Saturday, 11 May 2024
เที่ยวไทย

‘ท่องเที่ยว’ จัดเต็มอีเวนต์ Q4 ชู ‘เคานต์ดาวน์’ หวังดึงต่างชาติ ปักหมุด 'กรุงเทพฯ' อวดโฉมพระปรางค์วัดอรุณฯ และ 'โคราช'

(18 ต.ค. 66) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รุกทำการตลาดและจัดกิจกรรมอีเวนต์เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวให้คึกคักในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เต็มไปด้วยสีสันแห่งการเฉลิมฉลอง ชูไฮไลต์งานเคานต์ดาวน์ในประเทศไทยให้ติดอันดับแลนด์มาร์กโลก หวังผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปี 2566 ไปสู่ระดับ 28-30 ล้านคน

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2566 ซึ่งเข้าสู่ไฮซีซัน ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมแผนงานทำการตลาด ประชาสัมพันธ์ และจัดอีเวนต์งานเทศกาล เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศ ไฮไลต์สำคัญคือการจัดงานเคานต์ดาวน์ 2566 ในประเทศไทยให้เป็นอีเวนต์ระดับโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และสร้างแรงส่งต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 1-2 ปีหน้า ซึ่งจะมีอีเวนต์ใหญ่งานเทศกาลตรุษจีนและสงกรานต์

“ททท.ได้ยื่นของบกลาง 600 ล้านบาท เพื่อนำไปทำการตลาด ประชาสัมพันธ์ และจัดอีเวนต์งานเทศกาลทั้งตลาดในและต่างประเทศช่วงไฮซีซันนี้ ผ่าน 4 โครงการ คาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้การท่องเที่ยวกลับมาไม่น้อยกว่า 31,660 ล้านบาท โดยงานเคานต์ดาวน์ทั้งที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เป็นอีเวนต์หลักในโครงการ ไทยแลนด์ เฟสติวัล เอ็กซ์พีเรียนส์ (Thailand Festival Experience) ที่จะมีการจัดอีเวนต์ต่างๆ กระจายทั่ว 5 ภูมิภาค ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ผลที่คาดว่าจะได้รับคือก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่า 1,100 ล้านบาท”

โดยสาเหตุที่ต้องยื่นของบกลาง เพราะงบจากร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่อยู่ระหว่างการจัดทำ กว่าจะใช้ได้ต้องรอไปถึงเดือน มี.ค. 2567

สำหรับข้อเสนอรวม 4 โครงการ ได้แก่

1. อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ พาสปอร์ต พริวิเลจส์ (Amazing Thailand Passport Privileges) งบประมาณ 150 ล้านบาท ผลที่คาดว่าจะได้รับคือการรับรู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายของการชอปปิงเพิ่มขึ้น และขยายลูกค้าใหม่จากตลาดต่างประเทศให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว
2. ไทยแลนด์ เฟสติวัล เอ็กซ์พีเรียนส์ (Thailand Festival Experience) ใน 5 ภาค งบประมาณ 200 ล้านบาท ผลที่คาดว่าจะได้รับ ก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่า 1,100 ล้านบาท
3. มาร์เก็ตติง แอนด์ พีอาร์ ฟอร์ซ-มูฟ (Marketing & PR Forced-move) งบประมาณ 150 ล้านบาท ผลที่คาดว่าจะได้รับจากตลาดทั่วโลกทุกทวีป 30,000 ล้านบาท
4. เดอะ ลิงก์ โลคอล ทู โกลบอล (The Link Local to Global) งบประมาณ 100 ล้านบาท ก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่า 560 ล้านบาท

>> ททท.จัดเคานต์ดาวน์ใหญ่ 2 จุด ‘กรุงเทพฯ-โคราช’

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวเสริมว่า งานเคานต์ดาวน์ 2566 ที่ ททท.เป็นเจ้าภาพจัดงานเองจะมี 2 จุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปักหมุดวัดอรุณราชวรารามเหมือนงานเคานต์ดาวน์ปีที่ผ่านมา แสดงพลุหน้าพระปรางค์วัดอรุณฯ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของภาคการท่องเที่ยวไทย พร้อมฉายภาพทัศนียภาพความสวยงามของคุ้งน้ำเจ้าพระยา ส่วนอีกจุดคือ จ.นครราชสีมา ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมาเตรียมจัดงานอีเวนต์ใหญ่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นาน 10 วัน บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฯ นอกจากนี้ ททท.ยังคงสนับสนุนภาคเอกชนจัดงานเคานต์ดาวน์อย่างต่อเนื่อง เช่น ไอคอนสยาม และเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วย

ส่วนอีเวนต์อื่นๆ เช่น เทศกาลลอยกระทง เดือน พ.ย.นี้ ททท.เป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ที่คลองผดุงกรุงเกษม และงานวิจิตรเจ้าพระยา แสดงแสงสีเสียงตามแหล่งท่องเที่ยวเลียบริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 1-31 ธ.ค. 2566 หลังจากเคยจัดปีที่แล้วเป็นระยะ 2 สัปดาห์เพื่อต้อนรับการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ได้รับเสียงตอบรับดีจากนักท่องเที่ยว

>> คาด Q4/66 ทัวริสต์ต่างชาติ 7 ล้านคน

สำหรับแนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 คาดว่ามีจำนวนรวมไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน เฉพาะเดือน ต.ค. น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ส่วนเดือน พ.ย.-ธ.ค. คาดมีเกิน 2.5 ล้านคนต่อเดือน หลังจากภาพรวมปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศช่วงตารางบินฤดูหนาว 2566/2567 ปัจจุบันพบว่ากลับมากว่า 60% แล้ว

“ตลาดที่ฟื้นตัวกลับมาอย่างโดดเด่นเกิน 80-90% เทียบกับเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด มีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย ส่วนตลาดอื่นๆ ที่มีการเติบโตดีกว่ายุคก่อนโควิดคือ ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงอิสราเอลที่ประเมินว่าจะได้จำนวนนักท่องเที่ยวตามเป้าหมาย 2 แสนคนในปีนี้”

>> ‘เศรษฐา’ บุกจีน หนุน ททท. ผนึก 8 พันธมิตร

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ด้านนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดหลักเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 ในปี 2562 ด้วยจำนวนกว่า 11 ล้านคน จากสถิติล่าสุดช่วง 9 เดือนครึ่งของปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ต.ค. พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนสะสม 2,645,885 คน ส่วนเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี 2566 ททท.ยังตั้งเป้าไว้อย่างน้อย 4 ล้านคน

ภายในสัปดาห์นี้ ททท.จะมีการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent: LOI) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ร่วมกับ 8 พันธมิตรชั้นนำของจีน ได้แก่ 1. Trip.com 2. Ant International (Alipay) 3. Meituan 4. Huawei 5. Spring Airlines 6. Xinhua Net 7. iQIYI และ 8. JegoTrip ในวันที่ 19 ต.ค.นี้ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

พันธมิตรทั้งหมดล้วนเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวและบริการรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agents: OTA) สายการบิน และผู้ให้บริการเพย์เมนต์ เกตเวย์ (Payment Gateway) เพื่อทำโปรโมชันและโปรโมตการท่องเที่ยวร่วมกัน ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เชิงบวก โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย ส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในตลาดจีน

“ทางนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมีกำหนดการไปร่วมประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation: BRF) ครั้งที่ 3 วันที่ 17-18 ต.ค. ณ กรุงปักกิ่ง และการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ต.ค.นี้ที่เมืองจีนอยู่แล้ว จะเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในงานนี้ด้วย” ผู้ว่าการ ททท.กล่าว

>> ‘ต่างชาติเที่ยวไทย’ 9 เดือนครึ่ง ทะลุ 21 ล้านคน

นางสาวสุดาวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุถึงสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ต.ค. 2566 มีจำนวนสะสม 21,019,800 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 882,450 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจาก 5 ประเทศที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด ได้แก่ อันดับ 1 มาเลเซีย 3,431,287 คน อันดับ 2 จีน 2,645,885 คน อันดับ 3 เกาหลีใต้ 1,255,769 คน อันดับ 4 อินเดีย 1,230,125 คน และอันดับ 5 รัสเซีย 1,038,036 คน

ทั้งนี้ เมื่อดูเฉพาะสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 9-15 ต.ค. มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 470,299 คน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยเฉลี่ยวันละ 67,186 คน โดย 5 อันดับแรกของประเทศที่เดินทางเข้ามาสูงสุด ได้แก่ มาเลเซีย 74,233 คน จีน 61,094 คน อินเดีย 30,170 คน เกาหลีใต้ 27,264 คน และรัสเซีย 22,018 คน

“สัปดาห์ที่ผ่านมามีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเพิ่มขึ้น 6.71% จากสัปดาห์ก่อนหน้า หรือเพิ่มขึ้น 5,227 คน เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ประกอบกับสายการบินเริ่มปรับเพิ่มจำนวนเที่ยวบินของนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซีย ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมาในภาพรวมประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 470,299 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 27,226 คน คิดเป็น 5.56%”

สำหรับสัปดาห์ถัดไป ตั้งแต่วันที่ 16-22 ต.ค. คาดว่านักท่องเที่ยวจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากการสิ้นสุดวันหยุดยาว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียตะวันออกและภูมิภาคโอเชียเนีย ความกังวลต่อภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของไทย รวมถึงการเข้าสู่ภาวะสงครามของอิสราเอล นอกจากนั้นการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศและในประเทศ ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเหตุความขัดแย้ง ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

‘อยุธยา’ เปิดให้บริการชม 4 วัดยามค่ำคืน คนละ 950 บาท หลัง ‘พรหมลิขิต’ กระแสบูม หวังสร้างเม็ดเงินให้จังหวัดมากขึ้น

(1 พ.ย.66) นายมานัส ทรัพย์มีชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยประชาชาติธุรกิจว่า ภาพรวมของการท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตอนนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นจำนวนมากช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ปกตินักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาจังหวัดพระนครศรีอยุธยามักเดินทางแบบไป-กลับ ไม่พักค้างคืน

แต่หลังจากมีกระแสของละครเรื่อง ‘พรหมลิขิต’ เริ่มออกอากาศไป และทางกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้อนุญาตเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมวัดไชยวัฒนารามได้จนถึงเวลา 22.00 น. ในช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จากการสอบถามผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร โดยเฉพาะโรงแรมมีอัตราการจองเข้าห้องพักประมาณ 80% สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเฉลี่ย 20,000 คนต่อวัน ส่วนวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 2,000 คนต่อวัน โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นคนไทย ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น เกาหลี จีน และโซนยุโรป ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเฉลี่ย ประมาณ 1,000 ต่อหัวต่อคน คาดการณ์เงินสะพัด 200 ล้านบาทต่อเดือน

“สำหรับวัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายและเป็นไฮไลต์ของละครดังกล่าว ปกติจะเปิดให้บริการ 08.00-18.00 น. ช่วงกลางคืนวัดค่อนข้างสวยงามเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้นอนพักค้างคืนได้ โดยจะเปิดแถลงข่าวโปรโมตอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 และสิ้นสุดโครงการวันที่ 31 ธันวาคม 2566 แต่ถ้ากระแสตอบรับดีอาจจะมีการขยายเวลาให้บริการ” นายมานัส กล่าว

ขณะเดียวกันทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ได้มีการขออนุญาตเปิดให้บริการสถานที่ท่องเที่ยวตอนกลางคืนเพิ่มอีก 4 แห่ง ได้แก่ วัดพระราม วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดราชบูรณะ และวัดมหาธาตุ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป จนถึง 31 มีนาคม 2567

โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า ‘ไนต์แอดเดอะเทมเพิล’ จะเปิดให้บริการศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ กรุ๊ปละ 20 คน ค่าบริการประมาณ 950 บาทต่อคน ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มีรถตุ๊กตุ๊กรับ-ส่ง ให้บริการ 4 รอบต่อวัน รอบแรกเวลา 18.30 น. รอบสองเวลา 19.00 น. รอบสามเวลา 19.30 น. รอบสี่เวลา 20.00 น. โดยแต่ละรอบต้องมีหัวหน้าไกด์ ผู้ช่วยไกด์ เจ้าหน้าที่กรมศิลป์เข้าไปดูแล

รวมถึงทำประกันชีวิตให้กับนักท่องเที่ยว โดยกิจกรรมดังกล่าวต้องทำในรูปแบบบริษัททัวร์ แม้ทางกรมศิลปากรได้มีการอนุญาตเปิดให้บริการ แต่จะต้องเข้าไปเป็นหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ เนื่องจากมีบางจุดที่ค่อนข้างมืด ส่งผลอันตรายต่อนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวพักค้างแรมที่จังหวัดอยุธยาให้เพิ่มมากขึ้น จะทดลองให้บริการประมาณ 2 สัปดาห์ หากได้กระแสตอบรับที่ดีจะมีการโปรโมตประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ

ปัจจุบันจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีห้องพักเปิดให้บริการประมาณ 2,000 กว่าห้อง เปิดให้บริการ 100% และคาดว่าช่วงไฮซีซั่นเดือนธันวาคม 2566 อัตราการเข้าพักน่าจะ 90-100%

ด้าน นายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับประชาชาติธุรกิจว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 800,000 คนต่อเดือน เฉลี่ยเป็นชาวไทย 700,000 คน และต่างชาติ 100,000 คน หากเทียบกับปี 2565 มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวของจังหวัดจะพยายามทำให้ได้ 80% ของตัวเลขปี 2562

ซึ่งเป็นปีที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอยุธยามากที่สุด รวมเกือบ 40 ล้านคนต่อปี แต่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาค่อนข้างอยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางไปเช้า-กลับเย็น และจากข้อมูลของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หลังละครเรื่องพรหมลิขิตได้มีการออนแอร์ไป พบว่ามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จากเดิมช่วงวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) มีนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000 คนต่อวัน ตอนนี้เพิ่มขึ้น 2,000-3,000 คนต่อวัน

และมีแนวโน้มนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะคนไทย และหลังจากกรมศิลปากรได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมวัดไชยวัฒนารามตอนกลางคืนได้ เฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000-2,000 คนต่อวัน ถือว่าได้การตอบรับที่ดี

นอกจากนี้ มีกิจกรรมล่องเรือรับประทานอาหารเย็น พยายามหากิจกรรมภาคท่องเที่ยวตอนกลางคืนให้นักท่องเที่ยวสนใจและเดินชม จึงได้มีการจัดทำกิจกรรม กับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือ

‘ไนต์แอดเดอะเทมเพิล’ หรือ Night at the Temples 2023 ท่องเที่ยวโบราณสถานในยามค่ำคืน ก็หวังว่ากิจกรรมดังกล่าวจะกระตุ้นเศรษฐกิจ และสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืน และสร้างรายได้ให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

‘รัฐบาล’ เผย!! ‘นทท.ต่างชาติ’ เพิ่มขึ้นทุกภูมิภาคในหนึ่งสัปดาห์ สร้างรายได้กว่า 9 แสนลบ. สะท้อนผลสำเร็จจากนโยบายรัฐฯ

(8 พ.ย.66) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย พบว่านักท่องเที่ยวชาวยุโรปขยายตัวเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 28.75 หรือ 32,053 คน และนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียขยับเพิ่มขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวเลขในช่วงเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2566 

นายชัย กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์ (30 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2566) จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งผลปรากฏว่า สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยสอดคล้องกับการประเมินดังกล่าว โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 557,554 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 66) เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 10.26 หรือเพิ่มขึ้น 51,882 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมทั้งสิ้นกว่า 954,239 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ จีน รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้ ตามลำดับ

นายชัย กล่าวว่า โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของเที่ยวบินจากยุโรป และภูมิภาคเอเชียตะวันออก การมีวันหยุดต่อเนื่องในเทศกาลดิวาลีของอินเดีย รวมทั้งสะท้อนผลสำเร็จจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งการยกเลิกบัตร ตม.6 ด่านสะเดา เป็นการชั่วคราว การยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือ วีซ่าฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน รวมถึงการขยายวันพำนักให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียอีกด้วย

นายชัย กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญในการกำหนดนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน พลิกฟื้น และขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ พร้อมชื่นชมความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันสนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกันอย่างบูรณาการทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผลสำเร็จจากมาตรการเชิงรุกต่าง ๆ ของรัฐบาล

‘โตโน่’ โพสต์ส่งการบ้าน ชูแอป ‘YoldYeah’ ช่วยสูงวัยเที่ยวไทย ถือเป็น ‘ศิลปินรุ่นใหม่’ ใฝ่เรียนรู้-ตัวอย่างที่ดีของเยาวชนไทย

(19 พ.ย.66) เรียกได้เต็มปากว่าเป็นศิลปินที่รักการเรียนมากที่สุดคนหนึ่งเลย สำหรับหนุ่ม ‘โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์’ นักร้องนักแสดงมากความสามารถ เพราะล่าสุดได้โพสต์ไอจีสตอรี่การบ้านกลุ่มเพื่อส่งอาจารย์ เตรียมจบการศึกษาเร็วๆ นี้ พร้อมเขียนแคปชันสั้น ๆ ว่า…

“มาส่งการบ้านครับอาจารย์ #Yoldyeah #หลักสูตรDad8”

ย้อนไปเมื่อ 2 เดือนก่อน หนุ่มโตโน่ได้ลงเรียนในโครงการ Development Administrator in Digital Era (DAD) ของ Nida (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์) รุ่นที่ 8 โดยอยู่ในกลุ่ม DeFi ที่สนับสนุนแอปพลิเคชัน ‘YoldYeah’ แอปที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุจากทั่วโลก มาท่องเที่ยวในเมืองไทยได้ง่ายและสบายที่สุด

นับเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนไทย ผู้ใฝ่รู้ สนใจการเรียนอยู่เสมอ…และสำหรับใครที่อยากชมการบ้านที่หนุ่มโตโน่ส่งอาจารย์ ก็สามารถตามไปส่องกันได้เลยที่ช่องยูทูบ >> https://youtu.be/TV5mHgmUBsI?si=m3ZrAOkupM0wapmq รับชมแล้วก็กดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้หนุ่มโตโน่กันด้วยนะ

‘ททท.’ ในคุนหมิง จัดมหกรรม ‘เที่ยวไทย’ ดึงดูดใจชาวจีน พร้อมเดินหน้าแลกเปลี่ยนข้อมูลสองชาติให้ลึกซึ้งมากขึ้น

เมื่อวานนี้ (29 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า “ไทยคือหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน” ซู่หง ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำนครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนกล่าว

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำนครคุนหมิง ได้จัดงานมหกรรมการท่องเที่ยวไทยในนครคุนหมิง ซึ่งมีบริษัทผู้ประกอบการเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวของจีนและไทยมากกว่า 40 แห่ง เข้าร่วมเจรจาความร่วมมือทางธุรกิจและแลกเปลี่ยนข้อมูลการท่องเที่ยว

ซู่เผยว่าอวิ๋นหนาน กุ้ยโจว และกว่างซี มีศักยภาพด้านตลาดการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ โดยปัจจุบันมีเที่ยวบินโดยสารจากทั้ง 3 ภูมิภาคนี้ ไปยังกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ มากกว่า 70 เที่ยวต่อสัปดาห์แล้ว

รายงานระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนไทยทางอากาศ ช่วงเดือนมกราคม-กันยายนของปีนี้ สูงกว่า 150,000 คน ขณะเดียวกันมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลือกนั่งรถไฟจีน-ลาว หรือขับรถไปยังไทยด้วยตนเอง

ซู่แสดงความเชื่อมั่นว่าการพบปะกันระหว่างบริษัทผู้ประกอบการของจีนและไทยครั้งนี้จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

อนึ่ง ข้อมูลสถิติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยในปีนี้สูงแตะ 2.86 ล้านคนแล้ว เมื่อนับถึงวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา

เปิด 5 ชาติ เดินทางเข้าไทยสูงสุด (ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-3 ธ.ค.66)

สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวล่าสุด พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 3 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ทั้งสิ้น 25,081,212 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 1,067,513 ล้านบาท

โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ อินเดีย รัสเซีย 

10 จังหวัดในไทย 'พี่จอง-คัลแลน' เคยเยือน ทำคนไทยอยากไปท่องเที่ยว 'ตามรอย'

เชื่อว่านาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘พี่จองและคัลแลน’ 🧏🧏‍♂️🇰🇷 2 หนุ่มชาวเกาหลีใต้ที่ถ่ายวิดีโอเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยตลอดทริปจะพูดภาษาไทย กินอาหารไทย และสนุกไปกับสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทย จนมีแฮชแท็ก #พี่จองคัลแลน ติดเทรนด์บน X อยู่บ่อยๆ 

โดยก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า ทั้ง 2 หนุ่มพร้อมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อุทยานแห่งชาติแบบไม่รับค่าตัว เพียงขอแค่ ‘อย่าบังคับ’ และขอทำคลิปอย่างอิสระเหมือนเดิม และนอกจากนี้ เหล่าแฟนๆ ที่ติดตามพี่จองและคัลแลน ยังได้แห่ซื้อพาสปอร์ตอุทยานฯ จนหมดเกลี้ยง เร่งพิมพ์แทบไม่ทันกันเลยทีเดียว!!

วันนี้ THE STATES TIMES ขอพามาดู 10 จังหวัดในไทยที่ ‘พี่จอง-คัลแลน’ เคยไปเช็กอิน มีจังหวัดไหนบ้างมาดูกันเลย ✨🇹🇭

1.บึงกาฬ 
EP.1 https://youtu.be/zwUT0Pmm1EY
EP.2 https://youtu.be/5B_P_HwusP4
EP.3 https://youtu.be/ICAO1OFwE7c
EP.4 https://youtu.be/02exG8eJ4Qs

2.เลย 
EP.1 https://youtu.be/kRmqqUqDYOk
EP.2 https://youtu.be/qrUUWQBctH0
EP.3 https://youtu.be/WZxZMPjAoUo

3.ภูเก็ต
EP.1 https://youtu.be/_gG_JFHU46o
EP.2 https://youtu.be/Z6DDMuBTh8w
EP.3 https://youtu.be/MLu-fnhCet4?

4.สุรินทร์ 
EP.1 https://youtu.be/wn6JA9C6LN8 
EP.2 https://youtu.be/Pfhhimfj-VU  
EP.3 https://www.youtube.com/k1vqAe26vq4 

5.เพชรบุรี
EP.1 https://youtu.be/OmhZqJdjBoY
EP.2 https://youtu.be/bW2raZtuf7s
EP.3 https://youtu.be/WYgPGMGT7rU

6.สุพรรณบุรี
EP.1 https://youtu.be/ng8YM-RFcKY

7.เชียงใหม่ 
EP.1 https://youtu.be/uaUj4CywbgA
EP.2 https://youtu.be/kxOJ6SdS504
EP.3 https://youtu.be/YNr5k-N3T2k

8.จันทบุรี
EP.1 https://youtu.be/Z9bcZA6_fVQ
EP.2 https://youtu.be/l0oiu1BqKKY
EP.3 https://youtu.be/6h0Ns9x8YKY

9.เชียงราย
EP.1 https://youtu.be/kNWcyUKwbUk
EP.2 https://youtu.be/8bybd5QBcA4

10.สตูล
EP.1 https://youtu.be/UBP-Zs0nP5k
EP.2 https://youtu.be/ufGlmS8ZSrI

5 เดือนแรก ต่างชาติแห่เที่ยวไทย ดันยอดทะลุ 12 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายประมาณ 605,201 ล้านบาท

(7 พ.ค. 67) รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาแตะระดับ 12 ล้านคน ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลงจากการชะลอตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ (Short haul) และตลาดระยะไกล (Long haul) จากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียขยับลงมาเป็นกลุ่มที่เข้ามาเป็นอันดับที่ 5 จากเดิมในอันดับที่ 4 ส่งผลให้ในภาพรวมสัปดาห์นี้ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 639,822 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 12,419 คน หรือ 1.90% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 91,403 คน

โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน 161,678 คน มาเลเซีย 84,127 คน อินเดีย 46,561 คน เกาหลีใต้ 31,738 คน และรัสเซีย 27,228 คน โดยนักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้ อินเดีย และมาเลเซีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 9.41% 8.41%  5.96% และ 0.84% ในขณะที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย มีการปรับตัวลดลง 9.15%

สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลงจากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season แต่ยังคงมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน และการขยายสิทธิการยกเว้นตรวจลงตรา ที่เดินทางไม่เกิน 60 วัน ให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่มีผลช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และกระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ค. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 12,588,825 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 605,201 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 2,461,620 คน มาเลเซีย 1,634,388 คนรัสเซีย 784,550 คนเกาหลีใต้ 704,427 คน และอินเดีย 677,783 คน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top