Monday, 19 May 2025
PoliticsQUIZ

ยังไม่จบง่ายๆ เสี่ยหนูฉุนจัดบอก ‘ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์’ ไว้ใจไม่ได้ ลั่นไม่ต้องมาขอโทษมันสายไปแล้ว

‘เสี่ยหนู’ ฉุนจัดบอก ปัญหาดาวฤกษ์ งดออกเสียงให้ศักดิ์สยามไม่จบ ระบุ ไว้ใจไม่ได้ ชี้ข้ออ้างฟังไม่ขึ้น เปรียบ ‘อนุชา’ แถลง เหมือนน้องตีหัวพี่ แล้วมีคนมาขอโทษแทน ทำแบบนี้ไม่ได้ ลั่นดัง ๆ ทั้ง too late และทุเรศ

เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 28 ก.พ. ที่สถาบันบำราศนราดูร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรี ระบุให้พรรคร่วมรัฐบาลหารือกัน ว่า ยังไม่มี เรื่องนี้ไม่ต้องคุยเพราะเข้าใจกันอยู่แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่สปิริตของการทำงานร่วมกันอยู่แล้วอย่าไปให้ความกังวลในสิ่งที่ไม่ควรกังวล ขอตอบแบบพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ว่าไม่รู้ ๆ

เมื่อถามว่าในอนาคตหาก ส.ส.ก้าวไกล 4 คน มาร่วมพรรคภูมิใจไทย จะทำให้โควต้ารัฐมนตรีเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามาทำงานให้กับบ้านเมืองและประชาชน เรื่องโควต้าจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพรรคภูมิใจไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาแคลงใจเรื่องการงดออกเสียงให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบรมว.คมนาคม พรรคภูมิใจไทยของ ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ จบหรือยัง นายอนุทิน กล่าวเสียงดังว่า “ยังไม่จบ เชื่อว่าเดี๋ยวผู้ใหญ่เขาก็คุยกัน

"เพราะเป็นมารยาทการอยู่ด้วยกัน ระดับผู้ใหญ่บางทีพูดกันด้วยญาณดีกว่า ไม่ต้องเอ่ยไม่ต้องไปโวยวายอะไร สมมุติว่า ส.ส.ภูมิใจไทยทำอะไรไม่ถูกต้อง ขัดขืนมติพรรคไม่เชื่อฟัง พูดก็แล้วขอร้องอย่างไรก็แล้ว ก็ยังทำอยู่ ผมก็ต้องจัดการในวิธีการของผม ส่วนหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นๆก็ต้องมีวิธีจัดการในวิถีทางของท่านเราต้องไม่ก้าวก่ายกันแต่ที่สำคัญเราต้องอธิบายต่อกันและกันได้" นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่าคำอธิบายของกลุ่มดาวฤกษ์ที่ออกมาชี้แจงฟังไม่ขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับพรรคภูมิใจไทยต้องบอกว่าฟังไม่ขึ้น เพราะถ้าสิ่งที่เขาทำถูกก็หมายความว่าส.ส.ที่เหลือของพรรคพลังประชารัฐโหวตผิดหมดหรือ "คนร้อยกว่าคนโหวตแบบนี้แล้ว 7 คนโหวตอีกอย่าง กลายเป็นร้อยคนผิด แล้ว 7 คนถูกก็ให้มันรู้ไป"

เมื่อถามว่าการที่นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐออกมาแถลงข่าวและยกมือไหว้ขอโทษ ยังไม่เพียงพอใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ไม่มีๆ มีแต่ตนยกมือไหว้นายอนุชา และนายอนุชาไม่ใช่คนทำผิด เหมือนน้องมาตีหัวตน แล้วอีกคนมาขอโทษแทน เกี่ยวอะไรกัน

เมื่อถามว่ากลุ่มดาวฤกษ์ควรต้องแสดงท่าทีการรับผิดชอบให้ชัดเจนมากกว่านี้ใช่หรือไม่ นายอนุมิน กล่าวว่า เราติดใจในเรื่องการอยู่ร่วมกันทุกคนก็ต้องไปดูแลคนของตัวเอง เมื่อถามว่าหากกลุ่มดาวฤกษ์ยังอยู่พรรคพลังประชารัฐ ก็จะยังไม่ไว้ใจใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนไม่เคยไว้ใจกลุ่มดาวฤกษ์อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหากกลุ่มดาวฤกษ์มาขอโทษ นายอนุทิน กล่าวว่า "a little too late" (เรื่องมันสายไปแล้ว) เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า too late หรือทุเรศ นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

เมื่อถามว่าจะยื่นคำขาดว่ากลุ่มดาวฤกษ์ต้องลาออกจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายอนุทิน ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว พร้อมสายศีรษะ ก่อนระบุว่า บ้านใครบ้านมัน

สวนดุสิตโพล ชี้ ประชาชนค่อนข้างพอใจรัฐเยียวยาโควิด ส่วนใหญ่ชอบมาตรการลดค่าไฟ 2 เดือนที่สุด แต่การเยียวยามีเงื่อนไขมากเกินไป อยากให้รัฐบาลเยียวยาทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

#คนส่วนใหญ่พอใจรัฐเยียวยาโควิด

#สวนดุสิตโพลเผยลดค่าไฟ2เดือนโดนใจที่สุด

#หวังรัฐบาลเยียวยาทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

สวนดุสิตโพล ชี้ ประชาชนค่อนข้างพอใจรัฐเยียวยาโควิด ส่วนใหญ่ชอบมาตรการลดค่าไฟ 2 เดือนที่สุด แต่การเยียวยามีเงื่อนไขมากเกินไป อยากให้รัฐบาลเยียวยาทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “มาตรการเยียวยาโควิด-19 ระลอกใหม่ของรัฐบาล” จำนวน 1,087 คน สำรวจวันที่ 23 – 26 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่า มาตรการที่ประชาชนพึงพอใจมากที่สุด คือ การลดค่าไฟฟ้า 2 เดือน ร้อยละ 41.58 จุดเด่นของมาตรการเยียวยา คือ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้มีรายได้น้อย ร้อยละ 48.58 จุดด้อย คือ มีเงื่อนไขมากเกินไป เกิดความเหลื่อมล้ำ ร้อยละ 52.34 สิ่งที่รัฐบาลควรคำนึงถึงในการออกมาตรการ คือ ต้องเยียวยาทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน ร้อยละ 71.72 โดยภาพรวมค่อนข้องพอใจต่อการออกมาตรการช่วยเหลือครั้งนี้ ร้อยละ 50.60

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย และวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องกับการออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ล่าช้า ใช้งานยุ่งยาก มีเงื่อนไขมาก เข้าไม่ถึงทุกกลุ่ม แต่ก็ยังเห็นถึงความพยายามและตั้งใจในการแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เงินงบประมาณในด้านอื่น ๆ แล้ว ผลงานในการบริหารและออกมาตรการเยียวยาในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา นับเป็นผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรมที่สุดแล้ว

ผศ.ดร. ปรียนันนท์ ประยูรศักดิ์ คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพลในเรื่องมาตรการเยียวยาโควิด-19 ระลอกใหม่ของรัฐบาลนั้น พบว่า มาตรการที่สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนมากที่สุด 2 ลำดับแรกคือ การลดค่าไฟและค่าน้ำ ทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่าประชาชนต้องการความช่วยเหลือที่เข้าถึงทุกครัวเรือน การมีสิทธิ์ได้รับโดยไม่ต้องร้องขอ ไม่ต้องลงทะเบียนเพื่อรอลุ้นว่าใครจะได้บ้าง ไม่ต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเพื่อมาแก่งแย่งแข่งขัน รัฐบาลต้องไม่ลืมว่าการนำภาษีประชาชนมาใช้ต้องคำนึงถึงความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีเงื่อนไขเยอะ และรวดเร็วทันเวลา ซึ่งเป็นจุดด้อยที่ชัดเจนมากของมาตรการที่รัฐกำลังดำเนินการอยู่ ถึงแม้ว่าเราจะมองเห็นถึงความพยายามที่จะช่วยเหลือประชาชนและการจะกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้แต่ก็ยังคงเกิดปัญหากับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขอรับความช่วยเหลือ

แต่ประชาชนส่วนหนึ่งไม่ได้เข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านั้น ทำให้เราเห็นภาพคุณตาคุณยายเดินเท้าจากบ้านมาต่อคิวเพื่อลงทะเบียนท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ ผู้คนที่น้ำตาไหลเพราะเสียใจที่ไม่ได้รับเงินสดไปใช้จ่ายแต่กลับต้องรับเงินไว้ในเป๋าตังเพื่อซื้อของที่จำเป็นน้อยกว่าค่าเช่าบ้านที่จะต้องจ่าย รัฐบาลควรจะแบ่งเงินงบประมาณมาจัดทำฐานข้อมูลประชากรที่ดีเพื่อโอนความช่วยเหลือที่ตรงความต้องการให้ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนแข่งขันใดๆ เลย เหมือนเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์...ท้ายสุดเราชนะหรือใครชนะก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ ๆ คนแพ้ก็คือประชาชนที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ทั้งที่ก็เดือดร้อนเหมือนกับคนอื่น จากฝีมือการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

ศ.นพ.ยง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก เผยวัคซีนโควิด 19 บริษัทซิโนแวค มีประสิทธิภาพลดความรุนแรงของโรคได้ดี มีความปลอดภัย เชิญชวนกลุ่มเป้าหมายรับการฉีดวัคซีนเพื่อชาติ พร้อมตอบข้อสงสัยวัคซีนโควิด 19 ที่คนไทยควรรู้

#หมอยงยันวัคซีนซิโนแวคปลอดภัย

#ชี้ลดความรุนแรงของโรคได้ดีแม้มีผลข้างเคียงบ้าง

#เผยยังไม่ฉีดคนอายุเกิน60เพราะผลการศึกษายังน้อย

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงข่าวประเด็น “วัคซีนโควิด 19 : ที่คนไทยควรรู้” ว่า การระบาดของโควิด 19 ครั้งนี้ ถือเป็นการระบาดใหญ่ในรอบ 100 ปี หลังจากที่เคยมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปนในปี 2461 หากไม่มีการดำเนินการใดจะประเทศไทยมีผู้เสียชีวิต 1 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 7 แสนคน และใช้เวลา 2 ปีโรคจึงจะสงบ ซึ่งที่ผ่านมามาตรการต่าง ๆ และการใช้ชีวิตแบบวิถีชีวิตใหม่ สามารถลดการระบาด ลดการสูญเสียได้อย่างมาก ทำให้ไทยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 80 คน สำหรับวัคซีนโควิด 19 จะมาทดแทนการป่วย สร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดขึ้น

สำหรับวัคซีนโควิด 19 บริษัทซิโนแวคที่จะฉีดให้ผู้ที่อยู่ในประเทศไทย มีประสิทธิภาพลดความรุนแรงของโรคได้ดี โดยป้องกันการป่วยที่มีอาการน้อย ต้องพบแพทย์แบบผู้ป่วยนอกได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ป้องกันการป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และป้องกันการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่ไม่ต้องพบแพทย์ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์ สาเหตุที่ยังไม่ฉีดในคนที่มีอายุ 60 ปีนั้น เนื่องจากเป็นวัคซีนใหม่ มีการศึกษาในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ จึงยังไม่ทราบผลในการป้องกันโรค และอาการแทรกซ้อน คาดว่ารอผลการศึกษาประมาณ 2 เดือน เมื่อมีข้อมูลมากขึ้นอาจปรับเปลี่ยนได้

ศ.นพ.ยงได้กล่าวต่อว่า สำหรับจะฉีดเมื่อไหร่นั้น กระทรวงสาธารณสุขมีกฎเกณฑ์จัดลำดับการฉีดตามความเสี่ยง ขณะนี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 220 ล้านโดส บางประเทศ เช่นอิสราเอล ฉีดเข็มแรกครอบคลุมประชากรถึง 80 เปอร์เซ็นต์ พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงกว่าครึ่ง อัตราการตายต่อวันลดลง ชี้ให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนหมู่มากมันสามารถป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนอาการแทรกซ้อนนั้น ข้อมูลของสหรัฐอเมริกา ฉีด 13 ล้านคน มีอาการแพ้รุนแรง 5 คนในล้านคน เกิดอาการขณะอยู่ในโรงพยาบาล ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนภาพรวมหลังการฉีด 220 ล้านโดส มีผู้เสียชีวิต 113 ราย เมื่อสอบสวนแล้วพบว่าไม่มีรายใดที่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโดยตรง ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ และโรคประจำตัว อาการที่พบส่วนใหญ่เป็นอาการหลังการฉีดวัคซีนทั่วไป เช่น เจ็บ ปวดเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด มีไข้ จึงขอให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน

“ส่วนจะฉีดวัคซีนโควิด 19 ชนิดใดดีนั้น วัคซีนซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนกาที่นำมาฉีดในประเทศไทย มีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน สามารถลดความรุนแรงของโรคได้ดี ไม่ให้มีอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต เมื่อมีวัคซีนเราก็จะมีการผ่อนคลายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การฉีดวัคซีนเป็นการป้องกันเรา ป้องกันเขา และยังเป็นการป้องกันคนรอบข้าง จึงขอเชิญชวนให้มารับการฉีดวัคซีน เป็นการฉีดเพื่อชาติ เพราะเมื่อมีการฉีดจำนวนมาก โรคนี้ก็จะสงบลง ชีวิตความเป็นอยู่ของเราจะกลับคืน ฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อได้ ซึ่งผลสำรวจประชาชนกว่า 30,000 คน พบว่า 80 เปอร์เซ็นต์ต้องการฉีดวัคซีน” ศ.นพ.ยงกล่าว

สำหรับข้อสงสัยว่ามีความจำเป็นที่ต้องตรวจภูมิต้านทานก่อนและหลังฉีดวัคซีนหรือไม่นั้น ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจ จะตรวจเฉพาะเมื่อนำข้อมูลไปใช้สำหรับการศึกษาวิจัยเท่านั้น

ผู้ที่มีอายุ 90 ปี ฉีดวัคซีนได้หรือไม่ คำตอบคืออายุไม่ได้เป็นปัจจัยที่เป็นข้อห้ามไม่ให้ฉีดวัคซีน โดยวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนกาฉีดได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ส่วนซิโนแวคต้องรอข้อมูลอีกระยะหนึ่ง

ฉีดวัคซีนโควิด 19 พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้หรือไม่ เนื่องจากวัคซีนโควิด 19 เป็นวัคซีนใหม่ จึงยังไม่อยากให้ฉีดพร้อมกับวัคซีนอื่น เพราะหากมีอาการข้างเคียงจะไม่ทราบว่าเกิดจากวัคซีนใด จึงให้ฉีดห่างกัน 2 สัปดาห์ ยกเว้นในกรณีป้องกันโรครุนแรงถึงชีวิต สามารถฉีดได้ เช่นถูกสุนัขกัด จำเป็นต้องฉีดวัคซีนพิษป้องกันโรคสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันบาดทะยัก

การฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 คนละชนิดได้หรือไม่ ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการศึกษาในวัคซีนโควิด 19 อยู่ระหว่างทำการศึกษา คาดว่าในอีก 3 - 4 เดือนจะทราบผล จึงขอให้ฉีดชนิดเดียวกันก่อน

สำหรับเด็กควรจะได้รับวัคซีนหรือไม่ เด็กควรจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะต้องได้รับวัคซีน เพราะส่วนใหญ่เด็กติดเชื้อโควิด 19 มีอาการป่วยไม่รุนแรง

เมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะเป็นโรคโควิด 19 ได้หรือไม่ มีโอกาสป่วยได้ เนื่องจากวัคซีนป้องกันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังฉีดวัคซีน ถ้าเป็นโรค ส่วนใหญ่อาการน้อยลง ลดอัตราการเสียชีวิต ลดความรุนแรงที่จะเข้าโรงพยาบาล

ประเด็นสุดท้ายคนท้องหรือให้นมบุตรฉีดได้หรือไม่ โดยปกติคนท้องสามารถฉีดวัคซีนได้ ถ้าเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย แต่เนื่องจากวัคซีนนี้เป็นวัคซีนใหม่ ยังไม่เคยมีการศึกษาในคนท้อง จึงยังไม่ฉีดให้คนท้อง ยกเว้นกรณีมีความเสี่ยงเป็นบุคลากรด้านหน้า จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป เปรียบเทียบระหว่างความเสี่ยงกับประโยชน์ที่จะได้รับ ส่วนการฉีดวัคซีนในสตรี ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจว่าตั้งครรภ์หรือไม่ แต่หากรู้ว่าตั้งครรภ์จะไม่ฉีดเข็มที่ 2

#หมอยง


ที่มา : เพจ Yong Poovorawan https://web.facebook.com/yong.poovorawan

ทุกอย่างอยู่ที่การเจรจา 'จุรินทร์' ยันไม่เคยได้ยินสูตรปรับ ครม. แลกกระทรวง โยน ‘เฉลิมชัย - นิพนธ์’ เจรจาพรรคร่วม

‘จุรินทร์’ ยันไม่เคยได้ยินสูตรปรับครม.แลกกระทรวง โยน ‘เฉลิมชัย - นิพนธ์’ เป็นตัวแทนเจรจาพรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เวลา 11.45 น. ที่มัสยิด กามาลุดดีน บ้านไสเจริญ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการแลกโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีข้ามกระทรวง ว่า ตนยังไม่ได้ได้ยินการปรับครม.ในสูตรดังกล่าว ขอให้ไปสอบถามจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เผื่อมีการประสานมา

ทั้งนี้ การเจรจาเรื่องใดก็ตามกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนได้มอบหมายให้นายเฉลิมชัย และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ เป็นตัวแทนพรรคในการเจรจา โดยตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากนายเฉลิมชัยว่านายกรัฐมนตรีให้ส่งรายชื่อรัฐมนตรี ในโควตาพรรคฯ เมื่อใด และคงต้องรอหลังการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. นครศรีธรรมราชก่อน

“การเจรจาใด ๆ ได้มอบให้นายเฉลิมชัย และนายนิพนธ์แล้ว เมื่อได้รับแจ้ง ต้องรายงานให้ผมรับทราบ ซึ่งเรื่องใดต้องใช้มติกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ก็ต้องใช้ ถ้าเรื่องใดไม่ต้องก็ไม่ต้อง เช่น ถ้าเป็นเรื่องเสนอรายชื่อรัฐมนตรีคนใหม่ หรือตำแหน่งทางการเมือง ต้องนำเข้าที่ประชุมกก.บห. ก่อนนำเข้าที่ประชุมร่วม กก.บห. และ ส.ส. ของพรรค ตามที่ข้อบังคับกำหนด”นายจุรินทร์ กล่าว

ด้านนายนิพนธ์ กล่าวถึงการปรับครม.ในตำแหน่ง รมช.คมนาคม จำเป็นต้องเป็นโควตาจ.สงขลาหรือไม่ ว่าไม่จำเป็น แต่ถือเป็นโควตาภาคใต้ ส่วนจะเป็นใคร สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมของพรรค

เลี่ยงได้เลี่ยงไปก่อน ตำรวจแนะเลี่ยงเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ - ถ.วิภาวดีฯ ขาออก หลังม็อบนัดบุกบ้านพัก ‘บิ๊กตู่’ บ่ายวันนี้

บช.น. แนะนำหลีกเลี่ยงเส้นทาง บริเวณอนุสาวรียชัยสมรภูมิ ถึงกรมทหาราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ หลังมีผู้ชุมนุมนัดรวมตัวกัน อาจส่งผลกระทบการจราจรในเส้นทางดังกล่าว

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.จร. ขอประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ กรณีวันที่ 28 ก.พ.2564 ตามที่ปรากฏทางสื่อโซเชียลมีเดีย ได้มีประกาศนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังกรมทหาราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป นั้น

เนื่องด้วยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น มีประชาชนใช้ในการสัญจรเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณรถที่ใช้ทางจึงมีจำนวนมาก เพื่อความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านการจราจร โดยขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าเสร็จสิ้นการชุมนุม ดังนี้

1. เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง

    1.1) ถ.พญาไท บริเวณแยกพญาไท – อนุสาวรีย์ชัยฯ

    1.2) ถ.พหลโยธิน บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ - แยกสะพานควาย

    1.3) ถ.ดินแดง บริเวณแยกดินแดง - อนุสาวรีย์ชัยฯ

    1.4) ถ.ราชวิถีบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ - แยกตึกชัย

    1.5) ถ.วิภาวดีฯ (ช่องคู่ขนาน) บริเวณหน้า รพ.ทหารผ่านศึก - สโมสร ทบ.

    1.6) ซ.พหลโยธิน 2 เฉพาะสะพานข้ามทางต่างระดับ

2. เส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร

    2.1) ถ.ศรีอยุธยา 2.7) ถ.ประดิพัทธ์

    2.2) ถ.เพชรบุรี 2.8) ถ.กำแพงเพชร

    2.3) ถ.จตุรทิศ 2.9) ถ.กำแพงเพชร 2

    2.4) ถ.พระราม 6 2.10) ทางยกระดับอุตราภิมุข

    2.5) ถ.วิภาวดีฯ (ช่องทางด่วน) 2.11) ทางพิเศษศรีรัช

    2.6) ถ.สุทธิสารวินิจฉัย 2.12) ทางพิเศษเฉลิมมหานคร

จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมวางแผนการเดินทาง และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ทั้งนี้ บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในภาพรวม เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางแอพพลิเคชั่น M – Help Me และ ทางเว็บไซต์ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564)

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน

(28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564)

ผู้ติดเชื้อวันนี้ 70

เสียชีวิตสะสม 83

ผู้ติดเชื้อสะสม 25,951

หายป่วยแล้ว 25,128

อาเซียน

ประเทศบรูไน 186

ประเทศกัมพูชา 805

ประเทศอินโดนีเซีย 1.33 ล้าน

ประเทศลาว 45

ประเทศมาเลเซีย 2.98 แสน

ประเทศพม่า 1.42 แสน

ประเทศฟิลิปปินส์ 5.74 แสน

ประเทศสิงคโปร์ 59,925

ประเทศเวียดนาม 2,432

เริ่มฉีดวัคซีนโควิดจังหวัดเป้าหมาย ประเดิมสมุทรสาครนำร่องจังหวัดแรก ‘เสี่ยหนู’ ลงพื้นที่ให้กำลังใจย้ำคนไทยได้ฉีดฟรี

‘เสี่ยหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล ลงพื้นที่สมุทรสาคร ตรวจเยี่ยมฉีดวัคซีนโควิดพื้นที่จังหวัดเป้าหมาย นำร่องแห่งแรก พร้อมย้ำคนไทยจะต้องได้ฉีดวัคซีนฟรีทุกคน

เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมคณะ ลงพื้นที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID-19) และการฉีดวัคซีนเข็มแรกของจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรกของจังหวัดสมุทรสาคร

นอกจากนี้ยังมีการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายนำร่องในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร อาทิ เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ผู้บริหารจังหวัด ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ตัวแทนผู้ประกอบการ ผู้แทนแม่ค้าในตลาด ฝ่ายปกครอง คณะกรรมการโรคติดต่อ ผู้มีโรคประจำตัว และ ผู้แทนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เป็นต้น รวมจำนวนทั้งสิ้น 159 คน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขภายหลังจากที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้วนั้น ก็ได้มาสังเกตการณ์และให้กำลังใจผู้ที่จะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งถือว่าเป็นชุดแรก หรือชุดนำร่องในพื้นที่จังหวัดเป้าหมาย โดยทางจังหวัดสมุทรสาครมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการให้บริการวัคซีน เพื่อทำให้มั่นใจว่าเราสามารถควบคุม การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19ได้ วัคซีนที่ได้นำมาฉีดให้กับจังหวัดสมุทรสาครในล็อตแรกนี้ เป็นวัคซีนยี่ห้อซิโนแวค ผลิตในประเทศจีน เป็นวัคซีนที่มาเป็นล็อตแรกจำนวน 200,000 โดส ซึ่งแม้จะเกิดวิกฤติที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่วิกฤติของจังหวัดสมุทรสาคร ก็นับเป็นโอกาสและเหตุผลหลักที่ทำให้ประเทศไทยต้องรีบจัดหาวัคซีนซิโนแวคจากจีนเข้ามา เพื่อรองรับสถานการณ์ เพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคในขั้นต้น โดยหลังจากนี้ในเดือนมีนาคมก็จะมีวัคซีนซิโนแวคเข้ามาอีก 8 แสนโดส และในเดือนเมษายนอีก 1 ล้านโดส ส่วนวัคซีนแอสตราเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศไทย ตามที่ได้รับรายงานทราบว่า ขั้นตอนหรือกระบวนการผลิตเป็นไปตามที่คาดหมายทุกประการ และมีบางประเด็นที่ดีกว่าการคาดหมาย

นายอนุทินฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการระบาดของเชื้อโควิด 19 ในจังหวัดสมุทรสาครนั้น ทำให้เห็นถึงศักยภาพและความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุข ที่ทุกคนได้พยายามร่วมกันที่จะแก้ไขปัญหาในทุกรูปแบบ และฝ่าฝันวิกฤตินี้ไปให้ได้ จนกระทั่งปัจจุบันจะเป็นได้ว่า การแก้ปัญหาที่เราดำเนินการมานั้นถูกทางและเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลง อีกทั้งข่าวดีที่หลายคนรอฟังก็คือ อาการของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ขณะนี้ต้องเรียกว่าหายจากอาการเจ็บป่วยแล้ว คงเหลือเรื่องของการฟื้นฟูสภาพร่างกายเท่านั้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า สำหรับวัคซีนป้องกันโควิด 19 ในประเทศไทยนั้นไม่ว่าจะเป็นชนิดไหน ถ้าเป็นประชากรคนไทยจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลไทย หากสถานบริการหรือโรงพยาบาลใดทั้งของรัฐและเอกชน เรียกเก็บเงินจากการฉีดวัคซีนนี้ ก็ขอให้รีบแจ้งทางผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ หรือสาธารณสุขจังหวัดให้ได้รับทราบ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายทันที

ทางด้าน นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การฉีดวัคซีนในครั้งนี้ความรู้สึกที่ได้ฉีดวัคซีนนั้นเหมือนฉีดวัคซีนปกติทั่วๆไปไม่มีความเจ็บปวดอะไร โดยระบบการฉีดวัคซีนนั้นจะมีขั้นตอนของสาธารณสุขที่กำหนดไว้ทั้งการลงทะเบียน มีการเซ็นยินยอม การรับใบนัดในการฉีดครั้งต่อไปเนื่องจากว่าวัคซีนนี้ต้องฉีด 2 เข็ม มีระยะเวลาห่างกันประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งความเชื่อมั่นสำหรับวัคซีนนั้น วัคซีนถือว่าเป็นอีกหนึ่งในการที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิด-19ได้ ดังนั้นพี่น้องประชาชนจงเชื่อมั่นว่าวัคซีน-19 ตัวนี้ เป็นที่รัฐบาลต้องการฉีดให้ฟรีกับคนไทยทุกๆคน ดังนั้นอยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนขอให้มั่นใจได้ว่า เราฉีดวัคซีนตัวนี้แล้วน่าจะช่วยในเรื่องการควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างดี และก็อยากจะฝากไปถึงท่านวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ขอให้ท่านแข็งแรงโดยเร็ววัน

โดยสถานการณ์ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วในเขตจังหวัดสมุทรสาคร จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดน้อยลงและวัคซีนก็มาถึงจังหวัดสมุทรสาคร แล้วทั้งหมด 70,000 โดส ซึ่งจะฉีดได้ทั้งหมด 35,000 คน ในชุดแรกและชุดต่อไปก็จะตามมา จึงขอให้ท่านผู้ว่าฯสบายใจได้ เพราะทุกอย่างในสมุทรสาครนั้นควบคุมสถานการณ์ได้ดี และหวังว่าท่านคงจะหายกลับมาไวๆ และกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดสมุทรสาครที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่น่ารักของพี่น้องประชาชนในเขตจังหวัดต่อไป


ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร

เปิดศูนย์ One Stop Service เราชนะ คลัง - มหาดไทยผสานช่วยกลุ่มเปราะบางลงทะเบียน เล็งขยายเวลาลงทะเบียนหากยังมีผู้ตกหล่นจำนวนมาก

‘บิ๊กตู่’ ย้ำมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด19 ต้องครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ด้านคลัง-มหาดไทยจับมือเปิด One Stop Service เราชนะ อำนวยความสะดวกผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เผยหากพบผู้ตกหล่นจำนวนมาก อาจพิจารณาขยายเวลาลงทะเบียน

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. น.ส. ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มให้มากที่สุด

หลายหน่วยงานได้ปรับรูปแบบการดำเนินมาตรการต่างๆ ให้รับกับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยในส่วนของโครงการเราชนะ นอกจากการขยายเวลาการลงทะเบียนตามโครงการสำหรับกลุ่มประชาชนผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนไปจนถึงวันที่ 5 มี.ค. จากเดิม 25 ก.พ. 2564 แล้ว กระทรวงการคลังได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เปิดศูนย์อำนวยความสะดวก One Stop Service โครงการเราชนะแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ในพื้นหน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง ได้แก่ สำนักงานคลังจังหวัด สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ รวมถึงหน่วยรับลงทะเบียนของกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ ซึ่งศูนย์อำนวยความสะดวกนี้จะให้บริการทุกเรื่องของโครงการเราชนะตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการร่วมโครงการแบบครบจบ ณ จุดเดียว

น.ส. ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุด วันเดียวกันนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้ลงพื้นที่ 2 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของจุดบริการ One Stop Service โครงการเราชนะ ได้แก่จุดบริการ ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ และที่ว่าการอำเภอขุขันธ์ รวมทั้งได้ตรวจเยี่ยมสถานคุ้มรองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ เพื่อรับทราบถึงปัญหา ข้อจำกัด การเข้าถึงมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งในครั้งนี้ธนาคารกรุงไทยได้เข้ามาอำนวยความสะดวกรับลงทะเบียนเพื่อร่วมโครงการเราชนะให้แก่กลุ่มคนไร้ที่พึ่ง ณ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ด้วย

“จากการลงพื้นที่ของ รมว.คลัง ได้พบประเด็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการลงทะเบียนของกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนว่า ก่อนหน้านี้ประชาชนจำนวนมากไม่ทราบข้อมูลว่าสามารถลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน ณ สาขาธนาคารของรัฐได้ จึงได้ใช้สมาร์ทโฟนของลูกหลานลงทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิ์ก่อน อย่างไรก็ตามวิธีนี้จะทำให้มีปัญหาการยืนยันตัวตน และไม่สะดวกในการใช้จ่ายเนื่องจากโทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับเจ้าของสิทธิ์ ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดความสะดวก หากประชาชนที่ได้ลงทะเบียนด้วยโทรศัพท์ลูกหลานและได้รับสิทธิ์แล้วยังไม่ได้ยืนยันสิทธิ์ ให้ดำเนินการกดยกเลิกสิทธิ์ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือหากไม่สะดวกก็ให้นำบัตรประชาชนไปให้เจ้าหน้าที่ ณ One Stop Service โครงการเราชนะ ณ ที่ว่าการอำเภอ ดำเนินการให้ เมื่อแก้ไขแล้วก็สามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชนต่อไป ส่วนประชาชนที่ยังไม่ลงทะเบียนก็สามารถใช้บริการ One Stop Service โครงการเราชนะ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำทุกขั้นตอน

ซึ่ง รมว. คลังได้ขอบคุณกระทรวงมหาดไทย หน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย ธ.ก.ส. ออมสิน และเจ้าหน้าที่ทุกๆ คนที่ร่วมเป็นกลไกขับเคลื่อนให้โครงการนี้ได้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด พร้อมระบุว่าจะพิจารณาข้อมูลอีกครั้งหากยังเหลือผู้ตกหล่นจากการลงทะเบียนอีกมากก็อาจจะพิจารณาขยายระยะเวลาการลงทะเบียนออกไปจากเดิมภายในวันที่ 5 มี.ค. 2564” น.ส. ไตรศุลี กล่าว

‘พุทธิพงษ์’ โพสต์ภาพกราบพ่อ แม่ พร้อมระบายผ่านข้อความ ระบุ หมดแรง หมดใจ หมดศรัทธา แต่ย้ำว่าไม่เสียใจในสิ่งที่ทำด้วยสติ ความคิดและศรัทธา

#หมดแรงหมดใจหมดศรัทธา

#พุทธิพงษ์โพสต์ภาพกราบพ่อแม่

#พ้อสิ่งที่ทำมันไร้ค่าไร้ราคาสิ้นดี

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความ ว่า

“หมดแรง หมดใจ หมดศรัทธา เพราะสิ่งที่ทำมันไร้ค่า ไร้ราคาสิ้นดี?...”

ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชนด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธา วันนี้คงได้เวลากลับไปดูแลคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว ลูกๆ...ขอบคุณในทุกๆกำลังใจที่มีให้ผมมาโดยตลอด จากนี้จะมีโอกาสได้ทบทวนตัวเอง มองไปข้างหน้า ไม่เสียใจในสิ่งที่ได้ทำ เพราะเราทำด้วยสติ ความคิดและศรัทธา เราจะทำหน้าที่ประชาชนที่ดีต่อไปด้วยความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ภูมิใจที่สุดที่ได้อยู่บนแผ่นดินไทยของพระองค์

#เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน


ที่มา : เพจ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ https://www.facebook.com/BeePunnakanta/photos/pcb.2092035407594733/2092035354261405

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ Thanathorn Juangroongruangkit (@Thanathorn_FWP) ถึงการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยระบุว่า .....

ผู้มีอำนาจไม่ต้องการให้ประชาชนออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เขาต้องการกดขี่ประชาชนไว้เพื่อรักษาอำนาจของตนเองต่อไป - รัฐบาลที่ไม่สามารถดำรงไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชน หนำซ้ำก่อความรุนแรงกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศนี้ ย่อมเป็นรัฐบาลที่ล้มเหลว #ม็อบ28กุมภา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top