Saturday, 18 May 2024
อุบลราชธานี

'ส.ส.เพื่อไทย' ชี้!! อุบลฯ จมน้ำ แต่ส.ส. ทำได้แค่มอง โวย!! กฎเหล็กกกต.ขวาง ทำให้ช่วยได้ไม่เต็มกำลัง

นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น้ำท่วมใน อ.วาริณชำราบ จ.อุบลราชธานี ระดับยังคงท่วมสูงเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนจมมิดหลังคา พื้นที่เศรษฐกิจ ที่ดินทำกินของเกษตรกรถูกน้ำท่วมเสียหาย 100%  ถนนที่ใช้สัญจรเข้าออกภายใน อ.วาริณชำราบ จากที่มี 4 เส้นทาง เหลือเพียง 1 เส้นทาง หากมีมวลน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ และฝายจากศรีสะเกษ เข้ามาเพิ่ม จะทำให้ประชาชนต้องใช้เรือสัญจรแทนรถยนต์ 

ทั้งนี้สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาจากระดับน้ำจากลำน้ำชีและลำน้ำมูล ไหลมารวมที่ อ.วาริณชำราบ โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูงมาก เกือบเท่าปี 2521 โดยระดับแม่น้ำมูล ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2565 อยู่ที่ 116.47 เมตร เมื่อเทียบกับระดับน้ำทะเลปานกลาง 

ขณะที่ในปี 2521 ระดับน้ำในแม่น้ำมูลอยู่ที่ 117.76 เมตร ตำบลที่ไม่เคยถูกน้ำท่วมก็ท่วมเต็มพื้นที่ ตั้งแต่มีน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวเคยถูกน้ำท่วมแค่ในปี 2521 และ 2562 เท่านั้น พี่น้องประชาชนกว่า 1,500 ครอบครัวต้องอพยพออกจากพื้นที่มาอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ตอนนี้น้ำท่วมกระจายไปอำเภออื่น ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้กระจายกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือแต่ก็ยังไม่เพียงพอและเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะกระแสน้ำมาแรงมาก มีความอันตรายและมีความเสี่ยงเช่นกัน

นางสาวกิตติ์ธัญญา กล่าวอีกว่า ด้วยกฎเหล็ก 180 วันของ กกต. ทำให้ผู้แทนราษฎร ซึ่งพี่น้องประชาชนเลือกเข้ามาทำงาน หนักใจมาก เพราะอยากช่วยประชาชนมากแต่ต้องเคารพกติกา ที่ผ่านมาทั้งในสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2562 และการระบาดของโควิด-19 ส.ส.ยังสามารถให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เต็มที่ นำอาหาร ของใช้จำเป็น ยารักษาโรค รถยนต์ขนคนออกจากพื้นที่ ตอนนี้ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ เพราะไม่มีความชัดเจนมากพอว่าสามารถทำได้หรือไม่ จึงอยากให้ผู้มีอำนาจแคร์ประชาชนบ้าง ประชาชนคือเจ้านาย ส.ส. แต่ ณ วันหนึ่งเมื่อผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องหยุดช่วยเหลือเจ้านายตัวเอง ทำได้แค่ยืนมอง คนที่เสียประโยชน์คือพี่น้องประชาชน อยากร้องขอผู้มีอำนาจ ทุกภาคส่วน ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อไทยเท่านั้น ใครที่มีองคาพยพ มีของบรรเทาทุกข์ พวกท่านสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันที อยากให้ทุกคนมาช่วยกัน

'สมคิด' จวก 'ประยุทธ์' บริหารจัดการน้ำล้มเหลวทุกทาง ชี้!! ใช้งบ 4 แสนล้าน ผู้รับเหมารวย แต่ปชช.จมน้ำเช่นเดิม

(15 ต.ค. 65) สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แสดงความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด อยากเรียกร้องให้รัฐบาลรีบช่วยเหลือเร่งจ่ายเงินเยียวยาโดยเร่งด่วน อย่าชักช้าเหมือนปี 2562 ที่ชาวบ้านต้องรอเงินเยียวยาไปซ่อมบ้านเรือนนานถึง 6-8 เดือน

เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะรัฐบาลออกกฎระเบียบ ขั้นตอนมากมาย ทำให้ประชาชนที่ประสบเหตุต้องรอนานกว่าจะได้เงินจาก 1 วัน เป็น 1 เดือน เป็นหลายเดือน จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุน้ำท่วมหนักมากกว่าทุกปี พี่น้องประชาชนต้องหนีน้ำขึ้นหลังคานับหมื่นครัวเรือน นาข้าวหลายแสนไร่ ต้องจมน้ำ ปศุสัตว์ตายเพราะน้ำท่วม กว่าจะได้เงินเยียวยาต้องรอข้ามปี ดังนั้น รัฐบาลต้องมีเจ้าภาพที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ อย่าหวังพึ่งระบบราชการดำเนินการ เพราะจะไม่ทันความเดือดร้อนของประชาชน

'เพื่อไทย' อัด 'ประยุทธ์' ปล่อยชาวอุบลฯ จมบาดาลหลายเดือน ฟาก 'อิงค์' เตรียมหอบคณะลุยน้ำให้กำลังใจ 24 ต.ค.นี้

(23 ต.ค.65) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ยังน่ากังวลในหลายพื้นที่ทั่วประเทศในขณะนี้ว่า ปริมาณน้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บางพื้นที่น้ำท่วมหนักกว่าปี 2554 และปี 2562 เช่น จ.อุบลราชธานี ประชาชนต้องทนอยู่กับน้ำท่วมนานหลายเดือน บางพื้นที่บ้านเรือนท่วมจมบาดาลมาเกือบ 4 เดือนแล้ว แต่ยังคงไม่ได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาจากภาครัฐเท่าที่ควร มีแต่หน่วยงานท้องถิ่นที่ร่วมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามยถากรรม ซึ่งยังไม่เพียงพอและไม่ทั่วถึงกับวิกฤติการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่ได้มีข้อจำกัดหรือถูกผูกมัดด้วยกฎเหล็กของ กกต.180 วัน เหมือน ส.ส.และพรรคการเมือง พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจสูงสูดของฝ่ายบริหาร สามารถสั่งการเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันที แต่กลับกลายเป็นว่าการลงพื้นที่น้ำท่วมของพล.อ.ประยุทธ์เป็นเพียงแค่ไปรับฟังการรายงานจากหน่วยงานเฉพาะหน้าเท่านั้น เป็นนายกฯ ที่มองไม่เห็นปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าปัญหาจะกองอยู่ตรงหน้าก็ตาม ไร้มาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนจากภาครัฐที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้  ปล่อยให้ประชาชนลอยคอรอความช่วยเหลือนับเดือน

น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า ถึงแม้พรรคพท.จะเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีอำนาจบริหารในมือ แต่ที่ผ่านมาพรรคพท.และ ส.ส.ของพรรคก็ไม่เคยนิ่งดูดายต่อความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในสภาวะที่ยากลำบากแสนสาหัสที่ต้องเผชิญกับปัญหาอุทกภัยในขณะนี้ ที่ผ่านมาพรรคพท.ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด อีกทั้งยังมีหลายข้อเสนอแนะทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้แก่รัฐบาลมาโดยตลอด เพื่อที่จะนำไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและทันท่วงที แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร

ทั้งนี้ ในวันที่ 24 ต.ค.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคพท.และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พร้อมด้วย ส.ส.อุบลราชธานี จะลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อให้กำลังใจและสอบถามรับฟังปัญหาความทุกข์ร้อนของพี่น้องชาวอุบลราชธานีเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ส.ส.เพื่อไทยได้เคียงข้างร่วมทุกข์กับพี่น้องชาวอุบลราชธานีมาอย่างต่อเนื่อง

ชาวอุบลฯ มอบดอกไม้ขอบคุณเหล่าทหาร ที่ช่วยเหลือขับรถรับ-ส่ง ตลอดช่วงน้ำท่วม

ประชาชนที่ใช้บริการรถรับส่งข้ามเมืองคู่แฝดวารินชำราบกับอำเภอเมืองอุบลฯ ซึ่งถูกน้ำท่วมตัดขาดถนนสายหลัก รู้สึกใจหาย เมื่อรถทหารยกสูงที่แล่นรับส่ง ต้องหยุดวิ่ง หลังสถานการณ์น้ำท่วมลดลงเผยเห็นหน้าช่วยเหลือเกื้อกูลกันนานนับเดือนจนรู้สึกผูกพันเหมือนญาติพี่น้อง

สถานการณ์น้ำท่วมถนนสถิตนิมานกาล ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมระหว่างอำเภอวารินชำราบและอำเภอเมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเมืองคู่แฝดลดลง จนรถทุกชนิดสามารถแล่นผ่านไปมาได้แล้ว ทหารและรถจากหน่วยงาน รวมทั้งจิตอาสา จึงประกาศหยุดวิ่งรับส่งประชาชนตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากให้บริการประชาชนตั้งแต่ 06.00-20.30 น. ทุกวันโดยไม่มีวันหยุด มานานร่วมเดือน

โดยทหารและจิตอาสาเหล่านี้ต้องเปลี่ยนภารกิจไปช่วยเหลือประชาชน ตามชุมชนที่ยังมีน้ำท่วมขัง ได้กลับเข้าไปอยู่ในบ้าน หลังน้ำลดลงกว่านี้ ตลอดช่วงเดือนพฤศจิกายนที่กำลังมาถึง ทำให้ประชาชนที่ใช้บริการของเหล่าทหารมานานร่วมหนึ่งเดือน นำดอกไม้มาแสดงความขอบคุณ และกล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับบริการจากบรรดาทหารของชาติ ซึ่งยังประทับใจในน้ำใจของเหล่าทหารที่มาช่วยเหลือ

เวลาเปลี่ยน เมืองไทยเปลี่ยน: รถไฟทางคู่ ‘จิระ - อุบลราชธานี’

เชื่อมอีสานใต้ด้วย รถไฟทางคู่ ‘จิระ - อุบลราชธานี’ พัฒนาการเดินทาง เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่ง ลดค่าใช้จ่ายประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิต พี่น้องอีสานใต้

'หนุ่มอุบลฯ' ใจเด็ด!! เล่าวินาทีสู้มือเปล่ากลุ่มฮามาส  โดน 'มีดปักหัว-ปาดคอ' แต่รอด ลั่น!! ไม่ขอกลับไปอีก

(25 ต.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลทยอยกลับประเทศกันอย่างต่อเนื่องหลังจากเกิดสงคราม โดยหนึ่งในแรงงานไทยที่รอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์ นายวิทวัส กุลวงศ์ หรือ 'แจ๊ค' อายุ 34 ปี ชาวอ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ได้เดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ซึ่งทางครอบครัวจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญและเดินทางมาให้กำลังใจกันทั้งหมู่บ้านอย่างอบอุ่น 

นายวิทวัส โชว์บาดแผลที่ถูกทำร้าย พร้อมกล่าวว่า วันนี้สุขใจและโล่งอกเป็นอย่างมาก เพราะได้กลับมาถึงบ้านภรรยาแล้ว ตนเองขอใช้เวลาพักผ่อนสักระยะกับลูกและภรรยา ก่อนจะเดินทางไปที่ จ.อุบลฯ เพื่อบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่หลังจากที่ยังไม่เคยบวชสักครั้ง

โดยนายวิทวัส เล่าย้อนไปเหตุการณ์ที่ยังอยู่ในความทรงจำหลังรอดตายมาได้ปาฏิหาริย์ กล่าวว่า ยังจำได้แม้จะผ่านมาเกือบ 2 อาทิตย์กว่าในคิบบุตช์ที่ตนเองทำงาน เช้าวันที่ 7 ต.ค. 66 กลุ่มฮามาสได้บุกเข้ามาในแคมป์ มีทั้งทหารและพลเรือน ค้นหาคนไทยทั้งในออฟฟิศและเล้าไก่ เขาเดินหาคนไม่เจอแล้วก็ออกไป พร้อมทั้งยิงปืนใส่ตามห้องด้วย จากนั้นเขาก็เดินออกไป ผมก็เปิดประตูวิ่งออกไปหลบในอุโมงค์ ปรากฏว่ามีกลุ่มฮามาสชุดที่ 2 เข้ามา เขาเดินมาตามรั้วแล้วบังเอิญมาเจอผมพอดี เขาก็บอกให้ผมนอนคว่ำหน้าและเอามือประสานท้ายทอย ตอนนั้นไม่คิดอะไร สู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย จึงตัดสินใจฮึดสู้ เขามีมีด ผมมือเปล่า สู้กันประมาณ 20- 30 นาที กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน แต่ผมพลาดท่าเจอมีดของกลุ่มฮามาสปักที่ศีรษะ 

"ตอนนั้นมีสติอยู่ ดึงมีดออกแล้วหักมีด จากนั้นก็สู้กันด้วยหมัด แต่ตอนนั้นผมเสียเลือดมาก ค่อย ๆ สลบไป ตอนนั้นจำได้ตอนที่ผมจะสลบ กลุ่มฮามาสใช้มีดปาดคอผม เขาคิดว่าผมตายไปแล้วเขาก็ตัดเอากระเป๋าคาดเอวผมไป พอห้าโมงผมได้สติ ผมก็เลยคลานไปตามคูดินเพื่อไปหาพี่ที่หลบในห้อง ทั้ง ๆ ที่เลือดเต็มใบหน้า พอคลานไปถึงห้องพี่ที่ทำงานและเคาะประตูให้พี่ช่วยผมไม่คิดว่าผมจะรอด" นายวิทวัส กล่าว

นายวิทวัส กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้กลับถึงบ้านแล้วคงไม่กลับไปอีกแล้ว จากนี้ไปก็หางานทำแถวบ้าน และขออยู่กับลูกและครอบครัว จากนั้นก็จะเดินทางไปบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่ที่ จ.อุบลฯ ในความรู้สึกของผมอยากให้ทางรัฐบาลไทยช่วยเรื่องหนี้สินของแรงงานไทยทุกคน เพราะส่วนใหญ่กู้หนี้ยืมสินก่อนไปทำงาน รวมทั้งอยากให้รัฐบาลแนะนำหรือแนะนำงานด้านต่างๆ ให้แรงงานไทยทำด้วยก็จะดี สุดท้ายนี้ผมอยากให้เพื่อนๆ แรงงานไทยที่ยังอยู่ในประเทศอิสราเอล อยากให้กลับมาตั้งหลักที่บ้านก่อน จะกลับไปทำงานหรือไม่ค่อยว่ากันทีหลัง ส่วนที่นายจ้างเพิ่มค่าแรงให้ก็ดีอยู่ แต่หากเกิดอะไรขึ้นแล้วคงไม่คุ้มกับชีวิตในสภาวะสงครามแน่นอน

‘หลวงพ่อพระครูโพธิวนานุรักษ์’ เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกธรรมชาน์ ประสบอุบัติเหตุ มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 64 ปี

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 66 คณะศิษย์แจ้งข่าว หลวงพ่อพระครูโพธิวนานุรักษ์ ประสบอุบัติเหตุกิ่งไม้หล่นใส่ รุนแรงและกะทันหัน อาการทรุดลงตามลำดับ หลวงพ่อมรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 64 ปี ถวายความอาลัย น้อมกราบหลวงพ่อสู่พระนิพพาน ถวายความอาลัย

กรณีหลวงพ่อพระครูโพธิวนนุรักษ์ (พระรรณจิตต์ แสงผา) เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกธรรมชาน์ สาขาที่ 7 วัดหนองป่าพง อำเภอม่วงสามสิบ อุบลราชธานี ซึ่งประสบอุบัติเหตุรุนแรงกะทันหันจากกิ่งไม้หล่นใส่ และหลวงพ่อได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 66 คณะแพทย์ได้ดูแลรักษาอาการอย่างใกล้ชิด ร่วมกับการใช้เครื่องช่วยหายใจอย่างเต็มความสามารถ แต่หลวงพ่ออาการทรุดลงตามลำดับ จนล่วงเลยถึงวันที่ 17-18 พ.ย.66 พระครูโพธิวนานุรักษ์ มีอาการทรุดลงและได้มรณภาพด้วยอาการสงบ

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 66 เวลา 18.32 น. สิริอายุ 64 ปี 44 พรรษา วัดป่าวิเวกธรรมชาน์ และคณะแพทย์ผู้ดูแลรักษา จึงขอประกาศแจ้งข่าวการมรณภาพของพระครูโพธิวนนุรักษ์มา ณ ที่นี้ ส่วนกำหนดการอื่นๆ ทางวัดจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป คณะศิษย์น้อมกราบส่งหลวงพ่อสู่พระนิพพาน ก่อนหน้านี้

หลังเกิดอุบัติกับหลวงพ่อ คณะศิษย์ได้ขอรับบริจาคโลหิตกรุ๊ปโอในการผ่าตัด โดยขอบอกบุญและเชิญชวนผู้มีจิตเป็นกุศล ร่วมบริจาคเลือดได้โดยตรงที่ ธนาคารเลือดโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top