Saturday, 25 May 2024
บุรีรัมย์

‘นทท.ไทย-เทศ’ แห่ร่วม ‘งานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง’ ชมขบวนนางรำสักการะสุดยิ่งใหญ่ คาด เงินสะพัดหลายล้าน!!

นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนมาก เดินทางมาเที่ยว ‘งานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง’ อย่างคึกคัก ชมขบวนแห่เทพพาหนะทั้ง 10 ขบวนแห่พระนางภูปตินทรลักษมีเทวี แสดงโดย ‘บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์’ มิสอินเตอร์ เนชั่นแนล 2019-2021 พร้อมชมขบวนแห่สักการะ ‘น้อมจิตบังคม พนมรุ้งนาฏการ’ นางรำจากทุกอำเภอ ร่วมพันคน รำถวายสักการะ ตลอดงาน คาดจะมีเงินสะพัดหลายล้านบาท
.
(2 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 เม.ย. 2566 ที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง ประจำปี 2566 ที่ทางจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมศิลปากร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดขึ้น อย่างยิ่งใหญ่ ในระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณี และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางอารยธรรมขอมโบราณ ที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัด และยังเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกีฬามาตรฐานโลก โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มารอชมขบวนแห่กันเป็นจำนวนมาก

ภายในงานได้มี ขบวนแห่พาหนะเทพ ผู้พิทักษ์ทิศทั้ง 10  และขบวนเสด็จของพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี แสดงโดย ‘บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์’ มิสอินเตอร์ เนชั่นแนล 2019-2021 และนางจริยา นำเครื่องบวงสรวงประกอบด้วย เทพพาหนะทั้ง 10 นางสนมกำนัล เหล่าทหาร ข้าทาสบริวาร ดำเนินผ่านเสานางเรียงประดับด้วยธงทิวยิ่งใหญ่อลังการ ขึ้นไปบนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

จากนั้น เป็นการแสดงแสงแห่งศรัทธาปราสาทพนมรุ้ง และขบวนแห่สักการะ ‘น้อมจิตบังคม พนมรุ้งนาฏการ’ การรำถวายสักการะใต้ร่มพนมรุ้ง จากนางรำ ทั้ง 23 อำเภอ ร่วม 1,000 คน แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองประจำถิ่นของแต่ละอำเภอ มาฟ้อนรำถวายอย่างงดงามอลังการ ซึ่งได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มารอชมขบวนแห่กันเป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้น ยังได้จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าโอท็อป ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม ผ้าฝ้ายที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทั้งผ้าซิ่นตีนแดง ผ้าหางกระรอกคู่ตีนแดง ผ้าภูอัคนี (ผ้าฝ้ายย้อมดินภูเขาไฟ) รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร เครื่องใช้ และของที่ระลึกอื่น ๆ อีกมากมาย

‘โรม’ ลั่น!! ทุกพื้นที่ในไทย ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ชี้!! อำนาจเลือกผู้แทนเข้าสภาฯ อยู่ในมือ ปชช.

(21 เม.ย.66) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางไปที่จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมลงพื้นที่หาเสียงกับผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคก้าวไกล ได้แก่ ต่อพงษ์ จีนใจน้ำ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 10 (เบอร์ 6) และ ภูวดล ศรีหามาตย์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 6 (เบอร์ 5)

โดยช่วงเช้า จัดกิจกรรมขึ้นแห่ปราศรัยที่ อ.ประโคนชัย มีพี่น้องประชาชนโบกมือทักทายตลอดทาง รวมถึงผู้ที่สัญจรไปมาก็พร้อมใจกันยกมือทักทายขอฝากความหวังในการเปลี่ยนแปลงไว้กับพรรคก้าวไกล 

จากนั้นเดินทางไปวนอุทยานเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พูดคุยกับประชาชนที่มาท่องเที่ยวและเดินดูพื้นที่จากกรณีพิพาทเขากระโดง โดยรังสิมันต์ฝากให้หน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มงวดและตรงไปตรงมา

รังสิมันต์ยังกล่าวถึงกรณีศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ระบุบนเวทีดีเบตว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลจะไม่มี ส.ส.บุรีรัมย์ แม้แต่คนเดียว ว่าที่ผ่านมามีนักการเมืองหลายคนมักเข้าใจผิดว่าพื้นที่ต่างๆ จังหวัดต่างๆ มีเจ้าของแล้ว แต่พวกเราพรรคก้าวไกลยึดมั่นในความเชื่อว่าประชาชนคือผู้มีอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ ดังนั้น พรรคก้าวไกลจะมี ส.ส.บุรีรัมย์หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับศุภชัย แต่ขึ้นอยู่กับประชาชน ที่จะกำหนดว่าผู้สมัครคนใดจะได้รับความไว้วางใจผ่านการเลือกตั้ง ศุภชัยจึงไม่อยู่ในจุดที่จะมาคิดแทนประชาชนได้

“กระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงมาถึงบุรีรัมย์แล้ว ผมเชื่อว่าผลงานการสอยรัฐมนตรีคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน ทำให้ประชาชนเห็นแล้วว่าการเมืองแบบที่ผ่านมาเป็นอย่างไร การเลือกตั้งครั้งนี้ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคก้าวไกลหมายมั่นปั้นมือที่จะเอาชนะให้ได้ ซึ่งจากผลตอบรับของการลงพื้นที่วันนี้ ผมเชื่อว่าพี่น้องชาวบุรีรัมย์พร้อมที่จะเลือกพรรคก้าวไกลทั้งสองใบ ให้ก้าวไกลเข้าสภาฯ ให้พิธาเป็นนายกฯ รัฐบาลก้าวไกลจะเปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” รังสิมันต์กล่าว

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. บุรีรัมย์ ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 10 เขตของจังหวัดบุรีรัมย์ ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>>เขต 1 อ.เมืองบุรีรัมย์ (เฉพาะต.ในเมือง ต.บ้านบัว ต.พระครู ต.ถลุงเหล็ก ต.หนองตาด ต.บ้านยาง ต.บัวทอง ต.ชุมเห็ด ต.กลันทา ต.กระสัง ต.สะแกโพรง และต.ลุมปุ๊ก) อ.บ้านด่าน (เฉพาะต.ปราสาท และต.บ้านด่าน)
>>เขต 2 อ.เมืองบุรีรัมย์ ( เฉพาะต.หลักเขต ต.สวายจีก ต.เสม็ด ต.สองห้อง ต.สะแกซำ ต.เมืองฝาง และต.อิสาณ) อ.พลับพลาชัย (เฉพาะต.สําโรง ต.สะเดา และต.จันดุม)
อ.ชํานิ อ.ประโคนชัย (เฉพาะต.ไพศาล)
>>เขต 3 อ.กระสัง อ.ห้วยราช อ.พลับพลาชัย (เฉพาะต.โคกขมิ้น และต.ป่าชัน)
>>เขต 4 อ.สตึก อ.แคนดง อ.บ้านด่าน (เฉพาะต.โนนขวาง และต.วังเหนือ)
>>เขต 5 อ.นาโพธิ์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อ.พุทไธสง อ.คูเมือง (ยกเว้นต.พรสําราญ)
>>เขต 6 อ.ลําปลายมาศ อ.คูเมือง (เฉพาะต.พรสําราญ) อ.หนองหงส์ (เฉพาะต.ไทยสามัคคี ต.สระทอง และต.เสาเดียว)
>>เขต 7 อ.ปะคำ (เฉพาะต.ไทยเจริญ ต.หนองบัว และต.โคกมะม่วง) อ.โนนสุวรรณ อ.หนองกี่ อ.หนองหงส์ (เฉพาะต.หนองชัยศรี ต.ห้วยหิน ต.เมืองฝ้าย และต.สระแก้ว)
>>เขต 8 อ.นางรอง อ.เฉลิมพระเกียรติ (เฉพาะต.เจริญสุข และต.ถาวร) อ.ปะคำ (เฉพาะต.ปะคำ และต.หูทำนบ) อ.โนนดินแดง (เฉพาะต.โนนดินแดง)
>>เขต 9 อ.โนนดินแดง (ยกเว้นต.โนนดินแดง) อ.ละหานทราย อ.บ้านกรวด (เฉพาะต.บ้านกรวด ต.ปราสาท ต.บึงเจริญ ต.จันทบเพชร และต.หนองไม้งาม) อ.เฉลิมพระเกียรติ (เฉพาะต.ยายแย้มวัฒนา ต.อีสาณเขต และต.ตาเป๊ก)
>>เขต 10 อ.ประโคนชัย (ยกเว้นต.ไพศาล) อ.บ้านกรวด (เฉพาะต.เขาดินเหนือ ต.โนนเจริญ ต.หินลาด และต.สายตะกู)

‘อนุทิน’ สวมเสื้อลายกัญชา เข้าคูหาใช้สิทธิ ขอปักหลักรอลุ้นผลเลือกตั้งที่บุรีรัมย์

(14 พ.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นั่งรถตู้เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 เขตเลือกตั้งที่ 2 ที่ศาลากลางหมู่บ้านหมู่ 4 ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จัหวัดบุรีรัมย์ หลังจากนายเนวิน ชิดชอบ นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยา และลูกชาย เดินทางมาใช้สิทธิก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ชั่วโมง

โดยนายอนุทินสวมเสื้อลายกัญชาสีเขียว เดินลงจากรถอย่างมั่นใจ หลังการใช้สิทธินายอนุทินไม่ขอให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด อ้างว่าเกรงว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง หลังจากนี้จะรอลุ้นผลการเลือกตั้งที่จังหวัดบุรีรัมย์

รูปปั้น ‘พญาครุฑน้อย’ ทำท่า ‘มินิฮาร์ท’ โดนใจนักท่องเที่ยว แม้แต่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ก็ยังอดใจไว้ไม่ไหว ต้องขอเข้าไป เซลฟี่

วันนี้ (4 ส.ค.66) ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ยังคงมีบรรยากาศงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประชาชนและนักท่องเที่ยว เดินทางมาชมขบวนต้นเทียนพรรษา จาก 6 คุ้มวัด ที่จอดไว้บริเวณถนนหน้าเทศบาลตำบลประโคนชัย เพื่อให้ได้ชมความสวยงามและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซึ่งส่วนใหญ่ก็จะแกะสลักเป็นตัวละครในพุทธประวัติอย่างงดงาม 

แต่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและพากันแห่ไปถ่ายรูป เซลฟี่ไม่ขาดสาย ก็คือต้นเทียนที่แกะสลักเป็นรูปปั้น 'พญาครุฑน้อย' จำลองทำท่า 'มินิฮาร์ท' พร้อมข้อความด้านล่างว่า “น่ารักอ่ะ” เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งก็มีวัยรุ่นหนุ่มสาวไปยืนทำท่ามินิฮาร์ท ถ่ายรูปคู่กับพญาครุฑน้อยกันอย่างต่อเนื่อง

แม้แต่นายกิติพัฒน์ กะวัง นายอำเภอประโคนชัย พร้อมนายกเทศมนตรีตำบลประโคนชัย  หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ที่เดินเยี่ยมชมให้กำลังใจตามขบวนแห่ต่าง ๆ เมื่อเดินไปเห็นรูปปั้นพญาครุฑน้อยทำท่ามินิฮาร์ทสุดน่ารัก ก็อดใจไม่ไหวที่จะไปยืนทำท่ามินิฮาร์ทถ่ายรูปกับรูปปั้นพญาครุฑน้อยดังกล่าวด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าโดนใจกันทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่เลยทีเดียว 

‘นทท.’ นับร้อย แห่ชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้น ที่ปราสาทพนมรุ้ง ผ่าน 15 ช่องประตู โชคดีท้องฟ้าเปิด ไร้เมฆบัง ทำให้ได้ชมความงดงาม

(10 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาตินับร้อยคน  เดินทางขึ้นไปเฝ้ารอชมปรากฏการณ์มหัศจรรย์ดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง ที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองของปีนี้ ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ ตามที่นักดาราศาสตร์ได้คำนวณและคาดการณ์ไว้ว่า ดวงอาทิตย์ จะขึ้นตรงและสาดแสงส่องผ่าน 15 ช่องประตู ปราสาทพนมรุ้ง ในวันที่ 3-5 เม.ย. และ วันที่ 8-10 ก.ย.ของทุกปี

จนกระทั่งเมื่อถึงเวลา 06.00 - 06.05 น. สภาพอากาศเอื้ออำนวย ท้องฟ้าแจ่มใสปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆบดบัง ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างตื่นเต้นและประทับใจ ที่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาท อย่างน่ามหัศจรรย์ ตามที่นักดาราศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเฝ้ารอชมปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างมาก

โดยนักท่องเที่ยวหลายคนได้ใช้ทั้งโทรศัพท์มือถือ กล้องภาพนิ่ง และกล้องวีดีโอ บันทึกภาพช่วงเวลาดังกล่าว เก็บไว้เป็นที่ระลึก ขณะดวงอาทิตย์อรุณรุ่งสาดแสงส่องผ่าน 15 ช่องประตู ประสาทพนมรุ้ง เพราะปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยาก หลังจากเมื่อวันที่ 8-9 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยท้องฟ้าปิด มีเมฆบดบัง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง

โดยปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตู ปราสาทพนมรุ้ง ตามที่นักดาราศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ ในแต่ละปีจะมีปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตู 2 ครั้ง ในระหว่าง 3-5 เมษายน และวันที่ 8-10 กันยายน ของทุกปี

ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก ใน 1 ปี จะมีให้ชมเพียง 4 ครั้ง เท่านั้น โดยดวงอาทิตย์จะขึ้นตรง 2 ครั้ง ในช่วงวันที่ 3 - 5 เมษายน และวันที่ 8 - 10 กันยายน ของทุกปี และตกตรง 15 ช่องประตูปราสาท 2 ครั้ง ระหว่างวันที่ 5 - 7 มีนาคม และ 6 - 8 ตุลาคม ของทุกปี นับเป็นปรากฏการณ์ที่มหัศจรรย์

สำหรับปราสาทพนมรุ้ง เป็นเทวสถานในศิลปกรรมขอมแห่งเดียวในโลก ที่มีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่เป็นการผสมผสานภูมิปัญญาด้านสถาปัตยกรรม ที่มีการก่อสร้างปราสาท ที่ให้แสงอาทิตย์ส่องตรง 15 ช่องประตู ผ่านศิวะลึงค์ ที่เปรียบเสมือนองค์พระศิวะ ซึ่งตั้งอยู่ภายในปรางค์ประธานของปราสาทพนมรุ้ง ที่เปรียบเสมือนเขาไกรลาสบนสรวงสวรรค์

'ปราสาทพนมรุ้ง' คึกคัก!! นักท่องเที่ยวหลั่งไหลช่วงหยุดยาว ตกวันละไม่ต่ำกว่า 1-2 พันคน ทำแม่ค้ายิ้มปริรับรายได้เพิ่ม

(11 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชน และนักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัด รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ได้พาครอบครัว และเป็นคณะทัวร์ เดินทางขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวเย็น พร้อมเที่ยวชมความงดงาม และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนปราสาทพนมรุ้ง ตั้งอยู่บนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางอารยธรรมขอมโบราณอายุหลายพันปี ช่วงวันหยุดยาวกันอย่างคึกคัก พร้อมสัมผัสกับสภาพอากาศหนาวเย็น เนื่องจากปราสาทพนมรุ้งตั้งอยู่บนยอดเขาสูง หากใครเดินทางขึ้นมาเที่ยวช่วงนี้ก็จะได้สัมผัสกับลมหนาวและทัศนียภาพที่สวยงาม  

โดยช่วงนี้ก็มีนักท่องเที่ยว ทั้งที่มาเป็นครอบครัวและมาเป็นคณะทัวร์ เดินทางขึ้นมาเที่ยวสัมผัสลมหนาว และชมความงดงามของปราสาทพนมรุ้ง วันละ 1,000 - 2,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงหยุดเสาร์-อาทิตย์ปกติเท่าตัว และคาดว่าหากอากาศหนาวเย็นมากขึ้นก็จะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน

จึงส่งผลให้ร้านจำหน่ายสินค้าของฝาก ของที่ระลึกและร้านอาหารบนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง มีรายได้จากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวคึกคักตามไปด้วย และคาดการณ์ว่าหากสภาพอากาศหนาวเย็นลงก็จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปถึงช่วงเทศกาลปีใหม่

ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นช่วงเทศกาลไฮซีซั่น เข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศเย็นสบาย จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนปราสาทพนมรุ้งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 1 - 2 พันคน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติเท่าตัว ซึ่งทางอุทยานฯ ก็ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกทั้งการจราจร ให้คำแนะนำตามจุดต่างๆ รวมถึงบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปราสาทพนมรุ้งด้วย

บุรีรัมย์-วัดพุทธบูชา โคกปราสาทจัดพิธีพุทธาภิเษก "ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช"เข้มขลัง ยิ่งใหญ่มีสาธุชนเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

สาธุชนกว่า 500 คน แห่ร่วมพิธีพุทธาภิเษกศักดิ์สิทธิ์"ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช" เป็นจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567ที่ผ่านมาที่วัดพุทธบูชาป่าโคกประสาท ตำบล หนองปล่องอำเภอ ชำนิ จังหวัด บุรีรัมย์ พระครูปลัดวิชาญ ธัมมะโซโต เจ้าอาวาสวัด) จัดพิธีพุทธาภิเษก "ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช" โดยมี คุณ โกสินธ์  จินาอ่อน  คุณ จุฬาลักษณ์ สยมชัย ประธาน ดำเนินการสร้างถวาย โดยมี นายโชคไชย สว่างรัตน์ นายอำเภอชำนิ ร่วมเป็นประธานเปิดธูปเทียนแพ เบิกเนตรท้าวเวสสุวรรณจันทราพร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ผู้มีความศรัทธาในครูบาอาจารย์ นาย ธนโชติ ธนะกิจมงคลกุลเป็นเจ้าภาพนำลิเก มาเล่นถวายท้าวเวสสุวรรณจันทราพร้อมด้วยร้านสมพรการยางนำภาพยนตร์มาฉาย 2 จอในคืนเดียวกันด้วยความศรัทธาในองค์ปู่เวชสุวรรณจันทราในพิธีทางวัด ตั้งเครื่องบวงสรวงเทพเทวดาพร้อมพ่อพราหมณ์ สิทธิพันธ์ กล่อมเกลี้ยง กล่าวโองการ จากนั้นได้ทำพิธีพุทธาภิเษก โดยพระเกจิ 5 รูป อธิษฐานจิต 4 ทิศ ประกอบด้วย พระครู ธวัชปรียาจารย์

พระครสังฆการปรีชา ศิษย์หลวงปู่หงษ์
พระครูภาวนาสุตตาภิรมย์ศิษย์หลวงปู่ฤทธิ์
พระครูปลัดวิชาญ ธรรมโชโต ศิษย์หลวงปู่เอี่ยม
พระครูปลัดธรรมทัต
ศิษย์หลวงปู่เหมือนประสาทพร

พระครูปลัดวิชาญ ธัมมะโซโต เจ้าอาวาสวัด(กล่าวว่า)
ประวัติตำนานท้าวเวสสุวรรณ
ตามตำนานทางพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในอดีตชาติ ท้าวเวสสุวรรณ เคยเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย ด้วยความใจบุญจึงได้นำเงินทองไปบริจาคให้ผู้ยากไร้ และด้วยกุศลผลบุญที่ ท้าวเวสสุวรรณ บำเพ็ญมานับหลายพันปี พระพรหม และ พระอิศวร จึงให้พรแก่ ท้าวเวสสุวรรณ ให้เป็นอมตะ และเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั่วปฐพี เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ดังนั้นผู้คนจึงนิยมนำรูป ท้าวเวสสุวรรณ ไว้เคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกหนึ่งประการ ตรงตามความหมายของชื่อ "ท้าวเวสสุวรรณ" คือ คำว่า "เวส" แปลว่า พ่อค้า  จึงหมายถึงพ่อค้าอันมีทรัพย์ ได้แก่ ทองคำ

นอกจากนี้อีกหนึ่งตำนานในพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในชาติหนึ่ง ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเดิมชื่อ กุเวรพราหมณ์ ได้ทำบุญกุศลมาก จนชาติต่อมา ได้เป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์ พระนามว่า พระเจ้าพิมพิสาร และทรงเป็นพระสหายกับเจ้าชายสิทธัตถะ ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จมาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร จนบรรลุเป็นโสดาบัน และได้ถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร ให้พระพุทธเจ้าได้เข้าประทับ จึงเป็นอานิสงส์ให้ได้วิมานอันสวยงาม และการที่พระเจ้าพิมพิสารถวายทานบ่อย ๆ จึงเป็นปัจจัยให้มีทิพยสมบัติมากมาย เมื่อได้เป็นเทวดาก็ทรงมีอำนาจมาก ท้าวเวสสุวรรณทั้งสององค์นี้ประทับอยู่ ณ.บัลลังก์วัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท มี2กาย2องค์หน้าเทพสีทองและกายองค์ยักษ์สีแก้วมรกต ด้วยความเชื่อที่ประสบผลสำเร็จในการอธิษฐานท้าวเวสสุวรรณจันทรากายทองเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า.พระคุณ.เชื่อว่าบุคคลใดใครก็ตามที่จะอธิษฐานเรื่องเกี่ยวกับการค้าขายมหานิยมทำมาค้าขายนายหน้าที่ดินอื่นๆติดต่อการงาน.จะสำเร็จผลสมปรารถนา กายที่ 2 สีแก้วมรกตท้าวเวสสุวรรณจันทรา(พระเดช) อธิษฐานว่าบุคคลใดใครก็ตามมีเรื่องเกี่ยวกับคดีขึ้นโรงขึ้นศาลเมื่อมาขอพรท่านแล้วจะสัมฤทธิ์ผลไปทางที่ดีเสมอไป
 

‘ชาวบุรีรัมย์’ เข้าป่าหาเห็ด พบภาพแกะสลักหินโบราณรูปสตรี คาด!! เป็น ‘พระนางสิริมหามายา’ ล่าสุดรอเจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบ

(13 พ.ค.67) ถือเป็นอีกหนึ่งการค้นพบโดยบังเอิญที่ชวนทึ่งไม่น้อย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘ประมูล กองกระโทก’ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ไปเก็บเห็ดเจอสิ่งนี้ค่ะอยู่มานานเพิ่งรู้บ้านเรามีสาธุๆๆๆ

สำหรับสิ่งที่พบเจอคือภาพแกะสลักหินโบราณรูปสตรีมีใบหน้าสมบูรณ์ ซึ่งหลังจากนั้นได้ผู้มาโพสต์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สถานที่พบภาพหินแกะสลักดังกล่าวอยู่ที่ บนเขากระเจียว ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์

ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Supachai Nong’ ได้ออกมาโพสต์ถึงการค้นพบภาพแกะสลักหินดังกล่าวว่า

สรุปเป็นตามที่คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเป็น ‘พระนางสิริมหามายา’ ขณะเหนี่ยวกิ่งสาละ (อยากเห็นรอบๆ รูปสลักนี้มากๆ) ส่วนศิลปะยุคไหนก็คงต้องรอกรมศิลป์

อย่างไรก็ตาม การค้นพบโดยบังเอิญครั้งนี้ หลังจากนี้คงต้องให้กรมศิลปากร นักวิชาการ และผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบค้นต่อไป ว่าเป็นศิลปะในยุคสมัยใด มีอายุเก่าแก่ประมาณเท่าใด?

ทั้งนี้ สำหรับ ‘พระนางสิริมหามายา’ หรือ ‘มายาเทวี’ เป็นพระมารดาของพระโคตมพุทธเจ้า พระศาสดาแห่งศาสนาพุทธ และเป็นพระเชษฐภคินีของพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา

เอกสารทางพุทธศาสนาระบุว่า พระนางสิริมหามายาสวรรคตหลังประสูติการพระโคตมพุทธเจ้าได้เพียง 7 วัน เพราะสงวนครรภ์ไว้แด่พระโพธิสัตว์เพียงพระองค์เดียว หลังจากนั้นพระองค์จึงจุติบนสวรรค์ตามคติฮินดู-พุทธ ส่วนพระราชกุมารนั้นได้รับการอภิบาลโดยพระนางมหาปชาบดีโคตมี พระขนิษฐาที่ต่อมาได้เป็นอัครมเหสีในพระเจ้าสุทโธทนะ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top