“โฆษกกห.” ชี้ บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม เอาจริง ปราบปรามค่ามนุษย์ วอน หยุดพาดพิง ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องค้ามนุษย์ ร้องขอความยุติธรรมกับกำลังทหารและกองทัพ ยกคดี “พล.ท.มนัส” หากช่วยกัน คงได้ประกันออกมาแล้ว 

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  เปิดเผยถึงกรณีมีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ จากสำนักข่าวอัลจาซีลา ที่ผ่านมา โดยมีการกล่าวพาดพิงว่า  ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์นั้น  ดูจะไม่ให้ความยุติธรรมกับกำลังทหารและกองทัพในภาพรวม  ซึ่งที่ผ่านมา กองทัพได้เข้าสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างแข็งขัน ในการแก้ปัญหาสำคัญๆที่เป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะ การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่สั่งสมมาต่อเนื่องยาวนานในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา 

“ขอยืนยันว่ากระทรวงกลาโหม สนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างแข็งขัน และมีนโยบายชัดเจนห้ามกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หรือ สิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด  ซึ่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นต้องกำกับดูแลกำลังพล หากปรากฏพบการกระทำผิดของกำลังพล ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่ต้องสอบสวนเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาให้ถึงที่สุด โดยให้สืบเชื่อมโยงกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่มีการปกป้องหรือยกเว้นเป็นเด็ดขาด  และกระทรวงกลาโหม จะไม่เก็บคนเหล่านี้ไว้ในกองทัพ ให้เกิดความเสื่อมเสียกับองค์กรและประเทศชาติ”พล.อ.คงชีพ กล่าว

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า สำหรับคดีการจับกุม พล.ท.มนัส ในข้อหาค้ามนุษย์ที่ผ่านมา เป็นการยืนยันถึงความจริงใจในการบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในสมัยยุครัฐบาล คสช.  โดยมีการทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมและองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งหากมีการช่วยเหลือ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและปกป้องกันจริง พล.ท.มนัส คงไม่ติดคุกและได้รับการประกันตัว  ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าคดีมีการสืบสวนออกหมายจับแล้ว 153 หมาย มีผู้ต้องหาถูกจับกุมแล้วกว่า 120 ราย  โดยเฉพาะการกล่าว หาเชื่อมโยงพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นแกนหลักระดับนโยบายของรัฐบาล ในการนำและขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังที่ผ่านมา จนสถานภาพและปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยดีขึ้นตามลำดับ  

โดยการกล่าวหาที่ไม่มีข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ จะเป็นการสร้างความสับสนกับสังคมและต่างประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับการประเมินสถานภาพการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของประเทศไทยที่จะมีขึ้น และจะกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติในภาพรวม

พล.อ.คงชีพ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ความตื่นตัว เรียนรู้ร่วมกันถึงความพยายามที่จะร่วมแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ปัจจุบัน ถือเป็นพัฒนาการร่วมกัน  ซึ่งกองทัพ พร้อมรับข้อมูลและเบาะแสจากทุกฝ่าย หากมีการเชื่อมโยงถึงกำลังพลนอกแถวในกองทัพที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการกระทำที่ผิดกฎหมายอื่นๆ  และก็อยากให้บุคคลที่ออกมากล่าวหา นำข้อมูลหรือหลักฐานข้อเท็จจริงที่ได้รับหรือมีเพิ่มเติม ออกมานำเสนอสังคมหรือทางราชการ  เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนเอาผิดและร่วมกำจัดขบวนการค้ามนุษย์ในไทยให้หมดสิ้นไป