Tuesday, 13 May 2025
Lite

4 สิงหาคม พ.ศ. 2426 ‘ในหลวง ร.5’ โปรดเกล้าฯ สถาปนา ‘กรมไปรษณีย์’ จุดกำเนิดกิจการไปรษณีย์ในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2426 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนา ‘กรมไปรษณีย์’

อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไป จุดเริ่มต้นของการสื่อสารในสมัยก่อนนั้น เกิดจากการสร้างเส้นทางคมนาคมและเส้นทางการค้า โดยมีการติดต่อข่าวสารกันอย่างง่าย ทั้งผ่านทางพ่อค้า ใช้ม้าเร็ว จนถึงการจัดตั้งคนเร็วไว้ตามเมืองสำคัญ ก็ถือเป็นพัฒนาการทางการส่งข่าวสารอย่างง่ายอีกช่องทางหนึ่งและเป็นเช่นนี้เรื่อยมาจนถึงยุคสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถือเป็นยุคแรกของ ‘การไปรษณีย์ไทย’ ด้วยการจัดตั้ง ‘กรมไปรษณีย์’ ในประเทศไทย และการผลิต ‘แสตมป์ชุดโสฬส’ แสตมป์ชุดแรกของประเทศ รวมไปถึงจัดพิมพ์ไปรษณียบัตรครั้งแรก เพื่อรองรับกิจการไปรษณีย์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

โดยปี พ.ศ. 2423 เจ้าหมื่นเสมอใจราช หัวหมื่นมหาดเล็กเวรสิทธิ์ ได้ทำหนังสือกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายคำแนะนำให้เปิดบริการไปรษณีย์ขึ้นในประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริเห็นชอบ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช ผู้ทรงมีประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดส่งหนังสือพิมพ์รายวัน ‘ข่าวราชการ’ ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกรมไปรษณีย์

เมื่อสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงวางโครงการและเตรียมการไว้พร้อมที่จะเปิดบริการไปรษณีย์แล้ว ได้ประกาศเปิดรับฝากส่งจดหมายหรือหนังสือ เป็นการทดลองในเขตพระนครและธนบุรีขึ้น เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2426 มีที่ทำการตั้งอยู่ ณ ตึกใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนปากคลองโอ่งอ่าง ด้านทิศเหนือ (ปัจจุบันถูกรื้อเพื่อใช้ที่สร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานพระพุทธยอดฟ้า) ที่ทำการแห่งแรกนี้ใช้เป็นที่ทำการไปรษณีย์สำหรับจังหวัดพระนคร ด้วยเรียกกันว่า ‘ไปรษณียาคาร’

ต่อมาในปี พ.ศ. 2441 เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการกราบบังคมทูลเสนอความเห็นว่าราชการของกรมไปรษณีย์และราชการของกรมโทรเลข ซึ่งตั้งขึ้นก่อนกรมไปรษณีย์แล้วนั้นเป็นงานในด้านสื่อสารด้วยกัน ควรรวมเป็นหน่วยราชการเดียวกันเสีย เพื่อความสะดวกแก่การดำเนินงาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นเป็นการสมควรจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้รวมหน่วยงานทั้งสองเข้าด้วยกันเรียกว่า ‘กรมไปรษณีย์โทรเลข’

ต่อมาได้ย้ายไปใช้อาคารและที่ดินริมถนนเจริญกรุงเป็นที่ทำการและเรียกกันโดยทั่วไปว่า ‘ที่ทำการไปรษณีย์กลาง’ การไปรษณีย์เป็นบริการสาธารณะ จำเป็นต้องมีระเบียบข้อบังคับเพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินบริการทราบและถือปฏิบัติ เมื่อเปิดการไปรษณีย์โทรเลขได้ประมาณ 2 ปีแล้ว รัฐบาลจึงได้ตรากฎหมายขึ้นในปี พ.ศ. 2428 เรียกว่า ‘พระราชบัญญัติการไปรษณีย์ไทย จุลศักราช 1248’

ทั้งนี้ เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ทรงมีแก่กิจการไปรษณีย์ไทย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2526 กำหนดให้ วันที่ 4 สิงหาคมของทุกปีเป็น ‘วันสื่อสารแห่งชาติ’ และจัดงานวันสื่อสารแห่งชาติ ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2526 โดยจัดร่วมกับงานครบรอบ 100 ปี การสถาปนากรมไปรษณีย์โทรเลข และการเฉลิมฉลองปีการสื่อสารโลกของสหประชาชาติ

‘อากาเซ่ทั่วโลก’ ร่วมส่งกำลังใจให้ ‘แบมแบม GOT7’ หลังโพสต์เศร้า ‘อยากหลับไม่ต้องตื่น-กดดัน-เครียด’

(25 ก.ค.67) ทำเอาเหล่าอากาเซ่ (ด้อมแฟนคลับของ GOT7) เป็นห่วงไม่น้อย เมื่อ ‘แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล’ หรือ ‘แบมแบม GOT7’ ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อชีวิต จนทำแฟน ๆ หวั่นใจ

โดยแบมแบมได้โพสต์ข้อความลงในสตอรี่อินสตาแกรม ระบุข้อความว่า “I just want to sleep and don’t wake up so I can finally rest“ (ผมแค่อยากหลับ และไม่ต้องตื่น ผมจะได้พักสักที )

จากข้อความดังกล่าวทำเอาหลายคนหวั่นใจ จึงรีบส่งข้อความแสดงความเป็นห่วงไปยังเจ้าตัวผ่านทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งทำให้แบมแบมต้องออกมาโพสต์ข้อความอีกครั้งเพื่อให้แฟน ๆ คลายกังวล โดยระบุว่า

”Is been a long run from last year till now and still long way to go, it was alot of pressure and stress and since my body not really feel so well for a long time now sometimes. I’m getting sensitive and emotional

i'll do my best on this year and will find my time to rest i'll be okay sorry if i caused any worry have a good day“

(มันยาวนานมาตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้และยังคงยาวต่อเนื่องออกไป มันมีแรงกดดันและความเครียดมากมาย และนับตั้งแต่นั้นร่างกายของผมรู้สึกไม่ค่อยดีมาสักพักหนึ่งแล้ว ผมเริ่มอ่อนไหวและสะเทือนใจง่ายมาก ปีนี้ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดและจะพยายามหาเวลาพักผ่อน ผมจะไม่เป็นอะไร ขอโทษด้วยนะครับถ้าทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วง ขอให้มีวันที่ดีนะครับ)

ทั้งนี้ ทำเอาหลาย ๆ คนเริ่มโล่งใจแล้ว หลังจากที่แบมแบมโพสต์ล่าสุด ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุดและหาเวลาพักผ่อน ก่อนจะพร้อมใจส่งกำลังใจให้รัว ๆ กันต่อไป

5 สิงหาคม พ.ศ. 2430 ‘ในหลวง ร.5’ ทรงพระราชทานกำเนิด ‘โรงเรียนนายร้อย จปร.’ มุ่งมั่นผลิตนายทหารที่มีคุณลักษณะตามกองทัพต้องการ

‘โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า’ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานกำเนิดเมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2430 ณ บริเวณพระราชวัง สราญรมย์ ต่อมาเมื่อปี 2451 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขยายที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยมมาอยู่ที่ถนนราชดำเนินนอก เนื่องจากมีผู้นิยมเข้าเรียนจำนวนมากและสถานที่เดิมคับแคบ จนกระทั่งปี 2523 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายที่ตั้งมาอยู่ที่บริเวณเขาชะโงก จังหวัดนครนายก ด้วยเหตุที่สถานที่ตั้งเดิมแออัด ประกอบกับสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยในการฝึกศึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พลเอกหญิง สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2524 และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าแห่งนี้ เมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529 ยังความปลาบปลื้มแก่บรรดานักเรียนนายร้อย ศิษย์เก่า และกำลังพลของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าอย่างหาที่สุดมิได้

โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้มีการเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง เริ่มแรกใช้ชื่อว่า ‘คะเด็ตสกูล’ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนให้เหมาะสม ได้แก่ โรงเรียนทหารสราญรมย์ โรงเรียนสอนวิชาทหารบก โรงเรียนทหารบก โรงเรียนนายร้อยชั้นปฐมและโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม โรงเรียนนายร้อยทหารบก โรงเรียนเท็ฆนิคทหารบก จนกระทั่ง 1 มกราคม พ.ศ. 2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ขนานนามโรงเรียนนายร้อยทหารบกว่า ‘โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า’ ต่อมาเมื่อปี 2493 ได้พระราชทานตราอาร์มหรือตราแผ่นดินในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ใช้เป็นตราประจำโรงเรียน และยังให้ใช้เป็นเครื่องหมายเหล่าและสังกัดของนักเรียนนายร้อยด้วย

โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาให้เหมาะสมกับยุคสมัย นับตั้งแต่หลักสูตรการศึกษาวิชาสามัญและวิชาทหารหลักสูตรตามแนวทางของโรงเรียนโปลีเทคนิค ประเทศฝรั่งเศส 5 ปี หลักสูตรตามแนวทางของโรงเรียนนายร้อยทหารบกเวสต์ปอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา 5 ปี ต่อมาในปี 2544 ได้ปรับปรุงหลักสูตร 4 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการศึกษาของกองทัพบก และมติคณะกรรมการพัฒนาระบบการศึกษาของกองทัพบกใช้ชื่อหลักสูตรว่า ‘หลักสูตรนักเรียนนายร้อยโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พุทธศักราช 2544’ ต่อมาหลักสูตรนี้ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน มีการประเมินและปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต 9 หลักสูตร หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต 6 หลักสูตร และหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต 3 หลักสูตร การจัดการศึกษาในแต่ละภาคการศึกษาประกอบด้วย การศึกษาวิชาการ วิชาทหาร และการเสริมสร้างคุณลักษณะผู้นำ

ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าจะได้รับพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรตามสาขาวิชาที่เลือกศึกษา พิธีพระราชทานกระบี่ได้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อมีนาคม 2471 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานกระบี่และรางวัลการศึกษา ณ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ถนนราชดำเนินนอก นับตั้งแต่นั้นมาได้มีการจัดพิธีพระราชทานกระบี่ขึ้นเป็นประจำจนถึงทุกวันนี้ 

ต่อมาเมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พลเอกหญิง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นผู้บัญชาการพิเศษโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ตลอดระยะเวลาหนึ่งร้อยกว่าปีที่ผ่านมา โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ามุ่งมั่นผลิตนายทหารสัญญาบัตรหลักที่มีคุณลักษณะตามที่กองทัพต้องการ มีความเป็นสุภาพบุรุษ นักรบ นักพัฒนา เป็นผู้นำที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ เทิดทูนชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มุ่งพัฒนากองทัพและประเทศชาติ พร้อมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย

ชาวเน็ตติง!! ‘อั๋น ภูวนาท’ เรื่องมารยาท-ดูไม่ให้เกียรติ ‘น้องแดน’ หลังไม่เรียกชื่อ-ทักชุดที่ใส่ ล่าสุดเจ้าตัวโร่แจงมันคือการแซว

เมื่อวานนี้ (25 ก.ค. 67) กลายเป็นดรามาหม้อใหญ่ร้อน ๆ ที่ทำให้เกิดเป็นประเด็นในโลกโซเซียล เป็นการถกเถียงถึงขั้นตอนการทำงานของ MC ในงาน ๆ นึง ที่เหมือนจะเป็นการไม่ให้เกียรติแขกที่มาร่วมงาน โดยชาวเน็ตมีการโพสต์ในโลกออนไลน์พร้อมตั้งคำถามว่า “มีหลายคนอยากเห็นคลิปที่ MC ในงานเอ่ยถึงคนนึงที่ถูกเชิญมาในงาน จัดที่ให้นั่งรวมกับศิลปินได้เดินแบบเหมือนคนอื่น ๆ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับไม่เหมือนศิลปินคนอื่น ๆ เพียงเพราะเขาไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียง ก็เลยไม่จำเป็นต้องให้เกียรติและมีมารยาทด้วยใช่ไหม” ซึ่ง MC ได้แนะนำศิลปินที่มาร่วมในงานนี้ แต่พอมาถึง ‘น้องแดน’ หรือ ‘คิมอินฮยอน’ น้องเล็กจากช่องยูทูบ Cullen Hateberry MC ก็ได้เปิดประโยคว่า

“อ่ะ แล้วนั่งอยู่หัวมุม ไม่อ่านไลน์กลุ่มเพื่อน แต่งตัวไม่เข้าสี แต่ไม่เป็นไร ให้อภัยได้ ใครมาเชียร์ผู้ชายคนนี้ อ้าว…นี่นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว (MC ผายมือไปที่ ‘น้องแดน’) สวัสดีเขาหน่อยสิ (น้องแดน ยกมือสวัสดี) ยืนทักทายทุก ๆ คนหน่อย นี่ ๆ ๆ (น้องแดน ลุกขึ้นทักทาย) ต้องบอกว่านี่คือเบอร์ต้น ๆ ของประเทศตอนนี้เลย ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ”

ถ้ามองอีกมุมก็เป็นการแนะนำแขกที่มาร่วมงานปกติ อาจจะมีการหยอก การแซว แต่ที่มันกลายเป็นประเด็นจนเกิดการตั้งคำถามว่า ‘เพียงเพราะเขาไม่ดัง เลยไม่ต้องให้เกียรติเขาเหรอ?’ ซึ่งในประโยคสุดท้ายก่อนขอบคุณ MC ก็ยังอวยยศว่า ‘นี่คือเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ’ แต่คนที่ได้ดูคลิปนี้ ก็งงว่าถ้าเขาดังระดับเบอร์ต้น ๆ ทำไม MC ถึงไม่เอ่ยชื่อ ‘น้องแดน’ เหมือนที่เอ่ยชื่อคนอื่นล่ะ! หรือถ้าไม่รู้จักจริง ๆ ในสคริปต์ไม่มีชื่อเลยเหรอ? 

งานนี้หลายคนอยากรู้ว่า MC คนนั้นคือใคร มีการไปไล่ดูย้อนหลังในเพจของงานวันนั้น ซึ่งก็คือ ‘อั๋น ภูวนาท คุณผลิน’ ซึ่งชาวเน็ตก็ย้อนกลับไป เพราะ ‘อั๋น’ ก็เคยพูดถึงเรื่องค่าตัวของ ‘พี่จอง-คัลแลน’ จนกลายเป็นดรามาว่า ‘ค่าตัวทำคอนเทนต์สองคนนี้ 1 ล้านบาทไม่ใช่จ้างเป็นพรีเซนเตอร์นะ ค่ามาออกรายการ’

และการที่ ‘น้องแดน’ ใส่ชุดสีม่วง ซึ่งไม่เป็นไปตามของสีงานที่เป็นสีเขียว เพราะเป็นพรีเซนเตอร์ ของแบรนด์ ‘Daeng Gi Meo Ri’ ซึ่งเป็นสีม่วงนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังทางคุณอั๋นก็ได้ออกมาชี้แจงประเด็นดรามาดังกล่าวที่มีหลายคนมองว่า ไม่ให้เกียรติน้องแดน โดยทางคุณอั๋นมองว่า "มันคือการแซว เพราะทุกคนในงาน ได้รับบรีฟให้ใส่สีของอีเวนต์ แล้วเขาใส่สีม่วงคนเดียวในงาน แล้วเขาเด่นมาก และพี่ก็ยังให้เครดิตว่านี่คือตัวท็อป ขอเสียงกรี๊ดให้หน่อย"

‘AiStudio.wedding’ จัดโปรโมชันเอาใจคู่รัก พาบินลัดฟ้าถ่ายพรีเวดดิ้ง ปักหมุด!! ประเทศสิงคโปร์ กับราคาสุดพิเศษเพียงแค่ 59,999 บาท

(26 ก.ค. 67) AiStudio.wedding ผู้ให้บริการด้านการถ่ายภาพแบบครบวงจร เอาใจคู่รักสายทราเวล จัดโปรโมชันพิเศษ ‘Ai Pre Wedding @ Singapore’ พาคู่รักที่หลงรักการเดินทาง บินลัดฟ้าถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองสิงคโปร์ อาทิ Merlion Park, Marina Bay, Gardens by the Bay และ Universal Studios เป็นต้น ในราคาสุดพิเศษเพียง 59,999 บาท รวมค่าเดินทางสำหรับ 2 ท่าน ห้องพักจำนวน 1 คืน และ ทีมงาน AiStudio.wedding พิเศษสำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจภายใน 31 สิงหาคมนี้ รับ Photobook และ E-Card มูลค่ารวมกว่า 10,000 บาท ฟรี

ทั้งนี้ สำหรับคู่รักที่สนใจสามารถจองและเลือกช่วงเวลาที่ต้องการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 085-355-4449, 098-449-9992 หรือ Line ID : @aistudio.wedding ติดตามโปรโมชั่นและผลงานได้ที่ IG : aistudio.wedding

‘RS’ เปิดโปรเจกต์ ‘LONELY LOUD FEST เทศกาลเหงาตะโกน’ ‘นนท์ ธนนท์-อิ้งค์ วรันธร-PIXXIE’ นำทัพมาฮีลใจ เริ่มจองบัตร 30 ก.ค.นี้

(26 ก.ค. 67) อาร์เอส มัลติเอ็กซ์  ภายใต้ อาร์เอส มัลติมีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้าโปรเจกต์ใหม่ที่จะมาฮีลใจ พร้อมปลุกไฟคนเหงาให้อ้าแขนโอบกอดรับความสุข กับงาน ‘LONELY LOUD FEST เทศกาลเหงาตะโกน’ งานรวมพลคนเหงา ที่ไม่ว่าจะอกหัก ว้าเหว่ เพื่อนเมิน ก็มาตะโกนเพลิน ๆ ให้โลกได้รู้ว่าคนเหงาก็มีความสุขได้ เตรียมวอร์มและอุ่นเครื่องร่างกายของคุณมาให้พร้อม และมาตะโกนความเหงา พร้อมกันใน วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนนี้ ณ UNION HALL ศูนย์การค้า UNION MALL พูดเลยว่างานนี้ ถึงตอนมา จะมาคนเดียว แต่กลับไปแบบไม่เดียวดายแน่นอน คอนเฟิร์ม!

แล้วคนเหงา จะกลับไปแบบไม่เดียวดายจริงหรือ? คำตอบนี้ ไม่มีใครจะการันตีได้ นอกจากใครที่เหงา จะต้องมาสัมผัสและมาพิสูจน์ด้วยตัวของคุณเอง เพราะภายในงาน ‘LONELY LOUD FEST เทศกาลเหงาตะโกน’ เหล่าบรรดาคนเหงา นอกจากจะไม่เหงาใจแล้ว ยังไม่เหงาหูแน่นอน เพราะจะได้พบกับศิลปินสุดขี้เหงา ที่จะทำให้คุณได้ร้องตะโกนให้ดังลั่น กับเพลงช้า เพลงฮีลใจ ปลดปล่อยความเหงาให้สุดเสียง พร้อมมาโดด แต่ไม่เดี่ยวกับศิลปินสุดฮิต แบบนันสต๊อป นำโดย นนท์ ธนนท์, อิ้งค์ วรันธร, PIXXIE, LIPTA, SERIOUS BACON และ WIM หรือ  กานต์-กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์ 

เท่านั้นยังไม่พอภายในงาน ยังมีกิจกรรมแก้เหงา ให้เหล่าคนเหงาได้มาปล่อยใจ ปล่อยจอย ร่วมสร้างแอคทิวิตี้ด้วยกันอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น โซนเล่นตะโกน  มาเล่นตะโกนระบายอารมณ์กับมุมแปะ POST-IT ระบายความเหงาและ Installation ART, โซน HEAL ด้วยการหาเพื่อนใหม่แบบไม่เดียวดายด้วย QR FRINDS แลก Contact / แจกวาร์ป ช่องทาง ให้คุณไปดีลต่อแบบโดนใจ พร้อมกับกิจกรรม ฮีลใจ ด้วยการนำของเก่ามาแลกของใหม่สุดพิเศษจากงาน ภายใต้คอนเซปต์ ‘เอาแฟนเก่ามาแลกแฟนใหม่’ และแน่นอน การจะมีความรักดี ๆ เรื่องของมูเตลู ก็สำคัญกับโซน เสริมความสุข กับมูชาปอง / ของขลัง / ของมูสายความรัก และที่ขาดไม่ได้เลย กับกูรูที่จะช่วยคุณให้ Move On ให้ก้าวต่อไปแบบไม่หลงทาง มาดูหมอ หามูLOVE ดูดวง แก้ดวง แก้ชง กันจนกว่าจะสบายใจ

โดยความสุขที่คนเหงาทั้งหลายจะได้พบเจอทั้งหมดภายในงาน ‘LONELY LOUD FEST เทศกาลเหงาตะโกน’ ปักหมุดละลายความเหงา ใน วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนนี้ ณ UNION HALL ศูนย์การค้า UNION MALL ขอเน้น และขอย้ำให้ทุกคนได้ท่องจำกันจนขึ้นใจ และรีบกดบัตรด่วน สำหรับบัตร EARLY BIRD ราคาทำถึง เพียง 567 บาทเท่านั้น (จากปกติ 789 บาท) ซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม - 30 สิงหาคม 2567 เท่านั้น ที่ THE CONCERT https://www.theconcert.com/concerts/lonely-loud-fest สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง FACEBOOK / X / Instagram /TikTok : RSMultiX ราคาจึ้งขนาดนี้ อย่าลังเล เพราะคุณจะไม่เหงาอีกต่อไป

‘บิ๊ก D Gerrard’ เตือนภัย หลังเจอแท็กซี่เปิดหนังสยิวดูกลางถนน ลั่น!! ไม่ว่าจะทำงานอะไร ควรให้เกียรติวิชาชีพ-ส่วนรวมมากกว่านี้

เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.67) ทำเอานักร้องดัง ‘บิ๊ก ดี เจอร์ราร์ด’ หรือ ไบรอัน เจอร์ราร์ด อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบียล ถึงกับเดือด เมื่อเห็นแท็กซี่คันหน้า เปิดหนังสยิวดูกลางถนน ขณะรถจอดติดไฟแดง โดยระบุว่า “เตือนภัยTAXI ถ้าคุณมีลูกสาวแล้วต้องขึ้นTAXI คันนี้ คุณจะต้องรู้สึกยังไง?”

โดย นักร้องดัง บอกว่า “สำหรับผม..ผมคิดว่าสังคมเรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ควรทำหรือไม่ควรทำครับ..ยิ่งในที่สาธารณะหรืออะไรก็ตามที่เป็นสาธารณะ..ผมคิดไตร่ตรองอยู่พอสมควรก่อนจะโพสต์คลิปนี้ว่าจะโพสต์หรือไม่โพสต์ดี..แต่ที่ต้องตัดสินใจโพสต์จริง ๆ เพราะถ้าไม่พูดก็จะไม่มีการตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้และเพราะเป็นห่วงสังคม, เป็นห่วงในความปลอดภัยของผู้หญิงที่ต้องขึ้นรถหรือโดยสารรถ Taxi คันนี้ หรือไม่ว่าจะคันไหนก็ตามที่ทำแบบนี้อยู่

ผมจึงคิดว่าควรออกมาพูดถึงเรื่องนี้และอยากให้มองถึงการให้เกียรติวิชาชีพของตัวเองให้มากกว่านี้ครับ และผมคิดว่าไม่ว่าเราจะทำอาชีพอะไรหรือเป็นใครก็ตามเราต่างเป็นแบบอย่างของกันและกัน เราจึงควรต้องให้เกียรติตนเองและส่วนรวมให้มากกว่านี้…สุดท้ายนี้ขอฝากถึงพี่คนขับรถคันนี้และวงการผู้บริการรถโดยสารสาธารณะได้โปรดช่วยกันยกระดับตนเอง เพื่อให้พวกเราสบายใจที่จะขึ้นรถของพวกคุณด้วยเถอะครับ..ขอบคุณครับ”

'รร.ไฮแอท รีเจนซี่' ชวนคอเพลงแจ๊ส ดื่มด่ำสุนทรียภาพแห่งดนตรี ผ่านภาพถ่ายนักดนตรีระดับตำนาน ในงาน 'Jazz Icons Exhibition'

โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ ชวนคอเพลงแจ๊ส ร่วมดื่มด่ำกับท่วงทำนองอันเป็นอมตะผ่านภาพถ่ายของนักดนตรีแจ๊สระดับตำนาน ผ่านนิทรรศการภาพถ่าย Jazz Icons Exhibition ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ตุลาคม 2567 

โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท จัดงาน 'Jazz Icons' นิทรรศการภาพถ่ายของนักดนตรีแจ๊สระดับตำนานจากคอลเลกชันส่วนตัวของ ท่านทูต มิเชล โบบอต อดีตนักการทูตชาวฝรั่งเศสประจำองค์การยูเนสโก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานของ ดนตรีแจ๊สและมอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมให้แก่ผู้มาเยี่ยมชมผ่านภาพถ่ายของช่างภาพมืออาชีพ

สำหรับดนตรีแจ๊สมีต้นกำเนิดในชุมชนชาวแอฟริกัน-อเมริกันในนิวออร์ลีนส์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นแนวดนตรีที่มีอิทธิพลอย่างมากและถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ

สิ่งที่น่าสนใจที่คอเพลงแจ๊สไม่ควรพลาดงานนิทรรศการครั้งนี้ เพราะไม่บ่อยครั้งที่จะมีการรวบรวมภาพถ่ายหายากของนักดนตรีชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Kenny Clarke, Louis Armstrong, Ornette Coleman, Dave Brubeck และอีกมากมาย ที่ถูกถ่ายในช่วงเทศกาลดนตรีและคอนเสิร์ตที่จัดแสดงทั่วกรุงปารีส ฝรั่งเศสตอนใต้และสหรัฐอเมริกา ระหว่างช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 ไปจนถึงต้นทศวรรษที่ 1980 เพื่อเป็นการยกย่องผลงานและความคิดสร้างสรรค์ของเหล่านักดนตรีมากความสามารถ มาจัดให้ชมกันอย่างสุดใจในกลางกรุง

"หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ ดนตรีแจ๊สได้เข้ามามีอิทธิพลเป็นอย่างมากในยุโรปและเอเชีย จนกลายเป็นที่แพร่หลายอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการจัดแสดงคอนเสิร์ต การแสดงโชว์ในคลับ การออกแผ่นเสียง และการประชาสัมพันธ์ผ่านนิตยสารต่าง ๆ ถือเป็นแนวเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่งยุค และในขณะเดียวกัน นักดนตรีแจ๊สหลายท่านจึงเริ่มกลายเป็นที่จับตามอง และได้ถูกนำไปตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้งตามความนิยมของแฟนเพลง 

ใบหน้าที่มีเอกลักษณ์ของเหล่าศิลปิน ได้แสดงถึงความหลากหลายทางอารมณ์ความรู้สึกผสมผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์และความพิเศษ แค่เพียงได้มองภาพถ่ายก็สามารถสัมผัสได้ถึงความสุข ความเศร้า และรับรู้ได้ถึงบุคลิกของเหล่านักดนตรีในภาพ แม้จะไม่ เคยฟังเพลงของพวกเขาเลยก็ตาม" ท่านทูตมิเชล โบบอต อดีตนักการทูตและนักสะสม เจ้าของคอลเลกชันภาพถ่ายที่ถูกนำมาจัดแสดงในครั้งนี้ กล่าว

นายแซมมี่คาโรลุส ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้ ว่า "นิทรรศการนี้ ถือเป็นการเฉลิมฉลองความมีชีวิตชีวาและความหลากหลายของวงการดนตรีแจ๊ส อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังความหลงใหลและความคิดสร้างสรรค์ซึ่งถือเป็นคำนิยามที่ดี ที่สุดของผลงานศิลปะอันแท้จริง พร้อมทั้งเชื่อว่านิทรรศการนี้ จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ได้มาเยี่ยมชมและจุดประกายจินตนาการให้คอเพลงแจ๊สได้ดื่มด่ำกับโลกของดนตรีแจ๊สไปพร้อมกัน"

แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นคอเพลงแจ๊สตัวจริง หรือคนทั่วไปที่สนใจประวัติศาสตร์เพลง ไม่ควรพลาดกับนิทรรศการภาพถ่ายคอลเลกชันส่วนตัวของท่านทูต มิเชล โบบอต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คอลเลกชันนี้ ได้ถูกนำมาจัดแสดงในประเทศไทย ที่จะนำเราย้อนวันวานไปเพลิดเพลินกับการเดินทางสู่ยุคทองของวงการดนตรีแจ๊สผ่านรูปถ่ายของบุคคลสำคัญที่มีส่วนช่วยในการผลักดันวงการแจ๊สให้เป็นที่รู้จักมาจนถึงปัจจุบันและเป็นมรดกสืบทอดต่อไปในอนาคต 

ที่สำคัญนิทรรศการภาพถ่ายที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เปิดให้ชมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ บริเวณล็อบบี ของโรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 บอกได้คำเดียวว่า งานนี้คอเพลงแจ๊สไม่ควรพลาดโดยประการทั้งปวง!

6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ‘สหรัฐอเมริกา’ ทิ้งระเบิดปรมาณูถล่ม ‘เมืองฮิโรชิมะ’ โศกนาฏกรรมที่คร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นทันที 80,000 คน

วันนี้เมื่อ 79 ปีที่แล้ว ซึ่งก็คือวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 เป็นอีกหนึ่งวันที่คนญี่ปุ่นไม่มีวันลืม เมื่อระเบิดปรมาณู ‘ลิตเติลบอย (Little Boy)’ ของสหรัฐอเมริกา ถูกทิ้งเหนือเมืองฮิโรชิมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ 80,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากการได้รับกัมมันตภาพรังสีอีก 60,000 คน

‘ลิตเติลบอย (Little Boy)’ เป็นชื่อระเบิดปรมาณู ที่ถูกนำไปทิ้งเหนือเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น โดยเครื่องบิน B-29 Superfortress (เครื่องบินลำนี้มีชื่อ Enola Gay) และระเบิดลูกนี้ ยังนับเป็นระเบิดปรมาณูลูกแรกที่ใช้ในการสงครามอีกด้วย

โดยอาวุธนี้พัฒนาขึ้น ในระหว่างจัดตั้ง ‘โครงการแมนฮัตตัน’ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย ‘จูเลียส โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์’ ผู้ที่ได้ฉายาว่า ‘บิดาแห่งระเบิดปรมาณู’

สำหรับ ‘ลิตเติลบอย’ มีความยาว 3 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 71 เซนติเมตร และน้ำหนัก 4,000 กิโลกรัม บรรจุธาตุยูเรเนียมประมาณ 64 กิโลกรัม และจากเหตุการณ์นี้นับเป็นโศกนาฏกรรมที่โลกไม่เคยลืม

7 สิงหาคม พ.ศ. 2463 วันสิ้นพระชนม์ ‘พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ฯ’ ผู้ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น ‘พระบิดาแห่งกฎหมายไทย’

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กับเจ้าจอมมารดาตลับ ประสูติเมื่อวันพุธ ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11 ปีจอ จุลศักราช 1236 ตรงกับวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2417 ทรงมีพระนามเดิม พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เป็นต้นราชสกุลรพีพัฒน์

ทั้งนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้พระราชโอรสไปศึกษายังต่างประเทศ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงเป็นพระราชโอรสกลุ่มแรกที่ทรงไปศึกษาต่อในทวีปยุโรป เมื่อ พ.ศ. 2428 คราวนั้นเสด็จไปพร้อมกัน 4 พระองค์ คือ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ (กรมพระจันทบุรีนฤนาถ), พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ (กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์), พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม (กรมหลวงปราจิณกิติบดี) และพระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช (กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช)

เมื่อพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงสำเร็จการศึกษาวิชากฎหมายจากประเทศอังกฤษได้กลับมารับราชการ ทรงเป็นผู้วางรากฐานด้านกฎหมายในเมืองไทย ทรงปรับปรุงศาลยุติธรรมสู่ระบบใหม่ ทรงตรวจชำระสะสางกฎหมาย ทรงตั้งโรงเรียนกฎหมายเพื่อเปิดการสอนกฎหมายครั้งแรก ทรงรวบรวมและแต่งตำราคำอธิบายกฎหมายลักษณะต่าง ๆ มากมาย ทรงเป็นกรรมการตรวจตัดสินความฎีกาซึ่งทำหน้าที่ศาลสูงสุดของประเทศ ทรงตั้งกองพิมพ์ลายมือขึ้น เมื่อพ.ศ.2443 สำหรับตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาในคดีอาญา อันเป็นจุดเริ่มต้นของการพิสูจน์ลายมือที่กรมตำรวจในปัจจุบัน จนได้รับพระสมัญญานามว่า ‘พระบิดาแห่งกฎหมายไทย’

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่  7 สิงหาคม พ.ศ. 2463 จึงกำหนดให้วันที่ 7 สิงหาคม ของทุกปีเป็น ‘วันรพี’ เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีและคุณูปการของพระองค์ต่อวงการกฎหมายไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top