Friday, 4 July 2025
NewsFeed

‘ปลอดฯ’ พ้อ!! ผ่านชีวิต 77 ปี ไม่เคยเจอสังคมตกต่ำเช่นนี้ ถาม!! ประเทศไทยเป็นอะไรไปแล้ว?

(6 พ.ค. 65) นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นว่า ประเทศไทยเป็นอะไรไปแล้ว โดย ระบุว่า...

ผมผ่านชีวิตมาถึง 77 ปี ก็ถือว่าได้เห็นโลกมานานมากพอสมควร ผมมีความรู้สึกว่า วันนี้สังคมไทยเหลวไหลเละเทะมาก หลักคิด หลักปฏิบัติแปรปรวนไปทางร้ายเอามากๆ ผมขอถือโอกาสสรุปความเห็นจากไลน์ของกลุ่มเพื่อนเก่าในโลกยุคเก่าของพวกผม พอสังเขปดังนี้...

เขาบอกว่าหากคนชั้นล่างก่อคดีข่มขืนก็จะมีการเรียกร้องให้ประหาร แต่ถ้าเป็นคนข้างบนก็จะปล่อยให้เรื่องเงียบ เขาให้ความเห็นว่า ครูผู้หญิงใส่บิกินี่ไปทะเลมีคนไม่พอใจ แต่พอครูผู้ชายถ่ายรูปพนักงานหญิงบนเครื่องบินเพื่อยั่วน้ำลายกลับมีคนเห็นใจ เขาระบายว่า หากพระโนเนมมี sex กับสีกาต้องรุมประจาน แต่ถ้าพระมีชื่อเสียงหน้าตาดีกลับมีคนให้กำลังใจนับแสน 

ในเรื่องการเมืองพวกเขาสรุปว่า คนที่ขัดขวางการเลือกตั้งและเรียกร้องรัฐประหาร วันนี้มาลงสมัครเลือกตั้งกันหน้าสลอน (หน้าไม่อาย)

‘นารา’ แจงปมคลิปบูลลี่ ชี้!! เอเจนซี่ตรวจก่อนโพสต์ เมินขอโทษ ไม่ได้ทำอะไรผิด ลั่นอยากทำแรงกว่านี้

ไม่นานมานี้ อนิวัต ประทุมถิ่น หรือ ‘นารา เครปกะเทย’ ได้ไลฟ์สดชี้แจงกรณีทำคลิปล้อเลียนเบื้องสูงว่า เรื่องนี้ตนไม่ขอโทษใคร ซึ่งตนได้ถูกยกเลิกงานไปแล้ว แต่แอปไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้อเลียน โดยทางแอปได้โทรมาแจ้งว่าให้ซ่อนคลิป ตนก็บอกซ่อนได้ แต่เงินต้องจ่าย จำนวน 35,000 บาท ความจริงตนไม่อยากรับ แต่ว่าเอเจนซี่น่ารัก ตนเลยรับงาน ยืนยันที่ถูกยกเลิกงานตนไม่ซีเรียส เนื่องจากตนได้เงิน ซึ่งคลิปก็ได้ให้เอเจนซี่ดูก่อนที่จะโพสต์ด้วย

นารา เครปกะเทย กล่าวต่อว่า ตนตั้งใจอยากจะทำภาพนี้อยู่แล้ว แต่ตนไม่ได้บอกว่าหนูรัตน์แต่งเป็นใคร หม่อมดิวแต่งเป็นใคร ทุกคนสามารถใส่ชุดไทยได้ คนใส่ชุดไทยนั่งบนวีลแชร์ก็มีเป็นพันคนในโลกนี้ ตัวละครแบบนี้ก็มีเยอะมากมาย จะมาบอกว่าเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ตนบอกเลยว่าไม่ได้เล่น ตนทำงาน แต่เพราะโซเชียลมีดรามาเยอะเกินไป สลิ่มก็ไปโยง และแบนแอป ซึ่งสลิ่มไม่ต้องมาด่าแรง ไม่ต้องไปแบนแอป เพราะดูแล้วก็ไม่ได้ใช้บริการแอปนี้ คงใช้แค่ตอนลดราคาเหลือ 0 บาท พร้อมฝากถึงสลิ่มอีกว่าให้ดูแลตัวเองให้มันดีก่อน ก่อนไปเป็นห่วงคนอื่น ตักน้ำแล้วดูตัวเองว่าอนาคตไปถึงไหนแล้ว เขามีเงินมากมาย ไม่ต้องไปนั่งห่วงเขา เขาก็ไม่เคยห่วงตัวเรา ถ้าเขาห่วง พวกเธอก็ต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องหาเช้ากินค่ำ

'ลาซาด้า' ร่อนหนังสือขอโทษ ปมคลิปฉาว ลั่น ต่อไปจะรัดกุมไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

6 พ.ค. 65 - ลาซาด้า (LASADA) ได้ออกเอกสารชี้แจงกรณีอินฟลูเอนเซอร์โพสต์คลิปไม่เหมาะสม โดยระบุว่า “บริษัทลาซาด้าขอใช้โอกาสนี้ในการขออภัยต่อความผิดพลาดที่เกิดจากการผลิตและเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอโดยอินฟลูเอนเซอร์ ‘นารา เครปกะเทย’ บนโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา เราเข้าใจดีว่าเนื้อหาดังกล่าวสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจต่อสังคมและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ทันทีที่เรารับทราบถึงคลิปดังกล่าว เราได้มีคำสั่งให้ถอดคลิปดังกล่าวออกทันที เพราะเนื้อหาและข้อความเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักการทำงานและความเชื่อของลาซาด้าในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ให้ความเคารพต่อกันและกัน และไม่แบ่งแยก

แม้ว่าทางบริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนที่ดูแลการจัดการด้านอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงคุณนาราเอง จะได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณชน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงในครั้งนี้เป็นผลมาจากความไม่รอบคอบของทางลาซาด้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ หากเนื้อหาในวิดีโอดังกล่าวได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน วิดีโอนี้จะไม่ได้รับการเผยแพร่อย่างแน่นอน เนื่องจากมีเนื้อหาที่ขัดต่อหลักการที่ลาซาด้ายึดถือ

เด็กๆ พร้อมมั้ย!! เปิดเทอมใหม่ปี 65 เจอโควิด ไม่ต้องปิดโรงเรียน

วันที่ 3 พ.ค. 65 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 นี้ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ได้ปรับเปลี่ยนมาตรการการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อการเรียนรู้ที่ดีในโรงเรียนของเด็กไทยต่อไป โดยในวันนี้ได้มีการประชุมชี้แจงมาตรการเปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด-19 ในสถานศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ด้วยหลักการพื้นฐานก็คือ 3T 1V “ตัดความเสี่ยง เพิ่มภูมิคุ้มกัน” มาตรการ 6-6-7 เป็นสิ่งที่ยังคงเน้นย้ำ ส่วนโรงเรียนประจำ ต้องดำเนินการตาม Sandbox Safety zone in School โดยเน้นย้ำพื้นที่ ประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และศึกษาธิการจังหวัดให้ดำเนินการ เพื่อให้เด็กไทยสามารถเรียนรู้ที่โรงเรียนได้เต็มที่ ตามมาตรการต่อไปนี้คือ

1.) เร่งรัดการฉีดวัคซีน เพื่อให้นักเรียนได้รับวัคซีนตามความสมัครใจให้ครอบคลุม 
2.) สถานศึกษา ต้องเข้ารับการประเมิน Thai Stop COVID Plus โดยต้องผ่านการประเมินมากกว่าร้อยละ 95 
3.) เน้นย้ำการทำตามแผนเผชิญเหตุ เมื่อเจอผู้ติดเชื้อ หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไม่ดำเนินการปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียน เป้าประสงค์นักเรียนควรได้รับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ที่โรงเรียน 
4.) เน้นย้ำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดให้ปฏิบัติตามมาตรการ โดยมอบหมายให้ศูนย์อนามัยในเขตสุขภาพเป็นพี่เลี้ยง

“ในส่วนของแผนเผชิญเหตุ ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2565 นี้ หากพบผู้ติดเชื้อในโรงเรียนประจำให้แยกกักตัวที่โรงเรียน (School Isolation) ตามมาตรการ Sandbox: Safety Zone in School (SSS) สำหรับโรงเรียนไป - กลับ ให้ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข หรือพิจารณาจัดทำ School Isolation โดยคณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานสาธารณสุข ผู้ปกครอง ชุมชน พิจารณาร่วมกันให้ความเห็นชอบตามความเหมาะสม จุดเน้นที่แตกต่างเมื่อพบผู้ติดเชื้อในห้องเรียน คือ ให้ทำความสะอาดห้องเรียน ตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข แล้วดำเนินการเรียนการสอนได้ตามปกติ ส่วนจุดเน้นที่แตกต่างเมื่อพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือ ถ้านักเรียนได้วัคซีนครบตามแนวทางปัจจุบัน และไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน พิจารณาให้เข้าเรียนได้โดยพิจารณาร่วมกันระหว่างครอบครัว สถานบริการสาธารณสุข และสถานศึกษา กรณีไม่ได้รับวัคซีน ให้แยกกักกัน (Self-quarantine) เป็นเวลา 5 วัน และติดตามเฝ้าระวังอีก 5 วัน รวมเป็น 10 วัน ทั้งนี้ หากมีอาการ ให้ตรวจคัดกรอง ATK ทันที หากไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องตรวจ ATK โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แนะนำให้ตรวจ ATK ในวันที่ 5 และวันที่ 10 หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ทางด้าน ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 สิ่งที่ทุกสถานศึกษาต้องทำ คือ การประเมินตนเองในระบบ Thai Stop COVID Plus ซึ่งเป็นมาตรการของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข การประเมินนี้จะมีการประเมินอยู่ 44 ข้อ ทั้งในแง่ของการเตรียมการ และการจัดการด้านกายภาพ ส่งไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่โรงเรียนตั้งอยู่ เป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้เปิดเรียนได้ เมื่อเปิดเรียนในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ทุกสถานศึกษาต้องดำเนินงานตามมาตรการ 6-6-7 และประเมินตนเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” 

ซึ่งสิ่งที่แตกต่างระหว่างภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กับภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 คือ การเว้นระยะห่างในห้องเรียน จะเหลือ 1 เมตร จาก 1.5 เมตร เพราะฉะนั้น ห้องเรียนปกติที่มีขนาด 8 X 8 เมตร สามารถจัดโต๊ะเรียนได้ 7 แถว ๆ ละ 6 ที่นั่ง รวม 42 คน ซึ่งโดยปกติ 1 ห้องเรียนจะมีนักเรียนประมาณ 40 คน ไม่มีปัญหาในเรื่องการเว้นระยะห่าง แต่อาจจะมีปัญหาในโรงเรียนประถมศึกษาบางแห่งเท่านั้น ที่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ บางห้องอาจจะมีขนาด 6 X 8 เมตร และสิ่งสุดท้ายที่มีความแตกต่าง คือ บางโรงเรียนเป็นการเรียนในห้องปรับอากาศ ต้องมีการเปิดระบายอากาศ ทุก 2 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 นาที ในช่วงพัก สำหรับโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อในโรงเรียน คือ การถอดหน้ากาก กินข้าวร่วมกัน สนทนาระหว่างกันโดยไม่สวมหน้ากาก ดังนั้น ในโรงอาหารควรมีการแยกสำรับกับข้าว แยกพื้นที่งดการพูดคุย ขณะกินอาหาร และเมื่อมีการเล่นร่วมกัน ควรสวมหน้ากากตลอดเวลา 

แต่ถ้ามีการแพร่ระบาดในโรงเรียน ขอให้ทุกสถานศึกษาดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ เช่น หากพบผู้ติดเชื้อเข้าไปเรียนให้ปิดทำความสะอาด 3 วัน แล้วเปิดเรียนตามปกติ โดยสิ่งที่น่ากังวล คือ ถ้ามีผู้ติดเชื้อมากกว่า 5 คน มีการแพร่กระจายมากกว่า 2 ห้อง ทางโรงเรียน ต้องประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อเข้ามากำกับดูแล ระงับการแพร่ระบาดต่อไป

ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการเปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถานศึกษา รับเปิดเทอม On-Site ตามมาตรการความปลอดภัย 3T 1V ประกอบด้วย T : Thai Stop COVID Plus (TSC+) : โรงเรียนต้องประเมินตนเอง เตรียมความพร้อม ก่อนเปิดเรียน T : Thai Save Thai (TST) : นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ T : Test : เฝ้าระวังอย่างเหมาะสม ตรวจคัดกรอง เช่น ATK เมื่อมีความเสี่ยง หรือ เมื่อมีอาการ 

พิธีเปิดหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพภาคที่ 4 รุ่นที่ 17 (พสบ.ทภ.4) มีข้าราชการ นักธุรกิจภาคเอกชนเข้าร่วมอบรมอย่างคึกคัก

วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.30 น. ที่ห้องอรพิน โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พลตรี ศานติ ศกุนตนาค รองแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีเปิด และมี พล.ต.ศุภสิทธิ์ ชิตท้วม ผู้อำนวยการสำนักจิตวิทยา กรมกิจการพลเรือนทหารบก ร่วมพิธี

การอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพภาคที่ 4 รุ่นที่ 17 (พสบ.ทภ.4) โดยมีข้าราชการ  นักธุรกิจภาคเอกชนจาก 14 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เข้าร่วมอบรมอย่างคึกคัก พร้อมด้วยสมาชิก พสบ.จชต. รุ่นต่าง ๆ เข้าร่วมในพิธีเปิด ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างรัดกุม

ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ กวาดล้างพนันออนไลน์ทั่วประเทศ 10 จังหวัด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 30 ราย พบยอดเงินหมุนเวียนรวมกว่า 240 ล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เน้นย้ำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กวดขันปราบปราม การพนันออนไลน์ เพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินของประชาชน และมิให้เยาวชนชาวไทย เข้าไปข้องเกี่ยวกับการพนันที่จะส่งผลต่ออนาคตได้

โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เร่งรัดปราบปรามเว็บไซต์พนันออนไลน์ รวมทั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ พร้อมวางมาตรการการป้องกัน สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพนั้น

เมื่อวันที่ (5 พ.ค. 65) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด เปิดปฏิบัติการ ปูพรม เข้าตรวจค้น กวาดล้าง จับกุม การพนันออนไลน์ทุกรูปแบบพร้อมกันทั่วประเทศ 

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบจัดให้มีการพนันออนไลน์รูปแบบต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, จว.นนทบุรี, จว.จันทุบรี, จว.ชลบุรี, จว.นครราชสีมา, จว.มหาสารคาม, จว.เชียงใหม่, จว.ลำปาง, จว.ตาก, จว.สุราษฎร์ธานี ในแต่ละประเภท ดังนี้

1.) ผู้ต้องหาลักลอบจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ จำนวน 15 คน ซึ่งเปิดเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 7 เว็บ ได้แก่ www.kingroyal333.net, www.mc911.bet, www.squid899.com, www.789coinbet.net, https://slottt888.com/, http://เศรษฐีหวย888.com และ Tode352.com

2.) ผู้ต้องหาจัดให้มีการพนันสลากกินรวบทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Facebook จำนวน 2 คน

3.) ผู้ต้องหาจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Line Official บัญชีผู้ใช้ชื่อ “ห้องซื้อดาราเฮง23”, “บ้านเถ้าแก่น้อย , “ห้องซื้อleiv’899” และ “ห้องซื้อ เถ้าแก่น้อย” จำนวน 7 คน 

4.) ผู้ต้องหา โฆษณา ชักชวนให้เข้าเล่นการพนันออนไลน์ฯ ได้แก่ Aqua888 Thailand, www.mallo888.com, จำนวน 4 คน

5.) ผู้ต้องหาลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ฯ จำนวน 5 คน

ชาวไทยพุทธเตรียมดัน “วิสาขสันติสุข” สร้างความสงบสุขปลายด้ามขวาน ด้านนักศึกษา สสสส.12 สถาบันพระปกเกล้า ล่องใต้ศึกษาถอดบทเรียนความขัดแย้งสามจังหวัดชายแดนใต้ 

วันที่ 5-6 พฤษภาคม ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี ได้จัดเวทีแลกเปลี่ยน บทบาทภาคประชาสังคมกับการขับเคลื่อนสันติภาพ จชต. ของนักศึกษาหลักสูตร การเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่12 (สสสส.) สถาบันพระปกเกล้า โดยมีนายวิทวัส ชัยภาคภูมิ รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า นายศุภณัฐ เพิ่มพูนวิวัฒน์ ผอ.สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล พร้อมคณาจารย์ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแลกเปลี่ยน ถึงแนวทางการแก้ปัญหาและสร้างสันติสุข ในจังหวัดชายแดนใต้อย่างยั่งยืน

นายมูฮัมหมัด อายุบปาทาน ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ชุดที่ 6 กล่าวถึงการแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ว่า ปี 2554 มี 36 องค์กร โดยสถาบันพระปกเกล้า ได้ส่งเสริมกระบวนการพูดคุยในจังหวัดภาคใต้ ซึ่งส่งเสริมการพูดคุยทำข้อเสนอเชิงประเด็นจากภาคประชาสังคมให้กับส่วนกลาง และกลุ่มมาราปาตานีรับฟังความเห็นจากประชาชนทุก 3 เดือน โดยใช้หลักการถ่วงดุลโดยคนกลาง 

ในรอบ 10 ปีมานี้ภาคประชาสังคมคือเด็กและผู้หญิงที่กำลังเติบโต มีบทบาทเดินหน้าผลักดันกระบวนการพูดคุยอย่างเป็นรูปธรรม การปรับตัวที่เห็นผลอย่างชัดเจนคือ ข้อตกลงรอมฎอน ที่มีกลไกติดตามมอนิเตอร์ประสบผลสำเร็จปราศจากการก่อความรุนแรง และพร้อมร่วมผลักดันวิสาขบูชาสันติ ร่วมกับพี่น้องไทยพุทธให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการสร้างสันติสุขเชิงบวก ขยายไปให้ทั่วประเทศอีกด้วย

ด้านพระศิริจริยาลังการ รองเจ้าคณะภาค 18 กล่าวว่า บทบาทขององค์กรศาสนากับการเสริมสร้างสังคมสันติสุข ทางพุทธศาสนาส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่ค่อยมีองค์กรที่ทำหน้าที่สร้างสันติสุขอย่างเป็นทางการ จะมีก็แต่เจ้าคณะปกครองในพื้นที่เท่านั้น ซึ่งจะเชื่อมประสานกับภาคประชาชน โดยจัดตั้งในรูปของสมาคมหรือสมาพันธ์ อบรมพระธรรมทูตเฉพาะกิจใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในพื้นที่ของ ศอ.บต. มีเจ้าอาวาสเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาของ ศอบต. ร่วมกับศูนย์สันติวิธีของมหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมสันติสุขในเวทีเสวนาตั้งแต่ปี 2548 สร้างความร่วมมือผ่านสมาพันธ์ศาสนิกสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ผ่านกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมในพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มคนที่หลากหลายมารู้จักสัมพันธ์และเกิดเครือข่าย เสริมสร้างความเข้าใจระหว่างพี่น้องพุทธและมุสลิม 

พระศิริจริยาลังการ  กล่าวต่อว่า ปีนี้จะเริ่มต้นด้วยการจัดวิสาขสันติสุข ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาวันวิสาขบูชา จะเวียนเทียนตอนกลางวัน เนื่องจากกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย จึงหยุดงานวิสาขบูชาไป หลังจากการทำงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้บริบทเปลี่ยนไป ซึ่งปีนี้จะเริ่มต้นเวียนเทียนสองทุ่มเหมือนเช่นเดิม จะร่วมสร้างสันติสุขกลับคืนมาในจังหวัดชายแดนใต้ 

ก.ล.ต. สั่งปรับ บิทคับ ออนไลน์ และบอร์ด 15 ลบ. เหตุเลือกหรียญ KUB เข้าเทรดไม่ถูกหลักเกณฑ์

ก.ล.ต.ลงดาบปรับ Bitkub และบอร์ดอ่วม 15 ล้านบาท เหตุคัดเลือกเหรียญ KUB เข้ากระดานเทรดไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์

(6 พ.ค. 65) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งปรับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ (BO) และกรรมการ 5 คน ในคณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลของ BO ในกรณีที่คัดเลือก Bitkub Coin (เหรียญ KUB) เข้าซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกและเพิกถอนสินทรัพย์ดิจิทัล (Listing Rule) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. และไม่ได้คำนึงถึงมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (COI)

โดยกรณีนายนิธิวัฒน์ มณีสินธุ์, นายสุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ, นายปิยพงษ์ โคตรชนะ, นายพงศกร สุตันตยาวลี และนายอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ ในฐานะกรรมการในคณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลของ BO มีหน้าที่รับผิดชอบในการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะนำมาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล กระทำการหรือละเว้นกระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำเป็นเหตุให้ BO คัดเลือกเหรียญ KUB ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 94 ของ พ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัล ให้ปรับเงินรายละ 2,533,500.00 บาท

รู้จักไหม? กระทรวงแพทยาคม กระทรวงการไสยเวทย์ของไทย !!!!

รู้กันรึเปล่า? ว่าในอดีตนั้นประเทศไทยของเรานั้นเคยมีกระทรวงเวทมนตร์นะ แต่ไม่ได้ใช้ชื่อ กระทรวงเวทมนตร์ นะ แต่ในตอนนั้นประเทศไทยเราใช้ชื่อ กระทรวงแพทยาคม หรือบางบันทึกเรียกว่า ศาลกระทรวงแพทยา ซึ่งเป็นกระทรวงที่เกี่ยวกับสอบสวนพิจารณาโทษผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการกระทำทางไสยศาสตร์โดยเฉพาะ

กระทรวง แพทยาคม คืออะไร?
แพทยาคม นั้นมาจากคำว่า แพทย และ อาคม รวมกัน โดยคำว่า แพทย มีความหมายว่า หมอรักษาโรค ส่วนคำว่า อาคม มีความหมายว่า เวทมนตร์ รวมกันมีความหมายว่า หมอรักษาโรคเกี่ยวกับเวทมนตร์

กระทรวงแพทยาคม ตามประวัติศาสตร์ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเกิดขึ้นสมัยใด แต่ถูกกล่าวถึงในหลายรัชสมัย เช่น พระเจ้าอู่ทอง พระเจ้าทรงธรรม แต่ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม ได้ปรากฏบันทึกว่า กระทรวงแพทยาคม มีไว้เพื่อชำระคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับคุณไสย เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปด้วยวิทยาคมเอาไว้ โดย วิทยาคม มาจาก วิทย และ อาคม รวมกัน โดยคำว่า วิทย มีความหมายว่า ความรู้ ส่วนคำว่า อาคม มีความหมายว่า เวทมนตร์ รวมกันจึงมีความหมายว่า ความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ (ส่วน วิทยาคม ที่เห็นในชื่อโรงเรียนนั้น คำว่า อาคม มีอีกความหมาย คือ การมาถึง ดังนั้น วิทยาคม, พิทยาคม ในชื่อโรงเรียน จึงมีความหมายว่า การมาถึงของความรู้)

'ผู้ช่วยฯ สุรเชษฐ์' เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 409 จุดกวาดล้างอาวุธในพื้นที่ภาค 8 พร้อมเปิดประเทศรอรับนักท่องเที่ยว

(6 พ.ค.65) ที่จังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมีจำนวนลดน้อยลงมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของไทยในภาพรวม แต่ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลกที่หลายประเทศได้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรค และเปิดประเทศควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งตามพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยล้วนเป็นพื้นที่ที่ชาวต่างชาติและชาวไทยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก เช่น จ.ภูเก็ต จ.พัทลุง และ จ.กระบี่ เป็นต้น  

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำหนดและวางมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.65 โดย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.)ได้สั่งการให้ ให้ดำเนินการตามมาตรการการลดอาชญากรรมในพื้นที่ที่กำหนดโดยเร่งด่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในภาพรวม

จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 ดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างเร่งด่วน จึงได้มีการวางแผนในการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อลดเหตุอาชญากรรม ผู้มีอิทธิพล อาวุธปืน ยาเสพติด วัตถุระเบิด ค้าประเวณี โจรกรรมรถ โดยให้ทุกหน่วยในสังกัด ภ.8 รวบรวมพยานหลักฐานในการขออนุมัติหมายค้นต่อศาลเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายทั้งห้องเช่า เกสต์เฮ้าส์ บ้านพัก รีสอร์ท แหล่งมั่วสุมอาชญากรรมทุกรูปแบบที่อาจส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว หรือพื้นที่ท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 25-29 เม.ย.65 กว่า 409 เป้าหมายใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย
- ภ.จว.กระบี่ จำนวน 47 เป้าหมาย
- ภ.จว.ชุมพร จำนวน 45 เป้าหมาย
- ภ.จว.นครศรีธรรมราช จำนวน 77 เป้าหมาย 
- ภ.จว. พังงา จำนวน 54 เป้าหมาย
- ภ.จว.ภูเก็ต จำนวน 75 เป้าหมาย
- ภ.จว.ระนอง จำนวน 43  เป้าหมาย
- ภ.จว.สุราษฎร์ธานี จำนวน 68 เป้าหมาย  

ผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในห้วงเวลาดังกล่าว สามารถตรวจเก็บ DNA บุคคลพ้นโทษ 305 ราย จับกุมอาวุธปืนสงคราม 1 กระบอก อาวุธปืน 66 กระบอก ระเบิดทำเอง 3 ลูก ยาเสพติด 267 ราย (ยาบ้า 127,471 เม็ด และยาไอซ์ 9,433 กรัม) โดยมีการจับกุมอาวุธปืนมากสุดในจังหวัดชุมพร จำนวน 16 กระบอก ตามมาด้วยจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 14 กระบอก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top