Sunday, 12 May 2024
เที่ยวไทย

‘ก.ท่องเที่ยว’ ชี้ ‘นทท.จีน’ เข้าไทยมากที่สุด คาด!! ภายในปี 66 ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน

(10 ม.ค. 66) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยในโอกาสนักท่องเที่ยวจีนเริ่มเดินทางเข้าไทยหลังจากรัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 ว่า ททท.คาดว่าตลอดปี 66 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน กลับมาเป็นชาติที่เข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 ครองสัดส่วน 20% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปีนี้ ที่คาดไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยยกเลิกตรวจใบรับรองฉีดวัคซีน (Vaccine Certificate) ก่อนเข้าประเทศแล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวชาติที่ต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก่อนกลับประเทศ เช่น จีน อินเดียนั้น ต้องซื้อประกันสุขภาพวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ เพราะหากผลตรวจเป็นบวกก่อนกลับประเทศ จะได้รักษาในโรงพยาบาลในไทย โดยไม่ต้องเป็นภาระงบประมาณของไทย

เน็ตไอดอลสาว เล่าประสบการณ์เที่ยวไทยแฮปปี้ แต่จู่ๆ เจอมนุษย์ลุงโผล่คุกคาม กลายเป็นทริปผวาเล็กๆ

'อาหยวน' คนดังทางอินเทอร์เน็ต เผยประสบการณ์เที่ยวไทย แม้ว่าเธอจะมีช่วงเวลาที่ดีมากมาย แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้หวาดกลัวเช่นกัน

อาหยวน เน็ตไอดอลสาวที่มีผู้ติดตามบนอินสตราแกรมมากกว่า 4.7 แสนราย เดินทางมาประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้ เธอได้ลองกินอาหารท้องถิ่น เยี่ยมชมสถานที่ที่มีชื่อเสียง และแน่นอนว่าไม่ลืมที่จะช้อปปิ้งด้วย พร้อมทั้งแนะนำทุกคนว่า "คุณไม่จำเป็นต้องนำเสื้อผ้ามาเลยจริงๆ เมื่อคุณมา มาไทย ซื้อที่นี่ถูกมาก ถ้ากล้าต่อรองราคาก็ยิ่งถูก"

มีช่วงหนึ่งเธอยังอวดชุดเดรสแขนกุดลายจุดที่เพิ่งซื้อมา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "มันเป็นสไตล์ที่น่าจะใส่ยากเมื่อกลับไปไต้หวัน และคงมีเพียงในรีสอร์ตเท่านั้นที่กล้าใส่แบบนี้"

‘รฟท.’ จัดโปรฯ เที่ยวไทยสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยขบวนรถไฟ ‘KIHA 183’ ในธีม ‘ย้อนรอยประวัติศาสตร์’ กระจายรายได้-กระตุ้นการท่องเที่ยว

(31 มีค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย แผนเดินหน้าเพิ่มรายได้ขบวนรถไฟท่องเที่ยว KIHA 183 เชิญชวนประชาชนสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว รถไฟไทย สไตล์ญี่ปุ่น ด้วยแนวคิด ‘ย้อนรอยประวัติศาสตร์’ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

“ในเดือนเมษายน 2566 รฟท. ได้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวกับขบวนรถไฟ KIHA 183 ภายใต้แนวคิดย้อนรอยประวัติศาสตร์ โดยมีโปรแกรมท่องเที่ยวไปตามเส้นทางต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม เพื่อสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในรูปแบบรถไฟไทย สไตล์ญี่ปุ่น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

วันที่ 1 - 2 เมษายน 2566 โปรแกรม แต่งกายย้อนยุค นั่งรถไฟ KIHA 183 ‘เที่ยวงานแก่งคอย ย้อนรอยอดีตสงครามโลกครั้งที่ 2’

วันที่ 8 - 9 เมษายน 2566 โปรแกรม นั่งรถไฟ KIHA 183 ‘ย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองแปดริ้ว เติมความหวาน ในวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว’

วันที่ 22 - 23 เมษายน 2566 โปรแกรม นั่งรถไฟ KIHA 183 ‘แต่งชุดไทย แลหาพี่หมื่น ตามหาออเจ้า ที่กรุงเก่าอโยธยา’

วันที่ 29 - 30 เมษายน 2566 โปรแกรม นั่งรถไฟ KIHA 183 ‘เที่ยวเมืองอาร์ต ราชบุรี ชมเชิดหนังใหญ่ – เพ้นท์โอ่ง (มังกร)’

นอกจากนี้ รฟท. ยังมีการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวต่อเนื่องในทุกเดือน เช่น เดือนพฤษภาคม โปรแกรมท่องเที่ยว ในแนวคิด ‘ผจญภัยเหนือสายน้ำ’ เดือนมิถุนายน โปรแกรมท่องเที่ยวในแนวคิด ‘Save The World รักษ์โลก รัก(ของ)เรา’ ในเส้นทางจังหวัดต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

‘สาวไทย’ โพสต์ติ๊กต๊อก โต้!! ข่าวเที่ยวเมืองไทยแพง หลังโลกออนไลน์ของจีนวิจารณ์ค่าครองชีพในไทยสนั่น

(2 เม.ย. 66) เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวที่ประเทศไทย ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ ณ ขณะนี้ โดยชาวเน็ตจีนได้ออกาแสดงความคิดเห็นเชิงลบเป็นส่วนใหญ่ เกี่ยวกับค่าครองชีพในไทยที่สูงขึ้น ทำให้มีผู้ใช้ติ๊กต็อก ชื่อ ‘chinbebe’ ได้โพสต์วิดีโอพูดความในใจเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า…

“ประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีค่าครองชีพสูง ซึ่งช่วงนี้ทางอินฟลูเอนเซอร์จีนหลายคน ได้ออกมาพูดว่า “ไทยไม่ใช่ไทยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในตอนนี้เงิน 100 หยวน ไม่สามารถกินได้แบบตามใจอย่างเมื่อก่อน” ซึ่งตัวฉันเอง ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง จึงขอพูดทวงความยุติธรรมให้กับเมืองไทย ขอฝากถึงชาวจีนที่คิดว่าประเทศไทยที่คุณมาเที่ยวนั้น เที่ยวไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่คุณต้องเสีย ฉันคิดว่าถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่ต้องไปเที่ยวที่อื่นแล้วค่ะ เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะต้องหนักใจแน่นอน”

 

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานติ๊กต็อกรายนี้ยังกล่าวถึงเรื่องของการใช้เงินซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่มในร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยอีกว่า…

“ที่ประเทศไทยคุณสามารถใช้เงินไม่ถึง 100 หยวน เพื่อซื้อของในร้านสะดวกซื้อ คุณจะสามารถได้ของกินอร่อย ๆ เต็มถุงใหญ่ ๆ เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าได้ของเยอะกว่า แถมเสียเงินน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการที่คุณไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศเกาหลี ไม่ต้องพูดถึงยุโรปเลย”

‘ททท.’ เผย ต่างชาติทะลักเที่ยวไทยช่วงสงกรานต์ 305,000 คน ยอดจองพุ่ง!! 14,220 เที่ยวบิน คาดเงินสะพัด 1.2 แสนล้าน

(5 เม.ย.66) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม มีจำนวนสะสม อยู่ที่ 6,465,737 คน เพิ่มขึ้น 1,199% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 แบ่งเป็นเดือนมกราคม มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2,144,948 คน เดือนกุมภาพันธ์ 2,113,550 คน และเดือนมีนาคม 2,207,239 คน สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 256,194 ล้านบาท

จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมเกือบ 6.5 ล้านคนใน 3 เดือนแรกที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่ 56.8% เป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก รองลงมาคือยุโรป 26.5% และอื่นๆ อาทิ อินเดีย สหรัฐ ออสเตรเลีย อิสราเอล แคนาดา และซาอุดีอาระเบีย อีก 16.7% โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย สูงสุด 5 อันดับแรก ในช่วง 3 เดือนแรก ได้แก่ 1.มาเลเซีย 902,621 คน 2.รัสเซีย 566,425 คน 3.จีน 517,242 คน 4.เกาหลีใต้ 441,028 คน และ 5.อินเดีย 320,887 คน

“ตลาดนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นพระเอกของภาคท่องเที่ยวไทยในปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 จำนวนไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน มีแนวโน้มปิดที่ 7-8 ล้านคน ขึ้นอยู่กับปริมาณเที่ยวบินในช่วงตารางบินฤดูหนาว 2566/2567 รองลงมาคือตลาดมาเลเซีย วางเป้าหมายไว้ที่ 4 ล้านคน อินเดีย 2 ล้านคน ส่วนรัสเซียและเกาหลีใต้ คาดมีไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน” นายยุทธศักดิ์กล่าว

ต่างชาติเข้าเที่ยวไทยพุ่ง 525%
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 305,000 คน เพิ่มขึ้น 525% เทียบจากปี 2565 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 48,814 คน และเพิ่มขึ้น 58% จากปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 522,357 คน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 5,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 630% จากปี 2565 ที่มีรายได้ 689 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 60% ของปี 2562 ที่มีรายได้ประมาณ 8,321 ล้านบาท

สนามบินไฟลต์ว่อนสงกรานต์
รายงานข่าวจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. แจ้งว่า ทอท.ประมาณการการจราจรทางอากาศช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2566 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ของ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ จะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 14,220 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 59.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ ประมาณ 7,500 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 219.20% และเที่ยวบินภายในประเทศ ประมาณ 6,720 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 2.44% คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 137.48%

แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 1.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 561.76% และผู้โดยสารภายในประเทศ ประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.08% อย่างไรก็ตาม เมื่อการจราจรทางอากาศที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 พบว่าปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารยังคงติดลบ เที่ยวบินรวมลดลง 18.47% เที่ยวบินระหว่างประเทศลดลง 20.90% เที่ยวบินภายในประเทศลดลง 15.59% ขณะที่ประมาณการผู้โดยสารรวมลดลง 17.39% ผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลง 20.96% และผู้โดยสารภายในประเทศลดลง 11.91%

'สาวลาว' อึ้ง!! ไทยสร้างสะพานเลี่ยงเมืองหนองคาย เอ่ยชม "สุดยอด เยี่ยมๆ ไม่คิดว่าจะสร้างไวขนาดนี้"

เมื่อไม่นานมานี้ ยูทูบเบอร์ช่อ ‘หนอมแน้ม - NOMNAEM Channel’ ได้เผยแพร่วิดีโอโดยใช้ชื่อว่า 'สาวลาวสุดอึ้ง ไม่คิดว่าหนองคายจะสร้างถนนแบบนี้ด้วย...สุดยอดมาก ปี 2023' โดยเนื้อหาในคลิปวิดีโอเป็นการชื่นชมถนน หนทางของประเทศไทย ที่เจริญขึ้นผิดหูผิดตาจากแต่ก่อน และยังชื่นชมหลายสิ่งหลายอย่างของไทยอีกด้วย

หนอมแน้ม (เจ้าของช่อง) เดินทางจากฝั่งลาวผ่านจังหวัดหนองคาย มุ่งหน้าไปยัง อุดรธานี เพื่อทำธุระ (หาหมอ) ซึ่งระหว่างทางก็กลัวว่าน้ำมันรถที่เติมจากฝั่งลาวจะไม่พอเดินทาง แต่เมื่อเธอนึกได้ก็สบายใจ โดยเธอบอกว่า "ปั๊มน้ำมันในไทยมีเยอะมาก ไม่กังวลเรื่องการเดินทาง" 

ขับรถไปสักพัก เธอก็เอ่ยชมเกาะกลางถนนของไทย "ต้นไม้เยอะ สะอาดงามตา" และก็นึกถึงเมื่อครั้งที่เคยมาเที่ยวในกรุงเทพ เธอบอกว่าในปี 2023 นี้อยากจะไปเที่ยวที่กรุงเทพอีกสักครั้ง ก่อนจะแวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท.

เมื่อแวะเติมน้ำมันแล้วก็ขับรถกันต่อ โดยเมื่อขับผ่านเขตการก่อสร้างสะพาน เธอก็เอ่ยชมอีกครั้งว่า "เยี่ยมๆ ไปเลย" เนื่องจากมีการก่อสร้างที่พัฒนาระบบขนส่งของไทยให้เจริญมากขึ้น แถมยังจัดการจราจรได้ดี ไม่ได้ปิดถนนจนสัญจรไปมาไม่ได้

‘ไทย’ เผยยอด ‘นทท.ต่างชาติ’ ครึ่งปีแรก ทะลุ 12 ล้านคน คาดสร้างได้จากการท่องเที่ยวให้ประเทศ 2.38 ล้านล้านบาท!!

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 66 สำนักข่าวซินหัว, กรุงเทพฯ รายงานว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในช่วงเดือนมกราคมถึงกลางเดือนมิถุนายน ปี 2023 จำนวนกว่า 12.46 ล้านคน ซึ่งสอดคล้องกับการมุ่งหน้าสู่เป้าหมายเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคนตลอดปีนี้

เมื่อนับถึงสัปดาห์ก่อน ไทยทำรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 5.14 แสนล้านบาท ซึ่งการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนมีส่วนส่งเสริมสำคัญ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าเพิ่มขึ้นในกลุ่มตลาดหลักส่วนใหญ่ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน

เมื่อวันจันทร์ (26 มิ.ย.) แถลงการณ์จากอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัจจุบันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี และคาดว่าจะแตะ 25 ล้านคนภายในสิ้นปี 2023

อนุชา เผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการส่งเสริมต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายทำรายได้จากการท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้านบาทในปีนี้ โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวล่าสุดทะลุสถิติตลอดปี 2022 ที่ 11.15 ล้านคนแล้ว

ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในปี 2019 นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยเกือบ 40 ล้านคน โดยการท่องเที่ยวซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย ครองสัดส่วนราวร้อยละ 12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
 

‘ซิมู หลิว’ แชะภาพเช็กอินเที่ยวเมืองไทย ชมวัดอรุณฯ-ต่อยมวยไทย-ชิมก๋วยเตี๋ยวน้ำตก

ก่อนหน้านี้ ‘ซิมู หลิว’ ฮีโร่มาร์เวล จาก ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ชาง-ชีกับตำนานลับเท็นริงส์’ ก็เคยได้รีโพสต์ภาพจากแฟนคลับชาวไทย ที่แท็กเขาไปในอินสตาแกรม พร้อมระบุว่า “ในที่สุด ชางชี ก็ได้ฉายที่ไทยแล้ว” จนเป็นที่ฮือฮากันในหมู่แฟนคลับไม่น้อย

ล่าสุด ‘ซิมู หลิว’ ก็ได้เดินทางมาเช็กอินที่ประเทศไทย เที่ยววัดอรุณ สวนลุม เดินจ๊อดแฟร์ที่เจอกับฝนกระหน่ำ แถมยังได้ ต่อยมวยไทย และแวะกินเมนูเด็ดอย่างข้าวขาหมู กับ เส้นเล็กน้ำตก เครื่องแน่น ๆ

ซึ่งเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ก็มีคนนำป้ายของเขา ที่มาจากภาพยนตร์มารอต้อนรับด้วย

หลังจากได้เดินเที่ยวและทำกิจกรรมในไทย ‘ซิมู หลิว’ ก็ได้โพสต์ภาพอวดในโซเชียล แถมยังอ้อนแฟน ๆ ด้วยการบอกว่า “กรุงเทพฯ ฉันรักคุณ”

และว่า “ปีเตอร์และฉัน คุยกันถึงทริปนี้มากว่า 10 ปี มันจบลงแล้วสำหรับทศวรรษที่เฝ้าคิดถึง ตลาดนัดกลางคืน และ ผัดไทย กะเพรา และ การได้เตะอีกฝ่าย ที่สุดแล้วเราได้ทำมันแล้ว และมันดีกว่าที่เราเคยจินตนาการไว้มาก ไว้จะอัปเดตให้ฟังเร็ว ๆ นี้”

ซึ่งก็มีแฟนคลับชาวไทย เข้าไปคอมเมนต์กันจำนวนไม่น้อย รวมไปถึง รัศมีแข และ ทับทิม มัลลิกา ที่เข้าไปกล่าวว่า “ประเทศไทยยินดีต้อนรับค่ะ” ด้วย

‘ธนกร’ ปลื้ม นทท.แห่มาไทยเพียบ เงินเข้าประเทศกว่า 8 แสนล้านบาท ชี้ เป็นผลพวง ‘รัฐบาลบิ๊กตู่’ สอดคล้อง ‘รัฐบาลเศรษฐา’ เร่งเครื่องเต็มที่

(30 ก.ย.66) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวแห่บินเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยเรา ตั้งแต่ 1 มกราคม จนถึง 24 กันยายน 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวมาจากต่างประเทศจำนวนมาก

เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลออกนโยบายเร่งด่วน มาตรการวีซ่าฟรีให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกับคาซัคสถาน เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวอย่างไร  นายธนกร กล่าวว่า จากข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น และมากที่สุดคือ  มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ อินเดียและรัสเซีย กลุ่มเหล่านี้ก็เป็นนักท่องเที่ยวที่นิยมมาเที่ยวประเทศไทย อย่างที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลนี้ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นมาตรการเร่งด่วน ที่สำคัญถือเป็นผลพวงมาจากการที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด และรัฐบาลชุดนี้ก็เร่งเครื่องภาคธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ด้วย 

นายธนกร กล่าวว่า มาตรการเร่งด่วนกระตุ้นการท่องเที่ยว แบบวีซ่าฟรี ให้กับจีนและคาซัคสถาน คาดว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจีนได้อีกมาก โดยเฉพาะช่วงปลายปี ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งปีรวมแล้ว เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เดิมที่ 30 ล้านคน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุดคือ มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ และอินเดีย รวมรายได้จากการท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8.15 แสนล้านบาท นักท่องเที่ยวไทย 5.12 แสนล้านบาท 

นายธนกร กล่าวว่า ไม่เพียงเท่านั้น เราก็จะต้องสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวให้มั่นใจว่า เมื่อมาเที่ยวประเทศไทย ต้องเที่ยวอย่างปลอดภัย ประทับใจ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ที่ปีที่ผ่านมา เข้ามาเที่ยวประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 1 แต่ปีนี้ลดลงมารองจากมาเลเซีย เกิดจากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนที่มีต่อประเทศไทยในเรื่องความปลอดภัย ประกอบกับการฟื้นตัวของสายการบินที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่

นายธนกร กล่าวว่า ในระยะสั้นและระยะต่อไป เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง มีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูง มาพักอาศัยเป็นระยะเวลานาน รัฐบาลอาจส่งเสริมให้ไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ต้นทุนไม่สูงมากนัก แต่นักท่องเที่ยวจะได้รับความประทับใจในการให้บริการด้านสุขภาพ ด้านการพักผ่อน หรือแม้กระทั่งมาใช้ประเทศไทยในการพำนักหรือมาทำงานทางไกล รวมถึง สนับสนุนคนไทยเที่ยวในประเทศแทนการไปเที่ยวต่างประเทศก็จะช่วยรักษาเม็ดเงินหมุนเวียนจากการท่องเที่ยวภายในประเทศไม่ไหลออกได้

‘รัฐบาล’ ขอบคุณ ‘นทท.จีน’ ที่เชื่อมั่น ยืนยันมาไทยเกือบ 6 แสนคน หลังเกิดเหตุกราดยิง สัญญาจะคุมเข้มดูแลความปลอดภัยเต็มที่

(14 ต.ค.66) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รัฐบาลขอบคุณความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวยังคงยืนยันเที่ยวบินและที่พักถึง 5.9 แสนคน รัฐบาลให้สัญญาจะดำเนินมาตรการ ดูแลความปลอดภัย แก่นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยตัวเลขจากการท่าอากาศยานไทยแสดงว่านักท่องเที่ยวจีนที่จองการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 6.5 แสนคน ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่สยามพารากอน ยังคงยืนยันที่พัก และเที่ยวบินมาที่ไทยถึง 5.9 แสนคน ลดน้อยลงเพียง 9.2% ซึ่งถือว่าเป็นความเบี่ยงเบนที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงสะท้อนได้ว่านักท่องเที่ยวจีนยังคงมีความเชื่อมั่นที่จะมาเที่ยวเมืองไทยเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า เมื่อเทียบกับภาวะปกติที่ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวจริงจะแตกต่างจากจำนวนที่จองเข้ามาล่วงหน้าราวๆ +-15% ดังนั้นจึงถือได้ว่า ความแตกต่างของตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวไทยก่อนและหลังเหตุการณ์ที่สยามพารากอนมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวจีนยังคงมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย และยืนยันที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเช่นเดิม

“รัฐบาลไทยขอขอบคุณนักท่องเที่ยวจีนที่เข้าใจประเทศไทย และเชื่อมั่นในรัฐบาลไทย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้สั่งการกำชับการทำงานให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการที่ยกมาตรฐานขึ้นอย่างดีที่สุด เพื่อดูแลนักท่องเที่ยว รวมทั้งเพื่อดูแลพี่น้องคนไทยทุกคน” นายชัย กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top