Thursday, 22 May 2025
สุทินคลังแสง

‘สุทิน’ วอน!! เลิกด้อยคุณค่าการเป็น ‘ทหาร’ ให้ข้อมูลผิดๆ ทำเด็กสับสน จนไม่อยากเป็น

(1 เม.ย. 67) ที่กองพันทหารสื่อสารที่ 1 เขตสาทร กทม. นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2567 โดยมีทหารกองเกินที่สมัครรายงานตัววันนี้ 85 คน ผ่อนผัน 38 คน หลีกเลี่ยง 1 คน อายุครบเกณฑ์ 21 ปี มี 15 คน ส่วนคนที่อายุ 22-29 ปี มี 26 คน คนขาดของปีที่แล้ว 5 คน และมีคนแจ้งสมัครใจ 1 คน ยอดความต้องการ กองทัพบก 4 นาย / กองทัพเรือ 4 นาย

โดยเมื่อนายสุทิน มาถึงได้ร่วมเคารพธงชาติกับทหาร และผู้ที่มารับการตรวจเลือก ในเวลา 7.20 น. ซึ่งมีการอัดเสียงการเคารพธงชาติเหมือนในเวลา 8.00 น. มาเปิดช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

นายสุทิน กล่าวกับผู้เข้ารับการตรวจเลือกฯ ตอนหนึ่ง ว่า เป็นโอกาสสำคัญของลูกผู้ชายไทย เนื่องจากบางประเทศไม่ได้จับสลากเพื่อเข้ารับการตรวจเลือก หลายประเทศต้องเป็นทหารทันทีเมื่ออายุถึงเกณฑ์ เช่นเกาหลีใต้ และบางประเทศแม้แต่ผู้หญิงก็ต้องเป็นทหาร เช่นอิสราเอล ในขณะที่ของประเทศไทย ผู้ชายก็ไม่จำเป็นต้องเป็นทหารทั้งหมด โดยใช้วิธีจับสลากจำนวนเท่าที่จำเป็น ดังนั้นการเป็นชายไทย มีโอกาส มีเสรีภาพที่สูงมาก แต่ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง เพราะมีความจำเป็นที่ต้องรักษาความมั่นคง

ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าหลายคนที่มารับการคัดเลือกมีความวิตกกังวลในหลายเรื่อง เช่น กลัวจับใบดำใบแดงแล้วต้องเป็นทหาร ต้องเสียโอกาส ไม่ได้เรียนต่อ หรือต้องออกจากงาน หรือชีวิตจะลำบาก ไม่มีคนดูแลพ่อแม่ บางคนก็กลัวครูฝึกจะฝึกแบบโหด แบบนอกลู่นอกรอย จึงขอแจ้งกับทุกคนว่า ในปีนี้รัฐบาลชุดใหม่ และตนซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ จึงมีการปรับเปลี่ยนการคัดเลือกหลายอย่าง เพื่อไม่ให้ผู้ที่เข้ารับราชการเป็นทหาร ต้องเสียสิทธิ์ต่าง ๆ ไป ทั้งยังได้สิทธิ์เพิ่มขึ้น ใครเรียนอยู่แล้วจะได้เรียนต่อ โดยให้แจ้งความจำนงที่หน่วย เพราะกลาโหมได้เซ็น MOU กับกระทรวงศึกษาธิการไปแล้ว ซึ่งกระทรวงศึกษาฯ ยินดีจัดการศึกษาให้ถึงหน่วย และปรับเวลาให้เรียนหลังการฝึก ดังนั้นทุกวันนี้การศึกษาก็จะเรียนได้หลายระบบ และในทุกระดับ ยืนยันว่าไม่เสียสิทธิ์การเรียนแน่นอน นอกจากนี้ยังได้เรื่องของอาชีพ รวมถึงมีบริษัทเอกชนเปิดรับหลังจบเกณฑ์ทหาร 

นายสุทิน กล่าวอีกว่า ลูกผู้ชายต้องมีประสบการณ์ที่เบาบ้างเข้มบ้าง เบาอย่างเดียวก็จะอ่อนแอ ผู้ชายต้องเป็นมนุษย์หินบ้างในบางโอกาส เพราะฉะนั้นการฝึกทหารก็จะมีด่านที่ให้ทำให้แข็งแกร่ง เข้มแข็ง อดทน อึด บึก เพราะฉะนั้นระบบฝึกก็จะมีทั้งเข้มแข็ง เบาหนัก แต่ถ้านอกลู่นอกรอย บังคับขู่เข็ญทำร้าย มีน้อยมาก ส่วนที่เป็นข่าวคือมีคนจงใจ แต่ยอมรับบางส่วนอาจจะมีจริงบ้าง ซึ่งต่อไปนี้จะกวดขันอย่างเด็ดขาด กำชับไม่ให้มีการลงโทษนอกรูปแบบ แต่ให้เป็นไปตามระเบียบเท่านั้น ต่อไปจะมีศูนย์ออนไลน์ให้ร้องทุกข์ ใครถูกกลั่นแกล้ง ถูกลงโทษนอกระเบียบ ก็ให้ออนไลน์ร้องทุกข์ได้ ขอให้ไม่ต้องกังวล พร้อมยืนยันการตรวจเลือกโปร่งใสทุกขั้นตอน ใครเห็นกระบวนการที่ไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม ให้เรียกร้องได้ทันที

นายสุทิน กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ในโอกาสที่วันนี้เป็นวันแรก ของการตรวจเลือกทหารกองเกิน จึงถือโอกาสมาดูความเรียบร้อย เพื่อให้ความมั่นใจกับเยาวชนและผู้ปกครอง วันนี้ก็ได้เห็นกระบวนการตรวจเลือกซึ่งมีทั้งพยานบุคคล ระบบ ระเบียบ และขั้นตอนที่ชัดเจน จึงขอให้ทุกคนสบายใจได้ว่า กระบวนการตรวจเลือกทหารไว้ใจได้ เชื่อถือได้ ซึ่งหลายคนคงได้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนขึ้น และน่าจะมีผู้สมัครใจมากขึ้นด้วย ส่วนเรื่องที่ยังคงห่วงใย คือความรู้สึกของเด็กที่ยังสับสนอยู่ เพราะว่าในขณะที่ตนพยายามชี้แจง ทำความเข้าใจ ถึงคุณค่าของการเป็นทหาร ก็ยังมีอีกฝ่าย หรือหลายฝ่ายที่พยายามด้อยคุณค่าของการเป็นทหาร ซึ่งข้อมูลมีทั้งกระแสบวกและกระแสลบ อาจทำให้เด็กสับสน 

“ผมขอร้องและขอฝากไปยังกระบวนการที่ทำให้เด็กไขว้เขว หรือพยายามทำให้เด็กไม่สมัคร ไม่อยากเป็นทหาร ตนมองว่าเป็นความคิดที่ไม่มีประโยชน์ต่อประเทศ ถึงแม้จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์ในระยะยาว จึงอยากจะขอให้เบาลงหรือเลิกพฤติกรรมเหล่านี้” นายสุทิน กล่าว 

‘วิโรจน์’ ค้าน!! ‘สุทิน’ ปมจะซื้อข้าว 10 ปี ให้ทหารกิน ลั่น ‘ภูมิธรรม’ กินโชว์ช้อนสองช้อน ไม่การันตีคุณภาพ

(9 พ.ค.67) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กกรณีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ระบุว่าพร้อมซื้อข้าว 10 ปี ให้กำลังพลกินนั้น ว่า “จะซื้อข้าว 10 ปีให้ทหารกิน ต้องตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก่อน แค่กินโชว์ช้อน สองช้อนเชื่อไม่ได้

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่านายสุทิน รมว.กลาโหม ประกาศว่าพร้อมซื้อข้าว 10 ปี มาให้กำลังพล โดยให้สัมภาษณ์ว่าการชิมของคุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ถือเป็นการรับรองคุณภาพระดับหนึ่ง

ผมถือว่าเป็นวิธีคิดที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะการชิมเป็นพิธีช้อนสองช้อนของคุณภูมิธรรม ไม่สามารถการันตีคุณภาพ และความปลอดภัยของข้าวได้

หากจะมีการจัดซื้อจริง ต้องมีการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ในจำนวนสุ่มที่มากพอ ที่จะสามารถการันตี ความปลอดภัยของกำลังพลได้

โดยอย่างน้อย ต้องมีการตรวจสอบยืนยัน ในรายการดังต่อไปนี้ 1.ต้องไม่มีสารรมควันข้าวตกค้าง ไม่ว่าจะเป็นสารเมทิลโบรไมด์ (methyl bromide) หรืออะลูมิเนียมฟอสไฟด์ (aluminium phosphide) หรือ ฟอสฟีน ตกค้างอยู่ในเมล็ดข้าวสาร

2.ต้องไม่มีสารก่อมะเร็งที่เรียกว่า ‘อะฟลาท็อกซิน’ เจือปนในเมล็ดข้าวสาร และ 3.ต้องมีการยืนยันจากห้องปฏิบัติการว่า การล้างน้ำ หรือซาวข้าว จะสามารถชะล้างสารรมควันต่าง ๆ ให้หมดไปได้ เนื่องจากมีนักวิชาการจำนวนหนึ่งท้วงติงว่า สารเคมีหลายตัวหากสะสมอยู่ในข้าวสารเป็นระยะเวลานาน ต่อให้ล้าง 20 ครั้ง ก็ล้างไม่ออก

ผมต้องย้ำตรงนี้ว่า การชิมโชว์ไม่สามารถการันตีอะไรได้ ต่อให้นายสุทินออกมาชิมโชว์ด้วยตัวเอง ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะนายสุทินไม่ได้กินข้าว 10 ปี ทุกมื้อ ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจจัดซื้อให้ทหารกิน ต้องตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น และต้องมีปริมาณการตรวจที่มากพอด้วย ไม่ใช่สุ่มจิ๊บ ๆ มาตรวจพอเป็นพิธี

“อย่าให้ทหารต้องถอนหายใจ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวังแบบตลกร้ายว่า “เป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด” เลยครับ” นายวิโรจน์ ระบุ

ขอนแก่น - 'บิ๊กทิน' ร่วมเปิบข้าวเหนียว ลาบหมู เมนูมื้อเที่ยง ให้กำลังใจ ทหารใหม่ค่าย ร.8

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาในวันนี้ เพื่อรับฟังปัญหาแนวทางปฏิบัติในการช่วยเหลือประชาและเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการฝึกทหารใหม่ โดยได้เน้นย้ำถึงการดูแลน้องทหารใหม่เสมือนคนในครอบครัว 

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น รายงานว่า ที่กรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชไชย ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยกรมทหารราบที่ 8 เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในพื้นที่และตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการฝึกทหารใหม่ โดยมี พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 , พลโท ณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก, พล.ต.นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 , นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, พล.ต. กิตติพงษ์ เนื่องชมภู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23, พ.อ. สุพรเทพ ไชยยงค์ รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8 เป็นผู้แทน ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8, พ.ท.ยุทธพล บิดร ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3. กรมทหารราบที่ 8, ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 8 พร้อมด้วยส่วนราชการในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ 

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าในการเดินทางมาในวันนี้ เพื่อรับฟังปัญหาแนวทางปฏิบัติในการช่วยเหลือประชาและเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการฝึกทหารใหม่ โดยได้เน้นย้ำถึงการดูแลน้องทหารใหม่เสมือนคนในครอบครัว เพราะเขาคือน้องเล็กของกองทัพบก ซึ่งปัจจุบันการฝึกทหารใหม่เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จึงมาดูความคืบหน้าในเรื่องกระบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สิ่งแรกคือได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพลทหาร ซึ่งมีการฝึกเพียง 2 สัปดาห์กว่า

นายสุทิน กล่าวอีกว่าแต่ก็สามารถเปลี่ยนจากพลเรือนเป็นทหารได้รวดเร็ว ทั้งเรื่องวินัยและความพร้อมทาง ถือเป็นความภูมิใจที่ได้เห็นทหารเกณฑ์เหล่านี้เปลี่ยนจากพลเรือนมาเป็นทหารอย่างที่กองทัพต้องการได้ อีกทั้งครูฝึกมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเห็นกระบวนการฝึกที่จัดไว้ให้พลทหารอย่างดี พร้อมเน้นย้ำเรื่องการฝึกทหารใหม่ ให้ดูแลช่วยเหลือ สร้างขวัญกำลังใจ รวมทั้งคุณวุฒิทางด้านการศึกษาให้มีการศึกษาที่เพิ่มขึ้น พัฒนาทักษะวิชาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างอนาคตที่ดี สร้างเยาวชนที่เข้มแข็ง มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หันหลังให้กับยาเสพติด

ต่อจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เยี่ยมชมโรงเลี้ยงร่วมรับประทานอาหารกับทหารใหม่ในภาชนะถาดหลุม ซึ่งเป็นอาหารอีสาน ได้แก่ ข้าวเหนียว ลาบหมู ผัดผัก และเมนูของหวาน คือ ทับทิมกรอบ โดยก่อนรับประทานอาหาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สอบถามทหารใหม่ถึงอาหารมื้อนี้เหมือนกับมื้ออื่นๆ หรือไม่ พร้อมกล่าวอีกว่า ทหารอีสานต้องทานข้าวเหนียวด้วย เพื่อให้อยู่ท้อง บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และอบอุ่นเป็นกันเอง

'นายกฯ' ลั่น!! ไม่สมควร หักค่าดูดส้วมทหารเกณฑ์ เชื่อ!! 'รมว.กลาโหม' รู้หน้าที่ว่าควรทำยังไงต่อไป

(13 มิ.ย.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีการเผยแพร่เอกสารการหักค่าใช้จ่ายทหารเกณฑ์ใหม่ สังกัดกองพันทหารเกณฑ์เสนารักษ์ที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ที่มีการระบุค่าดูดส้วม จำนวน 500 บาท โดยนายกฯ ได้เห็นข่าวนี้เเล้วใช่หรือไม่ ว่า เมื่อสักครู่เห็นนิดหนึ่งจากทวิตเตอร์เอ็กซ์ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ตนเข้าใจว่านายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ก็คงจะมีการตรวจสอบ เพราะเรื่องนี้ไม่สมควรจะเกิดขึ้น และยอมรับไม่ได้

เมื่อถามว่า เงินของทหารเกณฑ์มีประเด็นที่ถูกหักออกไปเยอะ นายกฯ จะกำชับอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเขารู้หน้าที่อยู่แล้วว่าอะไรควร หรือไม่ควร

‘ป.ป.ช.’ เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ‘สุทิน - โรม’ ส่อขัดประมวลจริยธรรม ปมแถลงข่าวเท็จให้ร้าย ‘ลุงตู่’

เมื่อวันที่ (26 ก.พ. 68) มีรายงานข่าวว่า ในเร็วๆ นี้สำนักงาน "ป.ป.ช." กำลังจะแจ้ง ข้อกล่าวหากับนักการเมืองหลายคนที่ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ที่นำมาบังคับใช้กับฝ่ายการเมืองด้วยคือ ครม./สส./สว./ข้าราชการการเมืองนั้น    

โดยเป็นประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับการอภิปราย/การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน/การเคลื่อนไหวที่ฝ่าฝืนหมวด 2 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลักในข้อ15ที่ระบุว่า ให้ข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริงแก่ประชาชนหรือสื่อมวลชนอันอยู่ในความรับผิดชอบ ของตน ถูกต้องครบถ้วนและไม่บิดเบือนและข้อ17ที่ระบุว่า ไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ ง โดยตอนนี้นักการเมืองคนสำคัญหลายคนกำลังถูกตั้งข้อกล่าวหานั้น จะชี้แจงข้อกล่าวหาต่อสำนักงานป.ป.ช.อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทราบว่า "นายสุทิน  คลังแสง" สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคเพื่อไทย  เป็นหนึ่งในสส.ที่สำนักงานป.ป.ช.กำลังจะชี้มูลความผิด  โดยระบุพฤติการณ์ของ "นายสุทิน" ว่า  วันที่ 8 กันยายน 2564 "นายสุทิน" ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ามีการแจกเงินให้สส.คนละห้าล้านบาทที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี(พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ชั้นสาม อาคารรัฐสภาเพื่อให้สส.ลงคะแนนให้นายกรัฐมนตรีในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายสุทินมาชี้แจงกับสำนักงานป.ป.ช.แล้วแต่ไม่มีหลักฐานในประเด็นที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาแสดงกับสำนักงาน "ป.ป.ช." ซึ่ง "นายสุทิน" เข้าข่ายการละเมิดหมวด 2 ของมาตรฐานทางจริยธรรมฯ

และยังพบว่า "นายรังสิมันต์ โรม" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนนั้น สำนักงาน "ป.ป.ช."ดำเนินการตรวจสอบ/กลั่นกรองและไต่สวนข้อกล่าวหาของนายรังสิมันต์จำนวน 6 สำนวนคือ  1. การสนับสนุนพรรคก้าวไกลรับข้อเสนอจากกลุ่ม ILaw ที่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดหนึ่งและหมวดสอง/สนับสนุนพรรคก้าวไกลให้มีมติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112/เข้าร่วมชุมนุมขับไล่ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" โดยเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์/แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยตั้งสสร./โพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะเสียดสีดูหมิ่น "พลเอกประยุทธ์"

2.วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 "นายรังสิมันต์" ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ "พลเอกประยุทธ์" โดยนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จคือแอบอ้างสถาบันเป็นเครื่องมือเพื่อไม่ให้มีการตรวจสอบเรื่องมัวหมองในอดีตของตนเองและเป็นนักบินเถื่อน ขาดคุณสมบัติการเป็นนักบินถวายการเดินทาง/ก่อหนี้เกินงบประมาณการซ่อมบำรุงอากาศยานของสตช. ทำให้นายกฯต้องขออนุมัติงบกลาง 937 ล้านบาทชำระหนี้ให้การบินไทย/ร่วมกันฮั้วประมูลกับเอกชนในการจำหน่ายอะไหล่ให้อากาศยานของสตช.และขายอะไหล่ที่ใช้ไม่ได้ให้เอกชนนำไปใช้งานต่อ

3. ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตฐานจริยธรรมอย่างรุนแรง โดยนำเสนอข้อมูลของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อสาธารณะในลักษณะอันอาจเป็นการบิดเบือนใส่ร้ายสถาบันและทำให้ประชาชนเกลียดชังสถาบันฯและต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

4.จงใจใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ / ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมฯกรณีจัดทำหนังสือและแถลงข่าวว่าจะเชิญประธานศาลฎีกามาชี้แจงกรณีไม่ให้ประกันตัวแกนนำม็อบกลุ่มราษฎรโดยประธานศาลฎีกาอ้างว่าบุคคลภายนอกขอมาในกมธ. การกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎรและจะนำวาระเข้าที่ประชุมกมธ.ดังกล่าวเมื่อวันที่7เมย.2564ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่สามารถกระทำได้เพราะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา129วรรคสี่และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมฯว่าด้วยข้อบังคับประมวลจริยธรรมของสส.และกมธ. พ.ศ.2563

5.เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 เพื่อเป็นการทำลายสถาบันฯและล้มล้างการปกครอง และ 6. จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ/ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมฯกรณีร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ซึ่งการดำเนินการนี้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา6

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ผ่านมา สส.พรรคก้าวไกล 44 คนถูกยื่นฟ้องต่อสำนักงานป.ป.ช.กรณีเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112  และตอนนี้สส.พรรคก้าวไกลที่โดนยุบพรรคได้ย้ายมาสังกัดพรรคประชาชน 25 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ"นายรังสิมันต์"ซึ่งทราบว่าสส.เหล่านี้กำลังไปรับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง คดีฝ่าฝืนจริยธรรม จากการร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดำเนินการดังกล่าวของสำนักงานป.ป.ช.ในกรณีของ "นายสุทิน" และ "นายรังสิมันต์" รวมทั้งสมาชิกรัฐสภารายอื่นๆนั้น สำนักงานป.ป.ช.ดำเนินการมาหลายปีแล้วก่อนที่คณะกรรมการป.ป.ช.เจ็ดคน จะมีการลงมติเลือก "นายสุชาติ  ตระกูลเกษมสุข"เป็นประธานป.ป.ช.ซึ่งตอนนี้"พรรคประชาชน"ล่ารายชื่อสส.และสว.ราว 140 คน โดยอาศัยรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 เพื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาให้ถอดถอน "นายสุชาติ" ออกจากตำแหน่ง

อีกทั้งกรณีนี้ มีการตั้งสังเกตว่า การออกมาให้ข่าวว่าจะยื่นถอดถอน"นายสุชาติ"ของสส.พรรคประชาชนและ "พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล"นั้นน่าจะ เป็นการกดดัน สำนักงาน "ป.ป.ช."ในฐานะผู้ไต่สวนคดี ของ "นายรังสิมันต์" และอดีต สส.พรรคก้าวไกล  44 คน รวมทั้ง "พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์" หรือไม่ 

เนื่องจาก หากพิจารณาจาก ช่วงเวลา ที่มีการตั้งไต่สวนของ "ป.ป.ช." เป็นห้วงเวลาเดียวกับที่นายสุชาติ กำกับดูแล สำนักไต่สวนการทุจริตภาคการเมืองเเละผู้ร้องเรียน "ประธานป.ป.ช." มีฐานะเป็นผู้ถูกไต่สวนทั้งสิ้น เเละการดำเนินการอัดคลิประหว่าง"นายสุชาติ"กับ "นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา"ประธานรัฐสภานั้น"นายวันมูหะมัดนอร์" ชี้เเจงเเล้วว่า"พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์" กระทำเเบบไม่ใช่ลูกผู้ชายเเละสังคมน่าจะอ่านเจตนาของ "พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์"ได้ว่าหวังผลอะไร และพบว่า"นายสุชาติ"เป็นผู้ดำเนินการไต่สวนเเละวินิจฉัยคดีในสำนักงาน "ป.ป.ช."ที่ยึดหลักนิติธรรมอย่างรอบคอบ ในการตัดสิน/ประวัติโปร่งใส จนบางฝ่ายอาจเสียประโยชน์จากการทำงานของ "นายสุชาติ" จนต้องมีการดำเนินการถอดถอน"นายสุชาติ"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top