Tuesday, 17 June 2025
NewsFeed

เชียงใหม่-สวนสัตว์เชียงใหม่คว้าอับดับ 1 จากผลสำรวจความพึงพอใจ ของผู้ใช้บริการจะปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เผยว่า ตามที่องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการสวนสัตว์ที่สังกัดในองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย  ตามแผนวิสาหกิจ พ.ศ. 2566-2570 และแผนปฏิบัติการ พ.ศ.2566 ยุทธศาสตร์ที่2 การพัฒนากายภาพและสิ่งแวดล้อมสวนสัตว์สู่การอนุรักษ์อย่างยั่งยืน 

โดยสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ (Google Form) ซึ่งจะช่วยการประเมินดังกล่าวมีการขยายขอบเขตที่กว้างมากขึ้น และแบ่งออกเป็น 4 ด้านของความพึงพอใจต่างๆ ดังนี้ ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ  ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก  ด้านกิจกรรมที่จัดแสดง และด้านความสะอาดของพื้นที่
       
จากผลการสำรวจที่ดำเนินการเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า สวนสัตว์เชียงใหม่ได้รับคะแนน เป็นอันดับ 1ของสวนสัตว์ 

ในสังกัดองค์การ โดยได้รับคะแนนสูงถึง 96.16 คะแนน ถือว่าสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของพนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่ทุกๆคน และเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่จะช่วยผลักดันให้สวนสัตว์เชียงใหม่มีการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นไป เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทุกท่านที่มาใช้บริการที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ให้เป็นสวนสัตว์แห่งความสุขของทุกชีวิต ต่อไป

นภาพร/เชียงใหม่

‘นายกฯ’ ยัน!! ไม่ยกเลิกแจกเงินดิจิทัล คาด ปลาย ต.ค.นี้ ชัดเจน เผย ลงพื้นที่มีแต่ชาวบ้านทวงถามเงินหมื่น ย้ำพร้อมรับฟังทุกฝ่าย

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีประชาชนหลายพื้นที่เรียกร้องโครงการเงินดิจิทัลว่า มีประชาชนหลายพื้นที่แสดงเจตจำนงว่าอยากได้มาก ตนดีใจเพราะตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีนักวิชาการหลายท่านไม่เห็นด้วย เรียกร้องให้ยกเลิกโครงการ ตนยืนยันตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกฯ รัฐบาลและคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ ข้อแนะนำทั้งหลายจากทุกหน่วยงาน รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) ด้วย เราน้อมรับไปพิจารณา เพื่อปรับปรุงแต่งเติมให้ทุกอย่างดูดีขึ้น แต่ไม่มีการยกเลิก ยืนยันว่าโครงการเงินดิจิทัล ไม่ใช่โครงการหาเสียง ไม่ใช่โครงการที่มาโปรยเงินให้ประชาชนเลือกตั้งให้เรากลับมาใหม่ แต่เป็นโครงการที่เราตระหนักดีถึงความจำเป็นและความต้องการของประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม

“คนต่างจังหวัดไม่ได้มีเงินเยอะเหมือนคนที่อยู่บนฐานบนของสังคม ความเหลื่อมล้ำมีเยอะมากในสังคมไทย เขาไม่มีเงิน งบประมาณของโครงการนี้ประมาณ 5 แสนกว่าล้านบาท ไม่ใช่งบประมาณที่ทำทุกปี ขอทำความเข้าใจว่าทำแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่ตั้งใจเอามาเพื่อซื้อเสียง เราทำออกมาเพื่อให้โดนใจประชาชนและมีเงินทุนในการประกอบอาชีพอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี”

“นักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์เยอะ ผมน้อมรับ แต่ท่านก็เป็นแค่หนึ่งเสียง พี่น้องประชาชนมีอีกหลายสิบล้านเสียงที่ต้องการเงินดิจิทัล เราน้อมรับฟังและนำไปปรับปรุงเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดตกอยู่กับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เสียภาษี ฝ่ายประชาชนที่มีความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจอย่างมากที่หมักหมมมานาน ผมขอให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลนี้จะไม่ลุด้วยอำนาจ และจะฟังความคิดเห็น แต่เหนือสิ่งอื่นใดความลำบากของประชาชน การที่ประชาชนขาดเงินทุนที่จะไปดำรงชีพเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญที่สุด ยืนยันจะไม่มียกเลิกเงินดิจิทัล” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีโอกาสได้พูดคุยกับนักวิชาการที่เห็นต่างเพื่อให้ไม่ให้เกิดบรรยากาศที่ไม่ดี นายเศรษฐากล่าวว่า ยืนยันตนคุยตลอด สัปดาห์ที่ผ่านมาก็คุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และทีมงานก็คุยกับนักวิชาการหลายท่าน ได้ไปพูดคุยและรับฟังตลอด

เมื่อถามว่า การที่ยังมีเสียงคัดค้านเป็นไปได้หรือไม่เพราะยังไม่เห็นรายละเอียด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นไปได้ และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อาจยังไม่เข้าใจ ดังนั้น ขอให้ตกผลึกทั้งหมดก่อนในแง่นโยบายว่ารายละเอียดมีอะไรบ้าง เช่น บางคนบอกว่าระยะทาง 4 ตารางกิโลเมตรอาจไม่พอ เพราะบางพื้นที่มองไปมีแต่ทุ่ง ไม่มีร้านค้าจะทำอย่างไร รัฐบาลรับฟังเดี๋ยวจะไปพิจารณาใหม่ คาดว่าน่าจะปลายเดือนตุลาคมน่าจะออกมาได้ทุกอย่าง ขอให้อดทนนิดหนึ่ง

‘ม.ฮ่องกง’ มอบทุนเรียนฟรี หนุน ‘นักเรียนไทย’ มากศักยภาพ จ่อเดินหน้าขยายความร่วมมืออีก 40 โรงเรียน ภายในปี 66

(8 ต.ค. 66) ศาสตราจารย์เบนเนต ชิ คิน ยิม ผู้บริหารฝ่ายรับนักศึกษาใหม่ ‘The University of Hong Kong’ เปิดเผยว่า ฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ และคณะ ได้จัดกิจกรรม Thailand Admission Tour 2023 ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อรายงานความร่วมมือทางวิชาการกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ได้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2563 จากการจัดสรรทุนการศึกษาให้กับนักเรียนไทยไปศึกษาที่ The University of Hong Kong จาก 3 แห่ง ประกอบด้วย

1.) กลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย
2.) โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
3.) โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

ปัจจุบันมีนักเรียนจากโรงเรียนดังกล่าวได้รับทุนไปศึกษาต่อแล้วกว่า 10 ทุนการศึกษา ในปีการศึกษา 2566 มีนักเรียนไทยกำลังศึกษาที่ The University of Hong Kong กว่า 166 คน ผลการหารือ The University of Hong Kong พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทยศักยภาพสูง เพื่อรับทุนไปศึกษาต่อที่ The University of Hong Kong และในปี 2566 จะขยายความร่วมมือไปยังโรงเรียนในไทยอีก 40 แห่ง

ทั้งนี้ ‘The University of Hong Kong’ มหาวิทยาลัยอันดับที่ 26 ของโลก จากการจัดลำดับของ ‘QS World University Rankings’ และเป็นอันดับ 1 ของโลกด้าน Most International University in the World จากการจัดอันดับของ ‘Times Higher Education’

‘อ.ปิติ’ กางตำรา ‘สมรภูมิพลิกอำนาจโลก’ ตีแผ่ชนวนรบ ‘อิสราเอล-ปาเลสไตน์’ การแทรกแซงจากชาติมหาอำนาจ สู่สงครามตัวแทน ‘สหรัฐฯ-มุสลิม’

(8 ต.ค. 66) รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีสถานการณ์ ‘ภาวะสงคราม’ ระหว่างประเทศอิสราเอล ปะทะกับกลุ่มฮามาสในดินแดนปาเลสไตน์ โดยระบุว่า…

“ความขัดแย้งครั้งล่าสุดในดินแดนตะวันออกกลาง ที่กลุ่ม #ฮามาส #Hamas เรียกร้องให้ ชาว #ปาเลสไตน์ ที่ถูกย่ำยีตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาโดย #ชาวยิว ออกมาใช้ความรุนแรงเพื่อปกป้อง #มัสยิดอัลอักศอ #AlAqsaMosque ในดินแดน #กาซา มีปฐมบทอย่างไร?

ทั้งนี้ เนื่องจาก ได้เห็นข้อความ X (Twitter) ของท่านนายกรัฐมนตรี ‘เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin’ แล้วมีความห่วงกังวลครับ การแสดงออกเรื่องการประณามการใช้ความรุนแรงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ แต่เนื้อความในส่วนต่อจากนั้นที่ค่อนไปทางอิสราเอล อาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมนัก เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้น เอาเข้าจริงมีเหตุผลมาจากทั้ง 2 ฝ่าย และต้องอย่าลืมว่า เพื่อนบ้านมุสลิมของไทยสนับสนุนปาเลสไตน์อย่างมาก ดังนั้น การเขียนข้อความที่เลือกข้างอิสราเอลอย่างชัดเจน ทั้งที่ประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับทั้ง 2 ฝ่าย อาจถูกตีความได้หลายมิติ

ดังนั้น เพื่อให้พวกเราได้เข้าใจสถานการณ์ ขออนุญาตนำเนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ ‘Amidst the Geopolitical Conflict #สมรภูมิพลิกอำนาจโลก’ ที่ ผม ปิติ ศรีแสงนาม และ ‘จักรี ไชยพินิจ Chakkri Chaipinit’ ร่วมกับเขียน และจะวางจำหน่ายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 12-23 ตุลาคมนี้ โดย Matichon Book - สำนักพิมพ์มติชน มาเผยแพร่ เพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง สำหรับการติดตามสถานการณ์นะครับ”

“ประเด็นปัญหาเรื่องความขัดแย้งระหว่าง #อิสราเอล และ #ปาเลสไตน์ เป็นปัญหาที่มีรากฐานมาอย่างยาวนานหลายช่วงอายุคน โดยเกี่ยวข้องกับประเด็นด้านศาสนา และเป็นปัญหาที่สะท้อนให้เห็นถึงความวุ่นวายจากการที่ชาติมหาอำนาจเข้ามามีบทบาทในดินแดนบริเวณนี้ และการเขียนประวัติศาสตร์ที่มีทั้งรูปแบบเข้าข้างอิสราเอลและเข้าข้างปาเลสไตน์ ความสลับซับซ้อนของเหตุการณ์ความขัดแย้งนี้ จึงทำให้การเมืองในตะวันออกกลางซับซ้อนไปด้วย

หากย้อนไปเมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้ว ดินแดนอิสราเอลหรือพื้นที่เยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นข้อพิพาทในปัจจุบัน เคยอยู่ในการครอบครองของชาวยิวมาก่อน แต่ในฐานะที่อาณาบริเวณแห่งนี้เป็น ‘ทางแยก’ ที่อยู่กลางแผนที่ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของทั้งศาสนา #ยูดาห์ #คริสต์ และ #อิสลาม จวบจนกระทั่งจักรวรรดิออตโตมันได้เข้ามาปกครองบริเวณแถบนี้ ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงตั้งชื่อ ‘เยรูซาเล็ม’ และบริเวณโดยรอบว่าเป็น ‘ปาเลสไตน์’ โดยชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในบริเวณแถบนี้ก็ถูกเรียกว่าเป็น ‘ชาวปาเลสไตน์’

จุดเปลี่ยนที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อ สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ปะทุขึ้น อังกฤษได้ให้คำมั่นสัญญากับชาวยิวว่า หากให้ความช่วยเหลือกับอังกฤษจนได้รับชัยชนะในสงคราม พวกเขาจะได้รับดินแดนปาเลสไตน์เป็นการตอบแทน บทสรุปของสงครามทำให้ชาวยิวได้เข้าไปอาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้ตามสัญญา อย่างไรก็ดี จุดเริ่มต้นของสถานะชาวยิวในดินแดนแถบนี้ก็มาพร้อมกับความขัดแย้งระหว่างยิวและอาหรับอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ความสลับซับซ้อนของสถานการณ์ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ทำให้ชาวยิวสามารถสถาปนารัฐเอกราชได้สำเร็จในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ.1948 ในชื่อว่า ‘อิสราเอล’ การเกิดขึ้นขององค์การสหประชาชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการแบ่งดินแดนออกเป็นของชาวยิวและชาวอาหรับ โดยมีเยรูซาเล็มเป็น ‘#ดินแดนร่วม (common land)’ สำหรับทั้ง 2 ฝ่ายตามมติ ค.ศ.1947

ในสายตาของ ‘องค์การสหประชาชาติ’ การแบ่งแยกดินแดนนี้เป็นการยุติปัญหาอย่างสันติ แต่กลับกลายเป็นว่า ความขัดแย้งระหว่างชาวยิวและชาวอาหรับได้ยกระดับกลายเป็น ‘สงครามระหว่างประเทศ’ ที่มีคู่ขัดแย้งหลักคืออิสราเอลและปาเลสไตน์ โดยมีพันธมิตรจากโลกตะวันตกและจากโลกมุสลิมเป็นฉากทัศน์ของความขัดแย้งที่ดำเนินไปนี้

ตลอดช่วงสงครามเย็น ความขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่ายดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่ผลลัพธ์ของการต่อสู้นั้น ฝ่ายอิสราเอลได้รับประโยชน์โดยได้ดินแดนที่เพิ่มขึ้น ปาเลสไตน์ที่เพลี่ยงพล้ำในการรบ จึงได้จัดตั้ง #องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (#PLO) เพื่อเคลื่อนไหวแบบกองโจรในการขับไล่อิสราเอล กระนั้นก็ตาม ในเหตุการณ์สำคัญอย่าง ‘#สงครามหกวัน’ ใน ค.ศ.1967 อิสราเอลก็สามารถผนวกเอาฉนวนกาซา และเขตเวสต์แบงก์ซึ่งเคยเป็นดินแดนที่ไม่มีเจ้าของ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตนเองได้สำเร็จ

หลังจากนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายก็มีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง อาทิ #วิกฤติการณ์อินทิฟาดา (#Intifada) ครั้งที่ 1 (ค.ศ.1987-1993) และครั้งที่ 2 (ค.ศ.2000-2005) รวมไปถึงการเกิดขึ้นของกองกำลังฮามาส (Hamas) ซึ่งมีวิธีการรบที่ดุดันมากกว่ากลุ่มองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ ถึงแม้ว่านานาชาติจะพยายามไกล่เกลี่ยผ่านข้อตกลงสำคัญ เช่น #การเจรจาที่แคมป์เดวิด (ค.ศ.1978)  #ข้อตกลงออสโล (ค.ศ.1993 และ 1995) แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้ง 2 ฝ่ายมีแนวโน้มการใช้อาวุธหนักมากกว่าเดิม ขณะเดียวกัน จำนวนผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป

ปัจจุบันความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ทำหน้าที่เสมือนเป็นสงครามตัวแทนระหว่างสหรัฐฯ และโลกมุสลิมไปโดยปริยาย ความขัดแย้งที่ดำเนินมากว่า 7 ทศวรรษจะคลี่คลายหรือดำเนินไปในลักษณะใด ย่อมส่งผลโดยตรงต่อหน้าตาของภูมิรัฐศาสตร์ใหม่แบบสามก๊กอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

รูปที่นำมาให้ชมคือ แผนที่แสดงภาพการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ระหว่างปี ค.ศ. 1917-2020 ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจว่าเพราะเหตุใดกลุ่ม Hamas ถึงเรียกร้องว่า ชาวปาเลสไตน์ถูกกดดันย่ำยีตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เพราะบ้านของพวกเขาถูกยึดเอาไปทีละน้อยๆ และพื้นที่ศักสิทธิ์สุดท้ายที่พวกเขาต้องปกป้องคือ ‘มัสยิดอัลอักศอ’ (Al-Aqsa Mosque) 1 ใน 3 สถานที่สำคัญสูงสุดของชาวมุสลิม (ร่วมกับ มัสญิดอัลฮะรอม ในนครมักก๊ะฮฺ ซึ่งเป็นที่ตั้งของก๊ะอฺบ๊ะฮฺ และ มัสญิดนะบะวีย์ หรือ ‘มัสญิดของท่านนบีมุฮัมมัด’ ซึ่งตั้งอยู่ที่นครมะดีนะฮฺ)

และในขณะเดียวกัน ชาวยิวก็เชื่อว่าสถานที่เดียวกันนี้คือที่ตั้งของ Temple Mount ซึ่งคัมภีร์ฮีบรูระบุว่าพระเจ้าโซโลมอน (สุไลมาน) ราชโอรสแห่งกษัตริย์เดวิด โปรดให้สร้างพระวิหารแรก (First Temple) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนายูดาห์ตามบทบันทึกคัมภีร์ฮีบรู

ถามว่า แล้วพวกเขาจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติเลยหรือ?

คำตอบคือ ได้ครับ และได้มาตลอดหลายร้อยปีด้วย โดยผมมีแผนที่ยืนยัน

ดูจากแผนที่แสดงการแบ่งเขตพื้นที่การอยู่ร่วมกันของพหุวัฒนธรรมในเขตเยรูซาเล็ม ก่อนการเกิดขึ้นของรัฐอิสราเอล นี่คือ ‘การอยู่ร่วมกันอย่างสันติในดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ ก่อนที่จะมีการแทรกแซงของมหาอำนาจอย่างอังกฤษและสหรัฐภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากดินแดนแห่งนี้แล้ว ในหนังสือเล่มนี้ พวกเรายังพิจารณาว่า ทั่วโลกยังมีจุดปะทุที่คนไทยต้องให้ความสนใจอีก 8 แห่ง ได้แก่ 

1.) NATO vs รัสเซีย : สงครามเย็นที่ไม่สิ้นสุด
2.) เอเชียใต้ : ดินแดนแห่งตัวแปรของภูมิรัฐศาสตร์
3.) แอฟริกา : กาฬทวีปที่ถูกมองข้าม
4.) ตะวันออกกลาง : ทางแยกของแผนที่โลก
5.) คาบสมุทรเกาหลี : ภูมิรัฐศาสตร์เก่าในบริบทใหม่ (บทความพิเศษ โดย Seksan Anantasirikiat)
6.) ช่องแคบไต้หวัน : การช่วงชิงพื้นที่ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา
7.) ทะเลจีนใต้ : เขตอิทธิพลของจีนกับประเด็นพิพาทของอาเซียน
8.) Zomia : จากดินแดนแห่งเทือกเขาสู่พื้นที่ยุทธศาสตร์การเมืองในเมียนมา

ถอดถ้อยคำ ‘แอฟ ทักษอร’ กล่าวอาลัย ‘คุณพ่ออนุสรณ์’ เป็นครั้งสุดท้าย สุดกลั้นน้ำตาแห่งความคิดถึงจากหัวใจลูกสาว ถึงคุณพ่อผู้เป็นที่รักยิ่ง

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเศร้าโศก ณ วัดธาตุทอง พระอารามหลวง ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีฉาปนกิจ ‘คุณพ่ออนุสรณ์ ภักดิ์สุขเจริญ’ คุณพ่อของนักแสดงสาวชื่อดัง ‘แอฟ ทักษอร’

โดยในช่วงหนึ่งของพิธีการทางศาสนา ‘แอฟ ทักษอร’ ได้มีโอกาสขึ้นกล่าวประวัติ และเส้นทางชีวิตของคุณพ่ออนุสรณ์ ผู้เป็นที่รักยิ่ง รวมทั้งถ้อยคำไว้อาลัยซึ่งถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกที่อยู่ภายในหัวใจ จนถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความรักและความคิดถึงเอาไว้ไม่อยู่…

“การได้เกิดมาเป็นลูกพ่อ คือสิ่งที่แอฟภูมิใจ การได้เป็นที่รู้จักในฐานะแอฟ ลูกคุณอนุสรณ์ สถาปนิกสุดเท่ ผู้เป็นที่รักของลูกค้ามากมาย แอฟลูกอาจารย์อนุสสอนน์ อาจารย์ที่เคารพรักของลูกศิษย์ และสุดท้ายในฐานะแอฟลูกพ่อสอนน์ คุณพ่อที่รักและใจดีกับลูกที่สุด เราสนิทกันมาก มากที่สุดเท่าที่พ่อกับลูกสาวจะสนิทกันได้

พ่อเป็นที่พึ่งทั้งกายและใจให้ลูกเสมอ พ่อเป็นคนเดียวในโลกที่แอฟอุ่นใจได้ว่าติดต่อได้ตลอดเวลา เพราะสำหรับพ่อลูกสำคัญกว่าสิ่งใดเสมอ แอฟจะจดจำทุกคำสอน ทุกหนังสือที่พ่อได้อ่าน โดยเฉพาะหนังสือปรัชญาที่พ่อชอบ ตอนเด็กๆ พ่ออ่านให้แอฟฟัง พอโตขึ้นแอฟกลับได้อ่านให้พ่อฟังตอนที่พ่อป่วย

แต่พ่อยังยิ้มทุกครั้งแม้พ่อจะเจ็บป่วย พ่อยิ้มให้ลูกทุกครั้งที่ลูกอ่านให้ฟังอย่างตั้งใจ หนังสือ 3 เล่มโปรดที่พ่อเคี่ยวเข็ญให้ลูกอ่านตั้งแต่เล็กจนโต คือ โจนาธาน ลิฟวิงสตัน นางนวล, โลกของโซฟี และสุดท้ายคือ เจ้าชายน้อย The Little Prince ซึ่งแอฟขอยกประโยคหนึ่งที่เรารัก นั่นก็คือ ‘เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา’ แอฟจะไม่ลืมความรักความพัน และช่วงเวลาแห่งความสุขของเรา แอฟขอกราบพ่อด้วยหัวใจ พ่อจะอยู่ในใจของลูกตลอดไป”

‘อดีต นร.ไทยในญี่ปุ่น’ จวก ‘พิธา’ หลังต่อสายตรงทูตอิสราเอลในไทย ชี้!! ไม่ใช่หน้าที่ แถมไร้ความเป็นมืออาชีพ หวั่นทำสื่อสารคาดเคลื่อน

(8 ต.ค. 66) จากกรณีที่อิสราเอลและกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ เปิดฉากโจมตีใส่กัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และสถานการณ์เริ่มลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น เมื่อได้มีการจับกุมตัวแรงงานคนไทยที่ทำงานในอิสราเอลเป็นตัวประกัน ซึ่งทางรัฐบาลไทยก็สั่งการให้เร่งตรวจสอบดูแลแรงงานอย่างใกล้ชิด

ซึ่งต่อมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ (X) ส่วนตัว ระบุว่า…

“ผมพึ่งวางสายโทรศัพท์จากการพูดคุยกับท่านทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และพี่น้องแรงงานคนไทยในอิสราเอลจากการประสานของปีกแรงงานพรรคก้าวไกล ได้ทราบมาว่าสถานการณ์มีความรุนแรงต่อเนื่อง และได้รับคำขอร้องว่าครอบครัวของแรงงานที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยไม่สามารถติดต่อญาติที่อิสราเอลได้ และกำลังตกอยู่ในความกังวลอย่างมาก หากท่านมีญาติไปทำงานที่อิสราเอล และบัดนี้ยังติดต่อไม่ได้ ท่านสามารถระบุชื่อของบุคคล เมืองที่พำนัก มาที่ email : [email protected] เพื่อรวบรวมเป็น database ประสานงานกับ สถานทูตอิสราเอล และ/หรือส่งมอบต่อกระทรวงต่างประเทศต่อไปได้”

จากกรณีดังกล่าว ทำให้เกิดการท้วงติงถึงความไม่เหมาะสม และดูไม่เป็นมืออาชีพ ของนายพิธา ในโลกโซเชียลกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด ‘คุณนฤพันธ์ โชติช่วง’ อดีตนักเรียนวิทยาลัยยามชายฝั่งญี่ปุ่น ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘Naruphun Chotechuang’ ให้มุมมองเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไว้ ระบุว่า…

“ทวิตนี้แสดงถึงความไม่เป็นงาน และต้องการแสงของผู้ทวิต โดยไม่ได้คำนึงถึงสิ่งที่อาจตามมาในภายหลัง

1.) เหตุการณ์นี้ คนที่ควรโทรคุยควรเป็นทูตไทยในอิสราเอล มิใช่ทูตอิสราเอลในประเทศไทย เพราะถือว่าเป็นคนที่มีหน้าที่โดยตรง และต้องพยายามติดต่อคนไทยที่อาศัยในอิสราเอลตามข้อมูลที่มี เพื่อดำเนินการในขั้นต่อไป

ในทางกลับกันคนไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศควรมีช่องทางติดต่อกับสถานทูตไทยในประเทศที่ตนเองอาศัยอยู่เช่นเดียวกัน เพราะสถานทูตคงไม่สามารถทราบว่าเราอยู่ที่ใดโดยไม่ได้แจ้ง การไปอยู่ต่างประเทศแบบไม่มีการเตรียมตัวรับสถานการณ์ฉุกเฉินเลย ถือเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเลย

2.) การใช้อีเมลส่วนตัวเป็นช่องทางรับข้อมูล ถือเป็นการกระทำที่ไร้ความเป็นมืออาชีพ และแสดงให้เห็นว่า อีเมลดังกล่าว ตัวเองไม่ได้จัดการดูแลอีเมลดังกล่าวด้วยตัวเอง มีคนอื่นสามารถเข้าถึงอีเมลของตัวเองได้ เพื่อจัดการข้อมูลที่จะเข้ามา

การสร้างอีเมลใหม่เพื่อใช้ในงานเฉพาะกิจไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรเลย เจ้าหน้าที่ไอทีทั่วไปสามารถทำได้ด้วยเวลาไม่กี่วินาที ทำให้คิดได้ว่า อาจจะไม่ได้คิดหรือต้องการให้ใช้ชื่อตัวเองเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง

3.) เรื่องสำคัญที่สุดคือ คนทวิตไม่ได้มีหน้าที่อะไรเลย แต่สร้างความสับสนในการติดต่อสื่อสารเพื่อแสงที่ตัวเองเคยทำเสมอมา และผมคิดว่าสุดท้ายก็คงไม่ต่างกรณีติดต่อไปยังรุ่นพี่ที่ MIT เพื่อเอาวัคซีนโควิดเข้ามา สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปล.ตัวผมเองเคยอยู่ในวิกฤตการณ์ในต่างประเทศอย่างเหตุการณ์สึนามิที่โทโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้นการติดต่อสื่อสารพิการ ทั้งระบบสัญญาณมือถือและอินเตอร์เน็ต เลยต้องติดต่อบอกสถานกงสุลไทยในโอซาก้า ด้วยโทรศัพท์ระบบสาย และค่อยบอกข่าวสารตัวเองไปยังมารดาเมื่อมีโอกาสในภายหลัง

‘กิตติรัตน์’ แจง 2 ข้อสงสัย ปม ‘เงินดิจิทัล’ ยัน!! ไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ เผย เหตุที่ไม่ให้เป็นเงินสด เพราะป้องกันการใช้เงินซื้อ ‘สิ่งไม่ดี-สิ่งผิด’

(8 ต.ค. 66) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กกรณีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาล ระบุว่า…

ตอบ 2 คำถาม 1.) เงินดิจิทัล จะสร้างเงินเฟ้อไหม?
- ไม่มีใครสั่งให้ธนาคารกลาง พิมพ์เงินใหม่มาใส่ระบบ แต่ ‘เงินดิจิทัล’ ทุกบาท จะมาจากรายได้ของรัฐบาลเอง

นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า ‘อุปสงค์’ (Demand) ที่เพิ่มจากโครงการ ย่อมเพิ่มปริมาณกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่จะไม่เป็นเหตุให้ ‘ราคาเฟ้อ’ เพราะอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยของประเทศอยู่ที่เพียงประมาณ 60%

อุปทาน (Supply) ย่อมเพิ่มได้โดยราคาไม่ขยับ และเมื่อผลิตเพิ่มขึ้นจะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของสินค้าที่ผลิตถูกลงอีก ถ้าไม่ลดราคา รัฐบาลขอเก็บภาษีจากกำไรที่สูงขึ้น

นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า 2.) ทำไมไม่ให้เป็น ‘เงินสด’ มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า?
- ‘เงินสด’ ใช้ซื้อ ‘สิ่งดี’ ได้ และใช้ซื้อ ‘สิ่งไม่ดี/สิ่งผิด’ ก็ได้ ‘เงินดิจิทัล’ ที่มีค่าเท่ากัน บาทต่อบาท ใช้ซื้อ ‘สิ่งไม่ดี/สิ่งผิด’ ไม่ได้ ใช้ไม่หมดตามกำหนด แสดงว่าไม่จำเป็นนัก ก็ยกเลิกการให้ได้

"เชียงราย"กองกำลังผาเมืองตรวจสอบพื้นที่ยิงปะทะขบวนการลำเลียงยาเสพติดชายแดนแม่สาย ยึดยาบ้า 500,000 เม็ด

จากกรณีเมื่อ เวลา 04.00 นาฬิกา ของวันที่ 8 ตุลาคม 2566 กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด บริเวณ บ้านสันเกล็ดทอง ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยสามารถยึดยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ประมาณ 500,000 เม็ด นั้น

เมื่อเวลา 11.30 นาฬิกา พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้มอบหมายให้ พันเอก กิดากร จันทรา รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย พันเอก ณฑีทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดปะทะ และตรวจสอบยาเสพติดของกลาง ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรแม่สาย โดยพบว่ายาเสพติดของกลางเป็นของกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด​ ในพื้นที่ด้านตรงข้ามกับ ชายแดน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่สาย  ซึ่งเป็นจุดที่พักยาเสพติดก่อนจะทยอยส่งเข้ามาในประเทศไทย

เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ยาเสพติดตามแนวชายแดน ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังผาเมือง ยังคงมีการผลิตยาเสพติดจำนวนมาก เพื่อส่งเข้ามาในประเทศไทย ทั้งจำหน่ายในประเทศไทย และส่งไปยังประเทศที่สาม อย่างต่อเนื่อง

โดยได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ที่วางกำลังอยู่ตามแนวชายแดน ปฏิบัติงานอย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อไม่ให้ยาเสพติดสามารถเข้าไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศไทยได้  

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

เกิดแผ่นดินไหวใน ‘อัฟกานิสถาน ฝั่งตะวันตก’ หนักสุดในรอบ 20 ปี ทำบ้านเรือนพังยับ ปชช.ดับพุ่งทะลุ 2,000 ราย เร่งค้นหาผู้รอดชีวิต

(8 ต.ค. 66) สำนักข่าวเอพี, อิสลามาบัด รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่อัฟกานิสถานตะวันตก เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,000 รายแล้ว โฆษกรัฐบาลตอลิบาน ระบุว่า เป็นเหตุแผ่นดินไหวที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดครั้งหนึ่งในรอบสองทศวรรษ

หน่วยงานภัยพิบัติแห่งชาติของประเทศอัฟกานิสถาน เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวรุนแรง 6.3 ริกเตอร์ ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน เมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) ที่ผ่านมา

แต่ ‘อับดุล วาฮิด รายาน’ โฆษกกระทรวงสารสนเทศและวัฒนธรรม กล่าวว่า “ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในเมืองเฮราตนั้นสูงกว่ารายงานเดิม หมู่บ้านประมาณ 6 แห่งถูกทำลาย และพลเรือนหลายร้อยคนถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง” เขากล่าวขณะเรียกร้องความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ (7 ต.ค.) ที่ผ่านมา ‘องค์การสหประชาชาติ’ แจ้งตัวเลขเบื้องต้นว่ามีผู้เสียชีวิต 320 ราย แต่ภายหลังระบุว่าตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หน่วยงานท้องถิ่นประเมินว่ามีผู้เสียชีวิต 100 รายและบาดเจ็บ 500 ราย ตามข้อมูลอัปเดตเดียวกันจากสำนักงานเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ

ข้อมูลอัปเดตดังกล่าวระบุว่า มีรายงานบ้านเรือน 465 หลังถูกทำลาย และอีก 135 หลังได้รับความเสียหาย

“พันธมิตรและหน่วยงานท้องถิ่นคาดการณ์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความพยายามค้นหาและช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางรายงานที่ว่า มีบางคนอาจติดอยู่ใต้อาคารที่พังทลาย” องค์การสหประชาชาติ ระบุ

‘โมฮัมหมัด อับดุลลาห์ ยาน’ โฆษกหน่วยงานภัยพิบัติ กล่าวว่า หมู่บ้าน 4 แห่งในเขตเซนดายาน ในจังหวัดเฮราต ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกอย่างหนัก

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองเฮราตไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรงมาก 3 ครั้ง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.3, 5.9 และ 5.5 เช่นเดียวกับแรงกระแทกที่น้อยกว่า

‘อับดุล ชากอร์ ซามาดี’ ชาวเมืองเฮราต กล่าวว่า แผ่นดินไหวรุนแรงอย่างน้อย 5 ครั้งเกิดขึ้นในเมืองนี้

“ทุกคนออกจากบ้านแล้ว” ซามาดีกล่าว “บ้าน สำนักงาน และร้านค้าต่างว่างเปล่า และอาจเกิดแผ่นดินไหวมากขึ้น ฉันและครอบครัวอยู่ในบ้าน ฉันรู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหว” ครอบครัวของเขาเริ่มตะโกนและวิ่งออกไปข้างนอก กลัวที่จะกลับเข้าไปในบ้าน

องค์การอนามัยโลกในอัฟกานิสถาน ระบุว่า ได้ส่งรถพยาบาล 12 คันไปยังเซนดายาน เพื่ออพยพผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล

“ในขณะที่ยังคงมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว ทีมต่างๆ อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือการรักษาผู้บาดเจ็บและประเมินความต้องการเพิ่มเติม” หน่วยงานของสหประชาชาติ ระบุใน X (เดิมชื่อ Twitter) ว่า “รถพยาบาลที่ได้รับการสนับสนุนจาก WHO กำลังรับส่งผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก”

การเชื่อมต่อโทรศัพท์ขัดข้องในเมืองเฮราต ทำให้ยากต่อการรับรายละเอียดจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ วิดีโอบนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นผู้คนหลายร้อยคนบนถนน นอกบ้านและสำนักงานในเมืองเฮราต

จังหวัดเฮราตติดกับอิหร่าน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า รู้สึกถึงแผ่นดินไหวครั้งนี้ในจังหวัดฟาราห์และบาดกีสที่อยู่ใกล้เคียงของอัฟกานิสถาน

‘อับดุล ฆานี บาราดาร์’ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีอัฟกานิสถาน ฝ่ายเศรษฐกิจ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยกลุ่มตอลิบาน แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในเมืองเฮราตและบาดกิส

กลุ่มตอลิบานเรียกร้องให้องค์กรท้องถิ่น เดินทางไปยังพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล จัดที่พักพิงให้กับคนไร้บ้าน และจัดส่งอาหารให้กับผู้รอดชีวิต พวกเขากล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงควรใช้ทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

“เราขอให้เพื่อนร่วมชาติที่ร่ำรวยของเรา ให้ความร่วมมือที่เป็นไปได้ และช่วยเหลือพี่น้องที่ทุกข์ทรมานของเรา” กลุ่มตอลิบานกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย X

‘ทาคาชิ โอคาดะ’ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำอัฟกานิสถาน แสดงความเสียใจผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่า “เขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งและเศร้าใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับทราบข่าวแผ่นดินไหวในจังหวัดเฮราต”

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ในพื้นที่ภูเขาขรุขระทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน บ้านเรือนที่สร้างด้วยหินและอิฐโคลนพังราบเป็นหน้ากลอง แผ่นดินไหวครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 1,000 ราย และบาดเจ็บประมาณ 1,500 ราย

‘แอนิเทค’ เปิดตัวเครื่องชาร์จ EV แบบพกพา เจ้าแรกที่ผลิตในไทย รับรองมาตรฐาน มอก. เพิ่มความมั่นใจผู้ใช้งาน เบิกทางสู่กรีนเทคโนโลยี

เมื่อไม่นานนี้ นายโธมัส พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เทรนด์การใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทั้งแบบแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอินไฮบริด มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

โดยมีการคาดการณ์ว่าในปีนี้ มีปริมาณกว่า 15 ล้านคัน และในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นรวมกว่า 17.9 ล้านคัน ทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยก็มีส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV และ PHEV มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียนกว่า 59.2% จึงเป็นโอกาสและที่มาของการแตกไลน์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอนิเทค ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับวิศวกรรถยนต์ EV กว่า 1 ปี ด้วยงบประมาณกว่า 5 ล้านบาท

‘แอนิเทค’ จึงเป็นแบรนด์แรกที่ผลิต ‘Portable EV Charger’ ในประเทศไทยเป็นเจ้าแรก ด้วยการนำ มอก.11 และ มอก.166 มาใช้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค และยังรับประกันสินค้า 1 ปี รับประกันสูงสุดถึง 300,000 บาท เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในกลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพสูงและบริการหลังการขายที่เข้าถึงได้ ด้วยความเชี่ยวชาญกว่า 18 ปี ในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

โดยภายในปีนี้ คาดว่าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ‘แอนิเทค อีวี วัน’ จะสร้างยอดขายได้มากกว่า 1,000 ชิ้น และจะสูงขึ้นในปีต่อๆ ไปตามเทรนด์ ผ่านการขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และรับผลิตให้กับแบรนด์รถยนต์ที่ตั้งฐานผลิตและประกอบในประเทศไทย

ทั้งยังมองโอกาสที่จะขยายไปยังต่างประเทศ ที่มีส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV และ PHEV ถึง 40% โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่างๆ

สำหรับ ‘แอนิเทค อีวี วัน’ มีรูปแบบหัวปลั๊ก Type2 ที่ปรับกำลังไฟฟ้า ได้ 4 ระดับตั้งแต่ 16 แอมป์, 13 แอมป์, 10 แอมป์ และ 8 แอมป์ พร้อมกำลังขับ 3.5 กิโลวัตต์ หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้ว ไฟแสดงสถานะแบบ LED พร้อมปุ่มทัชสกรีน มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP65 ปริมาณกระแสไฟฟ้า Input/ Output : 250 VAC 50 Hz และสายไฟยาว 5 เมตร ทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยโหมดการตั้งเวลาชาร์จ

โดยมีระบบการป้องกันครอบคลุมทุกความปลอดภัย ได้แก่  ป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกิน, ป้องกันไฟฟ้าไหลเกินกำลัง, ป้องกันแรงดันไฟฟ้าตก, ระบบสายดินป้องกันไฟฟ้ารั่วไหล, ป้องกันอุณหภูมิสูงเกินไป รวมถึงป้องกันฟ้าผ่า

“ปีนี้แอนิเทคมีสินค้าที่เปิดตัวใหม่กว่า 150 รายการ เมื่อรวมกับสินค้าทั้งหมดจะทำให้แอนิเทคมีสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาดมากกว่า 1,000 รายการ ครอบคลุมในหมวดสินค้า computer accessories, home devices, home appliences และ personal care และในปีหน้าคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 200 รายการ จะทำให้แอนิเทคมีสินค้ารวมกันมากกว่า 1,200 รายการ” นายโธมัส พิชเยนทร์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการเดินหน้าสู่อุตสาหกรรม Green Technology ที่กำลังเป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่และมีผลกระทบต่อคนทั่วโลก โดยจะมีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกรีนเทคโนโลยี ตามมาอีกมากมายตัวอย่างเช่น Anitech EV-ONE V2L ที่คาดว่าจะเปิดตัวต้นปีหน้าด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top