Monday, 9 June 2025
NewsFeed

"ศรีสุวรรณ" ร้อง กกต. สอบพรรคก้าวไกล ปมร่วมกิจกรรมตรวจโควิดกับแพทย์ชนบท พร้อมแจกบัตรสีส้มตรวจ เข้าข่ายหาผลประโยชน์และแทรกแซงงานขรก.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.ให้ไต่สวนสอบสวนพรรคก้าวไกล กรณีไปร่วมกิจกรรมกับชมรมแพทย์ชนบทร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ที่ได้ระดมทีมบุคลากรทางการแพทย์จากต่างจังหวัด มาช่วยตรวจเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนกรุงเทพมหานคร แต่กลับปรากฏว่ามีการจัดทำบัตรคิวสีส้มที่ปรากฏชื่อพรรค ถือว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ของพรรคและแทรกแซงการทำงานของข้าราชการหรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็นการตรวจหาผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในชุมชนต่างๆ โดยใช้ชุดตรวจแบบเร่งด่วน หรือ Antigen Test Kits ที่สามารถรู้ผลได้อย่างรวดเร็ว เมื่อพบเชื้อก็จะแยกกักและรักษาตัวที่บ้าน ด้วยการทำ Home Isolation แต่หากสภาพบ้านที่อยู่อาศัยไม่เอื้อให้กักตัวได้ ก็ให้ทำการกักกันในชุมชน หรือ Community Isolation ซึ่งที่ผ่านมาผลการดำเนินการเป็นไปด้วยดี จนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อตกค้างตามบ้านและในชุมชนลดลง เป็นที่ชื่นชมของสาธารณชนทั่วไป แต่กลับมีภาพปรากฏในลักษณะที่ประชาชนสงสัย และถูกนำมาแชร์กันมากในโลกออนไลน์ คือ ปรากฏว่ามีบางพรรคการเมืองเข้าไปใช้ชื่อของพรรคว่าทำงานร่วมกับชมรมแพทย์ชนบท หรือเป็นผู้ที่นำแพทย์มาตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้กับชาวบ้านเอง อาทิ การลงพื้นที่ตรวจโควิดใน "ชุมชนพหลโยธิน 24" ใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีภาพบัตรคิวสีส้มที่แจกให้กับชาวบ้านที่มาเข้าคิวรอตรวจ ได้เขียนข้อความด้านบนว่า "หมอชนบทร่วมมือกับพรรคก้าวไกล ดูแลชุมชนพหลโยธิน 24" แนบอยู่กับเอกสารประกอบการตรวจหาเชื้อ ซึ่งแนบติดกับบัตรคิวนั้น เป็นเอกสารที่มีโลโก้ของชมรมแพทย์ชนบทอยู่ด้านบนด้วย 

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่า เป็นการแอบอ้างการทำงานของชมรมแพทย์ชนบท เพื่อผลประโยชน์ของพรรคการเมืองดังกล่าวหรือไม่ เพราะบุคลากรทางการแพทย์ที่ลงพื้นที่ทำงานของชมรมแพทย์ชนบทร่วมกับ สปสช. นั้นเป็นข้าราชการ และอาจถือได้ว่าแพทย์ต่างๆเหล่านั้นใช้เวลาราชการไปทำภารกิจช่วยเหลือพรรคการเมือง ใช่หรือไม่ การกระทำดังกล่าว จึงอาจเข้าข่ายความผิดตามรัฐธรรมนูญ 2560 หมวด 9 การขัดกันแห่งผลประโยชน์ ใน มาตรา184 และ มาตรา185 หรือไม่ ซึ่งบัญญัติห้ามนักการเมืองหรือพรรคการเมืองก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติราชการในหน้าที่ประจำของหน่วยงานภาครัฐ ประกอบกับ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 มาตรา28 กำหนดห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม ซึ่งหากเป็นความผิดมีโทษถึงขั้นยุบพรรคการเมืองนั้น ตาม มาตรา92(3)

พล.อ.ประวิตร  เรียกประชุม สรุปผล "ถอดบทเรียน:AAR  ป้องกัน หมอกควัน ไฟป่า ฝุ่นละออง"  มอบนโยบาย "ขยายผล พัฒนา ขจัดปัญหา" สร้างความเชื่อมั่น  หวั่นกระทบสุขภาพ ปชช. ซ้ำเติมโควิด-19  

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.00น.  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม เชิงปฏิบัติการเพื่อถอดบทเรียน (After Action Review :AAR) การแก้ไขปัญหา หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง ประจำปี 2565 โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบ Video Conference

การประชุมในวันนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมหลายหน่วยงาน จากทุกกระทรวง,สตช. และผวจ.จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีการบูรณาการข้อมูล และข้อเสนอแนะแนวทางการปฏิบัติงานป้องกัน และแก้ไขในทุกมิติ จากการดำเนินงานในอดีต ที่ผ่านมา ของพื้นที่ กทม./ปริมณฑล พื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด และพื้นที่เสี่ยงอื่นๆทั่วประเทศ เพื่อควบคุมแหล่งกำเนิด และปริมาณฝุ่นละออง ไม่ให้สูงเกินเกณฑ์มาตรฐานและส่งผลกระทบ ต่อพี่น้องประชาชน  ทั้งนี้ในปีนี้ พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงาน ยึดหลักการทำงานร่วมกัน คือ "ขยายผล พัฒนา ขจัดปัญหา" เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน คือการป้องกันสุขภาพ อนามัย ของประชาชนให้มีความปลอดภัยสูงสุด ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ  โดย พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการเน้นย้ำแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การยกระดับ Single Command ผวจ.ต้องให้สามารถติดตามสถานการณ์ และสั่งการไปยังท้องถิ่นระดับล่าง ได้อย่างใกล้ชิด รวดเร็ว  ต้องมีการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน โดยเฉพาะการควบคุมแหล่งกำเนิดการเผา  มีการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวด ต่อยานยนต์ที่มีควันดำ  มีการควบคุมและป้องกันการเผา/บุกรุกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ผลผลิตทางการเกษตร  มีการควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมไม่ให้ปล่อยสารพิษออกสู่บรรยากาศ  มีการพัฒนาระบบคาดการณ์สภาวะอากาศ ที่มีการสะสมฝุ่นละอองล่วงหน้าให้ได้ 3-7 วัน รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขเพื่อการแจ้งเตือน และการรักษาผู้ป่วยจากฝุ่นละออง เป็นต้น

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำว่า การป้องกัน "หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง" นับเป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง  การนำบทเรียนจากอดีต มาทบทวน แก้ไขแผนงาน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงแผนให้มีความทันสมัย และจะต้องมีการซักซ้อมแผน เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้จริง ควบคู่มาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วย โดยต้องนำผลสรุป "การถอดบทเรียน" ไปบูรณาการทำงานร่วมกัน และยึดหลักการ"ขยายผล พัฒนา ขจัดปัญหา" พร้อมขอให้มีการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดความตระหนก และสร้างความเชื่อมั่น ต่อไป  

“สงคราม” อัด “บิ๊กตู่” โกหกคนไทยไร้ปัญญาแก้ปัญหาการเกษตร ชี้ เกษตรกรน่าห่วงหลังราคาสินค้าตกต่ำ ขายข้าวเปลือก1โลซื้อมาม่าได้ ห่อเดียว 

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า 7 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ไม่เคยให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด  ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ ใช้เวลาไปกับการไล่ล่ากลุ่มที่เห็นต่าง กำจัดนักการเมืองฝั่งตรงข้าม  หาผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด

พี่น้องเกษตรกรถูกละเลยมากที่สุด รายได้ของพืชผลทางการเกษตรตกต่ำมาโดยตลอดยิ่งทำ ยิ่งจน ยิ่งทำ ยิ่งเจ๊ง ทั้งนี้เนื่องมาจาก ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมัน ค่าไถ ค่าหว่าน ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ยและค่าแรงที่สูงขึ้น  เกษตรกรช้ำใจมาก เพราะ ราคาข้าวเปลือก 1 กิโล แลกมาม่าได้เพียงห่อเดียว เกษตรกรต้องแบกรับภาระอย่างหนักมากภาระหนี้สินที่ เพิ่มขึ้น  รัฐบาลมีอำนาจแต่ไม่เคยทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพขายได้ราคาสูงขึ้น 

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ เลือกที่จะโกหกประชาชน และไม่เคยทำตามคำพูดที่เคยประกาศไว้ในช่วงการเลือกตั้งได้เลย  ทั้งนี้เพื่อชัยชนะในการเลือกตั้งรัฐบาล ประกาศยกระดับราคาสินค้าเกษตร ให้สูงขึ้น ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาท/ตัน ข้าวเจ้า 12,000 บาท/ตัน ยางพารา 65 บาท/กิโล อ้อย 1,000 บาท/ตัน ปาล์มน้ำมัน 5 บาท/กิโล   และมันสำปะหลัง 3 บาท/กิโล สุดท้ายแล้วไม่สามารถทำได้และไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยถึงนโยบายช่วงการหาเสียงทีผ่านมา

“ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ พลเอกประยุทธ์  ไม่เคยพูดถึงการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรอย่างมีแนวทางที่ชัดเจน  แต่พลเอกประยุทธ์ เก่งในการเผาผลาญงบประมาณของประเทศชาติ  ใช้เงินไม่ถูกที่ ไม่ถูกจุด  เมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณจำนวนมหาศาลที่ท่านนำไปใช้ในโครงการต่างๆ  ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนเลย แต่ งบประมาณต่างๆในภาคการเกษตรใช้เพียงน้อยนิด เท่านั้น ทำไมไม่นำมาดูแลพี่น้องเกษตรกร” นายสงคราม กล่าว

“บิ๊กตู่” ถก คกก.ข้าว “กำชับ” ทุกฝ่าย ดูแลประชาชนให้ดีที่สุดหลังประสบผลกระทบจากโควิด-19 

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบ Video Conference โดยนายกรัฐมนตรึกล่าวในช่วงต้นการประชุมว่า  ทุกคนทราบดีว่าปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัส โควิด-19 ส่งผลกระทบในด้านต่างๆโดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจ จึงขอให้ทุกคนได้ช่วยกันดูแลประชาชนให้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าการประชุมวันเดียวกันนี้ นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอมติความเห็นชอบของคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาดในการเดินหน้านโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 3 โดยใช้หลักเกณฑ์เช่นเดียวกับการประกันรายได้ปีที่ผ่านมาทุกประการ นอกจากนี้มยังได้เสนอมาตรการคู่ขนานที่จะเข้ามาช่วยเสริมเกษตรเกษตรผู้ปลูกข้าว 3 มาตรการประกอบด้วย การสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขาย ในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมากเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวราคาตกจนเกินไป โดยเกษตรกรที่ชะลอขายข้าวจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท ,การช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสหกรณ์หรือสีโรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวและไม่ปล่อยออกสู่ตลาด โดยชดเชยดอกเบี้ย 3% และ เร่งรัดส่งเสริมการส่งออกข้าว เพื่อระบายข้าวในประเทศเพราะฤดูการผลิตหน้าจะมีเข้าออกสู่ตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมาถึงประมาณ 5% จึงมีมาตรการช่วยเหลือให้มีการส่งออกข้าวโดยช่วยดอกเบี้ย  3% เป็นเวลา 6 เดือน ในเดือนต.ค.64-มี.ค.65

อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่ แบลร์ วิจารณ์การถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ช่าง 'ปัญญาอ่อน' ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ชี้!! นี่ไม่ใช่การถอนทหาร แต่ชัดเจนว่ามันเป็นการยอมแพ้ หากเป็นเขาจะไม่พบจุดจบเช่นนี้

โทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร โพสต์บนเว็บไซต์ส่วนตัวของเขาวิพากษ์วิจารณ์การถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ของรัฐบาลโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ว่า เป็นการทอดทิ้งอัฟกานิสถานและชาวอัฟกัน ที่น่าสลดใจ อันตราย และไม่จำเป็นเลย

แบลร์ เป็นผู้นำสหราชอาณาจักรในช่วงที่สหราชอาณาจักรตัดสินใจร่วมกับสหรัฐฯ บุกเข้าไปในอัฟกานิสถานในปี 2001 หลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน แต่เขาวิจารณ์ว่า การถอนทหารของสหรัฐฯ กลับทำให้กลุ่มติดอาวุธตอลิบานฮึกเหิมยิ่งกว่าเดิม พร้อมกล่าวว่า สหราชอาณาจักรมีพันธะที่ต้องอยู่ในอัฟกานิสถาน จนว่าประชาชนกลุ่มเสี่ยงจะอพยพออกมาจนหมด เพราะชาวอัฟกันเคยช่วยเหลือและยืดหยัดเคียงข้างเรา พวกเขามีสิทธิขอให้เรายืนหยัดเคียงข้างเขาเช่นกัน

โทนี่ แบลร์ ยังใช้ภาษาที่ค่อนข้างแรง วิจารณ์การถอนทหารอเมริกันว่า การถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ชั้นสูงอะไรเลย แต่เป็นเหตุผลทางการเมืองล้วน ๆ มันเป็นสโลแกนการเมืองที่ 'ปัญญาอ่อน' กับการยุติสงครามชั่วนิรันดร์ ทั้งนี้ แบลร์ยอมรับว่าตัดสินใจผิดพลาด กับการนำกำลังร่วมกับสหรัฐฯ บุกเข้าไปในอัฟกานิสถานเมื่อ 20 ปีก่อน

ด้าน อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ออกมาโจมตีอย่างต่อเนื่องต่อแนวทางบริหารจัดการของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถาน ซึ่งเขาเรียกมันว่าเป็น 'ความน่าอับอายด้านนโยบายต่างประเทศ' ครั้งใหญ่หลวงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ

ทรัมป์ จากรีพับลิกัน ซึ่งแย้มว่าอาจลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกครั้งในศึกเลือกตั้ง 2024 ออกมากล่าวโทษ ไบเดน จากเดโมแครต อย่างต่อเนื่อง ต่อกรณีที่อัฟกานิสถานตกไปอยู่ในเงื้อมมือของตอลิบาน 

"การออกจากอัฟกานิสถานแบบลวก ๆ ของไบเดน คือ การตีแผ่ให้เห็นถึงการไร้ความสามารถโดยสิ้นเชิงของผู้นำประเทศ" ทรัมป์กล่าว ณ ที่ชุมนุมหนึ่งซึ่งอัดแน่นไปด้วยผู้สนับสนุนของเขา ใกล้กับเมืองคัลล์แมน รัฐแอละแบมา

ก่อนหน้านี้ ไบเดน ได้วิพากษ์วิจารณ์และกล่าวโทษกองทัพอัฟกานิสถานว่าไม่คิดต่อสู้ รวมถึงตำหนิรัฐบาลอัฟกันที่เพิ่งถูกโค่นอำนาจ นอกจากนี้แล้ว โจ ไบเดน ยังโยนบาปด้วยว่าเขาต้องมารับมรดกสืบทอดข้อตกลงถอนตัวแย่ ๆ จากทรัมป์

ทาง ทรัมป์ จึงตอบโต้ โดยกล่าวโทษไบเดนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ไบเดนไม่ดำเนินการตามแผนที่รัฐบาลของเขาวางเอาไว้ และคร่ำครวญต่อกรณีที่บุคลากรสหรัฐฯ และอาวุธยุทโธปกรณ์ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังระหว่างที่ทหารถอนทัพ

"นี่ไม่ใช่การถอนทหาร แต่ชัดเจนว่ามันเป็นการยอมแพ้" เขากล่าว

ทรัมป์ระบุอีกว่า กลุ่มตอลิบาน ที่เขาเจรจาด้วยให้ความเคารพเขาเป็นอย่างดี พร้อมบ่งชี้ว่าการเข้ายึดครองอัฟกานิสถานอย่างรวดเร็วจะไม่เกิดขึ้นหากเขายังคงนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี "เราจะออกมาอย่างมีเกียรติ" ทรัมป์กล่าว "เราควรออกมาด้วยความภาคภูมิ แต่เรากลับออกมาในทางตรงกันข้ามกับคำว่ามีเกียรติโดยสิ้นเชิง"

อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ ทางด้าน มุลลาห์ อับดุล กานี บาราดาร์ ผู้ร่วมก่อตั้งตอลิบานเดินทางเข้ากรุงคาบูลของอัฟกานิสถานแล้ว เพื่อเจรจากับแกนนำกลุ่มต่าง ๆ เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลปกครองประเทศ หลังจากยึดการปกครองได้เมื่อสัปดาห์ก่อน และคาดว่า นายบาราดาร์จะพบหารือกับผู้บัญชาการกลุ่มติดอาวุธ อดีตแกนนำและผู้กำหนดนโยบายรัฐบาล นักวิชาการทางศาสนาและอีกหลายกลุ่ม ตอลิบานเตรียมจัดทำรูปแบบใหม่ในการปกครองอัฟกานิสถานในเร็ว ๆ นี้ 

โดยแยกทีมดูแลเรื่องความมั่นคงในประเทศกับทีมดูแลเรื่องการเงิน และจะเชิญผู้เชี่ยวชาญในรัฐบาลชุดก่อนมาร่วมจัดการวิกฤตประเทศ โครงสร้างรัฐบาลใหม่จะไม่ใช่ประชาธิปไตยตามคำนิยามของโลกตะวันตก แต่จะปกป้องสิทธิของทุกคน

ส่วนเรื่องที่ชาวอัฟกันและกลุ่มบรรเทาทุกข์สากลร้องเรียนว่า มีการใช้กำลังแก้แค้นผู้ประท้วงและจับกุมคนในรัฐบาลชุดก่อน คนวิจารณ์ตอลิบานหรือคนที่ทำงานกับกองกำลังนำโดยสหรัฐฯ นั้น เจ้าหน้าที่ตอลิบานเผยว่า ทางกลุ่มได้รับทราบแล้วและจะดำเนินการสอบสวน หากสมาชิกตอลิบานก่อปัญหาด้านกฎหมายและความสงบเรียบร้อย


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/596809

https://mgronline.com/around/detail/9640000082840


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กตู่” เข้าทำเนียบฯ เช้าประชุมข้าว บ่าย นั่งหัวโต๊ะหารือสถานการณ์เศรษฐกิจในและต่างประเทศรวมถึงแผนการจัดซื้อวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล โดยช่วงเช้านายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบ Video Conference

จากนั้นในช่วงบ่าย  มีรายงานว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย  (ธปท.) เข้าหารือนายกรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและในประเทศไทย

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมหารือเรื่องวัคซีน  ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือแนวทางการจัดหาวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ในประเทศไทยให้เป็นไปตามเป้าหมาย ในปีนี้ 100 ล้านโดส

สำหรับ การประชุม ศบค. ครั้งล่าสุด นายกรัฐมนตรีได้รับทราบแผนความก้าวหน้าในการจัดหาวัคซีน โควิด-19   แอสตราเซเนกา สั่งจอง 61 ล้านโดส  ซึ่งผู้ผลิตส่งมอบแล้ว 14.7 ล้านโดส แผนการส่งมอบเพิ่มเดือนละ 5 ล้านโดสขึ้นไปจนครบ 61 ล้านโดส  โดยมีการรับวัคซีนบริจาคแล้ว 1.46 ล้านโดส , สำหรับวัคซีนซิโนแวค (โคโรนาแวค) สั่งซื้อตามสถานการณ์ระบาด ผู้ผลิตส่งมอบแล้ว 13.4 ล้านโดส  แผนการส่งมอบเพิ่ม เหลือรับเพิ่ม 5.7 ล้านโดส 

สำหรับในเดือนส.ค.-ก.ย.64 มีการรับวัคซีนบริจาคแล้ว 1 ล้านโดส , ในส่วนของวัคซีนไฟเซอร์ สั่งจอง 20 ล้านโดส และมีแผนได้รับบริจาคอีก 1 ล้านโดส  แผนการส่งมอบกำหนดส่งไตรมาส 4 รับวัคซีนบริจาคแล้ว 1.5 ล้านโดส , ในส่วนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ( J&J ) บริษัทขอเลื่อนลงนามสัญญาเนื่องจากพบปัญหาการผลิต , Sputnik รอขึ้นทะเบียนองค์การอาหารและยา (อย. ) , ชิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้า ผู้ผลิตส่งมอบแล้ว 5 ล้านโดส  แผนการส่งมอบเพิ่ม 5 ล้านโดส  และโมเดอร์นา องค์การเภสัชกรรม สภากาชาดไทย มีแผนนำเข้า โดยแผนการส่งมอบ 5 ล้านโดส กำหนดส่งมอบปลายปี 2564 

ส่วนแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ประเทศไทย พ.ศ.2564 โดยชิโนแวค ในเดือนส.ค.จำนวน 4 ล้านโดส  แอสตราเซเนกา 5.8 ล้านโดส และไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส รวม 11.3 ล้านโดส ทั้งนี้ในเดือนส.ค.มีการรับวัคซีนแล้วบางส่วนจากผู้ผลิต ขณะที่ในเดือนก.ย.-ธ.ค. รอรับจากผู้ผลิต  โดยเดือนก.ย.มีแผนการจัดหาซิโนแวค  4 ล้านโดส  แอสตราเซเนกา 6 ล้านโดส  และไฟเซอร์ 1 ล้านโดส รวม 11 ล้านโดส ,เดือนต.ค.แอสตราเซเนกา 6 ล้านโดส  และไฟเซอร์ 6 ล้านโดส รวม 12 ล้านโดส ,เดือนพ.ย. แอสตราเซเนกา 6 ล้านโดส ไฟเซอร์ 6 ล้านโดส รวม 12 ล้านโดส ,เดือนธ.ค.  แอสตราเซเนกา 6 ล้านโดส ไฟเซอร์ 7 ล้านโดส รวม 13 ล้านโดส ทั้งนี้ เพิ่มการใช้ชิโนแวค เนื่องจากมีการปรับสูตรการฉีด เป็นชิโนแวค-  แอสตราเซเนกา โดยจำนวนวัคซีนที่จะนำเข้ามานั้นขึ้นอยู่กับการส่งมอบวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิต

ส่งออกโต! สวนโควิด เดือนก.ค.พุ่ง 20.27% สูงสุดรอบ 11 ปี

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการส่งออกของประเทศในเดือนก.ค. 2564 ว่า การส่งออกในเดือนนี้ขยายตัวเป็นเดือนที่ 10 ถือว่าสูงสุดในรอบ 11 ปี โดยอยู่ที่ 20.27% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 22,650.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการส่งออกเดือนนี้แม้ว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดโควิดในหลายประเทศทั่วโลกกลับมาอีกครั้ง จึงทำให้การส่งออกได้รับผลกระทบไปบ้าง ส่วนทั้งปี ยังคงเป้าหมายการส่งออกของไทยจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4% หรือคิดเป็นมูลค่า 240,727 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าสินค้า อยู่ที่ 22,467.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนเป็นบวก 45.94% โดยไทยยังได้ดุลการค้าในเดือนกรกฎาคม 64 อยู่ที่ 183.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกและนำเข้าในช่วง 7 เดือนของปี 2564 ตั้งแต่เดือนม.ค. – ก.ค. 2564 โดยเป็นยอดส่งออกทั้งสิ้น 154,985.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 16.20% ส่วนการนำเข้ามียอดอยู่ที่ 152,362.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 28.73% ทำให้ไทยเกินดุลการค้าช่วง 7 เดือนอยู่ที่ 2,622.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

สำหรับสินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดียังคงเป็นสินค้าในกลุ่มอาหารสด ผลไม้ไทยของไทยหลายตัวยังมีความต้องการของตลาดโลกสูงขึ้น รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่น ถุงมือยางที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทำให้ความต้องการยางพาราในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นส่งผลดีกับราคายางพาราของไทยในช่วงนี้ดีขึ้นด้วย รวมถึงกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยเริ่มส่งออกได้มากขึ้น

วายจี เอนเตอร์เทนเมนท์ ปล่อยภาพโปสเตอร์โซโล่เดี่ยว 'ลิซ่า' ติดเทรนด์โลกอันดับ 1

ข่าวดีให้​ 'ชาวบลิ้งค์'​ ได้ชื่นใจกันทั่วโลก เมื่อล่าสุดทาง YG ENTERTAINMENT ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แห่งแดนกิมจิ ได้ปล่อยภาพโปสเตอร์โซโล่เดี่ยวของ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า BLACKPINK” ที่ทำเอาสะเทือนกันไปทั้งโลก

โดยภายในโปสเตอร์เป็นภาพเงาของสาวลิซ่า พร้อมกับประโยคชวนติดตามกับคำว่า Coming Soon LISA บอกเลยว่าแค่เงาก็สะท้าน!!! ดันแฮชแท็ก #ArtisteLalisa พุ่งขึ้นติดเทรนด์ทวิตเตอร์ อันดับ 1 ของโลก ใน 12 ประเทศภายในพริบตาเดียว!

เรียกได้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลกับวงการเพลงระดับโลกกันไปแล้วกับสาวลิซ่าที่ทำเอาทั้งแฟน ๆ และคนบันเทิงไม่น้อย ตั้งตารอกับการฉายเดี่ยวครั้งนี้ของสาว “ลิซ่า Blackpink”


ที่มา : https://www.komchadluek.net/entertainment/480041


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"เสกสกล"สวน"ย่ิงลักษณ์"โทษรัฐประหาร ฉุดประเทศถอยหลัง10 สติดีอยู่หรือไม่ ย้อนให้บริหารต่อยิ่งทำประเทศดิ่งจากทุจริตเชิงนโยบาย-เอื้อประโยชน์วงศ์ตระกูล แจง วิกฤตโควิด-19 ทำรัฐบาลตู่ ชะลอพัฒนาประเทศ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์รำลึกถึงวันที่23 ส.ค.เป็นวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ที่สัญญาว่าจะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี แต่มาถูกรัฐประหารเสียก่อน และผ่านมา10 ปีประเทศชาติกลับแย่ลง ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังสติสัมปชัญญะดีอยู่หรือไม่ หรือเป็นเพราะหนีคดีไปนาน เกิดอาการความจำเสื่อมกำเริบ จนจำความอะไรไม่ได้ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคนในตระกูลคอยสั่งการ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนอมินี หรือหุ่นเชิดของนายทักษิณ ชินวัตร ฉะนั้นอย่าบอกว่ามีสติปัญญาในการบริหารประเทศ คิดเองทำเองเป็น เพราะ ไม่มีใครเชื่อ และตอนเป็นพนักงานของ บ.ชินวัตรคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่เป็นเซลล์ขายสมุดหน้าเหลือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังขายไม่ได้สักเล่ม แล้วจะขี้โม้ขี้คุยว่าหาเสียงไม่ถึง 50 วันก็ขึ้นมาเป็นนายกฯ ทุกอย่างนายทักษิณ เป็นคนวางแผนสั่งการให้ทั้งนั้นมิใช่หรือ
 
นายเสกสกล กล่าวว่า โครงการจำนำข้าว ก็มาจากแนวคิดของนายทักษิณ ที่มีข่าวว่าเรียกพ่อค้าไปพบวางแผนที่ดูไบ และพ่อค้าคนดังกล่าวก็ติดคุก ซึ่ง เป็นการทุจริตเชิงนโยบายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทำให้ชาวนาขาดทุนจนต้องฆ่าตัวตาย รัฐบาลเสียหายมหาศาล จนทุกวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องตามล้างตามเช็ดใช้หนี้ในสิ่งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำเอาไว้คือ หนี้จำนำข้าวร่วม9แสนล้านบาท
 
"อย่ามาบอกว่าตั้งใจจะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ความอยู่ดีกินดี คือคนของพรรคน.ส.ยิ่งลักษณ์ และตระกูลชินวัตร ที่อยู่ดีกินดี มีกินไปจนไม่รู้กี่ชาติ แต่ประชาชน ยังยากจนยิ่งกว่าเดิม เอาชาวนามาบังหน้า ทำมาหากินโกงกันจนไม่อายฟ้าดินไม่มีสติปัญญาจะบริหารประเทศ พอไม่รู้จะโทษใคร ก็มาโทษว่าพล.อ.ประยุทธ์ ทำรัฐประหารประเทศจึงถอยหลัง10ปี ไม่เป็นธรรม ที่จริงน่าจะมองว่า ตนเองบริหารผิดพลาดล้มเหลวอย่างไรบ้าง แค่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยให้นายทักษิณ และคอร์รัปชั่นโครงการจำนำข้าว ขืนปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ บริหารไปแค่วันเดียว ประเทศชาติเสียหายพังพินาศย่อยยับแน่นอน จนประชาชนออกมาขับไล่ และคณะคสช.ต้องเข้ามาระงับความเสียหายที่จะเกิดกับประเทศชาติที่จะตามมา ถ้าคสช.ไม่ออกมา จะมีเงินทอนจากโครงการอภิมหาโปรเจ็ค2.2ล้านบาทเข้ากระเป๋าคนใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกมากมายมหาศาล”
 
นายเสกสกล กล่าวว่า อยากให้นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ลืมตาดู จะได้หูตาสว่างว่าตลอด7ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยพัฒนาไปถึงไหน มีรถไฟฟ้าเกือบครบทุกเส้นทาง โครงการอีอีซี ถนนมอเตอร์เวย์จากบางปะอินไปโคราชกำลังจะเปิดใช้ รถไฟความเร็วสูงอีกสองเส้นทาง ราคาพืชผลทางการเกษตร ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ดีขึ้นกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ เหมือนฟ้ากับเหว เพียงแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ มาเจอวิกฤตโรคโควิด-19 จึงทำให้การพัฒนาประเทศชะลอตัวเพราะต้องใช้สรรพกำลังทั้งคนและงบประมาณมาแก้ปัญหาสุขภาพอนามัยให้กับประชาชน อันเป็นวาระสำคัญลำดับแรก ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโควิดในขณะนี้ คงจะหัวหมุนทำอะไรไม่ถูก และอาจทิ้งปัญหาลาออกไปดื้อๆก็ได้ เพราะตอนเจอปัญหาน้ำท่วมใหญ่ช่วงปี 54 ยังมึนทำอะไรไม่ค่อยถูก โชคยังดีที่มีพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.คอยช่วยเหลือทุกอย่าง น่าจะวัดความสามารถ วัดกึ๋นการบริหารประเทศกันได้แล้วว่าใครมีฝีมือกันแน่

นายเสกสกล กล่าวว่า อยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ หยุดพูดมาก หยุดเล่าเรื่องราวในอดีตจะดีกว่า ยิ่งพูดมากยิ่งเข้าตัวเอง คนไทยไม่ได้โง่ และยังจดจำเรื่องราวในอดีตได้ดี อย่าแสดงความโง่แล้วอวดฉลาดเลย อยู่นิ่งๆเงียบๆเฉยๆ เอาเวลาไปเดินห้างหรู เดินช้อปปิ้งหาซื้อของแบรนด์เนม จิบไวน์ราคาแพง จะดีกว่ามารำพึงฟาดงวงฟาดงาคนอื่นรายวัน เพราะยิ่งเป็นการซ้ำเติมทำลายตัวเองมากกว่า

'เป๊ก-สัณณ์ชัย' ฉีดวัคซีนเข็มที่ 5 ในสหรัฐอเมริกา เหล่าแฟนคลับ คนดังแห่แสดงความคิดเห็น

ฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบรัว ๆ จนมีคนยกให้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ สำหรับ "เป๊ก สัณณ์ชัย" โดยหลังจากที่ฉีดซิโนแวคที่ไทยไปแล้ว 2 เข็ม ก็บินไปบูสเตอร์ โมเดอร์นาต่อที่อเมริกาทันที ล่าสุด ปาไปแล้วเป็นเข็มที่ 5 จนแฟนคลับเป็นห่วง ด้านเจ้าตัวโพสต์ เหมือนไม่มั่นใจ

ด้วยความที่เหลือปอดเพียงข้างเดียว "เป๊ก-สัณณ์ชัย เองตระกูล" สามี “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” จึงตัดสินใจบินไปฉีดวัคซีนไกลถึงอเมริกา และถือเป็นการพักผ่อนไปในตัว แต่การฉีดวัคซีนต่อเนื่องเป็นเข็มที่ 5 ในรอบ 3 เดือน ก็มีแฟนคลับที่ติดตามอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ถี่ไปหรือเปล่า เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แทนที่จะเป็นการป้องกัน ขณะที่เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์รีวิวการฉีดครั้งนี้ แบบทั้งขำ ทั้งระแวงเหมือนกัน 

โดยล่าสุด "เป๊ก สัณณ์ชัย" โพสต์ภาพขณะกำลังถูกฉีดวัคซีนที่แขนข้างซ้าย ส่วนมือขวากางนิ้วออกมาทั้ง 5 นิ้ว พร้อมระบุข้อความว่า “บูสเตอร์ เข็ม 5 เอาแ-งทุกยี่ห้อ จะตายมั้ย คอยติดตาม”

ทั้งนี้ มีแฟนคลับ และคนในวงการ เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อาทิ เอมี่ กลิ่นประทุม บอกว่า “พี่เป๊กกกกกกกก! 55555555 สรุปกลายพันธุ์จ้ะ เป็น superhero จ้ะ” ด้าน ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ก็คอมเมนต์ว่า "5555 ไม่ตายๆๆๆๆ" ส่วน จ๊ะ อาร์สยาม ก็ส่งสติ๊กเกอร์ หัวเราะรัว ๆ

นอกจากนี้ยังมีแฟนคลับที่อดเป็นห่วงไม่ได้ ส่งข้อความถามสงสัยว่าเยอะไปมั้ย และมีทั้งตามมาให้กำลังใจอีกเพียบ เช่น พี่เป็กกก ไม่เยอะไปใช่มั้ยยค่ะ, ยิงรัวปาน M16, 5 เลยเหรอพี่ อย่างโหด, รอพี่กลับมา อยากกอดพี่ คิดถึงมากมากค่ะ, จะดีเหรอ คุณหมอไม่ว่าอะไรหรือเธอ, โห มาอีกกี่สายพันธุ์ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ 555, เป็นนอสตราดามุสเหรอ, ซุปเปอร์แมนป่าวเนี่ย เป็นต้น 

สำหรับประวัติการฉีดวัคซีนแบบมาราธอนของ "เป๊ก สัณณ์ชัย” เริ่มตั้งแต่การฉีดวัคซีน Sinovac ที่เมืองไทยครบทั้ง 2 เข็ม ก็บินไปอเมริกาทันที เพื่อฉีดวัคซีนโมเดอร์นาต่ออีก 2 เข็ม โดยเข็มที่ 3 ห่างจากฉีดซิโนแวคเข็มที่ 2 ประมาณ 1 เดือน ก่อนที่จะมาฉีด โมเดอร์นา เข็ม 4 ในวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา และล่าสุด วันนี้ เจ้าตัวได้โพสต์การฉีดวัคซีนอีกครั้ง โดยเช็กอินที่เมืองซานดิเอโก สหรัฐอเมริกา


ที่มา : https://www.komchadluek.net/entertainment/480040
https://www.instagram.com/pegliyah/?hl=th


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top