‘ก้าวไกล' ลั่น! ลุยต่อ ‘สมรสเท่าเทียม’ ผิดหวังคำวินิจฉัย ‘ศาลรธน.’ ทำถึงทางตัน
ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์, ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ สส.พรรคก้าวไกล ธัญวาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล
ร่วมแถลงข่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการสมรส มาตรา 1448 ที่กำหนดว่าการสมรสนั้นต้องเกิดขึ้นระหว่างเพศชายและเพศหญิงเท่านั้น ว่าไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ จากกรณีที่การยื่น พวงเพชร เหงคำ และเพิ่มทรัพย์ แซ่อึ๊ง คู่รักเพศเดียวกัน ที่ถูกปฏิเสธการจดทะเบียนสมรสด้วยเหตุแห่งเพศ จากเจ้าหน้าที่ และได้รับแจ้งว่าไม่เป็นไปตามบทบัญญัติกฎหมายประมวลแพ่งพาณิชย์
ณัฐวุฒิ ระบุว่าผลการลงมติของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ เป็นการตอกย้ำทางตันของประเทศอีกครั้ง และจากมติดังกล่าวมีนัย 3 ประการ
1.) การอธิบายในมาตรา 4 และมาตรา 5 ที่พูดถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อย่างจำเพาะเจาะจง ถ้าเกิดว่าไม่ได้ถูกเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ อาจจะไม่ได้รับการคุ้มครอง
2.) การบอกว่า บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 27 นั้นเขียนหลักการที่รองรับระหว่างเพศก็จริงอยู่ แต่มีอยู่วรรคหนึ่งที่บอกว่า ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน และวันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ศาลไม่เห็นว่าเพศไม่ได้ไปไกลกว่าคำว่าชายหรือหญิง จึงเป็นเหตุมาสู่การตีความว่าบทบัญญัตินั้นไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
3.) ความตอนท้ายของคำวินิจฉัย กรณีของการจะคุ้มครองสิทธิและหน้าที่ของผู้มีความหลากหลายทางเพศนั้น คณะรัฐมนตรี รัฐสภา ต้องไปตรากฎหมายออกบทบัญญัติแห่งกฎหมายต่อ
ขณะนี้สังคมกำลังตั้งคำถามว่า ศาลรัฐธรรมนูญกำลังปิดทางไม่ให้มีการแก้ไขเสนอกฎหมายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการสมรส มาตรา 1448 หรือกำลังปิดทางไม่ให้ภาคประชาชนเสนอกฎหมายหรือไม่ ซึ่งผมคงไม่อาจตอบแทนศาลได้ว่า เจตนาในการเขียนวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเช่นไร แต่พรรคก้าวไกล ขอยืนยันเดินหน้าผลักดันการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการสมรส มาตรา 1448 และมาตราที่เกี่ยวข้อง 69 มาตราที่ยื่นไว้ก่อนหน้านี้ และเชื่อว่าอำนาจในการออกกฎหมายเป็นของรัฐสภา อำนาจการออกกฎหมายที่คุ้มของสิทธิของพี่น้องประชาชน เป็นของประชาชน พวกเขามีสิทธิในการออกแบบครอบครัวของตนเอง
