Monday, 19 May 2025
NewsFeed

เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แก้วนพคุณ ร่วมสู้โควิด เปลี่ยนศาลาวัดเป็น รพ. สนาม รองรับผู้ป่วยติดเชื้อ

8 ก.ค. 64 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้รับมอบหมายจาก นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ อาคารธนาคมานุสรณ์ วัดโพธิ์แก้วนพคุณ ต.บางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูสุนทรพัฒนาลังการ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แก้วนพคุณ เจ้าคณะตำบลจักสีห์เขต 2 อนุเคราะห์มอบสถานที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของจังหวัดสิงห์บุรี

เนื่องจากจังหวัดสิงห์บุรี พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น และจังหวัดสิงห์บุรี ยังมีโครงการ “คนสิงห์ไม่ทิ้งกัน” โดยต้อนรับชาวสิงห์บุรีที่ติดเชื้อโควิด-19 จากจังหวัดต่าง ๆ กลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนา จึงทำให้ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ซึ่ง ณ ขณะนี้มีผู้ป่วยที่กำลังรักษาอยู่จำนวน 108 ราย และศักยภาพของสถานบริการในการรับผู้ป่วยของจังหวัดสิงห์บุรี โรงพยาบาลสิงห์บุรี 72 เตียง โรงพยาบาลอินทร์บุรี 32 เตียง โรงพยาบาลท่าช้าง 50 เตียง โรงพยาบาลพรหมบุรี 40 เตียง และเตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง คือ วัดโพธิ์แก้วนพคุณ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการเมื่อมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เต็ม 155 เตียง

สำหรับ อาคารธนาคมานุสรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของวัดโพธิ์แก้วนพคุณ เป็นอาคาร 2 ชั้น แบ่งเป็นชั้นบนผู้ป่วยหญิง 50 คน ชั้นล่างผู้ป่วยชาย 50 คน และมีห้องน้ำทั้ง 2 ชั้น โดยสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 100 เตียง อีกทั้งยังมีห้องแยกให้กับเจ้าหน้าที่พยาบาลในการดูแลผู้ป่วยอีกด้วย ด้านพระครูสุนทรพัฒนาลังการ ได้กล่าวว่า “ท่านถือคติว่า “คนสิงห์ต้องไม่ทิ้งกัน” เมื่อถึงยามวิกฤตแม้จะเป็นเพียงวัดวาอาราม ท่านก็พร้อมที่จะสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ทางด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้สั่งการให้ รองผู้ว่าฯ ฝ่ายปกครอง อส. ช่วยกันขนเตียงไม้และเตียงลังกระดาษ มาจัดสถานที่ให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ อีกทั้งยังมีพระภิกษุในวัดโพธิ์แก้วนพคุณช่วยกันขนของอย่างขะมักเขม้น พร้อมมีเจ้าหน้าที่ติดตั้งกล้องวงจรตามจุดต่าง ๆ เพื่อการดูแลผู้ป่วยอย่างทั่วถึงของเจ้าหน้าที่พยาบาล โดยโรงพยาบาลสนามที่ชาวสิงห์บุรี เรียกร้องถามหาวันนี้ได้เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว และพร้อมที่จะรองรับผู้ป่วยเมื่อเกิดภาวะเตียงเต็มที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ได้ทันที

 

 

ที่มา : https://www.naewna.com/likesara/586014


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘บิ๊กป้อม’เร่งแก้ปัญหาจราจร เห็นชอบโครงการก่อสร้าง"สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แยกเกียกกาย"  มุ่งเลี่ยงผลกระทบ/เสริมภูมิทัศน์ อาคารรัฐสภาแห่งใหม่

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย ครั้งที่ 1/2564  โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มท. เข้าร่วมประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ณ  ห้องประชุม 301  ตึกบัญชาการ 1  ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุมได้รับทราบ ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย ซึ่งกทม.ได้ดำเนินโครงการ โดยทำการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียด พร้อมรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน และจากประชาชนแล้ว  เนื่องจากปัจจุบัน กทม.มีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 10 สะพาน มีผู้ใช้ยวดยาน วันละประมาณ 8 แสนคันในชั่วโมงเร่งด่วนเวลาเช้า มีความต้องการเดินทางมากถึง 36,000 คัน/ชั่วโมง แต่ความจุสะพานรองรับได้เพียง 30,000 คัน/ชั่วโมง ทำให้ปริมาณการจราจรที่ต้องการสัญจร เกินความจุของสะพานที่จะรองรับได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็น ที่จะต้องสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มเติม ซึ่งสะพานดังกล่าว นับเป็น 1 ใน 8 โครงการของการพิจารณาโครงข่ายคมนาคมขนส่ง เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพการจราจร และรองรับการเข้า-ออก อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยจะสามารถช่วยให้การจราจรในภาพรวมมีความคล่องตัว มากยิ่งขึ้น

จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณา เห็นชอบการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย ซึ่ง กทม.ได้เสนอรูปแบบการก่อสร้าง(ทางเลือกที่ 1) โดยคำนึงถึงความพยายามหลีกเลี่ยงการบดบังความสง่างาม และส่งเสริมภูมิทัศน์ ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมปฏิบัติตามผลการศึกษาในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างเคร่งครัด ต่อไป

พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่สำคัญเร่งด่วน ลำดับแรก ของรัฐบาล เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการจราจร/การขนส่ง ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จึงกำชับให้ กทม.เร่งนำเสนอนายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน ต่อไป

สิงโตคำราม ทำได้ อังกฤษ 1-1 เดนมาร์ก

ผลฟุตบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ

อังกฤษ 1-1 เดนมาร์ก (ต่อเวลาพิเศษอังกฤษชนะ 2-1)

โดยนัดนี้ เดนมาร์ก ได้ประตูออกนำไปก่อน จากลูกฟรีคิกสุดสวยของ มิเกล ดรัมส์การ์ด ในนาทีที่ 30 ก่อนที่ อังกฤษ จะตามตีเสมอได้ จากการทำเข้าประตูตัวเอง ของ ซิมง เคียร์ กัปตันทีม ในนาทีที่ 39 แม้ครึ่งเวลาหลังอังกฤษจะโหมบุกอย่างหนัก แต่ไม่สามารถส่งบอลผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไปได้ จบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องสู้กันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ และเป็นฝ่ายอังกฤษ ที่มาได้จุดโทษ แม้ว่า แฮร์รี่ เคน จะวิ่งไปติดเซฟ ชไมเคิ่ล แต่ก็ตามซ้ำเข้าไปได้ ทำให้อังกฤษขึ้นนำ จากนั้นไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลา อังกฤษ เฉือน เดนมาร์ 2-1 เข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร เป็นครั้งแรก


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สิระ’ ตื่นมาน้ำตาไหล เห็นข่าวคนตายจากโควิดเพิ่ม เสนอ ล็อกดาวน์สภา เหตุเป็นที่รวมคนหมู่มากในการประชุม หวั่นติดเชื้อเพิ่ม

เมื่อเวลา 09.05 น. วันที่ 8 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์การคนติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ตนตื่นขึ้นมาเห็นข่าวคนไทยมีผู้ติดโควิด-19 7 พันกว่าราย เสียชีวิต 75 ราย ตนในฐานะผู้แทนราษฎรตื่นมาน้ำตาไหล เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ไม่ได้รับการเข้าถึงสาธารณสุขใช่หรือไม่ ถึงเวลาหรือยังที่ศบค.ต้องออกมาชี้แจงกับประชาชนว่าจะบริหารเรื่องนี้อย่างไร จะประกาศล็อกดาวน์หรือไม่ หากไม่ล็อกดาวน์มีเหตุผลอะไร จะยับยั้งความสูญเสียของประชาชนคนไทยได้อย่างไรบ้าง ขอให้คำนึงถึงความเดือดร้อนประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ต้องเกรงใจใคร เมื่อคืนนี้มีคนไปนอนรอตรวจโควิดที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งแต่ 21.00 น. เกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองนี้ ปล่อยให้คนไทยไปนอนรอกว่าจะได้ตรวจไม่รู้กี่โมง และวันนี้จะได้ตรวจหรือไม่ สภาผู้แทนราษฎรก็ได้ผ่านพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทแล้วก็นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

‘ผมขอเสนอให้ล็อกดาวน์สถานที่แห่งแรกควรจะเป็นที่รัฐสภา เพราะมีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาจำนวนมาก จะเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่หรือไม่ เอาแค่ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาก็เพียงพอ ที่ผ่านมาวิป 3 ฝ่าย มีข้อสรุปแล้วว่าให้งดประชุม โดยให้ประชุมเฉพาะกมธ.งบประมาณ แต่เมื่อวานนี้ก็มีกมธ.บางคณะที่ประชุมอยู่ วันนี้ก็ยังมีอีกที่ไม่ให้ความร่วมมือ หากไม่ประชุมจะสร้างความเสียหายถึงล่มสลายหรือไม่’ นายสิระ กล่าว

เมื่อถามว่าสำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 ของวันนี้ มีอะไรอยากฝากถึงนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า นายอนุทินตนไม่ฝาก เพราะมีคนไปหาที่กระทรวงหลายคณะแล้ว การเป็นสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้บริหารต้องฟังเสียงประชาชน และนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลและตัดสินใจบริหารประเทศ

เมื่อถามว่าล็อกดาวน์ที่สภาหมายความว่าอย่างไร นายสิระ กล่าวว่า หากไม่มีญัตติที่สำคัญและหากเว้นการประชุมไปสัก 2-3 สัปดาห์แล้วไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ก็เลื่อนประชุม แต่กมธ.งบประมาณมีเวลาจำกัดอยู่แล้วก็ให้ประชุมเฉพาะกมธ.งบ 65 ก็เพียงพอ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีความเห็นให้ ส.ส. ส.ว. สละเงินเดือนส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือประชาชน นายสิระ กล่าวว่า ตนเห็นด้วย และกำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูอยู่ว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ ตนกับเพื่อน ๆ ได้รวบรวมเงินก้อนหนึ่ง โดยจะไปติดต่อบริษัทที่นำเข้าวัคซีนเพื่อขอซื้อวัคซีนทางเลือกเหมือนที่โรงพยาบาลเอกชนนำเข้า ซึ่งจะนำมาฉีดให้ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถเข้าถึงวัคซีนได้เร็วที่สุด


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ชวน” เมิน ล็อกดาวน์สภา รอประเมินสถานการณ์เป็นระยะ

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้มีการล็อกดาวน์สภา ว่า ตนได้ไปเยี่ยมห้องอนุกรรมาธิการงบประมาณ 2565 พบว่ามีข้าราชการมารอชี้แจงจำนวนมาก ซึ่งก็น่าเป็นห่วงจึงมอบหมายให้เลขาสภาผู้แทนราษฎรไปติดตามเรื่องนี้ พร้อมกำชับว่าผู้ที่มาชี้แจงหรือผู้ติดตามให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาสภาได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงได้แต่ย้ำให้ระมัดระวัง รวมถึงสื่อมวลชนก็จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

เมื่อถามว่าสภาผู้แทนราษฎรยังเดินหน้าการประชุมใช่หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า มีการประชุมตามปกติแต่จะมีปัญหาอยู่หนึ่งเรื่องคือ การประชุมกฎหมายที่ค้างอยู่ เช่น พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งรัฐมนตรีได้มีการเร่งรัดให้แล้วเสร็จซึ่งก็จะนำไปหารือกับทุกฝ่าย ทั้งวุฒิสภา รัฐบาล และฝ่ายค้านว่าจะพร้อมในช่วงใด เพื่อขอเวลา 1 วัน ในการพิจารณาให้แล้วเสร็จ เพราะมีผู้รอใช้กฎหมายอยู่

เมื่อถามว่าศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำลังพิจารณาให้มีการล็อกดาวน์กทม. นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้จะพิจารณาเป็นระยะไป ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ที่วัคซีนไม่สามารถกระจายได้ทั่วประเทศ ตนจึงบอกตลอดว่าพวกเราต้องปฏิบัติตามมาตราการอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและลดจำนวนผู้ติดเชื้อ เพื่อลดภาระให้กลุ่มด่านหน้า แพทย์ และพยาบาล

เมื่อถามถึงการเสนอให้ตรวจสวอปบุคลากรในสภา นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ แต่ได้มอบให้เลขาสภาฯ ไปประเมินว่ามีความจำเป็นหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศธ. ลุยสร้างระบบดูแลสุขภาพจิตในสถานศึกษา เน้นใช้ Home room รับฟังเสียงสะท้อน หาต้นตอ แก้ไขภาวะเด็กเครียด!

นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือการจัดระบบดูแลสุขภาพจิตผู้เรียน (Learning support) ในสถานศึกษา ร่วมกับ นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ว่า การหารือดังกล่าวจะนำไปสู่การทำบันทึกข้อตกลง ร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์กรมหาชน) เพื่อขับเคลื่อนการดูแลลูกหลานนักเรียน นักศึกษา และผู้เรียน ด้วยเทคนิคการสะท้อนคิด (Reflection) โดยใช้ "อาข่าโมเดล" กรณีศึกษาดอยตุง (Home room) เพื่อรับฟังเสียงผู้เรียนของเรา ด้วยคำถาม 3 คำถาม ประกอบด้วย รู้สึกอย่างไร เรียนรู้อะไร และทำอย่างไรต่อ ซึ่งมีโรงเรียนที่นำไปใช้จนประสบความสำเร็จ อาทิ โรงเรียนมารีย์อนุสรณ์ จ.บุรีรัมย์ โรงเรียนบ้านตะโกล่าง จ.ราชบุรี เป็นต้น 

โดยความร่วมมือครั้งนี้ สอดคล้องกับงานของสำนักงาน กศน. ที่กระจายอยู่ในบริบทของชุมชนทั่วประเทศ และการพัฒนาศูนย์ Active center ที่คอยให้คำปรึกษาแนะนำกับนักศึกษาในเรื่องต่าง ๆ ต่อยอดไปสู่ศูนย์เรียนรู้ My care system เพื่อดูแลและรับฟังนักศึกษา จัดให้มีระบบคัดกรอง ระบบการส่งต่อ ระบบการบริหารจัดการ การพูดคุยและการพัฒนากิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักศึกษา กศน. ที่มิเพียงมุ่งเน้นแต่เรื่องความฉลาดทางด้านสติปัญญา (Intelligence Quotient :IQ ) เท่านั้น แต่จะมุ้งเน้นในการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient: EQ) ด้วย พร้อม ๆ กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สนับสนุนส่งเสริมลงสู่ระดับชุมชน เพื่อสร้างรูปแบบคุณธรรมจากแนวคิดการสะท้อนคิด จากครอบครัว ชุมชน และสังคมไปพร้อมกัน

ด้านนพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวว่า โดยในส่วนของความร่วมมือ ศูนย์คุณธรรมฯ มีตัวอย่างโรงเรียนคุณธรรมที่ประสบความสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว 2-3 แห่ง อาทิ โรงเรียนมารีย์อนุสรณ์ จ.บุรีรัมย์ ที่นำเทคนิคการสะท้อนคิดไปใช้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมทั้งระบบ ดังนั้น หากสำนักงาน กศน. จะนำไปใช้ ก็จะเกิดสู่เป็น ศูนย์เซ็นเตอร์ (Center) ที่สามารถเกื้อกูลกันด้วยความเข้าใจ เชื่อมโยงสู่คนในชุมชนตามบทบาทของ กศน. พัฒนาไปสู่ระบบธนาคารจิตอาสา ที่มีระบบบริหารจัดการ การบริการ มีระบบส่งต่อ ตลอดจนเป็นพี่เลี้ยง ที่ปรึกษา ของครูหรือบุคลากรที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เพื่อเปิดใจคุยกันระหว่างผู้เรียนและพี่เลี้ยง เมื่อเป็นดังนี้ได้ ก็จะเป็นบันไดก้าวแรก ในการยกระดับเป็น กศน.องค์กรแห่งคุณธรรม 

ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้จะแก้วิกฤติให้กลายเป็นโอกาส โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่แม้แต่ผู้ปกครอง ครู และตัวเด็กเอง ก็มีภาวะตึงเครียด ดังนั้น การนำเทคนิคการสะท้อนคิดดังกล่าว ด้วยคำถามเพียง 3 คำถาม เป็นเทคนิคที่สามารถปรับใช้ในสถานศึกษาทั่วประเทศ รวมทั้งครอบครัวและชุมชน และทำให้เราสามารถถอดรหัสความรู้สึกนึกคิดของเด็ก เป็นกระบวนการลดความตึงเครียดระหว่างกัน เริ่มจากการค้นหาจุดที่มีปัญหา เพื่อนำไปสู่การคลี่คลายสภาวะความตึงเครียด โดยสามารถใช้ในครอบครัว และในสถานศึกษา ด้วยวิธีโฮมรูม เพื่อรับฟังเสียงสะท้อน แทนการให้ข้อมูล และจะทำให้เราได้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ การได้รับอารมณ์และความรู้สึกของเด็กทั้งห้อง หรือแม้แต่พ่อแม่ ผู้ปกครองเอง ก็สามารถใช้คำถามเพื่อรับฟังความคิดของบุตรหลานได้เช่นกัน

“สำหรับที่มาของเทคนิค 3 คำถาม เกิดจากการถอดบทเรียนชาวอาข่า บนดอยตุง ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ขาดโอกาสในการเรียนหนังสือ แต่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข จึงถือว่าเป็นเทคนิคที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะในสถานกาณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นนี้ ซึ่งยังต้องเรียนรู้ผ่านออนไลน์ อาข่าโมเดลจึงเป็นอีกทางออก ที่จะช่วยลดภาวะความตึงเครียด หรือแม้ว่าจะยังมีความตึงเครียด ก็จะรู้สาเหตุ และใช้ความเป็นจิตอาสาในการแก้ปัญหาให้กันและกันต่อไป” นพ.สุริยเดว กล่าว


ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/108191

“สนธิญา” ร้อง กกต.ยุบเพื่อไทย กรณีให้ข้อมูลเท็จ  สร้างความเข้าใจเรื่องวัคซีนโควิดไม่ถูกต้อง ผิด ม.45 กม.พรรคการเมือง  

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสนธิญา  สวัสดี เดินทางมายื่นหนังสือต่อกกต. เพื่อขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย จากการกระทำการที่ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560  มาตรา 45  ของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย 3 คน ที่กระทำผิดมาตรา 45  และเป็นไปตามบทกำหนดโทษ ในมาตรา 92  (3) และ(4)  โดยขอให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิทางด้านการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยทั้งหมด  

นายสนธิญา กล่าวว่า การแถลงข่าวของ 3 คน  ประกอบด้วยการแถลงข่าวของ  น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย  ที่ระบุถึงวัคซีนแอสต้าเซเนก้าว่าขยะเขาคือสมบัติของเราในการแถลงข่าว ว่าวัคซีนแอสต้าเซนเนก้า ต่างประเทศเขาไม่ใช้แล้ว เป็นขยะที่เขาไม่รับ  แต่ทั้งที่วัคซีนแอสต้าเซนเนก้ายังเป็นวัคซีนหลักของประเทศเรา ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนไปแจ้ง ปอท.แล้ว  ซึ่งในเรื่องนี้ทางกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ระบุว่าวัคซีนแอสต้าเซเนก้า  มีคนจองมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมากว่า 3 พัน 9 ล้านโดส   การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลง ถือเป็นการใช้ความเท็จ ขัดต่อ  พ.ร.บ.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อร้ายแรง  ทำให้ประชาชนเกิดความกลัวในการที่จะไปฉีดวัคซีน

การแถลงของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานะหนี้ของประเทศ 9 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนร้อยละ 60  แต่จาการแถลงของกระทรวงการคลังระบุว่าหนีสาธารณะของประเทศไทยอยู่ที่ 8.8 ล้านล้านบาท และหนี้ครัวเรือนร้อยละ 8.1 การที่นายพิชัยพูด ที่พบว่าหนี้อีกกว่า 1 ล้านล้านบาท  เอามาจากไหน  เพราะอย่าลืมว่า 1 ล้านล้านบาทเท่ากับ ร้อยละ 40 ของรายจ่ายประเทศไทยทั้งประเทศ 1 ปี  การแถลงไม่ตรงกับความเป็นจริง ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้จึงถือว่าเป็นการก่อกวน ทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยในประเทศ  

และการที่นายอนุสรณ์  เอี่ยมสะอาด  แถลงว่ารัฐบาลชุดนี้จะปราบโกง  แต่พบพวกตัวเองโกงมากกว่าอีก  จึงขอถามกลับไปที่นายอนุสรณ์ว่าที่เคยแถลงมาเคยไปฟ้อง ไปร้อง ป.ป.ช หรือหน่วยงานไหนหรือไม่   หากพบทุจริตจะต้องไปร้องกับหน่วยงานต่างๆ ทุกแห่งอย่างที่ตนทำ  ไปร้องจนนายกฯอยู่ประเทศไทยไม่ได้เหมือนนายกฯทักษิณ และ นายกฯยิ่งลักษณ์  แต่เรื่องที่แถลงไม่เคยเห็นนำไปสู่การแจ้งความหรือดำเนินคดี  รวมทั้งข้อมูลการอภิปรายในสภาฯ ก็ไม่สามารถนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลได้ 
เพราะฉะนั้นการแถลงไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ซึ่งการแถลงของทั้ง 3 คน ที่แถลงในนามนักการเมืองและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา  45   และบทลงโทษตาม มาตรา 92  กกต.พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค   และในเรื่องลักษณะเช่นนี้จะใช้ตรวจสอบพรรคก้าวไกลต่อไปที่ให้ข้อมูลเท็จ   

นายสนธิญา  ยังเรียกร้องทุกพรรค ทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.โรคติดต่อ การจะให้ข้อมูลไปสู่ประชาชนน่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์  และเมื่อ 2 วันที่แล้วตนยังไปฉีดแอสต้าเซนเนก้า สิ่งเล่านี้อยากให้การแถลงข่าวเป็นประโยชน์ประชาชน อย่าก่อกวน แต่อ้างรัฐธรรมนูญให้สิทธิ 

“วันนี้การกระทำนั้นเป็นการก่อกวน แล้วทำให้ประชาชนคนไทย ไม่สงบเรียบร้อย และบางส่วนจึงเป็นที่มาของการไม่เข้าไปฉีดวัคซีน และเรียกร้องวัคซีนใหม่ แต่วัคซีนทุกๆตัวก็ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และผ่าน อย. และกรมการแพทย์ เพื่อให้เป็นวัคซีนที่เป็นประโยชน์กับประชาชน  ซึ่งผมก็ฉีดมาแล้ว ไม่มีผลกระทบ หรือฟี๊ดแบ๊คใดๆ”  นายสนธิญา กล่าว

“บิ๊กตู่”เรียกประชุม ศบค.ด่วนพรุ่งนี้ 10 โมงเช้า “ลือหึ่ง” ขอความร่วมมือปิดห้าง พิจารณาเรื่องการล็อกดาวน์ หากตัวเลขผู้ติดเชื้อทะยานถึงหลักหมื่น

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด 19 หรือ ศบค.แจ้งว่าจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากทุกวัน ส่งผลให้มีกระแสข่าว แพร่สะพัดเรื่องการประกาศล็อคดาวน์ประเทศ รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิวส์ มาใช้อีกครั้ง ทำให้พ่อค้า แม่ค้าตื่นตระหนก ว่าสถานการณ์จะต้องกลับไปเหมือนเดิมอีกครั้ง คือต้องหยุดกิจการ ร้านค้าอีก ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวเตรียมความพร้อมในการปรับวิถีชีวิต รวมกันทั้งเริ่มมีการตุนเสบียงอาหารสดกัน 

ล่าสุดมีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เรียกประชุมด่วนศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) 
ผ่านระบบ Video Conference เพื่อประเมินสถานการณ์ และคาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องล็อคดาวน์ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันอังคารที่ 13 ก.ค ทันที โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่าจะมีการพิจารณาในส่วนของห้างสรรพสินค้าที่อาจจะขอความร่วมมือให้ปิดบริการระยะหนึ่ง

ส่วนบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบตามปกติ เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ยังคงเดินทางมาเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล  พร้อมกัน 

“บิ๊กป้อม”โยน รอฟังศบค.เคาะ “ล็อก? ไม่ล็อกดาวน์”

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากเวลานี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิตสูงต่อเนื่อง ว่า"รอประชุมๆ" เมื่อถามว่าจะมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. ในวันที่ 9 ก.ค.นี้เลยหรือไม่ พล.อ.กล่าวว่า "ก็ไม่รู้"  ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีแนวโน้มจะล็อกดาวน์ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ส่ายศีรษะก่อนจะเหลียวมามองผู้สื่อข่าว และกล่าวว่า "ก็ไม่รู้" 

ในหลวง พระราชทานกระบือไทยให้ ทบ. เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์ 

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำเนินโครงการ “อนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย” เพื่อเพิ่มจำนวน พัฒนาสายพันธุ์ ส่งเสริมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อันจะยังประโยชน์ให้กับพสกนิกรในการอนุรักษ์กระบือไทยเพื่อการเกษตร ต่อยอดสู่การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งโครงการได้เริ่มดำเนินการเมื่อกุมภาพันธ์ 2564 นอกจากนี้ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ไถ่ชีวิตกระบือ และพระราชทานให้กับเกษตรกร หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งกองทัพบก นำไปพัฒนาต่อยอดขยายพันธุ์ตามพระราชประสงค์

โดยที่ โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก จ.นครนายก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เข้ารับพระราชทานกระบือที่ทรงไถ่ชีวิต จำนวน 4 ตัว โดย พลเอก ศิวะ ภระมรทัต ผู้อำนวยการกองกำลังจิตอาสาพระราชทาน/รองหัวฝ่ายอำนวยการกิจกรรมอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย เป็นผู้เชิญบัตรประจำตัวสัตว์ โดยกองทัพบกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานกระบือทรงไถ่ชีวิตดังกล่าว โดยจะนำไปเลี้ยงดูและปรับปรุงพันธุ์ รวมทั้งจัดทำเป็นสถานที่เรียนรู้สำหรับเกษตรกรตลอดจนประชาชนที่สนใจในอาชีพการเลี้ยงกระบือ ได้มาศึกษาดูงานและเรียนรู้ เพื่อให้การพัฒนากระบือไทยได้เผยแพร่ออกไปสู่เกษตรไทยในวงกว้าง ทั้งนี้ กองทัพบกได้มอบให้กรมการสัตว์ทหารบกรับผิดชอบดำเนินการ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ต่อไป

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top