Monday, 21 April 2025
ILINK

ILINK ทำรายได้ไตรมาส 3/67 กว่า 5,148 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้มาตามนัดทะลุ 7 พันล้าน จากทั้ง 3 ธุรกิจหลัก

(13 พ.ย. 67) โตต่อเนื่อง ! ILINK เผยงบการเงินประจำไตรมาส 3/67 กวาดรายได้รวม 5,148.19 ล้านบาท ทำรายได้โต 21.54 ล้านบาท จากศักยภาพของการเดินหน้าธุรกิจ รุกตามแผนพัฒนาด้วยนวัตกรรมขับเคลื่อนการเติบโต เตรียมสร้างสถิติใหม่ สู่เป้ารายได้รวม 7,002 ล้านบาท พร้อมประกาศชัด การันตีรายได้ปีนี้มาตามนัด ทั้ง 3 ธุรกิจ ด้วยการดำเนินงานผ่านกลยุทธ์การขยายตลาด และการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทันสมัย ร่วมกับให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล มั่นใจอนาคตสดใส สามารถรักษาระดับอัตรากำไร ต่อยอดสู่การเติบโตได้อย่างยั่งยืน แบบมีคุณภาพ 

เมื่อวันที่ (12 พ.ย. 67) บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ได้ประกาศงบการเงินประจำไตรมาส 3/67 เผยถึงผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยรายได้รวมของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมากว่า 38 ปี ซึ่งอาศัยหลักอุดมการณ์ของผู้ก่อตั้งที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย เป็นผลทำให้การขยายตัวของธุรกิจด้านโครงข่าย และการจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารที่แข็งแกร่งมากขึ้นในตลาด ภายใต้ความมุ่งมั่นในการพัฒนา และเสริมสร้างระบบโครงข่าย เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชีย 

สำหรับรายได้รวมของผลประกอบการในไตรมาส 3/67 นี้ การันตีทำรายได้ดี มีฟอร์มแจ่ม จากทั้ง 3 ธุรกิจในเครือที่เกี่ยวเนื่องกัน อันได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Cabling Import & Distribution Business) ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ (Turnkey Engineering Business) และธุรกิจโทรคมนาคม และดาต้าเซ็นเตอร์ (Telecom Business & Data Center) ทำรายได้รวม 5,148.19 ล้านบาท มีรายได้เพิ่มขึ้น 21.54 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิรวม อยู่ที่ 549.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 27.72 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 5.31% ส่งซิกผลงานทั้ง 3 ธุรกิจ ในไตรมาสนี้เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์โครงข่ายที่ครบวงจร ตั้งแต่โครงข่ายพื้นฐานจนถึงอุปกรณ์ขั้นสูง ซึ่งการขยายตัวในธุรกิจเครือข่ายไอที และการสื่อสารมีบทบาทสำคัญที่ทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้ง ยังมีการวางแผนขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งขององค์กร นอกจากนี้ ยังมีงานทางด้านวิศวกรรมที่กำลังรอส่งมอบอีกเป็นจำนวนมาก ที่จะส่งผลทำให้มีรายได้ในไตรมาสสุดท้ายก้าวหน้าต่อเนื่อง พร้อมกับมุ่งหวังว่า ผลประกอบการจากการดำเนินธุรกิจในไตรมาสถัดไป มั่นใจสามารถรักษาระดับมาตรฐานการเติบโตได้ตามที่คาดการณ์

สำหรับผลประกอบการของ ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Cabling Import & Distribution Business) ในไตรมาส 3/67 มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยังคงเป็นธุรกิจหลักที่ทำรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการขาย ทำรายได้รวม 2,451.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 216.19 ล้านบาท คิดเป็น 9.67% และทำกำไรสำหรับงวดรวม 264.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.39 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 4.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี รายได้รวมสำหรับไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 950.56 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำรายได้เพิ่มสำหรับงวดนี้ 80.11 ล้านบาท จากการมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์สายสัญญาณให้มีคุณภาพสูง และได้มาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นสายสัญญาณใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) สายสัญญาณระบบแลน (LAN) สายสัญญาณกล้องวงจรปิด (CCTV) รวมถึงสายสัญญาณเฉพาะทางที่ออกแบบให้ตอบโจทย์จากการขยายตัวของความต้องการในโครงข่ายพื้นฐานการสื่อสาร ซึ่งรวมไปถึง Hyperscale Data Center อีกด้วย ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริษัทฯ ยังได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อมารองรับการเติบโตของเทคโนโลยี และการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ สามารถเจาะตลาดกลุ่มลูกค้ารายใหม่ และตอบสนองลูกค้าปัจจุบันได้อย่างดี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่าย การจัดจำหน่ายสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และการให้บริการหลังการขาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ครอบคลุมทุกรอบด้าน

ด้านผลการดำเนินงาน และรายได้รวมของ ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ (Turnkey Engineering Business) ทยอยรับรู้รายได้ผลประกอบการรวมประจำไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 703.50 ล้านบาท ทำกำไรรวม 82.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.63 ล้านบาท หรือ 16.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการทยอยรับรู้รายได้ ตามผลงานและอยู่ในระยะเวลาของ การเร่งรัดการชำระเงินตามผลงานที่แล้วเสร็จ ทั้งนี้ยังได้ติดตามโครงการต่าง ๆ อาทิ งาน Transmission line จังหวัดประจวบคีรีขันธ์/งานสายไฟฟ้าใต้ดิน จังหวัดพิจิตร และงาน Submarine ที่คาดว่าจะเปิดประกวดราคา และประกาศผลภายในปี 2567 นี้ต่อไป

‘อินเตอร์ลิ้งค์ฯ’ ได้รับรางวัลเกียรติคุณ จาก ‘สถาบันไทยพัฒน์’ ตอกย้ำ!! ความมุ่งมั่น ด้านความยั่งยืน – ความโปร่งใส ขององค์กร

(30 พ.ย. 67) บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ได้รับรางวัล ‘Sustainability Disclosure Recognition’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งเป็นการประกาศเกียรติคุณแก่องค์กรที่ให้ความสำคัญในการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนอย่างครบถ้วน และโปร่งใส โดยเน้นการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล  

พิธีมอบรางวัลนี้ ดร.ชลิดา  อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ เข้ารับรางวัลเกียรติคุณ Sustainability Disclosure Recognition ประจำปี 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จาก ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ประธานสถาบันไทยพัฒน์ จัดขึ้นโดยสถาบันไทยพัฒน์ โดยมี องค์กรชั้นนำในหลายอุตสาหกรรมเข้าร่วมมากมาย มีองค์กรที่ได้รับรางวัลเกียรติคุณ (Award) 58 แห่ง ประกาศเกียรติคุณ (Recognition) 57 แห่ง และกิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement) 29 แห่ง รวมทั้งสิ้น 144 รางวัล 

โดยการมอบรางวัลการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน ในปี 2567 แบ่งออกเป็น 3 ประเภทรางวัล ได้แก่ 

• Sustainability Disclosure Award มีองค์กรที่ได้รับรางวัลเกียรติคุณ จำนวน 58 แห่ง 

• Sustainability Disclosure Recognition มีองค์กรที่ได้รับประกาศเกียรติคุณ จำนวน 57 แห่ง 

• Sustainability Disclosure Acknowledgement มีองค์กรที่ได้รับกิตติกรรมประกาศ จำนวน 29 แห่ง

และบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ได้รับการยกย่องในฐานะองค์กรที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกผ่านการบริหารงานที่โปร่งใส พร้อมรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม และยืนยันว่าจะเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องในอนาคต

นับว่า บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือ สิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ ได้มีการจัดทำรายงานความยั่งยืนที่ครอบคลุม เรื่องการบริหารจัดการ ด้าน ESG (Environment, Social, Governance) เพื่อสะท้อนถึงผลกระทบเชิงบวกที่องค์กรมีต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับว่ารางวัลนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ในการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 12.6 ร่วมกัน โดยปัจจุบัน SDC มีองค์กรสมาชิกจำนวน 167 ราย โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างสมดุลระหว่างผลประกอบการ และการช่วยเหลือชุมชน ตลอดจนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

ดร.ชลิดา อนันตรัมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า “การได้รับรางวัลนี้ เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม และการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการสร้างความไว้วางใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วน อีกทั้ง รางวัลนี้ถือเป็นการยืนยันถึงการทำงานของอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นผลประกอบการ แต่ยังใส่ใจต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เราจะเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และมุ่งสู่เป้าหมายความยั่งยืนอย่างมั่นคง”  

ด้วยความมุ่งมั่นในแนวทางดังกล่าว อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จะยังคงเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีการสื่อสารที่ตอบโจทย์แก่ยุค พร้อมร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจ และสังคมที่ยั่งยืนในระยะยาวต่อไป

‘อินเตอร์ลิ้งค์’ ได้รับผลการประเมิน SET ESG Ratings ในระดับ A สะท้อนถึงความมุ่งมั่น!! ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล

(21 ธ.ค. 67) บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ในฐานะเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้าค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ ผลิตภัณฑ์ LINK จากสหรัฐอเมริกา พร้อมกับเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายตู้ RACK ผลิตภัณฑ์ 19 GERMANY EXPORT RACK อันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยมี 3 กลุ่มธุรกิจในเครือ ได้แก่

• ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Cabling Import & Distribution Business)
• ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ (Turnkey Engineering Business)
• ธุรกิจโทรคมนาคม และดาต้าเซ็นเตอร์ (Telecom Business & Data Center

โดยเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ILINK ได้รับผลการประเมิน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับการจัดให้อยู่ในระดับ A ในกลุ่มอุตสาหกรรม Technology ซึ่งเป็น 1 ใน 228 บริษัทจดทะเบียน และเร็ว ๆ นี้ ILINK ได้รับการคัดเลือกให้เข้าอยู่ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปี 2567 อีกด้วย

โดยผลการประเมินดังกล่าวเป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ILINK ในการดำเนินงานทั้ง 3 ธุรกิจ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance: ESG) มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการพัฒนานวัตกรรมในสายงานด้านเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่เป็นเครื่องยืนยันถึงความตั้งใจในการบริหารจัดการซึ่งที่ไม่เพียงแต่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวต่อไปอย่างเติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืน

‘อินเตอร์ลิ้งค์’ เปิดบ้านต้อนรับผู้ถือหุ้น – นักลงทุน โชว์ศักยภาพบริษัทพร้อมเจาะลึกแผนกลยุทธ์ทุกกลุ่มธุรกิจ

เมื่อวันที่ (21-22 ม.ค. 68) นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK พร้อมด้วยทีมผู้บริหารระดับสูง เปิดบ้านจัดกิจกรรม 'INTERLINK Communication Company Visit and Analyst Meeting' ให้การต้อนรับผู้ถือหุ้น นักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุน ร่วมรับฟังการนำเสนอภาพรวมผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา โดยเน้นถึงความสำเร็จที่โดดเด่นในด้านการเติบโตของรายได้ การขยายฐานลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม และการพัฒนาถึงนวัตกรรม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล รวมถึงให้ข้อมูลอย่างเด่นชัดถึงการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพที่ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และมีกำไรอย่างมีเสถียรภาพในทุกมิติ 

พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดโอกาสให้เยี่ยมชม ศูนย์กระจายสินค้า (R&D Center) ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ พร้อมรับชมระบบ Logistics และห้องปฏิบัติการวิจัย และพัฒนา ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่บนถนนกาญจนาภิเษก แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ศูนย์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กระจายสินค้าหลักขนาดใหญ่ ของกลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Cabling Distribution Center) ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และครอบคลุมทั่วประเทศ มาพร้อมบริการพิเศษ "คุณสั่ง เราส่ง" พร้อมจัดส่งฟรีทั่วไทย หนุนเสริมศักยภาพการกระจายสินค้าด้วยความรวดเร็ว และแม่นยำ ซึ่งรองรับลูกค้าทั่วประเทศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดยทุกท่านยังได้เยี่ยมชม ห้องปฏิบัติการทดลอง (LAB) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัย และพัฒนาด้านโครงข่ายสายสัญญาณ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยศูนย์แห่งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาโซลูชันให้ครอบคลุมครบทุกวงจร และมีคุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกเทคโนโลยีทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

นอกจากนี้ ยังได้พาเข้าไปเยี่ยมชม ศูนย์สำรองข้อมูล อินเตอร์ลิ้งค์ ดาต้า เซ็นเตอร์ (Interlink Data Center) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม และดาต้าเซ็นเตอร์ (Telecom & Data Center Business) โดยบริษัทฯ ได้นำจุดเด่นจากการมีโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทยมาใช้เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ สำหรับศูนย์สำรองข้อมูลแห่งนี้ ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีระบบความปลอดภัยที่รัดกุมตามมาตรฐาน Tier 3 Standard โดยบริษัทฯ ได้ทำงานร่วมกับผู้ออกแบบศูนย์ข้อมูลที่มีประสบการณ์สูง พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเป็นที่ปรึกษา เพื่อดูแลให้ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างสูงสุด นับว่า Interlink Data Center ไม่เพียงแค่เป็นศูนย์สำรองข้อมูลฯ ที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับความต้องการด้านเทคโนโลยีขององค์กรต่าง ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ

โดยงานนี้ เป็นเวทีครั้งสำคัญที่บริษัทฯ ตั้งใจจะนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานในปี 2567 ควบคู่ไปกับการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ซักถามข้อมูลเชิงลึก พร้อมทั้งยังได้มีการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะผู้บริหารในประเด็นสำคัญ เช่น ความท้าทายทางธุรกิจ แนวโน้มอุตสาหกรรม และโอกาสในการเติบโตในอนาคต รวมถึงมีการเปิดเผยแนวโน้มกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2568 อย่างละเอียด เพื่อตอกย้ำถึงความพร้อมของทั้ง 3 ธุรกิจ ในการเดินหน้าพัฒนาให้สอดรับครอบคลุมทุกมิติอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว เป็นการสะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของบริษัทฯ ที่ไม่หยุดยั้งในการพัฒนาศักยภาพอย่างมีคุณภาพ ทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงจุดยืนที่แข็งแกร่งของทุกกลุ่มธุรกิจ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เติบโต ต่อเนื่อง อย่างยั่งยืน” ที่บริษัทฯ ยึดมั่นมาตลอดระยะเวลากว่า 38 ปี สำหรับแผนกลยุทธ์แห่งปี 2568 นี้ ILINK ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรตามวิสัยทัศน์ สู่การเป็นผู้นำด้านระบบโครงข่ายสายสัญญาณและนวัตกรรมดิจิทัล โดยเฉพาะธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Cabling Distribution Business) จะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในยุคดิจิทัล พร้อมทั้งยกระดับการให้บริการแบบครบโซลูชันของระบบโครงข่ายพื้นฐานอย่างครบวงจร โดยมี การวางเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการในยุคเทคโนโลยีที่ทันสมัย ภายใต้แนวคิด “NEW INNOVATION” และ“NEXT INNOVATION” ร่วมกับตอกย้ำแบรนด์ LINK AMERICAN CABLING ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับโซลูชันที่ครบวงจร จากสินค้า และอุปกรณ์ LINK AMERICAN & GERMAN RACK EVERYWHERE นอกจากนี้ ในปี 2568 ยังถือเป็นปีแห่งการต้อนรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลเชิงบวก เพื่อทุกธุรกิจจะสามารถสร้างรายได้ที่เติบโตแบบทวีคูณ พร้อมกับขยายฐานลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมศักยภาพธุรกิจให้แข็งแกร่งต่อไปในอนาคต เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้น ลูกค้า และพันธมิตรทุกภาคส่วนอีกด้วย

“จากความสำเร็จที่โดดเด่นของทั้ง 3 ธุรกิจ ที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องนั้น มาจากการขับเคลื่อนธุรกิจทุกกลุ่มในเครืออย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถสร้างยอดขาย และทำกำไรเติบโตได้ในทุกไตรมาสเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดีเสมอมา เป็นผลมาจากการตั้งใจ และศักยภาพที่มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง ให้สอดรับกับความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงส่งผลสร้างรายได้มูลค่าเพิ่มให้กับทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ จนสามารถครองตลาดในด้านเทคโนโลยี ขึ้นแท่นเป็นผู้นำอันดับ 1 ที่กล้าการันตีมีคุณภาพสูง นอกจากนี้ ทั้ง 3 ธุรกิจ ยังมีการเตรียมความพร้อมที่ดี เพื่อสามารถดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ที่ได้กำหนดแบบแผนไว้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ดี และเป็นประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว และยังถือเป็นโอกาสอันดี ในการพบปะ เพื่อเป็นพันธมิตรที่ดีร่วมกันในอนาคต ต่อยอดให้องค์กรได้ก้าวไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่ง และมั่นคงในปี 2568 อย่างยั่งยืนแบบมีคุณภาพต่อไป" นายสมบัติ กล่าวเสริมตอนท้าย

‘อินเตอร์ลิ้งค์ฯ’ ต้อนรับศักราชใหม่!! คว้างานจาก ‘การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)’ ปรับปรุงก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน เมืองตะพานหิน จังหวัดพิจิตร มูลค่า 275.40 ล้านบาท

(22 ก.พ. 68) บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญ งานโครงการด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ต้อนรับศักราชแห่งปี 2568 ด้วยการเริ่มงานโครงการเคเบิลใต้ดิน จากการเป็นผู้ชนะการประกวดราคา และเข้าลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้าง จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในการก่อสร้าง และปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน ในพื้นที่เทศบาลเมืองตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร มูลค่า 275.40 ล้านบาท

การลงนามในสัญญาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายอุดมศักดิ์ เต็มวงษ์ รองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบไฟฟ้า ร่วมลงนามในสัญญา (MOU) กับนายธนา ตั้งสกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ILINK ที่เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า และพลังงาน เป็นตัวแทนเซ็นลงนามในครั้งนี้

โดยโครงการฯ นี้ มีระยะเวลาการดำเนินงาน 450 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งเริ่มงาน โดยมีมูลค่างานเป็นจำนวนเงิน 275,400,000 บาท (สองร้อยเจ็ดสิบห้าล้านสี่แสนบาทถ้วน) นับว่าโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดินนี้ เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในการพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพ ลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ และเพิ่มความสวยงามของเมือง 
ซึ่ง บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการโครงการด้านวิศวกรรมไฟฟ้า โดยเฉพาะงานระบบสายไฟฟ้าใต้ดินที่ต้องการมาตรฐานสูง ทั้งด้านการออกแบบ การก่อสร้าง และการควบคุมคุณภาพ ตลอดจนต้องการพัฒนาโครงข่ายระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคง เสริมศักยภาพระบบจำหน่ายไฟฟ้า ลดปัญหาไฟฟ้าตก ไฟฟ้าดับ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในเมือง หรือ เทศบาลเมืองขนาดใหญ่

"อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศ โดยที่เรามีความพร้อมทั้งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงประสบการณ์ในการดำเนินโครงการลักษณะนี้มาแล้วหลายโครงการ รวมทั้งเรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ตรงตามมาตรฐาน และแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้" นายสมบัติ ประธานกรรมการ กล่าวเสริมตอนท้าย   

ILINK เผยผลประกอบการปี 67 มีกำไร 744 ลบ. เพิ่มขึ้น 4.43% ตั้งเป้าปี 68 รายได้รวม 7,120 ลบ. เน้นเติบโตแบบคุณภาพทุกกลุ่มธุรกิจ

ILINK เผยผลประกอบการปี 2567 มีกำไร 744 ลบ. กวาดรายได้รวม 6,772 ลบ. มั่นใจปี 2568 ขับเคลื่อนทุกกลุ่มธุรกิจ ด้วยปัจจัยเชิงกลยุทธ์ เน้นเติบโตแบบมีคุณภาพ 'Quality Growth'

เมื่อวันที่ (28 ก.พ.68) นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น หรือ ILINK เปิดเผยถึงผลประกาศผลประกอบการประจำปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้รวมทั้งปี 6,772 ล้านบาท แม้รายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย 2.77% แต่กำไรสุทธิยังคงเติบโตได้ดี สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและกลยุทธ์ 'Quality Growth' หรือการเติบโตอย่างมีคุณภาพ 

สำหรับปี 2568 ILINK ตั้งเป้ารายได้รวม 7,120 ล้านบาท และกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 9% ของรายได้ โดยจะมุ่งเน้นการเติบโตใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ, ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ, และธุรกิจโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2568 ที่จะส่งผลให้เติบโตจาก Technology  Advancement และ  Hyper Scale  Data Center Investment อีกทั้งนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุน Green Energy & Solar Roof Policy และ Recovery of Tourists

โดยธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ ทำรายได้รวม 3,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% กำไรสุทธิ 362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.66% ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 3,420 ล้านบาท

ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ ทำรายได้รวม 953 ล้านบาท ลดลง 28.28% กำไรสุทธิ 58 ล้านบาท ลดลง 45.48% คาดว่าจะมีงานโครงการใหม่ในปี 2568 มูลค่า 2,271.71 ล้านบาท

ธุรกิจโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์: ทำรายได้รวม 2,711 ล้านบาท ลดลง 1.6% กำไรสุทธิ 324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.55%

ILINK มั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโต และทำกำไรอย่างต่อเนื่องในปี 2568 โดยเน้น "การเติบโตอย่างมีคุณภาพ 'Quality Growth' " และคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง New High อีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top