Tuesday, 17 June 2025
Moody

‘ดร.กอบศักดิ์’ แนะไทยปรับ 3 ยุทธศาสตร์ ฝ่าวิกฤตศรัทธาหลัง Moody’s ลดแนวโน้มเครดิต

เมื่อวานนี้ (29 เม.ย. 68) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s Investors Service ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทยจาก 'มีเสถียรภาพ' (Stable) เป็น 'เชิงลบ' (Negative) สะท้อนความกังวลว่าเศรษฐกิจและฐานะการคลังของไทยอาจอ่อนแอลงในระยะข้างหน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและภาระหนี้ภาครัฐที่สูงขึ้น

ด้าน ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงออกมาโพสต์เตือนผ่านเฟซบุ๊กว่า การเปลี่ยนมุมมองของมูดีส์ถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญ ซึ่งอาจนำไปสู่การลดอันดับเครดิตของไทยในอนาคต หากไม่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหรือจัดการภาระหนี้อย่างจริงจัง

มูดีส์ระบุสาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงที่ศักยภาพการเติบโตของไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์โลกยังผันผวน โดยเฉพาะนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและห่วงโซ่อุปทานที่ไทยมีบทบาทสำคัญ รวมถึงความเปราะบางของการคลังที่ยังคงมีอยู่ตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด-19

แม้ Outlook เชิงลบจะยังไม่เท่ากับการลดอันดับเครดิต แต่ถือเป็น “คำเตือนอย่างเป็นทางการ” โดยในอดีตก็เคยเกิดขึ้นช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008 ก่อนที่มูดีส์จะกลับมาปรับมุมมองเป็นเสถียรภาพอีกครั้งในภายหลัง หากไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแรง

มูดีส์ชี้ว่า หากไทยสามารถรักษาการเติบโตของ GDP ได้ในระดับ 3–4% อย่างต่อเนื่อง และลดสัดส่วนหนี้ภาครัฐต่อ GDP ลงได้ ก็อาจกลับไปสู่มุมมอง 'เสถียรภาพ' ได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจยังชะลอตัว หรือการเมืองไร้เสถียรภาพจนกระทบต่อการดำเนินนโยบาย ก็มีโอกาสที่อันดับเครดิตจะถูกลดลงจริง

ทั้งนี้ ดร.กอบศักดิ์เสนอแนวทางว่า 1) หลีกเลี่ยงนโยบายหรือพฤติกรรมที่สร้างความกังวลแก่ตลาดและสถาบันจัดอันดับ 2) เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้ทรัมป์ 3) เร่งสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน 3–4% ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมใหม่ การพัฒนาคน และปฏิรูปกฎหมายที่เป็นอุปสรรค

‘มูดี้ส์’ ปรับลด!! อันดับความน่าเชื่อถือของ ‘สหรัฐฯ’ หลังหนี้สาธารณะพุ่งสูง อยู่ในภาวะที่ควบคุมไม่ได้

(17 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ เนื่องจากหนี้สาธารณะพุ่งสูง

Moody's เพิ่งโจมตีชื่อเสียงทางการเงินของอเมริกาอย่างรุนแรง ด้วยการลดอันดับความน่าเชื่อถือเครดิตของสหรัฐฯ จาก AAA เหลือ Aa1 โดยเข้าร่วมกับคู่แข่งอย่าง S&P และ Fitch ในการประกาศให้สถานะหนี้ของสหรัฐฯ อยู่ในภาวะที่ควบคุมไม่ได้อย่างเป็นทางการ

สำนักงานจัดอันดับเครดิตที่มีอายุ 116 ปีกล่าวโทษ "การขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล" และต้นทุนดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้การขาดดุลการคลังแตะระดับ 1.05 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากปีที่แล้ว

“รัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐฯ ชุดต่อๆ มาล้มเหลวในการตกลงกันเกี่ยวกับมาตรการเพื่อพลิกกลับแนวโน้มของการขาดดุลงบประมาณรายปีจำนวนมากและต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น”

จังหวะเวลาไม่สามารถแย่ไปกว่านี้ได้อีกแล้ว - การปรับลดระดับดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันปฏิเสธวาระการประชุมใหญ่ของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการขยายเวลาการลดหย่อนภาษีปี 2017

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นทันที 3 จุดพื้นฐานเป็น 4.48% ขณะที่กองทุน ETF พันธบัตรร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนรับรู้ความจริงที่ว่าความน่าเชื่อถือทางการเงินของอเมริกาไม่ได้แข็งแกร่งอีกต่อไป

Peter Boockvar จาก Bleakley Financial สรุปไว้ดังนี้

"นี่คือหน่วยงานจัดอันดับเครดิตหลักที่ออกมาประกาศว่าสหรัฐฯ มีหนี้สินและการขาดดุลที่ตึงตัว"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top