกเรารักยิ่ง พวกเรามีความทุกข์ใจ เสียใจ และอยากมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน พวกเราไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ยิ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นผู้หญิง เรามีความเดือดเนื้อร้อนใจค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของคนในพรรค ของกรรมการบริหารพรรค เราไม่อยากแสดงสิ่งใดออกไปที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าพรรคมีความแตกแยก เรายังรักกัน พวกเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อพรรคในทุกๆ ด้านที่ได้รับมอบหมาย เรายังมีความมั่นใจในอุดมการณ์ของพรรค และหวังว่าในอนาคต พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างศรัทธาของพี่น้องประชาชนให้กลับมาสู่พรรคประชาธิปัตย์อีก เราน้อมรับทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เราพร้อมที่จะแสดงออกถึงความห่วงใย และเราจะไปปรับปรุงแก้ไขในทุกๆ สิ่งที่เราทำได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top