Friday, 20 June 2025
NewsFeed

‘พาณิชย์ฯ’ เผยตัวเลขส่งออกไทย ก.ย.66 พลิกบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง

(24 ต.ค.66) นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนกันยายน 2566 ว่า การส่งออก มีมูลค่า 25,476 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวร้อยละ 2.1 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากตลาดคาดว่า หดตัวร้อยละ 1.75-2.00

ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 23,383 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 8.3 ส่งผลให้เดือนกันยายน ไทยเกินดุลการค้า 2,093 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.66) การส่งออก มีมูลค่ารวม 213,069 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 3.8 การนำเข้า มีมูลค่ารวม 218,902 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ 9 เดือนแรกปีนี้ ไทยขาดดุลการค้า 5,833 ล้านดอลลาร์

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกของไทย ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตร โดยเฉพาะการส่งออกผลไม้ไปจีน อาทิ ทุเรียน และมังคุด รวมทั้งการส่งออกข้าวที่ขยายตัวได้ดีในตลาดแอฟริกาใต้และอินโดนีเซีย ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมดาวรุ่งที่ขยายตัวต่อเนื่อง ยังคงเป็นสินค้าที่เติบโตตามเมกะเทรนด์ เช่น โซลาร์เซลล์ และโทรศัพท์มือถือ

'อนุทิน' ยัน 320 เสียงพรรคร่วมฯ หนุนดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 แต่หากในอนาคตมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล ก็ต้องตรวจสอบ

(24 ต.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสพรรคร่วมรัฐบาลพยายามลอยแพพรรคเพื่อไทย หลังมีกระแสด้านลบเกี่ยวกับเงินดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท ว่า ยืนยันว่าไม่มีการลอยแพ ตนเองก็ติดตามเรื่องนี้อยู่ และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจะมีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่หากในอนาคตมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลก็ต้องตรวจสอบ เพราะไม่เช่นนั้นจะมาเป็นนโยบายรัฐบาลไม่ได้ และเมื่อเป็นนโยบายของรัฐบาลพรรคร่วมจะต้องช่วยกันสนับสนุน แต่ก่อนจะออกเป็นนโยบายจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และการตราเป็นพระราชบัญญัติ อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นนโยบายของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาแล้วเราก็มีหน้าที่ในการทำให้นโยบายของรัฐบาลได้รับการผลักดัน พร้อมย้ำว่าไม่มีการลอยแพอยู่แล้ว แต่อยู่ในเรือนแพ

เมื่อถามว่า กรณีที่นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มีความเห็นว่าอยากให้เป็นการใช้เงินเฉพาะกลุ่ม จะมีผลกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่ารัฐบาลรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เพื่อนำมาพิจารณาว่าอะไรคือสิ่งที่เหมาะสม ตามรัฐธรรมนูญและทำได้จริง ขออย่าไปมองว่า มีนโยบายอะไรที่เป็นพิเศษขึ้นมา เพราะนโยบายนี้ถือเป็นนโยบายหลักที่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องมั่นใจว่าการนำไปใช้ ต้องไม่ขัดแย้งกับหลักกฎหมาย ส่วนที่ขณะนี้มีแต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยังขาดเสียงสนับสนุนนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาล 320 เสียง ต้องสนับสนุน 

เมื่อถามว่า ในฐานะคณะรัฐมนตรีหากในท้ายที่สุดนโยบายนี้มีปัญหาจะต้องรับผิดชอบร่วมกันหรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่า นโยบายนี้ไม่ใช่ว่าจะนำออกมาใช้ได้เลย ยังต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณา แต่ในขณะนี้ก็ยังสนับสนุนในฐานะเป็นรัฐบาล แต่หากดูแล้วมีอะไรที่เป็นปัญหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ ระเบียบ ก็ต้องคุยกันเพื่อหาทางออกให้ได้

‘YG’ คอนเฟิร์ม ‘จีซู BlackPink-อันโบฮยอน’ เลิกกันแล้ว หลังทั้งคู่เพิ่งประกาศคบกันได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น

(24 ต.ค.66) คนในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นของที่นั่นว่า “ความสัมพันธ์ของจีซูและอันโบฮยอน เริ่มจะห่าง ๆ กันไปเอง เพราะทั้งคู่ยุ่งกับงานมาก และล่าสุดทั้งสองก็เพิ่งจะเลิกกันไปแล้ว"

ขณะเดียวกัน YG Entertainment ต้นสังกัดของ BLACKPINK ก็ได้ออกมายืนยันข่าวอย่างทางเป็นทางการว่า “เป็นเรื่องจริงที่จีซูและอันโบฮยอนเลิกกัน”

โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า ‘จีซู’ และ ‘อันโบฮยอน’ กำลังออกเดตกันเมื่อเดือนสิงหาคม โดย จีซู ในวัย 28 ปี เป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปที่ดังที่สุดในเกาหลี ส่วนฝ่ายชาย ในวัย 35 ปี เป็นทั้งนายแบบและนักแสดง โดยเริ่มมีผลงานการแสดงเมื่อปี 2014 และเริ่มมีชื่อเสียงจากการเล่นซีรีส์ Itaewon Class (2020) รวมถึงได้รับรางวัล Excellence Award สาขานักแสดงนำชายจากบทบาทของเขาใน Yumi's Cells และ My Name ในงาน APAN Star Awards

ไทย สมายล์ โบ้ท เปิดตัวเรือใหม่ 9 ลำ เพิ่มความถี่รับผู้โดยสารชั่วโมงเร่งด่วน คล่องตัวขึ้นให้บริการได้ทุกสภาวะอากาศแม้ระดับน้ำสูงขึ้น

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทย สมายล์ กรุ๊ป ได้นำคณะผู้บริหารและพนักงานของบริษัทในเครือ ทำพิธีมงคลเพื่อเปิดตัวเรือรุ่นใหม่จำนวน 9 ลำ ในรุ่น 19M Electric Catamaran Ferry เรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% เข้ามาเติมฟีดเรือที่ให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกับทำพิธีมงคล ในวันฤกษ์งามยามดี เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนการนำเรือไปให้บริการพี่น้องประชาชน

สำหรับการเสริมฟีดเรือครั้งนี้ ส่งผลให้ บริษัท ไทย สมายล์ โบ้ท จำกัด มีเรือโดยสารให้บริการเพิ่มขึันเป็น 35 ลำ เป็นเรือคาตามารันรูปแบบใหม่ขนาด 19 เมตร จำนวน 9 ลำ บรรทุกผู้โดยสารได้ 150 คน/เที่ยว มีความคล่องตัวมากขึ้น เหมาะกับแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถให้บริการในทุกสภาวะอากาศ เช่น ช่วงปริมาณน้ำขึ้นสูง ดังนั้นตัวเรือใหม่ที่มีความกระทัดรัดย่อมเข้ามาตอบโจทย์การให้บริการทั้ง 3 เส้นทางในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ City Line / Metro Line และ Urban Line

ขณะที่ศักยภาพของเรือยังคงเป็นเรือพลังงานไฟฟ้า 100% ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นอย่างมาก / โดยเรือลำใหม่เหล่านี้จะเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2566 เพิ่มรอบความถี่เรือที่ให้บริการ รองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังจ่ายในราคาเดิมเพียง 30 บาทตลอดสาย ใช้การแตะจ่ายได้ทั้ง Hop Card และรูปแบบเงินสด

ป่อเต็กตึ๊งซับน้ำตาช่วยผู้เหลือประสบอัคคีภัยชาวชุมชนตรอกสาเก 

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ 2566 เวลา 09.30 น. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดยคุณอรัณย์  โตทวด ผู้จัดการใหญ่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และคุณรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ร่วมกับ มูลนิธิฯ/สมาคมจีนต่างๆได้ลงพื้นที่สงเคราะห์ผู้ประสบอัคคีภัย บริเวณชุมชนตรอกสาเก ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จำนวน 15 ครอบครัว 22 คน ตามรายละเอียดดังนี้

1. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สงเคราะห์เป็นเงินสดคนละ 3,000 บาท จำนวน 22 คน เป็นเงิน 66,000 บาท (หกหมื่นหกพันบาทถ้วน) พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายบุคคลจำนวน 19 ชุด ชุดละ 1,500 บาท เป็นเงิน 28,500 บาท (สองหมื่นแปดพันห้าร้อยบาทถ้วน) และเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัวจำนวน 3 ชุด ชุดละ 2,500 บาท เป็นเงิน 7,500 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยบาทถ้วน) รวมสงเคราะห์ทั้งสิ้น 102,000 บาท (หนึ่งแสนสองพันบาทถ้วน)
2. มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล มอบเงินสด คนละ 400 บาท จำนวน 22 คน เป็นเงิน 8,800 บาท
3. มูลนิธิส่งเสริมศีลธรรมสงเคราะห์ มอบเงินสด ครอบครัว ละ 400 บาท จำนวน  15 ครอบครัว เป็นเงิน 6,000 บาท
4. พุทธสมาคมปทุมรังษี มอบข้าวสาร คนละ 10 กก. จำนวน  22 คน รวม 220 กก. เป็นเงิน 3,300 บาท

รวม 4 องค์กร รวมสงเคราะห์ให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัยเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 120,100 บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นหนึ่งร้อยบาทถ้วน) 
โดยมีนายโกศล  สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร มาร่วมในพิธีมอบ ณ  บริเวณที่เกิดเหตุ 
หมายเหตุ เกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 09.12 น.

‘นายกฯ เศรษฐา’ ห่วงคนไทยในอิสราเอล ยกหูคุย ‘ทูตฯ อิสราเอล’ ยอมรับพูดแรง ปมนายจ้างเอาเงินล่อแรงงานไทยให้อยู่ต่อ

(24 ต.ค. 66) ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยวันเดียวกันนี้นายกฯ เปลี่ยนใช้รถ RANGE ROVER ทะเบียน 4 ขถ 8832 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนตัว เคยใช้มาแล้วช่วงก่อนเป็นนายกฯ ส่วนรถยนต์เลกซัส ทะเบียน 3 ขส 30 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ประจำอยู่ระหว่างนำไปซ่อมบำรุง

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นายกฯ กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยในอิสราเอล ว่า ก็ยังเป็นห่วงอยู่เหมือนเดิมเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย ไปแล้ว จากปัญหาที่มีการเพิ่มเงินเป็นแรงจูงใจให้แรงงานไทยอยู่ทำงานต่อ เราก็พูดแรงในเชิงบอกว่าแบบนี้ไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ได้ เอาเงินมาล่อ เรื่องแบบนี้ไม่ได้ ตนคิดว่ามันไม่ถูกต้อง เขาบอกว่าไม่ทราบเรื่องเลย แต่เขาจะไปสืบทราบและจะแจ้งให้รับทราบโดยเร็ว เพราะเขาก็เป็นห่วงเหมือนกัน และอีกเรื่องการเลื่อนจ่ายเงินเดือนแรงงานไปวันที่ 10 พ.ย. เขาบอกว่าไม่ทราบเรื่อง แต่ตนก็ยืนยันไปและพูดเสียงหนักแน่นว่าต้องดูให้เรา

เมื่อถามว่า มีรายงานว่าจะมีการปล่อยตัวประกัน 50 คน ในส่วนนี้มีคนไทยด้วยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ขอไปติดตามเรื่องนี้ก่อน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ มี ครม.แจ้งลาการประชุม 2 คน ได้แก่ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์

'จีน' สั่งสอบด่วน!! คลิปพนักงานฉี่ใส่ถังเบียร์ชิงเต่า พบเป็นคนนอก ถือเป็นวินาศกรรมร้ายแรงแห่งวงการ

ทางการจีนทนเฉยไม่ไหว สั่งสอบสวนด่วน เหตุคลิปฉาวที่ถ่ายจากภายในโรงงานเบียร์ชิงเต่าของจีน ที่พบพนักงานในเครื่องแบบสีฟ้าปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วฉี่ใส่แทงก์เก็บส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตเบียร์ยี่ห้อดัง จนฉาวไปทั่วโลกออนไลน์ของจีน และมียอดวิวทะลุ 10 ล้านครั้งใน Weibo เพียงชั่วข้ามคืน 

สื่อจีนรายงานว่า โรงงานที่ปรากฏในคลิปเชื่อว่าเป็น Tsingtao Brewery No.3 ที่ตั้งอยู่ในเขตผิงตู ของเมืองชิงเต่า มณฑลชานตง ซึ่งเป็นเมืองต้นกำเนิดเบียร์ชื่อดัง

ด้าน Tsingtao Brewery บริษัทเจ้าของเบียร์ได้ออกแถลงการณ์ทันทีหลังพบคลิปที่แพร่กระจายว่อนไปทั่วโลกโซเชียลจีนตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทติดตาม สอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด และแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแทงก์ส่วนผสม และเบียร์ทั้งล็อตที่ผลิตในวันนั้นถูกเก็บ และปิดผนึกแล้วทั้งหมด 

ต่อมามีรายงานว่าได้ควบคุมตัวชายผู้ต้องสงสัยว่าเป็นบุคคลในคลิป ที่อุตริปีนขึ้นไปยืนฉี่ใส่แทงก์เบียร์ พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีกคนที่เป็นคนถ่ายคลิปได้แล้ว เบื้องต้น ยืนยันว่าทั้งคู่ไม่ใช่พนักงานประจำของโรงงานเบียร์ชิงเต่า แต่เป็นพนักงานจากบริษัทภายนอกที่จ้างงานชั่วคราว แต่ได้แอบลักลอบเข้าไปในโรงงานเบียร์ช่วงกลางคืน และกระทำสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นการก่อวินาศกรรมร้ายแรงในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร 

'Tsingtao' ถือเป็นแบรนด์ที่ผลิตเบียร์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน และมียอดการส่งออกเป็นอันดับ 1 ที่กินส่วนแบ่งการตลาดเบียร์ส่งออกของจีนถึง 50% ปัจจุบัน Tsingtao Brewery เป็นโรงงานผลิตเบียร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก และทำให้ 'เบียร์ชิงเต่า' เป็นภาพลักษณ์ของเบียร์จีนในตลาดโลก 

จากคลิปเหตุฉาวครั้งนี้ สั่นสะเทือนภาพลักษณ์ และ ความเชื่อถือต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก จนสื่อนอกขนานนามว่าเป็น 'Pee-gate' หรือ 'คดีฉี่ฉาว' ที่อาจสร้างผลกระทบต่อมูลค่าของบริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่ของจีนอย่างมหาศาล 

ซึ่งคล้ายกับคดีของเครือร้านซูชิเจ้าดังของญี่ปุ่น ที่เคยเกิดกรณีเด็กมัธยมเล่นตลกด้วยการแอบถ่ายคลิปตนเองกำลังเลียขวดซอสโชยุของร้านเผยแพร่ทางออนไลน์ จนสร้างความไม่สบายใจต่อลูกค้าของร้านเป็นวงกว้าง ทำให้แบรนด์ของร้านซูชิเจ้าดังสูญเสียมูลค่าทางการตลาดไม่น้อยกว่า 122 ล้านเหรียญภายในชั่วข้ามวัน จากความคึกคะนองของเด็กเพียงคนเดียว  

แต่ในกรณีของเบียร์ชิงเต่า ดูจะหนักกว่ามาก จนรัฐบาลจีนต้องสั่งให้สอบสวนเป็นกรณีเร่งด่วน ที่ต้องเร่งกู้ภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ให้ยังคงนึกถึงเบียร์จีน นึกถึงชิงเต่า ได้อย่างที่เคยเป็นมา

‘MK’ ประกาศเปลี่ยนโลโก้บริษัท มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนการดำเนินงานทุกอย่าง ย้ำ!! ยังเหมือนเดิมทุกประการ

(24 ต.ค.66) บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศเปลี่ยน โลโก้ (Corporate Logo) ของบริษัท เป็นดีไซน์ใหม่

สำหรับสาเหตุของการตัดสินใจครั้งนี้ เอ็มเคฯ ระบุในหนังสือที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงโลโก้นี้เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ โดยจะมีผลตั้งแต่ 24 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ยักษ์ร้านสุกี้ยังย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงโลโก้ใหม่ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและบริหารทางธุรกิจของบริษัท โดยทั้งชื่อย่อ เว็บไซต์ ที่อยู่สำนักงาน และหมายเลขติดต่อ ยังคงเดิมทุกประการ

ในส่วนของที่มาของชื่อและโลโก้เอ็มเคนั้น ข้อมูลจากเว็บไซต์ mkrestaurant.com ระบุว่า ที่มาของคำว่า ‘เอ็มเค’ มาจากชื่อของเจ้าของเดิมคือ มาคอง คิงยี (Makong King Yee) ชาวฮ่องกง ก่อนที่ คุณป้าทองคำ เมฆโต จะซื้อกิจการต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2505

ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ เจ้าของเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ได้ชักชวนคุณป้าทองคำ มาเปิดร้านอาหารไทยในเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในชื่อร้าน ‘กรีน เอ็มเค’ ตามด้วยร้านสุกี้เอ็มเค สาขาแรกในห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในปี พ.ศ. 2529

'สว.วีระศักดิ์' แบ่งปัน!! บรรยายพิเศษ 'ภาวะโลกเดือด' 'ปลูกฝังเยาวชน-แลกเปลี่ยน' ปัจจัยบวก-ลบ กระทบสิ่งแวดล้อม

เมื่อไม่นานมานี้ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษเรื่อง ‘ภาวะโลกเดือด’ ให้กับกลุ่มนักเรียนและเยาวชน ค่ายเยาวชนผู้นำโรตารี่ ภาค 3350 ปี 2566 - 2567 Create Hope for the Future (สรรค์สร้างความหวังให้โลกอนาคต ณ บ้านผู้หว่าน (Pastoral Training Center : ศูนย์ฝึกอบรมงานอภิบาล) โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 

เยาวชนที่เข้าร่วมในค่ายในครั้งนี้ประกอบด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา จำนวน 200 คนจาก 140 โรงเรียนในเขตภาคกลาง ร่วมกับนักเรียนแลกเปลี่ยนโรตารี่ต่างประเทศ จำนวน 28 คน 

กิจกรรมค่ายอบรมลักษณะนี้ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เป็นเวลา 3 วัน เพื่อให้เด็กเยาวชนจากหลากระดับชั้นการศึกษา และหลากพื้นฐาน ให้มาร่วมกิจกรรมผ่านกลุ่มวิทยากรและพี่เลี้ยง (รุ่นพี่อาสาสมัคร) ที่จะช่วยสร้างพลังการแบ่งปันประสบการณ์ การคิดบวก การเป็นผู้ให้ การรู้จักบริหารเวลา อารมณ์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ทั้งที่เกิดจากปัจจัยภายในตนเองและที่เกิดจากปัจจัยแวดล้อมภายนอก สถานการณ์รอบข้างที่มีความหลากหลายและแตกต่าง

ส่องทรัพย์สินนักธุรกิจดัง ‘เชื้อสายยิว’ แต่ละคนรวยๆ กันทั้งนั้น!!

ทราบหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์และบริการระดับโลกหลาย ๆ ตัว ถูกก่อตั้งโดยผู้บริหารชาวยิว ซึ่งถูกยกให้เป็นชนชาติที่มีความสามารถทางธุรกิจมากที่สุดชาติหนึ่งในโลกกันเลยทีเดียว และนี่คือบรรดามหาเศรษฐีเชื้อสายยิว ที่หลายคนคงรู้จักและเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขากันบ้างไม่มากก็น้อย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top