Wednesday, 9 July 2025
NewsFeed

‘ดอน’ เผย เมียนมาเสียใจ กรณีเครื่องบินรบรุกล้ำไทย รับปากไม่บินล้ำน่านฟ้าไทยอีก พร้อมทำหนังสือชี้แจง

(5 ก.ค.65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือทวิภาคีกับ นายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเมียนมา ระหว่างร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ที่ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ (4 ก.ค.) ที่ผ่านมา ว่า... 

ได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีเครื่องบินของเมียนมาที่บินลุกล้ำน่านฟ้าไทย ซึ่งฝ่ายเมียนมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และไม่ได้เกิดขึ้นโดยเจตนาถือเป็นอุบัติเหตุ โดยฝ่ายเมียนมาแจ้งว่าจะทำหนังสือมาถึงฝ่ายไทย
 

ลูกศิษย์แห่จองพื้นที่รอรับ ‘ครูบาบุญชุ่ม’กำหนดออกจากถ้ำ 31 ก.ค.นี้ หลังปิดวาจานาน 3 ปี

ลูกศิษย์แห่จองพื้นที่นานเป็นเดือน รอรับ ‘ครูบาบุญชุ่ม’ ตนบุญแห่งล้านนา ที่มีกำหนดออกจากถ้ำ (31 ก.ค.) นี้ หลังบำเพ็ญเพียรปิดวาจานาน 3 ปี 3 เดือน 3 วัน

จากกรณีก่อนหน้านี้ เพจ มูลนิธิดอยเวียงแก้ว พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ โพสต์เปิดกำหนดการออกจากถ้ำหลวงเมืองแก๊ดว่า กำหนดการออกถ้ำ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรญฺญวาสีภิกขุ จะออกจากถ้ำ วันที่ 31 กรกฎาคม 2565 นั้น

ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพในโลกโซเชียล วันที่ (2 ก.ค. 65) ผู้ศรัทธาเริ่มไปจองสถานที่รอครูบาพ่อบุญชุ่ม ออกถ้ำ ครบ 3 ปี 3 เดือน 3 วันที่ 31 ก.ค. 65 เมื่อถึงวันออกถ้ำคาดว่าจะมีผู้ศรัทธามากมายมารอรับ 

ขณะที่ เพจ มูลนิธิดอยเวียงแก้ว พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ ยังได้โพสต์เตือนระวังมิจฉาชีพแอบอ้างครูบาบุญชุ่มหลอกให้โอนเงินต่างๆ นานา เตือนอย่าหลงเชื่อด้วย

สำหรับ ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร เป็นพระภิกษุฝ่ายอรัญวาสีชาวไทย ผู้ได้รับความเคารพศรัทธาอย่างสูงจากชาวยวน ไทใหญ่ ชาวลาว และชาวภูฏาน

ครูบาบุญชุ่ม เกิดเมื่อวันอังคารที่ 5 ม.ค. 2508 เวลา 09.00 น. ที่หมู่บ้านแม่คำหนองบัว ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2519 ขณะอายุได้ 11 ปี ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรีในปี 2526 ต่อมาได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2529 ณ อุโบสถวัดพระเจ้าเก้าตื้อ (ปัจจุบันรวมกับวัดสวนดอก (จังหวัดเชียงใหม่)) โดยมีพระราชพรหมาจารย์ (ดวงคำ ธมฺมทินฺโน) เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์

'เพื่อไทย' ซัด!! รัฐบาลใช้งบพีอาร์หลายพันล้าน แต่สู้ 'ผู้ว่าฯ กทม.' ที่ใช้แค่มือถือไลฟ์ลงเฟซบุ๊กไม่ได้

เมื่อวันที่ (5 ก.ค.) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ว่าพูดคุยกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กรณีการจัดการสายสื่อสาร พร้อมระบุว่ารัฐบาลทำงานมาตลอด แต่ยอมรับว่าประชาสัมพันธ์สู้นายชัชชาติไม่ได้ว่า สะท้อนแนวคิดการทำงานแบบน้ำเต็มแก้วของนายชัยวุฒิและรัฐบาลชุดนี้ ที่ชอบพูดเสมอว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีผลงานมากมาย แต่อ่อนด้อยการประชาสัมพันธ์ ประชาชนจึงไม่ทราบ ปัญหาการบริหารที่ผ่านมาของรัฐบาล หากมองแค่การอ่อนประชาสัมพันธ์คงเป็นการมองปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุแห่งปัญหาคือผลงานของรัฐบาลและของ รมว.ดิจิทัล หากมีผลงานที่ประชาชนจับต้องได้ ต่อให้ไม่ต้องทำการประชาสัมพันธ์ก็จะมีการพูดถึงปากต่อปากโดยประชาชน ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ยั่งยืน 

แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กลับใช้เงินภาษีของประชาชนประชาสัมพันธ์นโยบายของภาครัฐต่อปีไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2565 เฉพาะกรมประชาสัมพันธ์ได้งบประมาณ 2,423 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2566 ได้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 70 ล้านบาทเป็น 2,493 ล้านบาท ยังไม่รวมการประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลผ่านกระทรวงและหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งประชาชนเจ้าของภาษีมีสิทธิที่จะตั้งคำถาม ว่าเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินคุ้มค่าหรือไม่

'จิรายุ' ผวา!! กัญชาเสรี ทำคนเจ็บป่วยตายทุกวัน เสนอยกเลิกเสรีกัญ จนกว่าจะมีกฎหมายรองรับ

‘จิรายุ’ จี้!! รัฐบาลปุ๊น ๆ มีข่าวตายป่วยเจ็บเพราะกัญทุกวัน ยังทำนิ่ง เสนอนายกฯ ต้องยกเลิกเสรี กัญไปก่อนจนกว่าจะมีกฎหมายรองรับ โวยห่วงคนพื้นที่ สามวาจนต้องขึ้นป้าย ดูดปุ๊นขับรถเสี่ยงตาย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ผลกระทบจากการเปิดเสรีกัญชาทั่วประเทศว่า วันนี้ อาการสังคมกำลังป่วยหนัก บ้านเมืองไร้ขื่อแปร เกิดยุคคล้ายกับ  ‘โรงฝิ่น’ ในศตวรรษที่ 19 แต่วันนี้ศตวรรษที่ 21 กำลังเป็นยุค ‘บ้องโจ๋ครองเมือง’ เสรียิ่งกว่า 

ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ วันนี้เด็กและเยาวชน เข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก มีคนเจ็บคนป่วยคนตายทุกวัน ซึ่งดูแล้วหากรัฐบาลจะทำเนียน อ้างว่ารอ พรบ.ประกอบออกมาก็จะดีขึ้นนั้น ตนไม่เห็นด้วยเพราะวันนี้ทั้งสื่อโซเชียลวิทยุ โทรทัศน์โฆษณาสินค้าผสมกัญชากันอย่างโจ๋งครึ่ม ตู้กดน้ำใกล้สถานศึกษาโรงเรียน  โรงพยาบาล คอนโดมิเนียมมีเพียบ ซึ่งตนเชื่อว่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล ประกาศยกเลิก เสรีกัญชาไว้ก่อนจนกว่า พรบ.ประกอบจะประกาศใช้เพื่อคืนสังคมที่ดีให้กับครอบครัวคนไทย

'วิเชียร' เผย หากศาลตีความนายกฯ ครบ 8 ปี พ้นตำแหน่งทันที ชี้ พิจารณาที่คุณสมบัติ อย่าอ้างรธน. 

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 65 นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) และผู้อำนวยการพรรคกล่าวถึง กรณีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ที่จะครบวาระ 8 ปีในเดือนสิงหาคม จะต้องรอให้ครบกำหนดก่อนหรือไม่ ว่า โดยปกติศาลรัฐธรรมนูญจะไม่วินิจฉัยหลักการ คือไม่วินิจฉัยล่วงหน้า แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วร้องขอให้วินิจฉัย ศาลจึงจะวินิจฉัยโดยปกติ ดังนั้นถ้าหลักการเป็นไปตามที่ได้เคยใช้อยู่นั้น ศาลก็จะรับเมื่อครบ คือเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วถึงจะส่งให้ศาลวินิจฉัย ดังนั้นต้องเป็นหลัง 24 ส.ค.ไปแล้ว ถึงจะสามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้  

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำวินิจฉัยการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ สามารถดำเนินการต่อไปได้ตามปกติหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า กฎหมายไม่ได้บอกไว้ อยู่ที่ศาลจะสั่ง แต่หากวินิจฉัยมาว่าครบ 8 ปีพ้นจากตำแหน่งทันที อย่างไรก็ตามนายกฯ ไม่สามารถรักษาการตำแหน่งได้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการของการสรรหานายกฯ ใหม่ เป็นบทบัญญัติพิเศษที่บังคับใช้กับคนที่เป็นนายกฯ ว่าพ้นจากตำแหน่งทันที แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะเมื่อนายกฯ ไม่อยู่กฎหมายก็บอกให้ครม.ที่เหลือรักษาการ ดังนั้นรองนายกฯ ก็เป็นรักษาการนายกฯ  

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องสรรหานายกฯ ใหม่ นายวิเชียร กล่าวว่า เมื่อตำแหน่งนายกฯ ว่างก็เป็นกระบวนการที่ต้องสรรหานายกฯ ใหม่อยู่แล้ว โดยกฎหมายไม่ได้ระบุไว้ว่ากำหนดระยะเวลาเท่าไหร่ แต่ว่างเว้นจากผู้บริหารนานไม่ได้ ต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหา  

เมื่อถามว่า จากสถานการณ์การเมืองขณะนี้ จะนำไปสู่เรื่อง 8 ปีแล้วต้องสรรหานายกฯ ใหม่หรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า ฝ่ายค้านยื่นอยู่แล้ว ประเมินขณะนี้ หากฝ่ายค้านยื่นก็ต้องไปสู่กระบวนการวินิจฉัยของศาลต่อไป แต่ประเด็นเรื่องครบวาระ 8 ปีก็มีความเห็นหลายมุม อย่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ก็พูดเป็นนัยว่าถ้าครบแล้วยื่น ศาลก็ต้องวินิจฉัย  

เมื่อถามว่า ในแง่กฎหมาย มองว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาเป็นอย่างไร นายวิเชียร กล่าวว่า เราไปวินิจฉัยแทนไม่ได้ เหตุผลต่างๆ ประกอบกัน แต่โดยหลักการเรื่องการกำหนดคุณสมบัติของคนที่จะดำรงตำแหน่งนั้น ต้องพิจารณาในเรื่องของคุณสมบัติ ไม่ได้ดูที่กฎหมายใช้เมื่อไหร่ ซึ่งความเห็นส่วนตัว จะนำรัฐธรรมนูญมาอ้างไม่ได้เป็นคนละเรื่องกัน 

ตร. เตือนไปท่องเที่ยว โพสต์รูปตั๋วเครื่องบิน เสี่ยงโดนดึงข้อมูลส่วนตัว

วันที่ 5 ก.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

เนื่องด้วยปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง พี่น้องประชาชนสามารถใช้ชีวิตประจำวันและออกเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งพบว่ามีพี่น้องประชาชนบางส่วนได้โพสต์ภาพของเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน (boarding pass) และหนังสือเดินทาง ซึ่งเอกสารการดังกล่าวในปัจจุบัน มักจะมีข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เที่ยวบิน วันเวลาเดินทาง ที่นั่งโดยสาร เป็นต้น อีกทั้งยังมีการเก็บข้อมูลบางส่วนไว้ในรูปแบบของ QR Code หรือ Bar Code อีกด้วย

อนุสรณ์ แนะ!! นายกฯ ไม่ไหวก็อย่าฝืน ประชาชนต้องการผู้นำที่พาประเทศมั่งคง ไม่ใช่ผู้นำที่บังคับทิศทางประเทศไม่ได้

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นำการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ว่า รัฐบาลแก้วิกฤตราคาพลังงาน เงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง ด้วยการใช้หน่วยงานความมั่นคงนำการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ผิดฝาผิดตัว ตลอด 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ดูเหมือนจะยึดวิธีถ้าบริหารผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ จะปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัว หรือโยนความผิดให้คนอื่นไว้ก่อน วิธีคิดถ้ารถเสียให้ทุกคนลงไปช่วยกันเข็น เห็นได้ในหลายสถานการณ์ ประชาชนคนไหนจะอยากอยู่บนรถที่น้ำมันหมด คนขับขับไม่เป็น บังคับพวงมาลัยผิดทิศผิดทาง เข้ารกเข้าพง โอกาสรถพุ่งลงเหวสูง 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ใช้ความมั่นคงนำทุกอย่าง เพื่อความมั่นคงของเก้าอี้ตัวเองก่อนความมั่นคงของประชาชนหรือไม่ วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ใช้สมช.นำหน่วยงานด้านสาธารณสุขจนพรรคร่วมรัฐบาลต่างโวยวายว่าถูกยึดอำนาจ รัฐซ้อนรัฐ วิกฤตเศรษฐกิจแทนที่จะใช้สภาพัฒน์ร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจอื่นๆ กลับใช้สมช.นำหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ขาดความรู้ ความสามารถ ขาดความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ ไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาวิกฤต

'บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม' ส่งซิกเคาะสูตรปาร์ตี้ลิสต์ หาร 500 ผนึกกำลังสกัดแลนด์สไลด์

เกมพลิกผนึกกำลังสกัดแลนด์สไลด์! ‘บิ๊กตู่’ คุย ‘บิ๊กป้อม’ เคาะสูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 แต่ให้ ‘พปชร.’ฟรีโหวต ส่งสัญญาณแกนนำขั้วพรรคร่วมรัฐบาลพรึ่บ ‘ภท.-พรรคเล็ก’ ตกปากรับคำ ‘กลุ่มส.ว.’ ไม่พลาดเอาด้วย ส่วน ‘ปชป.’ เสียงยังแตกเป็น 2 กลุ่ม ‘ซีกฝ่ายค้าน’ รับสภาพแพ้แน่ เตรียมใช้สูตรเดิม “แตกแบงค์”ดิ้นสู้ต่อเฮือกสองยื่นศาลรธน.ขัดเจตนารมย์

(5 ก.ค.65) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความเคลื่อนไหวการพิจารณาวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะใช้สูตรหารด้วย 100 หรือ 500 ที่ยังคงมีคะแนนเสียงก้ำกึ่งเบียดกันมาตลอดนั้น แต่ปรากฏว่า ในช่วงบ่ายวันที่ (5 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยแล้ว เพื่อตกลงให้ใช้สูตร 500 หาร ในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และได้ส่งสัญญาณมาถึงแกนนำในขั้วพรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มส.ว.รับทราบถึงแนวทางดังกล่าว ทำให้ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดจะสนับสนุนการใช้สูตร 500 หาร คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

โดยพรรคพลังประชารัฐจะให้เป็นฟรีโหวต แต่ทิศทางทุกคนจะสนับสนุนการใช้ 500 หาร พรรคประชาธิปัตย์เสียงแตกเป็น 2 กลุ่ม แต่เสียงส่วนใหญ่ 40 คน เอาด้วยหาร500 ส่วนพรรคภูมิใจไทย พรรคเล็ก และ ส.ว.จะเทเสียงให้กับการหาร 500 ทั้งหมด โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย แหล่งข่าวของพรรคฯยืนยันว่า จะสนับสนุนสูตรหาร500 แต่การโหวตจะให้เป็นเอกสิทธิ์ส.ส.ของพรรค และการลงมติของพรรคจะเป็นเอกภาพ

ทบ. ฝึกอบรมหลักสูตรทักษะด้านดิจิทัล เพื่อนำไปสู่การพัฒนารัฐบาลติจิทัล (Digital Government Maturity Model)

วันอังคารที่ ๕ ก.ค. ๖๕ พลโท วรพจน์ เร้าเสถียร เจ้ากรมการทหารสื่อสาร เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทักษะด้านดิจิทัล นายทหารสัญญาบัตร รุ่นที่ ๒ ณ ห้องประชุม โรงเรียนทหารสื่อสาร กรมการทหารสื่อสาร เวลา ๑๓.๓๐ น. โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๓๒ นาย มีระยะเวลาในการฝึกอบรม ๕ สัปดาห์ มีรูปแบบการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ สำหรับในพิธีปิดการฝึกอบรมมีการเปิดวิดีทัศน์ และมอบประกาศนียบัตรสำเร็จการฝึกอบรมให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม

สำหรับ “หลักสูตรทักษะด้านดิจิทัล นายทหารสัญญาบัตร รุ่นที่ ๒” มุ่งพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลบุคลากรของกระทรวงกลาโหม สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยให้ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในส่วนของการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและการให้บริการด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ภายใต้แนวคิด การปรับเปลี่ยนภาครัฐเป็นรัฐบาลติจิทัล โดยกำหนด "แผนพัฒนาทักษะด้านติจิทัลบุคลากรของกระทรวงกลาโหม" ขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบการพัฒนาบุคลากรของกระทรวงกลาโหม ในระยะ ๘ ปี ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๗๐ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้...

๑. เพื่อให้กระทรวงกลาโหมมีบุคลากรที่มีทักษะด้านดิจิทัลที่เหมาะสม ที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญในการปรับเปลี่ยนหน่วยงานเป็นรัฐบาลดิจิทัล ทั้งนี้เป็นการพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ในยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล

๒. เพื่อให้บุคลากรกระทรวงกลาโหมสามารถปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีความพร้อมที่จะปฏิบัติงานตามบทบาทและพฤติกรรมที่คาดหวังในบริบทของการปรับเปลี่ยนเป็นรัฐบาลดิจิทัล และสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

'กรณ์' จี้นายกฯ บี้รมว.พลังงาน แฉ ซ้ำ ราคาหน้าโรงกลั่นถูกลง แต่หน้าปั๊มไม่ลด ปล่อยเพิ่มค่าการตลาดฟันกำไร

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี กำชับ 'รัฐมนตรีพลังงาน' ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดในช่วงนี้เนื่องจากมีความหละหลวมในการดูแลประชาชนอย่างมาก  เนื่องจากเดือนที่ผ่านมานี้สังคมกดดันท่านรัฐมนตรีเรื่อง 'ค่าการกลั่น' ที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ น้ำมันแพง  ของแพง วันนั้นท่านออกมาสัมภาษณ์ว่า ‘คิดมาก่อนแล้ว เตรียมมาตรการไว้เป็นชุด’ แต่แล้วถึงวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรชัดเจน ส่วน 3-4 วันที่ผ่านมานี้ ท่านได้ปล่อยให้ผู้ขายนํ้ามันเพิ่ม ‘ค่าการตลาด’ (รายได้ของผู้ค้าน้ำมัน) ในกรณีของเบนซินขึ้นมาสูงเกินมาตรฐานปกติอย่างมาก

"วานนี้ (5 ก.ค.) ค่าการตลาด Gasohol95 E10 สูงถึง 3.42 บาทต่อลิตร ส่วน Gasohol 91 อยู่ที่ 3.62 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดปกติไม่ควรเกิน 2 บาท และที่น่าสนใจคือ หากเทียบกับวันที่ พรรคกล้า ได้ออกมากระทุ้งรัฐบาลครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.เราจะเห็นว่า ราคานํ้ามันที่รับจากโรงกลั่นน้ำมันถูกลง แต่ราคาหน้าปั้มยังอยู่ในระดับเดิม แทนที่คนไทยเรา จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ถูกลง กลับกลายเป็นผู้ค้าเอาไปเป็นรายได้ของตนเอง ซึ่งผู้ค้าใหญ่สุดก็คือ ปตท. นั่นเองรัฐมนตรีพลังงาน ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้อย่างไรครับ" หัวหน้าพรรคกล้า ตั้งข้อสังเกต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top