Monday, 12 May 2025
NewsFeed

สจ.กร่าง สั่งลูกน้อง!! รุมตื้บ ตร.หน้าหน่วยเลือกตั้ง เหตุ!! ไม่พอใจ ถูกตักเตือนห้ามถ่ายรูป

เมื่อวานนี้ (11 พ.ค. 68) เกิดเหตุชุลมุนขึ้นบริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา โดยมีเหตุชายฉกรรจ์ 5-7 คน บุกเข้ามาทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะขึ้นรถขับออกไป สร้างความแตกตื่นให้กับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงประชาชนผู้มาใช้สิทธิอย่างมาก หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.สมนึก กุลมณี ผอ.กกต.สงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ซึ่งจากการสอบถามนั้นทราบว่า ส.จ.คนดังของจังหวัดสงขลา ได้เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งดังกล่าว ซึ่งได้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง แต่ในขณะที่จะหย่อนบัตรลงหีบ ส.จ.คนดังกล่าวก็ได้เรียกให้ลูกน้องเข้าไปถ่ายรูปภายในหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งไม่สามารถทำได้ ถือเป็นการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต คงเทพ จึงได้เข้าไปตักเตือนด้วยถ้อยคำสุภาพ ว่าถ่ายไม่ได้นะครับ แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับ ส.จ.คนดังกล่าวเป็นอย่างมาก และถาม ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ว่ามึงรู้หรือไม่ว่ากูเป็นใคร หลังจากนั้น ส.จ.คนดังกล่าวก็โวยวาย ด่าทอเจ้าหน้าที่อยู่พักหนึ่ง ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้งไป แต่ในขณะที่ขับผ่านหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ส.จ.คนดัง ได้ลดกระจกลงและได้ชี้เป้าให้ลูกน้องที่มาด้วยกัน ว่าคนนี้แหละที่มีปัญหากับตน

และหลังจากนั้นสักพัก ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 และได้มารุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลหน่วยเลือกตั้ง ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และอ้างว่าลูกพี่กูใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำไร จน ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายร่างกายดังกล่าว โดยถูกรุมทำร้ายร่างกายขณะแต่งกายด้วยชุดตำรวจ เนื่องจากอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความเหิมเกริมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง

โดย ส.จ.คนดังกล่าว เป็นบุตรชายของ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อีกด้วย

ร.ต.อ.สมนึก กุลมณี ผอ.กกต.สงขลา กล่าวว่า หลังได้รับรายงานก็ได้เดินทางมายังหน่วยเลือกตั้งที่เกิดเหตุ ซึ่งก็พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังแตกตื่น แต่ก็ยังสามารถจัดการเลือกตั้งต่อไปได้ เนื่องจากเหตุทำร้ายร่างกายนั้นเกิดขึ้นหน้าหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นการทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการประจำสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดสงขลายังเปิดเผยอีกว่า โดยเบื้องต้น ทราบกลุ่มผู้กระทำความผิดและอยู่ระหว่างประสานงานติดต่อมอบตัว และขณะนี้ตั้งข้อหาเลย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ตชด.อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะแจ้งข้อกล่าวหาทันทีคือทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งก็มีโทษสูง

สภ.เมืองสงขลา จะได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่กลุ่มคนที่ก่อเหตุ ว่าร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด อีกทั้งยังทราบว่าเป็นคนในสังกัดใด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ โดยจะรายงานเหตุการณ์ไปยัง กกต.กลางทันที

'ใบตองแห้ง' โพสต์ถึง ‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ มองเบื่อปัญหาภายในพรรค ทัศนคติ วิธีการทำงาน ยังหวังให้เป็น ‘เครื่องด่าที่ทรงพลัง’ ต่อไป แต่ไม่ต้องไปเป็น ‘ผู้ช่วยหาเสียง’ แล้ว

(12 พ.ค. 68) นายอธึกกิต แสวงสุข หรือที่หลายคนรู้จักในนาม 'ใบตองแห้ง' คอลัมนิสต์ที่คร่ำหวอดในแวดวงสื่อมวลชนมานาน ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า ...

คำประกาศ ถ้าแพ้ วางมือทางการเมือง

อันที่จริง ถ้ามองอย่างคนที่ติดตามมานาน

คุณเจี๊ยบน่าจะเบื่อปัญหาภายในหลายอย่าง ทั้งทัศนะ วิธีการทำงาน ไม่ตรงกับคนใหม่บางส่วนในพรรค (เช่นสวนกระแสเรื่องปูอัด) 
ตัวเองก็ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารแล้ว ถูกตัดสิทธิแล้ว 

ถ้าเทศบาลนครปฐมแพ้ ก็ไม่มีภาระต้องรับผิดชอบโดยตรงอีกต่อไป ไปเที่ยวไปพักผ่อนเลี้ยงหลานดีกว่า

แต่พอประกาศออกมากลางคัน กลางสนามหาเสียง
คนก็ไปมองว่า คุณเจี๊ยบเอาตัวเองมาขู่ พูดแบบนี้ได้ไง แพ้จะวางมือ 
พูดผิดจังหวะ

หวังว่าคุณเจี๊ยบจะยังเป็น Active Citizen เครื่องด่าที่ทรงพลังต่อไป ไปร่วมกิจกรรม ไปเยี่ยมเด็กๆที่ติดคุก เหมือนที่ทำมาตลอด แต่ไม่ต้องไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงแล้ว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย นางมาเรีย ซัคคาโรว่า แถลงเซเลนสกี้ พูดถึงเงื่อนไขการหยุดยิง 30 วัน โดยต้องเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม จึงจะคุยเรื่องการเจรจาสันติภาพ ว่ามันเข้าใจไขว้เขว

(12 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Ethan Hunts’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย นางมาเรีย ซัคคาโรว่า แถลงเซเลนสกี้ พูดถึงเงื่อนไขการหยุดยิง 30 วัน โดยต้องเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม จึงจะคุยเรื่องการเจรจาสันติภาพ ว่ามันเข้าใจไขว้เขว

เธอแถลงว่า ปธน.ปูติน ประกาศออกสาธารณะอย่างชัดเจน เรื่องนัดให้มาเจรจาสันติภาพวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ที่อิสตันบูล เพื่อถกรากเหง้าของความขัดแย้ง จนเป็นสงครามในปัจจุบันเสียก่อน ค่อยพูดถึงการตกลงหยุดยิง

ด้านเซเลนสกี้ทวีตในเอ็กซ์ ว่าจะไปรอคุยกับปูตินที่ตุรเกีย แต่ทางการตุรเกียแถลงว่ายังไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากยูเครนเลย (สรุปมันยังใช้ลีลานักแสดงตลก แต่มุกไม่เวิร์ค)

‘อังกฤษ’ ออกกฎใหม่!! คุมเข้ม!! คนเข้าเมือง ยกระดับวีซ่าทำงาน!! เทียบเท่าปริญญาตรี

(12 พ.ค. 68) Amthaipaper (หนังสือพิมพ์ไทยในอังกฤษ) รายงานว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อีเว็ตต์ คูเปอร์ ประกาศปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองครั้งใหญ่ โดยมีเป้าหมายหลักในการลดจำนวนผู้อพยพอย่างจริงจัง  
ประเด็นสำคัญในนโยบายใหม่นี้  
•  ยกระดับเกณฑ์วีซ่าทำงาน (Skilled Worker Visa)
จากเดิมที่พิจารณาจากระดับทักษะต่ำ จะปรับขึ้นเป็น RQF ระดับ 6 เทียบเท่าปริญญาตรี เท่านั้น
•  จำกัดวีซ่าทำงานทักษะต่ำ อนุญาตเฉพาะตำแหน่งงานที่ ขาดแคลนอย่างมาก และจะเป็นการอนุญาตแบบ ชั่วคราว เท่านั้น
•  ส่งเสริมการจ้างงานคนในประเทศ
รัฐบาลจะสนับสนุนให้นายจ้าง ฝึกอบรมแรงงานภายในประเทศ มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาแรงงานจากต่างชาติ
•  ตั้งกลุ่มวิเคราะห์ตลาดแรงงาน (LMEG) จัดตั้ง Labour Market Evidence Group (LMEG) เพื่อวิเคราะห์ปัญหาด้านทักษะแรงงาน และเสนอแนะแนวทางแก้ไข
•  เร่งรัดการส่งกลับผู้พำนักผิดกฎหมาย
มีการดำเนินการส่งกลับผู้ที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักรโดยไม่มีสิทธิ์แล้วกว่า 24,000 คน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024
•  ยังคงเปิดรับผู้มีทักษะสูง
รัฐบาลยืนยันว่าจะยังคงเปิดรับ “ผู้มีทักษะสูง” จากต่างประเทศ แต่ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถเป็นที่ต้องการจริง
•  ขยายระยะเวลาขอสัญชาติ
ผู้ยื่นขอสัญชาติจะต้องอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 10 ปี (จากเดิม 5 ปี)
•  Fast-track สำหรับผู้มีส่วนร่วมสูง
ผู้ที่มี "ส่วนร่วมสูง" ต่อเศรษฐกิจและสังคม เช่น แพทย์ พยาบาล หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จะสามารถยื่นขอสัญชาติได้เร็วขึ้น
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคนไทยในสหราชอาณาจักร   
•  ผู้ถือวีซ่าทำงานต่ำกว่าระดับปริญญา
คนไทยที่ทำงานสายงานที่ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิปริญญา เช่น ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (care workers), แม่บ้าน, พนักงานบริการร้านอาหาร อาจ ไม่สามารถต่อวีซ่า หรือขอวีซ่าใหม่ ได้ง่ายเหมือนเดิม
•  โอกาสทำงานของนักเรียนไทยลดลง
น้องๆ นักเรียนไทยที่เรียนจบและต้องการอยู่ทำงานต่อ อาจต้องแสดงให้เห็นว่าได้งานใน ระดับปริญญา และได้รับ ค่าจ้างตามเกณฑ์ที่สูงขึ้น
•  ธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร
ร้านอาหารไทย หรือธุรกิจไทยขนาดเล็กที่พึ่งพาแรงงานจากไทย อาจประสบปัญหา
•  แรงกดดันด้านกฎหมายและวีซ่า
คนที่อยู่ในสหราชอาณาจักรโดย ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรืออยู่เกินระยะวีซ่า อาจถูก ตรวจสอบและผลักดันออกนอกประเทศ เข้มงวดมากขึ้น
•  การปรับตัวของชุมชนไทย
พี่น้องคนไทยอาจต้อง พัฒนาทักษะและวุฒิการศึกษา ให้สูงขึ้น หรือพิจารณา เปลี่ยนประเภทวีซ่า เช่น วีซ่านักเรียน วีซ่าคู่สมรส หรือวีซ่าธุรกิจ
คำแนะนำสำหรับพี่น้องคนไทย
•สำหรับผู้ที่ถือวีซ่าทำงานในปัจจุบัน ควรตรวจสอบเงื่อนไขวีซ่าของตนเองอย่างละเอียด และเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
• น้องๆ นักเรียนไทย ควรวางแผนการศึกษาและเส้นทางอาชีพในอนาคต โดยคำนึงถึงนโยบายใหม่นี้
• ธุรกิจไทยควรพิจารณาแผนการจ้างงานในระยะยาว และอาจต้องลงทุนในการฝึกอบรมพนักงานที่มีอยู่
• หากต้องการขอสัญชาติ ควรวางแผนการอยู่ในสหราชอาณาจักรในระยะยาว และพิจารณาแนวทางการพัฒนาทักษะเพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็น "ผู้มีส่วนร่วมสูง"

‘ดร.อภิชาต’ โพสต์ข้อความขอบคุณ คณะผู้ก่อการร่วมก่อตั้งศูนย์ฯ EEC Aviation เผย!! มีความเชี่ยวชาญผลิตบุคลากร ยกระดับการศึกษาด้านอากาศยาน แบบ EEC Model

(12 พ.ค. 68) ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC HDC ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ศูนย์ฯ EEC Aviation ที่ มทร.ธัญญบุรี เป็นศูนย์เครือข่ายความเชี่ยวชาญการผลิตบุคลากร & ยกระดับการศึกษาด้านอากาศยานตามนโยบายในการตอบโจทย์การลงทุนและการพัฒนาบุคลากรยุคใหม่แบบ EEC Model ที่พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง EEC - มทร.ธัญญบุรี - Lion Air (EEC+สถาบันการศึกษา+ภาคอุตสาหกรรม) มุ่งปรับสร้าง Eco system ในระบบการศึกษาและการผลิตบุคลากรสู่อุตสาหกรรมอากาศยานฯ ที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 

การสร้างความก้าวหน้าตามเป้าหมายการผลิต-ยกระดับบุคลากรของศูนย์ฯนี้ขับเคลื่อนไปอย่างก้าวหน้าต่อเนื่องทั้งมิติของการจัดการศึกษา การผลิตบุคลากร และการยกระดับทักษะบุคลากร ตลอดจนถึงความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยาน ฯ บนฐานความร่วมมือและถ่ายทอดเทคโนโลยีร่วมกับภาคอุตสาหกรรมการบินและอากาศยานตลอดมา...

ปัจจุบัน ศูนย์เครือข่ายเชี่ยวชาญอากาศยาน EEC, สถาบันการบินแห่ง มทร.ธัญบุรี ได้ผ่านการตรวจรับรองยกระดับเป็นสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดิน ( MTO Part 147) จาก CAAT ใน Phase 4 ได้ใบประกาศรับรองอย่างเป็นทางการแล้ว การสร้างงานของสถาบันฯจึงยกระดับปรับฐานการศึกษา-การสร้างคนสู่อุตสาหกรรมการบินตามมาตรฐานสากล! นับเป็นอีกก้าวของสถาบันที่ฟันฝ่าทุกอุปสรรค์และสร้างงาน-สร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนมาจนถึงวันนี้! สถาบันฯช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมอากาศยานของประเทศ ที่มีมูลค่าหลายแสนล้านในแต่ละปี! โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังมุ่งสร้างประเทศสู่การเป็น Hub ด้านอากาศยาน & การซ่อมบำรุงอากาศยานที่กำลังเร่งดำเนินอยู่ที่ "อู่ตะเภา" เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างมุ่งมั่น!!

ผมในฐานะประธาน คทง.EEC HDC ต้องขอขอบคุณคณะผู้ก่อการร่วมก่อตั้งศูนย์ฯ EEC Aviation ดร.นิพนธ์ - ผอ.สถาบันฯ/ ดร.ถวัลย์ เที่ยนทอง ผู้แทน Lion Air จากอุตสาหกรรมการบิน/ คทง. EEC HDC ทุกท่าน/ ดร.ณิชากร ทองเปลว ผอ.MDD สกพอ./ รวมถึงท่านอธิการ มทร.ธัญญบุรี ดร.สมหมาย/ ที่ทุกท่าน-ทุกภาคส่วนได้ร่วมสนับสนุนขับเคลื่อนศูนย์ฯและสถาบันการบินฯต่อเนื่องมาจนวันนี้! นับเป็นอีกความก้าวหน้า-ที่บ้านเมือง & สังคมร่วมภูมิใจได้อย่างเต็มภาคภูมิ

‘จีน - สหรัฐฯ’ เดินหน้าเจรจาการค้า แก้ไขปัญหาภาษี เน้น!! เคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

(12 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า …

การเจรจาการค้าระหว่าง #จีน และ #สหรัฐฯ คืบหน้าไปมาก

ทั้งจีนและสหรัฐต่างชื่นชมความคืบหน้าที่เกิดขึ้นระหว่างการเจรจาการค้าที่เจนีวาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมุ่งลดความตึงเครียดที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ

รองนายกรัฐมนตรีจีน เหอ หลี่เฟิง ผู้นำด้านการค้าและเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ พบกับผู้นำของสหรัฐ ได้แก่ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ และผู้แทนการค้าสหรัฐ เจมีสัน กรีร์ ที่เจนีวาเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ นับเป็นการประชุมระดับสูงครั้งแรกระหว่างทั้งสองฝ่ายนับตั้งแต่สงครามภาษีตอบโต้กันครั้งล่าสุด

“บรรยากาศของการประชุมเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เจาะลึก และสร้างสรรค์ การประชุมมีความคืบหน้าไปมากและมีฉันทามติที่สำคัญ” เขากล่าวในการแถลงข่าวเมื่อเย็นวันอาทิตย์

เขากล่าวว่าทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันที่จะจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเกี่ยวกับประเด็นการค้าและเศรษฐกิจ ระบุผู้นำของแต่ละฝ่าย และจะดำเนินการปรึกษาหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นการค้าและเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายมีความกังวลร่วมกัน

ทั้งสองฝ่ายจะสรุปรายละเอียดที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุดและจะออกแถลงการณ์ร่วมที่บรรลุในการประชุมในวันจันทร์นี้ ตามที่นายเหอกล่าว

เมื่อถูกถามว่าจะออกแถลงการณ์ร่วมในวันจันทร์นี้เมื่อใด นายหลี่เฉิงกัง ผู้เจรจาการค้าระหว่างประเทศและรองรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของจีน ตอบว่าหากอาหารจานนี้อร่อย เวลาก็ไม่ใช่ปัญหา

นายหลี่กล่าวว่า "ไม่ว่าแถลงการณ์นี้จะออกเมื่อใด จะเป็นข่าวใหญ่และเป็นข่าวดีสำหรับโลก"

นายเหอ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณรัฐบาลสวิสที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ และเขายังกล่าวอีกว่า "ความเป็นมืออาชีพและความขยันขันแข็ง" ของเพื่อนร่วมงานชาวอเมริกันนั้น "น่าประทับใจ"

เขากล่าวว่าในช่วงกว่าสามเดือนที่ผ่านมา สงครามการค้าโลกที่สหรัฐฯ เป็นผู้ก่อขึ้นได้ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก

ภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำหนดให้กับจีนตั้งแต่ต้นปีรวมแล้วสูงถึง 145 เปอร์เซ็นต์ โดยภาษีศุลกากรรวมของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนบางรายการสูงถึง 245 เปอร์เซ็นต์ จีนตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรต่อสินค้าสหรัฐฯ ถึง 125 เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์นี้ถูกบางคนอธิบายว่าเป็นเหมือนการคว่ำบาตรทางการค้า

“จุดยืนของจีนต่อสงครามการค้าครั้งนี้ชัดเจนและสม่ำเสมอ นั่นคือ จีนไม่ต้องการทำสงครามการค้า เพราะสงครามการค้าไม่ได้ทำให้มีผู้ชนะ แต่ถ้าสหรัฐฯ ยืนกรานที่จะบังคับให้จีนทำสงครามนี้ จีนจะไม่กลัวและจะสู้จนถึงที่สุด” เขากล่าว โดยย้ำจุดยืนของจีน

เขากล่าวว่าการพบปะครั้งนี้มีประโยชน์และเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่ทั้งสองฝ่ายดำเนินการเพื่อแก้ไขความแตกต่างอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาอย่างเท่าเทียม เพื่อเชื่อมช่องว่างความแตกต่างและกระชับความร่วมมือ

เขาย้ำว่าธรรมชาติของการค้าและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐฯ เป็นประโยชน์ร่วมกันและเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย

“สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติตามหลักการเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย และการหาหนทางแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมผ่านการพูดคุยและปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียม เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพ มั่นคง และยั่งยืน” เขากล่าว

เขากล่าวว่าฝ่ายจีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อปฏิบัติตามฉันทามติสำคัญที่ผู้นำทั้งสองประเทศบรรลุในการโทรศัพท์หารือเมื่อวันที่ 17 มกราคมอย่างจริงจัง และด้วยแนวทางที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหา

“เรายินดีที่จะมีส่วนร่วมในบทสนทนาอย่างเข้มข้นและการปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียม จัดการความแตกต่างของเรา ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของความร่วมมือ ขยายผลลัพธ์จากการทำงานร่วมกัน และทำให้ผลประโยชน์ร่วมกันมากขึ้น” เขากล่าว
“เราสามารถส่งเสริมการพัฒนาใหม่ด้วยความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐฯ และเพิ่มความแน่นอนและเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจโลกมากขึ้น”

หลี่ เฉิงกัง หัวหน้าผู้เจรจาของจีน อธิบายถึงลักษณะเด่นสามประการของการประชุมครั้งนี้ว่า “การเคารพซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียมและผลประโยชน์ร่วมกัน ความเป็นมืออาชีพ และประสิทธิภาพสูง”

ด้าน เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ กล่าวในวันอาทิตย์ว่าการเจรจาครั้งนี้ "มีประสิทธิผล"

"ผมดีใจที่จะรายงานว่าเราได้บรรลุความคืบหน้าที่สำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนในการเจรจาการค้าที่สำคัญยิ่ง" เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
เบสเซนต์กล่าวว่าเขาได้แจ้งให้ทรัมป์ทราบถึงความคืบหน้าของการเจรจาแล้ว

ปธน.ทรัมป์กล่าวบนโซเชียลมีเดียในวันอาทิตย์ว่า "วันนี้เป็นการประชุมที่ดีมากกับจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ มีการหารือกันหลายเรื่องและหลายฝ่ายเห็นด้วย การเจรจารีเซ็ตใหม่ทั้งหมดเป็นไปอย่างเป็นมิตรแต่สร้างสรรค์

"สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าเราสามารถบรรลุข้อตกลงได้เร็วเพียงใด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบางทีความแตกต่างอาจไม่มากเท่าที่คิด" กรีเออร์กล่าวในวันอาทิตย์

‘ชมพู่ พรพรรณ’ ได้ MVP รับเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์ และเป็นสาวไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์ลีก สหรัฐอเมริกา

(12 พ.ค. 68) เพจ ‘วอลเลย์บอลหญิงรวมดาว🇹🇭’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ยินดีกับ "ชมพู่" ได้ MVP รับเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์และเป็นสาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสหรัฐอเมริกา

ทีม Orlando Valkyries รับถ้วยรางวัล   และเงินรางวัล 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (32,965,000 บาท)
ลีกอเมริกา Pro Volleyball Federation (PVF) รอบชิงชนะเลิศ
Orlando Valkyries (ทีมชมพู่) ชนะ Indy Ignite 3:1 (25-21, 25-19, 19-25, 25-15)

ประธานมูลนิธิสืบฯ โพสต์ข้อความ!! สร้างกระเช้าภูกระดึง ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม หนุน!! พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สร้างภูมินิเวศ รอบภูเขา ให้สวยงาม

(12 พ.ค. 68) นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

อ่านโพสต์ของ ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์ แล้วก็ชัดเจนว่า ด้วยเทคโนโลยีการสร้างในปัจจุบัน ตัวกระเช้าเอง ไม่ได้สร้างผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเท่าไหร่ ลำพังสร้างกระเช้าไม่ใช่ปัญหา 

แต่ในแง่เศรษฐศาสตร์ ระบุว่า ตัวงบประมาณที่จะใช้สร้างและการดูแลรักษา ลำพังนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวทั่วๆไปมันไม่เพียงพอที่จะให้คุ้มทุนได้เพราะ ตัวภูกระดึงเองเป็นสภานที่ท่องเที่ยวโดดเดี่ยวใครจะมาตรงนั้นคือจะมาภูกระดึงเท่านั้น ซึ่งพอขึ้นไปข้างบนมันไม่ได้มีอะไรที่จะรับการท่องเที่ยวให้คนมาเยอะแยะได้ และไม่มีอะไรดึงดูดให้คนขึ้นไปชมวิวแล้วกลับ เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่งในต่างประเทศที่ให้ขึ้นไปดูวิว หรือไหว้พระ แบบเป็นนักท่องเที่ยวด่วนๆ อยู่ไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมงก็กลับ มันไม่มีอะไรรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นเลย ดังนั้น... 

แต่มีการเพิ่มโครงการศูนย์ศึกษาธรรมชาติอะไรไม่รู้ไว้ข้างบนหลังแปด้วย แล้วก็คาดการณ์ให้มันคุ้มทุนว่าจะมีนักเรียนหรือใครก็ไม่รู้ขึ้นไปเพื่อเที่ยวศูนย์ที่ว่านี่แล้วก็กลับลงมา โดยที่พีคกว่านั้นคือศูนย์ที่ว่านี่ ค่าก่อสร้างก็ไม่ได้รวมอยู่ในงบโครงการกระเช้า เพราะถ้ารวมก็เจ๊งอีกอยู่ดี 

คืออันนี้ชัดเจนว่าพยายามแต่งตัวเลขให้โครงการคุ้มทุน 

เพราะลำพังตัวโครงการเองมันไม่คุ้มทุน ประเทศไทยไม่ได้ร่ำรวยขนาดจะสร้างโครงการที่ไม่จำเป็น ดูแลตัวเองไม่ได้ ต้องคอยเอางบมาเติม หรือต้องปล่อยพังเสียหาย ใช้การไม่ได้ เพราะไม่มีงบมาเติม

รอบนี้ได้ข่าวว่าจะศึกษาใหม่อีก ตามที่ได้ยินมาคือเสียเงินอีก 25 ล้าน มันมีอะไรเปลี่ยนไปหรือถึงจะต้องศึกษาใหม่? บางทีก็ไม่เข้าใจว่าประเทศนี้นึกอยากจะเสียเงินค่าศึกษาอะไรก็ศึกษา คิดโครงการบ้าบออะไรขึ้นมาก็ได้ ขุดโครงการอะไรขึ้นมาจากหลุมมาศึกษาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ คือแค่ค่าศึกษานี่ ถ้าเอาไปทำอย่างอื่น ก็ได้ตั้งเยอะแยะแล้ว...

อันนี้ ดร.นณณ์ โพสต์ไว้เมื่อวาน
https://www.facebook.com/share/p/1E8metZdp9/?mibextid=qi2Omg

ผมมาคิดต่อว่าถ้าเป็นแบบนั้น เราควรทำอะไรกับภูมินิเวศรอบภูเขาภูกระดึง 
เอาเงินที่จะศึกษาเรื่องกระเช้า มาทำแผนพื้นที่วงแหวนรอบภูกระดึงว่า ควรพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอย่างไร 

ปัจจุบันพื้นที่เกษตรโดยรอบ ยังเป็นพืชเชิงเดี่ยว แห้งแล้ง แต่ยังมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่เป็นต้นน้ำที่ค่อนข้างมีสภาพดี ถ้ามีการปรับการปลูกพืชให้เหมาะสม น่าจะทำให้พื้นที่รอบๆกลับมาสวยงาม และเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวแบบที่พักระยะยาว หรือรูปแบบที่เหมาะสมอื่นๆได้ หากมีการศึกษาทางวิชาการจริงๆ

นอกจากภูกระดึงแล้ว มีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆมากมายโดยรอบ หากจะพัฒนาความเชื่อมโยงถึงกัน 

แล้วมามองว่า เที่ยวภูกระดึง กันหนักๆ ช่วงปลายฝนต้นหนาว ถึงก่อนแล้ง แต่ช่วงอื่นๆ ยังมีนักท่องเที่ยวมากระจายรายได้ในพื้นที่วงแหวนนี้ตลอดปี โดยไม่ต้องขึ้นภูกระดึงจะทำอย่างไร ??

ศึกษาเรื่องแบบนี้กันไว้ตรงไหนหรือเปล่าครับ 

เผื่อชวน Nonn Panitvong มาช่วยอ่าน น่าจะสนุกดี

เปิดตัวเลขค่าไฟฟ้า หลัง ‘พีระพันธุ์’ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี บริหารจัดการอย่างจริงจัง ช่วยคนไทย ประหยัดค่าไฟ เซฟไปถึง 2.7 แสนล้าน คืนเข้าสู่กระเป๋า ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกคน

(12 พ.ค. 68) เพจ ‘พีระพันธุ์ FC’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

เซฟค่าไฟให้คนไทย 2.7 แสนล้าน!!... ทราบหรือไม่?! 

เราคนไทยทั้งประเทศประหยัดค่าไฟรวมกันแล้วกว่า 2.7 แสนล้านบาท นับตั้งแต่ที่ พี่ตุ๋ย-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เข้ามารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยก่อนหน้าที่ ‘พี่ตุ๋ย’ จะเข้ามารับตำแหน่ง (ก่อนเดือน ก.ย. 66) อัตราค่าไฟอยู่ที่ 4.77 บาท/หน่วย ซึ่งหากไม่มีการบริหารจัดการอย่างจริงจัง เราจะต้องจ่ายค่าไฟระหว่างช่วงเดือน ก.ย. 66 - ส.ค. 68 เป็นเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,985,025 ล้านบาท โดยคำนวณจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยของคนไทยทั้งประเทศ (อ้างอิงจากระบบของ กฟผ.)

แต่ผลจากการบริหารจัดการตามแนวทางของ ‘พี่ตุ๋ย’ ประชาชนคนไทยจ่ายค่าไฟในช่วงดังกล่าวเป็นเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,710,368 ล้านบาท โดยส่วนต่างที่ประหยัดได้ถึง 274,657 ล้านบาทนี้ ถือเป็นดอกผลแห่งความทุ่มเทและการทำงานหนักของ ‘พี่ตุ๋ย-พีระพันธุ์’ ที่คืนเข้าสู่กระเป๋าคนไทยผู้ใช้ไฟฟ้าทุกคน และ ‘พี่ตุ๋ย’ ยังคงเดินหน้าลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องแม้จะมีแรงต้านอย่างหนักจากผู้เสียผลประโยชน์ ช่วยกันเป็นกำลังใจให้ ‘พี่ตุ๋ย’ ครับ!!

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เผย!! เตรียมชำแหละงบ 2569 ลดงบไม่จำเป็น ย้ำ!! งบประมาณต้องใช้อย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ

(12 พ.ค. 68) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า 

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กำชับให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติทุกคนเร่งศึกษาข้อมูลและทำการบ้านเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2569 

เนื่องด้วยเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา สส.ได้ลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ ทางพรรคก็จะมีการนัดประชุมเพื่อคัดเลือกผู้ที่จะเป็นตัวแทนพรรคเข้าไปอยู่ในชั้นคณะกรรมาธิการฯ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว 

ทั้งนี้สิ่งที่นายพีระพันธุ์ และนายเอกนัฏ เน้นย้ำกับ สส.พรรค ก็คือการตรวจสอบและปรับลดงบประมาณที่เกินความจำเป็นในแต่ละกระทรวง เพื่อให้ทุกหน่วยงานใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ เนื่องจากปัจจุบันงบประมาณแผ่นดินมีจำกัด ทั้งยังต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงเห็นควรว่างบประมาณต้องใช้เฉพาะกับโครงการหรือสิ่งที่จำเป็นและเหมาะสมเท่านั้น สิ่งใดไม่จำเป็นก็ให้เสนอปรับลดงบประมาณลงทันที

“สิ่งสำคัญเกี่ยวกับแนวทางการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ งบประมาณทุกอย่างต้องถูกใช้ไปกับสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น หากงบใดหรือโครงการใดที่หน่วยงานรัฐไม่สามารถชี้แจงได้อย่างเป็นเหตุเป็นผลหรือดูแล้วไม่เหมาะสม ก็ให้ สส. พรรคเสนอปรับลดงบประมาณลง เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติคำนึงถึงการใช้งบประมาณที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและต้องช่วยแก้ไขปัญหาของพ่อแม่พี่น้องทุกคนได้อย่างแท้จริง" นายอัครเดช กล่าว

ทั้งนี้ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2569 คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำว่าจะดำเนินการพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top