Monday, 26 May 2025
NewsFeed

รองนายกฯ ‘ดอน ปรมัตถ์วินัย’ ต่อสายตรงแสดงความเสียใจต่อทูตสวิส กรณีนักท่องเที่ยวผู้หญิงถูกฆาตกรรมที่น้ำตกโตนอ่าวยน จังหวัดภูเก็ต ด้านผบ.ตร. บินด่วน พร้อมทีมหนุมานกองปราบ ลงพื้นที่ เร่งคลี่คลายคดี

วันที่ 6 สิงหาคม 2564 จากกรณีพบศพนักท่องเที่ยวสาวสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ผู้เสียชีวิต คือ MRS. NICOLE SAUVAIN WEISSKOPF (นิโคล ซาเว่น ไวครอป์) สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 57 ปี เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นเจ้าหน้าที่รองหัวหน้าพิธีการทูตสหพันธรัฐสาธารณรัฐเยอรมนี ใช้หนังสือเดินทางประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 64 ที่ผ่านมา และพักโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จนครบ 14 วัน จากนั้นได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ จ.กระบี่ ก่อนจะกลับมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วิชิต และมาพบเสียชีวิตดังกล่าว

ล่าสุ นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ได้โทรศัพท์ด่วนแจ้งข่าวดังกล่าวต่อ นางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทีเอดา เอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทยแล้ว

กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตผ่านหัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศที่จังหวัดภูเก็ต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้โทรศัพท์ถึงเอกอัครราชทูตสวิสประจำประเทศไทยเพื่อแสดงความเสียใจ และย้ำว่าจะเร่งผลชันสูตร และจับกุมผู้ต้องหาโดยเร็วที่สุด และจะประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตสวิสประจำประเทศไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป

ทางด้านพล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของพื้นที่ จังหวัด และภาค 8 เพื่อติดตามและเร่งรัดคลี่คลายคดี เนื่องจากเป็นคดีอุฉกรรจ์และอยู่ในความสนใจของคนไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากมีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในภูเก็ตภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

โดยตำรวจได้แบ่งทีมทำงานลงพื้นที่สืบสวนออกเป็น 3 ชุด ประกอบด้วย ทีมตรวจสอบไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิต ทีมตรวจสอบสภาพแวดล้อมในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง และทีมสอบสวนหาพยานบุคคลและพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในวันนี้ (6 ส.ค.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะลงพื้นที่ภูเก็ตเพื่อติดตามความหน้าของคดีด้วยตนเอง พร้อมนำเจ้าหน้าที่หนุมานกองปราบ ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสคนร้ายด้วย

ภายหลังการประชุมด่วน พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้อง ผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่จะเข้ามาตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หรือไม่นั้น ขอตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และรอผลการชันสูตรของแพทย์ว่า เกิดจากอะไรกันแน่

แต่จากที่มีการนำผ้ายางมาคลุมร่างของศพกึ่งห่อกึ่งคลุมนั้น ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า ต้องมีคนนำมาคลุมไว้ จึงสันนิษฐานได้ว่าการเสียชีวิตน่าจะไม่ปกติ ส่วนที่มีกระแสข่าวทางโซเซียลมีเดียว่า เป็นการฆ่าข่มขืนหรือข่มขืนแล้วฆ่านั้น ในเรื่องนี้ยังไม่สามารถระบุได้ จะต้องรอผลชันสูตรของแพทย์เท่านั้น

หากดูจากสภาพศพที่เปลือยท่อนร่าง พอจะสันนิษฐานได้ว่า คนร้ายไม่ได้ประทุษร้ายต่อทรัพย์ เนื่องจากทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ ส่วนว่าผู้ก่อเหตุจะมากับผู้ตายหรือเป็นคนที่มาพบระหว่างที่นักท่องเที่ยวเดินเข้าป่ามาคนเดียว หรือเป็นคนที่นำพานักท่องเที่ยวเข้าไป ในเรื่องนี้ก็ต้องรอผลการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอีกครั้ง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กตู่”แสดงความเสียใจกรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตที่ภูเก็ต กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนข้อเท็จจริง ย้ำให้เข้มงวดดูแลนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบกรณี Mrs. Nicole Sauvain-Weisskopf (นางนิโคล โซเวน ไวสคอป) สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) เสียชีวิตบริเวณธารน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา และขอแสดงความเสียใจไปถึงครอบครัวผู้เสืยชีวิตด้วย  

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าทีตำรวจทั้งจากส่วนกลางและในพี้นที่ เร่งสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมทั้งสั่งให้รายการกลับมาให้ทราบด้วย ทั้งนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ได้โทรศัพท์แสดงความเสียใจกับเอกอัครราชทูตสวิสประจำประเทศไทย ไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตนเอง ซึ่งกระทรวงการต่างเทศจะประสานกับสถานเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เพื่อรายงานความก้าวหน้าทางคดีอย่างต่อเนื่อง 

“นายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการเพิ่มความเข้มงวดดูแลนักท่องเที่ยวตามโครงการฯ ให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เร่งประสานหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรการด้านสาธารณสฺขและความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติโดยเร็ว พร้อมขอให้คนไทย ช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย โดยเฉพาะภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดรายได้ให้กับประเทศไทยต่อไป” นายอนุชา กล่าว

“สิระ” ยื่น อธิบดีศาลอาญาฯ บี้ ถอนประกัน "ไผ่ ดาวดิน”และพวก 29 คน เหตุก่อวุ่นวาย ผิดเงื่อนไข ตั้งค่าหัวนำจับ 500 บาท ไม่ห่วง ชุมนุม 7ส.ค.เชื่อคนร่วมน้อย

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานกรรมาธิการกฎหมายฯยื่นหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ให้พิจารณาถอนประกันตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่ ดาวดิน)กับพวก รวม 29 คน ผู้ต้องหาข้อหาร่วมกันชุมนุม ก่อความวุ่นวาย ร่วมกันพยายามข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากกรณีที่ชุมนุมกดดันหน้ากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.)ถนนวิภาวดีรังสิต ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคืนรถบรรทุก6ล้อและเครื่องขยายเสียง ซึ่งถูกยึดเป็นของกลางในคดี และสาดสีแดงใส่รั้วประตูและเจ้าหน้าที่ และพยายามเข้าสถานที่ราชการเพื่อเอาของกลางที่ถูกยึดไว้ ซึ่ง จนท.ตำรวจได้เข้าจับกุม และต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 29 คน แต่ผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวาย พร้อมทั้งทำลายทรัพย์สินของราชการของสน.ทุ่งสองห้อง หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัว

“พฤติการณ์ของนายจตุภัทร์ เป็นการกระทำความผิดในลักษณะเดิม ไม่เกรงกลัว ไม่เคารพกฏหมายบ้านเมือง ที่อาจทำให้ผู้อื่นเอาเยี่ยงอย่างเพื่อก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวใน กรณีห้ามก่อความวุ่นวายหรือทำกิจกรรมในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหาในคดีแรก จึงขอให้อธิบดีผู้พากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตรวจสอบว่ากระทำที่ผิดเงื่อนไขให้ประกันตัวหรือไม่ และให้พิจารณาถอนการประกันตัว ผมในฐานะประธานกรรมาธิการกฎหมายฯ  ไม่ยอมให้คนกลุ่มนี้อยู่เหนือกฎหมาย และนายไผ่ จบนิติศาสตร์ รู้ดีว่าการกระทำใดเป็นการทำผิดกฎหมาย แต่ใช้กำลังทำตัวอยู่นอกกฎหมายตลอดเวลา บุคคลเหล่านี้ไม่ปกติ จะอยู่ร่วมกับคนปกติไม่ได้ และวันนี้ชัดเจนว่านายไผ่และพรรคพวกจงใจก่อม็อบเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ และเจตนาล้มล้างสถาบัน ทั้งนี้มีการออกหมายจับนายไผ่ ดังนั้นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบเจอจับกุมได้ทันที และตนตั้งรางวัลนำจับ 500 บาท ซึ่งแพงเกินความจริงแล้ว ตอนแรกจะให้ 5 บาท ก็เกรงใจจึงคิดว่ามีค่าเท่านี้ เหมือนโจร 500” นายสิระ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามถึงการชุมนุมของเยาวชนปลอดแอกในวันที่ 7 ส.ค.นี้ นายสิระ กล่าวว่า ไม่ห่วงการชุมนุมที่จะเกิดขึ้น เพราะเชื่อว่ามีไม่กี่คนที่จะออกไปทำพฤติกรรมเลวแบบนั้น และผู้ปกครองต้องตักเตือนเยาวชนในปกครอง ที่สำคัญเยาวชนต้องรู้ทันแกนนำที่รู้กฎหมาย หากทำแล้วชอบด้วยกฎหมาย ทำไมแกนนำอีแอบ จึงปลอมตัว ปกปิดไปยืนหลังม็อบ เป็นเตี้ยหลังม็อบ ไม่ขึ้นเวทีเปิดเผยตัวให้ชัด แต่หลอกใช้เยาวชน ทั้งนี้สัปดาห์หน้าตนจะไปยื่นเอา ผิดกับส.ส.อีแอบ ที่อ้างว่าไปสังเกตการณ์ในที่ชุมนุมโดยไม่ได้รับการมอบหมาย

“อุบลศักดิ์” ขอ 72 กมธ.งบ 65 ยุติแตกแยกเรื่องงบกลาง ยัน เพื่อไทยไม่ได้ช่วยนายกฯ-คิดร่วมพรรคใดพรรคหน่ึง ไม่อย่างนั้นคงไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

ที่รัฐสภา นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2565 แถลงว่า การประชุมกมธ. ในวันนี้(6 ส.ค.)ถือเป็นวันสุดท้ายและจะต้องมีการพิมพ์เล่มให้เสร็จภายในวันที่ 15 ส.ค.เพื่อนำส่งสภาฯ พิจารณาในวาระ 2-3 ในวันที่ 18-20 ส.ค. ดังนั้นสงครามทางความคิดในเรื่องงบประมาณของกมธ. ทั้ง 72 คนควรยุติได้แล้ว และกมธ.ได้มีมติตั้งอนุกมธ.ให้มีหน้าที่ปรับลดงบประมาณ ซึ่งโครงการใด หน่วยงานไหนที่มีความซ้ำซ้อนหรือรอได้ ก็ปรับลดเพื่อที่จะไปช่วยแก้ปัญหาโควิด-19 เพราะประชาชนได้รับผลกระทบแสนสาหัส แม้แนวความคิดของกมธ. ทั้ง 72 คนจะต่างกันอย่างหลากหลาย แต่เมื่อมีการปรับลดงบประมาณไปเท่าไหร่ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะต้องไปดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด เพราะการถกเถียงกันไปมาทำให้ประชาชนหมดความศรัทธา ดังนั้นจึงอยู่ที่จิตสำนึกของกมธ.แต่ละคน และตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ชัดเจนอยู่แล้วว่าทำไม่ได้ที่จะแปรไปเป็นอย่างอื่น งบต่างๆ ที่ถูกตัดออกก็ควรที่จะนำเข้างบกลาง ซึ่งหลายคนคิดว่าเอาไปกองให้นายกฯ ใช้นั้นไม่ใช่เพราะนายกฯ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารจะต้องทำตามกระบวนการ และงบที่ได้ไปนั้น นายกฯ จะใช้หรือไม่ก็ไม่รู้เพราะในอนาคตท่านอาจจะลาออกหรือยุบสภาก็ได้ ซึ่งใครก็ตามที่เข้ามาเป็นรัฐบาลก็มีสิทธิที่จะบริหารแต่ไม่มีสิทธิใช้ 

นายอุบลศักดิ์ กล่าวต่อว่า อยากเรียกร้องวิงวอนให้สมาชิกทุกฝ่ายหันหน้ามาแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่อยากให้มีการทะเลาะเบาะแว้งกันทางความคิด แต่เมื่อความคิดไม่ตรงกัน แล้วเสียงข้างมากเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ จึงขอให้ทุกฝ่ายยุติการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติและไม่ต้องไปใส่ความกัน เราจะโทษใครไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญเขียนมาอย่างนี้ จึงขอให้ทุกคนหันหน้ามาแก้ปัญหาและมาช่วยกันตรวจสอบงบประมาณว่าใครทำได้ถึงปลายทางอย่างไร

“ขอยืนยันว่าในฐานะพรรคเพื่อไทยไม่มีเจตนาจะไปช่วยนายกฯ เพราะเราเห็นว่าหากงบที่ถูกปรับลดไม่เอาไปไว้ในงบกลางก็จะเหลือทิ้ง ไม่สามารถใช้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องควรจะนำเงินส่วนนี้มาแก้ปัญหาโดยที่ไม่ต้องกู้ ถ้าพรรคเพื่อไทยช่วยนายกฯ หรือคิดจะไปร่วมกับพรรคนั้นพรรคนี้ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่เตรียมที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ  ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมอยู่แล้ว 136 เสียงสามารถยื่นญัตติได้ด้วยตัวเอง แต่เราเห็นว่าพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน จึงประนีประนอมและให้โอกาสทุกคนช่วยกันคิด แต่ละคนอาจคิดไม่เหมือนกัน ซึ่งก็คิดได้ จึงคิดว่าฝ่ายค้านไม่มีความแตกแยก แต่อาจจะคิดไม่เท่ากันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” นายอุบลศักดิ์ กล่าว

สศช. คุย คลัง ธปท. ออกมาตรการช่วยเอสเอ็มอี ท่องเที่ยว 

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้ รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท โดยจะนำมาใช้สำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประมาณ 1.7 แสนล้านบาท ล่าสุด สศช. ได้หารือร่วมกับทีมเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะเริ่มดำเนินโครงการช่วยเอสเอ็มอีทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว และหากสถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว เศรษฐกิจเริ่มเดินหน้าได้ และควบคุมการระบาดได้ มีวัคซีนเข้ามาตามกำหนด อาจจะต้องหาวิธีการเร่งด่วนมาใช้ช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับกระทบต่อไป 

ส่วนภาพรวมโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมใน พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่มีวงเงิน 4 แสนล้านบาท ล่าสุดมีเงินเหลืออยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ได้นำไปใช้ในเรื่องการเยียวยาและการสาธารณสุข เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ และด้วยสถานการณ์ขณะนี้มีการระบาดที่มีผลกระทบกับประชาชนวงกว้างมาก จึงต้องเร่งหารือกับหน่วยงานที่ดำเนินโครงการอยู่แล้ว โดยต้องประเมินโครงการก่อนว่าผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร ซึ่งอาจเป็นการต่อโครงการออกไปอีก 1 ปี หรือจะขยายขนาดของโครงการออกไป  

“ในเวลานี้ การดำเนินงานที่เห็นผลได้ชัดคือเรื่องการจ้างงาน เท่าที่ดูตัวเลขการจ้างงานขณะนี้อยู่ที่ 3-4 แสนราย ทำให้อย่างน้อยคนมีรายได้และมีการใช้จ่าย สำหรับผลกระทบกับเศรษฐกิจภาพรวมนั้น ในแง่ของการบริโภคสามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่งโดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชน อีกส่วนหนึ่งที่อยู่นอกเหนือแผนฟื้นฟูเป็นเรื่องของการกระตุ้นการบริโภคโดยตรง เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจในภาพใหญ่ค่อนข้างมาก” 

ธุรกิจญี่ปุ่นสู้โควิดไม่ไหว หลังรัฐบาลประกาศมาตรการควบคุมโรค ด้านผู้ประกอบการวอนรัฐช่วยเหลือก่อนล้มละลาย

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของญี่ปุ่นสูญเสียโอกาสทองทางธุรกิจในช่วงวันหยุดฤดูร้อน เนื่องจากรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ผลสำรวจพบกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่าง ๆ มากกว่า 1,800 บริษัทปิดกิจการแล้ว

ภายหลังจากญี่ปุ่นได้ขยายเวลาภาวะฉุกเฉินและมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิดในหลายจังหวัด ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องยกเลิกแผนการเดินทางในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ธุรกิจการท่องเที่ยวคึกคัก

นายคิกูมะ จุนโงะ ประธานของสมาคมบริษัทท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่นระบุว่า การตัดสินใจขยายเวลาภาวะฉุกเฉินทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเสียหายอย่างหนัก ส่งผลต่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการจำนวนมาก เขากล่าวว่า บรรดาผู้ประกอบการจะร่วมมือกับมาตรการควบคุมการระบาด แต่ก็เป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่งในการบริหารจัดการ

ตัวแทนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยา เพื่อให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ อยู่รอดได้

การสำรวจโดยบริษัทวิจัย เทโกกุ เดต้าแบงก์ พบว่า บริษัท 1,860 แห่ง ต้องปิดกิจการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ถึงต้นเดือนสิงหาคมปีนี้ บริษัทเหล่านี้มีทั้งปิดกิจการไปแล้วหลังจากยื่นขอล้มละลาย หรืออยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อขายทรัพย์สิน

ร้านอาหารคือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ธุรกิจร้านอาหารกว่า 300 แห่งยื่นขอปิดกิจการ ส่วนภาคก่อสร้างมีธุรกิจกว่า 180 แห่งที่ได้รับผลกระทบ อุตสาหกรรมโรงแรมมีประมาณ 100 แห่ง และกลุ่มผู้ค้าส่งอาหารเกือบ 100 แห่งไปไม่รอด

นักวิเคราะห์ระบุว่า เมื่อผู้ประกอบการปิดกิจการก็จะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อบริษัทต่าง ๆ ข้ามอุตสาหกรรม ทำให้อาจมีบริษัทที่ยื่นขอล้มละลายเพิ่มมากขึ้นอีก เนื่องจากรัฐบาลได้ขยายภาวะฉุกเฉินออกไป

จำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อที่ 15,263 ราย เฉพาะกรุงโตเกียวยืนยันผู้ติดใหม่ 5,042 คน เป็นสถิติสูงที่สุด


ที่มา : https://mgronline.com/japan/detail/9640000076961


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กป้อม” สั่ง ฝ่ายมั่นคง เร่งคดี มาตกรรม นทท.ในจ.ภูเก็ต ชี้ กระทบความรู้สึกชาวภูเก็ต-ความเชื่อมั่นตปท. พร้อมประชุมรับมือสถานการณ์ความเสี่ยงชายแดนช่วงโควิด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการฝ่ายปกครองตำรวจ ให้ความสำคัญเร่งติดตามสืบสวนคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวสวิสฯที่เสียชีวิตระหว่างท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต ให้นำผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว ให้เฝ้าระวังและเพิ่มความเข้มข้นมาตรการป้องกันดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในภาพรวม

“คดีดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก ในขณะที่เรากำลังร่วมกันสร้างและเปิดพื้นที่นำร่อง เพื่อฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในช่วงที่ต้องอยู่กับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดต่อเนื่องกันไป  และเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผลต่อความรู้สึกของชาวภูเก็ต ที่ช่วยกันประคับประคองดูแลมาตการต่างๆให้ภูเก็ตมีความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ผ่านมา จึงขอให้ชาวภูเก็ตร่วมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด” 

นอกจากนี้พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัญมนตรี  เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคง ร่วมกับ รมว.มหาดไทย รมว.แรงงาน รมช.กลาโหม ผบ.ทสส. รวมทั้ง ผวจ.ชายแดนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบ VTC เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ความเสี่ยงชายแดนในห้วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่รุนแรง

ภาพรวมสถานการณ์การลักลอบข้ามแดน ยังพบและจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการแรงงานในประเทศที่ยังมีสูง  มีผู้ลักลอบเข้าเมืองตกค้างตามชายแดนจำนวนมาก เนื่องจากประเทศต้นทางไม่เปิดรับกลับ บางส่วนเป็นชนเผ่าและชนกลุ่มน้อยที่ไม่มีการรับรองสถานภาพ  ขณะเดียวกันสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศเพื่อนบ้านยังรุนแรง พบผู้ติดเชื้อในอัตราที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเมียนมา ที่มีปัญหาการเมืองและสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ รวมทั้งการแพร่ระบาดของโควิดที่อยู่ในสภาวะวิกฤตและข้อจำกัดของระบบสาธารณสุข ที่อาจส่งผลให้มีการลักลอบเข้าเมืองจากเมียนมามากขึ้น

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ย้ำเป็นนโยบายและสั่งการ ขอให้ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจ รวมทั้งกระทรวงแรงงาน ประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด โดยให้ผนึกกำลังร่วมเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนและตรวจตราพื้นที่ชั้นใน บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด เพิ่มมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การลักลอบค้าอาวุธและยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันและควบคุมโรค โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้กลไก “ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจังหวัด” บูรณาการการทำงานร่วมกันและนำเทคโนโลยีมาใช้เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ รวมทั้งให้เพิ่มสถานที่กักกัน ( OQ ) ให้เพียงพอ รองรับการลักลอบข้ามแดนที่มีมากขึ้น

พร้อมกำชับ ต่อสถานการณ์วิกฤตในประเทศเมียนมา  ขอให้ทุกจังหวัดชายแดนเมียนมา เตรียมพร้อมและพัฒนาแผนรองรับผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมา โดยให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกัน จัดให้มีพื้นที่รองรับและสถานกักกันโรคอย่างเพียงพอ รวมทั้งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ให้ติดตามเฝ้าระวังและทำลายโครงสร้างขบวนการค้าอาวุธสงคราม เพื่อมิให้เป็นเงื่อนไขขยายความรุนแรงในเมียนมาอย่างเด็ดขาด

สำหรับพื้นที่ชั้นใน ขอให้กระทรวงแรงงาน ประสานการทำงานกับ ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย อย่างเฉียบขาดและลงโทษสูงสุดกับผู้นำพาและขบวนการค้าแรงงานผิดกฎหมาย โดยให้สืบเชื่อมโยงไปถึงการค้ามนุษย์  และขอให้เร่งพิจารณาแนวทางทะยอยนำแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบตามกฎหมาย ภายใต้มาตการ กักตัวควบคุมโรค โดยเริ่มจากผู้ประกอบการที่มีความพร้อม เพื่อบรรเทาความต้องการแรงงานและลดการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย พร้อมย้ำให้หัวหน้าหน่วยงานทุกระดับลงกำกับ ต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตหรือเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด

“กอ.รมน.”สนับสนุนการจัดตั้ง รพ.สนาม ศูนย์คัดกรองและรพ.สนาม ทบ. 37 แห่ง พร้อมเร่งทำความเข้าใจ ปชช.ถึงข้อมูลการเข้ารับการรักษา

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. แถลงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 ยังคงทวีความรุนแรงโดยเฉพาะไวรัสกลายพันธุ์ชนิดสายพันธ์เดลต้าที่เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายและติดต่อโรคกันได้โดยง่าย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมีการแพร่ระบาด ในวงกว้างทั่วประเทศ การดูแลช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด – 19 ถือเป็นภารกิจที่สำคัญเร่งด่วนของ กอ.รมน. ในการปฏิบัติงานเพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม. ในฐานะ ผอ.รมน. ที่ได้มอบหมายให้  พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง.ผอ.รมน. ดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหากับผู้ป่วย  ที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษาให้เข้าสู่ระบบอย่างรวดเร็วด้วยการตรวจหาเชื้อ, การคัดกรองผู้ติดเชื้อ, การแยกประเภทผู้ป่วย, การรักษาพยาบาลเบื้องต้น, การส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาตามความรุนแรงของโรคในการเข้าร่วมบูรณาการ  กับทุกภาคส่วนทั้ง กองทัพบก, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, บุคคลกรทางการแพทย์, อสม. และสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สนับสนุนการจัดตั้ง “รพ.สนามศูนย์คัดกรองสโมสร ทบ.” 

พล.ต.ธนาธิป กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ส่วนกลาง และ รพ.สนามกองทัพบก ทั่วประเทศทั้ง 37 แห่ง พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการจัดตั้ง รพ.สนามหระทรวงสาธารณะสุข  จำนวน 26 แห่ง (กองทัพบกสนับสนุนกำลังพล, อาคารสถานที่, เตียงผู้ป่วย, เครื่องนอนและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น) และปัจจุบันได้มีการจัดตั้ง รพ.สนาม ทบ. เพิ่มเติมในพื้นที่ รพ.สังกัด กองทัพบกทั้ง 37 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากขึ้นและเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรค ทั้งยังให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยเพื่อลดภาระของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่อีกด้วย และได้เตรียมการประสานงานเพื่อจัดตั้ง “รพ.สนามศูนย์คัดกรอง” ในส่วนภูมิภาคเป็นจุดให้บริการคัดกรองผู้ป่วยและเป็นจุดพักคอยเพื่อส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาใน รพ. ตามระบบต่อไปสำหรับ “รพ.สนามศูนย์คัดกรองสโมสร ทบ.” 

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางมีขั้นตอนการให้บริการเริ่มจาก การลงทะเบียนยืนยันตัวบุคคล, การตรวจคัดกรองเชื้อเบื้องต้นโดย “รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน” และรอผลตรวจประมาณ 30 นาที หากผลไม่พบเชื้อจะได้รับใบรายงานผลแล้วกลับบ้านได้ หากผลตรวจพบเชื้อ  จะได้รับการเอ็กซ์เรย์ปอดและเข้ารับการตรวจยืนยันโควิด – 19 อีกครั้งด้วยวิธีตรวจแบบ RT-PCR จากนั้นแพทย์จะทำการวินิฉัยอาการและรับการรักษาด้วยยารับประทาน พร้อมรับถุงยังชีพบรรจุสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการกักตัวประกอบด้วย เครื่องวัดค่าออกซิเจนในเลือด, เครื่องวัดอุณหภูมิ, อุปกรณ์รักษาโรคเป็นต้น จากนั้นผู้ป่วยจะเข้าสู่ระบบการรักษาของสำนักอนามัย กทม. ด้วยการกักตัวที่บ้าน (Home Isolation), การกักตัวที่ชุมชน (Community Isolation), รพ.สนาม หรือ รพ.ของ กทม. และสาธารณสุขต่อไป

นอกจากนี้ กอ.รมน. ได้บูรณาการและเสริมสร้างให้เครือข่ายมวลชน กอ.รมน. จากทั่วประเทศเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างความเข้าใจชี้แจงกับประชาชนร่วมติดตามและเฝ้าระวังป้องกันแจ้งข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดนโดยเฉพาะการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อขบวนการนำพาผู้หลบหนีฯ สร้างความตระหนักรู้และการรับรู้กับประชาชนโดยเฉพาะการห้ามออกนอก     เคหะสถานตามห้วงเวลาที่กำหนด และลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การรณรงค์ให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนเพื่อช่วยลดอาการรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตเป็นหลัก ส่วนการป้องกันการติดเชื้อยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกันตนเองและการป้องกันการแพร่ระบาดด้วยการสวมอุปกรณ์ป้องกันตนเอง (หน้ากากอนามัย), การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างถูกวิธีรวมทั้งการดูแลเขตสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมของ   ส่วนบุคคลและส่วนรวมตามมาตรฐานของกรมอนามัยกระทรวงสาธารณะสุข

'หมอมนูญ' ชี้ ประชากรโลกมีโอกาสติดเชื้อโควิดทั้งหมด ย้ำ วัคซีนช่วยให้รอด โควิดอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น

ประเทศอินเดียมีการแพร่ระบาดอย่างหนัก ช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วันละ 400,000 คน แต่ปัจจุบันเดือนสิงหาคม ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเหลือวันละ 40,000 กว่าคน

จากผลการวิจัยระดับประเทศสุ่มตรวจเลือดหาแอนติบอดีบ่งบอกถึงมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโควิดจากการติดเชื้อ พบคนอินเดีย 2 ใน 3 ของประชากร คือ 900 ล้านคนติดเชื้อตามธรรมชาติแล้ว พบติดเชื้อตั้งแต่อายุ 6 ปีขึ้นไปเกินครึ่งแล้วทุกอายุ

ทั้งนี้มีบุคลากรทางการแพทย์มีแอนติบอดีร้อยละ 85 มีคนอินเดียอีก 1 ใน 3 คือ 400 ล้านคนที่ยังไม่ติดเชื้อ อินเดียฉีดวัคซีนครบโดสแค่ร้อยละ 8 หรือประมาณ 100 ล้านคนเท่านั้น

จากรายงานอย่างเป็นทางการด้วยการตรวจหารหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด ประเทศอินเดียพบผู้ติดเชื้อ 31.8 ล้านคน และคนเสียชีวิต 426,000 ราย ทั้ง 2 ตัวเลขนี้ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก คนอินเดียติดเชื้อไปแล้ว 900 ล้านคน ขนาดปรับจำนวนคนเสียชีวิตขึ้น 5 เท่า คือ 2.13 ล้านคน อัตราการเสียชีวิตของคนอินเดียที่ติดเชื้อไวรัสโควิดร้อยละ 0.24

ประเทศอินเดียรายงานพบไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาครั้งแรกเดือนตุลาคม 2563 มีการศึกษาระดับประเทศสุ่มตรวจเลือดหาแอนติบอดีเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนกรกฎาคม 2564 พบตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศอินเดียเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 21 คือ 270 ล้านคน เป็น 900 ล้านคนในเวลา 5 เดือน อีกไม่นานคนที่เหลือ 400 ล้านคนก็จะติดเชื้อ เมื่อนั้นโรคโควิดคงจะหยุดการแพร่ระบาด

อัตราตายของโรคโควิดถูกประเมินว่าร้อยละ 1 อัตราตายจริง ๆ น่าจะต่ำกว่านั้น ดูสถิติของประเทศอินเดียอัตราตายของโรคโควิดประมาณร้อยละ 0.24

สรุป : เหตุผลหลักที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อประเทศอินเดียขณะนี้ลดลง ก็เพราะคนอินเดียติดเชื้อแล้วมากกว่า 2 ใน 3 เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาแพร่เชื้อทางอากาศ ติดทางการหายใจ ติดต่อกันง่ายมากเหมือนเชื้อไวรัสโรคอีสุกอีใส ดูจากสถิติของประเทศอินเดียแล้ว เชื่อว่าทุกคนในโลกนี้คงต้องติดเชื้อไวรัสโควิดไม่ช้าก็เร็ว โรคนี้จะหยุดการแพร่ระบาดก็ต่อเมื่อมากกว่าร้อยละ 90 ของคนในประเทศติดเชื้อ เพราะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ตามธรรมชาติ และโรคนี้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นเหมือนโรคไข้หวัดใหญ่

เราต้องยอมรับความจริงและทำใจวันหนึ่งคงติดเชื้อ ต่อให้มีการล็อกดาวน์ ป้องกันตัวเองเต็มที่ และฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม การฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อและการแพร่เชื้อ แต่ลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตได้มากถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้รับวัคซีน เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนรีบฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตเมื่อติดเชื้อไวรัสโควิด-19


ที่มา : https://www.facebook.com/604030819763686/posts/2004697906363630/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศว่า จีนจะจัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 2,000 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกภายในปี 2021

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศในวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.) ว่า จีนจะ ‘มุ่งมั่นพากเพียรเพื่อจัดส่ง’ วัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 2,000 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกภายในปี 2021 นี้ สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) รายงาน

รายงานของซีซีทีวีกล่าวอีกว่า ในสารที่เขาส่งไปให้แก่เวทีประชุมเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศเรื่องวัคซีนต่อสู้โควิด-19 ผู้นำสูงสุดของแดนมังกรผู้นี้ระบุด้วยว่า จีนยังจะบริจาคเงินเป็นจำนวน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่โครงการ ‘โคแวกซ์’ ซึ่งเป็นโครงการกระจายวัคซีนให้แก่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาประเทศกำลังพัฒนา

จีนนั้นได้จัดส่งวัคซีนเป็นจำนวนกว่า 770 ล้านโดสไปให้แก่ประเทศอื่น ๆ แล้ว คำแถลงฉบับหนึ่งที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศจีน อ้างอิงคำกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ซึ่งกล่าวต่อเวทีประชุมแห่งนี้ในวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.)

ด้าน ซิโนแวค ไบโอเทค หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของจีน ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ 20 ประเทศ เพื่อจัดส่งวัคซีนจำนวนเกือบ ๆ 900 ล้านโดส อิน เว่ยตง ประธานบริหารของบริษัท กล่าวเมื่อวันพฤหัสฯ ในคำปราศรัยต่อเวทีประชุม ทั้งนี้ตามร่างคำปราศรัยของเขาที่เผยแพร่โดยโฆษกของซิโนแวค

นอกเหนือจากจีนแล้ว พวกหุ้นส่วนของซิโนแวคใน อินโดนีเซีย, บราซิล, ตุรกี, มาเลเซีย, และอียิปต์ ก็จะเข้าร่วมในการผลิตวัคซีนเหล่านี้ด้วย อิน เว่ยตง กล่าวโดยที่ไม่ได้ระบุเจาะจงในเรื่องช่วงเวลาของการจัดส่ง

อิน เว่ยตง บอกอีกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ซิโนแวคจะยื่นเรื่องต่อหน่วยงานกำกับควบคุมในประเทศต่าง ๆ เพื่อขออนุญาตดำเนินการทดสอบทางคลินิกและการนำมาใช้ในภาวะฉุกเฉิน สำหรับวัคซีนเวอร์ชันใหม่ของบริษัทรวม 2 เวอร์ชัน ซึ่งปรับปรุงขึ้นมาเพื่อไว้ต่อสู้กับไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา และสายพันธุ์แกมมา

อนึ่ง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมฉุกเฉินทางออนไลน์ในระดับประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) ประธานาธิบดีสี ได้สัญญาจะให้ความช่วยเหลือคิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ แก่ประเทศกำลังพัฒนาต่าง ๆ ในการต่อสู้กับโควิด-19 โดยเงินก้อนนี้มุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือบรรดาชาติกำลังพัฒนา ให้ฟื้นตัวจากผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจสืบเนื่องจากโรคระบาดใหญ่นี้

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ของจีนมีขึ้น ขณะที่ทางฝ่ายสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า สหรัฐฯ ได้บริจาควัคซีนจำนวนกว่า 100 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่าง ๆ แล้ว

นอกจากนั้น ในช่วงต่อไปของเดือนนี้ วอชิงตันยังจะเริ่มจัดส่งวัคซีนของไฟเซอร์เพิ่มเติมอีก 500 ล้านโดส ไปให้แก่พวกประเทศรายได้ต่ำ 100 ประเทศ ตามที่ได้ให้สัญญาไว้อีกด้วย


ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9640000076933

รอยเตอร์/เอเอฟพี


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top