Sunday, 18 May 2025
Lite

'สว.วีระศักดิ์' ร่วมงานเปิดม่านฉลองสมโภชพระอารามหลวง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 338 ปี

(2 ธ.ค. 66) คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, คุณวัสน์พล อรรถพรธนเสฐ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย, คุณเบญจ มอนโกเมอรี่ ประธานสมาคมท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิก (ไทยแลนด์แชปเตอร์), คุณบูรณาการ จตุพรไพศาล - คุณเถกิง บรรจงรักษ์ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.), คุณกฤษณี ศรีษะทิน อุปนายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) (ทิก้า), คุณประภาพรรณ สังข์เมือง ผู้จัดการทั่วไป ทิก้า, คุณสาธิตา โสรัสสะ อุปนายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย, คุณภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ - คุณภัทรนิษฐ์ ปัณณศิระวิทย์ ภาคีเครือข่ายท่องเที่ยวไทย ร่วมแถลงข่าวงานเฉลิมฉลองสมโภชพระอารามหลวง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ครบรอบ 338 ปี เทิดพระเกียรติสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า และสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 72 พรรษา

งานสมโภชพระอาราม 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 27 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2567 เวลา 07.00 - 22.00 น. ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ชมความงดงามของวัดคู่วัง - ประวัติศาสตร์ล้ำค่าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จัดแสดงแสงสี ดนตรีวัฒนธรรมไทย ตลาดวัฒนธรรมย้อนยุคต้นรัตนโกสินทร์ นิทรรศการ 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และการเจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

'วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์' เชิญ 'พุทธศาสนิกชน' ล็อกคิว 27 ธ.ค.66 - 2 ม.ค.67 ท่องเที่ยวทำบุญให้สดใส อิ่มใจในโอกาสปีใหม่ ใต้เสน่ห์ตลาดวันวาน ย่านวังหน้า

(2 ธ.ค.66) พุทธศาสนิกชน ไม่ควรพลาด!! 27 ธ.ค.66 ถึง 2 ม.ค.67 ตั้งแต่เวลา 07.00 - 22.00 น. ขอเชิญร่วมงานท่องเที่ยวทำบุญให้สดใส อิ่มใจในโอกาสปีใหม่ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ มีความน่าสนใจอยู่หลายส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของตลาดวัฒนธรรม ย่านวังหน้า ร.ศ.241 ซึ่งมีการนำเสนอกิจกรรมทรงเสน่ห์อันหลากหลาย ดังนี้...

- คิดถึงวันวาน ย่านวังหน้า : ลิ้มรสอาหารอร่อยแบบไทยโบราณ ของอร่อยประจำย่าน อุดหนุนงานหัตถศิลป์ เครื่องหอม เครื่องประดับ งานปั้น งานจักสาน และสินค้าเด่น
- เสน่ห์ย่านท่าพระจันทร์ : พบแพทย์แผนไทย นวดบำบัด ตำรับยาโบราณ พยากรณ์ดวงชะตา เลือกซื้อของเก่าของสะสม
- Workshop & DIY : จัดดอกไม้ถวายพระ จัดพานพุ่ม จัดโต๊ะหมู่บูชา ร้อยมาลัย
- สอยกัลปพฤกษ์ : อธิษฐานจิตรับรางวัลจากต้นกัลปพฤกษ์ สัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์
- ประวัติศาสตร์นอกห้องเรียน : ย้อนไปวันวาน เรื่องเล่าย่านวังหน้า ภาพเก่าเล่าเรื่อง
- เสริมสิริมงคล : จำหน่ายชุดสังฆทาน ไทยทาน ถวายพระ ของฝาก สำหรับญาติผู้ใหญ่ หรือบุคคลที่เคารพรัก เลือกของขวัญปีใหม่
- กิจกรรมเสบียงบุญ : ถวายสังฆทานพระสงฆ์, บริจาคร่วมบุญบูรณปฎิสังขรณ์วัด 339 บาท รับพระสมเด็จอรหัง เป็นที่ระลึกเพื่อการบูชา ตารางกิจกรรมงานโดยละเอียดได้ที่... >> เฟซบุ๊ก : งานสมโภชพระอารามหลวง 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ https://www.facebook.com/watmahathatu338/ 

นอกจากนี้ สำหรับพุทธศาสนิกชนที่สนใจ ขอเรียนเชิญเข้าร่วมงาน และเข้าร่วมกิจกรรม เจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ข้ามปีเจริญสมาธิรวมใจไทยพร้อมกันทั่วโลก เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา ในปี พ.ศ.2567 ซึ่งจะมีการแจกเทียน LED ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2566

สุดท้ายนี้ ใคร่ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านเชิญร่วมงานในวันดังกล่าว ท่องเที่ยวทำบุญให้สดใส อิ่มใจในโอกาสปีใหม่ ... แล้วพบกันระหว่าง วันที่ 27 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2567 เวลา 07.00 - 22.00 น. ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

‘เบิร์ด ธงไชย’ ภูมิใจ!! ได้ร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ หลังเข้าชมโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.66 ‘เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์’ ศิลปินแห่งชาติ ร่วมสืบสานศิลปะการแสดงนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย เข้าชมการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ ท่ามกลางผู้ชมแน่นขนัดเต็มพื้นที่บริเวณด้านหน้าหอประชุมใหญ่ ต่างพากันขอถ่ายรูป ล้อมหน้าล้อมหลัง ด้วยความดีใจอย่างไม่คาดคิดเมื่อต่างหันมาพบ ‘เบิร์ด ธงไชย’ ขวัญใจของมหาชน เดินอยู่ด้านข้าง มาร่วมชมโขนในรอบประชาชน

เพิ่งจบคอนเสิร์ตใหญ่ไปหมาดๆ ‘เบิร์ด ธงไชย’ ศิลปินแห่งชาติ จัดเวลาดูโขนร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรม เป็นแบบอย่างของคนไทยที่ให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของการแสดงศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ โดย ‘เบิร์ด ธงไชย’ ภูมิใจที่ได้มาชมโขน ชื่นชมนักแสดงและคณะทำงานทุกด้านที่ร่วมกันสร้างสรรค์การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ ที่วิจิตรสวยงามครบทุกองค์ประกอบและมีคุณค่ายิ่ง

โดยบรรยากาศของผู้ชมที่เข้าชมรอบนี้อย่างแน่นขนัด พร้อมภาพแห่งความอิ่มเอมใจที่ได้รับชมการแสดงโขนไปพร้อมกับศิลปินที่ชื่นชอบ และได้ถ่ายรูปกับ ‘เบิร์ด ธงไชย’ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

สำหรับการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ บัตรได้เต็มทุกที่นั่ง ยินดีกับผู้ที่จับจองบัตรได้และได้รับชมการแสดงกันไปด้วยความประทับใจ สำหรับผู้ที่พลาดชมปีหน้าพบกันใหม่ ส่วนจะเป็นตอนอะไรนั้นติดตามข่าวสารได้ทางเพจโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ

5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และภายหลังการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 สำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เรื่อง กำหนดวันสำคัญของชาติไทย มีใจความสำคัญให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญของชาติไทย ดังนี้ 

1. เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 

2. เป็นวันชาติ 

3. เป็นวันพ่อแห่งชาติ

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป 

‘5 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร’ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ประชาชนคนไทยยังคงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันประเสริฐ และเทิดทูนพระองค์ด้วยความรัก ความศรัทธา โดยตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมาย เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

‘5 ธันวาคม เป็นวันชาติไทย’ แม้โดยทั่วไปมักจะหมายถึง วันเฉลิมฉลองที่ประเทศนั้น ๆ ได้รับอิสรภาพ เป็นเอกราช หรือเป็นวันสถาปนาประเทศ รัฐ ราชวงศ์ วันพระราชสมภพของกษัตริย์ วันเกิดประมุขของรัฐ หรืออาจจะเป็นวันที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ แต่มักจะถือเป็นวันหยุดประจำของชาติ ซึ่ง ‘วันชาติ’ ของแต่ละประเทศจะเป็นวันใดขึ้นอยู่กับการกำหนดของประเทศนั้น ๆ โดยความเป็นมาของวันชาติไทยนั้น แต่เดิมกำหนดให้เป็นวันที่ 24 มิถุนายน โดยวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติไทยได้ 21 ปี ต่อมาในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 รัฐบาลในขณะนั้นมีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามขนบประเพณีของประเทศ และเป็นการสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติ จึงให้ถือวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็น ‘วันชาติ’ มาจนถึงปัจจุบัน

‘5 ธันวาคม เป็นวันพ่อแห่งชาติ’ วันพ่อแห่งชาติ มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 เนื่องจากพ่อเป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ และเพื่อให้ผู้เป็นพ่อสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน ดังนั้นจึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็น ‘วันพ่อแห่งชาติ’

6 ธันวาคม พ.ศ. 2443  ในหลวง ร.5 อาราธนาพระภิกษุสงฆ์ 33 รูป มาจำวัดที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

วันนี้เมื่อ 123 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาพระสงฆ์จำนวน 33 รูป มาจำวัดที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เพื่อทำให้เป็นวัดที่สมบูรณ์

วัดเบญจมบพิตรเดิมเป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่ครั้งสมัยใด ชาวบ้านเรียกว่า วัดแหลม หรือวัดไทรทอง

เมื่อถึงปี 2441 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซื้อที่ดินระหว่างคลองผดุงกรุงเกษมจนถึงคลองสามเสน เพื่อสร้างที่ประทับพักผ่อนพระอิริยาบถส่วนพระองค์ โดยพระราชทานนามว่า ‘สวนดุสิต’ ซึ่งก็คือพระราชวังดุสิต ในปัจจุบัน ซึ่งบริเวณที่ดินที่ทรงซื้อนั้นมีวัดโบราณ 2 แห่ง คือ วัดดุสิตซึ่งอยู่ในสภาพทรุดโทรมโดยถูกใช้เป็นที่สร้างพลับพลา และวัดร้างอีกแห่งซึ่งจำเป็นต้องใช้ที่ดินของวัดสำหรับตัดเป็นถนน พระองค์จึงทรงกระทำผาติกรรม สร้างวัดแห่งใหม่เพื่อเป็นการทดแทนตามประเพณี โดยทรงเลือกบริเวณที่เป็นวัดเบญจมบพิตรปัจจุบัน เป็นวัดที่ทรงสถาปนาตามพระราชดำริว่า การสร้างวัดใหม่หลายวัดยากต่อการบำรุงรักษา ถ้ารวมเงินสร้างวัดเดียวให้เป็นวัดใหญ่และทำโดยฝีมือประณีตจะดีกว่า จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นผู้ทรงออกแบบก่อสร้างพระอุโบสถและถาวรวัตถุอื่น ๆ และมีพระยาราชสงครามเป็นนายช่างก่อสร้าง

ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมายังวัด ก็มีพระบรมราชโองการประกาศพระบรมราชูทิศถวายที่ดินให้เป็นเขตวิสุงคามสีมาของวัด พร้อมทั้งพระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดเบญจมบพิตร อันหมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 และเพื่อแสดงลำดับรัชกาลในราชวงศ์จักรี

และ พระองค์ก็ได้ถวายที่ดินซึ่งพระองค์ขนานนามว่า ดุสิตวนาราม ให้เป็นที่วิสุงคามสีมาเพิ่มเติมแก่วัดเบญจมบพิตร ครั้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2443 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้ ทรงโปรดให้อาราธนาพระภิกษุสงฆ์จำนวน 33 รูป ซึ่งโปรดให้คัดเลือกไว้แล้ว และให้รวมฝึกอบรมอยู่ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ มาจำวัดที่วัดเบญจมบพิตรทำให้วัดเป็นวัดที่สมบูรณ์ และในคราวนี้เองได้พระราชทานที่วัดเพิ่มเติม และสร้อยนามต่อท้ายชื่อวัดว่า ‘ดุสิตวนาราม’ เรียกรวมกันว่า ‘วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม’ เช่นในปัจจุบัน

๗ ธันวาคม วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี  กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

วันนี้ถือเป็นวันสำคัญของปวงชนชาวไทยอีกวันหนึ่ง โดยเป็นวันคล้ายวันประสูติของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ซึ่งปีนี้ทรงเจริญพระชันษา 45 ปี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในหลากหลายด้าน ทางด้านกฎหมาย ทรงส่งเสริมหลักการยุติธรรมในสังคม โดยเฉพาะสตรีและผู้ต้องขังหญิง อีกทั้งส่งเสริมกระบวนการยุติธรรมในระดับนานาชาติ โดยทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีด้านการส่งเสริมหลักนิติธรรมและระบบงานยุติธรรมทางอาญา สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ

อีกหนึ่งพระราชกรณียกิจอันเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวไทย โดยทรงเป็นองค์ประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ด้วยวัตถุประสงค์ในการบรรเทาความเดือดร้อน ตลอดจนช่วยเหลือประชาชนคนไทย ทั้งในยามประสบภัยพิบัติ และส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

เนื่องด้วยเป็นวันคล้ายวันประสูติ ขอพระองค์ทรงมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของประชาชนคนไทยสืบไป ทรงพระเจริญ

5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

๏ ความคิดถึงเวียนครบจบอีกปี
ความภักดียังมีมิเลือนหาย
ความจงรักห่วงหาไม่คลาคลาย
ความอาลัยมีถวายให้ทุกวัน

๏ ความโศกาเบาบางใช่ห่างเหิน
ความรู้แจ้งดำเนินใช่เพ้อฝัน
ความจริงปรากฏเห็นเช่นทุกวัน
ความเป็น 'พ่อ' ของท่านมั่นในใจ

ผู้ประพันธ์: พรชัย นวการพิศุทธิ์

8 ธันวาคม พ.ศ. 2484  ญี่ปุ่น ยกพลขึ้นบก เหยียบแผ่นดินไทย  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านไปตีพม่าและมลายู

การยกพลขึ้นบกของกองทัพญี่ปุ่น เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 (ค.ศ.1941) ตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น. เมื่อกองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สงขลา สุราษฎร์ธานี ปัตตานี และบางปู สมุทรปราการ และบุกเข้าประเทศไทยทางบกที่อรัญประเทศ กองทัพญี่ปุ่นสามารถขึ้นบกได้โดยไม่ได้รับการต่อต้านที่บางปู ส่วนทางภาคใต้และทางอรัญประเทศมีการต่อสู้ต้านทานอย่างหนักของทหารไทย ประชาชนทั่วไปและอาสาสมัครที่เป็นเยาวชน ที่เรียกว่า ยุวชนทหาร ในบางจังหวัด เช่น การรบที่สะพานท่านางสังข์ จังหวัดชุมพร

โดยกลุ่มยุวชนทหารและกองกำลังผสมทหารตำรวจซึ่งกำลังจะต่อสู้ปะทะกันอยู่ที่สะพานท่านางสังข์ โดยที่กลุ่มยุวชนทหารนั้นมีผู้บังคับการคือร้อยเอกถวิล นิยมเสน ในระหว่างการสู้รบร้อยเอกถวิลนำกำลังยุวชนทหารออกมาปะทะกองทหารญี่ปุ่น แม้ร้อยเอกถวิลจะถูกทหารญี่ปุ่นยิงเสียชีวิต แต่ยุวชนทหารยังคงสู้ต่อไปจนกระทั่งรัฐบาลสั่งหยุดยิง เมื่อเวลา 11.00 น. โดยประมาณ

และในที่สุดรัฐบาลไทยโดยจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม ได้ประกาศอนุญาตให้ทหารญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศไทยได้

และในวันที่ 8 ธันวาคม ของทุกปี ยังถือเป็น ‘วันนักศึกษาวิชาทหารอีกด้วย’

‘BLACKPINK’ จรดปากกาต่อสัญญาใน ‘ฐานะวง’ ดันหุ้น YG Entertainment พุ่งเกือบ 23% 

(6 ธ.ค.66) วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ แถลง ‘BLACKPINK’ ได้ต่อสัญญาการทำกิจกรรมกลุ่มกับทางค่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของการทำกิจกรรมเดี่ยวของสมาชิกแต่ละคนนั้น ทางวายจีกล่าวว่ายังคงอยู่ระหว่างการเจรจา

ทั้งนี้ ลิซ่า เจนนี่ จีซู โร่เซ ได้เปิดตัวในฐานะสมาชิกแบล็กพิงก์เมื่อปี 2016 โดยสัญญาฉบับแรกที่กินเวลา 7 ปี ที่ทำกับทางวายจีได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาท่ามกลางการจับตามองว่าจะมีการต่อสัญญากันครบทั้งวงหรือไม่

การต่อสัญญาครั้งนี้ทำให้วายจียังคงได้สิทธิ์บริหารจัดการการทำเพลง การจัดคอนเสิร์ต ตลอดจนกิจกรรมการโปรโมทของวงแบล็คพิงก์ต่อไป

“ผมมีความสุขที่ได้รักษาความสัมพันธ์กับ BLACKPINK ต่อไป เราจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยให้แบล็คพิงก์เปล่งประกายสุกสว่างกว่าเดิมในตลาดดนตรีโลก” ‘หยางฮยอนซอก’ ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานค่ายวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ กล่าว

ทั้งนี้ ราคาหุ้น YG พุ่งขึ้นเกือบ 23% จากข่าวการต่อสัญญากิจกรรมวงของ BLACKPINK

อัศจรรย์ผลการรักษา 'วินัย ไกรบุตร' ร่างกายเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลัง 'ขมากรรม-อโหสิกรรม' บุคคล 5 คน ตามขั้นตอนพิธีบุญ

(6 ธ.ค.66) ‘หนุ่ม คงกระพัน’ เผยคลิปล่าสุด ‘วินัย ไกรบุตร ไปลำพูนรับชื่อเจ้ากรรม 2 คนสุดท้าย’ โดย ‘เอ๋ อรชัญญาช์’ ภรรยา ‘เมฆ วินัย ไกรบุตร’ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนสามี เดินทางไปหา อ.ไพศาล แสนไชย ที่ จ.ลำพูน อีกครั้ง

โดยขณะนั่งรถไป หนุ่ม คงกระพัน ได้อัปเดตอาการ ‘เมฆ วินัย’ ซึ่ง ‘เอ๋’ ได้อัปเดตอาการสามีสัญญาณดีขึ้น หลายคนสังเกตผิวเริ่มสีชมพู จากที่ดำๆ เขียวๆ ที่บางคนบอกเหมือนศพ ตอนนี้สีผิวสีหน้าก็ดีขึ้น รูปหน้ากลับเข้ารูปเดิม

ย้อนการรักษาเกือบ 5 ปี ทดลองรักษามาหลายขนาน ยาที่ใครลองแล้วหาย หรืออย่างน้อยเสมอตัว แต่ ‘วินัย ไกรบุตร’ ลองแล้วอาการยิ่งแย่ โดย ‘หนุ่ม คงกระพัน’ กล่าวว่า คนอื่นหายหมด ยาระดับโลก นวัตกรรมใหม่ คนอื่นถึงไม่หายไม่ดีขึ้น แต่ก็ไม่เคยแย่ลง แต่ ‘วินัย ไกรบุตร’ แย่ลง มันแปลก

‘เอ๋’ เผยว่า อาจารย์หมอประวิตร (อาจารย์หมอที่จุฬาฯ ผู้รักษาวินัย ไกรบุตร) ซึ่งเข้าใจคนไข้มาก และเราปรึกษาอาจารย์หมอทุกอย่าง และทำในสิ่งที่ไม่กระทบการรักษา อาจารย์เคยพูดคนที่เป็นเหมือนพี่เมฆเข้ามาหาอาจารย์หายหมดแล้ว บางคนเดือนหนึ่ง บางคนสิบปี พอเราได้มาหา อ.ไพศาล ทิศทางดีขึ้น ก็ดีใจมาก ล่าสุดอาจารย์หมอถอยยาแล้ว

ซึ่งทุกครั้งที่ถอยยา ตุ่มขึ้นอย่างน้อยๆ เป็นพัน ต้องจับมือสู้ เพราะ 7-14 วันมันถึงจะเริ่มสงบ ช่วงทรมานคือ 14 วัน - 1 เดือน หลังปรับยา แต่รอบนี้ไปปรับยามาเป็นอาทิตย์เหมือนกัน นิ่ง ตุ่มไม่ขึ้น (หนุ่ม คงกระพัน ถึงกับลั่นว่า อัศจรรย์) จนถ้าวันหนึ่งร่างกายเราผลิตสเตอรอยด์ได้เอง เราถึงจะไม่ต้องใช้ยา (รายการยังเปิดภาพที่ ‘เมฆ วินัย’ เคยป่วยช่วงพีกๆ อาการรุนแรงผิวหนังเป็นตุ่มไปหมดด้วยมีเลือดออก)

โดยไปถึงบ้าน อ.ไพศาล เบื้องต้นทราบว่า อาจารย์เปิดบุพกรรม สำหรับเจ้ากรรมนายเวรอีก 2 คนที่เหลือ ก่อนจะได้พบอาจารย์ซึ่งตอนนี้มีคนมาเข้าคิวรอพบอาจารย์พบมาก ได้คุยกับผู้ช่วยอาจารย์ ทราบว่า 2 เจ้ากรรมนายเวรที่เหลือของ ‘เมฆ วินัย’ มีคนใดคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ และทั้ง 2 คนอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top