Sunday, 30 June 2024
เรือหลวงสุโขทัย

'ทร.' แจง 'ก้าวไกล' เหตุยกเลิก 'จ้างกู้-ลำเลียง' รล.สุโขทัย เพราะไม่มีรายใด ยื่นเอกสารครบถ้วนถูกต้องตามเงื่อนไข

(13 ก.ย.66) พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าตามที่ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหล่าทัพ โดยช่วงหนึ่งของการอภิปราย กล่าวถึงการกู้เรือหลวงสุโขทัย ว่า...

"กองทัพเรือได้เปิดประมูลกู้ เรือหลวงสุโขทัย ภายหลังได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 200 ล้านบาท โดยมีผู้ยื่นซองประมูลจำนวน 16 ราย ซึ่งได้มีการนัดยื่นซอง ประกวดราคาเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 66  แต่ต่อมา ในวันที่ 8 ก.ย. 66 มีประกาศจากกองเรือยุทธการ ยกเลิกประมูล โดยไม่แจ้งเหตุผล ไม่ทำ TOR ไม่เปิดเชิญชวนใหม่ แต่ให้คนเคยยื่นซองยื่นไปใหม่ราคาเดิม ทำให้เกิดข้อสงสัย ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่โปร่งใส"

พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวว่า การกู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัยนั้น กองทัพเรือ ได้อนุมัติหลักการและงบประมาณในการจ้างกู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัย โดยให้กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยถืองบประมาณ 

ในการนี้กองเรือยุทธการได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงานหรือ TOR และกำหนดคุณลักษณะรวมถึงรายละเอียดการจ้างกู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัย เพื่อดำเนินการจัดทำราคากลางและ TOR งานจ้างกู้และลำเลียง ซึ่งคณะกรรมการจ้างโดยวิธีคัดเลือกได้มีหนังสือเชิญชวนเสนอราคาถึงผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนดจำนวน 14 ราย โดยได้กำหนดยื่นวิจารณ์ขอบเขตของงานภายในวันที่ 15 ส.ค.66 รับฟังคำชี้แจงจากการวิจารณ์ขอบเขตของงานในวันที่ 18 ส.ค.66 และยื่นข้อเสนอในวันที่ 25 ส.ค. 66 โดยเมื่อถึงกำหนดวันเวลายื่นซองข้อเสนอปรากฏว่ามีผู้ยื่นข้อเสนอจำนวน 6 ราย 

จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการยื่นข้อเสนอของทั้ง 6 ราย พบว่าไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอรายใดยื่นเอกสารครบถ้วนถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนด จึงไม่มีการพิจารณาข้อเสนอทางด้านเทคนิคและข้อเสนอทางด้านราคา คณะกรรมการฯ จึงได้ยกเลิกการจ้างและลำเลียงเรือหลวงสุโขทัยในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และจะมีการประกาศเพื่อคัดเลือกใหม่ในโอกาสต่อไป โดยทางคณะกรรมการจัดจ้าง จะให้ทุกบริษัทที่สนใจ ยื่นซองใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยไม่มีการปิดกั้นบริษัทใดๆ ทั้งสิ้น

"การกู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัยรวมถึงการจัดหายุทโธปกรณ์ต่างๆ นั้น กองทัพเรือมีนโยบายในการจัดหาด้วยความโปร่งใส มีเอกสารหลักฐานการดำเนินงานอย่างชัดเจน มีขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในส่วนของการ จ้าง กู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัย หากมีความคืบหน้าจะได้มีการชี้แจงให้สื่อมวลชนได้ทราบในโอกาสต่อไป" พล.ร.อ.ปกครอง กล่าว

‘พล.ร.อ.อะดุง’ เข้ารับตำแหน่ง ‘ผู้บัญชาการทหารเรือ’ ลั่น!! สานต่อ ‘กู้เรือหลวงสุโขทัย’ โปร่งใส-ตรวจสอบได้

(29 ก.ย.66) พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม บัญชาการทหารเรือ ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ภายหลังรับตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ ต่อจาก พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ บริเวณหน้าอาคารกองบัญชาการกองทัพเรือพระราชวังเดิม โดยกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเปิดเผยถึงนโยบายในการบริหารกองทัพเรือ 7 ด้าน ตลอดระยะเวลา 1 ปีในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ ว่า

ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผมเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2566 นั้น ผมและครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและจะน้อมนำ พระบรมราโชวาทที่พระองค์ได้พระราชทานไว้ในวโรกาสต่าง ๆ มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยอย่างสูงสุด การนำกองทัพเรือใน 1 ปีข้างหน้านี้ ตนจะบังคับบัญชากำลังพลในทุกระดับ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1. จะปกป้องและรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
2. จะนำนโยบายรัฐบาล และนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมในโอกาสแรก
3. จะเป็นปีแห่งการกวดขันระเบียบวินัยกำลังพลให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนดที่มีอยู่แล้วอย่างจริงจัง
4. จะเป็นปีแห่งการดูแลสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ให้แก่กำลังพลในทุกระดับ เพื่อให้มีขวัญกำลังใจ ที่จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ
5. จะดูแลความมั่นคงทางทะเล จะช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ และนำยุทโธปกรณ์มาสนับสนุนรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้เจริญรุ่งเรือง
6. จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้กองทัพเรือเป็นหน่วยงานที่ประชาชนชาวไทยเชื่อมั่น และภาคภูมิใจ
7. จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการและทำให้ทะเลไทยปลอดภัยและมีความมั่นคง

โดยในปีนี้ตนได้กำหนด มอตโต้ เพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของกำลังพลทุกระดับไว้คือ

"เทิดทูนสถาบัน ยึดมั่นระเบียบวินัย ประชาชนภูมิใจ ทะเลไทยมั่นคง"

พล.ร.อ.อะดุง กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณที่เป็นกำลังใจและจะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดใด ๆ และขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กองทัพเรือ

สำหรับเรื่องเรือดำน้ำเปลี่ยนเครื่องยนต์จีนจะนำส่ง รมว.กลาโหมนั้น ขอศึกษารายละเอียด อย่างที่ทราบ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. ได้ลงนามแล้วก็ส่งไปให้กองบัญชาการกองทัพไทยแล้ว
และตนจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด

เมื่อถามว่า กองทัพเรือพร้อมที่จะใช้เครื่องยนต์ของจีน หรือ พร้อมที่จะให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเรื่องเรือดำน้ำหรือไม่ พลเรือเอกอะดุง กล่าวว่า ยังไม่ขอตอบขอไปศึกษาและขอให้เป็นไปตามที่ พล.ร.อ.เชิงชาย ดำเนินการ

เมื่อถามว่า มีแผนรองรับหรือไม่ กรณีที่รัฐบาลตัดสินใจเรือดำน้ำไปอีกทางหนึ่ง พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า การตัดสินใจของรัฐบาลหรือกองทัพเรือตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของกองทัพเรือและประเทศชาติจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด

เมื่อถามถึง ความคืบหน้าการกู้เรือหลวงสุโขทัย พลเรือเอกอะดุง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายนได้เปิดเชิญชวนให้บริษัทเอกชนเข้ามาประมูลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งครั้งที่ยกเลิกไป ซึ่งพลเรือเอกเชิงชายก็ได้ระบุแล้วว่า ไม่มีอะไรผิดเพียงแต่ว่าเมื่อเปิดซองแล้วทุกบริษัทใส่เอกสารมาไม่ครบ ดังนั้น วันที่ 19 ตุลาคม จะมีการยื่นซองประมูลใหม่ ซึ่งถือเป็นไทม์ไลน์คร่าว ๆ ของการกู้เรือหลวงสุโขทัย และในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2567 เรือทยอยขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่ รมว.กลาโหม สั่งการให้จเรทหารมาตรวจสอบความเรียบร้อยเรื่องการกู้เรือหลวงสุโขทัย พลเรือเอกอะดุง ระบุว่า ยังไม่ได้อ่านข่าว แต่ในฐานะเป็นประธานกู้เรือเราทำด้วยความตรงไปตรงมาทุกอย่าง

เมื่อถามว่า ทางการเมืองจับตาดูมีความกดดันห่วงอะไรหรือไม่ พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ตนไม่ห่วงอะไรเลย กองทัพเรือจะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนและทำอย่างตรงไปตรงมา และยืนยันว่าทั้ง 2 เรื่องนี้จะต้องเสร็จในยุคของตน

ภารกิจ กู้เรือหลวงสุโขทัย วันแรกราบรื่น คาดใช้เวลา 19 วัน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ก.พ.67 พล ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ของกองทัพเรือ มาที่เรือหลวงอ่างทอง ที่จอดใกล้บริเวณพื้นที่การปฏิบัติภารกิจกู้เรือหลวงสุโขทัย ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่ง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 20 ไมล์ทะเล โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ จากนั้นคณะผบ.ทร. ขึ้นเรือ ต.998 ไปยังเรือ Ocean Valor ของกองทัพเรือสหรัฐฯที่จอดปฏิบัติงานห่างออกไปประมาณ 3 ไมล์ทะเล เพื่อเข้าตรวจเยี่ยมทหารเรือไทยและเจ้าหน้าที่จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้ส่งเรือ Ocean Valor พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยประดาน้ำ และกู้ซ่อมเคลื่อนที่ (Mobile Dive and Salvage Unit) มาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งได้ให้กำลังใจในการร่วมปฏิบัติการ

พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ทางกองทัพเรือ ขอขอบคุณกองทัพเรือสหรัฐฯ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ สำหรับเรือ ocean valor เป็นเรือเปล่าที่ขนอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นเครื่องบินจากฮาวาย มาลงที่สิงคโปร์และนำอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นบนเรือ ocean valor มาปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ โดยการดำสำรวจ มีนักดำของไทย จำนวน 35 คน นักดำ สหรัฐฯ 14 คน ปฏิบัติการดำชุดละ 3 นาย 2 นายอยู่ใต้น้ำ นักดำสำรอง 1 นาย ต่อหนึ่งชุด ใช้เวลาดำลงถึงใต้ท้องทะเล 10 นาที มีเวลาทำภารกิจ ชุดละ 45 นาที และขึ้นพัก 10 นาที สิ่งแรกหลังจากดำลงไปและจะนำขึ้นมาจากเรือหลวงสุโขทัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในวันนี้คือ ป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย ภารกิจครั้งนี้ นับไปอีก 5 วัน จะถ่ายรูปเรือและค้นหาผู้เสียชีวิต อีกทั้งสำรวจว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร 

ส่วนวันที่ 6 ถึง19 ก.พ. จะเป็นการทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เป็นอันตราย และนำทุกอย่างที่สามารถนำขึ้นมาได้จะนำขึ้นมา สิ่งของต่างๆ ที่มีคุณค่าทางจิตใจ เราจะนำไปทำเป็นอนุสรณ์สถาน  คาดว่า จะจบภารกิจภายใน 19 วัน  

สำหรับ งบประมาณปฏิบัติการ ประมาณ 200 ล้าน โดยเป็นงบของกองทัพเรือ 110 ล้าน เป็นงบของรัฐบาล 90 ล้าน โดยงยประมาณ 90 ล้าน ของรัฐบาล ทางกองทัพเรือจะคืนให้กับรัฐบาล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์กับประชาชนต่อไป ซึ่งหากการสำรวจพบโครงกระดูกมนุษย์ ก็จะนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบ DNA เพราะได้ตรวจ DNA ญาติไว้แล้ว และจะดำเนินการให้สมเกียรติทุกนาย สำหรับสภาพของเรือหลวงสุโขทัย ปัจจุบันยังคงตั้งเหมือนเดิม เอียงประมาณ 7 องศา การปฏิบัติภารกิจ ไม่น่าจะมีอุปสรรค์แต่อย่างใด

การปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 5 ยังไม่พบร่างกำลังพลที่สูญหาย

วันที่ 26 ก.พ.67 เป็นการปฏิบัติการ ค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย วันที่ 5 โดยชุดปฏิบัติการร่วมของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐ ฯ บนเรือ Ocean Valor ที่ลอยลำใกล้จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการดำน้ำ จำนวน 4 เที่ยว 

โดยมีภารกิจค้นหาผู้สูญหาย และตรวจสอบหลักฐานประกอบการสอบสวน บริเวณต่างๆ  ภายในตัวเรือ 
ดังนี้

เที่ยวที่ 1 บริเวณทางเข้าประตูทางเข้าห้องเครื่องจักรใหญ่จากทางท้ายเรือ 
เที่ยวที่ 2  บริเวณภายในห้องเครื่องจักรใหญ่
เที่ยวที่ 3 บริเวณภายในห้องเมสจ่า
เที่ยวที่ 4 บริเวณภายในห้องเสมียนพลาธิการ
(เที่ยวที่ 5 ได้ถูกยกเลิกเนื่องจากติดสภาพอากาศ)

โดยผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กำลังพลทุกนายปลอดภัย จากการปฏิบัติการจนถึงปัจจุบัน ยังไม่พบผู้สูญหายติดอยู่ในเรือ สำหรับการปฏิบัติการวันรุ่งขึ้น จะมีการปฏิบัติการดำน้ำร่วมกัน จำนวน 5 เที่ยว โดยเป็นการปลดวัตถุอันตราย ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี Harpoon และระบบตอร์ปิโด ของเรือหลวงสุโขทัย  
ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้เผยแพร่ภาพล่าสุดของเรือหลวงสุโขทัย ภายในห้องเครื่องจักรใหญ่ เพื่อค้นหาร่างของผู้เสียชีวิต แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏว่ามีการพบร่างผู้สูญหายในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว

พลเรือตรี วีรุดม  ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า การปฏิบัติร่วมฯ ระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ สำรวจ ตรวจสอบวัตถุพยานและหลักฐานมาประกอบผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์เรืออัปปาง การค้นหาผู้สูญหายที่อาจติดอยู่ในเรือ การทำให้ยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ หมดความสามารถที่จะใช้งานต่อไป และการนำอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์บางอย่าง รวมถึงการเก็บกู้สิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจของกำลังพล สำหรับการปฎิบัติการร่วมกับสหรัฐฯ ในครั้งนี้จะยังไม่มีการกู้เรือทั้งลำขึ้นมาจากใต้น้ำ  

โดยการดำเนินการปัจจุบัน ยังเป็นไปตามแผนที่ได้หารือร่วมกับฝ่ายสหรัฐฯ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือข้อขัดข้องในการปฏิบัติแต่อย่างใด ทั้งนี้ กองทัพเรือ จะรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบในโอกาสต่อไป
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

**สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ 

การปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 7 สามารถถอดถอนแท่นยิงตอร์ปิโดกราบซ้าย 3 ท่อยิงขึ้น บนผิวน้ำได้สำเร็จ

วันที่ 28 ก.พ.67 ซึ่งเป็นการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 7 โดยชุดปฏิบัติการร่วมของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ บนเรือ Ocean Valor ที่จอดเรืออยู่บริเวณอ่าวไทยใกล้จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการดำน้ำ จำนวน 4 เที่ยว โดยมีภารกิจในการค้นหาผู้สูญหาย และทำการสำรวจและถอดถอนท่อยิงตอร์ปิโด เพื่อทำลายขีดความสามารถของอาวุธ

โดยผลการปฏิบัติ ไม่พบผู้สูญหายบริเวณพื้นที่ที่สำรวจ และได้ทำการถอดถอนแท่นยิงตอร์ปิโดกราบซ้าย (3 ท่อยิง) ขึ้นบนเรือ Ocean Valor ได้สำเร็จ แต่เนื่องจากภาวะคลื่นลมแรง ความสูงคลื่น 1 – 1.5 เมตร ประกอบกับมีฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ปฏิบัติการ เป็นอุปสรรคการปฏิบัติงาน โดยชุดปฏิบัติการจะปรับแผนการปฏิบัติในส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ไปปฏิบัติในวันต่อไป 

สำหรับการปฏิบัติการวันพรุ่งนี้ จะมีการปฏิบัติการดำน้ำร่วมกัน ในการค้นหาผู้สูญหาย สำรวจและถอดถอนท่อยิงตอร์ปิโดกราบขวา เพื่อทำลายขีดความสามารถ จำนวน 4 เที่ยว 

ทั้งนี้ กองทัพเรือ จะรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบในโอกาสต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top