Tuesday, 20 May 2025
Econbiz

'แบงก์ชาติ' สั่ง 'ธ.ทีเอ็มบีธนชาต' แจงข้อเท็จจริง ปมแอปพลิเคชัน 'ttb' ขัดข้อง กระทบผู้ใช้งาน

นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้รับรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ระบบ Mobile Banking ของธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ttb ขัดข้อง ระหว่างวันที่ 1 - 3 กันยายน 2565 ทำให้ลูกค้าไม่สามารถใช้งานได้หรือใช้เวลานานในการทำธุรกรรมในช่วงดังกล่าว

ทั้งนี้ได้สั่งการให้ ttb เร่งช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบให้ได้อย่างครบถ้วนและทันท่วงที ซึ่ง ttb ได้ขยายช่องทางให้บริการสำรองแก่ลูกค้า รวมทั้งขยายเวลาการให้บริการสาขานอกห้างและจัดเตรียม Call Center ให้พร้อมรองรับการให้ความช่วยเหลือและการทำธุรกรรมของลูกค้าอย่างเต็มที่ในทุกกรณี

แม้ปัจจุบันสถานการณ์การให้บริการ Mobile Banking เริ่มคลี่คลาย ธปท. ได้กำชับให้ ttb ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าการให้บริการจะไม่สะดุดลงอีก พร้อมกับสั่งการดังนี้

‘สุริยะ’ สั่ง กนอ.สำรวจความพร้อมรับมือน้ำท่วม คลายกังวลให้นักลงทุน - ชุมชนใกล้เคียงนิคมฯ

‘สุริยะ’ สั่ง กนอ.สำรวจความพร้อมรับมือน้ำท่วมในทุกนิคมฯ อย่างใกล้ชิด ด้าน ‘วีริศ’ มั่นใจ ทุกนิคมอุตสาหกรรมบริหารจัดการสถานการณ์ได้ แม้ปีนี้มีแนวโน้มปริมาณฝนมากกว่าปีก่อน 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรม ติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งเตรียมมาตรการป้องกันน้ำท่วม เพื่อลดผลกระทบจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยได้ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กำชับไปยังนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 67 แห่งทั่วประเทศ ให้ติดตามและเฝ้าระวังการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) และนิคมอุตสาหกรรมนครหลวง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำและติดแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ที่พื้นที่อยู่ใกล้ทะเล อาจจะเกิดน้ำทะเลหนุนได้ในบางช่วง และยังอยู่ใกล้กับชุมชนอีกด้วย

“ผมได้สั่งการไปยัง กนอ.ให้กำชับทุกนิคมอุตสาหกรรมติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วม รวมถึงกรณีที่อาจมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุน ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงเกิดความวิตกกังวล โดยเฉพาะแรงงานที่ต้องเดินทางมาทำงานในนิคมฯ นั้น ต้องหาแนวทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้เท่าที่สามารถจะทำได้ ทั้งนี้ได้รับรายงานจาก กนอ.ว่าแต่ละนิคมอุตสาหกรรมมีมาตรการป้องกันน้ำท่วมอย่างชัดเจน และบางนิคมอุตสาหกรรมยังมีการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันได้มีการติดตามข้อมูลการระบายน้ำจากทั้ง 3 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระราม 6 อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสอบระดับน้ำและปริมาณน้ำฝนตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุริยะ กล่าว

GWM ฉลุยตลาดไทย!! วางแผนลงทุนต่อ 22,600 ลบ. ดันไทยศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ป้อนอาเซียน

GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ประกาศความสำเร็จในปีที่สองของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมเฉลิมฉลอง การผลิตรถยนต์คันที่ 10,000 จากโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่จังหวัดระยอง

โดยรถยนต์คันที่ 10,000 คือ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV

ปัจจุบัน GWM ลงทุนในไทยไปแล้วกว่า 12,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่ง 

ทั้งนี้ GWM มีแผนที่จะลงทุนในไทยอีก รวมทั้งสิ้น 22,600 ล้านบาท โดยตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลาง R&D และเป็นศูนย์กลางการผลิตออกสู่ตลาดอาเซียน

นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายศูนย์อะไหล่และบอดี้พาร์ท เพื่อรองรับอัตราการขยายตัวของตลาดและยอดจำหน่ายที่โตต่อเนื่อง 

‘KIHA 183’ รถไฟมือสองญี่ปุ่นทดลองวิ่งฉลุย การรถไฟฯ เผยเตรียมเปิดให้บริการปลายปีนี้

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจาก รฟท. ได้รับมอบรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น KIHA 183 จากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR HOKKAIDO) ประเทศญี่ปุ่น มาจำนวน 17 คัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งประกอบด้วย รถดีเซลรางปรับอากาศ แบบมีห้องขับสูง (High Cab) 40 ที่นั่ง จำนวน 8 คัน  รถดีเซลรางปรับอากาศ แบบไม่มีห้องขับ 68 ที่นั่ง จำนวน 8 คัน และรถดีเซลรางปรับอากาศ แบบมีห้องขับต่ำ (Low Cab)  52 ที่นั่ง จำนวน 1 คัน และได้มีการส่งมอบรถมาถึงเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 เพื่อทำการดัดแปลงเป็นตู้รถไฟ สำหรับให้บริการแก่ประชาชน และส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศนั้น

ล่าสุด รฟท. โดยฝ่ายการช่างกล ได้ดำเนินการปรับปรุงรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น KIHA 183  เสร็จสมบูรณ์แล้ว 3 คัน พร้อมกับได้นำมาเปิดทดลองเดินรถจากเส้นทางสถานีมักกะสัน - ฉะเชิงเทรา - กรุงเทพ เป็นครั้งแรก โดยมีคณะสื่อมวลชนร่วมทดลองใช้บริการ ประกอบด้วย รถดีเซลรางปรับอากาศ แบบมีห้องขับสูง จำนวน 2 คัน และรถดีเซลรางปรับอากาศ แบบไม่มีห้องขับ จำนวน 1 คัน ซึ่งการทดลองเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งภายหลังจากทดสอบประสิทธิภาพขบวนรถชุดแรกแล้วเสร็จ รฟท. จะเร่งปรับปรุงรถคันอื่นที่เหลือ เพื่อเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบในช่วงปลายปี 2566  

สำหรับการปรับปรุงรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น KIHA 183 รฟท. ได้มีการปรับขนาดความกว้างของล้อจาก 1.067 เมตร ให้เป็นขนาด 1 เมตร ตามมาตรฐานทางรถไฟไทย รวมถึงได้ทำการทดสอบสมรรถนะของรถ โดยวางแผนปรับปรุงรถเป็น 4 ชุด ๆ ละ 4 คัน โดยคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งาน ควบคู่กับการรักษาเอกลักษณ์กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น

ชาวนครพนมเฮ!! รถไฟทางคู่ใกล้ความจริง หลัง รฟท. เคาะงบ 10,386 ล. เร่งจ่ายเวนคืนที่ดิน

ชาวนครพนมเฮ!! รถไฟทางคู่สายบ้านไผ่ – นครพนม ใกล้ความจริง หลังการรถไฟฯ เคาะงบ 10,386 ล้าน จ่ายค่าเวนคืน คาดใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี 

เพจ ‘ชุมชนคนนครพนม Nakhon Phanom Community‘ ได้โพสต์ข้อความถึงความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายบ้านไฟ่ – นครพนม ว่า ..

รอจนหลานบวชสึกมาแล้ว! รถไฟทางคู่ นครพนม-มุกดาหาร-บ้านไผ่ เตรียมส่งมอบพื้นที่ปีนี้ รฟท.อนุมัติ 10,386 ล้าน เร่งจ่ายเงินเวนคืนให้ครบ จะได้สร้างสักที!!!

อยู่ทันได้นั่งรถไฟบ้านเฮาอยู่เด้อ! สรุปข่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย อนุมัติงบประมาณเวนคืนที่ดิน 10,386 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ในจำนวนนี้เป็นเงินเวนคืนรถไฟทางคู่สายอีสาน นครพนม-บ้านไผ่ วงเงิน 3,615 ล้านบาท เตรียมเร่งจ่ายเงินเวนคืน และจะทยอยส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้รับเหมาที่ชนะประมูลก่อนหน้านี้ เพื่อเปิดไซต์งานก่อสร้างเสียทีครับ

ตามข่าวล่าสุด คณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2562 อยู่ระหว่างพิจารณากำหนดราคาเบื้องต้น ตามแนวก่อสร้างเส้นทางผ่านพื้นที่จังหวัด ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม ที่จะถูกเวนคืน รวม 9,012 แปลง 18,462 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 2,368 หลัง และไม้ยืนต้น 6,711 แปลง รวมแล้วใช้งบประมาณเวนคืนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ตามข่าวที่ทีมงานเพจชุมชนคนนครพนมสอบถามมา ที่นครพนมบ้านเราก็เพิ่งมีการประชุมกำหนดราคาเวนคืนไปเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ อ.ธาตุพนม และ อ.เมืองนครพนม รวมทั้ง จ.มุกดาหาร บ้านติดกันนี้ด้วย คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่แปลงแรกให้ผู้รับเหมาได้ ภายในปี 2565 และทยอยเวนคืนและส่งมอบพื้นที่จนครบ ระหว่างนั้นพื้นที่ไหนรับส่งมอบแล้วก็เริ่มก่อสร้างไปก่อนได้เลย ใช้เวลาก่อสร้างรวม 4 ปี น่าจะเสร็จปี 2569 ถ้าเสร็จทั้งหมดปีนั้นก็ทันได้ขึ้นรถไฟกันแล้ว

เตรียมพร้อม ปักหมุด! 
สถานีธาตุพนม อยู่ใกล้จุดก่อสร้างบายพาสใหม่ ธาตุพนมใต้
สถานีเรณูนคร อยู่ใกล้บ้านหนองย่างชิ้นทางเข้าเมืองเรณู
ป้ายหยุดรถไฟนาถ่อน อยู่ใกล้ทางไปดงยอ โพนแพง
ป้ายหยุดรถไฟบ้านกลาง อยู่ใกล้ๆ บ้านดงยอ ต.บ้านกลาง
สถานีใหญ่นครพนม ถ.นิตโย จากสามแยกหนองญาติไปดอนยานาง
สถานีสะพานมิตรภาพ 3 นครพนม-คำม่วน ติดศูนย์ขนส่งสินค้าชายแดน

มาล่าช้า แต่มาชัวร์ รถไฟทางคู่สายใหม่ช่วง บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงินก่อสร้าง 6.68 หมื่นล้านบาท มีขั้นตอนที่ยุ่งยากเพราะเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ ไม่ได้สร้างบนที่ดินเดิมของการรถไฟ ทำให้ต้องเวนคืนและปรับพื้นที่หลายอย่างให้เหมาะสม กว่าจะได้สร้างก็ช้ากว่าที่เขาประกาศกันไว้มาหลายปี

บราซิล สั่งห้ามขายไอโฟนหากไร้ที่ชาร์จ ปรับเงินอีกราว 87 ลบ. เหตุไม่แถมที่ชาร์จ

รัฐบาลบราซิล มีคำสั่งห้ามบริษัทแอปเปิล อิงค์ จำหน่าย iPhone ซึ่งไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรีมาพร้อมกับตัวเครื่อง โดยระบุว่าทางบริษัทได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าที่ไม่สมบูรณ์ให้แก่ผู้บริโภค

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมบราซิลสั่งปรับบริษัทแอปเปิลเป็นเงิน 12.275 ล้านเรอัล (2.38 ล้านดอลลาร์) หรือราว 87 ล้านบาท พร้อมกับสั่งให้แอปเปิลยกเลิกการจำหน่าย iPhone 12 หรือ iPhone รุ่นที่ใหม่กว่า รวมทั้งห้ามการจำหน่าย iPhone ทุกรุ่นที่ไม่ได้มาพร้อมกับที่ชาร์จแบตเตอรี

คำสั่งของกระทรวงยุติธรรมระบุว่า "การที่แอปเปิลจำหน่าย iPhone ที่ขาดอุปกรณ์สำคัญถือเป็นพฤติกรรมที่จงใจในการเลือกปฏิบัติต่อผู้บริโภค"

นอกจากนี้ กระทรวงฯยังได้ปฏิเสธข้ออ้างของแอปเปิลที่ระบุว่า การที่บริษัทจำหน่าย iPhone ซึ่งไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรีมาพร้อมกับตัวเครื่องก็เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งกระทรวงฯยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า การจำหน่าย iPhone ซึ่งไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรีจะช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด

มาคาเลียส อัดบริการใหม่ ‘Corporate Package’ เจาะกลุ่มเอสเอ็มอี และลูกค้าองค์กร

มาคาเลียส (MAKALIUS) ลุยตลาดท่องเที่ยวในประเทศไทยไตรมาสสุดท้ายปี 2565 เปิดตัวบริการใหม่ “Corporate Package” เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร ชูบริการแบบครบวงจร พร้อมการดีไซน์รูปแบบท่องเที่ยวตามความต้องการของลูกค้า

นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด แหล่งรวมอี-วอเชอร์ ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว อันดับ 1 ของประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 คาดว่าภาพรวมตลาดท่องเที่ยวทั่วโลกจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากปัจจัยบวกต่าง ๆ อาทิ สถานการณ์การรับมือของโควิด-19 ดีขึ้น การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว รวมถึงวันหยุดพิเศษ เป็นต้น ส่งผลให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเริ่มวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ที่เตรียมวางแผนจัดกิจกรรมเลี้ยงของคุณลูกค้าและพนักงาน 

จากการสำรวจกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการของมาคาเลียสในช่วงที่ผ่าน พบว่า นอกเหนือจากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว ปัจจุบันเริ่มมีกลุ่มลูกค้าองค์กรให้ความสนใจการสั่งซื้อวอเชอร์ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหาร เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน รวมถึงมีการสอบถามเรื่องแพคเกจสำหรับองค์กรเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากลูกค้ามองว่าการซื้อวอเชอร์ในลักษณะดังกล่าวมีราคาและแพคเกจที่ถูกกว่าการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง

โดยมาคาเลียสได้เล็งเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ จึงได้นำจุดแข็งขององค์กรในด้านพันธมิตร ทั้ง โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ทั่วประเทศไทยที่มีกว่า 300 ราย พร้อมทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยว มาสร้างเป็นบริการใหม่ "Corporate Package” บริการจัดแพคเกจด้านการท่องเที่ยว-สัมมนา-เลี้ยงฉลอง แบบครบวงจร (One Stop Service) เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดเล็กไปจนถึงกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่

‘เฉลิมชัย’ สั่งเดินหน้าแผนพัฒนาเกลือทะเลไทยปี 2566 ดีเดย์ 1 ตุลาคม

‘อลงกรณ์’ นำทัพบอร์ดเกลือเร่งเครื่องพัฒนายุ้งฉาง ยกระดับการผลิตขยายตลาดต่างประเทศ เพิ่มกลไกรักษาเสถียรภาพราคาเป็นครั้งแรก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย เปิดเผยวันนี้ ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2565 โดยผ่านระบบการประชุมออนไลน์ และห้องประชุมกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วย นายโอภาส ทองยงค์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนวนิตย์ พลเคน  รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายชาญยุทธ์ ภาณุทัต ที่ปรึกษากรมส่งเสริมการเกษตร ดร.จุฑามาศ ทะแกล้วพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันเกลือทะเลไทย (Salt Academy) ภายใต้ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมเพชรบุรี (AICเพชรบุรี) ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนสหกรณ์นาเกลือ เข้าร่วม  โดยนายอลงกรณ์ กล่าวในวาระประธานแจ้งต่อที่ประชุมว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายให้เดินหน้าแผนพัฒนาเกลือทะเลไทยปี2566 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1ตุลาคม พร้อมกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่13 นอกจากนี้ได้มอบหมายฝ่ายเลขาฯ ประสานสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ (ทูตเกษตร) เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทยในการประชุมครั้งหน้า เพื่อให้ข้อมูลด้านเกลือ ผลิตภัณฑ์เกลือและตลาดเกลือในต่างประเทศ รวมทั้งข้อเสนอแนะจากทูตเกษตร ในด้านการขยายความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างประเทศ นอกจากนี้ได้กำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการที่เพชรบุรีเป็นจังหวัดแรกในวันที่  9 กันยายน 2565  เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานนโยบายของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยขอให้สถาบันพัฒนาเกลือทะเลไทยเป็นผู้นำเสนอผลงานด้วย

ประธานที่ประชุมยังแจ้งถึงการลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานส่งเสริมและพัฒนาแบรนด์จังหวัดเพชรบุรี และการคิกออฟโครงการส่งเสริมสาหร่ายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ตามนโยบายอาหารแห่งอนาคต ในจังหวัดเพชรบุรี มีศูนย์วิจัยทรัพยากรประมงชายฝั่งและศูนย์เพาะเลี้ยงน้ำจืด กรมประมง เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ การแปรรูป และการตลาด โดยสามารถเพาะเลี้ยงสาหร่ายหรือทำนาสาหร่ายประกบคู่กับนาเกลือ นากุ้งเป็นรายเสริมแบบเกษตรไฮบริดจ์ สำหรับในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบ 
(1) รายงานผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรนาเกลือทะเล พื้นที่การผลิตเกลือทะเลและปริมาณเกลือทะเล ปีการผลิต 2564/2565 มีเกษตรกรขึ้นทะเบียน 723 ครัวเรือน จำนวน 1,211แปลง พื้นที่ 13,408 ไร่ มีปริมาณผลผลิตคงค้างในยุ้งฉาง จำนวน 13,408 ตัน
(2) ผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ก่อให้เกิดผลงานที่เป็นรูปธรรมหลายประการได้แก่ การทำแผนปฏิบัติการพัฒนาเกลือทะเลไทย ปีงบประมาณ 2566-2570 การแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร การฟื้นฟูพิธีแรกนาเกลือและพิธีทำขวัญเกลือ การขับเคลื่อนและผลักดันให้มีการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) สำหรับการทำนาเกลือทะเล (มกษ.9055-2562) มีเกษตรกรผ่านการรับรองแล้ว จำนวน 11 ราย

BYD ซื้อที่ดิน 600 ไร่จาก WHA ตั้งโรงงานผลิต EV เตรียมส่ง ATTO3 รถอีวีรุ่นแรกที่ผลิตและขายในไทย

บีวายดี (BYD) เผย ATTO3 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ผลิตและขายในไทย ตามแผนการลงทุนมูลค่า 17,891 ล้านบาท หลังซื้อที่ดิน 600 ไร่จาก WHA ตั้งโรงงานผลิต EV กำลังผลิต 150,000 คัน ดันไทยเป็นฮับส่งออกของอาเซียน

หลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า บีวายดีได้ตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยเพื่อตั้งโรงงานประกอบรถยนต์และเป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาของภูมิภาคอาเซียน โดยมีมูลค่าการลงทุน 17,891 ล้านบาทตามที่นำเสนอผ่านบีโอไอของไทย

สำหรับการลงทุนครั้งนี้ เป็นการลงทุนของบีวายดี 100% ล่าสุดได้มีการลงนามเซ็นสัญญาซื้อที่ดินจำนวน 600 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง36 ของกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ WHAโดยไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าได้ ส่วนการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มได้ในปีนี้และเริ่มผลิตในปี 2567 มีกำลังการผลิตสูงสุด 150,000 คันต่อปี

'พิพัฒน์' ตรวจเยี่ยมสถานบันเทิงย่านป่าตอง อ้างผลวิจัย หนุนเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4

'พิพัฒน์' ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานบันเทิง ซอยบางลา ป่าตอง ภูเก็ต อ้างผลวิจัย 3 สถาบัน -สอบถามนักท่องเที่ยวหนุน เปิดสถานบันเทิงแหล่งท่องเที่ยวถึงตี 4 หวังผลเพิ่มรายได้ท่องเที่ยว เตรียมเสน อศบค.

9 ก.ย. 65 - นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานบันเทิง ซอยบางลา ป่าตอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ลงพื้นที่ สมุย พะงัน และตรอกข้าวสาร แล้ว จึงมาที่ซอยบางลา ป่าตอง ภูเก็ต ซึ่ง เป็นพื้นที่ ที่ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใฝ่ฝันอยากจะมาบางลาสักครั้งหนึ่ง เมื่อมีโอกาสมาเที่ยวประเทศไทย

" จากผลวิจัย ได้หารือกับผู้ทำวิจัยจาก สถาบันการศึกษา ม.ราชภัฏสวนสุนันทา ม.ราชภัฎภูเก็ต และนิด้า ทั้งสามสถาบันที่มีนักศึกษาทำวิจัยเรื่องปิดถึงตี 4 ผลออกมาตรงกันทั้งหมดว่าคนหรือนักท่องเที่ยวที่จะใช้จ่ายสูงสุดอยู่ในช่วงตี 1 ถึงตี3 เป็นช่วงที่พีคที่สุดพอหลังตี 3 ไปแล้วเริ่มสโลว์เป็นการตอบโจทย์ว่าตี 4 ปิด นักท่องเที่ยวจะได้กลับไปพักผ่อน สิ่งเหล่านี้ จะนำเสนอให้ศบค.และนำเสนอให้นายกรัฐมนตรี และ รัฐบาล หารือในข้อกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ถ้าสามารถจัดเป็นโซนนิ่งได้แต่ละจังหวัดท่องเที่ยว ชาวต่างชาติกว่า 60-70% เราน่าจะเปิดเป็นพื้นที่ไป ในช่วงเวลาเปิดเลยไป 2 ชม. จะมีผลหรือมูลค่าทางเศรษฐกิจขึ้นมาเพิ่ม 23-24%"

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา จากการลงพื้นที่บางลา ป่าตอง พบว่า ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างดี ส่วนใหญ่ เป็น ชาวอินเดีย จำนวนมาก ตะวันออกกลาง แอฟริกา อียิปต์ ออสเตรเลีย มาเลเซีย ได้เข้าสอบถามกับนักท่องเที่ยว พบว่า มีความเห็นเดียวกันว่า ขอขยายเวลาปิดจากตี 2 ได้หรือไม่ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เขายังสนุกสนาน นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเกินกว่า 70% ต้องการให้ขยายเวลาของสถานประกอบการในยามค่ำคืนให้ได้ถึงตี 4 จากการหารือกับผู้ประกอบการ และ นักท่องเที่ยว แต่ไม่ใช่ที่ภูเก็ตอย่างเดียว ในสถานที่ต่างๆที่กล่าวมา ทั้ง ซอยข้าวสาร พะงัน สมุย เป็นโจทย์เดียวกันทั้งหมด และจะเดินทางไป ที่ถนนคนเดิน พัทยา ชลบุรี อีกแห่งภายในเดือนกันยายนนี้ จะไปทำการสำรวจหารือสอบถามนักท่องเที่ยวว่ามีความต้องการอย่างไร โจทย์ที่ตอบมาตรงกันหรือไม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top