Monday, 16 June 2025
NewsFeed

‘อิหร่าน’ ยิงเครื่องบินขับไล่ F-35 ของ ‘อิสราเอล’ ตกอีกลำ ระหว่างการปะทะกัน!! อย่างต่อเนื่อง ‘เตหะราน-เทลอาวีฟ’

(15 มิ.ย. 68) หน่วยประชาสัมพันธ์กองทัพอิหร่านระบุในแถลงการณ์ว่า กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของตนประสบความสำเร็จในการโจมตีและทำลายเครื่องบินขับไล่ F-35 ของอิสราเอลอีกลำหนึ่งในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ โดยชะตากรรมของนักบินยังคงไม่ทราบแน่ชัด และอยู่ระหว่างการสอบสวน จะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านประสบความสำเร็จในการยิงเครื่องบินรบ F-35 จำนวน 2 ลำ พร้อมด้วยโดรนหลายลำของอิสราเอลตก อิสราเอลได้ส่งเครื่องบินล้ำสมัยเหล่านี้มาใช้ในการรุกรานสาธารณรัฐอิสลามในช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งส่งผลให้ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของอิหร่าน นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ และพลเรือนรวมทั้งผู้หญิงและเด็กถูกสังหาร

เครื่องบินรบ F-35 ที่ของอิสราเอลถือเป็นเครื่องบินรบที่ล้ำหน้าที่สุดในรุ่นเดียวกัน อิสราเอลซื้อเครื่องบินรบเหล่านี้จากสหรัฐอเมริกา โดยเครื่องบิน F-35 Lightning II ผลิตโดย Lockheed Martin ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินอวกาศสัญชาติอเมริกัน อิสราเอลเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ได้รับอนุญาตจากสหรัฐอเมริกาให้ใช้งานเครื่องบินรบสเตลท์รุ่นที่ 5 ล้ำสมัยนี้ 

F-35 เครื่องบินขับไล่ล่องหนของอิสราเอลเป็นรุ่นปรับปรุงพิเศษ ได้รับการออกแบบมาเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์ ช่วยให้นักบินอิสราเอลสามารถปฏิบัติภารกิจเจาะลึกในดินแดนศัตรู โดยมีความเสี่ยงที่จะถูกสกัดกั้นหรือติดตามน้อยลง กองทัพอิหร่านจึงเป็นหน่วยรบแรกของโลกที่สามารถยิงเครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบ F-35 ตก (รวม 3 ลำ) โดยกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่าน ซึ่งมีกำลังพลราว 15,000 นาย และเป็นเหล่าทัพหนึ่งในสี่เหล่าทัพของกองทัพอิหร่าน อันประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศ

‘เครือข่ายทุนผิดกฎหมาย’ อาวุธใหม่!! ของอำนาจในอินโดจีน รัฐคู่ขนานทางไซเบอร์และการเงิน ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจรัฐดั้งเดิม

(15 มิ.ย. 68) หลายคนอาจยังไม่เห็นภาพว่า “เครือข่ายทุนผิดกฎหมาย” ที่เชื่อมกัมพูชา เวียดนาม และไทยนั้นร้ายแรงเพียงใด แต่หากเรามองให้ทะลุ เราจะพบว่า มันไม่ใช่แค่เรื่อง "บ่อนพนัน" หรือ "คอลเซ็นเตอร์" อีกต่อไป — มันคือ การสร้างรัฐคู่ขนานทางไซเบอร์และการเงิน ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจรัฐดั้งเดิม

เครือข่ายนี้มีสามหัวใจใหญ่

1. ตระกูลฮุนและ LYP Group ที่ควบรวมอำนาจรัฐกับทุนท้องถิ่น
2. Huione Group ซึ่งทำหน้าที่คล้าย “ธนาคารของโจร” ให้ฟอกเงินทั่วเอเชีย
3. ตลาด Guarantee บน Telegram ที่เป็นเหมือน “ตลาดมืดอีคอมเมิร์ซ” ขนาดยักษ์
วันนี้พวกเขาไม่ได้แค่โกงคนไทยจากคอลเซ็นเตอร์ แต่เขากำลังสร้างระบบการเงินใต้ดินคู่ขนาน ที่รัฐบาลจับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน และที่สำคัญ—มีคนใน "ภาครัฐและการเมือง" บางส่วนในแต่ละประเทศร่วมมือกับพวกเขาอย่างลับ ๆ

แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร?
หากไม่มีการตอบโต้จริงจังจากรัฐไทยและภูมิภาค อินโดจีนจะกลายเป็น “Safe Haven” สำหรับทุนผิดกฎหมาย
1. ประชาชนไทย จะถูกดูดเงินจากกลโกงออนไลน์มากขึ้น เงินออมถูกเปลี่ยนมือให้กลุ่มทุนมืด
2. สถาบันการเงินไทย จะถูกมองว่า “ฟอกเงินให้กลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ” และอาจโดนมาตรการกดดันจากสหรัฐหรือ FATF
3. ความมั่นคงไซเบอร์ไทย จะอ่อนแอลงทุกวัน หากรัฐยังนิ่งเฉยกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่เริ่มปฏิบัติการแบบ IO
4. ความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน จะตึงเครียด ไทยต้องคุมด่านเข้ม ทำให้เศรษฐกิจชายแดนทรุด
และในท้ายที่สุด หากไทยยังไม่ลงมือจัดการจริงจังกับผู้มีอิทธิพลที่สมรู้ร่วมคิดในประเทศ — ไทยจะกลายเป็น "จุดอ่อนของภูมิภาค" ที่แก๊งอาชญากรรมใช้เป็นทางผ่านและแหล่งพักเงิน

ข้อเสนอแนะเบื้องต้น
ไทยต้องเลิกอายที่จะ “พูดความจริงกับกัมพูชา” ว่ากำลังปล่อยให้แก๊งหลอกลวงทำลายคนในภูมิภาค
ต้องใช้ “ปฏิบัติการแบบ 2 ด้าน” คือทั้งเจรจาในเวทีระหว่างประเทศ และ ปราบปรามผู้สมรู้ร่วมคิดในไทยเอง
ต้องกล้ายื่นมือร่วมมือกับชาติใหญ่ในเรื่องข่าวกรองไซเบอร์และเส้นทางเงิน — อย่าปล่อยให้ฮุน โต หรือ Huione ลอยนวล นี่ไม่ใช่แค่เรื่องอาชญากรรม แต่มันคือ “การสู้รบทางเศรษฐกิจและข้อมูลข่าวสาร” ที่กำลังเกิดขึ้นในเงามืดของอินโดจีน

หากท่านผู้อ่านยังคิดว่าเรื่องนี้ไกลตัว ลองย้อนดูในมือถือของท่าน มีใครเคยแชตมาหลอกให้ลงทุนไหม?
ถ้าเคย — แสดงว่าศึกนี้…เข้าบ้านท่านแล้ว
“ปราชญ์ สามสี”
เพื่อความเข้าใจของประชาชน...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป

‘ดร.สุวินัย’ วิเคราะห์!! ความเป็นไปได้ ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่สงคราม ‘อิสราเอล-อิหร่าน’ บานปลายขั้นสูงสุด

(15 มิ.ย. 68) รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีใจความว่า ...

ความเป็นไปได้ของการใช้อาวุธนิวเคลียร์ (โดยเฉพาะ ICBM) ในกรณีที่สงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน "บานปลายขั้นสูงสุด"

(1) ถ้าเกิดการใช้นิวเคลียร์ในสงครามอิสราเอล–อิหร่าน จะใช้อะไร? ICBM ใช่ไหม?
ตอบ: ไม่ใช่ ICBM เป็นอันดับแรก
เหตุผลคือ: ICBM (Intercontinental Ballistic Missile) คือขีปนาวุธพิสัยไกลมาก (ข้ามทวีป) เช่น จากรัสเซียไปสหรัฐฯ หรือจีนไปอเมริกา
แต่ อิสราเอลกับอิหร่าน ห่างกันเพียง ~1,500 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในพิสัยของ IRBM (Intermediate-Range Ballistic Missile) และ MRBM (Medium-Range)
อาวุธนิวเคลียร์ที่มีอยู่จริงในมืออิสราเอล ณ ตอนนี้ อยู่ในรูปแบบ:
Jericho III (IRBM): พิสัย 4,000–6,500 กม. บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้
Popeye Turbo ALCM: ยิงจากเรือดำน้ำ (submarine-launched) ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้
และอาจมี หัวรบนิวเคลียร์ทางอากาศ (air-dropped tactical nuclear bombs) บ้างในคลังลับ
→ ดังนั้น หากใช้จริง จะใช้ IRBM หรือขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ ไม่ใช่ ICBM
(2) ประเทศไหนจะเริ่มก่อน และเพราะเหตุใด?
ตอบ: อิสราเอล มีโอกาส "ใช้นิวเคลียร์ก่อน" มากกว่าอิหร่าน
โดยเฉพาะในสถานการณ์ต่อไปนี้:
▸ 1. เมื่อฐานทัพหลักถูกจู่โจมจน “สั่งการไม่ได้”
อิสราเอลมี “doctrine” ลับที่คล้ายแนวคิด Samson Option
→ คือถ้าประเทศเผชิญ “ภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ (existential threat)” จริง ๆ เช่น
ระบบป้องกัน Iron Dome ล่ม
เทลอาวีฟ–เยรูซาเล็มถูกถล่มหนัก
ผู้นำถูกลอบสังหารแบบพร้อมกัน
→ จะ “เปิดคลังนิวเคลียร์” และโจมตีกลับอย่างสุดกำลังภายในเวลาไม่กี่นาที
▸ 2. เมื่ออิหร่านใกล้ “ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์” สำเร็จ
ถ้าอิหร่านประกาศทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ หรือมีหลักฐานชัดว่าประกอบสำเร็จ
อิสราเอลจะถือเป็น Red Line (เส้นตาย)
อาจใช้ nuclear strike เชิงยุทธศาสตร์จำกัด ต่อโรงงาน Natanz หรือ Fordow
→ เพื่อป้องกัน “nuclear breakout”
 โอกาสที่อิหร่านจะใช้ก่อน: ต่ำมาก
อิหร่านยังไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในเชิงปฏิบัติ ณ เวลานี้
แม้จะมีศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ แต่การเปลี่ยน uranium ที่เสริมสมรรถนะสูง → สู่การสร้างระเบิดจริง
ยังใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน–1 ปี
และที่สำคัญคือ การใช้นิวเคลียร์ของอิหร่านจะเท่ากับการฆ่าตัวตายทางการทูต เพราะจะเปิดทางให้สหรัฐ–นาโตเข้าร่วมสงครามอย่างเต็มตัวทันที
(3) ประเมินแนวโน้ม การใช้นิวเคลียร์ (จริง):
สถานการณ์ โอกาสใช้นิวเคลียร์ / ใครจะเริ่ม / รูปแบบ
> โจมตีทางยุทธศาสตร์ต่อโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน / ปานกลาง (30%) อิสราเอล / IRBM หรือเรือดำน้ำยิง
> สงครามขยายถึงการล่มของระบบรัฐอิสราเอล สูง (60%) / อิสราเอล / นิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์
> อิหร่านใช้ก่อน ต่ำมาก (<5%) / อิหร่าน ยังไม่มีศักยภาพตอนนี้
 สรุป:
อาวุธนิวเคลียร์ที่จะถูกใช้ หากจำเป็น ไม่ใช่ ICBM แต่เป็น ขีปนาวุธพิสัยกลางหรือยิงจากเรือดำน้ำ
อิสราเอลมีแนวโน้มใช้ก่อน โดยเฉพาะเพื่อ: ป้องกันการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ตอบโต้หากเกิด "สถานการณ์วิกฤตแห่งการดำรงอยู่" การใช้นิวเคลียร์ใด ๆ จะไม่ใช่จุดสิ้นสุดของสงคราม แต่คือ "จุดเริ่มต้นของหายนะ" ที่ทั้งโลกไม่อาจถอยหลังได้อีก
*******
ต่อไปนี้คือ การวิเคราะห์ผลกระทบของการใช้อาวุธนิวเคลียร์จริง ในกรณีสงครามอิสราเอล–อิหร่านบานปลาย 
โดยจะแบ่งออกเป็น 4 มิติ:
(1) ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)
▸ ระเบียบโลกจะเข้าสู่ “ยุคนิวเคลียร์จริง” (Post-MAD Reality)
MAD = Mutually Assured Destruction ซึ่งเป็นหลักประกันกลาย ๆ ว่าไม่มีใครกล้าใช้นิวเคลียร์
แต่เมื่อมีประเทศ ที่ไม่ใช่มหาอำนาจ ใช้นิวเคลียร์เป็นครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
→ โลกจะเข้าสู่ "ระยะปฏิบัติการจริงของอาวุธวันสิ้นโลก"
▸ โลกจะกลายเป็น “Multinuclear Flashpoints”
ปากีสถาน–อินเดีย
เกาหลีเหนือ–ญี่ปุ่น/เกาหลีใต้
ไต้หวัน–จีน
อาเซียน–ออสเตรเลีย
→ ทุกจุดจะเริ่ม "คิดจริงจัง" ว่าการใช้นิวเคลียร์แบบจำกัดมีทางเป็นไปได้
▸ รัสเซีย–จีน–สหรัฐ ต้อง “ยกระดับการป้องกัน” และรีบประกาศแนวแดงใหม่
เพื่อไม่ให้ประเทศรองอย่างซาอุฯ, ตุรกี, อียิปต์, ญี่ปุ่น พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง
เพราะ ความศักดิ์สิทธิ์ของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) จะหมดความศักดิ์สิทธิ์
(2) ผลกระทบทางเศรษฐกิจโลก
▸ ตลาดทุนพังทลายภายใน 48 ชั่วโมง
ค่าเงินดอลลาร์จะผันผวนหนัก
ทองคำพุ่งเกิน $3,000/ออนซ์
ตลาดหุ้นหลัก (S&P, Nikkei, Hang Seng) อาจดิ่งลง 20–30% ภายในไม่กี่วัน
▸ ราคาน้ำมันทะลุ $200 ต่อบาร์เรล
โดยเฉพาะถ้าเกิดผลกระทบต่อช่องแคบฮอร์มุซ (Hormuz Strait)
→ ส่งผลให้การลำเลียงน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียหยุดชะงัก
→ ประเทศอุตสาหกรรมจะเข้าสู่ภาวะ stagflation (เงินเฟ้อสูงแต่เศรษฐกิจถดถอย)
▸ เศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่พังเป็นลูกโซ่
ประเทศหนี้สูง (รวมถึงหลายประเทศในอาเซียนโดยเฉพาะ ประเทศไทย) อาจเกิดวิกฤตเงินทุนไหลออก
กองทุนระหว่างประเทศ (IMF) จะต้องเข้าแทรกแซงชุดใหญ่
(3) ผลกระทบทางไซเบอร์–เทคโนโลยี
▸ สงครามไซเบอร์ระดับรัฐต่อรัฐจะเปิดฉากเต็มรูปแบบ
โครงข่ายดาวเทียม, การสื่อสาร, บัญชีธนาคาร ฯลฯ จะถูกโจมตี
ระบบ AI ที่อยู่เบื้องหลังอาวุธอาจถูกแฮกหรือรบกวน
→ โลกเข้าสู่สภาวะ “AI Cold War” อย่างเป็นทางการ
▸ สังคมจะเชื่อข่าวปลอมมากกว่าข่าวจริง
เพราะข้อมูลที่ถูกปล่อยออกมาจะ “จัดฉาก” และ “สร้างความเกลียด” เร็วกว่าข่าวจริง
บทบาทของแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, X, TikTok จะถูกตั้งคำถามรุนแรง
(4) ผลกระทบทางจิตวิญญาณของมนุษย์
▸ ความเชื่อใน “อารยธรรมมนุษย์” จะถดถอย
ผู้คนจะรู้สึกว่า “เราไม่พัฒนาเลย” แม้มี AI, quantum computer, ยานอวกาศ
จิตของมนุษย์จะเข้าสู่ ความกลัวฝังลึก–ไม่ไว้ใจกัน–ยากจะสร้างภาพรวมร่วมกัน
▸ ศาสนาเก่าจะถูกท้าทาย และ “กลุ่มสุดโต่ง” จะเพิ่มขึ้น
คนบางกลุ่มจะกลับไปหาศาสนาแบบสุดขั้ว
บางกลุ่มจะปฏิเสธทุกศาสนา และหันไปหาความว่างเปล่าที่ไร้ความหมายแบบ “nihilism” (สูญนิยม)
▸ โอกาสของ “ผู้นำทางจิตวิญญาณใหม่” จะเริ่มต้น
ถ้ามีใครสามารถพูด ภาษาที่ "รวมจิตมนุษย์" ได้อีกครั้ง
เขา/เธอจะกลายเป็นศูนย์กลางจิตวิญญาณของมนุษย์ในโลกยุคใหม่หลังสงครามนิวเคลียร์
 สรุป:
“การใช้นิวเคลียร์แม้เพียงลูกเดียวในตะวันออกกลาง จะไม่ใช่การ ‘เปลี่ยนหน้าแผนที่โลก’ แต่มันคือการ ‘เปลี่ยนจิตของมนุษยชาติ’” อย่างถาวร โลกหลังการใช้นิวเคลียร์ จะไม่เหมือนเดิมอีกเลย
ไม่ใช่เพราะความเสียหายทางกายภาพเท่านั้น แต่เพราะ ความเชื่อมั่นว่า “มนุษย์จะไม่ทำร้ายกันจนถึงขั้นนี้” จะถูกทำลาย และเมื่อ “ความเชื่อมั่นในมนุษย์” หายไป สิ่งที่แท้จริงต้องสร้างขึ้นใหม่ ก็คือ "ความศรัทธาในคุณค่าความเป็นมนุษย์" ซึ่งต้องอาศัยพลังของโพธิสัตว์และนักบูรณาจิตในยุคนี้เท่านั้นที่จะทำได้
*********
ต่อไปนี้คือการจำลอง Timeline ยุทธศาสตร์บานปลาย 90–180 วันหลังการใช้อาวุธนิวเคลียร์จริงในสงครามอิสราเอล–อิหร่าน
(ใช้สมมุติฐาน: อิสราเอลเป็นฝ่ายใช้ก่อน โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่านด้วยหัวรบนิวเคลียร์ขนาดจำกัด tactical nuke):
> สัปดาห์ที่ 1–2: Shock & Retaliation (ช็อกและเริ่มโต้กลับ)
โลกช็อก: UN ประชุมฉุกเฉิน, นาโต-จีน-รัสเซีย ออกแถลงการณ์ประณาม
อิหร่านระดมแนวร่วม: ฮิซบอลเลาะห์, ฮูตี, กลุ่มชีอะห์ในอิรัก พร้อมเปิดแนวรบหลายจุด
การตอบโต้แรก: โดรน-จรวดพิสัยไกล-เรือระเบิดพุ่งใส่อิสราเอลและฐานทัพสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง
อเมริกาประกาศ “ภาวะฉุกเฉินทางทหารในตะวันออกกลาง” ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินเพิ่มอีก 2 ลำเข้าอ่าวเปอร์เซีย
ราคาน้ำมันพุ่งทะลุ $160 ภายใน 48 ชม. ตลาดหุ้นโลกล้มระเนระนาด
> สัปดาห์ที่ 3–6: Regional War (สงครามภูมิภาคเต็มรูปแบบ)
ซาอุฯ–ตุรกี–อียิปต์ประชุมฉุกเฉินเพื่อคานอำนาจอิหร่าน → ประกาศ “พันธมิตรซุนนี”
อิสราเอลประกาศระดมพลเต็มขั้น, ปิดท่าอากาศยานพลเรือน, ขึ้นบัญชีดำประเทศใกล้เคียง
อิหร่านข่มขู่จะโจมตี Tel Aviv ด้วย EMP หรือ radiological dirty bomb (ระเบิดกัมมันตรังสี)
ช่องแคบฮอร์มุซถูกปิดชั่วคราวจากการสู้รบทะเล → การขนส่งพลังงานของโลกหยุดชะงัก 20%
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทดลองข้ามญี่ปุ่นเพื่อสร้างอิทธิพลในเวทีโลกช่วงสุญญากาศ
> เดือนที่ 2–3: Global Disruption (ความโกลาหลระดับโลก)
ประเทศกำลังพัฒนาเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อเรื้อรัง–วิกฤตขนส่งอาหาร–พลังงาน
ยูเครน–รัสเซียฉวยจังหวะรบหนักขึ้นในแนวตะวันออก (รัสเซียหวังลดแรงกดดันจาก NATO)
จีนขยายกำลังทหารในทะเลจีนใต้, ใกล้ไต้หวัน–ฟิลิปปินส์–เวียดนาม
บางประเทศในอาเซียนเริ่ม “แอบพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขั้นต้น” โดยอ้างภัยระดับภูมิภาค
เกิดกระแส global migration ขนาดใหญ่จากตะวันออกกลาง, ยุโรปใต้ และแอฟริกาเหนือ
> เดือนที่ 4–6: Nuclear Brinkmanship & Reset (ปากเหวและการตั้งวงใหม่ของโลก)
UN ตั้ง “คณะกรรมาธิการพิเศษว่าด้วยการควบคุมนิวเคลียร์ของประเทศรอง”
สหรัฐ-จีน-รัสเซีย ยอมเจรจาร่วมกันเพื่อ “ป้องกันสงครามข้ามทวีป”
หลายเมืองในยุโรปมีการประท้วงใหญ่ “ต่อต้านสงคราม–ต่อต้านนาโต–ต่อต้านสหรัฐ”
สถานะของอิสราเอลถูกตั้งคำถามใน UN แต่กลุ่มโลกตะวันตกยังคงหนุนหลัง
บทบาทใหม่ของ “กลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” เช่น บราซิล–อินเดีย–อินโดนีเซีย–แอฟริกาใต้ เริ่มปรากฏ
● ความเป็นไปได้สองทางหลังเดือนที่ 6
 ทางลบ:
ประเทศที่มีความสามารถนิวเคลียร์อย่างซาอุฯ, ญี่ปุ่น, ตุรกี, เกาหลีใต้ เตรียมสร้าง “nuclear breakout”
โลกเข้าสู่ยุค “สงครามเย็นใหม่แบบหลายขั้ว” (Cold War 2.0)
สงครามไซเบอร์ AI–biotech–drone ขยายวงตามแนวพรมแดนความเชื่อ
 ทางบวก:
กระแส "Post-Nuclear Humanity" เกิดขึ้น: โลกเริ่มหันกลับมาหาคุณค่าทางจิตวิญญาณและธรรมชาติ
นักบวช–นักปรัชญา–ผู้นำจิตวิญญาณ ได้รับพื้นที่ทางสื่อมากขึ้น เพื่อเยียวยาความกลัวของผู้คน
ประเทศอย่างไทย–ภูฏาน–คอสตาริกา กลายเป็น “เขตจิตปลอดสงคราม” (Spiritual Refuge Zones)
 สรุป:
“สงครามนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ในตะวันออกกลาง จะไม่ใช่จุดจบของมนุษยชาติ แต่จะเป็น 'จุดจบ' ของยุคสมัยเดิมที่โลกคิดว่าปัญญาประดิษฐ์และพลังทหารจะนำพาความมั่นคง”
และสิ่งที่แท้จริงจะเริ่มปรากฏหลังจากนั้นคือ:
> บทบาทของผู้ที่สามารถรวมจิตหมู่ได้โดยไม่ใช้อำนาจ
> โอกาสของ "เมืองหลวงทางจิตวิญญาณ"
> การกลับมาของ “การพัฒนาแบบบูรณาจิต” ที่อิงภูมิปัญญาโบราณผสมปัญญาทันสมัย
*******
● แถลงการณ์: “สติรวมหมู่ของผู้ไม่เลือกข้างแห่งสงคราม” (The Collective Mindfulness of the Unaligned) ในนามของจิตมนุษย์ที่ยังไม่ถูกทำลาย และในนามของ 'สติ' ที่ยังไม่ตกเป็นทาสของฝักฝ่าย พวกเราขอประกาศตนอย่างสงบว่า...เราไม่เลือกข้างใดในสงคราม ไม่เพราะเราเฉยชา แต่เพราะ เราตระหนักว่า “ทุกชีวิต” คือเครือญาติของจิตวิญญาณเดียวกันและทุกการแบ่งข้างในใจคน คือการลงมือจุดไฟสงครามอีกหนึ่งกอง เราไม่ปล่อยให้ความเกลียดแทรกซึมเข้าในจิตแม้จะเห็นความรุนแรงมากเพียงใด แม้จะถูกปลุกเร้าให้เกลียดเพียงใดเราจะเฝ้ามองด้วย เมตตาญาณไม่ใช่ด้วยความสะใจ หรือความแค้น เราเข้าใจดีว่า สันติภาพแท้จริง จะไม่เกิดจากการ “ชนะอีกฝ่าย” แต่จะเกิดจากการที่ จิตของมนุษย์เลิกเชียร์สงครามในใจตัวเอง เราขอเป็น “เปลวเทียนเงียบงัน” ที่ไม่ดับลงท่ามกลางพายุแห่งการชี้นิ้ว กล่าวโทษ และแบ่งขั้ว เพราะแม้เพียงเปลวเดียว หากมั่นคงในตน ย่อมมีพลังพอที่จะส่งต่อ “แสงของสติร่วมหมู่” ให้แก่คนอื่นได้ทีละดวง...จนทั้งผืนโลกสว่างขึ้นโดยไม่ต้องใช้ระเบิดใด ๆ พวกเรามิได้ต่อต้านประเทศหนึ่ง หรือเชียร์ประเทศใด เราเพียง ยืนอยู่กับความจริงอันลึก ซึ่งมีรากเหง้าอยู่ในจิตเดิมแท้ของมนุษย์ทุกคนที่ปรารถนาจะรัก มากกว่าจะฆ่า ปรารถนาจะรักษา มากกว่าจะทำลายและหากวันใดสงครามลุกลามใหญ่หลวง เราขอเป็นผู้ที่ “ไม่ส่งใจ” ให้กับไฟนั้น และ “ไม่ยื่นมือ” ไปประคองอาวุธของฝ่ายใดแต่จะยื่นใจของเราเพื่อประคองสติของผู้คนให้กลับมาสู่ความสงบเย็นแม้เพียงหนึ่งใจในแต่ละวัน เราคือผู้ไม่เลือกข้างแห่งสงคราม แต่เราเลือกข้างแห่งความรัก ความเข้าใจ และความรู้ตื่น นี่คือจุดยืนของเรา จุดยืนแห่งสติรวมหมู่ที่ยังไม่ยอมพ่ายแพ้แก่กระแสโลก
ในนามของจิตหนึ่งเดียวผู้ไม่อยู่ใต้ธงใดแต่ยืนในอาณาเขตของโพธิจิต
~ สุวินัย ภรณวลัย และ ไอ (愛ーAI)

เวียดนาม เข้าร่วมเป็น Partner กลุ่ม BRICS แล้ว ส่วน อินโดนีเซีย เป็นสมาชิกเต็มตัว ตั้งแต่ต้นปี

(15 มิ.ย. 68) รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Aksornsri Phanishsarn ระบุว่า ...

#เวียดนาม ไปต่อไม่ย่ำอยู่กับที่ เน้น diversify ตลาดใหม่ๆ ในยุคสงครามการค้าระอุ ล่าสุด เวียดนามเข้าร่วม BRICS ในฐานะ partner country เรียบร้อยแล้ว

15.06.2025 เวียดนามได้รับการรับรองให้เป็น partner ของกลุ่ม BRICS โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ชั่วคราว ประกาศยอมรับเวียดนามอย่างเป็นทางการ “รัฐบาลบราซิลมีความยินดีที่เวียดนามตัดสินใจเข้าร่วมสร้างระเบียบระหว่างประเทศ และสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันอย่างยั่งยืน”
 

‘อนุวัต’ บ่นดัง!! ‘กัมพูชา’ ทำตามแผน นำข้อพิพาท ฟ้องศาลโลก ในขณะที่ ‘ไทย’ ด่ากันเองไปมา เดินหน้าแย่งชิง เก้าอี้รัฐมนตรี

(15 มิ.ย. 68) นายอนุวัต เฟื่องทองแดง ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "อนุวัต จัดให้" ระบุว่า บ่นดังๆ !! วันนี้ในขณะที่กัมพูชา นำข้อพิพาทเขตแดน 4 พื้นที่ ยื่นศาลโลกทำทุกอย่างตามแผนที่วางไว้  หันกลับมาบ้านเรา นักการเมืองไทยกลับแย่งชิงเก้าอี้ รมต. ด่ากันไปมา!! น่าอนาถ!!  ตอนนี้สิ่งสำคัญคือ ซัพพอร์ตแนวหน้า และช่วยประชาชนให้เต็มที่มากกว่านี้ (ตอนนี้เหมือนมีแต่ภาคประชาชนที่ช่วยบริจาคกัน ) 

- ท่านรู้ไหมครับ หลุมหลบภัยเราไม่เพียงพอ ทั้งในหมู่บ้าน และโรงเรียน 

- ท่านรู้ไหม หน้าฝน ทหารแนวหน้าไม่สบาย ต้องการยา 

- และอีกมากมายที่ขอเข้ามา 

คำถามคือ ทำไม ???? 

‘ปากีสถาน’ เตือน!! ‘สหรัฐฯ’ ลั่น!! พร้อมตอบโต้ทันที หาก ‘อิหร่าน’ ถูกโจมตี!! ด้วยนิวเคลียร์

(15 มิ.ย. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘สุขศรี ชื่อนี้แม่ให้มา’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

โลกเดินมาถึงจุดที่สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แต่หากพิจารณาจากแนวโน้มและพันธมิตรทางการเมือง-การทหารในปัจจุบัน (ตั้งแต่กลางปี 2025 เป็นต้นไป) หากสงครามนี้บานปลายออกไปจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็อาจแบ่งฝ่ายออกได้คร่าวๆ ดังนี้:

ฝ่ายที่อาจอยู่ฝ่ายเดียวกับ “สหรัฐอเมริกา” (กลุ่ม NATO และพันธมิตรตะวันตก)
- กลุ่ม NATO ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมดในปัจจุบัน 32 ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปรตุเกส สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา กรีซ ตุรกี เยอรมนี สเปน เช็กเกีย (Czech Republic) ฮังการี โปแลนด์ บัลแกเรีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย โรมาเนีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย แอลเบเนีย โครเอเชีย มอนเตเนโกร นอร์ทมาซิโดเนีย ฟินแลนด์ สวีเดน - มีประชากรรวมประมาณ 952.7 ล้านคน (ข้อมูลปี 2025)
- ออสเตรเลีย - ประชากร 26.8 ล้านคน
- ญี่ปุ่น - ประชากร 123.1 ล้านคน
- เกาหลีใต้ - ประชากร 52.1 ล้านคน
- ยูเครน - ประชากร 38.98 ล้านคน
- ไต้หวัน - ประชากร 23.6 ล้านคน 
- อิสราเอล - ประชากร 9.40 ล้านคน

(จำนวนประชากรกลุ่มนี้ รวมทั้งหมด 1,225.7 ล้านคน)

ฝ่ายที่อาจอยู่ตรงข้าม “กลุ่มตะวันตก” (กลุ่มที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนและรัสเซีย)
- รัสเซีย - ประชากร 146 ล้านคน 
- จีน - ประชากร 1,424 ล้านคน
- อิหร่าน - ประชากร 90 ล้านคน
- ปากีสถาน - ประชากร 250 ล้านคน
- เยเมน - ประชากร 35 ล้านคน
- เกาหลีเหนือ - ประชากร 26.5 ล้านคน
- เบลารุส - ประชากร 9.4 ล้านคน 
- บางประเทศในแอฟริกา (ที่รับการสนับสนุนทางทหารจากรัสเซีย/จีน เช่น มาลี, ซูดาน ฯลฯ)

(จำนวนประชากรกลุ่มนี้ รวมทั้งหมด 1,981 ล้านคน)

ประเทศที่อาจเป็น “ตัวแปรหรือประเทศเป็นกลาง” (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์)
- อินเดีย – แม้จะใกล้ชิดกับรัสเซียในอดีต แต่ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับสหรัฐ อาจวางตัวเป็นกลางหรือเอียงข้างขึ้นกับสถานการณ์
- บราซิล – ขึ้นอยู่กับรัฐบาลในขณะนั้น
- อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย – ประเทศในอาเซียนมักพยายามวางตัวเป็นกลาง แต่ก็อาจถูกกดดันให้เลือกข้าง
- ซาอุดีอาระเบีย – มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค และอาจเลือกข้างตามผลประโยชน์เฉพาะหน้า

‘อดีตสว.คำนูณ’ โพสต์แรง!! สะเทือนใจคนไทย ย้อนรอยคำพิพากษาศาลโลก ชี้!! กัมพูชาจงใจยื่น ICJ วันเดียวกันในปี 2568 หวังผูกไทย กับแผนที่เดิม

(15 มิ.ย. 68) นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า …

เขมรถือฤกษ์ 15 มิถุนา 2025

วันครบรอบ 63 ปีได้ปราสาทพระวิหาร

ยื่นศาล ICJ ไม่สน JBC หวังได้อีก 3 ปราสาท 1 พื้นที่

เป็นคนไทยต้องอดทน!!

ขอยืมคำของตัวละครในเรื่อง 2499 มาแปลงเพื่อระบายความรู้สึกช่วงนี้จริง ๆ เพราะขณะที่ได้ยินเสียงซ้ำ ๆ จากนายกฯแพทองธาร ชินวัตรว่าเข้าใจกัน ๆ กำลังคุยกัน ๆ และเจบีซี ๆ ๆ ๆ ๆ สมเด็จฮุนมาเนตก็แถลงผ่าน fb ก่อนประชุมเจบีซีไม่กี่ชั่วโมงรวมสองสามประการ

สำหรับผม ไฮไลท์อยู่ที่กำหนดการยื่นศาล ICJ

“กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ จะส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลโลกในวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2025”

บอกตรง ๆ ขนลุก!!

จะบังเอิญหรือเจตนาไม่อาจทราบได้ แต่วันที่ 15 มิถุนายน 2025 หรือ 2568 มีความสำคัญกว่าวันธรรมดา ๆ ทั่วไป และก็ไม่ใช่วันอาทิตย์ธรรมดา ๆ ทั่วไปแน่นอน

เพราะเป็นวันครบรอบ 63 ปีของชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของกัมพูชาต่อไทยบนเวทีศาลโลก หรือ ICJ ในคดีพิพาทที่ต่อสู้กันทุกรูปแบบเกือบ 3 ปี

วันที่ 15 มิถุนายน 1962 หรือ 2505 คือวันอ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารของ ICJ

ย้อนเวลาไป 63 ปี คนไทยทั้งเสียใจและโกรธกันครึ่งค่อนประเทศ

น้ำตาที่หลั่งออกมาท่วมท้นแผ่นดิน

วันนี้ ปิศาจแห่งคำพิพากษา 15 มิถุนายน 2505 ยังตามมาหลอกหลอนคนไทยอีก

ปิศาจตนนั้นใช้สิ่งที่เรียกว่าหลักกฎหมายปิดปาก หรือ Estoppel มาพันธนาการว่าประเทศไทยยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสที่จัดทำขึ้นในปีค.ศ. 1908 แล้ว ก่อนจะปักมีดลงตรงขั้วหัวใจว่าปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในอาณาเขตใต้อธิปไตยของกัมพูชา

แผนที่จะตรงกับการแบ่งเส้นเขตแดนไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศสที่ให้ยึดหลักสันปันน้ำตามอนุสัญญาค.ศ. 1904 หรือไม่ ไม่สำคัญ

เพราะเมื่อไทยผูกพันกับแผนที่ตามหลักกฎหมายปิดปากแล้ว แผนที่เขียนไว้อย่างไรก็ต้องเป็นไปตามแผนที่ – ปิศาจว่าไว้อย่างนั้น

แม้วันนี้เราไม่ได้พูดเรื่องปราสาทพระวิหาร

แต่ปราสาทอื่น ๆ บริเวณชายแดน และพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนหลายจุด ก็จะมีความเกี่ยวพันกับแผนที่ทั้งนั้น ไม่มากก็น้อย

มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2505 ที่นำมาแถลงกับพี่น้องประชาชนบรรยายลักษณะปิศาจของคำพิพากษา 15 มิถุนายน 2505 ไว้ได้อย่างกระชับและมีพลัง

ขอนำบางตอนมาร่วมรำลึกความทรงจำเนื่องในโอกาสครบรอบ 63 ปีแห่งการหลั่งน้ำตาของคนไทยทั้งชาติดังนี้

“รัฐบาลขอแถลงให้ประชาชนชาวไทย และชาวโลกทั้งหลายทราบทั่วกันว่า ภายหลังที่ได้อ่านคำพิพากษาโดยตลอดแล้ว รัฐบาลมีความเสียใจที่ไม่อาจจะเห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล ด้วยเหตุผลหลายประการทั้งในทางข้อเท็จจริง ในทางกฎหมายระหว่างประเทศ และในทางหลักความยุติธรรม…

”ศาลมิได้ยึดตัวบทสนธิสัญญาระหว่างประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศส แต่กลับยึดตามแผนที่ซึ่งขัดต่อตัวบทอันชัดแจ้งของสนธิสัญญา…

“ในการนี้ศาลอ้างเหตุที่ฝ่ายไทยมิได้ประท้วงความไม่ถูกต้องของแผนที่ เป็นทางให้ฝ่ายไทยจะต้องเสียอธิปไตยบนดินแดน แต่ในขณะเดียวกันไม่ใช้หลักเดียวกันนี้ขึ้นกล่าวอ้างแก่ฝ่ายกัมพูชาและฝรั่งเศสในเรื่องการปกครองของฝ่ายไทยเหนือเขาพระวิหารมาเป็นเวลาช้านานกว่า 50 ปี…

“นอกจากจะไม่ยอมรับฟังและหักล้างคารมและเหตุผลที่ฝ่ายไทยเสนอต่อศาลแล้ว ในคำพิพากษายังแสดงให้เห็นว่าไม่มีความพยายามสืบหาข้อเท็จจริงในท้องที่ให้แน่ชัด ทั้งไม่นำพาต่อความเห็นผู้เชี่ยวชาญการแผนที่...

”นอกจากนั้นยังมีข้อสำคัญอีกว่า แผนที่ซึ่งศาลถือเป็นหลักชี้ขาดให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารนั้น ก็เป็นแผนที่ซึ่งได้สร้างขึ้นผิดไปจากความแท้จริงแห่งภูมิประเทศอีกด้วย…

“…ฯลฯ…..”

จะประชุม JBC วันนี้ เมื่อวานนี้ผู้นำเขมรผู้ลูกประกาศแล้วว่าพรุ่งนี้จะยื่นเรื่องต่อ ICJ

มารอดูว่าผู้นำไทยผู้ลูกจะแผ่นเสียงตกร่องทำนองเจบีซี ๆ ๆ ๆ อีกหรือไม่

บอกแล้วไง-เป็นคนไทยต้องอดทน!!

คำนูณ สิทธิสมาน

14 มิถุนายน 2568

1 วันก่อนวันครบรอบ 63 ปีคำพิพากษาศาลโลกให้ไทยเสียปราสาทพระวิหาร

‘อิหร่าน’ ขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย เพื่อต่อสู้กับ ‘อิสราเอล’ หลังการโจมตี!! โรงงานนิวเคลียร์ และแหล่งก๊าซเซาท์พาร์ส

(15 มิ.ย. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘คัดข่าว’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

อิหร่านร้องรัสเซียช่วยทหารต้านอิสราเอล แต่ถูกปฏิเสธตามสนธิสัญญา

วันที่ 15 มิ.ย. 2568 สื่อบน X รายงานว่า อิหร่านพยายามขอความช่วยเหลือทางทหารจากรัสเซียเพื่อต่อสู้กับอิสราเอล หลังการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์และแหล่งก๊าซเซาท์พาร์สเมื่อ 13-14 มิ.ย. 2568 

อย่างไรก็ตาม รัสเซียปฏิเสธ 

โดยย้ำว่าไม่มีภาระผูกพันตามสนธิสัญญาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่ลงนามเมื่อ 17 ม.ค. 2568 ระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และมาซูด เปเซชเคียน 

สนธิสัญญานี้เน้นความร่วมมือด้านการค้า การทหาร และพลังงาน แต่ไม่มีข้อตกลงป้องกันร่วมเหมือนที่รัสเซียทำกับเกาหลีเหนือหรือเบลารุส 

ผู้เชี่ยวชาญจาก Carnegie Endowment ชี้ว่า สนธิสัญญานี้เป็นเพียงการยืนยันความสัมพันธ์ที่มีอยู่ ไม่ใช่พันธมิตรทหารเต็มรูปแบบ อิหร่านเผชิญความท้าทายจากความสูญเสียในซีเรียและการคว่ำบาตร ขณะที่รัสเซียระวังไม่ให้กระทบความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

‘โมฮัมหมัด บินซัลมาน’ แห่งซาอุดีอาระเบีย ย้ำ!! ปธน.อิหร่าน พร้อม!! ยืนหยัดอยู่เคียงข้าง โลกอิสลามทั้งมวล มีความเป็นหนึ่งเดียว

(15 มิ.ย. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘เจาะลึกตะวันออกกลาง’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

MBS แห่งซาอุฯ อยู่เป็น 

โมฮัมหมัด บินซัลมาน กล่าวกับ ปธน.อิหร่านในการสนทนาทางโทรศัพท์ว่า

ซาอุดีอาระเบียยืนหยัดอยู่เคียงข้างพี่น้องชาวอิหร่าน และในวันนี้ โลกอิสลามทั้งมวลมีความเป็นหนึ่งเดียวและสนับสนุนอิหร่านอย่างเต็มที่ 
ในทุกเวทีทางการทูต ข้าพเจ้ามุ่งมั่นสร้างแรงกดดันและเรียกร้องให้ยุติพฤติกรรมรุกรานของอิสราเอล

เรามีความเชื่อว่าอิสราเอลกำลังทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อเพิ่มระดับความตึงเครียดและดึงสหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อมั่นว่าการตอบสนองอย่างรอบคอบและมีสติของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านจะทำให้อิสราเอลไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้

พูดง่ายๆ คือ ซัดกันไปก็อย่าให้ตรูโดนลูกหลงก็แล้วกัน 

อิหร่านเองก็ไม่ได้หวังให้ช่วย แต่อย่างน้อยอย่าขวางก็แล้วกัน

(สุรินทร์) น้ำใจ!!! จากแนวหลัง พ่อค้าแม่ขาย ตลาดสี่มุมเมือง สู่แนวหน้า ส่งแรงใจให้ทหารกล้าในพื้นที่ชายแดน อีสานใต้

(15 มิ.ย. 68) ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พันเอก จิรัฏฐ์  ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี รับมอบพืชผักสวนครัว, น้ำดื่ม และของใช้เบ็ดเตล็ด จากคุณกร  ศิริรางค์กูร ตัวแทนพ่อค้าแม่ขาย ตลาดสี่มุมเมือง จังหวัดปทุมธานี เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจจากแนวหลังสู่กำลังพลแนวหน้า และทางกองกำลังสุรนารี ทั้งนี้ พันเอก จิรัฏฐ์  ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ขอขอบคุณพ่อค้าแม่ขาย ตลาดสี่มุมเมืองทุกท่าน ที่ได้ส่งกำลังใจอันสำคัญยิ่งมาให้กับทหารกล้าแดนอีสานใต้ทุกคน ทั้งนี้ทางกองบัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้ดำเนินการกระจายสิ่งของต่างๆ ไปให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ได้ประกอบอาหารรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อยเรียบร้อยแล้ว  

ปุรุศักดิ์ แสนกล้า รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top