Friday, 3 May 2024
อนุทิน

‘อนุทิน’ นำทีมผู้สมัคร กทม. 33 เขต ขึ้นรถแห่รอบกรุง แนะนโยบาย–ขอบคุณปชช. หวังตอกเสาเข็มกรุงเทพฯ สำเร็จ

(13 พ.ค. 66) เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้งกรุงเทพมหานครพรรคภูมิใจไทย, นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 

นายอนุทิน ได้นำทีมผู้สมัครเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 33 เขต ขึ้นรถแห่ แนะนำนโยบาย ขอคะแนนเสียงและขอบคุณประชาชน ที่มาฟังการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย ไปจนถึงให้กำลังใจ เป็นแรงสนับสนุนพรรค ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 

สำหรับเส้นทางการเดินทางนั้น เริ่มต้นจากพรรคภูมิใจไทย ขบวนได้วิ่งตามถนนพหลโยธิน ไปตามเส้นทางรถไฟฟ้า ผ่านแยกรัชโยธิน ห้าแยกลาดพร้าว และสะพานควาย สนามเป้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พญาไท และราชเทวี โดยหลังจากนี้ขบวนจะเดินทางต่อไปยังพื้นที่ห้วยขวาง เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชน 

ทั้งนี้ ตลอดเส้นทาง นายอนุทิน และนายพุทธิพงษ์ พร้อมทั้งทีมผู้สมัคร ได้กล่าวขอบคุณประชาชน ที่ให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยอย่างดีเสมอมา นายอนุทิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นรถแห่หาเสียงระบุว่า นี่เป็นการทิ้งไพ่ที่สำคัญสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เราใช้ทุกวินาที ให้คุ้มค่าที่สุด เมื่อเอาความมุ่งมั่น มาบวกกับผลงานที่ผ่านมา เชื่อว่าชาวกรุงเทพ จะแบ่งใจให้พรรคภูมิใจไทย ที่ผ่านมา เราไม่เคยปักธง ตอกเสาเข็ม ในพื้นที่กรุงเทพได้เลย แต่คราวนี้ทุกอย่างน่าจะเปลี่ยนไปแล้ว เพราะเราได้พิสูจน์ผลงานจากการเป็นรัฐบาล จะเห็นว่า เราเป็นพรรคที่พูดแล้วทำ นโยบายที่นำมาเสนอ เราทำได้จริงและทำได้เร็ว ครั้งนี้ภูมิใจไทยส่งผู้สมัคร กทม. ครบ 33 เขต และมีแชมป์เก่าถึง 8 คน  วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการหาเสียง เราได้ส่งการบ้านให้ประชาชนครบทุกข้อ อะไรที่เป็นสัญญาใจ เราให้ท่านคืนไปหมด อยากจะตื๊อคนกรุงเทพฯ ขอให้เปิดใจรับภูมิใจไทย เราอาจจะถูกมองว่าเป็นพรรคบ้านนอก แต่ที่ผ่านมา เราก็รับใช้คนกรุงเทพฯ เช่นกัน สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ หวังว่าจะตอกเสาเข็มในพื้นที่กรุงเทพมหานครสำเร็จ เพราะเราได้คนเก่งมาเสริมทัพในหลายตำแหน่ง และเราก็มีผลงานไปขายประชาชน 

“ที่สุดแล้ว ผมต้องขอบคุณพี่น้องประชาชน ทุกเวทีปราศรัยในกรุงเทพมหานคร มีคนมาฟังเราแน่นขนัด เราถือว่าเราทำเต็มที่แล้วทั้ง กทม. และพื้นที่อื่นๆ เราเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งมาเป็นปีก่อนหน้านี้ คิดว่าทำในสิ่งที่ต้องทำอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด กระแสของพรรค ดีขึ้นอยู่ทุกวัน แน่นอนว่าเรามีเป้าหมาย และเราวิ่งเข้าหาเป้าหมาย เราพยายามนำเสนอนโยบายให้พี่น้องพิจารณา คะแนนที่พี่น้องประชาชนมอบให้ ถือเป็นสิ่งมงคล ขอให้มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยได้ทำทุกอย่างที่ให้สัญญาไว้ตั้งแต่ปี 2562 ไว้หมดแล้ว เราทำเต็มที่ การทำงานเพื่อประชาชน ถือเป็นเกียรติ ของเราทุกคน” 

‘อนุทิน’ สวมเสื้อลายกัญชา เข้าคูหาใช้สิทธิ ขอปักหลักรอลุ้นผลเลือกตั้งที่บุรีรัมย์

(14 พ.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นั่งรถตู้เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 เขตเลือกตั้งที่ 2 ที่ศาลากลางหมู่บ้านหมู่ 4 ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จัหวัดบุรีรัมย์ หลังจากนายเนวิน ชิดชอบ นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยา และลูกชาย เดินทางมาใช้สิทธิก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ชั่วโมง

โดยนายอนุทินสวมเสื้อลายกัญชาสีเขียว เดินลงจากรถอย่างมั่นใจ หลังการใช้สิทธินายอนุทินไม่ขอให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด อ้างว่าเกรงว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง หลังจากนี้จะรอลุ้นผลการเลือกตั้งที่จังหวัดบุรีรัมย์

“อนุทิน” เปิดมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 20 ชูแนวคิด “สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย”

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 20 ภายใต้แนวคิด “สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย” นำเสนอการใช้ภูมิปัญญาไทยดูแลสุขภาพ พร้อมกิจกรรมสาธิต นิทรรศการ จับคู่ธุรกิจ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยมาตรฐานกว่า 500 ร้านค้า ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคม นี้ ที่ ฮอลล์ 11-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดผู้เข้าร่วมงานกว่า 200,000 คน เงินสะพัดกว่า 400 ล้านบาท

วันนี้ (28 มิถุนายน 2566) ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข 
พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง สมาชิกวุฒิสภา นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และคณะผู้บริหาร เปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 20 ภายใต้แนวคิด “สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย” พร้อมมอบรางวัลหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. 2566 แก่ พ่อหมอบุญมา มุงเพีย “หมอ 10 บาท รักษาทุกโรค” จากจังหวัดสกลนคร, นายประวิทย์ แก้วทอง เจ้าของแนวคิด “หมอไม่หวงวิชา สอนให้ใครก็ได้ลูกหลานใครก็ได้ที่สนใจ ถ้าไม่ให้วิชาก็จะตายไปกับตัว ถ้าให้เด็กก็จะได้สานต่อช่วยคนอีกเป็นหมื่นเป็นแสน” จากจังหวัดสงขลา มอบรางวัลพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 5 รางวัล และรางวัลพื้นที่ต้นแบบดีเด่นชมรมผู้สูงอายุด้านการแพทย์แผนไทย ประจำปี พ.ศ. 2566 จำนวน 3 รางวัล

 นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญต่อการนำสุขภาพมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (Health for Wealth) มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) โดยเฉพาะสมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย ถือเป็นจุดแข็งที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้ โดยการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรเชื่อมโยงการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้เกษตรกร นำเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม และต่อยอดใช้ในระบบสุขภาพ ซึ่งการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งนี้ มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้าถึงและใช้บริการการแพทย์แผนไทยฯ ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ปลอดภัย ยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาด เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ประชาชนเชื่อมั่น ใช้ยาสมุนไพรดูแลสุขภาพตนเองเมื่อเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นจาก 1.48% เป็น 15% มีบริการที่เป็นเลิศ โดยเลือกใช้บริการการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก เมื่อเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นจาก 4.58% เป็น 20% รวมถึงบริโภคสมุนไพรในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 90,000 ล้านบาท และเป็น 1 ใน 3 ของเอเชีย ภายในปี 2570 

 ด้านนพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายกว่า 230 องค์กร ร่วมกันจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 และได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างมาก โดยในปีนี้มีทั้งกิจกรรมสาธิตและนิทรรศการ ภายใต้แนวคิด “Thai Herbs & Medical Cannabis for Health and Wealth” นำเสนอ Innovation and Product, Wellness and Thainess Tourism รวมถึงภูมิปัญญาในการดูแลสุขภาพ การให้บริการและคำปรึกษาด้านสุขภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ “สุขสำราญนิทราคลินิก” รักษาอาการปวดเรื้อรังและนอนไม่หลับมิติใหม่ การรักษาแบบองค์รวมครบวงจร การบำบัดฟื้นฟูและลดอันตรายจากยาเสพติด (Harm Reduction Model) และการดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคอง (Palliative Care) รวมถึงการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งมีประเทศที่เข้าร่วมอาทิ เกาหลี มาเลเซีย ศรีลังกา รัสเซีย ลาว และมีบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยมาตรฐานกว่า 500 ร้านค้า       
                                                        
นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาแลกเปลี่ยนด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ทางเลือกและสมุนไพร ร่วมกับต่างประเทศ (International Medical Cannabis Conference 2023) และการประชุมกรอบความร่วมมือระดับอนุภูมิภาคในอนุทวีปเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (BIMSTEC) การประชุมวิชาการประจำปีภายในประเทศ การประกวดผลงานวิชาการประจำปี อบรมหลักสูตรระยะสั้นเพื่อส่งเสริมอาชีพและการดูแลสุขภาพด้วยตนเองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนกว่า 200,000 คน และมีเงินสะพัดภายในงานกว่า 400 ล้านบาท


เจนกิจ นัดไธสง รายงาน

ไม่พลิก!! 'อนุทิน' คุม 'มท.1' ฟาก 'ป๊อด' ผงาด!! อาจมีขบถ ปชป.ซบบ้านป่า ส่วน พท.พร้อมเดินหน้า แต่แอบผวา 'ทักษิณ' ทำความดีละลายหาย

'เลียบการเมือง' สุดสัปดาห์ กับ 'เล็ก เลียบด่วน' สัปดาห์นี้ ขอวิเคราะห์การเมืองกันแบบซุบซิบ...เมาท์มอยดีกว่านะครับ ก่อนจะได้ดูโผ ครม.จริงๆ กันในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้...

'เล็ก เลียบด่วน' สรุปอีกครั้งว่า... 'เพื่อไทย' ได้เป็นรัฐบาลรอบนี้เพราะมีลุง...มีลุงจึงมีเรา...152 เสียงของสมาชิกวุฒิสภาหรือ สว.ที่ขานชื่อ "เห็นชอบ" ให้เศรษฐา ทวีสิน นั้น เป็น สว.สายบิ๊กตู่ร่วมๆ 145 คน ดังนั้นจึงชอบแล้วที่ 'เสี่ยนิด เศรษฐา' ไปขอบคุณลุงตู่ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เป็นวัฒนธรรมใหม่ทางการเมือง...

เอาไปเอามา...ดูเหมือนว่าไฮไลต์การจัดโผ ครม. อยู่ที่เก้าอี้กระทรวงมหาดไทยกับคมนาคม...เมื่อพรรคเพื่อไทยยื่นคำขาดขอคุม 'คมนาคม' พรรคน้องหนู อนุทิน ชาญวีรกูล ก็โค้งคำนับทุบโต๊ะบอกว่า "ได้ครับ" แต่ขอแลกกับมหาดไทย...นั่นเป็นที่มาของอนุทินรอบนี้จะนั่งรองนายกฯ ควบ มท.1  

ส่วน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อเจาะกระทรวงพลังงานไม่ได้ ก็มาดูเมกะโปรเจกต์ที่กระทรวงหูกวาง...

กระทรวงหูกวาง หรือ คมนาคมรอบนี้ 'เล็ก เลียบด่วน' ให้จับตามองตำแหน่ง รมช.โควตาพรรคเพื่อไทยให้ดีๆ เขาคือ 'หมอหนุ่ย' นพ.สุรพงษ์ ปิยะโชติ นายก อบจ.กาญจนบุรี สายตรงของเจ้าสัวด้านขนส่งคมนาคม...คนนั้น  

เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 'หมอหนุ่ย' คนเชียงใหม่ แต่เคยเป็น สส.เมืองกาญจน์เมื่อปี 2554 เป็นแม่ทัพบัญชาการการรบ โดยมีเจ้าสัวสนับสนุนยุทธปัจจัยไม่อั้น ทำให้เพื่อไทยกวาด สส.เมืองกาญจน์ได้ 4 เขตจาก 5 เขต...วันนี้เลยได้รับบำเหน็จขึ้นแท่น รมช.แฮปปี้ทั้งเจ้าสัวและหมอหนุ่ยรวมทั้งคนเมืองกาญจน์ฯ...

รายนี้ก็เป็นการตบรางวัล จัดให้ตามที่คุณขอมา...ว่าที่รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา คนใหม่ ตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้ม ออกอาการเคอะเขินระหว่างเดินทางร่วมทริปดูงานด้านการท่องเที่ยวที่ภูเก็ต-พังงากับ ท่านนายกฯ เศรษฐา...ไม่ใช่ใครอื่น 'สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล' ลูกสาวคนโตของ 'กำนันป้อ' วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เสี่ยแป้งมันคนโตแห่งโคราชนั่นเอง...

เลือกตั้งรอบนี้ กำนันป้อ จับมือ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กวาดสส.โคราชเกือบเกลี้ยง...เพื่อไทยเลยจัดให้สองเก้าอี้...ประเสริฐว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม...กำนันป้อส่งคุณหนูสุดาวรรณคุมท่องเที่ยวฯ ยินดีด้วยนะครับ

สื่อมวลชนบางสำนักเขียนถึง 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า...อกหักพักบ้านป่า...ซึ่ง 'เล็ก เลียบด่วน' ก็ขอบอกว่าไม่มีอะไรผิดหรอกที่เขียนน่ะ แต่อย่าซ้ำเติมท่านนักเลย แค่เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 6 จปร.17 หลายคนแหกโผไปยกมือโหวตให้ 'เศรษฐา' ทั้งๆ ที่ตกลงกันว่าจะงดออกเสียงก็ชีช้ำพอแล้ว...โดยเฉพาะรายของ 'บิ๊กกี่' พล.อ.นพดล อินทปัญญา...เพื่อนเลิฟลุงป้อม งานนี้สนับสนุนนายกฯ เพื่อไทยเต็มลำ ทำไงได้ล่ะ...ก็สุดที่เลิฟของ 'บิ๊กกี่' เป็น สส.อยู่ที่พรรคเพื่อไทยนี่นา…

สำหรับพรรคพลังประชารัฐ จากนี้ไปก็คงอยู่ภายใต้การคอนโทรลของน้องชายบิ๊กป้อม คือ 'บิ๊กป๊อด' พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ว่าที่รองนายกฯ / รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...อนาคตพรรค พปชร.แม้จะดูเทาๆ มัวๆ แต่อาจจะอยู่ยืนยาวกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ...ดีไม่ดีว่ากันว่าหากในอนาคตกลุ่ม 16 แห่งพรรคประชาธิปัตย์ถูกขับหรือขับตัวเอง อาจจะมาซุกกายอยู่บ้านป่ารอยต่อใน พ.ศ.ใหม่ก็เป็นไปได้...ไม่เชื่อลองไปถามเดชอิศม์ ขาวทอง

และสุดท้าย...ท้ายสุด เหนือการควบคุมของ นายกฯ เศรษฐา...แต่จะส่งผลกระทบกับรัฐบาลเศรษฐา...แฟนคลับพรรคเพื่อไทยฝาก 'เล็ก เลียบด่วน' กระซิบกรณี นช.ทักษิณ ชินวัตร ว่า หากพรรคเพื่อไทยและครอบครัวชินวัตรไม่บริหารให้อยู่ในความพอดีของความเป็นนักโทษ...ต่อให้รัฐบาลสร้างผลงานดีแค่ไหนก็จะละลายหายไปกับความเสื่อมศรัทธาที่จะเกิดขึ้น...

ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดีในระดับพอสมควรแล้ว คนไทยให้อภัยและชื่นชมที่ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าจะทำลายโอกาสดีๆ ที่พรรคเพื่อไทยจะได้ฟื้นตัว มีพลังสู้กับพรรคก้าวไกลและปัญหาของชาติ 

ก็ช่วยไม่ได้...เอวัง!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

‘อนุทิน’ เตรียม 11 ขุนพล ร่วมแถลงนโยบายรัฐฯ 11-12 ก.ย.นี้ เน้นหลักนโยบายที่เคยหาเสียงกับ ปชช. ไว้เป็นหลัก

(10 ก.ย. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการประชุมสส.พรรค และกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ก่อนแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ระหว่างวันที่ 11 - 12 ก.ย.นี้ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการประชุม ซึ่ง นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มรูปแบบได้ ต่อเมื่อนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ต้องถือว่ารัฐบาลชุดนี้มีการเตรียมตัวในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาด้วยความรวดเร็วมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเพิ่งมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) ก็สามารถที่จะแถลงนโยบายได้แล้ว

“รัฐบาลจะใช้โอกาสนี้อธิบายแนวทางการดำเนินงาน ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยต้องใช้โอกาสนี้อภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่พรรคเคยหาเสียงไว้หลายๆ เรื่อง ซึ่งพรรคได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ทั้งสิ้น 11 คน แม้ว่าสส.ของพรรคมีความประสงค์อภิปรายมากกว่านี้ แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาทำให้พรรคจัดผู้อภิปรายไว้ 11 คน เฉลี่ยคนละ 5 - 6 นาทีเท่านั้น”

‘ชัชชาติ’ นำทัพผู้บริหารกทม. เข้าพบ ‘อนุทิน’ เพื่อแสดงความยินดี พร้อมรับมอบนโยบายต่อ

(19 ก.ย.66) ที่กระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำคณะผู้บริหารกทม. เดินทางเข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสรับตำแหน่ง โดยนำพวงมาลัยดอกไม้ มาแสดงความยินดีกับนายอนุทิน ในโอกาสรับตำแหน่งรมว.มหาดไทย พร้อมรายงานการทำงานของ กทม.และรับมอบนโยบายการโดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารกระทรวง ร่วมหารือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการพบกันเป็นไปอย่างชื่นมื่น เป็นกันเอง โดยนายอนุทิน ได้ทักทายนายชัชชาติ พร้อมกล่าวหยอกล้อและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ว่า "เมื่อวานนายชัชชาติ เข้าพบกับนายกฯ เป็นแบบพี่น้องกัน แต่วันนี้มาพบแบบเป็นเพื่อนกัน เพราะเป็นเพื่อนเรียนกันมา จากนั้นทั้งคู่จะชนหมัด ก่อนที่นายชัชชาติ บอกว่าจับมือดีกว่า เดี๋ยวจะไปเหมือนกับนายกรัฐมนตรี จึงได้เปลี่ยนมาจับมือแสดงความยินดีแทน โดยนายอนุทิน ได้มอบพระพุทธรูปปางลีลา เป็นที่ระลึกให้แก่นายชัชชาติ

จากนั้น นายอนุทิน ได้แนะนำคณะทำงาน อาทิ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ที่ย้ายมารับตำแหน่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ทำให้นายชัชชาติ ระบุว่า ดีเลย จะได้ประสานทำงานกันอย่างเข้มข้น และที่ผ่านมากทม.ก็ประสานการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นอย่างดี จากนี้จะได้เดินหน้าทำงานต่อไป ทั้งนี้ใช้เวลาหารือ ประมาณ 30 นาที 

'มท.1' เชื่อมือ 'ชาดา' มอบดาบหัวเรือใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ 'ขจัดมาเฟีย-กำชับเข้มกฎหมาย' ดูแลปชช.อย่าให้ถูกรังแก

(25 ก.ย. 66) ที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เขตดุสิต กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ตรวจเยี่ยม และเป็นประธานมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ร่วมมอบนโยบาย พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเข้าร่วม มีการมอบนโยบายไปยังในพื้นที่ ได้แก่ ท้องถิ่นจังหวัดทั่วประเทศทั้ง 76 จังหวัด นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 7,849 แห่ง ร่วมรับฟัง

โดย นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่ง โดยเน้นย้ำถึงนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย 10 ด้าน และการปฏิบัติหน้าที่ของทีมกระทรวงมหาดไทย คือ ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที โดยเฉพาะนโยบายจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพล ที่ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลขึ้นมา มีตนเป็นประธาน และนายชาดา รมช.มหาดไทย เป็นรองประธาน แต่เรื่องนี้นายชาดา จะถือเป็นผู้นำในฝ่ายปฏิบัติการ หรือ COO (Chief Operation Ofiicer) ถือว่าใช้คนถูกกับงาน มีความเข้าใจ สามารถขอความร่วมมือให้สิ่งเหล่านี้ลดลงไปจากสังคมไทยได้ มั่นใจว่านายชาดา และผู้ร่วมมือทุกคน จะทำให้เรื่องนี้เบาบางลงไป ไม่ให้เป็นที่ตื่นตระหนก หรือทำความเครียด ความรุนแรงต่อประชาชน

นายอนุทิน กล่าวว่า ดังนั้น กรมส่งเสริมฯ มีหน้าที่ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ในพื้นที่ คอยติดตามตรวจสอบดูแลอย่าให้มีการข่มเหงรังแกประชาชน โดยเฉพาะการประมูลงานตามท้องถิ่น การเรียกทรัพย์สินหรือเรียกประโยชน์ต่างๆ เราได้เห็นมาแล้ว กรณีนายกอบต.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ตนก็ตกใจว่าทำไมถึงกล้าขนาดนี้ ระดับนายกอบต.รับเองเลย พอตำรวจมารีบเอาเงินวางกับพื้นแล้วบอกตัวเองไม่ได้ถือเงิน แต่ไม่รู้ว่าวงจรปิดเต็มไปหมด

"ตรงนี้เป็นปลายเหตุ แต่ต้นเหตุคือทำอย่างไรไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ต้องของคุณปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ที่ได้ดำเนินการฉับไว เร่งด่วน ต้องทำให้เห็นว่าเราไม่ประณีประนอมกับผู้ที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง รังแกประชาชน เพราะพวกนี้จะได้ใจ คนไม่ดี คนทำผิด คนไม่เคารพกฎหมาย คนที่ใช้อิทธิพลนอกกฎหมาย ต้องไม่มีวันชนะคนถือกฎหมาย เราต้องมั่นใจก่อนในอำนาจที่เราถือกฎหมายไปบังคับให้คนไม่ทำผิด เราแพ้ไม่ได้ ดังนั้น คนที่อยู่นอกกฎหมายจะชนะคนถือกฎหมายไม่ได้" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ตนเข้ามา 2 - 3 สัปดาห์ ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการกระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างดี ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องมาต้อนรับตน ตนไปไหนแบบสบายๆ เงียบๆ เพราะถ้าตนต้องการให้ดูแลตนจะแจ้ง ตนไม่มีไปแอบตรวจแล้วกลับมาหาเรื่อง ขอให้มั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดกับทีมของตน และทีม รมช.มหาดไทย ขอให้สบายใจได้

พิจิตร-อนุทิน มท.1 ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาบึงสีไฟพิจิตรเพื่อความพร้อมเตรียมการรับเสด็จ

ชาวจังหวัดพิจิตรสุดปลาบปลื้มปิติเร่งรัดพัฒนาบึงสีไฟเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีที่จะเสด็จเปิดสนามจักรยานสราญสุขมงคลจิต ซึ่งเป็นสนามจักรยาน BMX สนามจักรยานขาไถและสนามจักรยาน Pump Track และจะทรงปั่นจักรยานในพิธีเปิด 23 มีนาคม 2567 

วันที่ 20 มีนาคม 2567 ความคืบหน้าความพร้อมเพื่อเตรียมการรับเสด็จฯ ล่าสุดเมื่อวันวานที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะลงพื้นที่ จังหวัดพิจิตร เพื่อติดตามความพร้อมการเตรียมรับเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่จะเสด็จฯไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 ณ สนามจักรยานสราญจิตมงคลสุขบึงสีไฟจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นชื่อสนามนามพระราชทาน

โดยการลงพื้นที่ติดตามความพร้อม การสร้างสนามจักรยาน BMX และสนามจักรยานขาไถและสนามจักรยาน Pump Track ในครั้งนี้พบว่าการก่อสร้างหรือการเตรียมความพร้อมต่างๆ ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์เกือบครบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแค่เพียงการเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ให้สวยสมบูรณ์สมพระเกียรติเท่านั้นเองก็จะสมบูรณ์ครบถ้วนทุกอย่าง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้น้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นหลักในการส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่สู่การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของประชาชน 

สำหรับการพัฒนาบึงสีไฟที่ดำเนินการ โดย พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร ที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และส่วนราชการรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งของพิจิตรที่ประสานพลังความร่วมมือกันดำเนินการจนสามารถพัฒนาบึงสีไฟให้เป็นสวนสาธารณะและสนามจักรยานดังกล่าวนี้อีกด้วย

ในการพัฒนาบึงสีไฟที่จะทำให้สวยสดงดงามอีกหน่วยงานหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญให้เส้นทางจักรยานรอบบึงสีไฟระยะทาง 10.28 กม. คือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยในการนี้นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้บริหาร ซึ่งได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามงานการติดตั้งระบบแสงสว่างในฐานะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สังกัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างระยะทางจักรยานรอบบึงสีไฟ โดย PEA ดำเนินการปักเสาคอนกรีตอัดแรง ขนาด 8 เมตร จำนวน 609 ต้น และติดตั้ง Street Light LED 150 W จำนวน 609 ดวง ติดตั้งเสาโครงเหล็ก Solar Cell ขนาด 6 เมตร จำนวน 115 ต้น และเปลี่ยนโคม Solar Cell LED ขนาด 100 วัตต์ เป็น Street Light LED 150 W จำนวน 115 ดวง สามารถวัดค่าแสงสว่างได้ตามมาตรฐานการออกแบบการก่อสร้างทางจักรยานสำหรับประเทศไทย เพื่อให้ความสว่างแก่ประชาชนที่มาเยี่ยมชมความสวยงามของบึงสีไฟ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย ซึ่งบึงสีไฟเป็นบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศและเป็นแหล่งเศรษฐกิจ แหล่งรายได้จากการทำประมงและค้าขาย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

สิทธิพจน์/พิจิตร/


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top