Wednesday, 21 May 2025
เลียบการเมือง

'สว.สีน้ำเงิน-บิ๊กเกรียง' ผงาด!! จับตาเกมเปลี่ยน ขั้วสีแดงดิ้นเร่า!!

เป็นไปตามที่ 'เล็ก เลียบด่วน' วิเคราะห์เอาไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนแทบทุกประการว่า สุดท้ายแล้วสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ เครือข่ายพรรคสีน้ำเงินกับสีแดงจะยึดสภาสูง...

มือกราฟิก ก็ออกแบบได้เห็นภาพ อักษร ส.สีน้ำเงิน อักษร ว.สีแดง...

อย่างไรก็ตาม ที่คาดหมายพลาดไปบ้างก็ตรงเครือข่ายพรรคสีแดงที่ไม่เป็นไปตามเป้า เดิมคาดว่าอย่างน้อยต้อง 40 คน เอาเข้าจริงตัวเลขคร่าวๆ ขณะนี้มีประมาณ 15-18 คนเท่านั้น

ภาพสรุปที่คำนวณจัดกลุ่มผลเลือก สว.ขณะนี้ประมาณว่า...

- เครือข่ายพรรคสีน้ำเงิน 120-125 คน
- เครือข่ายพรรคสีส้ม 15-20
- เครือข่ายพรรคสีแดง 15-18
- เครือข่ายพรรคบ้านในป่า 10 คน
- กลุ่มทุน+อื่นๆ 30-35 คน

ศึกใหญ่ครั้งนี้ต้องยอมรับว่า...บ้านใหญ่บุรีรัมย์เผด็จศึกได้อย่างราบคาบราบเรียบ เข้าเป้าแทบทุกอำเภอ, จังหวัด, ภาค และประเทศ...เพราะชัดเจนในการเล่นบทวางตัวโหวตเตอร์ วางตัว ว่าที่ สว.ไม่แตกแถว-ทรยศหักหลัง ศึกษากฎกติกามารยาทการลอดช่องกฎหมายและช่องทางธนาธิปไตยแบบไร้รอยต่อ...

กลุ่ม สว.สมชาย แสวงการ ที่พยายามรวบรวมหลักฐานการฮั้วการทุจริตทำผิดหน้าที่ของใครต่อใครคงจะมีเป็นสิบแฟ้มในขณะนี้ แต่ไม่แน่ว่าจะหยุดการเดินหน้าประกาศผลในวันที่ 2 ก.ค.ได้หรือไม่...

ล่าสุดท่าน สว.กล้าณรงค์ จันทิก แห่ง กมธ.องค์กรอิสระ ออกมาช่วยอีกแรงทำหนังสือถึงประธานกกต.ชี้ทางสวรรค์ให้ กกต.รอดตาย ด้วยการเสนอแนะให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.ป.ด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 59 ซึ่งกำหนดว่า...

"ก่อนประกาศผลการเลือก หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกและสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่ หรือนับคะแนนใหม่..."

ไม่ทราบว่าจะเข้าตา กกต.หรือไม่...แต่ว่ากันว่าถ้ากกต.ดูแคลน หรือไม่นำพางานนี้สนุกแน่...

อย่างไรก็ตาม...สมมติ ว่าทุกอย่างเดินหน้าไปได้ สว.ชุดใหม่ได้เข้าแทนที่ชุดเก่า ก็ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การเมืองจะเปลี่ยนไป ดุลยภาพของสว.ชุดใหม่จะไหลไปทางสีน้ำเงิน...ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นาทีนี้จะมีการพูดถึงชื่อว่าที่ ประธานวุฒิสภาคนใหม่ ว่าน่าจะเป็น 'บิ๊กเกรียง' พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีต ผช.ผบ.ทบ. และรองประธานสภา จะเป็น มงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง/ผู้ว่าบุรีรัมย์ กันแล้ว...

โดยเฉพาะ พล.อ.เกรียงไกร หรือ 'บิ๊กเกรียง' นั้น จัดเป็นนายทหารที่ครบเครื่อง โปรไฟล์ดี นอกจากจะเป็นอดีตประธานที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย (อนุทิน  ชาญวีรกูล) แล้ว ยังเป็นคนนักเรียน วปอ.รุ่นที่ 61 รุ่นเดียวกับอนุทิน อีกด้วย ขณะเดียวกันก็ยังเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ตท.) รุ่นที่ 22 และ จปร.33 รุ่นเดียวกับ 'บิ๊กบี้' พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ นายทหารคอแดง อดีต ผบ.ทบ.คนก่อน อีกตะหาก...

ส่งท้าย...โดยนัยการผงาดยึดสภาสูงได้ในครั้งนี้ ทำให้ดุลอำนาจของพรรคสีน้ำเงินกดทับพรรคสีแดงอย่างมีนัยสำคัญ...วันก่อนทักษิณ ชินวัตร ออกอาการแบบเห็นๆ เมื่อนักข่าวถามถึงกรณีเลือกสว.ที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สอบตก...โดยพลิ้วไปโจมตีว่าคณะปฏิวัติออกกฎกติกาแบบไม่เคารพประชาชน ไปโน่นเลย...

ไปสภากาแฟวงไหนวันนี้ เริ่มพูดถึงตัวเลข สส.สมัยหน้า ว่าพรรคเพื่อไทย อาจเหลือตัวเลขสองหลัก (ต่ำร้อย) ส่วนภูมิใจไทยผงาดเป็นสามหลัก (ร้อยขึ้น)...บางวงก็พูดถึงขั้นว่า อาจมีการเปลี่ยนนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคสีน้ำเงิน หากเดือนสิงหา ศาลรธน.วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และชี้ว่า เศรษฐา ทวีสิน สิ้นคุณสมบัติที่จะเป็นนายกฯ เพราะผิดตามที่ 40 สว.ร้อง...

ความพยายามบ่มแก๊ส 'อุ๊งอิ๊ง' ให้สุกงอมโดยเร็ว  ดำเนินไปแบบรัวๆ ในขณะนี้ น่าจับตาเป็นยิ่งนัก!!

‘น้ำเงินรวมส้ม’ ส่ง ‘อนุทิน’ ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯ หลากห้องไลน์ประสานเสียงสวนฉับ “เพ้อ!!”

“ดีลพลิกฝ่ายอนุรักษ์ตื่น ขืนรบดะทั้งส้ม-แดง มีแต่เจ๊งลูกเดียว จับตาอนุทินขึ้นแป้นนายกฯ !!!

สภาพดีลใหญ่พลิก และมีทีท่าว่าฝ่ายอนุรักษ์ไม่สามารถประสาน หรือเดินคู่ไปกับพรรคเพื่อไทยได้อีกแล้ว

ให้จับตาดูเศรษฐาถูกสอยวันที่ 10 กรกฎาคม จากนั้นดันอนุทินขึ้นเป็นนายกฯ จับมือก้าวไกล ฟื้นประชาธิปไตย ฟื้นเศรษฐกิจและความสุจริตในการปกครองประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้งนิรโทษกรรมทุกฝ่ายเดินหน้าประเทศไทย..”

คัดลอกให้อ่านเต็ม ๆ ทั้งดุ้นจากเฟซบุ๊กของ ‘PaIsal Puechmongkol’ หรือ ‘ไพศาล พืชมงคล’ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา ระดับบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘กูรู’ โพสต์อย่างนี้มีหรือจะรอดจากสายตาสื่อมวลชนยุคดิจิทัล ฉกไปลงข่าวพาดหัวกันแบบง่ายดายแทบทุกสำนัก...ยอดวิวกระฉอกกระฉูดไปตาม ๆ กัน..แค่เห็นหัวข่าว ‘คดีพลิก’ / ‘พลิกดีล’ / ‘น้ำเงินจับมือส้ม’ ฯลฯ ก็ทำเอาตาวาวแล้ว…

ไพศาลนั้นเป็นนักกฎหมาย เจ้าของสำนักธรรมนิติ เป็นคอลัมนิสต์ 2-3 นามปากกาดัง ไม่เสียมารยาทมากก็เปิดนามปากกา ‘สิริอัญญา’ สักชื่อหนึ่งเพราะเป็นที่รู้ ๆ กันทั่วไป และยังเป็นอุปนายกของสภาวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีน เป็นคนที่รอบรู้เรื่องจีนแบบทะลุกำแพงเมืองจีน

ในทางการเมืองหลังสุดเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกฯ ที่ชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก่อนหน้านั้นเคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปี 2549-2551 ในช่วงก.ย. 2549 ตอน ‘บิ๊กบัง’ ทำรัฐประหาร 19 ก.ย. เคยถูกเรียกไปช่วยเขียนแถลงการณ์อยู่หลายฉบับ…

การวิเคราะห์กึ่งฟันธงของไพศาลเรื่องอนุทินจะได้ขึ้นนายกฯ เศรษฐาจะถูกสอยร่วง ฝ่ายอนุรักษ์จะเลิกใช้บริการพรรคเพื่อไทยแล้ว...อนาคตภูมิใจไทยจะจับมือกับก้าวไกล หนุนอนุทินเป็นนายกฯ นั้น ‘เล็ก เลียบด่วน’ เห็นว่าไพศาลจับประเด็นได้โดนใจ แต่ในส่วนของความเป็นไปได้ ต้องขอฟันธงกลับว่า...ยากส์ส์ส์ส์...จะไม่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ในสมัยหน้าและอาจตลอดไป ตราบใดที่พรรคส้มยังไม่สลัดหลุดจากภาพลักษณ์ล้มเจ้า...

แค่นี้ทำไมกูรูไพศาลถึงไม่ตงิดในเรื่องนี้?

ในฐานะเป็นคนวิเคราะห์ข่าวเล็ก ๆ คนหนึ่ง รู้ดีว่าการคาดหมายในสิ่งที่จะเป็นจริง ๆ กับที่เราอยากจะให้เป็นนั้น บางครั้งมันแยกกันยากมาก...พักหลังกูรูไพศาลยึดในสิ่งที่อยากจะให้เป็นมากไปหน่อยเลยผิดพลาดบ่อยครั้ง…

กรณีนี้ครั้งนี้ในห้องไลน์กลุ่มสำคัญหลายห้องเขาพาดพิงกูรูไพศาลว่า “เพ้อ” ไม่มีใครช่วยแก้ให้เลย..!!

สรุป ‘เล็ก เลียบด่วน’ ก็เคยวิเคราะห์ว่าฝ่ายอนุรักษ์ที่ผูกติดดีลกับเพื่อไทยนั้นเหนื่อยรากเลือด...แต่ก็ยังดีกว่าที่จะไปผูกพรรคส้มที่มีภาพลักษณ์ล้มเจ้า…ดุลอำนาจพรรคสีน้ำเงินตอนนี้สูงมาก แต่อนุทินมีโอกาสในอนาคต โดยไม่ต้องใช้บริการพรรคส้ม…

ขอแถมท้าย…ส่วนเรื่อง สว.สีน้ำเงินนั้น ข่าวล่าสุดระบุว่าจะประกาศรับรองผลสัปดาห์หน้า ให้ไปรายงานตัววันที่ 7 ก.ค. ว่าที่ประธานวุฒิสภา หรือประมุขสภาสูงคนใหม่ ขอขานชื่อแปะไว้ตรงนี้ เต็งหนึ่ง ชื่อมงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง/อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เคยเป็นนกต่อสู้ หลบภัยไปอยู่กับ พคท. ช่วงสั้น ๆ หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519

ส่วน เต็งสอง ชื่อพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตผช.ผบ.ทบ.

'วิปวุฒิฯ' ผุดกมธ.สอบ 'ฮั้วทั้งแผ่นดิน' ศึกวัดใจวัดกึ๋น 'กกต.' VS 'สว.ชุดเก่า'

พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า...งานเข้าเต็ม ๆ...สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 ท่าน 7 อรหันต์ รวมทั้งผู้มากบารมีแทบจะเหนือกว่า 7 อรหันต์...แสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานกกต.

แต่เดิมกกต.จะทำพิธีสอยว่าที่สว. สัก 5-6คน แล้วประกาศรับรองผลเลือกสว. ชุดใหม่ วันที่ 8 หรือ 9 ก.ค. พร้อมตั้งคณะทำงานที่จะตรวจสอบไต่สวนให้ดูน่าคร้ามเกรง...แต่สุดท้ายออกอาการชักเข้าชักออก เมื่อกระแสการร้องเรียนจากผู้สมัคร จากสว. ชุดปัจจุบัน ออกมารัว ๆ และเป็นข้อมูลหลักฐานที่ดูแล้วน่าเชื่อถือไม่น้อย...

แต่หมัดเด็ดที่ทำเอา กกต.ตาค้าง  ออกอาการขาตายก้าวไม่ออก นั่งตรวจสอบไต่สวนข้อร้องเรียนกันแบบมึน ๆ งง ๆ ก็คือเมื่อ 5 ก.ค. คณะกรรมการประสานงานกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิ ที่มีประธานวุฒิสภา พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิฯ นั่งหัวโต๊ะ เรียกประชุมวิปวุฒิ ซึ่งประกอบด้วยประธานกมธ. สามัญทุกคณะมาประพิจารณา กรณีสว. ตัวตึง สมชาย แสวงการ ยื่นญัตติเสนอให้ตั้งคณะกมธ.วิสามัญศึกษาผลการเลือกสว. เพื่อถอดบทเรียน...

ที่ประชุมวิปวุฒิเห็นชอบนำเข้าที่ประชุมวุฒิสภาวันที่ 8 ก.ค. ซึ่งเชื่อขนมกินได้ว่าผ่านแน่ ตั้งกมธ.วิสามัญแน่ ๆ ตอนนี้กำลังหาคำตอบสุดท้ายตำแหน่งประธาน และนักวิชาการคนนอกที่จะมาร่วมเป็นกมธ.

แน่นอน...ปฏิบัติการที่แม้อาจจะเป็นเจตนาดีของสว.ชุดเดิม แต่เป็นธรรมดาที่บางฝ่ายจะตั้งคำถามว่า..ควรหรือไม่ควรที่จะตั้งกมธ.ศึกษาฯ เพราะถ้าจะศึกษาให้พอเป็นเรื่องเป็นราวก็คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน...

'เล็ก เลียบด่วน' ประมวลข่าว ประเมินสถานการณ์แล้วต้องสรุปว่า...งานนี้เป็นเกมวัดใจวัดกึ๋นกกต.ว่าเป็นของแทร่หรือของเทียมแบบไหนอย่างไร...

คาดว่าที่สุดกกต.ก็ต้องประกาศ แต่อาจทอดเวลาประกาศไปอีกสักสัปดาห์ พร้อม ๆ กับตั้งกรรมการชุดใหญ่อลังการงานสร้างขึ้นมาตรวจสอบไต่สวนคำร้องต่าง ๆ ที่มีมูล น่าสงสัย...เมื่อกกต.ประกาศรับรองแล้ว กมธ.วิสามัญที่สว.ชุดเดิมตั้งขึ้น ก็ต้องยุติลงโดยอัตโนมัติ...ฉากนี้น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง...

น่าสนใจว่าประกาศของกกต.จะชัดครบจบข่าวในเบื้องต้นได้หรือไม่ ตอบโจทย์หรือไม่ เพราะใน 614 เรื่องที่ร้องกกต. และอีกหลายเรื่องที่ไปฟ้องศาลมันยุ่งเหยิงพันพัวนัวเนียกันหลายประเด็นและหลายระดับเลือกตั้ง...

สรุปนาทีนี้คือ นาทีเผชิญหน้าระหว่างสว.ชุดเก่ากับกกต.และ สว.ชุดใหม่...ที่คอลัมน์นี้ได้นำเสนอมาต่อเนื่องว่า ส่วนใหญ่เป็นสว.ในเครือข่ายบ้านใหญ่พรรคสีน้ำเงิน ตัวเลขตอนนี้นับใหม่แล้วอยู่ที่ประมาณ 140 คน...

ส่วนตัวเต็งประมุขสภาสูงคนใหม่ ชิงกันเองในรั้วสีน้ำเงินระหว่าง...มงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง เจ้าของไร่เพื่อนคุณแห่งบุรีรัมย์ และ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีต ผช.ผบ.ทบ.เตรียมทหารรุ่น 22 จปร.33 วปอ.61 รุ่นเดียวกับหนู อนุทิน...

ตอนนี้ทั้งสองตัวเก็ง อาจแอบนั่งลุ้นกันตัวเกร็งว่า ยังไง ๆ อย่าให้เลือกสว.หนนี้บานปลายกลายเป็นโมฆะ...ก็ล่ะกัน...!!

สัญญาณชัด!! ชี้ชะตา 7 สิงหา 'พิธา-ชัยธวัช-หมออ๋อง' ต้องลาโรง

มาตรา 92 เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น

(1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

(2) กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ยกมาตรา 92 วรรคแรก (1) และ (2) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาให้อ่านกัน เพราะนี่คือมาตราที่เป็นหัวใจหลักที่คณะกรรมการ (การเลือกตั้ง) มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า...ได้มีมติเอกฉันท์เมื่อ 12 มี.ค. 2567 ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกล...

อันเป็นกรณีต่อเนื่องจากคดีล้มล้างฯ ที่ศาลรธน.วินิจฉัยให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลหยุดการกระทำอันเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายฯ...ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตาม รธน.มาตรา 49...

ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้ขอขยายเวลาแบบเต็มแม็ก และแถลงข่าวชุดใหญ่ไฟกะพริบมาแล้วสองสามรอบ ต่อมายิ่งฮึกเหิมเหมือนได้โด๊ปยาดี เมื่อ ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามธ., ที่ปรึกษากฎหมายกกต. และอดีตอธิการบดีมธ. ยอมเป็นพยานปากเอก เขียนเอกสาร 20 กว่าหน้าให้...

โดยนอกเหนือจากคัดค้านการยุบพรรคการเมืองโดยอ้างหลักสากลแล้ว ดร.สุรพล ยังช่วยบดขยี้ประเด็นที่ว่ากกต.ผิดพลาดในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง และแยกขาดการดำเนินการมาตรา 92 และ 93 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมืองออกจากกัน...

วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา 'เดอะต๋อม' ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคฮึกห้าว แถลงก่อนศาลรธน.ประชุมหนึ่งวัน เป้าหมายเพื่อให้ศาลรธน.รับหลักการเปิด การไต่สวนพยานปากสำคัญ (ดร.สุรพล)...

แต่เหมือนกับสายฟ้าฟาด...วันที่ 17 ก.ค. ศาลรธน.ประชุมพิจารณาตามปกติในวันพุธ แต่มีมติยุติการไต่สวน เพราะหลักฐานเพียงพอแล้ว หากคู่กรณีประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดีให้ยื่นเป็นหนังสือภายในวันที่ 24 ก.ค. โดยศาลจะประชุมหารือและลงมติวินิจฉัยในวันพุธที่ 7 ส.ค.

ดูเหมือนว่าสัญญาณวันที่ 17 ก.ค. จากศาลรธน.พอจะเห็นเค้าลางชัดเจนแล้วว่า...ก้าวไกลกำลังใกล้เกม...ความพยายามที่จะพลิกเกมโดยขอไต่สวนพยานบุคคลและให้เรียกเอกสารเพิ่มเติมเพื่อขยี้ประเด็นกกต.ไม่ได้ทำตามขั้นตอนกฎหมาย...หวังจะให้กกต.แพ้ฟาวล์...ปิดฉากลงเกือบสนิท

มองไปข้างหน้ากรณีหากยุบพรรค สส.ทุกชีวิตไปหาพรรคใหม่สังกัดได้ใน 30 วัน แต่กรณีกรรมการบริหารพรรคโดนตัดสิทธิ์ 10 ปี ตามมาตรา 94 วรรคสองนั้น...คนที่จะจบข่าวจบชีวิตชั่วคราวไปด้วยคือ 3 กรรมการบริหารพรรคคนดังชุดก่อนคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ชัยธวัช ตุลาธน และท่านรองหมูกระทะ...ปดิพัทธ์ สันติภาดา...รวมทั้งเบญจา แสงจันทร์ และสุเทพ อู๋อ้น   

พร้อม ๆ กันนั้น การเมืองหลายประเด็นก็คงจะพลิกเปลี่ยนกันไม่น้อย...เอวัง!!

'ก้าวไกล' จอด!! 'ทักษิณ' คุมเกมใหญ่ 'ป้อม-เหลิม' จับมือดับจันทร์ส่องหล้า

นับถอยหลังสู่เดือน ส.ค.2567...อย่างที่เคยเกริ่นนำไว้ว่า จะเกิดไทม์ไลน์การเมืองที่จะเป็นจุดเดือด จุดหักเปลี่ยน...แบบได้เสีย...

1) กรณียุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารคู่กรณี (กกต.-พรรคก้าวไกล) ยุติการไต่สวน นัดฟังคำวินิจฉัย 7 ส.ค.2567 พรรคก้าวไกลหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการได้ ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดี มธ.มาเป็นพยานปากเอก ช่วยขยี้ประเด็นการดำเนินการขั้นตอนการยุบพรรค ตามมาตรา 92 และ 93 ของพ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 และระเบียบการดำเนินการการสอบสวน 2566 ของกกต. รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ จะช่วยให้รอดจากการถูกยุบได้...

แต่แหล่งข่าวระดับสูงระดับลึกของ 'เล็ก เลียบด่วน' ยังฟันธงว่า 'รอดยาก' โอกาสที่กกต.จะแพ้ฟาวล์มีน้อย ดังนั้นไม่แปลกที่คอการเมืองเขามองไปที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ รุ่นที่ 3 ของก้าวไกลแล้ว ว่าจะเป็นใครระหว่าง 'ไหม' ศิริกัญญา ตันสกุล กับ 'ดร.ต้น' วีระยุทธ กาญจนชูฉัตร เพื่อนของเอก ธนาธร...

2) กรณีถอดถอนเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  คาดว่าช่วงกลางเดือนหรือปลายเดือนส.ค.ก็จะได้รู้กันว่า จะมีการเปลี่ยนนายกฯ หรือไม่...ราคาต่อรองบนโต๊ะกาแฟของหลายวงการตอนนี้อยู่ที่ 50/50   สำหรับ 'เล็ก เลียบด่วน' นาทีนี้ให้รอด/ไม่รอด ที่ 50.5 ต่อ 49.5

แต่ไม่ว่า 'เศรษฐา' จะรอดหรือไม่รอด หน้าการเมืองหลังการตัดสินคดีจะต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่...ถ้ารอดก็จะปรับโฉมหน้าครม.ครั้งสำคัญ แต่หากหวยออกมาว่า 'ไม่รอด' ก็ต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี  

เรื่องใหญ่ของประเทศ...หลายคนคาดว่า หวยนายกฯ คนใหม่ อาจจะไหลไปถึง น.หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล แต่ 'เล็ก เลียบด่วน' ฟังพี่ ๆ น้อง ๆ ชาวเพื่อไทยมาล่าสุด เขาบอกว่า...นาทีนี้ พ่อ-ลูก ชินวัตร ตกผลึกแล้วที่จะให้คนชื่อ 'แพทองธาร ชินวัตร' หรือ 'อุ๊งอิ๊ง' นั่งนายกฯ เลย...

เว้นแต่มี 'ข้อมูลใหม่' เท่านั้น...ถึงจะไม่ขึ้น...

3) กรณีทักษิณ ชินวัตร ก็นับถอยหลังที่จะได้รับใบสุทธิหรือใบบริสุทธิ์จากการพ้นโทษ 22 ส.ค. (โดยไม่ต้องนอนคุกแม้แต่วันเดียว)...ก็ชัดเจนว่า หลังวันพ้นโทษ แม้ทักษิณจะมีคดีมาตรา 112 ผูกแข้งอยู่ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่จะเป็นพยัคฆ์ติดเทอร์โบ...เป็นผู้ทรงอิทธิพลในการช่วยนายกฯ บัญชาการ...

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. เห็นทักษิณควงครอบครัวอุ๊งอิ๊งและโอ๊ค พานทองแท้ไป Rancho Charnvee Resort and Country Club ของอนุทิน...เล่นกอล์ฟ กินข้าว ร้องเพลง โดยมีเสี่ยหนูมาร่วมวงด้วยแล้ว...ก็พอจะเห็นทิศทางการเมืองใหญ่ได้ระดับหนึ่ง ยังไง ๆ ระหว่างทักษิณกับอนุทินนั้นไม่ยากที่จะพูดคุย...ตกลงทางอำนาจในฉากหรือนาทีสำคัญ...!!

นั่นว่าด้วย 3 วาระสำคัญที่น่าจับตา...แต่เฉพาะหน้าเรื่องเล็ก ๆ แต่ไม่เล็กที่ต้องขีดเส้นใต้หมายเหตุไว้สักนิดคือ...กรณีพ่อลูกบ้านบางบอน 'ร.ต.อ.เฉลิม-วัน อยู่บำรุง'

วัน อยู่บำรุง หลั่งน้ำตาลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว ข่าวล่าสุดระบุว่าบ่ายหน้าไปซบตัก 'ลุงป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ...บ้านป่ารอยต่อ ที่ถูกทักษิณเปลี่ยนชื่อเป็น 'บ้านในป่า'

แว่วว่าผู้พ่อ...เฉลิม อยู่บำรุง ก็ได้เปิดอกพูดคุยกับลุงป้อมเป็นที่เรียบร้อย...ด้วยความเข้าใจในฐานะที่ตอนนี้มีคู่กรณีเป็นคน ๆ เดียวกัน...ลุงป้อมนั้นถูกหาว่าเป็น 'บ้านในป่า' อยู่เบื้องหลัง 40 สว.ให้ยื่นถอดถอนนายกฯ ส่วนพ่อลูกอยู่บำรุงนั้น กรณี 'บิ๊กแจ๊ส' เป็นพิษ...

งานนี้ฟันธงได้ล่วงหน้า เมื่อบ้านในป่าจับมือกับบ้านบางบอน...รับรองบ้านจันทร์ส่องหล้าจะต้องหนาวยะเยือก หรือไม่ก็ร้อนด้วยไฟประลัยกัลป์...เพราะอ่านทางได้ไม่ยากว่า...แม้จะชราวัยไปบ้าง แต่เฉลิมนั้นยังเป็นฉลาม ได้กลิ่นเลือดเมื่อไหร่ ก็ต้องกระโจนใส่...ข้อมูลเก่า ๆ ที่ยังไม่ถูกเปิดมีอีกเป็นกะตั้ก...แว่วว่าจะถูกงัดมาใช้ในสงครามสั่งสอนรอบใหม่ เร็ว ๆ นี้...

'เล็ก เลียบด่วน' ฟังหนังตัวอย่างมาแล้ว...หนาวแทน!!

โจทย์หนัก 'บิ๊กจ้อน' ประนอมอำนาจบ้านใหญ่-หยุดเกมรื้อ รธน. ในจังหวะ 'สว.พันธุ์ใหม่' ตีปี๊บมาแต่ไกล แต่สุดท้ายไม่ว้าว

ตามโผ...ตามคาด...ตามนัด...ผลการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 

- ประธานวุฒิสภา นายมงคล สุระสัจจะ (159 คะแนน)
- รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ (150 คะแนน)
- รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 นายบุญส่ง น้อยโสภณ (167คะแนน)

คอลัมน์นี้ ขอบันทึกผลการลงคะแนนอย่างเป็นทางการเฉพาะตำแหน่งประธานไว้ ณ โอกาสนี้

- นายมงคล สุระสัจจะ 159 คะแนน
- ดร.นันทนา นันทวโรภาส 19 คะแนน
- นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ 13 คะแนน
(งดออกเสียง 4 บัตรเสีย 5)

ดูจากคะแนนที่ลงมติก็ต้องยืนยันตามที่ 'เล็ก เลียบด่วน' นำเสนอมาโดยลำดับว่า สว.สีน้ำเงินนั้น...ของแทร่...140 บวกลบ ท่านมงคลประเดิมที่ 159 เสียง (จาก 200) พล.อ.เกรียงไกร 150 เสียง และบุญส่ง 167 

ต้องบอกว่าเหตุที่คะแนนของ บุญส่ง มากกว่าใครเพื่อน ก็เพราะคู่แข่งไม่แข็งแรง และกลุ่มอิสระที่แต่เดิมนายบุญส่งไปเกาะเกี่ยวอยู่ด้วยเทเสียงให้มากเป็นพิเศษ...

และก็ต้องแสดงความเสียใจกับ สว.สีส้ม ที่แปลงโฉมมาในนามกลุ่ม 'สว.พันธุ์ใหม่' นำโดย ดร.นันทนา นันทวโรภาส ที่เอาเข้าจริงเหลือเพียง 15-19 เสียง  จากที่เคยตีปี๊บว่ามี 30 เสียง...แต่เอาเหอะ จะเหลือกี่เสียงก็ไม่สำคัญเท่ากับบทบาทที่จะกระทำนับจากนี้ไป ซึ่งเชื่อว่าหาก ดร.นันทนา ไม่ 'ส้มจี๊ด' จนเกินเหตุ บทบาทของเธอ ก็คงน่าติดตามเหมือนกัน...

ส่วนท่านประธานมงคลนั้น...ฟังจากวิสัยทัศน์ภายใต้คำยืนยันจะปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แล้ว ก็ต้องบอกว่า 'บิ๊กจ้อน' หรือ 'สหายจ้อน' ที่สื่อมวลชนเริ่มเรียกขานกัน เป็นคนที่นุ่มและลุ่มลึกทางความคิด...เพราะก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าช่วงหนึ่งของชีวิตหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ท่านมงคลเคยหลบภัยเผด็จการไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) บนเทือกเขาบรรทัด ประมาณ 6-7 เดือน...

ก็เหมือนๆ กับ สหายใหญ่...ภูมิธรรม เวชยชัย, สหายจรัส นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ฯลฯ...นั่นแหละ  

ดังนั้นในมิติประสบการณ์ การตกผลึกทางความคิดที่จะให้วุฒิสภาเป็นสภาที่ประนอมอำนาจแก้วิกฤตประเทศตามที่แสดงวิสัยทัศน์เป็นประเด็นที่น่าติดตามยิ่ง...

อย่างไรก็ตามว่ากันตรงๆ สิ่งที่ประธานมงคลจะต้องเผชิญในชีวิตจริงเฉพาะหน้าก็คือ การประนอมอำนาจกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์ที่มีธงทางอำนาจผ่านวุฒิสภาอย่างชัดเจน...ด้านหนึ่งเพื่อหยุดเกมรื้อรัฐธรรมนูญที่เลยเถิดของบางกลุ่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ธงอำนาจเรื่องการเลือกบุคคลในองค์กรอิสระ...อะไรคือ วาระของชาติ อะไรคือ วาระของบ้านใหญ่ เป็นเรื่องที่สหายจ้อนจะต้องยึดความถูกต้อง-ผลประโยชน์ของชาติให้ได้...

เฉพาะหน้า...วัดกันที่กระบวนท่าการจัดสรรเก้าอี้ประธานกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา 20 กว่าคณะ...ข่าวล่ามาเรือระบุว่า สว.สีน้ำเงิน จะกินรวบ แต่ไม่กวาดเรียบ...แปลไทยเป็นไทยว่า กมธ.ที่ตรงกับกระทรวงที่พรรคสีน้ำเงินดูแล และกมธ.เกรดเอ อย่าง กมธ.ปปช., กมธ.คมนาคม, กมธ.สื่อสาร ฯลฯ...สว.สีน้ำเงินขอจอง...

โชคดีครับท่านประธานจ้อน!!

อ่านเกม 'ทักษิณ' พยัคฆ์ติดเทอร์โบ บนผังอำนาจใหม่ ในวันที่ 'นายใหญ่' ไม่เหนือกว่า 'ครูใหญ่' อีกแล้ว

ต้องบันทึกไว้ในปฏิทินการเมืองว่าวันที่ 26 ก.ค.2567 วันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 75 ปี ย่างสู่ปีที่ 76 ของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ของประเทศไทย หากย้อนคิดย้อนมองต้องบอกว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจไม่น้อย...

ทักษิณถูกรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย.2549 ขณะไปประชุมยูเอ็นที่สหรัฐฯ ข้ออ้างหลักของรัฐประหารคือ รัฐบาลทุจริต-คุกคามสถาบัน...แทรกแซงองค์กรอิสระ ทักษิณต้องระเหเร่ร่อนอยู่ร่วมปีครึ่ง กระทั่ง 28 ก.พ.2551 ได้กลับบ้านมากราบแผ่นดินช่วง สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี

แต่ ก.ค.2551 ก่อนศาลฎีกานักการเมืองจะตัดสินคดีที่ดินรัชดา 'ทักษิณ' รู้แกวว่าจะติดคุก ขอเดินทางไปต่างประเทศดูกีฬาโอลิมปิก 'ปักกิ่งเกมส์' แล้วไม่กลับมาอีกเลย ตะลอนร่อนเร่เป็นสัมภเวสีอยู่ร่วม 17 ปี ถูกตัดสินคดีทุจริตอีก 3 คดี กระทั่งได้เดินทางกลับมาตุภูมิเมื่อ 22 ส.ค.2566 เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อรับโทษ แต่ตั้งแต่คืนแรกที่มาถึงก็อ้างป่วยหนักไปนอนพักที่ รพ.ตำรวจ จากนั้นทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี...

นอนพักรักษาตัวจนได้รับฉายา 'นักโทษเทวดา' กระทั่ง 18 ก.พ.2567 ได้รับการพักโทษ ไม่ปรากฏอาการป่วยอีก กระทั่ง 26 ก.ค.2567 จัดงานฉลองวันเกิดครบรอบ 75 ปี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวชินวัตร (75 no place like home)

จากนี้นับถอยหลังไปวันที่ 22 ส.ค.จะถึงวันพ้นโทษ  ได้รับใบบริสุทธิ์ หรือใบสุทธิจากกรมราชทัณฑ์...คาดว่าทักษิณน่าจะเป็นพยัคฆ์ติดเทอร์โบ

ก่อนถึงวันคล้ายวันเกิด 26 ก.ค.ทักษิณไปพักผ่อนสังสรรค์และออกรอบที่รีสอร์ต-สนามกอล์ฟของ อนุทิน ชาญวีรกูล Rancho Charnvee Resort and Country Club ปากช่อง พร้อมนักการเมืองและเจ้าสัวพลังงานอย่าง สารัชถ์ รัตนาวดี เมื่อ19-20 ก.ค. 

หลังจากนั้นวันที่ 24 ก.ค.ซีอีโอของคิงส์ พาวเวอร์  อัยยวัฒน์ เปิดโรงแรมพูลแมน ย่านซอยรางน้ำ เลี้ยงวันเกิดล่วงหน้าให้อีกงาน ตามด้วยค่ำ 25 ก.ค.พบว่าบรรดาเจ้าสัว-นักการเมืองรัฐมนตรีไปร่วมกันจัดเลี้ยงล่วงหน้าให้อีกงานที่โรงแรมยูสาทร...มีเจ้าสัวพลังงานไปปรากฏตัวด้วย...

ทั้งหลายทั้งปวงก็เพียงต้องการบันทึกปรากฏการณ์นี้ไว้...

ที่จะวิเคราะห์ขีดเส้นใต้หมายเหตุไว้สั้น ๆ ณ โอกาสนี้มีเพียงว่า...ภายใต้ปรากฏการณ์นี้ดูเหมือนเส้นทางของ 'นายใหญ่' จะรื่นรมย์สมปรารถนาแทบทุกอย่าง แต่โดยแท้จริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่...

ด่านสำคัญยิ่งคือ ลุ้นระทึกว่า 14 ส.ค.ที่จะถึง 'เศรษฐา ทวีสิน' จะหลุดจากตำแหน่งหรือไม่...ถ้าหลุดว้าวุ่น...งานเข้าแน่นอน เพราะโอกาสที่เกมจะไหลไปถึงอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกฯ นั้นมีค่อนข้างสูง ด้วยเหตุข้อจำกัดของ 'อุ๊งอิ๊ง' แพทองธาร ชินวัตร...หรือแม้กระทั่ง ชัยเกษม นิติสิริ...สองแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย

การบุกถ้ำ 'หนู อนุทิน' เมื่อ 19-20 ก.ค. จึงเป็นเกมเหนือชั้นเผื่อเหลือเผื่อขาดของทักษิณ แสดงให้เห็นถึงความแนบแน่นกับอนุทิน 'ลูกน้องเก่า'...ไม่ว่าอนุทินจะขึ้นเป็นนายกฯ หรือไม่ ทักษิณก็โชว์ให้เห็นว่าเป็นหนึ่งเดียวกับอนุทิน...

แต่ลึกลงไป...ทักษิณรู้ดีว่า เหนืออนุทินยังมี เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่แห่งขั้วอำนาจสีน้ำเงิน ที่ว่ากันว่า...สามารถสถาปนาสภาสูงชุดใหม่ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด...ชนิดที่ 'ทักษิณ' เห็นแล้วแทบจะเป็นลม...

และอาจจะเป็นลมแบบไม่รู้ตัว หากได้ไปชมงานสุดสัปดาห์มหามงคลที่บุรีรัมย์ งานแสงสีเสียงอลังการ  บทบรรเลงของวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้า กระหึ่ม...

ต้องฟันธงตั้งเอาไว้ตรงนี้เพื่อมาอธิบายขยายความในโอกาสต่อไปว่า...วันนี้ดุลอำนาจของขั้วน้ำเงินนั้นเริ่มเหนือกว่าขั้วแดงจันทร์ส่องหล้า ที่เหลือเพียงจำนวน สส.ที่มากกว่า และยังเป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น เพราะหากกางผังอำนาจอย่างอื่น  รวมทั้งสภาสูงที่มีอำนาจพิเศษในการจัด วางองค์กรอิสระ...ต้องบอกว่าวันนี้ 'นายใหญ่' ไม่เหนือกว่า 'ครูใหญ่' อีกแล้ว...

นี่คือ ปฐมเหตุทำให้นายใหญ่...เล่นเกมถอย...ประนอมอำนาจกับขั้วน้ำเงิน...เพื่อซื้อเวลา ตั้งหลักแล้วรุกต่อบนกระดานอำนาจที่ไม่ง่ายอีกต่อไปแล้ว - ทราบแล้วเปลี่ยน!!

'พปชร.' ใกล้อวสาน 'ลุงป้อม' หมดลุ้นนั่งนายกฯ ลุ้น 'เดอะจ๊อบ' ฮึด!! รวม 'สส.ก้าวไกล' หนุน

"26 สส.ชวนตั้งพรรค รองรับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หลัง 14 ส.ค. รู้กัน ใช้ชื่อพรรคอะไรดี คอมเมนต์อันไหนมีหัวใจมากสุด รับรางวัลเงินสด 20,000 บาท ประกาศวันที่ 25 นี้"

นั่นคือโพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช หรือ 'เดอะจ๊อบ' นักการเมืองเล็กดีรสโตที่ออกมาเย่อกับ 'คนโตตัวตึง' อย่างร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพปชร./รมว.เกษตรและสหกรณ์...

นายสามารถเคยได้รับการสนับสนุนจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ให้เป็นกรรมการผู้ช่วย รมต.ประจำ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เมื่อครั้งเป็น รมว.ยุติธรรม เคยมีเรื่องอื้อฉาวกรณีถูกกล่าวหาว่าส่งสแตนด์อินไปเรียน ดร.ที่รามคำแหงแทนตน จนหายเงียบไปพักหนึ่ง และกลับมาอีกครั้งในฐานะคนใกล้ชิดลุงป้อม...กล้าได้กล้าเสีย...และดูเหมือนจะถูกที่ถูกเวลา...

ทั้งนี้ในขณะที่ สส.เกินครึ่งพรรคโน้มเอียงเลือกข้างร.อ.ธรรมนัส แต่ 'เดอะจ๊อบ' กับกุนซือลุงป้อมบางคนพยายามเปิดเกม หาช่องทางให้บิ๊กป้อมได้ลุ้นตำแหน่งนายกฯ หากกรณี เศรษฐา ทวีสิน หลุดตำแหน่ง...ทำให้คนสูงวัยอย่างลุงป้อมกระชุ่มกระชวย...รู้สึกมีราคาค่างวด...

ไม่แปลกที่ 'เดอะจ๊อบ' เป็นหนึ่งในไม่กี่นักการเมืองที่ไปกินข้าวที่บ้านมีนบุรีของ พล.อ.ประวิตร ได้ ในขณะที่ส่วนใหญ่พบ พล.อ.ประวิตร ได้แค่บ้านป่ารอยต่อหรือ 'บ้านในป่า' เท่านั้น...

ตามเกม-แผนการของ 'เดอะจ๊อบ' ที่กำลังดำเนินการก็คือ รวมกลุ่มทำงานทางความคิด และดูแล สส.ก้าวไกลจำนวนหนึ่งร่วม ๆ 20 คน ตกลงกันหลวม ๆ ว่า วันไหนที่พรรคก้าวไกลถูกยุบจะย้ายไปอยู่ พปชร. ซึ่งตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยน เพราะความไม่สงบในพรรค จึงเปลี่ยนแผนเป็นสร้างพรรคใหม่ ทำรังใหม่...

ค่ำวันที่ 31 ก.ค.ที่บ้านมีนบุรี เป็นอีกหนึ่งมื้อนัดหมายระหว่าง สส.ก้าวไกลบางกลุ่ม กับ ลุงป้อม ภายใต้การจัดการของเดอะจ๊อบ...ทุกย่างก้าวต้องให้ลุงป้อมรับทราบ

อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวกันถึงที่สุด แม้กระบวนท่าของ 'เดอะจ๊อบ' จะไม่อาจมองข้ามได้ แต่การเมืองกระดานใหญ่ในขณะนี้โฟกัสไปที่ชะตากรรมของนายเศรษฐา...ซึ่งสัปดาห์ก่อน 'เล็ก เลียบด่วน' ให้น้ำหนักไปว่า...โอกาสรอดมีมากกว่าไม่รอด...ถึงวันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น ยิ่งดูภาษากายของนายกฯ วันสองวันนี้ ก็บ่งบอกอาการความมั่นใจว่าจะรอด (แน่ ๆ)

ถ้า 'เศรษฐา' รอด...พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ต้องลุ้นอะไรอีก รอลุ้นอย่างเดียวว่า ปรับ ครม.ปลายเดือน ส.ค.หรือ ต้น ก.ย. 'นายใหญ่' บ้านจันทร์ส่องหล้า จะปรับใหญ่ ครม. เอาพปชร.ออก แต่เอากลุ่มร.อ.ธรรมนัสไว้...หรือไม่...!?  

ส่วนเพลง 'ลุงตู่เริ่ม...ลุงป้อมขอทำต่อ...' ของ 'เดอะจ๊อบ' นั้น จบไปนานแล้ว เดอะจ๊อบ ต้องทำเพลงใหม่...ตั้งพรรคใหม่สถานเดียว!! 

'สภากาแฟ' เห็นพ้อง!! 14 ส.ค. 'นายกฯ นิด' น่าจะรอด 'ดิจิทัลหมื่น' ไปต่อ สวนทางห้ามบินดูไบ เพราะ 'ธรรมะจัดสรร' ความชอบธรรมเหนือถุงขนม

“อีกทั้งความผิดของผู้ถูกร้องที่ 2 ยังเสมือนเป็นความผิดประธาน ซึ่งในขณะที่มีการเสนอชื่อแต่งตั้งผู้ถูกร้องที่ 2 ให้เป็นรัฐมนตรี ยังไม่ได้มีการวินิจฉัยความผิดประธานโดยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีผู้ถูกร้องที่ 1 ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นความผิดอุปกรณ์ จึงไม่อาจมีไปด้วยได้”

ที่ยกมาข้างต้นคือเศษเสี้ยวคำชี้แจง 32 หน้าของนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้ถูกร้องที่ 1 เมื่อ 7 มิ.ย.2567 ซึ่งได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และ 'เล็ก เลียบด่วน' ได้มีโอกาสทอดทัศนาแล้ว สรุปสั้นสุดไม่เกิน3บรรทัดเพิ่มเติมจากข้อความข้างต้นก็คือ...

'เศรษฐา' อ้างว่า ผู้ที่จะชี้ขาดว่า...ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่นั้น  คือ ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่กรรมการกฤษฎีกาหรืออดีต 40 สว.ผู้ร้อง...พร้อมยืนยันว่า การตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามผู้ถูกร้องที่ 2 (พิชิต  ชื่นบาน) ดำเนินการโดยชอบทุกประการ...

ครับประมาณนั้น...หากใครสังเกต 'นายกนิด' พักนี้จะเห็นว่า แม้ปมใหญ่ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' อนาคตยังน่าหวาดเสียว...แต่ภาษากายนั้นดูผ่อนคลายราวกับรู้อนาคตวันพุธที่ 14 ส.ค.ว่า 'น่าจะรอด' คือ ไม่พ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค หนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160(4) และ (5) ที่อดีต 40 สว.ร้องต่อศาล...

ถ้ารอดก็ทำงานต่อไป...เดินหน้าปรับใหญ่ครม.ตามจันทร์ส่องหล้าลิขิตหรือใครลิขิตก็ว่ากันไป...แต่ถ้าหลุดจากตำแหน่งหนนี้ ขอเคลียร์ไว้ที่ตรงนี้ว่า หมดสิทธิที่ถูกเสนอชื่อชิงนายกฯ อีก เพราะเป็นปัญหาประเด็น 'ขาดคุณสมบัติ' ต่างจากกรณี สมัคร สุนทรเวช ที่หลุดเพราะคดี 'ชิมไปบ่นไป' กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ...แต่ สมัคร แค่โชคร้าย กลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบไม่ได้ เพราะประเด็น 'เลือดข้นกว่าน้ำ' ตอนนั้นทักษิณดันน้องเขย...สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นเป็นนายกฯ แทน...แต่ สมชาย ก็เป็นนายกฯ ได้แค่ 57 วัน

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร...ตอนนี้สภากาแฟบางวง ที่ประกอบด้วยนักวิชาการ, สื่อมวลชน, นักการเมือง, นักสังเกตการณ์ ค่อนข้างจะมีทั้งข้อมูลเก่า ข้อมูลใหม่ตรงกันแล้วว่า...โอกาสเศรษฐา 'รอด' ได้ไปต่อนั้น มีมากกว่าไม่รอด...โดยศาลอาจจะมองในประเด็นไม่มีเจตนา...หรือบกพร่องโดยสุจริต คล้ายกรณีทักษิณเมื่อปี 2544 แต่จะเป็นตามนี้หรือไม่ก็รอดูกันอีกที...

อนึ่ง สำหรับกรณี ทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางไปดูไบแต่ศาลยกคำร้องไม่อนุญาตให้ไปนั้น ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นลั่นเมืองว่า มีอะไรในกอไผ่...ซึ่งน่าสังเกตว่า ทีมทนายไปยื่นคำร้องในวันเสาร์ที่ 27 ก.ค.

คอลัมน์ 'เลียบการเมือง' ขออนุญาตฟันธงหมากเกมความน่าจะเป็น 3 ประการ...

1) ทดสอบ ตรวจเช็กอุณหภูมิท่าทีของศาลหลังการเปลี่ยนตัวอธิบดีศาลอาญาเมื่อเดือน ก.ค.
2) ไปเคลียร์ธุรกิจสำคัญ และพบยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว
3) แก้เคล็ดดวงชะตาด้วยการย้ายที่พัก...และเผื่อเหลือเผื่อขาด หากมีความวุ่นวาย ก็อาจขอหลบภัยอยู่ต่างประเทศยาวอีกครั้ง และอาจตรวจรักษาสุขภาพตามที่อ้างว่านัดหมอไว้ 2 ครั้งด้วยก็ได้

ตามคำร้องทักษิณขอลา 1-16 ส.ค.ขณะที่คดีความผิดมาตรา 112 ศาลนัดตรวจเอกสารหรือนัดพร้อมวันที่ 19 ส.ค.  

ดังนั้น...สมมติ...หากทักษิณได้รับการอนุญาตออกนอกประเทศ...ภาพของทักษิณก็จะยิ่งถูกตอกย้ำความเป็น 'นักโทษเทวดา' ความเป็นผู้ทรงอิทธิพล ทว่า หากบังเอิญวันที่ 14 ส.ค.2567 เศรษฐา 'รอด' ก็อาจจะเคลมมั่ว ๆ ได้ว่า ไม่ใช่เพราะบารมีอิทธิพลของเขาเพราะเขาอยู่ต่างประเทศ!!

ต้องบอกกล่าวกันตรงนี้ว่า คำสั่งของศาลที่ไม่อนุญาตหนนี้นั้นได้รับการอนุโมทนาสาธุ ว่าชอบด้วยเหตุด้วยผลเป็นยิ่งนัก...หากจำกันได้ก่อนหน้านี้ร่วมเดือนเศษ...ศาลอาญาเพิ่งเปลี่ยนตัวอธิบดี  เหตุเพราะคนเก่าที่ถูกปล่อยข่าวเรื่อง 2 พันล้านนั้น มีเหตุอื้อฉาวบนรถไฟจนถูกย้าย ดังที่สำนักข่าวอิศราเคยนำเสนอไว้...แต่ทั้งนี้ท่านที่มาทำหน้าที่รักษาการอยู่ปัจจุบันและจะอยู่ชั่วคราวก็ทำหน้าที่เป็นอย่างดีโดยเฉพาะกรณีล่าสุดนี้ ก่อนที่เดือน ต.ค.ปีนี้ จะมีอธิบดีท่านใหม่มารับตำแหน่งเป็นทางการ...

ธรรมะจัดสรร...ถุงขนม หรือ ผลประโยชน์ หลายสิบล้าน หลายร้อยล้าน ไม่สามารถชนะความถูกต้องชอบธรรมได้ในท้ายที่สุด!!

เปิดดวงชะตาล่าสุด 'เศรษฐา' ดูสดใส 'ทักษิณ' หวั่นใจ วิบากกรรมยังรุมเพียบ

สัปดาห์ที่แล้ว...ได้กล่าวถึงกระแสข่าวว่า เศรษฐา ทวีสิน มีแนวโน้มน่าจะรอดได้ไปต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุปัจจัยทางกฎหมายที่บางคนบอกว่ายังก้ำกึ่ง บางคนบอกว่าผิดชัด ๆ...แต่หลายคนเชื่อว่า...เหตุผลบกพร่องโดยสุจริต อาจจะเป็นประเด็นสำคัญ...

ความเชื่อว่า...เศรษฐาน่าจะรอด มีสูงขึ้นเป็นลำดับเมื่อมองจากภาษากายของเขาที่ดูสดชื่น มั่นอกมั่นใจแม้จะเพิ่งสูญเสียคุณแม่...แต่งานศพคุณแม่ได้อดีตนายกฯ ลุงตู่ 'พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา' ในฐานะองคมนตรีไปเป็นประธานสวดพระอภิธรรมเมื่อค่ำวันที่ 5 ส.ค.

และเย็นวันที่ 6 ส.ค. 'พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์' ประธานองคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงศพ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมอีกครั้ง รวมทั้งนายทักษิณ ชินวัตร และบุคคลสำคัญจำนวนมาก ย่อมทำให้นายเศรษฐาและครอบครัวภาคภูมิใจ...

ทำให้นึกถึงคำพยากรณ์ของซินแส ภาณุวัฒน์ พันธ์วิชาติกุล ที่สัมภาษณ์ในไทยโพสต์ ออนไลน์ว่า...ความสูญเสียของคุณแม่ช่วยค้ำยันให้ดวงผู้เป็นลูกดีขึ้น...เชื่อว่าเศรษฐาจะรอดแบบฉิวเฉียด...ได้ไปต่อ...

จะได้ไปต่อจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้รัฐบาลได้กำหนดวาระงานสำคัญหลังวันพิพากษา 14 ส.ค.เอาไว้แล้วว่า วันที่ 19-20 ส.ค. จะมีการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา...

ทำราวกับว่าวันที่ 14 ส.ค.ก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง...เดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไป...อะไรประมาณนั้น!!

ในขณะที่ดวงดาวของ 'เศรษฐา' ดูเหมือนจะโคจรในวิถีที่ปลอดภัย...หันไปดูชะตากรรมทักษิณดูเหมือนจะอมทุกข์อโศกไว้อย่างเห็นได้ชัด แม้พยายามจะยิ้มแย้มตอนพบปะยกมือไหว้ 'ลูงตู่' ในงานศพก็ตาม...

จะไม่ให้เครียดได้อย่างไรในเมื่อ...

1) มีคดีมาตรา 112 ติดตัวอยู่...ขอเดินทางไปนอกราชอาณาจักร (ดูไบ) ศาลก็ไม่อนุญาต

2) ความคาดหวังที่จะได้พ้นโทษเร็วกว่ากำหนด (31 ส.ค.2567) กล่าวคือ ขอรับอานิสงส์พร้อมกับการพระราชทานอภัยโทษทั่วไปเนื่องในวันมหามงคลก็ยังไม่ชัดเจนว่าได้หรือไม่...วันไหน!?

3) มิหนำซ้ำ...กรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) สรุปเปรี้ยงออกมาว่า ทักษิณได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลดีกว่านักโทษรายอื่น รพ.ตำรวจเลือกปฏิบัติ ขอส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ โอกาสจะถูกกล่าวหาพัวพันก็มี

4) รัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำยังบริหารไม่ได้ดั่งใจ...ดิจิทัล วอลเล็ต ยังถูกท้าทายเยาะเย้ยว่า...ไปไม่ถึงเป้าหมาย

..ฯลฯ..

ท่ามกลางความเครียดเคร่ง ข่าวแจ้งว่าทักษิณยอมที่จะไปเป็นองค์ปาฐกหัวข้อ 'VISION FOR THAILAND' ในงาน...ดินเนอร์ทอล์ก ที่จัดโดยเครือเนชั่น ในวันที่ 22 ส.ค. ซึ่งตอนคิดงานใหม่ ๆ กะว่าจะเล่นมุกเลข 22 คือ จัดงานวันที่คิดว่าพ้นโทษ 22 ส.ค.ถ่ายทอดสดทางช่อง 22

แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน...

หลังการจ้อครั้งสำคัญในวันที่ 22 ส.ค.ก็ยังไม่มีหลักประกันว่า...จะกำไรหรือขาดทุน...คนจัดงานอาจมีกำไร แต่พรรคเพื่อไทยและยี่ห้อชินวัตรยังไม่ชัดเจนว่าจะกำไร...

คนคำนวณมิสู้ปากพาไป...โปรดระวังปลาหมอคางดำ...!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top