Sunday, 19 May 2024
อินเตอร์ลิ้งค์

บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เปิดตัว ‘Super S Series’ UTP CAT 6A และ FTTR สินค้าเรือธงรุ่นไฮไลท์แห่งปี 2024 พลิกโฉมวงการระบบโครงข่ายสายสัญญาณ ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย เพราะอนาคตมาเร็วกว่าที่คิด

(12 ก.พ. 67) บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เปิดตัว ‘Super S Series’ UTP CAT 6A และ FTTR สินค้าเรือธงรุ่นไฮไลท์แห่งปี 2024 โดยเปิดเผยว่า…เหนือกว่าที่เคยมี! กับนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่แห่งยุคดิจิทัลที่เจ๋งกว่าเดิมกับงานเปิดตัวสินค้า ‘Super S Series’ UTP CAT 6A และ Fiber Optic To The Room Solution ในโรงภาพยนตร์ 270 องศา ที่สะเทือนวงการระบบโครงข่ายสายสัญญาณอย่าง ‘Super S Series’ กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นเรือธงแห่งปี 2024 ของกลุ่ม ‘บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์’ จากความตั้งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย โดยได้จับมือร่วมกับ LINK ASIA และยังเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวที่ได้รับอนุญาต ร่วมคิดค้น และพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อมาตอบโจทย์แก่เทคโนโลยีแห่งยุค เป็นการออกแบบภายใต้แนวคิด 3 ด้าน ‘Smart Small & Save’ (Smart: ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย และผลิตจากเทคโนโลยีขั้นสูง) (Small: มีขนาดเล็ก และให้ประสิทธิภาพสูงเหนือกว่ามาตรฐานกำหนด) (Save: ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง หรือ Pathway และประหยัดค่าใช้จ่ายในการ Maintenance) เน้นย้ำชัดคุณภาพเยี่ยม การันตีด้วยมาตรฐานโลก เตรียมพร้อมสร้างสแตนดาร์ดใหม่แห่งวงการที่เป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่ความสำเร็จ ตอกย้ำภาพผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สายสัญญาณด้วยวิวัฒนาการที่ดีที่สุด 

อีกทั้งยังได้รับการันตีจากทุกภาคส่วนที่ให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่นในสินค้า LINK AMERICAN อีกด้วย เพราะเราเชื่อมั่นว่าสินค้า Super S Series คือ อนาคตสำหรับทุกที่ พร้อมย้ำชัดเป็นสินค้าเรือธงที่จะสามารถกระตุ้นยอดขาย ทำรายได้ให้กลุ่มบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนแบบมีคุณภาพแน่นอน และวันนี้พร้อมแล้วที่จะมาพลิกโฉมวงการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้วยวัตกรรมใหม่ที่ดีที่สุด

‘อินเตอร์ลิ้งค์ฯ’ เปิดศึกแห่งปี 'Cabling Contest' ปีที่ 12  ค้นหาสุดยอดเยาวชนที่มีทักษะชั้นเลิศด้านสายสัญญาณ

ใครจะเป็นแชมป์คนที่ 12 บนเวทีแข่งขันสุดยิ่งใหญ่แห่งปี 2567 ชิงถ้วยพระราชทานฯ ใน ‘โครงการแข่งขันสุดยอดทักษะสายสัญญาณ ปีที่ 12 (Cabling Contest#12)’ เพื่อค้นหาผู้ชนะเลิศเยาวชนคนเก่งที่มีทักษะเฉพาะด้านเพียงหนึ่งเดียว จากทั่วประเทศไทย พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท โดยได้ประกาศแผนการแข่งขัน และเปิดรับสมัครผู้ที่มีความสามารถจากทั่วทุกภูมิภาคแล้วตั้งแต่วันนี้ เตรียมตัวมาปะทะกันทางความรู้ สู้ศึกด้วยทักษะกันให้พร้อม เพื่อชิงชัยคว้ารางวัลสู่ความสำเร็จ

(21 มี.ค. 67) บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK  ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้าค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ ผลิตภัณฑ์ LINK จากสหรัฐอเมริกา พร้อมกับเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายตู้ RACK ผลิตภัณฑ์ 19” GERMANY EXPORT RACK แถลงข่าวงานจัดการแข่งขันใน ‘โครงการแข่งขันสุดยอดทักษะสายสัญญาณ ปีที่ 12 (Cabling Contest#12)’ ภายใต้ความร่วมมือ และสนับสนุนโดย สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงแรงงาน พร้อมผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท

สมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกล่าววัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขัน พร้อมกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการว่า “โครงการฯ นี้ ดำเนินการจัดการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง และก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 จากความตั้งมั่นพร้อมอุดมการณ์ที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย อีกทั้งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพเยาวชนในทุกระดับ และทุกภาคส่วน เพื่อเป็นการผลักดัน ส่งเสริมการเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์ ตอบโจทย์แห่งวงการระบบโครงข่ายพื้นฐาน นำสู่การต่อยอด พัฒนา ฝึกฝน ผู้ที่มีทักษะ และมีฝีมือทางความรู้ ความสามารถเฉพาะด้านนี้ ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริม ช่วยยกระดับคุณภาพทางการศึกษา ให้ไปสู่การต่อยอดทางอาชีพ เพิ่มพูนประสบการณ์ให้แก่เยาวชนได้อย่างมีคุณภาพ ไปพร้อมกับสามารถต่อยอดองค์ความรู้ได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อสอดรับการเติบโตในอนาคตอย่างมีมาตรฐาน ก้าวไปสู่การพัฒนาให้ทัดเทียมเท่ากับนานาชาติได้อีกด้วย”

สำหรับการแข่งขัน Cabling Contest ปีที่ 12 จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างให้ผู้เข้าแข่งขันได้เรียนรู้ถึงระบบโครงข่ายพื้นฐานที่เป็นปัจจัยหลัก และสำคัญอย่างยิ่งในยุคเทคโนโลยีดิจิทัลนี้ เพื่อก้าวให้ทันเทรนด์เทคโนโลยีแห่งยุคที่มีการพัฒนา และปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยตลอดทั้งโครงการฯ แข่งขัน จะได้เรียนรู้ถึงระบบการติดตั้ง และเข้าใจถึงการต้องเลือกอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานจาก LINK AMERICAN & GERMAN RACK EVERYWHERE เพื่อตอบโจทย์แก่การใช้งานในทุกระบบอย่างมีเสถียรภาพ และมีประสิทธิภาพสูงสุด นับเป็นเวทีการแข่งขันที่เปิดโอกาสให้เยาวชน มาร่วมประลองความรู้ ความสามารถ เพื่อเฟ้นหาผู้ที่มีฝีมือ และมีทักษะสุดยอดด้านสายสัญญาณ จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทยที่จะนำไปสู่การต่อยอดพัฒนาทักษะ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ ให้แก่ นิสิต นักศึกษา ในระดับอุดมศึกษา และอาชีวศึกษา รวมทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่ม นิสิต นักศึกษา ที่ในอนาคตจะเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาประเทศชาติได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

ล่าสุด บนเวทีการแข่งขันปีที่ 12 ได้จัดรูปแบบการแข่งขันตลอดทั้งโครงการฯ ภายใต้ Concept : E-Sport เพิ่มความตื่นตา แปลกใหม่ที่ไม่ใช่แค่เพียงการแข่งขันรอบคัดเลือกผ่านหน้าจอออนไลน์อีกต่อไป เตรียมพลิกโฉมการแข่งขันให้สะเทือนวงการไปพร้อมกันตลอดทั้งปีนี้ โดยรอบคัดเลือกระดับภูมิภาค รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล จัดขึ้นในรูปแบบ ONLINE ซึ่งเป็นการสร้างสีสัน และมิติใหม่ให้แก่วงการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานฯ ระดับประเทศอีกด้วย โดยบริษัทฯ จะสนับสนุน จัดส่งชุดอุปกรณ์การแข่งขันไปยังสถานศึกษาของผู้สมัคร และไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดทั้งโครงการฯ พร้อมกันนี้ ในรอบชิงชนะเลิศ จะจัดขึ้นในรูปแบบ Onsite ณ จังหวัดชลบุรี

สำหรับรอบคัดเลือกเพื่อเฟ้นหาตัวแทนจากทั่วทุกภูมิภาค มีกำหนดการเปิดประเดิมเริ่มต้นการแข่งขันขึ้นตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม 2567 ดังนี้

ตารางการแข่งขัน 

‘รอบคัดเลือกระดับภูมิภาค’
ภาคกลาง วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 (การแข่งขันในรูปแบบ Online)
กรุงเทพและปริมณฑล วันที่ 12 มิถุนายน 2567 (การแข่งขันในรูปแบบ Online)
ภาคเหนือ วันที่ 18 มิถุนายน 2567 (การแข่งขันในรูปแบบ Online)
ภาคตะวันออก วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 (การแข่งขันในรูปแบบ Online)
ภาคใต้ วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 (การแข่งขันในรูปแบบ Online)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 (การแข่งขันในรูปแบบ Online)

‘รอบชิงชนะเลิศ’ วันที่ 24 - 26 ตุลาคม 2567 (การแข่งขันในรูปแบบ Onsite ณ จังหวัดชลบุรี)

ในการคัดเลือกรอบภูมิภาค จะมีผู้ผ่านเข้ารอบ ภูมิภาคละ 10 คน รวมทั้งสิ้น 60 คน ก่อนเข้าชิงชัย โดยโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน จะมีการอบรม ฝึกซ้อม เตรียมความพร้อม ก่อนลงสนามแข่งขันจริง เพื่อโชว์ศักยภาพ และทักษะทางความรู้ ความสามารถ ค้นหาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ผู้ชนะเลิศคว้าถ้วยพระราชทานฯ ผู้ที่จะเป็นสุดยอดทักษะด้านสายสัญญาณคนที่ 12 ของประเทศไทย

สามารถลงทะเบียน - สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ‘โครงการแข่งขันสุดยอดทักษะสายสัญญาณปีที่ 12 (Cabling Contest#12)’ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ www.cablingcontest.net หรือ Website: www.interlink.co.th หรือ Facebook: INTERLINK FAN หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-666-1111 ต่อ 1705

ILINK โชว์ผลประการปี 66 แตะ 6,965.19 ล้านบาท กำไรโต 31.41% จากปี 65 ตั้งเป้าปี 67 แตะ 7,002 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 9% ของรายได้

เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.67) บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ในรูปแบบไฮบริด (Hybrid Meeting) ณ อาคารอินเตอร์ลิ้งค์ (สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก) โดยมี กรรมการบริษัทฯ กรรมการอิสระ กรรมการบริหาร อาสาพิทักษ์สิทธิ์ ตัวแทนผู้สอบบัญชี และผู้ถือหุ้น เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ปีงบประมาณ 2566 เผยถึงแผนการขับเคลื่อนธุรกิจ และทิศทางการเติบโตในอนาคต ตามยุทธศาสตร์ 'เติบโต อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน แบบมีคุณภาพ' ให้แก่ผู้ถือหุ้น หรือ ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมพิจารณารับทราบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมถึงนำเสนอวาระสำคัญ เพื่อการพิจารณาอนุมัติของผู้ถือหุ้น ได้แก่ การอนุมัติงบการเงิน การจ่ายเงินปันผลประจำปี การแต่งตั้งผู้สอบบัญชี การแต่งตั้งกรรมการใหม่ เป็นต้น เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับ ผู้ถือหุ้นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย

สำหรับผลการดำเนินงาน และผลประกอบการ จากภาพรวมทั้ง 3 ธุรกิจ (ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ / ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ และธุรกิจโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์) ตลอดทั้งปี 2566 ที่ผ่านมา ทำรายได้พลิกบวก 4 ไตรมาสรวม 6,965.19 ล้านบาท ขานรับทำกำไรสำหรับงวดโดดเด่น อยู่ที่ 712.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.24 ล้านบาท พุ่งแรง 31.41% 

โดยรายได้จาก 'ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ' มีรายได้รวม 2,881.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366.27 ล้านบาท หรือ 14.56% ทำกำไรสุทธิรวม 309.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.76 ล้านบาท หรือ 51.82% เมื่อเทียบกับปี 65 

ส่วน 'ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ' ซึ่งเป็นรายได้จากบริษัทย่อย IPOWER ทำรายได้ก้าวกระโดดจากธุรกิจรวม 1,329.18 ล้านบาท เติบโต 178.96 ล้านบาท หรือ 15.56% และทำกำไรสุทธิรวม 106.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.96 ล้านบาท หรือ 70.45% 

ในขณะที่มีรายได้จาก 'ธุรกิจโทรคมนาคม' 4 ไตรมาสรวม 2,754.94 ล้านบาท มีกำไรสุทธิรวม 295.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.75 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 6% โดยในอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 10.74% ของรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 32% 

ถึงแม้จะทำรายได้ลดลงเมื่อเทียบกับปี 65 นั้น แต่ในทางกลับกัน บริษัทย่อย ITEL กลับสามารถเพิ่มอัตราทำกำไรสุทธิเทียบกับยอดขายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตแบบมีคุณภาพได้เป็นอย่างดี ย้ำให้เห็นภาพชัดแล้วว่าทุกธุรกิจในเครือสามารถขับเคลื่อนดำเนินงานให้เป็นไปตามแบบแผน และประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ ทำกำไรแตะจุดสูงสุดได้เป็นประวัติการณ์ 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.39 บาท จากจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งสิ้น 543,632,325 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท เป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 212.02 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 และกำหนดวันจ่ายปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 นี้

สำหรับ ILINK ก่อตั้งบริษัทฯ ตั้งแต่ปี 1987 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศ โดยได้สร้างปรากฎการณ์ด้วยการไปนำเทคโนโลยีสายสัญญาณ LAN (Local Area Network) เข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นรายแรก และนำมาสร้างเป็นธุรกิจเริ่มต้น ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Cabling Import & Distribution) โดยการเติบโตต่อมาของกลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ก็ยังคงมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีเป็นหลัก ด้วยความเชื่อว่า เทคโนโลยีจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเป็นปัจจัยที่สำคัญให้เกิดการปรับตัวของธุรกิจและการดำรงชีวิตของมวลมนุษยชาติ

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลัก และ 1 มูลนิธิฯ ดังต่อไปนี้...

- ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Cabling Import & Distribution Business)
- ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ (Turnkey Engineering Business)
- ธุรกิจโทรคมนาคม และดาต้าเซ็นเตอร์ (Telecom Business & Data Center Business)
- มูลนิธิอินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ (Interlink Hai Jai Foundation)

- ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ เป็นธุรกิจเริ่มต้น และยังคงเป็นธุรกิจหลักที่แข็งแกร่ง และมีผลการดำเนินงานทั้งรายได้ และกำไร ที่เติบโตต่อเนื่องมาตลอดเป็นระยะเวลากว่า 37 ปี มีการดำเนินธุรกิจ โดย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทตั้งต้นของ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ และในปัจจุบันถูกจัดเป็น ผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบสายสัญญาณ ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ สายสัญญาณ LAN (Local Area Network Cable), สายสัญญาณใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable), สายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cable), สายสัญญาณความปลอดภัย (Security Control) และสายระบบควบคุมอัจฉริยะ (Control Cable) รวมทั้งตู้ 19 นิ้ว ใส่อุปกรณ์สื่อสาร (19"Rack Cabinets) เป็นต้น

ปี 2024 ธุรกิจจัดจำหน่ายได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยให้โลกของเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น (Technology Transformation) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Super-S Series ที่มีความเพียบพร้อมทั้งความเป็น SMART ใช้งานได้หลากหลาย SMALL ทำให้มีขนาดกะทัดรัดติดตั้งง่าย ลดต้นทุนสายสัญญาณ และ SAVE  ซึ่งช่วยให้ประหยัดทั้งค่าติดตั้ง และค่าวัสดุในการติดตั้งโดยคาดว่า ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Super-S Series จะได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดเอเชีย และจะสามารถรองรับเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 15 ปี ข้างหน้า ซึ่งผลิตภัณฑ์สายสัญญาณของ LINK AMERICAN มีการรับประกันยาวนาน 30 ปี

ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศอาเซียน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ LINK ที่ถือกำเนิดขึ้นสหรัฐอเมริกา หรือ เรียกว่า LINK AMERICAN และผลิตภัณฑ์ 19" GERMANY EXPORT RACK หรือ เรียกว่า GERMAN RACK โดยสามารถมีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไม่น้อยกว่า 80% ในปัจจุบัน

- ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ ดำเนินงานโดย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยเน้นงานประมูลโครงการภาครัฐที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่บริษัทฯ หรือ กลุ่มบริษัทฯ มีประสบการณ์ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ได้แก่ โครงการสายเคเบิ้ลไฟฟ้าแรงสูงใต้น้ำ (High Voltage Submarine Cable), โครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูง (High Voltage Transmission Line), โครงการสายไฟฟ้าแรงสูงใต้ดิน (High Voltage Under Ground Cable), โครงการสถานีไฟฟ้าย่อยแรงสูง (High Voltage Substation) ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีผลงานที่ได้รับการรับรองจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT), การไฟฟ้านครหลวง (MEA) และบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เป็นต้น

โดยที่ประเทศไทยยังคงต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาธารณูปโภคพลังงานไฟฟ้าทำให้หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ PEA, MEA, EGAT ต้องออกมาประกวดราคาโครงการด้านระบบไฟฟ้าต่างๆ และด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า จึงเป็นโอกาสให้ IPOWER ที่มีประสบการณ์ และผลงานเป็นที่ประจักษ์ สามารถเข้าไปประกวดราคา และได้รับการประกาศให้เป็นผู้ก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ได้ต่อเนื่องตลอดไป

- ธุรกิจคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์ จากจุดเริ่มต้นที่กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ให้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคม (Telecom Operator) และมีผลงานการติดตั้งโครงข่าย Fiber Optic ให้กับหน่วยงานภาครัฐมากมาย จึงได้นำจุดแข็ง (Strength) ทั้งสอง และเพิ่มด้วยสัมปทานการวางสาย Fiber บนเส้นรถไฟ และถนนทั่วไป บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) (ITEL) ได้นำจุดแข็งทุกอย่างมาก่อสร้างโครงข่าย Interlink Fiber Optic เพื่อให้บริการวงจรเช่าความเร็วสูงแก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทั่วไปที่ต้องการเชื่อมต่อข้อมูลการสื่อสารจากทุก ๆ สาขาเข้าด้วยกัน (Data Connectivity) โดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบมีโครงข่ายของตัวเอง จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และได้วางโครงข่าย Interlink Fiber Optic ไปทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย พร้อมให้บริการมายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว 

อีกทั้งยังได้ลงทุนก่อสร้าง 'ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์' Interlink Data Center ณ ศูนย์ Interlink R&D เพื่อให้บริการพื้นที่เช่า สำหรับ Data Center ของหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอกชน และ Cloud Web Service ให้หน่วยงานขนาดใหญ่ในต่างประเทศ และภายในประเทศ รวมทั้งภาครัฐด้วย ซึ่งในเวลาต่อมายังได้ร่วมทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ ด้านดาต้า เซ็นเตอร์ ของประเทศออสเตรเลีย ก่อสร้างศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์ ขนาดใหญ่ในชื่อ Etix Itel Bangkok Data Center เพื่อรองรับความต้องการระบบ Web Service ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศกำลังเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก ตามนโยบายของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเศรษฐาในปัจจุบันอีกด้วย

จากอดีตจนถึงปัจจุบันที่ผ่านมา ITEL ยังสามารถใช้ประโยชน์จากทีมวิศวกรติดตั้ง และซ่อมบำรุงทั่วประเทศ ในการไปเข้าร่วมประมูลโครงการรับเหมาติดตั้ง และดูแลบำรุงรักษาโครงข่าย Fiber Optic ให้กับภาครัฐและให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งนำโครงข่าย Interlink Fiber Optic ไปก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มอย่างมากมายในโครงการต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ตชายขอบ, อินเทอร์เน็ตทางไกล, โครงการเมืองอัจฉริยะต่างๆ เป็นต้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top