Monday, 12 May 2025
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์

ต่างสายพันธ์ติดซ้ำได้!! ศูนย์จีโนมฯ เผยเคยติดเชื้อโอมิครอน BA.1 ติด BA.2 ซ้ำได้ แม้เชื้อเหมือนกันแต่ไม่ทั้งหมด - พบได้น้อยแค่ 1 ในร้อย 

เพจศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล เปิดเผยถึงโอกาสที่จะติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.2” ซ้ำหลังจากเคยติดเชื้อ “BA.1” ว่าเกิดขึ้นได้ แต่พบไม่บ่อย เพียงร้อยละ 1 โดยไม่พบอาการรุนแรงในผู้ติดเชื้อซ้ำ ที่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวใน รพ. หรือเสียชีวิต ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้มีการติดเชื้อซ้ำได้ เนื่องจาก BA.1 และ BA.2 ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว หากเปรียบเทียบกับคนเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายคือ BA.1 และ B A.2 เหมือนเด็กแฝด มีความเหมือนกันในระดับพี่น้องจากพ่อแม่คนเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด บริเวณหนามบางส่วนจะมีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนกัน BA.1 บริเวณหนามกลายพันธุ์ต่างไปจาก BA.2 จำนวน 7 ตำแหน่ง BA.2 บริเวณหนามกลายพันธุ์ต่างไปจาก BA.1 จำนวน 5 ตำแหน่ง ทำให้ภูมิคุ้มกันแอนติบอดีที่ได้จากการติดเชื้อ BA.1 ไม่อาจปกป้องการติดเชื้อจาก BA.2 ได้ 100%

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การติดเชื้อโควิดต่างสายพันธุ์ สามารถติดเชื้อได้ เช่น หายจากสายพันธุ์เดลตา ก็ติดสายพันธุ์โอมิครอนซ้ำได้ ส่วนกรณีสายพันธุ์โอมิครอนเหมือนกัน แต่เป็นคนละสายพันธุ์ย่อย เช่น BA.1 กับ BA.2 ยังเป็นเรื่องใหม่ ต้องติดตามรายละเอียดข้อเท็จจริงอีกครั้ง ตามหลักแล้วก็มีโอกาส แต่จะ 1 ในแสน หรือ 1 ในล้าน ต้องดูข้อมูลประกอบ รวมถึงดูระยะเวลาด้วย เนื่องจากเมื่อติดเชื้อแล้วจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อ ส่วนใหญ่จะไม่ติดซ้ำในระยะเวลาสั้นๆ ยกเว้นคนที่มีปัญหาเรื่องการสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย

จับตา ‘โรคลึกลับอุบัติใหม่’ ระบาดใน “บุรุนดี” อาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ดับแล้ว 3 ราย

จับตา ‘โรคลึกลับอุบัติใหม่’ ใน ‘สาธารณรัฐบุรุนดี’ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย อาการเด่นผนังหลอดเลือดถูกทำลายมีเลือดกำเดาไหล

(30 มี.ค. 66) เฟซบุ๊ก ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี เปิดเผยรายงานข่าว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วแอฟริกากลางเตรียมความพร้อมสูงสุดเนื่องจากมีรายงานพบผู้เสียชีวิตหลายรายที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อไข้เลือดออกลึกลับใน “สาธารณรัฐบุรุนดี” โดยก่อนหน้านี้พบการระบาดของไวรัสมาร์บวร์กในอิเควทอเรียลกินีและแทนซาเนียและเนื่องจากบุรุนดีมีพรมแดนติดกับแทนซาเนีย ซึ่งมีการยืนยันการระบาดของไวรัสมาร์บวร์กไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดเดาว่าโรคติดเชื้อไข้เลือดออกลึกลับในบุรุนดีอาจมีสาเหตุมาจากการระบาดของไวรัสมาร์บวร์ก แต่สาธารณสุขของบุรุนดีออกมายืนยันว่าผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบทั้งไวรัสมาร์บวร์กและอีโบลาในสารคัดหลั่งจากผู้เสียชีวิต

ประเทศบุรุนดีซึ่งอยู่ทางด้านแอฟริกาตะวันตกได้พบการระบาดของ "โรคติดเชื้อลึกลับที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตแล้ว 3 รายภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดมาจากชุมชนเดียวกัน ซึ่งตั้งแต่ปรากฏอาการและเสียชีวิตรวดเร็วกว่าไวรัสอีโบลาและมาร์บวร์กที่ผู้ติดเชื้ออาจเสียชีวิตได้ช่วง 2 วัน - 3 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยติดเชื้อโรคลึกลับจะมีอาการไข้นำ ตามมาด้วยการปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, อาเจียน อุจจาระเป็นเลือด และ มีเลือดกำเดาไหล (nosebleed disease)

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบุรุนดีและองค์การอนามัยโลกพยายามเข้าควบคุมโรคที่คาดว่าเกิดจากไวรัสในพื้นที่จังหวัด Baziro โดยยังไม่สามารถระบุชนิดของไวรัสหรือจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุได้ มีการกักตัวผู้ที่ได้อยู่ใกล้ชิดสัมผัสกับผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบคน

รัฐบาลและสาธารณสุขบุรุนดีขอความร่วมมือจากประชาชนให้ป้องกันตนเองด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยครั้งและหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ป่า หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อหรือผู้เสียชีวิตจากโรคลึกลับ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค

ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว แพทย์ถูกส่งไปยังบุรุนดีเพื่อสอบสวนโรค "เลือดกำเดาไหล" ลึกลับทางตอนใต้ของแทนซาเนีย ซึ่งคร่าชีวิตคนสามคน และต่อมาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 พบผู้ติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก 8 รายใน “แทนซาเนีย” และเสียชีวิต 5 ราย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top