Friday, 3 May 2024
อนุทิน

'หมอเก่ง' จี้ 'อนุทิน' ศึกษาข้อมูลใหม่ นำเข้ายาสู้โควิดที่ได้ผล อย่าเสียดายงบประมาณ มุ่งรักษาชีวิตประชาชนไว้ก่อน

21 มี.ค. 65 นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวแสดงความเห็นกรณีที่ในวงการแพทย์ทางวิชาการ มีการถกเถียงถึงประสิทธิภาพของ 'ยาฟาวิพิราเวียร์' ที่ใช้ในการรักษาต้านโรคโควิด-19 

"จากกรณีที่มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางถึงประสิทธิภาพของยาฟาวิพิราเวียร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สรุปแล้วยาฟาวิพิราเวียร์นั้นมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะใช้รักษาต้านโรคโควิด-19 หรือไม่ โดยการถกเถียงนั้นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายที่หนึ่งอ้างอิงข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ในต่างประเทศ ซึ่งรายงานออกมาอย่างต่อเนื่องว่า ยาฟาวิพิราเวียร์นั้นไม่ค่อยมีประสิทธิภาพต่อการรักษากับโรคโควิด-19 กับฝ่ายที่สอง อ้างอิงข้อมูลจากผลการศึกษาในประเทศ ซึ่งรายงานว่า ยาฟาวิพิราเวียร์นั้นมีประสิทธิภาพสามารถรักษากับโรคโควิด-19 ได้ ในกลุ่มที่อาการไม่รุนแรงจนถึงอาการรุนแรงปานกลาง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทั้งสองฝ่ายโต้แย้งกันโดยอาศัยข้อมูลคนละชุดกัน ดังนั้น การพิจารณาถึงน้ำหนักความน่าเชื่อถือของข้อมูลจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา"

วาโย กล่าวต่อไปว่า เมื่อสืบค้นในฐานข้อมูลทางการแพทย์ระดับสากล พบว่า มีรายงานทางวิชาการหลายฉบับให้ข้อสรุปค่อนข้างตรงกัน ซึ่งได้รายงานอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงล่าสุดในช่วงต้นปี 2565 นี้เอง ร่วมกับรายงานทางวิชาการในระดับที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจถือได้ว่าสูงที่สุด ที่ได้จากการวิเคราะห์อภิมานหรือที่เรียกว่า “Meta Analysis” เผยแพร่เมื่อช่วงปลายปี 2564 โดยได้รายงานว่า “No significant beneficial effect on the mortality among mild to moderate COVID-19 patients” 

"แปลเป็นไทยได้ว่า 'ยาฟาวิพิราเวียร์' ไม่มีประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราการตายในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงไปจนถึงในรายที่มีอาการรุนแรงปานกลาง

"อย่างไรก็ตาม พบว่า มีรายงานบางฉบับรายงานว่า ยาฟาวิพิราเวียร์มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยเมื่อใช้รักษากับโรคโควิด-19 ในหลอดทดลอง อีกทั้งยังพอจะปรากฏรายงานว่ายาฟาวิพิราเวียร์นั้นช่วยให้อาการโดยรวมดีขึ้นได้ ถึงแม้จะไม่ช่วยลดปริมาณไวรัสและอัตราการตายอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม โดยฝ่ายที่โต้แย้งข้อมูลดังกล่าว โต้แย้งด้วยข้อมูลจากผลการศึกษาวิจัยในประเทศโดยคณะแพทย์แห่งหนึ่ง ร่วมกับหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขหลายหน่วยงาน 

‘อนุทิน’ รับมอบ ‘แพ็กซ์โลวิด’ ล็อตแรก คาดส่งให้ผู้ป่วยสูงวัยที่ติดโควิดหลังสงกรานต์

เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานพิธีส่งมอบยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ น.ส.เด็บบราห์ ไซเฟิร์ท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในจำนวนการจัดซื้อ 50,000 คอร์ส รวม 1.5 ล้านเม็ด กำหนดทยอยส่งมอบให้ครบภายในเดือนเม.ย. ซึ่งมีองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้รับจัดเก็บและกระจายยาลงพื้นที่แต่ละจังหวัด

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเข้าถึงยารักษาโควิด-19 ที่มีประสิทธิผล มีข้อมูลทางวิชาการหรือผลการศึกษาวิจัยที่มีคุณภาพเพียงพอในการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพื่อพิจารณาเลือกและจัดหายาที่เหมาะสมในการนำมาใช้กับผู้ติดเชื้อโควิด ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ยาต้านไวรัสรักษาผู้ป่วยโควิด ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาเรมเดซิเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาตัวใหม่ที่กำลังนำมาใช้ คือ ยาแพ็กซ์โลวิด ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อใช้รักษาโควิดโดยตรง ไม่ใช่เป็นเพียงยาต้านไวรัสทั่วไป ซึ่งปัจจุบันพบว่าผู้ติดเชื้อที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปส่วนหนึ่งยังมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ สธ. โดยกรมการแพทย์ ดำเนินการจัดซื้อจัดหายาที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตลง ทั้งนี้ ไม่ใช่เป็นทางเลือกแต่เพื่อสร้างความมั่นคงทางยา ให้ประชาชนมั่นใจว่าเรามียาครบถ้วนและเพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วยทุกอาการ โดยจะกระจายยาลงไปยังแต่ละจังหวัด ในโรงพยาบาลศูนย์ และให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้บริหารจัดการยาต่อไป

“แม้เราจะมียาดีอย่างไร สู้กับการไม่เจ็บป่วยไม่ได้ ฉะนั้นขอให้ประชาชนยังคงมาตรการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่างและล้างมือ ลดเข้ากิจกรรมเสี่ยง และฉีดวัคซีนให้ครบทุกคน” นายอนุทินกล่าว

ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้ตอบคำถามกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมจัดซื้อยามาในปริมาณเพียง 50,000 คอร์ส ว่า ประเทศไทยรักษาผู้ป่วยมากกว่า 2 ล้านคน แต่ละคนมีอาการต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่จะอาการไม่รุนแรง ฉะนั้นขอให้มั่นใจว่ายาแต่ละขนานที่แพทย์ให้มาจากหลักวิชาการ เราไม่ต้องไปบอกแพทย์ว่าเราจะรับยาอะไร ผู้ป่วยจะต้องเชื่อแพทย์ที่จะจ่ายยาที่เหมาะสมที่สุดกับผู้ป่วย ยืนยันว่าไม่ได้ซื้อน้อย เพราะไม่ได้ซื้อเพียงครั้งเดียว หากพบว่ามีความจำเป็นเราก็พร้อมจะจัดซื้อเพิ่มให้เหมาะสมเพียงพอ

“ไม่มีคำว่าขี้เหนียว เก็บรักษาเอาไว้เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ทุกอย่างเป็นไปตามการรักษาโดยดุลยพินิจของแพทย์ ทั้งยาทุกชนิดที่นำมาใช้กับผู้ป่วยทั้งต้านไวรัสหรือยาแก้ไอ ลดน้ำมูกทั่วไป ยาฟ้าทะลายโจร ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ยาแพ็กซ์โลวิดหรือฟาวิพิราเวียร์ทุกคน ยิ่งไม่ได้รับ ก็ต้องถือว่าผู้ป่วยมีสุขภาพดี อาการไม่รุนแรง เป็นสิ่งที่น่ายินดี เพื่อให้เราเก็บยาไว้รักษาผู้ที่มีความจำเป็น” นายอนุทินกล่าว

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยยาแพ็กซ์โลวิดในผู้ป่วย 1,379 คน พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาล (รพ.) หรือเสียชีวิตลงได้ 88% เมื่อผู้ป่วยได้รับยาภายใน 5 วันนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ โดยกลุ่มที่ได้ยานอน รพ. 0.77% และไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนกลุ่มที่ได้รับยาหลอก นอนรพ. 6.31% และมีผู้เสียชีวิต 13 คน ถือว่ามีประสิทธิผลสูง ซึ่งยาแพ็กซ์โลวิด จะนำไปใช้รักษาผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง เช่น คนอายุมากกว่า 60 ปี มีภาวะอ้วน เป็นเบาหวาน เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคไตเรื้อรัง ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ เป็นต้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือการรักษาตัวในรพ.

‘อนุทิน’ แจงไทยไม่สั่งวัคซีน COVAVAX เพราะเป็นวัคซีนภายใต้ QUAD

(21 เม.ย. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการรับบริจาควัคซีนโคโวแว็กซ์ (COVOVAX) ที่เป็นชนิดโปรตีนซับยูนิต จากประเทศอินเดีย รวม 200,000 โดส ซึ่งหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ ทำไมประเทศไทยไม่สั่งซื้อเข้ามาใช้เอง ว่า…

การรับมอบวัคชีนโควิด-19 ของบริษัท COVOVAX ที่ผลิตในอินเดีย จำนวน 20,000 โดส มูลค่า 60 ล้านรูปี หรือกว่า 26 ล้านบาท ภายใต้การสนับสนุนของจตุภาคีความมั่นคง (QUAD) ที่เป็นความร่วมมือของ 4 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ก็เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมระบบสาธารณสุขของประเทศไทย ในการเร่งรัดสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยวัคซีน เพื่อลดผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงสัมพันธ์อันดีที่ไทยมีต่อมิตรประเทศที่คอยช่วยเหลือกันอีกด้วย

ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลก การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การแสดงน้ำใจต่อกัน เป็นสิ่งที่จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ ด้านวัคซีนโควิด-19 ประเทศไทยมีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อหรือการบริจาค ซึ่งที่ผ่านมา ได้บริจาคให้กับประเทศที่มีความต้องการในหลายประเทศเป็นไปตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แนะนำตามหลักสากล เพื่อให้เราเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ

‘อนุทิน’ ยัน ‘ภูมิใจไทย’ หนุนรัฐบาล - นายกฯ ไม่มีย้ายข้าง พร้อมขออย่าพูดลอยๆ ปมถูกกล่าวหาทุจริต 

10 พฤษภาคม 2565 - นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีนายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่ามีหลักฐานการทุจริต ของพรรคภูมิใจไทย ว่า จะกล่าวหากันว่าทุจริต ใครทุจริต ทำไม่ถูก ก็ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่มาพูดกันลอยๆ ถ้ามีข้อมูล ก็นำมาชี้แจงเลย ถ้าเห็นว่ารัฐมนตรีทุจริต ท่านก็มีช่องทางตรวจสอบ  

ผู้สื่อข่าวถามว่าพฤติกรรมเช่นนี้ของฝ่ายค้านเรียกว่าตีกินหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ท่านคงไม่ทำเช่นนั้น ท่านเป็นระดับผู้ใหญ่ เป็นผู้กล่าวสรุปในการอภิปรายที่ผ่านมา สำหรับรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย เวลามีข้อสงสัย เราตอบได้ทุกเรื่อง ทำไมไม่มองว่ารัฐมนตรีของพรรคทำงานเพื่อประเทศชาติ เรื่องโฮปเวลล์ ที่ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ไม่เข้า ครม.ก็เพราะเราเห็นว่า ประชาชนยังไม่ได้ประโยชน์สูงสุด ถามว่ารัฐมนตรีพรรคไหนทำ ‘จะกล่าวหาใครมันก็ต้องดูด้วยว่า พรรคที่ทุจริตคอรัปชันจนโดนอาญาบ้านเมือง คือพรรคไหน’

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ถามเรื่องที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ก.หาเสียง มีความสัมพันธ์กับที่สมาชิกบางคนของพรรคกล่าวโจมตีพรรคภูมิใจไทยเป็นระยะ 

‘อนุทิน’ ขนทัพ ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ลั่น ถ้าได้ ส.ส.ยกจังหวัด เอาไปเลย 2 เก้าอี้รัฐมนตรี พร้อมย้ำ จะทำแต่สิ่งดีๆ เรื่องระยำจะบ่เฮ็ด

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2565 ที่ศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เขต 7 ของนายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ส.ส.ศรีสะเกษ  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)  นำคณะของพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย รัฐมนตรี และส.ส.พรรค พบปะกับผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ โดยนายอนุทิน ได้กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนได้อ่านข่าวรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ทุกคนลงพื้นที่พบปะชาวบ้านรับฟังปัญหา และพร้อมนำปัญหามาแก้ไข แต่ไม่มีข่าวใดที่ดีใจเท่ากับเลขาธิการพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชาวบุรีรัมย์เพื่อนบ้านของพี่น้องชาวศรีสะเกษ ประกาศขอเสียงสนับสนุนให้ จ.ศรีสะเกษ ได้เป็นส.ส.ยกทั้งจังหวัด

“ผมขอได้ไหม ขอให้มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคที่พูดไม่เก่ง แต่ทำงานเก่ง ทำงานเป็น มุ่งมั่นทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนดังสโลแกน “พูดแล้วทำ” ได้พูด ได้เว้า ได้เฮ็ด ส่วนที่เลขาธิการพรรค บอกว่าถ้าได้ส.ส.ยกจังหวัดจะให้ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี แต่ผมจะให้ 2 เก้าอี้เลยถ้ายกจังหวัด” นายอนุทิน กล่าว

“อนุทิน” เผย “อุ๊งอิ๊ง”ลุยอีสานใต้ ไม่แปลก ชี้ นับถอยหลังลต. ต้องเร่งหาเสียง เชื่อสุดท้ายปชช. ตัดสินที่นโยบาย

 เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 พ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะขณะนี้เหลือเวลาอีก 9-10 เดือน เป็นเวลาเหมาะสมที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องทางการเมืองต้องเริ่มรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง สร้างความนิยมต่อประชาชน อย่าไปมองว่าเป็นพื้นที่ของคนนู้นคนนี้ เพราะเป็นพื้นที่ของประชาชน จึงอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน หากใครมีโอกาสและมีเวลาก็ต้องเร่งลงพื้นที่เพื่อชี้แจงและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน เพื่อที่จะให้เลือกกลับมาเป็นตัวแทน

ผู้สื่อข่าวถามว่า  การที่น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ จะปลุกกระแสคนรุ่นใหม่ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องมองเป็นนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง แต่ละพรรคก็มีดี ส่วนคนที่จะตัดสินใจคือประชาชน ดังนั้นทุกพรรคต้องเร่งสร้างนโยบายที่ประชาชนเห็นแล้วว่าจับต้องได้ พูดแล้วทำ

‘อนุทิน’ คาใจปล่อยข่าวคนเสพกัญชาตาย ย้ำให้ใช้ทางการแพทย์ ไม่เคยบอกให้เสพเพื่อโล่งหัว

มื่อวันที่ (14 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ว.เสนอออกใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กัญชาระหว่างที่ยังไม่มี พระราชบัญญัติพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ว่า มีประกาศองกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ส่วนที่ ส.ว.เสนอมาต้องไปศึกษาดู ใครให้ข้อเสนออะไรที่เป็นประโยชน์พร้อมรับฟัง ขณะที่ร่างพ.ร.บ.กัญชานั้นทางกรรมาธิการได้ประชุมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทั้งนี้เราพยายามตั้งกรอบระยะเวลาว่ากฎหมายใหม่ให้จบภายในสมัยการประชุมนี้และเร่งกันอย่างเต็มที่

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ดังนั้นตอนนี้ถ้าทุกคนใช้ด้วยความเข้าใจ ใช้ด้วยเจตนารมณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ใช้ทางด้านการแพทย์ก็จะไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล แต่ตอนนี้ที่เป็นเรื่องเป็นราว เพราะคนไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ ไปใช้เสพเป็นต้นหรือเอาไปใช้ในทางที่ก่อให้เกิดผลต่อจิตประสาท ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ของการทำให้กัญชามีความเสรียืนยันว่าเราไม่ได้เพิ่งมาทำ แต่มีการทำเรื่องนี้มากว่า 2 ปี มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องค่อย ๆ แก้กฎระเบียบต่าง ๆ ไม่ใช่อยู่ ๆประกาศไม่ให้เป็นยาเสพติด เราทำในสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ให้ความรู้ให้ข้อมูลการใช้กัญชาอย่างเข้าใจในระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่เลือกตั้งเราเปิดเผยมาตลอด และไม่หวั่นไหว เพราะเราไม่ได้ใช้นโยบายมาเล่นการเมือง แต่ใช้เพื่อให้เกิดปากท้องที่ดี สุขภาพที่ดี ตนไม่มีการเมือง ใครเอาเรื่องนี้มาเป็นการเมืองดิสเครดิตต้องให้สังคมตัดสิน

เมื่อถามถึงกรณี กรุงเทพมหานคร (กทม.)ได้รับรายงาน พบผู้ป่วยจากการเสพกัญชาเกินขนาดในพื้นที่กรุงเทพฯหลังการปลดล็อกกัญชา จำนวน 4 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายวัย51 ปี และพบผู้ป่วยอายุน้อยที่สุด 16 ปี นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปดู ในรายงานด้วยว่ามีการเสพในปริมาณเท่าไร เสพในปริมาณที่พอดี เสพ ในปริมาณน้อย หรือมีการเสพโอเวอร์โดสหรือไม่เพิ่งสูบเมื่อวานหรือไม่ ถ้าเคยสูบโอเวอร์โดสได้ สูบเป็นประจำแล้ววันนี้มีเหตุขึ้นมาทำไมก่อนหน้านี้ไม่มีรายงานต้องการอะไร วันนี้ที่มีรายงานคนเสียชีวิต และคนที่ถูกหามส่งห้องฉุกเฉินในรายงานของแพทย์ก็มีคำว่าโอเวอร์โดส  ซึ่งคำว่าโอเวอร์โดส อย่าบอกว่าสูบกัญชา การกินยาแก้ปวดเกินขนาดก็โอเวอร์โดส แล้ว ต้องใช้อย่างเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าเป็นเช่นนั้นมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวลองประเมินและวิเคราะห์เอาเองอย่าไปก้าวก่ายใครอยากทำอะไรก็ทำไป ถ้าเป็นเรื่องที่ดีกับประชาชน คนที่มาทำงานการเมืองต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว

‘อนุทิน’ เคลียร์ ‘ชัชชาติ’ ปมเสพกัญชาดับ ชมมีสปิริตให้ข้อมูลใหม่ หลังแพทย์ชี้ชัดแล้วไม่จริง

‘อนุทิน’ ยกหูเคลียร์ ‘ชัชชาติ’ ปมเสพกัญชาเกินขนาดดับ ชมมีสปิริตให้ข้อมูลใหม่ หลังแพทย์ชี้ชัดแล้วไม่จริง ย้ำปลดล็อกกัญชาเอามาช่วยชีวิต ไม่ได้เอามาทำให้เสียชีวิต

เมื่อวันที่ (15 มิ.ย.) ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีข่าวรายงานมีผู้เสียชีวิตจากการใช้กัญชาเกินขนาดในพื้นที่ กทม. ระหว่างปาฐกถาปลดล็อกกัญชาเสรี สร้างสุขภาพ สร้างเศรษฐกิจ ว่า นโยบายเน้นย้ำตลอดถึงการใช้กัญชาเสรีทางการแพทย์ สุขภาพ และสร้างเศรษฐกิจ ไม่ได้ให้ใช้สันทนาการหรือบันเทิง ส่วนกรณีเมื่อวานมีการบอกว่าสูบกัญชาเกินขนาดทำให้หัวใจวายเสียชีวิตทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ วันนี้แพทย์แถลงว่าไม่ใช่

"หากเราต้องไปชันสูตร สงสารญาติเขาหรือไม่ คนเขามีความทุกข์ญาติมีความทุกข์อยู่แล้ว อีกอย่างระหว่างบันทึกไปว่าเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลว กับบันทึกว่าเสียชีวิตเพราะเสพกัญชามันต่างกัน สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเอามาเล่น การสูญเสียทุกชีวิตน่าเสียใจอยู่แล้ว สธ.เห็นคุณค่าของชีวิต เราเอากัญชามาช่วยชีวิต ไม่ได้เอามาให้เขาเสียชีวิต" นายอนุทินกล่าว

แลกหมัด!! ศึกอภิปรายซักฟอกรัฐบาล 19 กรกฎาคม 2565

>> นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง หรือหมอเก่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล 
อนุทิน จงใจสร้างสุญญากาศทางกฎหมายในการควบคุมกัญชา จนทำให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชน เสี่ยงมีปัญหาทางการทูต การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ และที่อ้างว่า การปลดล็อกกัญชานั้นเป็นการปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์ แต่ที่ผ่านมา อนุทินได้โฆษณาชวนเชื่อกับประชาชนว่าทุกคนจะปลูกกัญชาได้จนร่ำรวย สามารถนำกัญชาไปผสมอาหารหรือเสพได้ ซึ่งเหล่านี้ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของกัญชาทางการแพทย์เลย 

>> อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 
ข้อกังวลที่เกิดขึ้นกับนโยบายกัญชาทางการแพทย์นั้น อยู่ในจุดที่ควบคุมได้ จึงไม่จำเป็นต้องรีรอ และทุกอย่างมันเป็นไปตามกระบวนการ สมควรแก่เหตุแล้ว ทุกคนเห็นด้วยที่จะให้กฎหมายออกมาโดยเร็ว แต่การเอาคลิปมาโจมตี ที่พูดเรื่องอนุญาตให้ใช้ในบ้านนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลก็เขียนเหมือนกัน ทั้งนี้ เรื่องคลิป ต้องการให้ดูกันทั้งคลิป อย่าเพิ่งตัดสินจากเนื้อหาเพียงบางส่วน

‘อนุทิน’ ลั่น ‘กัญชา’ จะไม่ถอยสู่ยาเสพติด เหตุเริ่มลงทุนไปแล้ว ทั้งด้านการแพทย์-ศก.

ถอยไม่ได้แล้ว 'อนุทิน' เผยให้ 'กัญชา' กลับไปเป็นยาเสพติดไม่ได้แล้ว หลังกลุ่มคณะแพทย์ รพ. รามาฯ ขอชะลอจัดกิจกรรมกัญชา หวั่นเด็ก-เยาวชนเข้าถึง เหตุเริ่มมีการลงทุน ใช้ได้ผลดีกับผู้ป่วยมะเร็ง ฟื้นเศรษฐกิจ

วันที่ (27 ก.ค. 65) สืบเนื่องจากกรณีที่คณะแพทย์ และศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี 851 คน ออกมาแสดงจุดยืน ขอให้ชะลอการจัดกิจกรรมกัญชา เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย

โดยวานนี้ (26 ก.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุความคืบหน้า ร่างกฎหมาย พรบ. กัญชง-กัญชา พ.ศ. ….ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของชั้นกรรมาธิการ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นเดือน ส.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะช่วยผลักดันให้สำเร็จในรัฐบาลชุดนี้

ส่วนเรื่องความคิดเห็นต่าง ๆ ตนเองรับฟังและขอบคุณทุกความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องที่ต้องแก้ไข จะนำกลับไปพิจารณาในชั้นคณะกรรมมาธิการฯ ส่วนของการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับกัญชายังต้องเดินหน้า เพราะประเทศต้องเดินต่อไป และยืนยันว่า เด็กเข้าถึงกัญชาไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย คนที่ทำผิดกฎหมายต้องพิจารณาตัวเอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top