จับตา ‘โรคลึกลับอุบัติใหม่’ ระบาดใน “บุรุนดี” อาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ดับแล้ว 3 ราย

จับตา ‘โรคลึกลับอุบัติใหม่’ ใน ‘สาธารณรัฐบุรุนดี’ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย อาการเด่นผนังหลอดเลือดถูกทำลายมีเลือดกำเดาไหล

(30 มี.ค. 66) เฟซบุ๊ก ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี เปิดเผยรายงานข่าว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วแอฟริกากลางเตรียมความพร้อมสูงสุดเนื่องจากมีรายงานพบผู้เสียชีวิตหลายรายที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อไข้เลือดออกลึกลับใน “สาธารณรัฐบุรุนดี” โดยก่อนหน้านี้พบการระบาดของไวรัสมาร์บวร์กในอิเควทอเรียลกินีและแทนซาเนียและเนื่องจากบุรุนดีมีพรมแดนติดกับแทนซาเนีย ซึ่งมีการยืนยันการระบาดของไวรัสมาร์บวร์กไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดเดาว่าโรคติดเชื้อไข้เลือดออกลึกลับในบุรุนดีอาจมีสาเหตุมาจากการระบาดของไวรัสมาร์บวร์ก แต่สาธารณสุขของบุรุนดีออกมายืนยันว่าผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบทั้งไวรัสมาร์บวร์กและอีโบลาในสารคัดหลั่งจากผู้เสียชีวิต

ประเทศบุรุนดีซึ่งอยู่ทางด้านแอฟริกาตะวันตกได้พบการระบาดของ "โรคติดเชื้อลึกลับที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตแล้ว 3 รายภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดมาจากชุมชนเดียวกัน ซึ่งตั้งแต่ปรากฏอาการและเสียชีวิตรวดเร็วกว่าไวรัสอีโบลาและมาร์บวร์กที่ผู้ติดเชื้ออาจเสียชีวิตได้ช่วง 2 วัน - 3 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยติดเชื้อโรคลึกลับจะมีอาการไข้นำ ตามมาด้วยการปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, อาเจียน อุจจาระเป็นเลือด และ มีเลือดกำเดาไหล (nosebleed disease)

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบุรุนดีและองค์การอนามัยโลกพยายามเข้าควบคุมโรคที่คาดว่าเกิดจากไวรัสในพื้นที่จังหวัด Baziro โดยยังไม่สามารถระบุชนิดของไวรัสหรือจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุได้ มีการกักตัวผู้ที่ได้อยู่ใกล้ชิดสัมผัสกับผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบคน

รัฐบาลและสาธารณสุขบุรุนดีขอความร่วมมือจากประชาชนให้ป้องกันตนเองด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยครั้งและหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ป่า หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อหรือผู้เสียชีวิตจากโรคลึกลับ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค

ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว แพทย์ถูกส่งไปยังบุรุนดีเพื่อสอบสวนโรค "เลือดกำเดาไหล" ลึกลับทางตอนใต้ของแทนซาเนีย ซึ่งคร่าชีวิตคนสามคน และต่อมาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 พบผู้ติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก 8 รายใน “แทนซาเนีย” และเสียชีวิต 5 ราย

แม้อาการของโรคลึกลับในบุรุนดีจะคล้ายกับการติดเชื้อไวรัสอีโบลาและไวรัสมาร์บวร์กที่มีอันตรายสูง แต่กระทรวงสาธารณสุขของบุรุนดีได้แถลงยืนยันต่อมาว่าจากการตรวจวินิจฉัยตัวอย่างส่งตรวจจากผู้เสียชีวิตจากโรคลึกลับกลับไม่พบทั้งไวรัสอีโบลาและไวรัสมาร์บวร์ก ทางการจึงเร่งดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกว่าเป็นการติดเชื้อจากไวรัสหรือจุลชีพประเภทใดที่ทำให้เกิดไข้เลือดออกในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการป้องกันและรักษาได้ตรงจุด และโรคลึกลับดังกล่าวมีความสุ่มเสี่ยงที่จะระบาดในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ หรือระดับโลกหรือไม่

ศูนย์จีโนมฯ รพ.รามาธิบดีเตรียมความพร้อมในการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสหรือจุลชีพที่อาจก่อโรคอุบัติใหม่หรืออุบัติซ้ำภายใน 24-48 ชั่วโมง


ที่มา : Center for Medical Genomics