Monday, 5 May 2025
เสรีพิศุทธ์

ศาลยกฟ้อง” สิระ” ไม่หมิ่น “เสรีพิศุทธ์” ชี้ ติชมด้วยความเป็นธรรม

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.1149/2563 ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ  ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา มาตรา 329
กรณี เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2563 นายสิระ จำเลยได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ขยี้ข่าวทอร์ค กับยุคล วิเศษสังข์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ไบรท์ทีวี และเผยแพร่ทางยูทูปช่อง จาม.com  

ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องบ้านที่โจทก์เป็นเจ้าของว่ามีการปลูกรุกล้ำทางน้ำสาธารณะ กล่าวคือ จำเลยได้ตอบยืนยันข้อเท็จจริงต่อคำถามของพิธีกรที่ถามว่า “พอเขาร้องเรียน เขาบอกว่าบ้านหลังนี้มันยื่นออกมามากกว่าบ้านหลังอื่นอย่างนั้นหรือ” ซึ่งจำเลยตอบว่า “ใช่ แต่ไม่รู้ว่าหลังไหน  เขาไม่ได้เอารูปถ่ายมาให้เราดู แต่ว่าพอนั่งเรือหรือไปปุ๊บเนี่ย เอ้าบ้านหลังนี้หรือ เราเคยมา” อันเป็นการกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อกฎหมาย ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังด้วยการโฆษณา ประกอบกับตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จำเลยได้นำเรื่องดังกล่าวมาใส่ความ ใส่ร้าย และให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนด้วย เหตุเกิดที่กทม.และทั่วราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตามกฎหมาย

ในช่วงเช้าวันนี้ นายสิระ จำเลยเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมบุคคลใกล้ชิด ขณะที่ฝ่ายโจทก์มีผู้รับมอบฉันทะทนายความมาศาลเช่นกัน

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวกับพิธีกรในรายการนั้นว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2563 ได้พาสื่อมวลชนมาล่องเรือตรวจดูนั้น แม้ถ้อยคำไม่ได้ระบุว่ารุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ยังได้กล่าวตอบพิธีกรว่า เขาร้องเรียนว่าบ้านหลังนี้ยื่นมาในแม่น้ำ  ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่ารุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม้จะเป็นการหมิ่นประมาท แต่ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็น หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร ที่ประชาชนและบุคคลทั่วไปให้ความสนใจ

การที่นายสิระ ซึ่งเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎรได้รับการร้องเรียนจากประชาชน จึงพาสื่อมวลชนไปตรวจสอบนั้นเป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขั้นตอนหลังจากตรวจสอบแล้ว ก็ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ และส่งเรื่องให้กรมเจ้าท่าดำเนินการต่อไป เป็นประโยชน์และตอบข้อสงสัยว่ามีการรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ แม้จะมีถ้อยคำหมิ่นประมาท แต่ก็ไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่าบ้านรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาแต่อย่างใด นอกจากนี้การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวกลับเป็นผลดีต่อโจทก์เอง ที่จะได้ยืนยันข้อเท็จจริง และแสดงให้คนทั่วไปเห็นถึงความโปร่งใสในการทำงานของโจทก์

ดังนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมด้วยความเป็นธรรม ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 พิพากษายกฟ้อง  

 ภายหลังฟังคำพิพากษาเสร็จแล้ว นายสิระ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า คดีนี้ตนใช้สิทธิ ส.ส.เพื่อตรวจสอบพล.ต.ท. เสรีพิศุทธ์  ที่เป็น ส.ส. เช่นกัน อีกทั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต้องขอบคุณตนด้วยซ้ำที่ตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อแสดงความโปร่งใส

'ปารีณา' เปิดรับหลักฐานจัดการ 'เสรีพิศุทธ์' อ้าง!! 'รุกลำน้ำเจ้าพระยา - กาญจนบุรี'

“ปารีณา” เปิดรับข้อมูลจัดการ “เสรีพิศุทธ์” ก่อนยื่น ป.ป.ช. 18 เม.ย. รุกลำน้ำเจ้าพระยา-เมืองกาญจน์ สวมบทอดีตลูกพรรคดีเด่น ยันขึ้นป้าย “บิ๊กป้อม” ไม่ใช่อยากเป็นนายกฯ แต่ส่งสัญญาณยุบสภา เตรียมเลือกตั้ง

วันนี้ (13 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ปารีณา ไกร์คุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว ระบุว่า “สุขสันต์วันสงกรานต์ ปีนี้ไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านร่างหนังสือร้องเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กรณีบุกรุกลำน้ำที่เจ้าพระยา และกาญจนบุรี ที่จะยื่นต่อ ป.ป.ช.ในวันจันทร์นี้ ซึ่งปารีณายังต้องการข้อมูลอีก จึงขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน และข้าราชการที่อยากจะช่วยปารีณาจัดการกับอดีตบิ๊กตำรวจท่านนี้ สามารถส่งเอกสารข้อมูลมาทางไปรษณีย์ที่ 99/9 หมู่ 3 ตำบลบางโตนด อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี 70120 ทั้งนี้ ปารีณา ยินดีรับเรื่องร้องเรียนทั่วแผ่นดิน พร้อมรับใช้พี่น้องประชาชนนอกสภาต่อไป”

'โฆษกรบ.' ฉะ!! 'เสรีพิศุทธ์' ไม่รู้จริงอย่าพูด ยัน!! นายกฯ ไม่เคยพูดคนจนจะหมดประเทศ

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวพาดพิงนายกรัฐมนตรีว่า พูดในสิ่งที่ทำไม่ได้ หลังเคยบอก 4 เดือนคนจนจะหมดประเทศว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่เคยพูดว่าอีก 4 เดือนคนจนจะหมดประเทศ สามารถไปย้อนดูได้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปเอาที่ไหนมาพูด การที่ท่านชอบย้ำนักหนาว่าตัวเองเป็นถึงอดีต ผบ.ตร. แต่กลับอ่านข่าวแบบลวก ๆ แล้วเอามาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นนั้น มีแต่จะทำให้ท่านเองถูกคนอื่นมองว่าไม่สมราคาคุย ท่านควรจะตรวจสอบให้ดีก่อนว่า ในข้อเท็จจริงแล้วท่านนายกฯ ได้พูดแบบนั้นจริงหรือไม่ ไม่ใช่รีบออกมาตีกิน เพื่อหวังเรียกความนิยมให้ตัวเองแบบนี้

'ศิริกัญญา' ฟันธงโหวตนายกฯ รอบ 2 พิธาได้เสียงเพิ่มจาก ส.ว. ถาม!! ใครคือผู้ที่ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปเชิญ 'ชทพ.-ปชป.'

(17 ก.ค. 66) ที่อาคารไทยซัมมิท น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล คาดว่าการประชุมวันนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี และมีการหารือเรื่อง เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งที่สอง รวมถึงเรื่องการยกเลิกม.272 ที่พรรคก้าวไกลได้ยื่นไปก่อนหน้านี้ โดยขอเสียงสนับสนุนจาก 8 พรรคร่วม พร้อมทั้งไม่กังวลกับการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2

"เราได้ทำตามสิ่งที่ได้ให้สัญญากับประชาชนไว้ หากประชาชนยังไม่ถอยเราก็ยังไม่ถอย และคิดว่าจะมีการเสนอชื่อคุณพิธาอีกรอบนึงตามสมรภูมิที่เราได้แจ้งกับประชาชนไว้"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เจรจาการดึงพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาล มีการระบุว่าได้รับการทาบทามจากพรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบเรื่องว่าใครคือ ผู้ที่ให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปเชิญ ซึ่งหากได้เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคชาติไทยพัฒนาก็จะได้จำนวนเสียงที่มากขึ้น
.
ส่วนเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนาระบุว่าไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่แก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขที่เป็นการเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยได้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า หากเป็นเงื่อนไขมาตรา 112 ก็คงไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ที่มีก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้ง
.
เมื่อถามว่าการหารือระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยในวันนี้จะราบรื่นหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า จะต้องราบรื่นและเป็นไปตามที่เราได้คาดหวังไว้
.
ซักว่ายังยืนยันในจำนวนเสียงส.ว.หรือไม่เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการทราบจำนวน ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เรื่องนี้เรามีการสื่อสารด้วยกันมาโดยตลอด ว่าทางพรรคก้าวไกลจะติดต่อท่านไหนและพรรคเพื่อไทยจะช่วยติดต่อคือส.ว.ท่านไหน รวมถึงมีการพูดคุยกันมาโดยตลอด ซึ่งการโหวตในรอบนี้จากที่มีการทำงานกันมาได้คะแนนเสียงเพิ่มเติมจากจำนวนส.ว.ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนั้น

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า จริง ๆ แล้วเราไม่มีความกังวลใด ๆ เราสัญญากับประชาชนไว้ว่าจะสู้กับ 2 สมรภูมิ ซึ่งเราจะสู้อย่างเต็มที่เพื่อเสนอนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมคาดหวังว่าจากสิ่งที่เราได้ทำแคมเปญ จะทำให้ส.ว.เปลี่ยนใจมายืนเคียงข้างประชาชนก็คิดว่าเราจะได้คะแนนเสียงเพิ่ม ส่วนเรื่อง 2 สมรภูมิหากส.ว.ที่ต้องการปิดสวิตตัวเอง ในม.272 ซึ่งเป็นไปตามที่เราได้แจ้งกับประชาชนและสื่อมวลชนไว้ หากการต่อสู้ทั้ง 2 สมรภูมิไม่เป็นผลเราก็จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ถามว่าได้มีการกำหนดระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ไทม์ไลน์ต่าง ๆ จริง ๆ แล้วต้องขึ้นอยู่กับประธานสภา ที่จะบรรจุวาระม.272 ซึ่งคาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งตามระเบียบแล้วต้องเอาเข้าภายใน 15 วันอยู่แล้ว จึงคาดว่าจะจบภายในสัปดาห์และทราบทิศทางต่อไปอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยไม่พอใจกับการแก้ไขม.272 เหมือนเป็นการมัดมือชกพรรคเพื่อไทย จะมีการหารือในวันนี้ด้วยหรือไม่ ศิริกัญญากล่าวว่า ประเด็นม.272 จะเป็นประเด็นที่หารือกันในวันนี้เป็นการพูดคุยทำความเข้าใจ พร้อมยืนยันว่าการแก้ไขม.272 ไม่ได้เป็นการมัดมือชกใด ๆ และคิดว่าเราน่าจะทำภารกิจนี้ร่วมกันทั้ง 8 พรรค โดยยืนยันว่าหาแก้ไขม.272 ไม่สำเร็จพร้อมเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลตามที่ได้แถลงไว้กับประชาชน

เมื่อถามต่อว่าจะไม่เป็นการยืดเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญายืนยันว่า ไม่ได้เป็นการยืดเวลาอย่างแน่นอนซึ่งจะทราบผลในอาทิตย์หน้า หากผ่านสามารถดำเนินการวาระที่ 2 วาระที่ 3 แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ และไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นการยืดระยะเวลาไปไกล ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดตั้งรัฐบาลและนำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตน จากวันที่มีการเลือกตั้งใช้เวลาทั้งสิ้น 7 สัปดาห์ หากเราต้องการใช้เวลาแก้ไขม.272… 2-3 สัปดาห์ไม่ใช่การยืดเวลาอะไรอย่างใด

ซักว่ามีความมั่นใจ หรือไม่ว่าการแก้ไขม.272 จะเป็นทางออกของพรรคก้าวไกล ศิริกัญยากล่าวว่า เราเห็นใจส.ว.หลายท่านและเราก็ทราบว่า มีกระบวนการที่จะไม่ให้บุคคลเหล่านั้นมาโหวตให้กับนายพิธา ถูกขู่เอาชีวิตและเราเห็นใจและคิดว่านี่คือทางออกที่หลายฝ่ายสบายใจ รวมถึงส.ว.ด้วยที่อยากจะปิดสวิตช์ตัวเอง

ถามอีกว่ามีความเข้าใจในเรื่องสัดส่วนในการแก้ไขม. 272 ต้องใช้เสียงจากฝ่ายค้าน น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการโหวตที่อยู่ในขั้นที่ 3 ที่จะต้องใช้คะแนนเสียงจากฝ่ายค้าน ซึ่งเราได้มีการคำนวณแล้ว คิดว่าน่าจะผ่าน ถึงวาระที่สาม

เมื่อถามว่าเหตุใดพรรคก้าวไกลจึงไม่ถอยการแก้ไขมาตรา 112 แทนที่จะมาเดินหน้าแก้ไขม. 272 น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราได้สัญญากับประชาชน ผ่านการหาเสียงเลือกตั้ง และแล้วเราก็คิดว่าการแก้ไขม.112 เป็นเพียงข้ออ้าง ที่จะไม่โหวตให้กับพรรคก้าวไกล ถึงแม้ว่าเราจะยอมถอย และเสียสัจจะที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน ก็ไม่ได้เป็นข้ออ้างที่ทำให้ส.ว. จะไม่โหวตให้กับเราเพราะเรื่องการแก้ไขม.112 อย่างแน่นอน ดังนั้นเราขอเลือกที่จะไม่เสียสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน

ถามว่าไม่กังวลเรื่องการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ยาวใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่าไม่ถึงขั้นนั้นและไม่ได้ใช้ระยะเวลาเป็นปีอย่างมากแค่ 3 สัปดาห์และอยู่ในวิสัยที่เราสามารถจัดการได้อย่างแน่นอนซึ่งนิด้าโพลได้มีการเผยแพร่อย่างชัดเจนว่าประชาชนอยากให้ทำการโหวตให้กับนายพิธาไปเรื่อยๆ

'เสรีพิศุทธ์' กล่อม 'ก้าวไกล' นึกถึงบุญคุณ ‘เพื่อไทย’ ช่วยหนุนโหวต เตือน!! 'ม็อบด้อมส้ม' ผิด กม. ยกเคส 'หยก' เป็นลูกฆ่าทิ้งไปแล้ว

(3 ส.ค. 66) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนทางการเมืองว่า มีจุดยืนเดิมคือร่วมกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะไม่สามารถนำพรรคก้าวไกลมาร่วมได้ เราก็ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลจะออกไป ก็ไม่ใช่ปัญหา ยังเห็นเป็นเหมือนน้อง ด้วยความปรารถนาดีอยากให้จัดรัฐบาลได้

เมื่อถามว่าถ้ามีพรรค 2 ลุงมาร่วมรัฐบาลด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนเคยตอบไปแล้วว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนรัฐประหาร แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตนรับได้ แต่ถ้าจะเหมารวม พล.อ.ประวิตร เป็นคนปฎิวัติด้วย อย่างนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ เป็นผู้สนับสนุน ก็ต้องถือว่ารวมด้วย ฉะนั้นตัวหลักที่ตนไม่เอาคือ พล.อ.ประยุทธ์

“พรรคเพื่อไทยเขาจัดตั้งรัฐบาลถ้าเขาเอา พล.อ.ประวิตร แต่ผมไม่เอา ผมก็อยู่ไม่ได้ จะให้ผมไปอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ จะให้ไปอยู่ตรงไหน ก็ต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. ผมแนะทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลไปแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกแล้ว ไม่มีลุงแล้ว ก็เหลือแต่พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคก็ไม่ใช่คนปฎิวัติ แล้วทำไมจะต้องแข็งตัว จนไปร่วมกับรวมไทยสร้างชาติไม่ได้ ถ้าให้ผมเป็นคนตัดสินใจไม่ว่าผมจะอยู่ก้าวไกลหรือเพื่อไทยก็ร่วมได้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ อาจจะมีปัญหาต้องเลื่อนออกไปอีกเพราะมีเหตุไม่ลงตัวว่า บ้านเมืองวุ่นวายมานาน 8-9 ปี เมื่อมีการเลือกตั้งมาแล้ว และ สว. ที่จะพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกฯ ต้องสามัคคีกัน จะไปเอาคำพูดตรงนั้นตรงนี้มาเป็นประเด็น อย่างที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย เคยพูดให้แก้มาตรา 112 มันไม่ใช่ประเด็น ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเคยพูดว่าไม่เอาพรรคพลังประชารัฐต้องเข้าใจว่ามันไม่ใช่สัญญา ยังไม่ถึงขั้นทำเอ็มโอยูด้วยซ้ำ เป็นการพูดบนเวทีเพื่อหาเสียงเท่านั้น เพื่อให้ประชาชนลงคะแนนให้ ถ้าคิดว่าผิดคำพูดไปเสียหมดก็ไม่ต้องจัดแล้วรัฐบาล

เมื่อถามว่ามีการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลใหม่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่เคยสนใจตำแหน่ง ตนอยากจะช่วยให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้ และตนไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งสิ้น เพราะพล.อ.ประยุทธ์ไปแล้ว

“เห็นพรรคก้าวไกลบอกว่า จะไม่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย อยากฝากให้ก้าวไกลคิดใหม่ ครั้งก่อนที่ก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล เพื่อไทยก็ลงคะแนนให้ ครั้งนี้เพื่อไทยจัด ก้าวไกลจะตอบแทนบุญคุณไม่ได้หรือ ถึงแม้จะเป็นจะไปเป็นฝ่ายค้านแต่ก็มี 150 เสียง ถ้าลงให้ทั้งหมดก็สิ้นเรื่อง ถ้าลงทั้งหมดจะทำให้ประเทศชาติเดินหน้าได้ สิ่งที่ก้าวไกลจะได้คือแมนจริงๆ เลือกตั้งครั้งหน้าจะทำให้พรรคก้าวไกลได้คะแนนมากยิ่งขึ้น ถึงเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลแต่ก็ต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งก้าวไกลไม่ใช่จะเป็นฝ่ายค้านไปตลอด รับรองสนับสนุนคะแนนเสียงไปก่อน 3-4 เดือนมีการปรับคณะรัฐมนตรี อาจเอาพรรคอื่นออกเอาพรรคก้าวไกลเข้าไปได้ ดังนั้นขอชี้ทางสว่างให้พรรคก้าวไกล” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าหลังพรรคเพื่อไทยปล่อยมือพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้ายทำให้มวลชนไม่พอใจมีกระแสต่อต้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การที่มวลชนบุกไปยังพรรคเพื่อไทย สาดสีและเผาหุ่น ตรงนี้ไม่ใช่แค่ไม่เหมาะสม แต่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย เมื่อเลือกเขามา ก็หมดหน้าที่แล้ว พรรคจะบริหารจัดการอย่างไรเป็นหน้าที่พรรค ไม่ว่าพรรคไหนจัด ก็เป็นเรื่องของพรรคการเมืองนั้นๆ ถ้าพรรคไหนไม่ดีครั้งหน้าก็อย่าไปเลือก ถ้าทำดีครั้งหน้าก็เลือกให้มากขึ้น ไม่ใช่พอเลือกตั้งก็จะเอาตามใจตัวเอง

“พรรคก้าวไกลไปตามใจด้อมมาเกินไปจนแพ้โหวตเสียงไม่พอ เพราะไม่สามารถหาเสียงเพิ่มได้ ตรงนี้ก็เป็นบทเรียนก้าวไกลที่ไปเชื่อคนภายนอกมากเกินไป ส่วนเรื่องม็อบเราก็เห็นหน้ากันอยู่ บุกรุกเข้าไปพรรคเพียงหนึ่งตารางนิ้ว ก็ผิดกฎหมาย แล้วก็ยังไปจุดไฟเผา เสร็จแล้วก็เดินสะบัดก้น โดยเฉพาะเด็กหยก ที่ไม่เชื่อฟังอาจารย์ ปีนกำแพง ไม่แต่งชุดนักเรียนสงสารแม่เขา ถ้าเป็นลูกผมไม่ได้ ผมฆ่าทิ้งเลย เด็กแบบนี้เอาไว้ได้ไง ถ้าเป็นลูกผมผมไม่เอา” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top