Friday, 23 May 2025
โอลิมปิก

🔎10 คนดัง ‘ถือคบเพลิง’ ในพิธีโอลิมปิก Paris 2024 มีใครกันบ้างนะ??

ในพิธี ‘โอลิมปิก Paris 2024’ คบเพลิงจะถูกส่งต่อผ่านคนดังและผู้มีชื่อเสียงที่มาจากหลายแขนงการทำงานทั่วโลกรวมกว่า 10,000 คน โดยการวิ่งถือคบเพลิงจะใช้เวลาทั้งหมด 11 สัปดาห์ ผ่าน 450 เมืองทั่วปารีสก่อนที่จะมาจุดในพิธีเปิดในวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ได้รวบรวม 10 คนดังที่เข้าร่วมวิ่งคบเพลิง ‘โอลิมปิก Paris 2024’ มาไว้ให้แล้ว จะมีใครบ้าง ไปดูกัน!!

1.Jin พี่ใหญ่แห่งวงศิลปินชื่อดังสัญชาติเกาหลี 🇰🇷อย่างวง BTS เขาได้หมายเลขในการวิ่ง E109 

2.Wang Yibo นักแสดงหนุ่มมากฝีมือจากประเทศจีน 🇨🇳 หมายเลข E142 โดยหนุ่มหวังอี้ป๋อเคยถูกแต่งตั้งให้เป็นทูตส่งเสริมโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในปี 2022 ด้วย

3.Zhao Lusi ดาราสาวตัวท็อปชาวจีน 🇨🇳 มาวิ่งในหมายเลข E014 

4.Halle Berry ดาราสาว 🇺🇸 ที่ชนะรางวัล The Academy Award ได้เข้าวิ่งถือคบเพลิงด้วยหมายเลข E022 

5.Thierry Henry อดีตนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส 🇫🇷 และบุคคลในตำนานของอาร์เซนอล ได้ใส่เบอร์ E001

6.Charles Leclerc นักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน ภายใต้สังกัดเฟอร์รารี่ชาวโมนาโก 🇲🇨 โดยใส่เสื้อเบอร์ E161

7.Nicky Doll 🇫🇷 พิธีกรรายการ Drag Race France และยังเป็นราชินีของ LQBTQ+ โดยใส่เสื้อเบอร์ E077

8.Pharrell Williams 🇺🇸 โดยเขาถือคบเพลิงที่มหาวิหาร The Basilica of Saint-Denis ซึ่งเป็นช่วงท้ายก่อนจะถูกนำไปจุดในพิธีเปิด

9.SnoopDogs เจ้าพ่อ Rapper สัญชาติอเมริกัน 🇺🇸 เข้าร่วมวิ่งคบเพลิงในช่วงสุดท้าย ซึ่งเป็นหน้าบริเวณพิธีเปิดโอลิมปิก โดยใส่เบอร์ E015

10.The Masked เป็นไฮไลต์สุด ๆ ชายที่ใส่หน้ากากโพกผ้าปิดมิดชิด เข้ามาวิ่งถือคบเพลิง วิ่งไปรอบ ๆ ตามสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงปารีส โดยมีการคาดเดาว่าการแต่งตัวน่าจะมาจากละครเกมซีรีส์ยอดฮิตอย่าง The Assasin’s Creed ที่มีมากกว่า 10 ภาคและในบางภาคก็มีการนำเอาบรรยากาศของกรุงปารีสมาใช้เป็นฉากประกอบในเกมด้วย

‘ซิโมเน ไบลส์’ โพสต์ไอจี ‘ผู้ชนะโอลิมปิกที่ขี้เกียจ ไม่มีพรสวรรค์’ แซะอดีตเพื่อนร่วมทีมที่เคยจิกกัดทีมชาติชุดนี้ "ไร้พรสวรรค์-ขี้เกียจ"

(3 ส.ค.67) ต้องเรียกได้ว่าสมมงสำหรับทีมยิมนาสติกหญิงของสหรัฐอเมริกา ที่สามารถคว้าเหรียญทองประเทศทีมอุปกรณ์ร่วมมาครองได้สมกับที่หลายฝ่ายคาดไว้ เพราะได้ตัวเทพอย่าง ซิโมเน ไบลส์ ซุปเปอร์เกิร์ลของวงการยิมนาสติกมานำทีม ซึ่งหลังคว้าชัยชนะมาได้ เธอได้โพสต์อินสตาแกรมภาพของสมาชิกในทีมพร้อมแคปชันว่า “พวกเรา เหล่าผู้ชนะโอลิมปิกที่ขี้เกียจ ไม่มีพรสวรรค์” ซึ่งทำเอาหลายคนงงว่าทำไมถึงโพสต์แบบนี้

ซึ่งข้อความนี้เป็นการแซะอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง มิเคล่า สกินเนอร์ ที่เคยคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกครั้งก่อน ออกมาจิกกัด ทีมชาติสหรัฐชุดนี้นอกจากซิโมเน แล้ว ที่เหลือเป็นพวกไม่มีพรสวรรค์ แถมขี้เกียจ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงตารางซ้อมที่ไม่เต็มที่ แถมโค้ชไม่เข้มงวด เหมือนรุ่นก่อน ๆ โดยภายหลังเธอได้ออกมาขอโทษคำพูดนี้ โดยกล่าวว่าเธอไม่ได้ว่ากล่าวเหล่านักกีฬา แต่หมายถึงกฎใหม่ของสมาคมกีฬาที่เน้นเรื่องห้ามการลงโทษ หรือการซ้อมแบบโหด ๆ ที่ถือเป็นการทารุณนักกีฬา

หลังจากที่ซิโมเนโพสต์ภาพนี้แล้ว ก็มีนักกีฬาหลายคนเข้ามาคอมเมนต์ เข้าข้างและแสดงความขำขันกัน ซึ่งมีข่าวว่าสกินเนอร์ เจ้าตัวที่โดนแซะ ได้บล็อกไอจีของซิโมเนไปแล้วเรียบร้อย เรียกได้ว่างานนี้น่าจะสร้างรอยร้าวที่ประสานไม่ได้ระหว่างอดีตเพื่อนร่วมทีม 2 คนนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่างานนี้จะจบตรงไหน 

‘ลุงป้อม’ ชวนคนไทย ส่งกำลังใจเชียร์ ‘วิว’ หลังโค่นมือ 1 ของโลก เผย!! ชนะอีกแค่ 2 ครั้ง เพลงชาติไทยดัง กระหึ่มปารีส ฉลอง ‘เหรียญทอง’

(3 ส.ค.67) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่เดินทางมาปารีส และเข้าไปให้กำลังใจ ‘วิว’ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย มืออันดับ 8 ของโลก ในการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ ชายเดี่ยว แบดมินตัน โอลิมปิก ปารีส 2024 ที่สนามอาดิดาส อารีน่า กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 กุลวุฒิ ทำผลงานยอดเยี่ยม ชนะ ฉี ยู่ฉี มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน 2-0 เกม ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

‘ลุงป้อม’ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ได้ออกมากล่าวหลังจบเกมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมชื่นชม กุลวุฒิ หลังจบแมตช์การแข่งขันกับผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ ‘บิ๊กป้อม’ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ‘ตนต้องแสดงความดีใจกับ วิว ด้วย ที่สามารถเอาชนะนักกีฬามือ 1 ของโลก ได้ และอยากขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้วิวอีก 2 แมตช์ เพื่อได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ต่อไป ต้องขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้กำลังใจกับน้องวิวครับ’

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ทัพนักกีฬาไทยจะได้กี่เหรียญในโอลิมปิกเกมส์รอบนี้ พลเอก ประวิตร ตอบกลับสั้น ๆ ว่า ‘ผมยังไม่รู้หรอก แล้วผมจะรู้ได้ยังไง’ ก่อนที่จะเดินหันหลังออกจากวงสัมภาษณ์ไปในทันที

‘น้องเมย์’ รับ!! พ่ายรอบ 8 คนสุดท้าย เพราะคู่แข่งมาดีมาก เผย!! ยังไม่ทิ้งฝัน 'โอลิมปิก' แต่ขอดูสภาพร่างกายก่อน

(3 ส.ค.67) ภายหลังการแข่งขันน้องเมย์ เปิดเผยว่า ปฏิกิริยาในการเล่นของฝั่งตรงข้ามวันนี้ดีมาก ทำให้เราไม่สามารถที่จะคว้าชัยชนะได้

‘เกมตลอดปีไม่ได้เจอเกมเบียด และการเจอกับท็อปเพลเยอร์ เขาสามารถจับจุดในเกมช่วงเวลาสำคัญได้ดีเยี่ยมมากสมราคามือแปดของโลก’

‘น้องเมย์’ ระบุว่า เค้าบีบออกลูกไม่ถึง พอคิดเยอะจับอะไรไม่ได้เลย โดยเฉพาะลูกบุกเลยแก้ไม่ได้ พอคิดเยอะ ๆ ร่างกายมันช้าลงโดยอัตโนมัติ สุดท้ายแล้วหนูก็เหมือนกับแพ้ความคิดตัวเอง

ต่อข้อซักถามที่ว่า เป็นโอลิมปิกสุดท้ายของเธอแล้วหรือไม่ ‘เมย์’ ตอบว่า ขอดูสภาพร่างกายก่อน เป็นปีต่อปี ใจจริงอยากกลับมาเล่นอีก ส่วน เอเชียนเกมส์ พร้อม ลงเล่นแต่ว่าการแข่งขันซีเกมส์คงพอแล้ว

‘การเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้ายได้ 3 สมัย เสียดายทุกครั้งครั้งนี้ก็ถือว่าใกล้เคียงมากแต่เสียดายที่สุดก็คือที่ลอนดอน เนื่องจากว่าอีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะได้เข้ารอบรองชนะเลิศแล้ว’

'Yusuf Dikec' ความสำเร็จบนมือข้างหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋า เพราะความผ่อนคลายแบบเก๋าๆ ทำให้เหล่าคู่แข่งรู้สึกปั่นป่วน

(3 ส.ค.67) มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า ไม่ใส่แว่นตาพิเศษสำหรับการยิงปืน สวมเสื้อยืดสบาย ๆ และดูท่าทางผ่อนคลายสุดขีด นี่คือภาพของ ยูซุฟ ดิเคช นักกีฬายิงปืนโอลิมปิกจากตุรกี ที่กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย โดยบางความเห็นบอกว่า ‘ตุรกีส่งนักฆ่ามาแข่งขันโอลิมปิก’

‘ถึงแม้ว่าผมจะดูเท่ แต่ในใจผมมันตรงกันข้าม’ ยูซุฟ ดิเคช บอกกับสื่อตุรกี หลังจากคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันยิงปืนลมระยะ 10 เมตร ประเภททีมผสม ร่วมกับเพื่อนนักกีฬาหญิง เซฟวาล อิลายดา ทาร์ฮาน

‘แต่ภายนอกของผมที่ผ่อนคลาย ทำให้คู่แข่งของผมปั่นป่วน’ เขากล่าวเสริม

โซเชียลมีเดียของโอลิมปิกเกมส์ เผยแพร่ภาพของยูซุฟ และคิม เยจี นักแม่นปืนหญิงจากเกาหลีใต้ โดยบรรยายว่าพวกเขาคือ ‘ดาวเด่นในกีฬายิงปืนโอลิมปิกที่พวกเราไม่รู้มาก่อนว่าเราต้องการ’

ในสัปดาห์นี้ ยูซุฟ ดิเคช สร้างประวัติศาสตร์กับเพื่อนร่วมทีมด้วยการคว้าเหรียญโอลิมปิกในกีฬายิงปืนเป็นเหรียญแรกให้กับตุรกี

ความตรงกันข้ามระหว่างยูซุฟและคู่แข่งของเขาที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งแตกต่างกับท่าทางสบาย ๆ ของยูซุฟ ทำให้เกิดมีมจำนวนมากเกี่ยวกับนักแม่นปืนตุรกีผู้นี้บนโซเชียลมีเดีย
เมื่อถามถึงวิธีการยิงปืนที่ดูผ่อนคลายแบบนั้น ยูซุฟในวัย 51 ปี บอกว่า เขาเป็น ‘นักยิงปืนโดยธรรมชาติ’

‘บางครั้งกรรมการก็ถามว่า คุณไม่มีแว่นตายิงปืนหรือรองเท้าแข่งโดยเฉพาะหรือ’

‘ผมตอบไปว่า ไม่มีครับ ผมเป็นนักยิงปืนโดยธรรมชาติ แล้วก็ขำๆ ไป

เหตุผลที่มือข้างหนึ่งต้องล้วงกระเป๋าไม่ได้เป็นเพราะเพื่อความเท่ แต่ยูซุฟบอกว่า เขาล้วงกระเป๋าเพื่อให้ร่างกายมีสมดุลที่ดีขึ้น

ทักษะการยิงปืนของยูซุฟไม่ได้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ในฐานะนักกีฬาเท่านั้น แต่เป็นเพราะว่าเขามีอาชีพเป็นทหาร

เขาเป็นอดีตจ่าสิบเอกที่เกษียณอายุแล้วจากกองกำลังผสมทหารตำรวจของตุรกี

เส้นทางการกีฬาของยูซุฟเริ่มต้นตอนที่เขาอายุ 28 ปี โอลิมปิกที่ปารีส เป็นการแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ 5 ติดต่อกัน แต่เขาไม่เคยมีผู้ฝึกสอนกีฬาเลย

‘ในการฝึกซ้อม ผมจะฝึกท่าทางของตัวเอง ถ้ามีผู้ฝึกสอน เขาก็อาจจะคอยสังเกตและจดบันทึกลักษณะท่าทางของผมได้และมีตารางการฝึกเป็นเรื่องเป็นราว’

แต่แม้ว่ายูซุฟจะไม่มีผู้ฝึกสอนหรือโค้ช เขาก็สามารถคว้าแชมป์โลกยิงปืนได้สองแชมป์เมื่อปี 2014 จากการแข่งขันยิงปืนพกมาตรฐานระยะ 25 เมตร และปืนสั้นฉนวนกลางระยะ 25 เมตร และในโอลิมปิกครั้งนี้เขาสามารถคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันยิงปืนลมระยะ 10 เมตร ได้สำเร็จ

ยูซุฟยังเป็นแชมป์ยิงปืนยุโรป 7 สมัย โดยล่าสุดเป็นแข่งขันในปีนี้ที่เมืองเจอร์ (Győr) ประเทศฮังการี

ระหว่างเดินทางกลับตุรกี เขากล่าวถึงเป้าหมายในการแข่งขันโอลิมปิก ฤดูร้อนปี 2028 ที่ลอสแอนเจลิสด้วยว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันแต่ต้องดูสภาพร่างกายก่อนว่าพร้อมหรือไม่

‘ผมจะเริ่มเตรียมตัวสำหรับแข่งโอลิมปิก 2028 ตั้งแต่วันนี้ เราจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าเราจะได้เหรียญทอง เราเสียมันไปในนาทีสุดท้าย ซึ่งถือว่าโชคไม่ดี’

‘ผมบอก (ทีมชาติเซอร์เบียที่ได้เหรียญทอง) ว่าเราแค่ให้ยืมเหรียญทองเท่านั้นนะ และเราจะมาเอาคืนในปี 2028’

เมื่อส่องประวัติของยูซุฟบนเว็บไซต์ของโอลิมปิก เขาเขียนบรรยายตัวเองว่า ‘ความสำเร็จไม่ได้มาจากการที่มือสองข้างเอาแต่ล้วงอยู่ในกระเป๋า’

ทว่าสำหรับการคว้าเหรียญโอลิมปิกครั้งล่าสุด ได้พิสูจน์แล้วว่าความสำเร็จก็อาจจะมีขึ้นได้เพราะมือข้างหนึ่งอยู่ในกระเป๋า และจากการฝึกซ้อมอย่างหนักเป็นเวลาหลายปี

15 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ‘อร-อุดมพร พลศักดิ์’ คว้าเหรียญทองยกน้ำหนัก ในโอลิมปิก ครั้งที่ 28 นับเป็นนักกีฬาหญิงไทยคนแรกที่สามารถคว้าเหรียญอันทรงเกียรตินี้ได้

พันโทหญิง อุดมพร พลศักดิ์ หรือชื่อเล่น อร เป็นอดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย และเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกของราชอาณาจักรไทย ที่ได้เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูร้อน โดยได้จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 28 ณ กรุงเอเธนส์ สาธารณรัฐเฮลเลนิก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ในการแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่นไม่เกิน 53 กก. โดยยกในท่าสแนชได้ 97.5 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์กได้ 125 กก. รวม 222.5 กก. โดยเป็นการทำลายสถิติโอลิมปิก ในท่าคลีนแอนด์เจิร์กของประเภทนี้ด้วย

ก่อนขึ้นยกน้ำหนักและคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน น้องอรตะโกนคำว่า "สู้โว้ย" ออกมาดัง ๆ เพื่อปลุกขวัญกำลังใจ จนกลายเป็นฉายาประจำตัว และเป็นวลีติดปากคนไทยมาจนปัจจุบัน ซึ่งเวลาผ่านมา 20 ปีเต็มพอดิบพอดี

อุดมพร เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2524 ที่จังหวัดนครราชสีมา เริ่มเข้ารับการศึกษาในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนสวนหม่อน และศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนบุญวัฒนา และโรงเรียนเทพลีลา ก่อนจะมาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่วิทยาลัยพลศึกษากรุงเทพจนจบปริญญาตรี

สำหรับในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2003 ที่เมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา อุดมพรทำได้สองเหรียญทอง โดยทำน้ำหนักได้ 100 กก. ในท่าสแนช และ 222.5 กก. ในน้ำหนักรวม

‘โตโยต้า’ ร่วมต้อนรับ ‘วิว กุลวุฒิ’ กลับบ้านด้วยความอบอุ่น พร้อมชวนคนไทย ขับเคลื่อนสู่ทุกความเป็นไปได้ ไปด้วยกัน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะผู้บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแสดงความยินดี ต้อนรับ ‘วิว กุลวุฒิ’ นักกีฬา Global Team Toyota Athlete (GTTA) / ทัพนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย และโค้ช กลับสู่ประเทศไทยด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น 

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีความยินดีอย่างภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน และพัฒนาวงการกีฬาแบดมินตันในประเทศไทย ผ่านการเป็นการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติในประเทศไทย สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้แฟนกีฬาแบดมินตันไทยได้ชม และเชียร์ทัพนักกีฬาไทย พร้อมสร้างผลงานให้กับนักกีฬาระดับโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสานต่อแนวคิด Start Your Impossible ชวนคนไทยขับเคลื่อนสู่ทุกความเป็นไปได้ไปด้วยกัน

Start Your Impossible หรือ ‘เมื่อเริ่มลงมือทำ ทุกสิ่งก็เป็นไปได้’ คือจิตวิญญาณอันแน่วแน่ของโตโยต้าที่ประกาศจุดยืนเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2560 เพื่อแสดงถึงความตั้งใจในการมุ่งมั่นจากบริษัทยานยนต์ สู่การเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อนสังคมในทุกแง่มุม โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนที่สร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนบนพื้นฐานความเชื่อว่า ร่างกายและจิตวิญญาณของมนุษย์คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ

ในประเทศไทย โตโยต้าได้ส่งต่อแนวคิดดังกล่าวผ่านเส้นทางสู่การประสบความสำเร็จของ นักกีฬาทีมชาติไทย โดยเริ่มต้นจากการแข่งขันโอลิมปิก และพาราลิมปิกที่โตเกียว โดยมี น้องเทนนิส เทควันโด (เหรียญทอง) / น้องเมย์ รัชนก แบตมินตัน / โปรเมย์ กอล์ฟ / คุณประวัติ วะโฮรัมภ์ วีลแชร์ เรซซิ่ง (เหรียญเงิน) / น้องปิ่น อัญชญา ว่ายน้ำพาราลิมปิก

และล่าสุด สำหรับการแข่งขันโอลิมปิก และพาราลิมปิกที่ปารีส น้องวิว - กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (เหรียญเงิน) และคุณกร - พงศกร แปยอ วีลแชร์ เรซซิ่ง ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมเป็นหนึ่งใน Global Team Toyota Athlete หรือ GTTA ซึ่งเป็นผลมาจากการทุ่มเทแรงกาย และแรงใจในการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง พร้อมทั้งเริ่มต้นทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้… ให้เป็นไปได้

‘หงส์ไทย’ ร่วมอัดฉีด นักกีฬาโอลิมปิก ‘เหรียญละ 2 แสน-ยาดม 1,200 โหล’ เผย!! ดีใจที่ได้เพิ่มกำลังใจ สร้างความสดชื่น ขอเคียงข้างทุกความสำเร็จของคนไทย

(11 ส.ค. 67) จากชัยชนะครั้งสำคัญของนักกีฬายกน้ำหนักไทยที่คว้าเหรียญโอลิมปิก 2024 มาได้ถึง 3 คน ได้แก่ ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย, ออย สุรจนา คำเบ้า และเวฟ วีรพล วิชุมา

ได้กลายเป็นไวรัลอยู่ช่วงหนึ่ง ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันได้ปรากฏภาพของ ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย คว้าเหรียญเงินจากยกน้ำหนักรุ่น 61 กิโลกรัมชาย ในกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่ดมยาดมสมุนไพรตรา ‘หงส์ไทย’ ก่อนขึ้นแข่ง ทำเอาชาวเน็ตถึงขั้นแซวว่า ‘ดมหงส์ไทยแล้วทรงพลัง’ เลยทีเดียว ซึ่งต่อมา บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด ออกมาแสดงความยินดีกับการชิงคว้าชัยของ ฟ่าง ธีรพงศ์ ก่อนหน้านี้ รวมทั้งนักกีฬาที่คว้าเหรียญโอลิมปิกคนอื่นๆ ด้วย

ล่าสุด บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด ก็ได้ออกมาร่วมสนับสนุนนักกีฬาไทย ผู้คว้าชัยชิงเหรียญโอลิมปิก ปารีส 2024 ทุกเหรียญรางวัล คนละ 200,000 บาท พร้อมมอบผลิตภัณฑ์สมุนไพร จำนวน 1,200 โหล (คิดเป็น 14,400 ชิ้น) ให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)

โดยระบุว่า หงส์ไทย ร่วมสนับสนุนนักกีฬาไทย ผู้คว้าชัยชิงเหรียญโอลิมปิกเกมส์ปารีส 2024 มอบให้กับนักกีฬาทุกเหรียญรางวัล ท่านละ 200,000 บาท

พร้อมมอบผลิตภัณฑ์สมุนไพร จำนวน 1,200 โหล ให้ทาง กกท. (การกีฬาแห่งประเทศไทย) เพื่อส่งมอบให้ทางสมาคมกีฬาของนักกีฬาที่ได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้

ขอขอบคุณนักกีฬาทุกท่านที่สนับสนุน ยาดมหงส์ไทย มาโดยตลอด ขอขอบคุณที่ทำให้เรามีทุกวันนี้

(ธรรมชาติพัฒนา เพื่อความพึงพอใจ ของผู้บริโภค)

หงส์ไทยดีใจที่ได้เป็นส่วนร่วม เพิ่มกำลังใจสร้างความสดชื่น เป็นอาวุธลับ อยู่คู่นักกีฬาไทย และอยู่เคียงข้างมุ่งสู่ความสำเร็จของคนไทยทุกคน

‘สื่อเวียดนาม’ ปรี๊ดแตก!! หลังผลงาน ‘นักกีฬาโอลิมปิก’ ล้มเหลว ชี้!! ไม่ได้ด้อยกว่าชาติใด เตรียมจัดทัพใหม่ ลุ้นต่อไป โอลิมปิกที่อเมริกา

(12 ส.ค. 67) VN Express สื่อเวียดนามสรุปผลการแข่งขันกีฬาปารีส โอลิมปิก 2024 ที่ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา ยอมรับว่าผลงานของทีมชาติเวียดนาม ‘ล้มเหลว’ ไม่ได้เหรียญรางวัลติดมือกลับบ้านแม้แต่เหรียญเดียวติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนต่างมีพัฒนาด้านกีฬาที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี ที่เวียดนามไม่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกถึง 2 สมัยติดต่อกัน นับตั้งแต่งานโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว และล่าสุดที่โอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส โดยกีฬาที่เป็นความหวังที่สุดคือ ยกน้ำหนักชายรุ่น 61 กก. แต่ทว่า ทรินห์ วัน วินห์ ล้มเหลวในการยกทั้ง 3 ครั้ง ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย 

จากผลงานของ ทรินห์ วัน วินห์ นอกจากจะดับความหวังของชาวเวียดนามในการลุ้นเหรียญแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พร้อมของเวียดนามในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีล่าสุดนี้ ที่ทำให้ทีมนักกีฬาเวียดนามไม่ประสบความสำเร็จในการคว้าเหรียญรางวัลกลับบ้านได้

ซึ่งสวนทางกับผลงานในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่ผ่านมา ที่ทีมนักกีฬาเวียดนามประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถคว้าเหรียญทองได้ถึง 136 เหรียญ ครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองอาเซียนไปได้ และยังทิ้งห่างไทย ที่ได้เหรียญทองมาเป็นที่ 2 ถึง 28 เหรียญ

โดยเวียดนาม จัดเป็น 1 ใน 6 ชาติที่มีความโดดเด่นด้านกีฬาที่สุดในย่านอาเซียน อันได้แก่ เวียดนาม, ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ สิงคโปร์ 

แต่ความสำเร็จในกีฬาระดับ ซีเกมส์ ไม่ได้การันตีผลลัพธ์ระดับ เอเชียน เกมส์ หรือ โอลิมปิกสำหรับเวียดนาม เมื่อดูจากผลงานการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่เมืองหังโจว ประเทศจีน เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา เวียดนามจบที่อันดัน 21 จากตารางเหรียญ และเป็นอันดับที่ 6 ในกลุ่มชาติอาเซียน ได้ไป 3 เหรียญทอง ในขณะที่ไทยได้ไป 12 เหรียญทอง เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มอาเซียน

และในการแข่งขันปารีส โอลิมปิก 2024 เวียดนามก็ยังไม่สามารถเอาชนะกลุ่มประเทศคู่แข่งด้านกีฬาของอาเซียนได้  โดย ชาติอาเซียนสร้างผลงานคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ถึง 15 เหรียญ และเป็นเหรียญทองถึง 5 เหรียญ  

ซึ่งม้ามืดของปีนี้ ต้องยกให้ คาร์ลอส  ยูโล นักยิมนาสติกของฟิลิปปินส์ ที่ทำได้ถึง 2 เหรียญทอง ส่วน  อินโดนีเซีย ได้ไป 2 เหรียญทองเช่นกัน จาก วิดิค ลีโอนาโด ในกีฬาปีนเขา และ ริซกิ จูเนียนสยา จากกีฬายกน้ำหนักชายรุ่น 73 กิโลกรัม ในขณะที่ไทย แม้จะเพียงได้ 1 เหรียญทองจากกีฬาเทควันโด โดย น้อง เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แต่ทีมนักกีฬาของไทยก็สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ถึง 6 เหรียญ มากที่สุดในกลุ่มชาติอาเซียน

เวียดนามเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในปี 1988 แต่สามารถคว้าเหรียญเงินได้เป็นครั้งแรกในงานโอลิมปิก 2000 ที่เมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย  โดย ตรัน ฮิว งาน จากกีฬาเทควันโดหญิง หลังจากนั้นก็มีนักกีฬาเวียดนามเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง ฮวง ซวน วินห์ สามารถคว้าเหรียญทองแรกให้เวียดนามได้สำเร็จ จากกีฬาปืนอัดลม 10 เมตร ในงานโอลิมปิก ปี 2016 ที่ริโด เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล  

แต่ถึงแม้เวียดนามจะพยายามผลักดันศักยภาพของนักกีฬาให้สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งในย่านอาเซียนได้อย่างทัดเทียม แต่สื่อเวียดนามยอมรับว่า เพื่อนบ้านในอาเซียนต่างมีพัฒนาการในด้านกีฬาที่ก้าวกระโดดอย่างมาก จนสามารถบรรลุเป้าหมายเหรียญรางวัลในสนามแข่งขันระดับโลกได้มากกว่าเวียดนาม

อีกทั้งสรีระ รูปร่างของนักกีฬาของอาเซียน เป็นหนึ่งในข้อเสียเปรียบ ที่ทำให้ชาติอาเซียนจำเป็นต้องมุ่งเน้นประเภทกีฬาที่กำหนดน้ำหนักในการแข่งขัน อาทิ ยกน้ำหนัก มวยสากล หรือ เทควันโด 

แต่เมื่อมีการบรรจุกีฬาเอ็กซ์ตรีม เข้าไปอยู่ในงานโอลิมปิกมากขึ้น ได้เปิดโอกาสให้นักกีฬาหน้าใหม่จากอาเซียน สามารถทะลุเข้าถึงรอบแข่งไฟนอล  อาทิ น้อง ‘เอสที’ วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาไทย วัย 12 ปี ที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันกีฬาสเก็ตบอร์ตในปารีส โอลิมปิก  หรือความสำเร็จของ  วิดิค ลีโอนาโด ที่คว้าเหรียญทองกีฬาปีนเขาให้กับอินโดนีเซียเป็นครั้งแรก ถือเป็นกลยุทธในการส่งเสริมนักกีฬารุ่นใหม่ที่ได้ผลตอบแทนอย่างน่าภูมิใจ 

สื่อเวียดนามย้ำว่า นักกีฬาเวียดนาม ไม่ได้ด้อยกว่าชาติใดๆ ในอาเซียน เพียงแต่ต้องกลับมาเรียนรู้ ทบทวนใหม่ ว่าการส่งเสริมทีมชาติของเวียดนามพลาดที่ตรงไหน ก่อนจัดทัพใหม่อีกคร้้ง ในงานโอลิมปิกครั้งต่อไปที่นคร ลอส แอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2028 

ทรัมป์เซ็นคำสั่งห้ามคนข้ามเพศ แข่งกีฬากับผู้หญิง ย้ำโอลิมปิก 2028 มีแค่นักกีฬาหญิงชายเท่านั้น

(6 ก.พ. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับใหม่ ห้ามนักกีฬาข้ามเพศที่เคยเป็นผู้ชายแข่งขันในรายการกีฬาสำหรับผู้หญิง โดยคำสั่งนี้มีชื่อว่า “Preserving Women’s Sports” หรือ “การรักษาความยุติธรรมในกีฬาสตรี” เพื่อสร้างความเท่าเทียมและความเป็นธรรมในการแข่งขันกีฬาระหว่างผู้หญิง ทรัมป์ระบุว่า นักกีฬาที่เคยเป็นผู้ชายมีโครงสร้างร่างกายและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่แตกต่างจากผู้หญิงโดยธรรมชาติ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน และเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมต่อนักกีฬาหญิง

คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทันที โดยครอบคลุมการแข่งขันกีฬาทุกระดับ ตั้งแต่กีฬาโรงเรียน มหาวิทยาลัย ไปจนถึงกีฬาชุมชน นอกจากนี้ ยังให้อำนาจกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ตรวจสอบและดำเนินการกับสถาบันการศึกษาที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ขณะที่หลายองค์กรกีฬาระดับนานาชาติ เช่น สหพันธ์กรีฑาโลก (World Athletics) และสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA) ก็มีกฎหมายห้ามนักกีฬาข้ามเพศที่เคยเป็นผู้ชายแข่งขันในรายการหญิงอยู่แล้ว

ก่อนลงนามในคำสั่งบริหาร ทรัมป์ได้กล่าวปราศรัยว่า “สงครามเพื่อปกป้องวงการกีฬาสตรีได้สิ้นสุดลงแล้ว” พร้อมย้ำว่าในการแข่งขันโอลิมปิกปี 2028 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จะไม่ยอมให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันระหว่างนักกีฬาชายและหญิงอีกต่อไป นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงนโยบายที่ชัดเจนในการกำหนดเพศในเอกสารราชการและกีฬา โดยระบุว่าเพศจะมีเพียงชายและหญิงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ ได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ โดยมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติและกีดกันนักกีฬาข้ามเพศออกจากวงการกีฬา พวกเขาให้เหตุผลว่า ความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาไม่ได้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นๆ เช่น ความมุ่งมั่น การฝึกฝน ความพร้อมทางจิตใจ และวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งนักกีฬาข้ามเพศไม่ได้มีข้อได้เปรียบเหนือนักกีฬาหญิงเสมอไป

คำสั่งบริหารฉบับนี้ได้จุดประเด็นถกเถียงในสังคมอเมริกันอีกครั้ง ระหว่างฝ่ายที่ต้องการรักษาความเท่าเทียมในกีฬาสตรี กับฝ่ายที่เรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศและความหลากหลายในวงการกีฬา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top