มันมีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่าง การทูตเชิงบวก เน้นสันติภาพ กับ การทูตหน่อมแน้ม
(15 มิ.ย. 68) รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Aksornsri Phanishsarn ระบุว่า ...
มันมีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่าง การทูตเชิงบวก เน้นสันติภาพ กับ การทูตหน่อมแน้ม
#การทูตหน่อมแน้ม ในยุคที่รัฐบาลข้างบ้าน #ขวาจัดสุดโต่ง กระหน่ำซัดเราอย่างหนักรายวัน
'ฮุนเซน' ยืนกรานนำ 4 ข้อพิพาทขึ้นศาลโลกแน่นอน ชี้ คุยกันเอง 100 ปีก็ไม่จบ ต้องยุติความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตผ่านกระบวนการยุติธรรม ยกตัวอย่างหลายประเทศในอาเซียนยอมรับกติกาศาลโลก ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนไทย-กัมพูชา #JBC ครั้งที่ 6 จะมีขึ้น ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา โพสต์ข้อความถึงชาวกัมพูชาและมิตรสหายชาวต่างชาติ
สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า ตนเชื่อมาโดยตลอดว่า วันหนึ่งประเทศไทยอาจกระทำการบางอย่างซ้ำรอยกับเหตุการณ์ระหว่างปี 2008 ถึง 2011 และในวันนี้ เราเริ่มเห็นพฤติกรรมที่ละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และมีลักษณะรุกรานอย่างชัดเจน ดังนั้น การตัดสินใจของตนในขณะนั้น จึงสามารถเข้าใจได้ในบริบทของชุมชนนานาชาติที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรม รวมถึงในบริบทของความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับประเทศไทยในอนาคต
"กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่ยึดมั่นในนโยบายต่างประเทศภายใต้หลักนิติธรรม สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ และเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ กัมพูชา ขอให้ประเทศที่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ สนับสนุนให้ประเทศไทยแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนร่วมกับกัมพูชาผ่านกระบวนการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) โดยเฉพาะใน 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่:
1. พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต หรือช่องบก ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างกัมพูชา ลาว และไทย
2. ปราสาทตาเมือนธม
3. ปราสาทตาเมือนโต๊ด
4. ปราสาทตาควาย
สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า กัมพูชาไม่ได้ร้องขออาวุธหรือกระสุนที่นำไปสู่การนองเลือดกับประเทศไทย แต่กัมพูชาต้องการการสนับสนุนให้หันหน้าเข้าสู่แนวทางสันติวิธี ผ่านการเจรจาทวิภาคีและกระบวนการทางกฎหมาย
"เส้นเขตแดนระหว่างกัมพูชา-ไทยมีความยาวมากกว่า 800 กิโลเมตร แต่กัมพูชาเพียงขอให้พิจารณา 4 พื้นที่ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงต่อความขัดแย้งทางทหารในอนาคต และต้องได้รับการแก้ไขล่วงหน้าผ่านกระบวนการศาล เพราะปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้แม้ภายใน 100 ปีหากอาศัยเพียง #กลไกทวิภาคี ดังนั้น มีเพียง #ศาลโลก เท่านั้นที่สามารถตัดสินข้อพิพาทเหล่านี้ได้อย่างเด็ดขาด"
