Monday, 7 July 2025
แรงงานต่างด้าว

ผู้ตรวจฯ ก.แรงงาน ติดตามผลการปฏิบัติงานการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวจังหวัดลำพูน

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น. นางดรุณี นิธิทวีกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดลำพูน เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในจังหวัดลำพูน โดยมี นายวิชิต อินทรเจริญ ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางาน นายสมชาย เอื้อจารุพร ผู้ตรวจราชการกรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3B ศูนย์ราชการกระทรวงแรงงานจังหวัดลำพูน ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน

ไม่ให้ตั้งตัว!! ‘เสี่ยเฮ้ง’ แถลงกวาดล้างต่างชาติแย่งอาชีพคนไทย สุ่มตรวจทั่วประเทศกว่า 2 แสนราย พบกระทำผิดอื้อ!!

(13 มี.ค.66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีพบคนต่างชาติเร่ขายสินค้า ตามแหล่งท่องเที่ยวและย่านการค้าซึ่งเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ จนกระทบต่อบรรดาผู้ประกอบการในพื้นที่ นั้น พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องแล้วรู้สึกห่วงใยพ่อค้าแม่ค้าคนไทยจะถูกแรงงานต่างชาติแย่งอาชีพครไทย แย่งรายได้อย่างมาก จึงสั่งการให้กระทรวงแรงงานกวาดล้างแรงงานต่างชาติที่แย่งอาชีพคนไทย รวมถึงแรงงานต่างชาติที่ทำงานผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานรับข้อสั่งการแล้วไม่เคยนิ่งนอนใจ ใช้มาตรการลงพื้นที่สุ่มตรวจโดยไม่แจ้งล่วงหน้าในทุกจังหวัด 

“จากผลการดำเนินการปีงบประมาณ 2566 (วันที่ 1 ตุลาคม 2565 - 12 มีนาคม 2566) มีการเข้าตรวจสอบสถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างชาติทั่วประเทศแล้ว จำนวน 18,966 แห่ง ดำเนินคดี 685 แห่ง และตรวจสอบคนต่างชาติ จำนวน 240,918 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 177,134 คน กัมพูชา 40,750 คน ลาว 12,311 คน เวียดนาม 140 คน และสัญชาติอื่น ๆ 10,583 คน มีการดำเนินคดีทั้งสิ้น 1,550 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 846 คน กัมพูชา 245 คน ลาว 269 คน เวียดนาม 65 คน และสัญชาติอื่น ๆ 125 คน ซึ่งพบเป็นการแย่งอาชีพคนไทย ทั้งสิ้น 883 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 392 คน กัมพูชา 195 คน ลาว 139 คน เวียดนาม 55 คน อินเดีย 68 คน และสัญชาติอื่น ๆ 34 คน โดยอาชีพที่พบคนต่างชาติแย่งอาชีพมากที่สุด ได้แก่ งานเร่ขายสินค้า งานตัดผม งานขับขี่ยานพาหนะ และงานนวด ตามลำดับ” รมว.แรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดี คนต่างด้าวทำงานผิดกฎหมายฯ ของกรมการจัดหางาน และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ รับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปูพรมตรวจสอบทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลัก ทั้งกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต สมุย พัทยา เชียงใหม่ ที่เป็นแหล่งประกอบอาชีพของคนไทย และย่านการค้าแหล่งเศรษฐกิจสำคัญที่พบเห็นแรงงานต่างชาติทำงานจำนวนมาก อย่างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ เยาวราช ห้วยขวาง ปากคลองตลาด และจังหวัดปริมณฑล อาทิ สมุทรสาคร นครปฐม สระบุรี ปทุมธานี ซึ่งหากตรวจสอบพบมีความผิดจะดำเนินคดีตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยไม่มีข้อยกเว้น 

สตม.จับนายหน้ารถตู้ขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีหมายจับนาน 5 ปี นำส่งชายแดนไทย-พม่า โดยฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมก่อเหตุลักทรัพย์นายจ้างกว่า 200,000 บาท 

กก.4 บก.สส.สตม. จับกุม นายอ่อง (นามสมมติ) อายุ 33 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาตามหมายจับ     ศาลจังหวัดระนอง ที่ จ.136/2564 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากจั่น จว.ระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมบริเวณบ้านพักริมคลองบางบอน แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564  เวลาประมาณ 05.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ขับขี่รถพยาบาล 2 ราย โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม, และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558” พร้อมจับกุมตัวแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 10 คน โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558”

จากการสอบถามผู้ขับขี่ ให้การรับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564  ได้รับจ้างขนแรงงานชาวเมียนมา ให้กับนายอ่อง โดยได้ขับรถไปรับนายอ่องในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อไปรับแรงงานต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดระนอง บริเวณ ปากซอยก่อนถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง ประมาณ 100 เมตร และได้ร่วมเดินทางกลับพร้อมแรงงานต่างด้าว เมื่อมาถึงสี่แยกไฟแดง อ.กระบุรี จว.ระนอง นายอ่องขอลงรถอ้างว่าจะกลับไปบ้านที่ย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา และได้หลบหนีไป ต่อมาศาลจังหวัดระนองได้อนุมัติหมายจับ ที่ จ.136/2564 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ให้จับนายอ่องในความผิดฐาน “ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558”

จากการสืบสวนของ กก.4 บก.สส.สตม. สืบทราบว่านายอ่อง ได้เข้ามาในประเทศไทยและได้มาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายอ่อง ได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งย่านบางบอน จึงได้ทำการเฝ้าติดตามจนกระทั่งพบตัวนายอ่อง จึงได้ทำการจับกุมตามหมายจับดังกล่าว ในเบื้องต้นนายอ่องได้รับสารภาพว่าในช่วงที่ประเทศไทยมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตนได้ทำหน้าที่เป็นนายหน้า ในการนำแรงงานชาวเมียนมาเข้ามายังประเทศไทย ผ่านชายแดนจังหวัดระนอง และจัดหารถตู้วิ่งรับและนำแรงงานชาวเมียนมาเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและกรุงเทพฯ ได้ค่าจ้าง ประมาณ 10,000 บาท/คน ซึ่งรายได้ค่อนข้างดี จึงได้เป็นนายหน้าในการหาคนเข้ามาทำงานเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  

บก.สส.สตม. ได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่านายอ่องได้ก่อเหตุลักทรัพย์นายจ้าง เหตุเกิดในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ไปจำนวนหลายครั้ง ความเสียหายกว่า 2 แสนบาท จึงได้ประสาน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อทำการอายัดตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวต่อไป

'รัดเกล้า' เผย!! ครม.เห็นชอบร่างประกาศฯ คนต่างด้าวทำงานในไทย โฟกัส!! กลุ่มกิจการในเรือประมง ขยายเวลายื่นขออนุญาตได้ตลอดปี

(2 เม.ย.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี / รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ ร่างประกาศ 2 ฉบับ คือ ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการออกหนังสือคนประจำเรือว่าด้วยการประมง โดย สาระสำคัญ มีการแก้ไขคุณสมบัติคนต่างด้าวที่จะยื่นหนังสือเป็นคนประจำเรือ รวมถึงแก้ไขระยะเวลาในการยื่นขออนุญาตได้ตลอดทั้งปี จากเดิมที่ 2 ช่วง คือ กำหนด 1 เม.ย.- 30 มิ.ย. และ 1 ก.ย.- 30 พ.ย. และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าว 4 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม ที่ได้รับอนุญาตทำงานในราชอาณาจักรไทย เป็นกรณีพิเศษ ในกิจการประมง 

ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารจัดการแรงงานประมงได้รับการจ้างงานอย่างถูกกฎหมาย โดยให้ยื่นคำขอหนังสือคนประจำเรือเป็นกรณีพิเศษหรือ ได้ตลอดปี และในอนาคตนอกเหนือจาก 4 สัญชาติ สามารถจะมาทำงานดังกล่าวได้ ทั้งนี้กรมประมงได้เปิดรับฟังความคิดเห็นรวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากกฎหมายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

"นายกฯ สั่งการให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบให้เกิดความเรียบร้อย โดยเรื่องของการแก้ไขปัญหาประมงในระยะยาว มอบหมายให้คณะกรรมการประมงแห่งชาติ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานไปศึกษาการแก้ปัญหาต่อไป" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

เวียนว่าย!! เมื่อ 'บัตรชมพู' ทำให้ 1 ชีวิตมีหลายตัวตน 'ประวัติเสีย-หนีคดี' รอดหมด!! หากคดีไม่จรดมาถึงเมืองไทย

ในบทความครั้งที่แล้ว เอย่า ได้กล่าวถึงการฟอกขาวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ในความเป็นจริงการฟอกขาวแบบนี้เกิดขึ้นมานานแล้วในประเทศไทย

ในอดีตการฟอกขาวทำได้ยาก เนื่องจากคนที่อยากฟอกขาวจริง ๆ คือ เข้ามาสวมบัตรคนตายเป็นส่วนใหญ่ และรัฐบาลไทยเองก็มีการประกาศขึ้นทะเบียนคนต่างด้าวเป็นช่วง ๆ แต่ปัจจุบันการฟอกขาวทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งทั้งหมดต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคพลเอกประยุทธ์ที่ให้ขึ้นทะเบียนแรงงานคนต่างด้าว 

แม้การขึ้นทะเบียนจะเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศไทย โดยการให้คนต่างด้าวที่แอบพักอาศัยในไทยมาขึ้นทะเบียนซะ เพื่อจะได้จัดเก็บอย่างเป็นระบบ แต่ทว่าในระบบดังกล่าวกลับยังมีช่องโหว่ที่ให้คนลักลอบหาผลประโยชน์ด้วยความที่ฝั่งไทยไม่ได้มีการตรวจเช็กว่าบุคคลนี้เคยทำบัตรชมพูมาหรือไม่

หลายคนพอบัตรหมดอายุ ก็เลือกจะไม่ไปต่ออายุด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ประการหนึ่งที่เอย่าทราบคือ พวกเขาไม่ได้เดือดร้อนที่บัตรชมพูจะมีอายุหรือหมดอายุ เพราะว่าสุดท้ายทางไทยก็เปิดทำบัตรใหม่ ซึ่งเขาก็ใช้ชื่อใหม่หรือคำสะกดที่ใกล้เคียงคำเดิมไปออกบัตรใบใหม่ โดยที่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยไม่มีการเช็กประวัติอะไรเลย

นั่นคงไม่ได้มีปัญหาอะไรถ้าปัจจุบันมีชาวต่างชาติที่หลบหนีเข้ามาอาศัยในไทยเป็นจำนวนมาก หลายคนพักพิงในย่านชุมชนเมียนมาในประเทศไทยรอวันที่จะมาทำบัตร เมื่อทำบัตรแล้ว คนเหล่านี้ก็จะมีตัวตนสามารถหางานทำได้อย่างถูกต้อง แม้ว่าเขาจะเคยมีประวัติเสียหรือมีคดีมาจากประเทศต้นทางก็ตาม หากคดีไม่ได้มาถึงไทยก็เท่ากับว่าคนเหล่านี้เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าพวกเขาจะก่อเรื่องในไทย

ถามว่านี่มันแฟร์กับคนไทยอย่างงั้นหรือ...?

เอย่าเข้าใจภาคแรงงานที่ต้องการแรงงานต้นทุนต่ำมาทำงานเพื่อลดต้นทุน อย่างไรก็ตามมาตรการในการควบคุมผู้เข้ามาอยู่ในไทย ก็ควรมีมาตรฐานด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ 1 ชีวิตมีหลายตัวตน จนฟอกขาวกลายเป็นคนไทยได้ในที่สุด

ชลบุรี-ตม.พัทยา บุกทลายแหล่งแรงงานต่างด้าวจับชาว เมียนมาและอินเดีย 68 ราย

วันนี้ 18 มิ.ย. 67 พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีกลุ่มบุคคลต่างด้าวเข้ามาอาศัยภายใน บริเวณชุมชน ภายในซอยสำนักงานที่ดิน หมู่ 10 ต.หนองปรื อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.กวิณวัชร์ อารยะสุริวงศ์ รอง.ผกก.ตม.จว.ชลบุรี และ พ.ต.ท.วีระชัย ถิ่นกมุท สว.ตม.จว.ชลบุรี พร้อมชุดสืบสวนตม.จว.ชลบุรี ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบกลุ่มชาวต่างชาติ จำนวน 68 ราย ชาย 60 ราย หญิง 8 ราย เบื้องต้นไม่พบเอกสารประจำตัว จึงได้นำตัวมาที่ ตม.จว.ชลบุรี เพื่อดำเนินการตรวจสอบเอกสารการเดินทาง หนึ่งในกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เผยว่า ส่วนใหญ่จะเป็นลูกจ้างร้านอาหารในพัทยา และรับจ้างทั่วไปตามร้านบริการอื่นๆ โดยจะเดินทางผ่านเส้นทางธรรมชาติ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และไม่มีใครช่วยเหลือ จากนั้น นั่งรถบัสเดินทางเข้ามายังพัทยา เหตุผลที่อยากเข้ามาในไทย เนื่องจากอยากหาเงินให้กับครอบครัว ประกอบกับประเทศของตนมีสงคราม จึงตัดสินใจเข้ามาทำงานในประเทศไทย ผู้ประกอบการเผยว่า ตนก็ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายเสมอ แต่มีเอเจนซี่รายหนึ่ง ที่รับต่อวีซ่าและทำใบอนุญาตการทำงาน เป็นจำนวน 48,100 บาท/คน ตนได้จ่ายเงินไปแล้ว แต่เอเจนซี่ดำเนินการช้าเป็นเดือน เป็นเหตุทำให้วีซ่าแรงงานของตนขาดอายุ และถูก ตม.จว.ชลบุรีจับ ตนรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็บริสุทธิ์ใจในสิ่งที่ตนทำว่าทำถูกต้องตามกฎหมายจริงๆ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ให้แรงงานต่างด้าว ทราบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และเตรียมส่งตัวไปยัง สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งเตรียมผลักดันส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง ต่อไป

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

'ตม.สมุทรสาคร' บุกตรวจหอพักย่านอ้อมน้อย  พบเจ้าของหอแอบซุกแรงงานต่างด้าวร่วม 100 ชีวิต

(10 ก.ค.67) ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 เพื่อเป็นการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สมุทรสาคร จึงได้ออกตรวจสอบการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าว รวมทั้งผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ โดยได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตามที่ได้รับแจ้งผลจากการตรวจค้น พบแรงงานต่างด้าวแอบพักอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมากนับ 100 คน

และได้มีการตรวจสอบกับทางหอพัก ปรากฏว่าผู้ดูแลหอพักไม่ยอมแจ้งว่ามีต่างด้าวมาพักอาศัยอยู่ให้กับทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ตามมาตรา 37 (2) และมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ จึงได้มีการดำเนินการ และดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร ได้ฝากประชาสัมพันธ์ถึงเจ้าของหอพักผู้ประกอบการและนายจ้างในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ในการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าว ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ต หอพัก หรือสถานประกอบการ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตาม ตรวจสอบ รวมทั้งช่วยเหลือหากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นได้ทันท่วงที

'เมียนมาถูกกฎหมาย' เหลืออด!! ซัดแรงงานเถื่อน 'เรียกร้องสิทธิ์-ด่าคนไทย' เมล็ดพันธุ์จาก 'NGO-คนได้สัญชาติ' หนุนหลัง ทำพม่าดีๆ ในไทยลำบาก

กลายเป็นประเด็นทางสังคมในไทยไปแล้ว เมื่อชาวเมียนมา ซึ่งเป็นคนที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือกลุ่ม White Collar เริ่มออกมาตอบโต้กลับกับกลุ่ม Blue Collar ที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานเถื่อนหรือเดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ตั้งแต่เรื่องที่มีการเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมเสมือนประหนึ่งประเทศไทยอยู่ภายใต้การปกครองของเมียนมา หรือการที่มีคลิปออกมาด่าคนไทยที่เข้ามาคอมเมนต์ในคลิปที่กลุ่มพม่าทำผิดกฎหมายบ้านเมืองของไทย จนไม่รู้ว่าใครจะต้องกลัวใครกันแล้ว

ว่ากันว่ากลุ่มเหล่านี้มีเหล่า NGO และกลุ่มสมาคมช่วยเหลือแรงงานพม่าที่พร้อมจะยื่นมือเข้ามา ซึ่งคนที่ทำงานตรงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนพม่าที่อยู่ไทยมาก่อนและได้สัญชาติไทยไปแล้ว พร้อมทั้งแนะนำชี้ทางให้เห็นว่าคนพวกนี้จะต้องทำอย่างไร ดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ตนเองพ้นผิด รวมถึงหลุดพ้นจากการเป็นจำเลยในสังคมไทย เป็นต้น

อย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ ว่าคนไทยเป็นคนง่าย ๆ มีคนบอกบท ให้ยกมือไหว้ ขอโทษออกสื่อ ก็จบ แต่ความจริงนั้นสะท้อนอีกแบบ เพราะการที่เราให้อภัยกันอย่างง่าย ๆ นั้น ทำให้คนอื่น ๆ ที่เห็นไม่กลัว และออกมาทำคลิปเลียนแบบกันเต็มโซเชียลเต็มไปหมด ดังที่เราเห็นได้จากคลิปหนุ่มบางบอนที่ถูกคนพม่าเอามาเลียนแบบเป็นกระแสอยู่ทุกวันนี้  

ในขณะที่ฝั่งชาวเมียนมา White Collar ต่างออกคลิปมาขอโทษขอโพยคนไทย พร้อมขอบคุณคนไทยที่ให้โอกาส ให้ที่อยู่ที่พักพิงให้เขาเหล่านั้น มีเงิน มีทอง สามารถจับจ่ายซื้อของ ทำบุญ ทำทาน ได้ตามที่เขาได้ตั้งใจ  

เอย่า คงบอกได้แค่ว่า คนไทยเข้าใจนะคะ เวลามีปลาเน่าสักตัว ก็มักจะส่งกลิ่นเหม็นกลบปลาดีไปหมด แต่การที่จะกำจัดปลาเน่านั้น หากจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนไทยฝ่ายเดียวคงจะไม่ได้แล้ว  

ดังนั้นพวกชาวเมียนมาดี ๆ ที่อยากอยู่อย่างสงบสุขเหมือนในอดีต คงต้องร่วมมือกับคนไทยในการสร้างสังคมที่น่าอยู่

เอย่า จำได้ว่าคนไทยเรามีความทรงจำที่ดีกับชาวเมียนมาประดุจเพื่อนบ้านที่แสนดีฉันใด ความรู้สึกแบบนั้นคงไม่สามารถสร้างได้จากฝั่งคนไทยเพียงฝ่ายเดียวฉันนั้น

ชาวเมียนมาต้องให้ความร่วมมือในการสอดส่องดูแลจัดการให้คนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ หรือรวมตัวกันเป็นแก๊งอั้งยี่ได้ และคนพม่าที่ดีในสังคมไทยก็ต้องช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ไทยในการจัดการกับกลุ่มนอกกฎหมาย หรือผู้ที่ต้องการใช้ประเทศไทยมาเป็นที่ซ่องสุมหรือกบดานด้วยเช่นกัน

อ้อ!! ที่กล่าวเช่นนี้ ก็ใช่ว่าคนไทยจะไม่มีความสามารถหาทางหรือจัดการได้เองนะคะ...

เพียงแต่ว่า ถ้าวันใดประเทศไทยไม่ต้องการคนชาติคุณขึ้นมาจริง ๆ วันนั้นพวกคุณอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาเหยียบบ้านนี้เมืองนี้อีกเลย 

เรายื่นโอกาสให้คุณ เพื่อให้คุณแสดงออกว่าคุณมีความรักในประเทศนี้ เคารพกฎหมาย กติกาของบ้านเมืองนี้ ไม่ใช่ช่วยคนของคุณแบบผิด ๆ เหมือนที่ทุกวันนี้เราเห็น ๆ กันอยู่

ไล่ออก!! 'สาวพม่าปากแจ๋ว' ด่ากราดคนไทยเจ้าของประเทศ ด้านบริษัทผู้จ้างไม่รอช้า พิจารณาลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด

(28 ก.ย.67) จากกรณี สาวพม่าปากแจ๋ว อัดคลิปลงโซเชียลสั่งสอนคนไทย โดยระบุว่า "แค่คนไทย แค่สลิ่มส่วนน้อยราว 2-3% เท่านั้น ที่ออกมาต่อต้าน (กลุ่มแรงงานพม่าผิดกฎหมาย) ไม่ต้องออกมาต่อต้าน ไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครให้ค่าคุณหรอก เป็นนายกฯ ให้ได้ก่อน ค่อยมาไล่"

ล่าสุด ทางบริษัทที่จ้างงานสาวพม่าคนดังกล่าว ก็รอช้า ได้ออกประกาศแจ้ง โดยมีข้อความดังนี้...

"เรียน  ท่านลูกค้าผู้มีอุปการะคุณ

สืบเนื่องจากกรณีร้องเรียนถึงพนักงานของบริษัท มาสเตอร์ เวท จำกัด มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และได้มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ (Facebook, TikTok) 

จากการสอบสวนและหลักฐานต่าง ๆ ที่ปรากฏ พบว่าพนักงานได้กระทำผิดจริง ในการนี้ขอเรียนให้ทราบว่า บริษัทให้พิจารณาลงโทษทางวินัยตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานขั้นสูงสุดแก่พนักงานผู้นั้น โดยให้สิ้นสุดสภาพการเป็นพนักงานนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ขออภัยต่อการกระทำที่เกิดขึ้น และขอให้คำมั่นว่า จะดูแลพฤติกรรมของพนักงานทุกคน เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก"

ภายหลังจากถูกไล่ออก สาวพม่าปากแจ๋วได้รีบออกคลิปมาขอโทษ กล่าวสำนึกผิดในสิ่งที่ทำ และขอโอกาสจากสังคม/คนไทยอีกครั้ง พร้อมกับคำพูดยอดฮิต "รู้เท่าไม่ถึงการณ์" โดยมีชาวเน็ตไทยลงมติเอกฉันท์ "ไม่ให้อภัยและคนต่างชาติที่กล้าต่อว่าคนในชาติที่ให้โอกาสทั้งงานและชีวิตเช่นนี้ ควรถูกส่งกลับประเทศของตนไปทันที"

ตัวเลขบ่งชัด!! ‘แรงงานต่างด้าว’ แห่ทะลักเข้าไทยฉ่ำ เหตุสวัสดิการเย้ายวนทั้งรักษาพยาบาล - การศึกษา

เอย่าเห็นคนมักพูดกันตอนนี้ว่าต่างด้าวครองเมืองแล้ว เพราะไปที่ไหนก็เจอแต่ต่างด้าวโดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐที่คนไทยผู้รับบริการรู้สึกเหมือนกลายเป็นบุคคลชั้นสองไปแล้ว  มาดูจากข้อมูลย้อนหลังสิบปีจะพบว่าในปี พ.ศ. 2557 มีแรงงานต่างด้าวที่ลงในระบบอยู่ 1,444,747 คน แต่มาถึงปี 2567 พบว่าขนาดยังไม่ครบปีเรามีแรงงานต่างด้าวในระบบอยู่ถึง 3,289,536 คน ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่เป็นคนเมียนมานั่นเอง

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้วอีกเรื่องที่ต้องกล่าวถึงคือการให้สวัสดิการกับแรงงานต่างด้าวเหล่านี้โดยแรงงานต่างด้าวเหล่านี้จะสามารถซื้อบัตรประกันสังคมได้  โดยราคาบัตรรักษาพยาบาลจะมีราคาตั้งแต่ 365 บาทต่อปีจนถึงราคา 3,200 บาทต่อปี ซึ่งเมื่อมาดูจำนวนผู้ขึ้นทะเบียนบัตรประชากรต่างด้าวแล้วพบว่า ในปีงบประมาณ 2564-65 มีจำนวน 541,905 รายในขณะที่ปีงบประมาณ 2566-67 มีผู้ขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น 551,662 ราย จากสถิติพบว่าเพิ่มขึ้น 1.8% โดยบัตรที่มีการขึ้นทะเบียนมากที่สุดคือบัตรราคา 3,200 บาทต่อปี ซึ่งมีอัตราผู้ขึ้นทะเบียนสูงสุดเป็นร้อยละ 30 ของทั้งกลุ่ม โดยจากผู้ขึ้นทะเบียนส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาถึง 68% ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงได้เกิดคำถามขึ้นว่า ทำไมชาวเมียนมาถึงมาทำบัตรสวัสดิการนี้ได้มากมายเหลือเกิน จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยยังเผยอีกว่าจำนวนคนต่างด้าวที่มาแห่ทำบัตรสวัสดิการดังกล่าวส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่และกรุงเทพ เป็นหลัก

สวัสดิการที่ต่างด้าวได้รับหากมีประกันสังคมคือ การประกันสุขภาพจะครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ การรักษา พยาบาล การควบคุมและป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพและ การฟื้นฟูสภาพร่างกายอันรวมถึงการฉีดวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กด้วย โดยจะไม่ครอบคลุมในรายการดังต่อไปนี้

1) โรคจิต 
2) การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาและสารเสพติด ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด 
3) ผู้ประสบภัยจากรถที่สามารถใช้สิทธิตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ 
4) ผู้ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน ที่สามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 
5) การรักษาภาวะมีบุตรยาก 
6) การผสมเทียม 
7) การผ่าตัดแปลงเพศ 
8) การกระทำใด ๆ เพื่อความสวยงามโดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

ก็เพราะสวัสดิการประเทศไทยมันดีอย่างนี้นี่เอง ต่างด้าวโดยเฉพาะชาวเมียนมาที่มีพวกหัวโจกเป็นพวกมาก่อนและสมอ้างว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์แล้วได้บัตรสัญชาติไทยจึงพยายามแห่แหนกันมาเมืองไทยพร้อมกับตั้งตนเป็นตัวตั้งตัวตีนายหน้าทำบัตรพวกนี้ให้ด้วย สังเกตได้จากตามโซเชียลมีเดียจะเห็นได้ว่ามีการโฆษณากันอย่างโจ๋งครึ่มยังไม่พอแถมรู้อีกว่าหากถือบัตรไทยจะมีโอกาสเข้าถึงการรักษาฟรีของ สปสช. ยิ่งทำให้คนพวกนี้กระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นคนไทยถึงขั้นยอมติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้ได้เป็นชาวชาติพันธุ์เพื่อสักวันหนึ่งจะมีโอกาสได้บัตรประชาชน

อีกอย่างที่ดังในกลุ่มคนพม่าก็คือเรื่องการได้รับการศึกษาภาคบังคับฟรี และหากลูกพวกเขาโตจนอายุ 20 ปีบริบูรณ์คนเหล่านี้จะขอสัญชาติไทยได้ ตามที่กฎหมายเปิดช่องไว้ และนั่นทำให้เป็นแผนระยะยาวที่พ่อแม่ชาวเมียนมาฝากความหวังไว้กับรุ่นลูกของเขา

เอย่าไม่ได้เป็นคนที่ต่อต้านการที่ต่างชาติอยากได้สัญชาติไทยแต่เราควรมีการคัดเลือกเอาแต่บุคคลที่มีคุณภาพและศักยภาพทั้งทางด้านการศึกษาและการเงินไม่ใช่เอาแค่คนที่มีเงินจ่ายเจ้าหน้าที่ เพราะอย่าลืมว่าเราได้พิสูจน์แล้วว่าคนเหล่านี้พอเวลาไทยเกิดปัญหากับชาวชาติพันธุ์เขา เขาเลือกชาวชาติพันธุ์ด้วยกันเองนะไม่ได้เลือกอยากเป็นคนไทย ดังนั้นการเป็นคนไทยเหล่านี้คือประตูแห่งความสะดวกสบายของพวกเขาเท่านั้น ผู้ที่เป็นรัฐบาลในขณะนี้ควรตรึกตรองไว้บ้างก็ดีนะคะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top