Saturday, 19 April 2025
Info

🔎ส่อง 5 อันดับ ‘มหาวิทยาลัยไทย’ เรียนจบไป ไม่ต้องกลัวตกงาน

‘QS World University Rankings’ เผย 5 อันดับมหาวิทยาลัยที่ได้คะแนนความยอมรับจากผู้จ้าง ที่มากที่สุดในประเทศไทย

โดยประเมินจาก...

- คุณภาพการสอน (Academic Reputation) ดูจากการประเมินของนักวิชาการทั่วโลกว่ามหาวิทยาลัยนั้นๆ มีชื่อเสียงในด้านการสอนมากน้อยแค่ไหน

- งานวิจัย (Employer Reputation) ประเมินจากนายจ้างว่า นักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยนั้นมีคุณภาพและมีความพร้อมในการทำงานเพียงใด

- อัตราการจ้างงาน (Faculty/Student Ratio) เปรียบเทียบจำนวนอาจารย์กับจำนวนนักศึกษา เพื่อดูว่ามหาวิทยาลัยมีการให้ความสำคัญกับนักศึกษาอย่างไร

- จำนวนการอ้างอิงงานวิจัย (Citations per Faculty) วัดจากจำนวนการอ้างอิงงานวิจัยของคณาจารย์ในมหาวิทยาลัย เพื่อดูความมีอิทธิพลทางวิชาการ 

- จำนวนนักศึกษาต่างชาติ (International Faculty and Students) ดูจำนวนอาจารย์และนักศึกษาต่างชาติในมหาวิทยาลัย เพื่อดูความเป็นนานาชาติและการเปิดรับจากทั่วโลก

ส่อง 15 อันดับ ‘เมืองท่องเที่ยวสุดโปรดในเอเชีย 2024’

ในแต่ละปี Travel + Leisure สื่อท่องเที่ยวยอดนิยมเบอร์ต้น ๆ ของโลก จะทำการสำรวจรางวัลยอดนิยมจากการผู้อ่าน โดยแชร์ประสบการณ์การเดินทางทั่วโลกและจัดทำโหวตตามเกณฑ์ตัดสินในปัจจัยด้านต่าง ๆ ล่าสุด ผลโหวต 15 เมืองท่องเที่ยวสุดโปรดในเอเชียประจำปี 2024  เผยผลการจัดอันดับที่น่าสนใจ ผู้อ่าน Travel + Leisure ยกให้ประเทศอินเดียเป็นอันดับ 1 โดยมีเมืองที่ติดอันดับ 4 เมือง

Travel + Leisure  ระบุว่า ผู้อ่านต่างชื่นชอบความหลากหลายของเอเชียในการเลือกเมืองโปรด ตั้งแต่มหานครอันทันสมัยไปจนถึงเมืองหลวงโบราณ เมืองที่ได้รับคะแนนสูงเหล่านี้ ล้วนมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนอีกครั้งด้วยวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และอาหารอันยอดเยี่ยม

การสำรวจรางวัลยอดเยี่ยมแห่งโลกในทุกปี  T+L ขอให้ผู้อ่านร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์การเดินทางทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท เมือง เกาะ เรือสำราญ สปา สายการบิน และอื่นๆ อีกมากมาย  ผู้อ่าน T+L มากกว่า 186,000 คน เข้าร่วมการสำรวจประจำปี 2024 โดยมีการโหวตมากกว่า 700,000 ครั้ง ครอบคลุมสถานที่ต่างๆ (โรงแรม เมือง สายการเดินเรือ ฯลฯ) มากกว่า 8,700 แห่ง โดยมีเกณฑ์การตัดสินเมืองพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่

1. สถานที่ท่องเที่ยว/แลนด์มาร์ค
2. วัฒนธรรม
3. อาหาร
4. ความเป็นมิตร
5. การช้อปปิ้ง
6. ความคุ้มค่า

>> จัดอันดับ 15 เมืองท่องเที่ยวสุดโปรดในเอเชียประจำปี 2024

1. อุทัยปุระ, อินเดีย (คะแนนผู้อ่าน: 91.75)
2. เกียวโต, ญี่ปุ่น (ได้รับเกียรติยศ WBA Hall of Fame, คะแนนผู้อ่าน: 91.49)
3. ฮอยอัน, เวียดนาม (คะแนนผู้อ่าน: 90.67)
4. เชียงใหม่, ไทย (คะแนนผู้อ่าน: 90.64)
5. กรุงเทพ, ไทย (คะแนนผู้อ่าน: 90.27)
6. โตเกียว, ญี่ปุ่น (คะแนนผู้อ่าน: 90.04)
7. จูบุด, อินโดนีเซีย (คะแนนผู้อ่าน: 90.00)
8. โกลกาตา, อินเดีย (คะแนนผู้อ่าน: 88.60)
9. ชัยปุระ, อินเดีย (คะแนนผู้อ่าน: 88.23)
10. โซล, เกาหลีใต้ (คะแนนผู้อ่าน: 87.85)
11. เสียมราฐ, กัมพูชา (คะแนนผู้อ่าน: 87.31)
12. เซียงไฮ้, จีน (คะแนนผู้อ่าน: 87.30)
13. สิงคโปร์ (คะแนนผู้อ่าน: 87.21)
14. มุมไบ, อินเดีย (คะแนนผู้อ่าน: 87.18)
15. ไทเป, ไต้หวัน (คะแนนผู้อ่าน: 86.86)

🔎10 คนดัง ‘ถือคบเพลิง’ ในพิธีโอลิมปิก Paris 2024 มีใครกันบ้างนะ??

ในพิธี ‘โอลิมปิก Paris 2024’ คบเพลิงจะถูกส่งต่อผ่านคนดังและผู้มีชื่อเสียงที่มาจากหลายแขนงการทำงานทั่วโลกรวมกว่า 10,000 คน โดยการวิ่งถือคบเพลิงจะใช้เวลาทั้งหมด 11 สัปดาห์ ผ่าน 450 เมืองทั่วปารีสก่อนที่จะมาจุดในพิธีเปิดในวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ได้รวบรวม 10 คนดังที่เข้าร่วมวิ่งคบเพลิง ‘โอลิมปิก Paris 2024’ มาไว้ให้แล้ว จะมีใครบ้าง ไปดูกัน!!

1.Jin พี่ใหญ่แห่งวงศิลปินชื่อดังสัญชาติเกาหลี 🇰🇷อย่างวง BTS เขาได้หมายเลขในการวิ่ง E109 

2.Wang Yibo นักแสดงหนุ่มมากฝีมือจากประเทศจีน 🇨🇳 หมายเลข E142 โดยหนุ่มหวังอี้ป๋อเคยถูกแต่งตั้งให้เป็นทูตส่งเสริมโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในปี 2022 ด้วย

3.Zhao Lusi ดาราสาวตัวท็อปชาวจีน 🇨🇳 มาวิ่งในหมายเลข E014 

4.Halle Berry ดาราสาว 🇺🇸 ที่ชนะรางวัล The Academy Award ได้เข้าวิ่งถือคบเพลิงด้วยหมายเลข E022 

5.Thierry Henry อดีตนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส 🇫🇷 และบุคคลในตำนานของอาร์เซนอล ได้ใส่เบอร์ E001

6.Charles Leclerc นักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน ภายใต้สังกัดเฟอร์รารี่ชาวโมนาโก 🇲🇨 โดยใส่เสื้อเบอร์ E161

7.Nicky Doll 🇫🇷 พิธีกรรายการ Drag Race France และยังเป็นราชินีของ LQBTQ+ โดยใส่เสื้อเบอร์ E077

8.Pharrell Williams 🇺🇸 โดยเขาถือคบเพลิงที่มหาวิหาร The Basilica of Saint-Denis ซึ่งเป็นช่วงท้ายก่อนจะถูกนำไปจุดในพิธีเปิด

9.SnoopDogs เจ้าพ่อ Rapper สัญชาติอเมริกัน 🇺🇸 เข้าร่วมวิ่งคบเพลิงในช่วงสุดท้าย ซึ่งเป็นหน้าบริเวณพิธีเปิดโอลิมปิก โดยใส่เบอร์ E015

10.The Masked เป็นไฮไลต์สุด ๆ ชายที่ใส่หน้ากากโพกผ้าปิดมิดชิด เข้ามาวิ่งถือคบเพลิง วิ่งไปรอบ ๆ ตามสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงปารีส โดยมีการคาดเดาว่าการแต่งตัวน่าจะมาจากละครเกมซีรีส์ยอดฮิตอย่าง The Assasin’s Creed ที่มีมากกว่า 10 ภาคและในบางภาคก็มีการนำเอาบรรยากาศของกรุงปารีสมาใช้เป็นฉากประกอบในเกมด้วย

🔎ส่อง 10 เมืองที่มีความเสี่ยงมากที่สุดในโลก...ไทยไม่ติด!!

‘การากัส’ เมืองหลวงของเวเนซุเอลา เป็นเพียงเมืองเดียวที่ได้คะแนนเต็ม 100 ในเรื่องความเสี่ยง ประกอบไปด้วย ด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ สะท้อนถึงระดับและคุณภาพของบริการสุขภาพและโครงสร้างพื้นฐานที่ต่ำ

โดยการากัสมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานที่สูงเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมใช้งานและคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ขณะที่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางดิจิทัลที่สูงเป็นอันดับสอง สะท้อนถึงความสามารถของประชาชนในการใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวการละเมิดความเป็นส่วนตัว การขโมยข้อมูลประจำตัว และการโจมตีทางออนไลน์

อัตราการก่ออาชญากรรมของการากัสยังได้รับคะแนนความปลอดภัยในการเดินทางต่ำที่สุดจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้คำแนะนำ ‘ระดับ 4: ห้ามเดินทาง’

ด้าน ‘การาจี’ เมืองหลวงของปากีสถานถือเป็นเมืองที่มีความเสี่ยงเป็นอันดับที่ 2 โดย Forbes Advisor จัดประเภทการาจีว่ามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยส่วนบุคคลสูงที่สุด และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานสูงสุดเป็นอันดับที่ 4

“การก่อการร้ายและความรุนแรงที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มหัวรุนแรงได้นำไปสู่การโจมตีเป้าหมายพลเรือน รวมถึงทหารและตำรวจในพื้นที่โดยไม่เลือกปฏิบัติ” กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในคำแนะนำการเดินทางที่ตีพิมพ์ในเดือนมิถุนายน 2566 โดยให้คำแนะนำ ‘ระดับ 3’ เตือนนักท่องเที่ยวให้พิจารณาการเดินทางอีกครั้ง

ส่วน ‘ย่างกุ้ง’ ประเทศเมียนมา อยู่ในอันดับที่ 3 ของเมืองที่ไม่ปลอดภัยสำหรับนักเดินทางมากที่สุดในโลก

โดยคะแนนของย่างกุ้งคือ 91.67 จาก 100 มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางดิจิทัลสูงสุด สะท้อนถึงความสามารถของประชาชนในการใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องกลัวการละเมิดความเป็นส่วนตัว การโจรกรรมข้อมูลประจำตัว และการโจมตีทางออนไลน์ มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยส่วนบุคคลที่สูงเป็นอันดับที่ 3 สะท้อนถึงความเสี่ยงจากอาชญากรรม ความรุนแรง ภัยคุกคามจากการก่อการร้าย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความเปราะบางทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงด้านสุขภาพที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ซึ่งสะท้อนถึงระดับและคุณภาพของบริการและโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพ

สำหรับ ‘กรุงเทพมหานคร’ อยู่กึ่งกลางของการจัดอันดับ โดยอยู่ที่อันดับ 30 (ปลอดภัยอันดับที่ 30 ของโลก/เสี่ยงอันดับที่ 30 ของโลก) โดยได้คะแนน 53.34 ความเสี่ยงด้านอาชญากรรมอยู่อันดับที่ 3 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านสุขภาพและความเสี่ยงด้านอาชญากรรมอันดับที่ 39 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานอันดับที่ 22 และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางดิจิทัลอันดับที่ 17

ที่น่ากังวลคือ เมืองหลวงของประเทศไทย มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยส่วนบุคคลสูงเป็นอันดับที่ 5 เท่ากับมะนิลาของฟิลิปปินส์

ส่อง 5 ประเทศผู้นำในการส่งออกข้าวของโลก ประจำปี 2024

จากข้อมูลของ USDA Foreign Agricultural Service ได้เก็บข้อมูลการส่งออกข้าวจากประเทศต่าง ๆของปี 2024 และมีการคาดว่าประเทศผู้ส่งออกข้าวจะสามารถส่งออกข้าวได้เยอะกว่าปีที่แล้ว คือจาก 53.29 ล้านตันในปี 2023 ขยับมาเป็น 55.13 ล้านตันในปี 2024 โดย 5 ประเทศผู้นำที่ส่งออกข้าวมากที่สุดสามารถเรียงตามลำดับได้ดังนี้...

1.อินเดีย เป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับหนึ่งของโลก โดยส่งออกสัดส่วนมากถึง 37% ของโลก และคาดการณ์ว่าปีนี้จะส่งออกได้ 17 ล้านตัน ซึ่งน้อยลงกว่าปีที่แล้วที่ส่งออกได้ถึง 17.73 ล้านตัน

2.ไทย ประเทศไทยครองสัดส่วน 16% ของโลก โดยไทยส่งออกข้าว 8.5 ล้านตันโดยลดลงจากปีที่แล้วที่ 8.74 ล้านตัน

3.เวียดนาม มีการเติบโตแบบมีนัยสำคัญจนพลิกมาเป็นอันดับ 2 ตอนปี 2023 โดยมีลูกค้าเป็น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และหลายประเทศในแอฟริกา จะสามารถส่งออกข้าวเพิ่มได้จาก 8.23 ล้านตันเป็น 8.3 ล้านตัน

4.ปากีสถาน ส่งออกข้าวประมาณ 4.53 ล้านตันในปีที่แล้ว และจะขยับขึ้นมาเป็น 6.10 ล้านตันในปี 2024 คิดเป็น 7% ของโลก

5.สหรัฐอเมริกา ที่ปีที่แล้วอยู่อันดับ 6 แต่ในปีนี้สามารถแซงหน้ากัมพูชาขึ้นมาได้ โดยมีตัวเลขส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นจาก 2.40 ล้านตันไปเป็น 3.13 ล้านตัน ในปีนี้

🔎ส่อง 44 อดีต สส.ก้าวไกล อาจหมดอนาคตทางการเมือง 'ตลอดชีวิต' หลัง 'ป.ป.ช.' สั่งไต่สวน 'ผิดจริยธรรม' ร่วมลงชื่อแก้ไข 'ม.112'

ดาบสอง!! เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.67) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพิจารณาคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งถือว่ามีโทษสูงถึงขั้นตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตนั้น

นายนิวัติไชย กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า 'มีมูล' จึงมีมติสั่งไต่สวน 44 สส. ส่วนข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐาน และจะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้ประเมินหรือไม่ว่าระยะเวลาของการพิจารณาคดีจะยาวนานหรือไม่? นายนิวัติไชย กล่าวว่า คิดว่าไม่น่ายาว พอข้อเท็จจริงปรากฏ น่าจะครบ อยู่ที่การวินิจฉัยเรื่องข้อกฎหมายถึงเจตนา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นเป็นหลักฐานแนบมาด้วย ถือเป็นเอกสารสำคัญในการประกอบการพิจารณาหรือไม่? นายนิวัติไชย กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นข้อเท็จจริงหรือพฤติกรรม แต่ต้องให้คณะกรรมการไต่สวนไปพิจารณา ขอไม่ก้าวล่วง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปยื่นหนังสือขอให้ ป.ป.ช. ไม่จำเป็นต้องไต่สวน เนื่องจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว? นายนิวัติไชย กล่าวว่า เรื่องการให้ความเป็นธรรมอยู่ที่ข้อกฎหมาย เพราะเรื่องนี้ต้องจบที่ชั้นศาล ซึ่งศาลต้องใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา 

ดังนั้น การให้ความเป็นธรรมขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน หากใช้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเดียว ก็อาจไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา และวันนี้ยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง จึงยังไม่ครบถ้วนตามข้อกฎหมาย

🔎ส่องโครงสร้างราคาน้ำมันแต่ละลิตร ประกอบด้วยอะไรบ้าง??

ในน้ำมันแต่ละลิตรที่เราใช้กันในทุกวันนี้ ประกอบด้วยราคาทั้งหมด 4 ส่วนดังนี้

>>40 - 60% ต้นทุนเนื้อน้ำมัน คือ ต้นทุนน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย

>>30 - 40% ภาษีต่าง ๆ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และบำรุงท้องถิ่น

>>5 - 20% กองทุนต่าง ๆ เช่น กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง: เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน และ กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน: เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน เพื่อประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน

>>10 - 18% ค่าการตลาด คือ ส่วนที่เป็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำนั้นทั้งระบบ

ในส่วนของ ‘ราคาขายปลีก’ ในปัจจุบัน ก็จะประกอบด้วย ราคา ณ โรงกลั่น / ภาษีสรรพสามิต / ภาษ / เทศบาล / กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง / กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน / ค่าการตลาด / ภาษีมูลค่าเพิ่ม

สำหรับแนวทางการแก้ไขภายใต้การนำของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นั้น นายพีระพันธุ์ ได้เปิดเผยผ่านรายการ ‘คนดังนั่งเคลียร์’ ว่า… 

“ที่บอกว่าราคาต้นทุนหน้าโรงกลั่นคือ 20 บาท ไม่รู้มาจากไหน ราคาจริงเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ ซึ่งผมว่าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ระบบ Cost Plus คือ ต้นทุนจริงบวกค่าใช้จ่ายจริง จะได้เป็นราคาขายจริง…

“อีกเรื่องที่ต้องแก้ไขคือ ‘เงินสมทบเข้ากองทุน’ กฎหมายกำหนดให้ผู้ค้าน้ำมันเป็นคนจ่าย เปรียบเหมือนภาษี และเมื่อจ่ายไปแล้ว ก็เป็นต้นทุนที่ต้องไปหักในส่วนของค่าดำเนินงาน ไม่ใช่นำมาบวกในค่าน้ำมัน แต่หากนำมาบวกในค่าน้ำมัน หมายความว่าเป็นการผลักภาระให้ประชาชนต้องจ่าย ซึ่งไม่ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำเป็นกฎหมายใหม่หมดเลย”

เราไปดูกันว่าคนไทยใครเป็นหนี้ และมีหนี้อะไรบ้าง

(13 ส.ค. 67) รู้หรือไม่ว่าคนไทยกว่า 1 ใน 3 หรือกว่า 25.5 ล้านคนของคนทั้งประเทศคือคนที่มีหนี้ จากข้อมูลของเครดิตบูโรได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีหนี้ครัวเรือนรวมกันมากถึง 91% ของ GDP ซึ่งเทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้วเเละประชากรมีรายได้ต่อหัวที่สูงอย่างเนเธอร์แลนด์เลยทีเดียว และหนี้กว่า 67% นั้นเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และที่แย่ไปกว่านั่นคือ 23% เป็นหนี้เสีย

โดยสาเหตุหลักๆของปัญหาหนี้สินคนไทยประกอบไปด้วย 

-การเป็นหนี้เร็ว โดย 1 ใน 2 คนของคนที่เริ่มทำงานมีหนี้
-การเป็นหนี้เกินตัว โดย 40% ของลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลและบัครเครดิต จ่ายขั้นต่ำ ทำให้หนี้ยิ่งพอกพูน
-การเป็นหนี้เพราะเหตุจำเป็น กว่า 50% ของคนไทยไม่มีเงินสำรองไว้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
-การเป็นหนี้นาน กว่า 25.7% ของคนที่เกษียณแล้วแต่ยังใช้หนี้ไม่หมด 
-การเป็นหนี้นอกระบบ ที่ผ่านมามีคนมาลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบของกระทรวงมหาดไทยมากถึง 1.46 แสนราย คิดเป็นเงินกว่า10,475 ล้านบาท

และถ้าถามว่าเราควรกังวลกับเรื่องนี้ได้หรือยัง? คำตอบคือใช่ค่ะ เพราะจากงานวิจัยของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements: BIS) ชี้ให้เห็นว่า หนี้ครัวเรือนที่สูงเกิน 80% ต่อ GDP มีแนวโน้มจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวลดลง และทุกๆ หนี้ที่เพิ่มขึ่น 1% จะส่งผลให้ GDP ลดลงมากถึง 0.1% อีกทั้งไทยเองยังมีปัญหาที่รออยู่ทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจที่ต่ำจากปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งสังคมผู้สูงอายุ คุณภาพแรงงานและคุณภาพและการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวต่อหัวที่ลดลง นี่จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องการการแก้ไขเพื่อให้เศรษฐกิจของเราสามารถไปต่อและโตเท่าเทียมประเทศอื่นๆ ได้ค่ะ  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top