Sunday, 8 June 2025
NewsFeed

กองทัพไทยประชุมเข้ม ปมปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำหลักสันติภาพ แต่พร้อมตอบโต้เมื่อจำเป็น

(7 มิ.ย. 68) กองบัญชาการกองทัพไทยจัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2568 ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพและ ผบ.ตร. เข้าร่วม ย้ำความพร้อมปกป้องอธิปไตยชาติและความปลอดภัยของประชาชนบริเวณชายแดน

กองทัพบกได้รายงานเหตุปะทะบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี โดยระบุว่า ทหารไทยถูกเปิดฉากยิงขณะลาดตระเวนในฝั่งไทย จึงตอบโต้ตามกรอบกฎหมายและกฎการใช้กำลัง พร้อมดำเนินการชี้แจงผ่านช่องทางทางการแล้วครบถ้วน แม้ไทยพยายามประสานผ่านกลไก JBC แต่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และฝ่ายกัมพูชายังเพิ่มกำลังในพื้นที่

ผบ.ทบ. จึงสั่งยกระดับความพร้อมทั้งกำลังพล อาวุธ และแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านเหล่าทัพอื่น ๆ และตำรวจแห่งชาติ ยืนยันสนับสนุนภารกิจของกองทัพบกอย่างเต็มที่ ทั้งด้านยุทธการ การข่าว และการสนับสนุนข้อมูลต่อหน่วยงานภาครัฐ พร้อมเตรียมชี้แจงผู้ช่วยทูตทหารใน-ต่างประเทศ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เพิ่มมาตรการคัดกรองชายแดน สืบสวนเชิงลึก และป้องกันภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะการสกัดข่าวปลอมและการแทรกซึมของต่างด้าว เพื่อสนับสนุนภารกิจร่วมกับกองทัพในทุกมิติอย่างใกล้ชิดทั้งแนวหน้าและแนวหลัง

ทั้งนี้ กองทัพไทยขอให้ประชาชนมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกหน่วย พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมใจ ใช้วิจารณญาณรับข่าวสารอย่างมีสติ และเป็นพลังสำคัญในการรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และสามัคคีของชาติอย่างยั่งยืน

‘เยอร์มัค’ ลั่นรัสเซียไม่มีวันชนะ ยูเครนยังเข้มแข็งแม้สงคราม 3 ปี เร่ง ‘สหรัฐ-อียู’ คว่ำบาตรรัสเซียเต็มกำลัง

(7 มิ.ย. 68) อันดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดียูเครน ยืนยันว่ารัสเซียไม่มีทางชนะในสงครามครั้งนี้ แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 3 ปี แต่ยูเครนยังคงยืนหยัดและต่อสู้ได้อย่างเข้มแข็ง พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มข้นและประสานงานร่วมกันเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซีย

เยอร์มัค เน้นย้ำว่าการคว่ำบาตรต่อรัสเซียควรครอบคลุมภาคพลังงาน น้ำมัน และภาคการธนาคาร ซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีปูตินต้องเผชิญกับ “ราคาที่แท้จริง” และถูกบีบให้เข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างจริงจัง นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงแผนการขอความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจากสหรัฐ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและการป้องกันประเทศของยูเครน

ในด้านปฏิบัติการทางทหาร เยอร์มัคชี้แจงว่ากองกำลังยูเครนโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เช่น ฐานทัพอากาศที่รัสเซียใช้ในการโจมตีพลเรือน ขณะที่รัสเซียยังคงโจมตีเป้าหมายพลเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยยูเครนพยายามหลีกเลี่ยงความสูญเสียในหมู่ประชาชน

เยอร์มัคยังได้พบปะหารือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐในวอชิงตันเกี่ยวกับสถานการณ์ในแนวรบ ความคืบหน้าการเจรจาที่อิสตันบูล และความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตร พร้อมย้ำความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสหรัฐและยุโรปเพื่อสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่

กระทรวงการต่างประเทศย้ำใช้กลไก JBC แก้ปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติ

(7 มิ.ย. 68) กระทรวงการต่างประเทศแถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยย้ำการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ในการประชุมวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ควบคู่กับกลไกคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธีและลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าที่ประชุมได้หารือการเตรียมการในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายหลักในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี โดยใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เช่น การประชุม JBC, GBC และ RBC ซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูแลสถานการณ์ชายแดนให้มีความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยมีความพร้อมในการประชุม JBC ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ณ ประเทศกัมพูชา และหวังว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน ให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน 

ฝรั่งหัวทองเมินช่วยไทย ตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง ต่างจากเพื่อนเอเชีย ยื่นมือพยุงเศรษฐกิจไทย

(7 มิ.ย. 68) ย้อนกลับไปในวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 หรือ “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ประเทศไทยต้องเผชิญภาวะเงินทุนไหลออก ค่าเงินบาทพังทลาย ธนาคารล้มหลายแห่ง รัฐบาลไทยในขณะนั้นต้องกู้เงินกว่า 17.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพยุงเศรษฐกิจ

เงินช่วยเหลือนั้นส่วนใหญ่มาจาก IMF (4 พันล้านดอลลาร์), ญี่ปุ่น (4 พันล้าน), จีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, และประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน รวมถึงธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาเอเชีย โดยเป็นเงินที่ไทยมีสิทธิเข้าถึงในฐานะประเทศสมาชิก แต่สิ่งที่หลายคนยังจำฝังใจคือ สหรัฐอเมริกาและยุโรป ไม่ได้ช่วยเหลือไทยเลยแม้แต่สลึงเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาบริษัทการเงินจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะกองทุนเฮดจ์ฟันด์และบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง GE Capital กลับรีบเข้ามาซื้อกิจการไทยในราคาต่ำเหมือน "แร้งลง" ช่วงวิกฤต บางรายทำกำไรมหาศาลจากการเข้าซื้อหนี้เสียและหุ้นในตลาดทุนไทย ขณะที่ประชาชนและธุรกิจไทยจำนวนมากล้มละลาย

อีกหนึ่งจุดที่ถูกวิจารณ์หนักคือ การเก็งกำไรโจมตีค่าเงินบาทของกลุ่มทุนต่างชาติ โดยเฉพาะ “จอร์จ โซรอส” ที่ถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังการถล่มค่าเงินบาท สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง และจุดชนวนให้เกิดวิกฤตในเอเชียเป็นลูกโซ่

กัมพูชาโต้ชัด ปัดละเมิดอธิปไตยไทย ย้ำแก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี

(7 มิ.ย. 68) นายชุม สอนทรีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ากองกำลังชายแดนกัมพูชาได้ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย โดยยืนยันว่ากองกำลังของตนปฏิบัติหน้าที่ภายในเขตแดนของกัมพูชาเอง

โฆษกกระทรวงฯ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลาประมาณ 05.30 น. นั้น เกิดขึ้นเมื่อกองกำลังไทยเปิดฉากยิงใส่ฐานทัพของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชโมโรโกต อำเภอโจมคสัน จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กัมพูชาควบคุมมาโดยตลอด ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย

กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระบุว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายไทยถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และฝ่าฝืนบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2543 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน

กัมพูชาย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเคารพอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และตั้งใจที่จะเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา โดยยืนยันว่าพร้อมที่จะแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธีและตามกฎหมายระหว่างประเทศ

สำหรับการชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นหน้าสถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 นั้น เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย นายฮุน ซาโรอุน ได้ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตทุกคนปลอดภัยดีและยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ การประท้วงดำเนินไปอย่างสงบและเป็นระเบียบ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด 

‘หมอหม่อง’ ชวนรัก ‘ชาติ’ แบบมีสติไม่สุดโต่ง สะกิดสังคมใช้พลังให้ถูกจุด ชี้ปัญหาแท้จริงคือทุนผูกขาด

(7 มิ.ย. 68) ‘หมอหม่อง’ นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงกระแสรักชาติในตอนนี้

ที่จะพูดต่อไปนี้ เสี่ยงโดนด่ามากเลย เพราะคนจะเข้าใจผิด

ในกระแส รักชาติ ตอนนี้ ผมรักประเทศไทย ภูมิใจหลายๆ อย่างความเป็นไทย (แบบที่ไม่ perfect แบบนี้) เชียร์ทีมวอลเลย์บอลไทย ฯลฯ และพยายามทำให้ประเทศดีขึ้นในมุมเล็กๆของผม

แต่เอาจริงๆ เรื่องชาตินิยม นี่ ถ้าอ่านหนังสือ Sapiens ของ Yuval Noah ผมเห็นด้วยกับที่เขาอธิบายว่า ทำไม

Homo sapiens มันทำอะไร หลายอย่างที่ ลิงอื่นทำไม่ได้ นั่นคือ การสร้าง ความจริงสมมติ หรือ Imaginary truth

ชาติ มันคือ นิทาน ความจริงสมมติ ที่สังคมกำหนดขึ้นเพื่อ สร้างความร่วมมือของกลุ่ม ของเผ่า
เพื่อความอยู่รอด และ ช่วยปกป้อง ผลประโยชน์บางอย่างร่วมกัน มันไม่ใช่ความจริงที่แท้

หากเรากลัวเสียดินแดน เพราะกลัวคนอื่นมาแย่งทรัพยากร มาตักตวงผลประโยชน์ไปจากเรา

ผมว่าเรามารบกับทุนผูกขาด รบกับโครงสร้างสังคมที่เหลื่อมล้ำ ผลประโยชน์เส้นสายกันดีกว่านะครับ

‘พิชัย’ ขอบคุณทูตจีนหนุนสินค้าเกษตรต่อเนื่อง ช่วยไทยส่งออกข้าวไปจีน 4 เดือน 2 แสนตัน พุ่ง 77.6%

(7 มิ.ย. 68) กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 ไทยส่งออกข้าวไปจีนกว่า 2 แสนตัน เพิ่มขึ้น 77.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 3,574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.3% พร้อมกับส่งออกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า แสดงให้เห็นความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบวาระการดำรงตำแหน่ง โดยขอบคุณทูตจีนที่ให้การสนับสนุนและร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรของไทย เช่น ข้าว ทุเรียน และมันสำปะหลัง

นายพิชัยเน้นย้ำว่าความร่วมมือระหว่างไทย-จีนไม่เพียงแต่ช่วยเปิดตลาดสินค้าเกษตร แต่ยังรวมถึงการอำนวยความสะดวกทางพิธีการศุลกากร และผลักดันการลงทุน พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศในปี 2569 เพื่อยกระดับความร่วมมือในทุกมิติ

เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง กล่าวแสดงความตั้งใจสนับสนุนการส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมถึงการเปิดตลาดโคมีชีวิตในจีนในเร็วๆ นี้ และส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในหมู่นักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มใหญ่ พร้อมยืนยันการทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงพาณิชย์ในการส่งออกผลไม้ไทยโดยเฉพาะทุเรียนให้เป็นไปอย่างราบรื่น

สำหรับข้อมูลการค้าระหว่างไทยและจีนในปี 2567 แสดงให้เห็นว่าจีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย มูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้นกว่า 10% โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด ยางพารา และมันสำปะหลัง ขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ และเหล็ก เหล็กกล้า ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเติบโตต่อเนื่องระหว่างสองประเทศ.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top