เกิน 100 ที่นั่ง 'ฝันกลางวัน-ฝันทะลุแดด' ของพรรคก้าวไกล ในจังหวะลิเกเซผิดบท ถูกตีตราเป็น 'คนโกหก' ไม่ทำชั่ว...ไม่มี!!
อีก 17 วันก็จะถึงวันเข้าคูหาชี้ชะตาประเทศไทยกันแล้ว...ต้องยอมรับว่าเกมบดขยี้กันเองในฝ่ายที่สถาปนาตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย อย่าง 'พรรคเพื่อไทย' กับ 'พรรคก้าวไกล' ช่างแหลมคมและออกอาการได้เสียกันเด่นชัด
พรรคเพื่อไทยนั้นเพิ่งจะโงหัวขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเติมเงินดิจิทัลหมื่นบาท...และพอจะเริ่มตั้งหลักปราศรัยเรื่องดีลลับไม่ลับกับพรรคพลังประชารัฐได้บ้าง...ถ้าเป็นการชกมวยก็ต้องบอกว่าขณะนี้เป็นยกที่ประคองตัวไม่ให้ถูกน็อกหรือถูกนับยาว...ซื้อเวลารอออกอาวุธยกต่อๆ ไป...
ต่างกับพรรคก้าวไกล...กำลังก้าวยาวๆ ห้าวเป้งกันทั้งพรรค อานิสงส์จากลูกขยัน บวกนโยบายที่ชัดเจนและเวทีดีเบตที่ช่วยเป็นลมใต้ปีกให้เรตติ้งขึ้นสูง ส่งให้โพลทุกสำนักชี้ว่า 'กำลังพุ่ง' ถึงขั้นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคฟันธงว่าจะไปไกลกว่า 100 ที่นั่ง...
ยามนี้ 'ติ่งพรรคแดง' กับ 'ติ่งพรรคส้ม' จึงบี้เบียดกันทั้งบนดินและใต้ดิน...ติ่งส้มบอกว่า “เลือกเพื่อไทยได้ป้อม” ติ่งแดงบอกว่า.."เลือกก้าวไกลได้ตู่"
อย่างหลังนี่พยายามอธิบายว่า ถ้าเทคะแนนให้ ก้าวไกล มากๆ พรรคเพื่อไทย จะอดเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ฟากฝั่งลุงตู่จะจัดตั้งรัฐบาลสืบทอดอำนาจต่ออะไรประมาณนั้น...
ไม่ว่าจะอย่างไรต้องยอมรับในกระแสที่ร้อนแรงของพรรคก้าวไกล 'ชัยธวัช ตุลาธน' เลขาธิการพรรคถึงขั้นมั่นใจว่าจะได้ปาร์ตี้ลิสต์ในระดับ 30 ที่นั่ง นั่นแปลว่าต้องได้คะแนนดิบถึง 10 ล้านเสียง...ซึ่งอาจจะเป็นไปได้แต่ก็ยากมาก เพราะปี 2562 พรรคอนาคตใหม่หรือก้าวไกลในปัจจุบัน ขนาดมีส้มหล่นจากพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกยุบได้คะแนนพรรค 6.3 ล้านเสียงเท่านั้น...
ย้อนไปปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้ 81 ที่นั่ง แยกเป็นส.ส.เขต 31 ปาร์ตี้ลิสต์ 50 แต่ปัญหาสำคัญของพรรคก้าวไกลในรอบนี้ก็คือ กติกาการเลือกตั้งเป็นบัตรสองใบ (ร้อยหาร) จำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลดจาก 150 เหลือ 100 คน จุดชี้ขาดสำคัญจึงอยู่ที่ส.ส.เขต 400 ที่นั่ง...
แม้ขณะนี้ก้าวไกลจะมีคะแนนพุ่ง แต่ก็พุ่งอยู่ในลำดับ 2-5 เป็นส่วนใหญ่ แต่การจะได้เป็น ส.ส.เขต จะต้องมาเป็นที่หนึ่งในเขตเท่านั้น ไอ้คะแนนที่สองที่สามที่สี่ที่ห้า...ได้มาก็ถูกทิ้งน้ำ...นี่คือความโหดร้ายของการเลือกตั้งแบบบัตรสองใบ
