Thursday, 16 May 2024
เลียบการเมือง

จับตาหลังสงกรานต์ เข็นสุด 'ดิจิทัลวอลเล็ต' แม้ทุลักทุเล แต่ล่มไม่ได้ ส่วน 'ชลน่าน-สุทิน' ติดโผร่วง ดัน 'บิ๊กอ้วนคุมหมอ-ขอทหารให้นิด'

เข้าสู่เขตสงกรานต์ จะร้อนตับแล่บขนาดไหนใครต่อใครก็รู้สึกฉ่ำเย็นได้ หากได้สรงน้ำพระ ได้รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ และได้กลับบ้านพบปะพี่น้อง...

เช่นเดียวกับการเมืองที่ว่าร้อน ๆ จากควันหลงที่มีมาตั้งแต่ศึกอภิปรายทั่วไป 3-4 เม.ย. ก็พลอยเจือจางบางเบาไปด้วย...ยกเว้นแต่ที่ทำท่าจะร้อนฉ่าขึ้นมาหน่อยก็เห็นจะเป็น...ควันศึก 'ดิจิทัล วอลเล็ต' ที่รัฐบาลเพิ่งแถลงเมื่อ 10 เม.ย.

จบแต่ไม่จบ...ไม่ตรงปก ไม่สะเด็ดน้ำ มี 2-3 ประเด็นที่จะต้องเถียงกันคอเป็นเอ็น โดยเฉพาะประเด็นแหล่งที่มาของเงิน ก้อนที่ไปล้วงมาจาก ธ.ก.ส. 172,300 ล้านบาท...

รัฐบาลตีลังกายันบอกว่าถูกต้องตามกฎหมาย โดยอาศัยมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยทางการเงินการคลัง 2561 แต่อีกฝ่ายบอกว่าผิดวัตถุประสงค์ธนาคาร ธ.ก.ส. หากเดินหน้าต่อมีโอกาสเข้าคุกๆๆ กันเลยทีเดียว

ประสา 'เล็ก เลียบด่วน' แม้จะขัดหูขัดตาและผิดหวังกับพรรค 'คิดใหญ่ทำเป็น' อย่างเพื่อไทยที่เสียฟอร์มในโครงการนี้มาก แต่ต้องฟันธงว่าสุดท้ายก็จะเดินหน้าโครงการนี้ไปได้...แบบทุลักทุเล...ล่มไม่ได้

นโยบายนี้...เรือธง ห้ามเกยตื้นหรือชนหินโสโครกกลางทะเล...

เหนืออื่นใดมวลมหาสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ฟังกันเต็มสองรูหู กรณีนายใหญ่ประกาศผ่านคลิปสัมภาษณ์ที่เอามาเปิดวันประชุมใหญ่ 5 เม.ย.ว่า...พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ แต่เป็นพรรครีฟอร์ม...ทำแต่เรื่องใหม่ ๆ อย่าง 30 บาท รักษาทุกโรค, กองทุนหมู่บ้าน...และที่กำลังทำคือ ดิจิทัล วอลเล็ต ต้องถือว่า 'โคตรใหม่' !!

ฟังกันดั่งว่าแล้ว มีหรือที่สมาชิกจะไม่ช่วยกันตีปี๊ปและตอบโต้คนที่ออกมาตั้งคำถาม ขัดขวางนโยบายเรือธง...ที่เพิ่งโดนหนักก็ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป.ที่ออกมากระแทกว่า...การล้วงเอาเงิน ธ.ก.ส. มาใช้ ก็เป็น DNA เดียวกับโครงการรับจำนำข้าวที่ทำบ้านเมืองเสียหายยับเยินมาแล้วในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ยังติดหนี้อยู่ 2 แสนกว่าล้าน ฯลฯ

ข้ามมาที่รายงานข่าวแจ้งว่า...หลังสงกรานต์ จะเข้าเขตการเตรียมปรับ ครม.ที่ปล่อยข่าวประเภท 'ลับ-ลวง-ลือ' กันมานาน ซึ่งความเป็นไปได้มากที่สุด น่าจะเป็นหลังการผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วันที่ 5-6  มิ.ย. 

โดยการปรับ ครม.หนนี้ เป้าหมายของนายใหญ่มองไปถึงการตอบโจทย์รัฐบาล ตอบโจทย์พรรคเพื่อไทยและตอบโจทย์ 'อุ๊งอิ๊ง' แพทองธาร ชินวัตร ผู้เป็นลูกสาว...โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธกิจงานในตำแหน่ง...ประธานคณะกรรมการบริหารพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ...ที่ 'อุ๊งอิ๊ง' ดูแล ยังขับเคลื่อนไม่ออก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเหตุผลการซัพพอร์ตของรัฐมนตรีว่าการ...หมอชลน่าน ศรีแก้ว ที่มีคุณหมอศรีภริยาเป็นเหมือนรัฐมนตรีเงาอยู่ด้วยนั่น ยังไม่เพียงพอ..!?

พลันจึงเกิดกระแสข่าวลือร้อน ๆ มาว่า ถ้าเป็นไปได้อาจหมุนเก้าอี้ว่าการตัวใหม่ให้หมอชลน่าน...แล้วโยก 'บิ๊กอ้วน' ภูมิธรรม เวชยชัย จาก รมว.พาณิชย์ มานั่ง รมว.สาธารณสุข แทน

ส่วนในรายของ สุทิน คลังแสง ข่าวกระแสแรงก็ระบุว่าจะต้องลุกจากเก้าอี้ รมว.กลาโหม เพราะนายกฯเศรษฐาจะลุกจาก รมว.คลัง มานั่งที่นี่...ส่วนรมว.คลังคนใหม่ยังไม่เป็นอื่น...พิชัย ชุณหวชิร...

กรณี สุทิน คลังแสง ถ้าลุกจากกลาโหม แล้วหาที่นั่งใหม่ไม่ได้ ก็ต้องนับว่าน่าเสียดายเป็นที่ยิ่ง..!!

สวัสดี!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

ขีดเส้นใต้ 'ปรับครม.-ดิจิทัลวอลเล็ต-ปูกลับบ้าน-พลิกขั้ว' สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง อาจพาประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เปลี่ยนบรรยากาศขอมัดรวมสถานการณ์ด้านการเมือง ที่เป็นแก่นแกนสถานการณ์ ควรแก่การขีดเส้นใต้ให้คอการเมืองได้ติดตามสถานการณ์กันอย่างพินิจ ใคร่ครวญ...ต่อไป...

1) ถ้าไม่ยืดย้วย ภายในเดือน เม.ย.กรรมการดิจิทัล วอลเล็ต จะสรุป-เสนอรัฐบาลเรื่องให้ครม.พิจารณาอนุมัติ ซึ่งขณะนี้ประเด็นสำคัญที่ถูกตั้งคำถามมากที่สุดคือ การใช้งบประมาณของ ธกส.โดยอาศัย มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง 2561 ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่? ขัดกับกฎหมายการจัดตั้ง ธกส.หรือไม่? ... ประเด็นนี้แบงก์ชาติและนักวิชาการแสดงความกังวล

อีกประเด็นคือ วิธีการใช้จ่ายเงิน ทำไมไม่ใช้ระบบเงินสดตั้งแต่รอบแรก มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ รวมทั้งการพัฒนาแอปฯ 'ทางรัฐ' ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีกเท่าไหร่?

2) ทักษิณ ชินวัตร ได้เปล่งบารมีเป็นศูนย์กลางอำนาจตัวจริงของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ขณะไปปักหลักเชียงใหม่ห้วงเทศกาลสงกรานต์ มีเพียงรัฐมนตรีของพรรค 4 คนที่ติดภารกิจเท่านั้นที่ไม่ไปร่วมคือ เศรษฐา ทวีสิน, ภูมิธรรม เวชยชัย, ปานปรีย์ พหิทธานุกร และ จักรพงษ์ แสงมณี

สายข่าวแจ้งว่า การปรับครม.น่าจะเกิดในช่วงเดือนพ.ค.หรืออย่างช้าหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 ผ่านวาระแรกในเดือน 5-6 โดยวัดจากอุณหภูมิในขณะนี้ รัฐมนตรีที่ไข้ขึ้นสูงถึงขั้นต้องพักผ่อนคือ นายสุทิน คลังแสง และไชยา พรหมมา ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ถ้าจะโยกจาก รมว.สธ.ไปสภาฯ ก็ตีความกันว่า ต้องไปเป็นประธานสภาฯ แทนท่านวันมูหะหมัดนอร์ มะทา เท่านั้น

แต่คำถามมีอยู่ว่า...ท่านวันนอร์จะยอมไหม? ถ้ายอม..แล้วไม่กลัว 'พ่อมดดำ' สุชาติ ตันเจริญ ที่ยอมกลืนเลือดมา 7-8 เดือนจะโวยวายบ้างเหรอ?? งานนี้ยุ่งตาย....

3) สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามความปลอดภัยในนาทีที่ดูเหมือนบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าการปรับ ครม.และ ดิจิทัล วอลเลต ก็คือ...ความรู้สึกอึดอัดของผู้คนจำนวนไม่น้อยกับตัวละครคนสำคัญของ 'ดีลลับ' คือ 'ทักษิณ' ที่ยังเป็นจำเลยสังคมกรณีความเป็นนักโทษเทวดาและพักโทษ...ซึ่งล่าสุดได้พูดชัดเจนกรณีน้องสาว 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' ที่หนีคดีจำนำข้าวว่า จะได้กลับบ้านอย่างแน่นอนภายในปีนี้ หรือมาทำบุญกรานต์ปีหน้าร่วมกัน...

ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สถาบันนิด้าคนดัง โพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 15 เม.ย.67 ตอนหนึ่งว่า...

"สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังตั้งเค้า เป็นเงาทะมึนดำ -ท้องฟ้ากำลังสาดฉายแสงฉานสีแดงอมส้ม-การเปลี่ยนแปลงใดๆ ย่อมรอคอยสถานการณ์และเงื่อนไขที่สุกงอม-แต่สิ่งที่ประวัติศาสตร์สอนเราเสมอมาคือ ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอย..ฯลฯ.."

'เล็ก เลียบด่วน' อ่านทางเดาใจ ดร.อานนท์ สรุปแล้วอาจารย์น่าจะคาดหมายว่า...ในอีกไม่นานพรรคส้มกับพรรคแดงคงจะร่วมรวมกันจับมือกัน...แล้ววันนั้นอีกฝ่ายคงจะไม่ยอมให้บ้านเมืองพลิกข้างเปลี่ยนโฉมไปมากขนาดนั้นแน่...อันตราย!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

'เทพโจ๊ก' หน้ามืด!! ดับเครื่องชน สู้เททุกเดิมพัน หวังแสงสุดท้าย 'จันทร์ส่องหล้า' พากลับผงาด


ทบทวนไทม์ไลน์เมื่อไม่กี่วันก่อนสักนิด...

18 เม.ย.67 นายกฯ ส่งตัว พล.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล 'บิ๊กโจ๊ก' กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร.ลงนามตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และมีคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน

ที่นายกฯ ต้องส่งบิ๊กโจ๊กกลับ สตช.ก็เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นปฏิบัติการตามกฎหมายลงนาม

19 เม.ย.67 พนักงานสอบสวนนำสำนวนคดีเว็บพนัน BNK MASTER ที่บิ๊กโจ๊กถูกออกหมายจับข้อหาฟอกเงินไปให้ ป.ป.ช. ตามขั้นตอน-กระบวนการ

22 เม.ย.67 บิ๊กโจ๊กในฐานะอดีต ผบ.ตร.แต่งชุดพลเรือนไปแถลงข่าวและร้องเรียนแบบจัดชุดใหญ่ที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ประเด็นสำคัญการร้องเรียนตามที่ 'บิ๊กโจ๊ก' แถลงคือ...

- ให้ประธาน ป.ป.ช.ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.และออกคำสั่งมิชอบให้ตนกลับ สตช.ก่อนถูกสั่งให้ออกจากราชการ
- ขอให้ตรวจสอบการทำกระทำของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดที่ทำคดีเว็บพนันออนไลน์มีอำนาจหน้าที่โดยชอบหรือไม่

ส่วนประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งที่ 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่แถลงก็คือ กรณีที่เขาทำหนังสือร้องต่อประธาน ป.ป.ช.ให้สอบสวนพฤติกรรมของกรรมการ ป.ป.ช.ชื่อ 'สุชาติ ตระกูลเกษมสุข' ที่บิ๊กโจ๊กกล่าวหาว่า ‘มิชอบ’ และเป็นคู่กัดกับตน เกรงว่าต่อไปตนจะถูกกลั่นแกล้ง...

กรณีให้สอบกรรมการ ป.ป.ช.นี่น่าสนใจ เพราะตามเอกสารที่ว่อนโซเชียลในขณะนี้นั้น 'เทพโจ๊ก' ได้อ้างพยานบุคคลที่ชื่อ 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วย ทำเอา 'ลุงป้อม' สะดุ้งโหยงปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับนายสุชาติที่เทพโจ๊กอ้างว่าได้พาไปพบลุงป้อมขอให้ช่วยดันเป็นกรรมการ ป.ป.ช.

รวมความนาทีนี้ 'บิ๊กโจ๊ก' ชกสุดหมัดลุยสุดตัวแบบเทเดิมพัน พร้อมประกาศว่าเขาจะกลับมาชิง ผบ.ตร.ได้อย่างแน่นอน...

ผู้สันทัดกรณีแทบทุกรายดูแล้ว…เห็นพ้องกันว่าปีนี้ประตูชิง ผบ.ตร.ของเทพโจ๊กปิดสนิทแล้ว เพราะอย่างไรเสียการสอบวินัยร้ายแรงจะยังไม่แล้วเสร็จ  อย่าว่าแต่ปีนี้เลย อนาคตปีต่อ ๆ ไป ก็มืดมน ...

ประเด็นสำคัญ เรื่องราวของ 'บิ๊กโจ๊ก' ใน พ.ศ.นี้ เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ถูกเด้งดึ๋งขาดจากตำแหน่งเดิม (ผบช.สตม.) ไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกฯ  ซึ่งบิ๊กโจ๊กต่อสู้ทำหนังสือร้องเรียนในหลายกระบวนท่า จน 'บิ๊กตู่' ต้องส่งตัวกลับ สตช. ในปี 2564 และ สตช.เปิดอัตราที่ปรึกษาพิเศษเทียบเท่า ผช.ผบ.ตร.ให้นั้น...

เพราะบารมี 'บิ๊กป้อม' ที่ลุงตู่เกรงใจ...แต่วันนี้ไม่ใช่วันนั้น...

การดับเครื่องชนตั้งแต่ นายกฯ ยัน สตช. และ ป.ป.ช.หนนี้ เดิมพันอนาคตสูงยิ่ง...เสี่ยงที่จะดับวูบเอาง่าย ๆ...ไม่มีหลักประกันใด ยกเว้นกรณีเดียวคือแสงสว่างจาก 'จันทร์ส่องหล้า' ที่อาจพระพริบ ๆ ให้เทพโจ๊กกล้าลุย...

แต่ก็นั่นแหละนาทีนี้...จันทร์ส่องหล้าเองก็มีปัญหาของตัวเองให้แก้ให้ขบคิดเยอะอยู่แล้ว ไม่น่าจะลากเอาคนสีกากีที่พัวพันคดีสีเทาเว็บพนันมาทำให้ยุ่งเป็นฝอยขัดหม้ออีก..!?

ยลโฉมหน้า 6 รัฐมนตรี ภายใต้ ‘เศรษฐา 2’ จับตา!! ‘พิชัย’ ปลดล็อกดิจิทัลวอลเล็ตฉลุย

อีกไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่เพลารายชื่อการปรับคณะรัฐมนตรีหรือครม.ที่เป็นทางการก็จะออกมา...ใครนั่งตำแหน่งไหน…ใครสลับกับใคร แต่จะว่าไปก็ไม่มีอะไรตื่นเต้นแล้ว...

‘เศรษฐา 2’ รอบนี้ หลุด 4 เข้า 6 รวมจำนวนรัฐมนตรี (รวมนายกฯ) เต็มแม็กตามรธน.ที่มีได้ไม่เกิน 36 คน

สำหรับหลุดจากตำแหน่ง 4 คน..ล้วนแต่น่าเห็นใจ

-นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ดีทียังมีตำแหน่งสส.ไปโชว์ฟอร์มในสภาฯได้ หากอีก 2 เดือนพรรคก้าวไกลโดนยุบ ‘หมออ๋อง’ ประดิพัทธิ์ สันติภาดา ที่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลต้องหมดสภาพสส.ไปด้วย ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ว่าง ก็อาจเป็นช่องทางที่เพื่อไทยจะเยียวยาคุณหมอ...ช่วงนี้ก็กลืนเลือดกันไปก่อน…

-ดร.พวงเพ็ชร์ ชุณละเอียด ‘มาดามแจ๋น’ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทางพรรคก็คงมีตำแหน่งแห่งที่ให้ขับเคลื่อนงาน…

-ไชยา พรหมมา รมช.เกษตรฯ สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ก็เป็นคนมีแสงในตัวเองอยู่แล้ว ไม่น่าห่วง…

-อนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯ สส.ชัยนาท พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นนักการเมืองมีสปิริต พรรครทสช. ก็คงมอบหมายบทบาทที่สำคัญในพรรค

ส่วนรมต.หน้าใหม่ 6 ท่าน ก็ต้องแสดงความยินดีมา ณ โอกาสนี้ ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาว ขอให้เปล่งศักยภาพโชว์ฝีไม้ลายมือกันให้เต็มที่

-พิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกฯ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์และ ฯลฯ ลาออกทุกตำแหน่งมาเป็นรองนายกฯ และรมว.คลัง แม้จะมีภาพลักษณ์ยี่ห้อ ‘ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์’ ติดตัวอยู่ แต่มีความเป็นมืออาชีพ และน่าจะมาช่วยถอดสลักระเบิด ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ให้มันเดินหน้าไปได้แบบถูกต้องชัดเจนขึ้น

-ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรมว.คลัง รอบนี้ทั้งคนชื่อ ‘ภูมิธรรม’ และ ‘หมอมิ้งค์’ ช่วยดันจนเลื่อนชั้นเป็น รมช.คลัง ระวังอย่าไปเหยียบเปลือกกล้วยก็ละกัน…

-จิราพร สินธุไพร ‘สส.น้ำ’ แห่งร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อายุ 36 ขวบ ผ่านเกณฑ์รมต. (อย่างน้อย 35 ปี) เฉียดฉิว ถ้าได้กำกับหน่วยงาน กรมกองที่ถูกที่ถูกทางก็น่าจะไปได้สวย

-พิชิต ชื่นบาน เจ้าของฉายา ‘ทนายถุงขนม’ จะเป็นมือกฎหมายในตำแหน่งรมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็น่าจะทำให้งานด้านกฎหมายรัฐบาลลื่นไหลมากขึ้น

-อรรถกร ศิริลัทธยากร สส.เบนซ์ จากฉะเชิงเทรา อดีตเลขาธิการวิปสมัยรัฐบาลลุงตู่พลังประชารัฐ   เบียดอนันต์ ผลอำนวย จากกลุ่มกำแพงเพชร ด้วยแรงดันพิเศษของ ‘ผู้กอง’ ธรรมนัส พรหมเผ่า…เข้าป้าย รมช.เกษตรฯ ตามโควตาของพรรคที่ว่างอยู่

-สุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ พรรครทสช. อดีตรมว.แรงงาน รอบนี้ยอมลดชั้นเป็นรมช.(พาณิชย์)...กระทรวงนี้น่าจะตรงสเปก บวกกับเป็นคนบริหารจัดการเก่ง คาดว่าจะเป็นกำลังสำคัญสร้างผลงานให้พรรค ให้รัฐบาลได้ในเร็ววัน…

พูดไปทำไมมี…ปรับครม.รอบนี้ คนนอกทำเนียบที่ทำหน้าที่ ‘เคาะ’ สุดท้ายจริง ๆ น่าจะเป็น ‘นายใหญ่’ และ ‘เจ๊ใหญ่ เมืองเหนือ’ ก่อนจะถึงมือนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน

เคาะไปเคาะมานายกฯ เศรษฐายอมหดเก้าอี้ เหลือตำแหน่งเดียว หะแรกจะไปควบ รมว.กลาโหม ทำเอาคนชื่อสุทิน คลังแสง ‘ว้าวุ่น’ จนออกอาการถอดใจไปวูบใหญ่ ๆ แต่ ‘นายใหญ่‘ บวกลบคูณหารแล้ว เห็นว่ากึ๋นและวิธีคิดของสุทินเข้าท่าหลายเรื่อง…ก็เลยจัดให้เป็นการสร้าง ’หลักนิยมใหม่‘ คิดใหม่ ทำใหม่ แบบเพื่อไทยซะเลย…คือจากนี้ พลเรือนที่มานั่งเก้าอี้รมว.กลาโหม ไม่จำเป็นต้องเป็นพลเรือนที่มีตำแหน่งเป็นนายกฯ เท่านั้น…ลูกชาวบ้านแต่มีกึ๋น มีความเหมาะสม มีวุฒิภาวะก็เป็นได้…

ต้องยินดีกับ ฯพณฯ คลังแสง มา ณ โอกาสนี้ ...แต่ยังไง ๆ ก็อย่าไปรื้อพ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม 2551 ให้มันเลอะเทอะเชียวนา...เดี๋ยววุ่น...สิบอกให้!!

เชือด 'ปานปรีย์-ชลน่าน' ใช้บริการ 'มาริษ-สมศักดิ์' สนอง 2 เรื่องใหญ่ 'ดันผลงานอิ๊ง-ชิงปูกลับบ้าน'

ทำไมทำมาปรับครม.เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้า 6...ครม.เต็มแม็ก 36 คน และพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวที่เกิดแรงกระเพื่อมมากกว่าที่นึก แถมลึกกว่าที่คิด...เพราะมองกันข้ามช็อต ท้ายสุด...สุดท้าย 'นายใหญ่' เอาอยู่...

ตอบคำถามกรณี ดร.ตั๊ก-ปานปรีย์ พหิทธานุกร 'หลานน้าชาติ' ไขก๊อกทิ้งเก้าอี้ รมว.ต่างประเทศ สักนิดว่าเพราะอะไร?...ในมุมข่าวมุมมองของ 'เล็ก เลียบด่วน'

1) ประเด็นหลัก...เพราะทำใจไม่ได้ ที่โดนริบเก้าอี้รองนายกฯ ซึ่งจะเสริมส่งให้ความเป็น รมว.ต่างประเทศแข็งแกร่งขึ้น และจริง ๆ แล้วตำแหน่งรองนายกฯ จะมีสักกี่ตำแหน่งก็ได้ พอโดนริบ รมว.ต่างประเทศก็ต้องไปอยู่ใต้กำกับของรองนายกฯ คนใดคนหนึ่ง...อาจจะเป็น 'ภูมิธรรม' หรือ 'สุริยะ'...ถ้าคนแรกก็ดีไป แต่ถ้าเป็นสุริยะอาจทำใจลำบาก...

2) ประเด็นอื่น...เมื่อสบโอกาสจากประเด็นแรกคือ โดนริบเก้าอี้ ก็ง่ายที่จะตัดสินใจไขก๊อก ไม่ต้องไปวัดดวงกับงานเสี่ยงภัยในอนาคต เช่น กรณีมีข่าวว่า...การกลับบ้านของอดีตนายกฯ ปู-ยิ่งลักษณ์ อาจต้องใช้สถานทูตไทยในต่างแดนเป็นกึ่ง 'คุกนอกเรือนจำ' ให้วุ่นวาย...รวมทั้งกรณีอื่น ๆ ที่หมิ่นเหม่จะผิดกฎหมาย อาทิ ดิจิทัลวอลเล็ต, กรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา...

ก็นับว่าน่าเสียดาย คนดีมีฝีมืออย่าง ดร.ปานปรีย์ ที่กำลังออกอาวุธหลายเรื่องได้ค่อนข้างดี มีอันต้องจบข่าวซะก่อน...จากนี้ไปก็ต้องตามไปดู 'อดีตทูตปู' มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ (ปานปรีย์) คนที่เคยรับใช้ใกล้ชิดทั้ง 'นายใหญ่' ทักษิณ ชินวัตร และ นายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ ซึ่งน่าจะรับประกันซ่อมฟรีว่า...ตอบโจทย์นายใหญ่และน้องสาว ได้แน่ แต่สุดท้ายจะพากันไปสุดซอยเหาะเหินเดินลงกาหรือไม่...อันนี้ไม่กล้าฟันธง...

ขอแถมท้ายด้วยกรณี 'เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าชลน่าน' สักนิด...สรุปให้ตรงประเด็นที่สุดงานนี้ ก็เพื่อตอบโจทย์ลูกสาวนายใหญ่ ที่จะต้องเร่งโชว์ฟอร์มสร้างผลงาน '30 บาทรักษาทุกที่' ให้บังเกิดทั้งเบี้ยและเม็ดงานที่งอกงาม   

ทั้งนี้ 7 เดือนที่ผ่านมานั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่หอบหิ้ว 'หมออ้อย' ภรรยาไปช่วยงานด้วยนั้น ว่ากันว่าเอาข้าราชการไม่อยู่...หนำซ้ำคล้าย ๆ ที่ชมรมแพทย์ชนบทแถลงออกมานั่นล่ะว่า...หลายครั้งคุณหมอถูกใช้เป็นเครื่องมือคุกคาม สปสช. ที่ดูแล 30 บาท อีกต่างหาก...

ก็ต้องเรียนท่านผู้อ่านว่า...เสือสองตัว ณ กระทรวงสาธารณสุขนั้น ฝั่งหนึ่ง 'ปลัด สธ.' ดูข้าราชการทั้งมวล อีกฝั่ง 'เลขาธิการ สปสช.' เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ดู 30 บาท งบประมาณมหาศาล...ทั้งสองฝั่งมีรัฐมนตรีกำกับดูแล ต้องใช้วิทยายุทธขั้นสูงทีเดียว...

ส่วน แพทองธาร ชินวัตร 'อุ๊งอิ๊ง' นั้น...วันนี้อยากขับเคลื่อน '30 บาทรักษาทุกที่' ให้แวววับจับต้องได้ เพราะคุณเธอนั่งคร่อมเก้าอี้ถึง 2 ตำแหน่ง คือ รองประธานกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ (นายกฯ ประธาน) และ ประธานคณะกรรมการบริหารพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ

งานนี้นายใหญ่และพรรคเพื่อไทยยอมจ่ายแพง...เชือดหมอชลน่าน ถ้า 30 บาทรักษาทุกที่ยังกระดื๊บ ๆ ก็ถือว่าไม่คุ้มค่า...แต่ทีมงานอุ๊งอิ๊งหลายคนมั่นใจว่า 'อาสมศักดิ์' เอาอยู่...ทำได้ 

ก็คอยดูกันต่อไป แต่ยังไง ๆ พรรคเพื่อไทย อย่าลืมเช็ดเลือดและน้ำตาให้คุณหมอด้วยล่ะ!!

จาก 'เศรษฐา' เกยตื้น 157 ถึงเกมลึกสกัดนายกฯ อบจ.สีส้ม

ปัญหาคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ 'พิชิต ชื่นบาน' ที่ถูกยกชั้นเรียกขานกันใหม่ว่าเป็น 'รมต.ถุงขนม' อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่น ๆ 

ใครที่ได้อ่านหนังสือลับมากที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบกลับสำนักเลขาธิการ ครม.ถามเรื่องคุณสมบัติต้องห้ามของ รมต.เฉพาะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (6) แล้ว พอจะอ่านออกว่าอะไรเป็นอะไร...

กรรมการกฤษฎีกาย้ำคำว่า “เฉพาะตามมาตรา 106(7)”...และตอนท้ายก็ย้ำอีกทีว่า คำถามที่ถามไป...ถามเฉพาะมาตรานี้เท่านั้น...

ต้องเท้าความสั้น ๆ กันลืมว่า นายพิชิตนั้นไปนอนคุก 6 เดือนเมื่อปี 2551 เพราะ 'คำสั่งให้จำคุก' ฐานละเมิดอำนาจศาล (กรณีถุงขนม) ยังไม่ถึงขึ้น 'ต้องคำพิพากษาให้จำคุก'

เมื่อตีความมาตรา 106 (6) ก็ว่าไปตามนั้น...ที่ผ่าน ๆ มา ก็ยังไปสมัคร สส.ได้ แต่รอบนี้เป็นรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการ ครม. ทำไมไม่ได้ถามถึง (4) และ (6) ของมาตรา 160 ด้วยเล่า...เพราะ 160 บัญญัติว่า ...รัฐมนตรีต้อง (4) มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ (6) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง....

คุณสมบัติของเสนาบดีนั้นเข้มข้นหรือสูงกว่า สส.

จัดครม.รอบแรกมีการแตะเบรกไม่เสนอชื่อ 'พิชิต' แต่ปรับ ครม.หนนี้ เมื่อ 'นายใหญ่' เคาะ 'นายกฯ นิด' มีหรือจะกล้าขวาง...ปัญหามีอยู่ว่าตอนนี้กลุ่มต่าง ๆ ได้ไปยื่นเรื่องนี้อย่างพร้อมพรึ่บ ทั้ง กกต., ปปช. และผู้ตรวจการแผ่นดิน...คำตอบสุดท้ายหากศาลรัฐธรรมนูญชี้เปรี้ยงปร้างว่า คุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ...พิชิตคงไม่เป็นไร แต่คนชื่อ 'เศรษฐา' ก็คงต้องถูกฟ้องเอาผิดตามมาตรา 157 ทุจริตประพฤติมิชอบต่อหน้าที่...

ตกเก้าอี้...ตายน้ำตื้น คล้ายอดีตท่านนายกฯ สมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551 ก็เป็นได้...

แถมท้ายอีกเรื่อง...กรณี 'บิ๊กแจ๊ส' พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานีลาออกจากตำแหน่ง ก่อนครบวาระในวันที่ 19 ธ.ค. 2567 อ้างว่า ช่วง 6 เดือนหลังจังหวัดมีงานใหญ่งานสำคัญมากมาย ต้องใช้งบประมาณ และดำเนินการต่าง ๆ แต่ตามข้อกฎหมายเมื่อเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งจะทำอะไรแทบไม่ได้ กฎหมายห้าม...จึงตัดสินใจลาออกเพื่อเลือกตั้งใหม่ใน 60 วัน

ไม่เพียง 'บิ๊กแจ๊ส' เท่านั้นที่ลาออก แต่ยังจะมีอีก 2 เสือลุ่มน้ำเจ้าพระยา พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์, 'กำนันตี๋' สุรเชษฐ์ นิ่มสกุล นายก อบจ.อ่างทอง...ลาออกเช่นกัน...

อ่านเกมผิวเผิน...เหตุผล 'บิ๊กแจ๊ส' พอรับฟังได้เล็กน้อย แต่ถ้าอ่านไพ่ให้ทะลุงานนี้ล้ำลึก...สรุปสั้น ๆ 

1) คู่แข่งตั้งตัวไม่ทัน  
2) บรรดา สจ.ยังอยู่ในตำแหน่ง ไม่ต้องเลือกตั้งใหม่ คนเป็นแม่ทัพประหยัดงบฯ ได้อื้อ 
3) หากชนะใช้งบประมาณสร้างผลงานต่อเนื่อง...

น่าสังเกตว่า ทั้ง 3 นายกฯ อบจ.ที่กอดคอกันลาออกรอบนี้ มีสายโยงใยไปถึงคนใหญ่คนโตภูมิใจไทย ทั้งอุทัยธานีและบุรีรัมย์...

งานนี้คนที่เข็มขัดสั้น...คาดไม่ถึงน่าจะชื่อ 'ธนาธร' แห่งคณะก้าวหน้า...ที่กำลังวาดภาพ นายกอบจ.สีส้มเต็มแผ่นดินต้นปี 2568 หลังกวาด สว.สีส้มในเดือนก.ค.ปีนี้...

เจอกระบวนท่านี้ สีส้มมีหมอง!!

'เพื่อไทย' ซื้อเวลาให้ 'อุ๊งอิ๊ง' ส่วน 'ภท.' เมากัญชารอบ 2 กองทัพอนุรักษ์นิยม ยอม 'พท.-ทักษิณ' ไว้ยันอำนาจสีส้ม

"...ผลเสี่ยงทาย ของกิน 7 สิ่ง ของ พระโคพอ พระโคเพียง ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 2567 ปีนี้ พระโคกินน้ำ หญ้า เหล้า ขณะที่พระยาแรกนาเสี่ยงทายผ้านุ่ง ได้ผ้า 5 คืบ ทำนายว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี..."

'เล็ก เลียบด่วน' นำผลเสี่ยงทายในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญมาบันทึกไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรไทย...มิได้มีเจตนาแขวะประเด็นพระโคไม่กินข้าว ไม่กินข้าวโพด แต่ประการใดไม่...ขอบอก!!

สุดสัปดาห์นี้ ขอจับชีพจรพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลและขอวิเคราะห์ทำนายเสี่ยงทาย ไฮไลต์ที่น่าสนใจ...พอเป็นสังเขป จากพรรคเล็กไปถึงพรรคใหญ่

- พรรคประชาชาติ: ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรค, นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรค และร่มเงาใหญ่อย่างท่านวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ จะยังเดินหน้าเป็น 'เพื่อไทย' สาขาด้ามขวานได้เป็นอย่างดี ภายใต้เงื่อนไขคนชื่อ 'ทักษิณ' อย่าโผล่ไปสะกิดแผลกรือเซะ, ตากใบ เป็นอันขาด...

- พรรคชาติไทยพัฒนา: วราวุธ ศิลปะอาชา 'ลูกท็อป' ยังโชว์ฟอร์ม รมต.พม. ได้ดีพอประมาณ แต่การพัฒนาขยายพรรคยังไม่เข้มแข็งพอ ทราบมาว่าตอนนี้ 'เดอะท็อป' กำลังจะเปลี่ยนม้าศึกในศึกเลือกตั้งนายกฯ อบจ. เดือน ก.พ. 2568 เป็นคนใหม่ ว่ากันว่านี่น่าจะเป็นรอยปริรอยร้าว ณ ดินแดนบรรหารบุรี ที่ไม่ควรมองข้ามความปลอดภัย...

- พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.): เมื่อกฤษฎา จีนะวิจารณะ ลาออกจาก รมช.คลัง ด้วยเหตุ 'ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้' ก็ต้องเปลี่ยนตัว รมต.เป็นคนใหม่ แต่น่าจะตำแหน่งใหม่ไม่ใช่ รมช.คลัง และไม่ใช่ รมช.อุตสาหกรรม อย่างที่สื่อบางค่ายพยายามพูดชี้นำ ส่วนความเป็นเอกภาพปึกแผ่นของพรรค 'เลขาขิง' รับประกันว่ายังปึ้ก...อยากรู้ละเอียดเพิ่มรีบไปฟังบทสัมภาษณ์เลขาขิงโดยสื่ออาวุโส 'สำราญ รอดเพชร' ในเพจของพรรคได้เลย...

- พรรคพลังประชารัฐ: สั้น ๆ ได้ใจความยามนี้...ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ถือดุลอำนาจเหนือพี่น้อง สองป. คือ ป.ป้อม ป.ป๊อด แต่ก็อยู่กันไปแบบให้เกียรติกัน...มือปั่นข่าวว่า ป.ป้อมจะเป็นนายกฯ ก็ยังปั่นต่อไปดีกว่าอยู่เปล่า ๆ...555

- พรรคภูมิใจไทย: เป็นพรรคที่นับว่าน่าสงสารที่สุดในยามนี้ เพราะต้อง 'กลืนเลือด' อึก ๆ กรณีกัญชา...ที่พรรคเพื่อไทยจะเอาไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม เพราะแรงกดดันจากสังคมและพี่น้องชาวอีสานที่คับแค้นเรื่องยาเสพติดอย่างกัญชา รวมทั้งนโยบายยาบ้า 5 เม็ด...จากนี้ไปเรื่องกัญชาจะกลายเป็นแผลเป็นสำหรับภูมิใจไทย ยกธงขาวก็เสียฟอร์มเสียหาย ไปต่อก็เรือหาย...เลือกตั้งรอบหน้าจะขายอะไร...จะขายนโยบาย อสม. เพื่อไทยก็เอาไปหมดแล้ว...อ้าว!! รอดู 14 พ.ค. เลขาพรรค ไชยชนก ชิดชอบ จะมาปล่อยของ!!

- พรรคเพื่อไทย: จะว่าไปพรรคนี้น่าจะเละตุ้มเป๊ะที่สุด ตั้งแต่ปรับ ครม. / แบ่งงานรัฐมนตรี วงแตกแยกวงกันวุ่นวาย วันก่อนจัดงาน '10 เดือนไม่ต้องรอทำต่อให้เต็ม 10' อุ๊งอิ๊งลูกสาวนายห้างก็ทำระเบิดใส่พรรคขณะโชว์วิสัยทัศน์ ว่า "ความเป็นอิสระของแบงก์ชาติเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ..." และที่วุ่นวายไม่จบหักลบกลบหนี้แล้วมีแนวโน้มจะขาดทุนป่นปี้ก็คือ กรณีข้าว 10 ปีที่ 'สหายใหญ่' ภูมิธรรม เวชยชัย พาใครต่อใครไปกินข้าวโชว์เมื่อวันก่อน...

นั่นยังไม่นับ...บทบาทของนักโทษชายที่อยู่ระหว่างการพักโทษอย่าง 'ทักษิณ ชินวัตร' ที่เคลื่อนไหวรัว ๆ ในหลายเรื่อง ส่งแรงกระเพื่อมเชิงลบไม่จบสิ้น ซึ่งขออนุญาตไม่พูด ณ ที่นี้..

อย่างก็ตามพรรคเพื่อไทยและทักษิณคงประเมินแล้วว่า ตราบใดดุลอำนาจ-สมการการเมือง ยังเป็นอย่างนี้ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังต้องใช้บริการเพื่อไทยเพื่อยันกับอำนาจสีส้ม หนักนิดเบาหน่อย ก็คงจะปล่อยให้เพื่อไทย-ทักษิณ ตอนนี้กำลังเร่งบ่มแก๊สอุ๊งอิ๊ง ให้สุกงอม เป็นนายกฯ ได้ทันปี 2570

จบข่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top