Monday, 19 May 2025
Econbiz

'สุริยะ' หนุน!! มาตรการส่งเสริมตัดอ้อยสด ส่งเสริมราคาดี พร้อมคุมอ้อยไฟไหม้ต้องไม่เกิน 5% ก่อนเข้าหีบ

'สุริยะ' ลุยแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ต่อเนื่อง พร้อมหนุนมาตรการส่งเสริมตัดอ้อยสด ตั้งเป้าฤดูการผลิตปี 2565/66 อ้อยไฟไหม้ไม่เกิน 5%

กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง พร้อมหนุนมาตรการส่งเสริมตัดอ้อยสด สำหรับในฤดูการผลิตปี 2565/2566 ให้มีปริมาณอ้อยไฟไหม้ไม่เกิน 5% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด สนองนโยบายรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่น PM 2.5

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ณ หอประชุมใหญ่สมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2564/2565 กรอบวงเงินช่วยเหลือ 8,159 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ได้จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว จำนวน 125,194 ราย เป็นเงิน 8,103.74 ล้านบาท โดยการช่วยเหลือเพื่อช่วยลดต้นทุนการตัดอ้อยสดในครั้งนี้ จะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดส่งโรงงานมากขึ้น รวมทั้งตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 โดยจะพยายามผลักดันมาตรการขอรับเงินสนับสนุนจากภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 เช่นเดียวกับฤดูการผลิตปีที่ผ่านมา

อีเวนต์แห่งมวลมนุษยชาติ ที่คนไม่อินอาจเฉยชา แต่แบรนด์ ‘นักล่า’ คือ ช่วงเวลาสุดหอมหวน

คนไทยต้องได้ดูบอลโลก!!

ผมไม่ได้พูดแค่เอาเท่นะครับ เพราะตั้งแต่เกิดมา การแข่งขันฟุตบอลโลก มันเป็นกิจกรรมที่ผูกพันกับชีวิตคนทั่วโลก ที่พร้อมใช้เวลาแช่อยู่กับหน้าจอทีวีได้แบบไม่ขยับกันตลอดช่วงเวลาร่วม 2 ชั่วโมงกันจริง ๆ

แล้วฟุตบอลโลกก็เป็นมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติที่ 4 ปีจะมาสักรอบ ฉะนั้นคนที่เป็นคอบอล หรือแม้แต่พอดูบอลได้บ้าง รอคอยครับ!! นี่คือในแง่คนดู!!

อีกด้านหนึ่ง ฟุตบอลโลก ถือเป็นอีเวนต์ระดับพระกาฬ ที่ช่วยหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจแบบมโหฬาร บรรดาแบรนด์สินค้าและนักการตลาดจะใช้จังหวะเวลาเพิ่มยอดขายได้มากกว่าช่วงเวลาปกติ เพราะมันจะมีจังหวะให้แฟนฟุตบอลค้องใช้จ่ายระหว่างการชมการแข่งขันฟุตบอลเสมอ 

ถ้าคุณต้องเดินทางไปรับชมตาม ร้านอาหาร หรือ ลานกิจกรรมที่มีการจัดงาน การซื้อเครื่องดื่มมาบริโภค 

ถ้าคุณต้องรับชมกับเพื่อ ระหว่างการรับชม คุณอาจสร้างบรรยากาศให้สนุกขึ้น ด้วยการซื้อเสื้อทีมฟุตบอล ที่เป็นที่ชื่นชอบ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมเชียร์ฟุตบอลเป็นต้น 

นี่แค่ตัวอย่างผิว ๆ ซึ่งภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจะใช้โอกาสนี้ สร้างโอกาสให้กับสินค้า รวมไปถึงกิจกรรมการตลาดที่หลากหลายได้อย่างเข้มข้น 

ลองมาดูตัวเลขจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยกันสักนิดครับ มีการคาดการณ์ไว้ว่า เม็ดเงินจะกระจายตัวในกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกหนนี้ จะมียอดเฉลี่ยมูลค่าถึง 6,685 ล้านบาท นี่สำหรับ 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งสามารถแบ่งแยกได้ ดังนี้...

>> 5,265 ล้านบาท เทไปกับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่มีการเติบโตเสมอในช่วงของฟุตบอลโลก โดยกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ ก็เช่น ร้านอาหารที่มีบริการจัดส่งอาหาร รวมไปร้านอาหารทั่วไปที่มีการเปิดฟุตบอลโลกให้ชม ขณะที่กลุ่มอาหารอื่น ๆ ที่ทำได้เองง่าย ๆ เช่น อาหารกึ่ง สำเร็จรูป อาหารปรุงสำเร็จ และอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง เป็นต้น 

ส่วนกลุ่มเครื่องดื่ม ก็เป็น 1 ในสินค้าที่ถูกบรรจุอยู่ในแผนการใช้จ่ายทั้งสำหรับผู้คนที่จะรับชมฟุตบอลโลกทั้งในบ้านและนอกบ้านได้อย่างสม่ำเสมอ และ ณ ห้วงเวลานี้ ผมก็คงต้องขออนุญาตแชร์ว่า เครื่องดื่มมึนเมา ก็มักได้รับอานิสงส์เต็มๆ จากช่วงนี้ด้วยมากที่สุด (ก็มันได้ Feel อ่ะนะ) อย่างในช่วงไตรมาสแรกปี 2561 (ฟุตบอลโลกหนก่อน: รัสเซีย) กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หดตัวร้อยละ 2.0 แต่พอเข้าสู่ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกเท่านั้นแหละ มูลค่าการตลาดเครื่องดื่มรวม ก็ถูกดันเพิ่มขึ้นมาประมาณ 2,250 ล้านบาทจากช่วงเวลาปกติ 

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 31 ต.ค. - 4 พ.ย. 65 จับตาปัจจัย 'บวก-ลบ' ชี้แนวโน้ม 7-11 พ.ย. 65

>> ราคาน้ำมันย้อนหลัง 15 วัน
ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent สัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 95 - 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. 65 ICE Brent ปิดตลาดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน และ NYMEX WTI สูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน จากตลาดคาดว่ารัฐบาลจีนอาจพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ Zero-COVID และเริ่มเปิดประเทศในเดือน มี.ค. 66 เป็นต้นไป อนึ่ง วันที่ 4 พ.ย. 65 จีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 3,837 ราย ลดลงจากวันก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 4,045 ราย สูงสุดในรอบ 6 เดือน

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า โดยดัชนีดอลลาร์ (DXY Index) ซึ่งเทียบกับตะกร้าเงินสกุลหลักของโลกปิดตลาดวันที่ 4 พ.ย. 65 ลดลง 1.81% จุด อยู่ที่ 110.88 จุด จากนักลงทุนคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) วันที่ 14 - 15 ธ.ค. 65 จากที่คาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.75% ในเดือน ธ.ค. 65 จะปรับขึ้นเพียง 0.5% จากระดับปัจจุบันที่ 3.75 - 4.0% หลังตัวเลขการจ้างงานอ่อนแอ โดยอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ (Unemployment Rate) ในเดือน ต.ค 65 เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 3.7%

>> ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

Reuters รายงานกลุ่ม OPEC ผลิตน้ำมันดิบในเดือน ต.ค. 65 ลดลง 2 หมื่นบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 29.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน มิ.ย. 65

Energy Information Administration รายงานสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ต.ค. 65 ลดลง 1 แสนบาร์เรลต่อวัน จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 11.90 ล้านบาร์เรลต่อวัน 

ICE รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ในตลาดนิวยอร์กและตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 พ.ย. 65 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะถือครองสุทธิ (Net Long Position) เพิ่มขึ้น 20,174 สัญญา จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 239,416 สัญญา

ปตท. ผนึก ไออาร์พีซี ร่วมพัฒนาธุรกิจ Advanced Business Integration เสริมแกร่งธุรกิจใหม่ที่ไปไกลกว่าพลังงาน

ปตท. ผนึก ไออาร์พีซี ดันการลงทุนและพัฒนาธุรกิจ Advanced Business Integration มุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจใหม่

เมื่อวันที่ (7 พ.ย. 65) นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ยืนกลาง) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อศึกษาการลงทุนตามกลยุทธ์ Advanced Business Integration (ABI) ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) โดยนายประสงค์ อินทรหนองไผ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ที่ 2 จากซ้าย) และนายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (ที่ 2 จากขวา) พร้อมด้วย นายจตุรงค์ วรวิทย์สุรวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่แผนกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ซ้าย) และนายสมเกียรติ เลิศฤทธิ์ภูวดล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (ขวา) ร่วมเป็นสักขีพยาน

‘SACIT’ ผุดแคมเปญ ‘Friend of sacit’ ชวนวัยรุ่นใส่ผ้าไทย สร้างกระแส Soft Power ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

(8 พ.ย. 65) สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ผุดแคมเปญ ‘Friend of sacit’ ออกกิจกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานหัตถกรรมไทยด้านต่าง ๆ ให้ทันสมัยเป็นที่สนใจของคนไทยและต่างชาติ  

ล่าสุดได้ชวนคนรุ่นใหม่แสดงพลังต้นแบบการใช้ผ้าไทยในกิจกรรม ‘แปลงโฉมวัยรุ่น Gen Z ด้วยผ้าไทย’ ที่ให้วัยรุ่นมาสวมใส่ชุดผ้าไทยที่มีเสน่ห์แตกต่างกันตามภูมิภาค เพื่อสร้างกระแสการสวมใส่ผ้าไทยในหมู่เยาวชน เป็น Soft Power ที่จะส่งผลบวกทั้งด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านี้แคมเปญ Friend of sacit ได้เชิญศิลปิน ดารา นักแสดง เซเลบริตี้คนดัง และผู้ที่อยู่ในแวดวงงานคราฟต์ มาเป็นต้นแบบเพื่อสื่อสารในภาพลักษณ์ของงานหัตถศิลป์ไทยในผลงานต่าง ๆ ทั้งเสื้อผ้ากระเป๋า ของใช้ส่วนตัว ที่มีความสวยงาม ทันสมัย สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไป สะท้อนพลังสร้างสรรค์ของงานศิลปหัตถกรรมที่สามารถออกแบบให้มีความเป็นสากล แต่ยังคงสามารถอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างโดดเด่น

สมอ. คุมเข้ม ‘ภาชนะพลาสติกสำหรับอาหาร’ ปักธงดีเดย์ 3 ม.ค. 66 ต้องได้มาตรฐาน มอก.

สมอ. ตั้งธงดีเดย์ 3 มกราคม 2566 กำหนดให้ ‘ภาชนะพลาสติกสำหรับอาหาร’ เป็นสินค้าควบคุม ต้องได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน คุมเข้มทั้งผู้ทำและผู้นำเข้าทุกรายต้องยื่นขอ มอก. ก่อนวันมีผลบังคับใช้ หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย

(8 พ.ย. 65) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นอกจากภารกิจด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมแล้ว อีกภารกิจที่สำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรม คือ การคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน โดยการควบคุมสินค้าที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 136 รายการที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ประกาศเป็นสินค้าควบคุม และกำลังจะควบคุมเพิ่มอีก 5 รายการ ได้แก่ 

1.) ภาชนะและเครื่องใช้พลาสติกสำหรับอาหาร ที่ทำจากพอลิเอทิลีน, พอลิพรอพิลีน, พอลิสไตรีน, พอลิเอทิลีนเทเรฟแทเลต, พอลิไวนิลแอลกอฮอล์ และพอลิเมทิลเพนทีน  

2.) ภาชนะและเครื่องใช้พลาสติกสำหรับอาหาร ที่ทำจากพอลิไวนิลคลอไรด์, พอลิคาร์บอเนต, พอลิแอไมด์ และพอลิเมทิลเมทาคริเลต 

3.) ภาชนะและเครื่องใช้พลาสติกสำหรับอาหารที่ทำจากอะคริโลไนไทรล์-บิวทะไดอีน-สไตรีน และสไตรีน-อะคริโลไนไทรล์ 

4.) ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับเตาไมโครเวฟ สำหรับการอุ่น (ใช้ซ้ำได้)  

และ 5.) ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับเตาไมโครเวฟ สำหรับการอุ่นครั้งเดียว 

โดยสินค้าทั้ง 5 รายการดังกล่าวแบ่งตามชนิดของพลาสติกที่ใช้ทำเฉพาะชั้นที่สัมผัสกับอาหาร ซึ่งจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 3 มกราคม 2566 นี้ เนื่องจากภาชนะที่สัมผัสอาหารโดยตรงมีความเสี่ยงที่จะมีสารเคมีปนเปื้อน หรือสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพปนเปื้อนลงสู่อาหารได้ เช่น สารตั้งต้นที่ใช้ทำพลาสติก โลหะหนักที่อยู่ในสารเติมแต่ง หรือสีที่ใช้ทาเคลือบภายนอก เป็นต้น 

ด้านนายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันสินค้าทั้ง 5 รายการดังกล่าว เป็นสินค้ามาตรฐานทั่วไปที่ผู้ประกอบการสมัครใจในการยื่นขอการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน มอก.655 และ มอก.2493 ซึ่งมีผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตจาก สมอ. รวมจำนวน 13 ราย แต่หลังจากวันที่ 3 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ผู้ประกอบการทุกรายทั้งผู้ทำและผู้นำเข้า จะต้องยื่นขอใบอนุญาตจาก สมอ. ก่อนทำและนำเข้า หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย กรณีทำโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

'บิ๊กป้อม' ปลื้ม!! วิ่งเทรลชิงแชมป์โลกในไทยไปได้สวย มั่นใจ!! เป็นสินค้าท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ของประเทศ

พล.อ.ประวิตร ชื่นชมความสำเร็จยิ่งใหญ่ ไทยจัดแข่งวิ่งเทลชิงแชมป์โลกครั้งแรก ร่วมแสดงความยินดีผู้ได้รับรางวัลนักกีฬาต่างชาติ สร้างปรากฏการณ์ด้านกีฬาระดับสากล บนแผ่นดินไทยหลังโควิด-19 คลี่คลาย 

(8 พ.ย. 65) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า ก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิก แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จ อย่างยิ่งใหญ่ ต่อคณะกรรมการจัดการแข่งขันวิ่งเทลภูเขา ชิงแชมป์โลกครั้งที่ 1 รายการ ‘AMAZING THAILAND WORLD MOUNTAIN & TRAIL RUNNING CHAMPIONSHIPS’ พร้อมทั้งได้แสดงความชื่นชม ต่อนักกีฬาต่างชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันและได้รับรางวัลแชมป์โลกและรองแชมป์โลกที่มาร่วมคณะ ในโอกาสนี้ ประกอบด้วยนักกีฬาจากประเทศสหรัฐฯ, เคนย่า, อูกานด้า, อิตาลี และอังกฤษ 

'ศูนย์สิริกิติ์' ยัน!! ขอใช้ทุกประสบการณ์ที่ผ่านมา นำพาความประทับใจแก่ทุกผู้ร่วมประชุมเอเปก 2022

ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ชวนคนไทยร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 ส่งเสริมบทบาทของไทยบนเวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พร้อมเชื่อมโยงต่อยอดธุรกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ

(8 พ.ย. 65) ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ประกาศความพร้อมในทุกด้านสำหรับการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค 2022 (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC 2022) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 19 พฤศจิกายน 2565 เพื่อส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุน รวมถึงความร่วมมือด้านต่าง ๆ ใน 21 เขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อันจะนำไปสู่การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ยั่งยืน และความมั่งคั่งของประชาชนในภูมิภาค ตามแนวคิดหลัก 'เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล' หรือ 'Open. Connect. Balance.'

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เผยว่า “หลังจากการเปิดศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เราได้รองรับการจัดงานสำคัญทั้งระดับชาติและนานาชาติจำนวนมาก ซึ่งได้รับคำชื่นชมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับการได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดงานเอเปค 2022 และต้อนรับผู้นำและผู้เข้าร่วมประชุมจาก 21 เขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในครั้งนี้ ในฐานะที่เราเป็นเสมือนห้องรับแขกของประเทศไทยและเป็นตัวแทนของคนไทย เราได้เตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้านในการต้อนรับ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการจัดงานเอเปค 2022 ในครั้งนี้ จะนำความสำเร็จมาสู่ประเทศชาติและสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยอย่างแน่นอน”

‘แรงงาน’ เนื้อเต้น ‘รมว.เฮ้ง’ จับมือ AOT เปิดพื้นที่หางาน จัดตลาดนัดแรงงานที่สุวรรณภูมิ ร่วม 1,500 อัตรา

(8 พ.ย. 65) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 คลี่คลาย แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อัตราการว่างงานลดลง ประชาชนมีงานทำมากขึ้น ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างทยอยเพิ่มการจ้างงานให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ที่ผลักดันนโยบายรักษาการจ้างงานตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ในส่วนกระทรวงแรงงานขานรับข้อสั่งการเดินหน้าส่งเสริมการมีงานทำให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นการให้บริการจัดหางานออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม 'ไทยมีงานทำ' เพื่อคนหางานยุคใหม่เข้าถึงได้ทุกเวลา ควบคู่กับการลงพื้นที่บูรณาการร่วมกันระหว่างภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงตำแหน่งงานแก่ประชาชนทุกพื้นที่ ล่าสุดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (AOT) มีกำหนดจัดงาน 'ตลาดนัดแรงงาน' ณ ศูนย์การขนส่งสาธารณะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 9 -11 พฤศจิกายน 2565 กรมการจัดหางาน โดยสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรปราการ จึงได้เตรียมกิจกรรมตามภารกิจเพื่อให้บริการแก่ประชาชนที่มาร่วมงานด้วย

“การจัดตลาดนัดแรงงาน ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการสมัครงาน คนหางานได้คัดเลือกตำแหน่งงานว่างที่ตรงกับความรู้ความสามารถ โดยสามารถสมัครงานกับนายจ้าง/สถานประกอบการจำนวนมากในคราวเดียว ทั้งยังเป็นโอกาสที่ดี ที่นายจ้าง/สถานประกอบการและผู้สมัครงานจะได้พบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเชื่อว่ากิจกรรมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์แก่คนที่กำลังมองหางาน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top