Saturday, 7 June 2025
บางจาก

‘บางจาก’ เดินหน้ารุก ‘ธุรกิจสีเขียว’ หวังช่วยยับยั้งคาร์บอนด์ ตั้งเป้า!! 5 ปี เร่งเครื่องเพิ่มสัดส่วนการลงทุนมากกว่า 50% 

(15 ม.ค.67) นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าบริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวทางจะมุ่งให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจสีเขียวให้มากขึ้น เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนด์

ทั้งนี้ บางจากฯ ได้วางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนธุรกิจสีเขียว 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2567-2571) ให้เพิ่มเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของพอร์ตการลงทุนรวม และยังกลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนแผนงานระยะยาวเป็นไปตามที่วางไว้

อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผ่านมาบางจากฯ ได้ปรับวิสัยทัศน์และพันธกิจองค์กร สู่วิสัยทัศน์ใหม่รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว เพื่อให้สามารถมุ่งสู่ช่วงเวลาสำคัญครั้งใหม่ที่ท้าทาย ภายใต้เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี พ.ศ. 2593

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบางจากฯ ได้ดำเนินโครงการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto (ปิ่นโต) โดยบริษัท สมาร์ท อีวี ไบค์ จำกัด (Smart EV Bike) บริษัทร่วมทุนของบริษัท วินโนหนี้ จำกัด (Winnonie) บริษัทสตาร์ตอัปในกลุ่มบริษัทบางจาก 

และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ให้บริการเช่าซื้อ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) ในบริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส เพื่อสร้างบริการขนส่งสาธารณะระบบรอง หรือ Feeder ที่สะดวก ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า บีทีเอส และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ พร้อมบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี เพื่อลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย ตอบโจทย์การเข้าสู่ธุรกิจรถไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทบางจาก และเป็นการสร้าง Net Zero Ecosystem ตามแผนงานที่วางไว้

‘บางจาก’ ประกาศตรึงราคาน้ำมัน 12-17 เม.ย. 67 เตรียมพร้อมปั๊ม 2,200 แห่งให้บริการช่วงสงกรานต์

(28 มี.ค. 67) นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ บางจากฯ จะตรึงราคาน้ำมันไม่ปรับขึ้นระหว่างวันที่ 12-17 เมษายน 2567 แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับขึ้น แต่ถ้าราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง บางจากฯ จะปรับลดลงด้วย 

นอกจากนั้นได้เตรียมพร้อมสถานีบริการน้ำมันไว้ต้อนรับและร่วมดูแลทุกการเดินทางของประชาชนที่กลับภูมิลำเนาเยี่ยมญาติมิตรและท่องเที่ยวพักผ่อน ทั้งผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพสูง กาแฟอินทนิล ธุรกิจเสริม ห้องน้ำสะอาด เพื่อรองรับทุกความต้องการ เติมเต็มความสุขให้คนทุกวัยตามแนวคิด ‘Greenovative Destination for Intergeneration’ ดังนี้ 

>>เติมน้ำมันคุณภาพสูงที่มาตรฐานเหนือกว่า กับน้ำมัน Hi Premium Diesel S และ บางจาก Hi premium 97 ที่มีค่าออกเทนสูงกว่า 97 ได้ที่ปั๊มบางจากที่เดียวเท่านั้น พร้อมโปรโมชั่นพิเศษเมื่อเติมครบ  1,200 บาท ขึ้นไป รับคูปองผ่าน SMS ใช้แลกรับเครื่องดื่มอินทนิลฟรี 1 แก้ว และยิ่งสะสมยอดเติมได้สูงตามเงื่อนไข สมาชิกจะได้รับทองคำ บินไปชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก หรือทริปเที่ยวดูแสงเหนือ แบบไม่จำกัดสิทธิ์ ดูรายละเอียดได้ที่ www.bcpgreenmiles.com

>>เติมความชื่นใจ เมื่อเติมน้ำมันบางจาก ​900 บาท รับฟรี น้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร ฟรี! 1 ขวด มูลค่า 15 บาท เมื่อเติมน้ำมันทุกชนิดครบทุก 900 บาท 1 - 30 เมษายน 2567 ดูรายละเอียดปั๊มที่ร่วมรายการได้ที่ www.bangchakmarketplace.com

>>เติมความสุขในเทศกาลท่องเที่ยว ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้นการท่องเที่ยว เพียงสมาชิกบางจากกรีนไมลส์เติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันบางจากครั้งแรกที่จังหวัดใดก็ได้ และมีการเติมน้ำมันครั้งถัดไปที่สถานีบริการน้ำมันบางจากในจังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ โดยไม่ซ้ำจังหวัดเดิมที่เติมน้ำมันครั้งก่อนหน้า ในวันธรรมดา (ไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป จะได้รับ E-Coupon เติมน้ำมันบางจากมูลค่า 50 บาท ผ่าน SMS ตั้งแต่ 1 - 30 เมษายน 2567 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด ดูรายละเอียดได้ที่ www.bcpgreenmiles.com

>>เติมความอุ่นใจด้วยประกันภัยอุบัติเหตุสงกรานต์ สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ใช้เพียง 9 คะแนน แลกรับแผนความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มสงกรานต์คลายร้อน (ไมโครอินชัวรันส์) คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท และใช้ 9 คะแนน แลกรับแผนความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยสงกรานต์สุขใจบ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) คุ้มครองสูงสุด 30,000 บาท กดรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชันบางจาก ตั้งแต่   1 เมษายน 2567 - 31 พฤษภาคม 2567 โดยกรมธรรม์มีระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน ดูรายละเอียดสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ www.bcpgreenmiles.com

>>เติมความสดชื่นที่ร้านอินทนิล ด้วยเครื่องดื่มหลากหลาย ทั้งกาแฟคุณภาพจากเมล็ดอาราบิก้าแท้ 100% โกโก้อินทนิล  รวมถึงเมนูชื่นใจคลายร้อนรับซัมเมอร์ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ

-April Fool’s Day 1 เมษายนนี้ สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ ใช้เพียง 100 คะแนน แลกซื้อ 9 เมนูยอดนิยมจากอินทนิลได้ในราคาเพียง 1 บาท (เอสเพรสโซ่เย็น, อเมริกาโน่เย็น, โกโก้เย็น, ชาเขียวลาเต้เย็น, ชาไทยลาเต้เย็น, นมชมพูเย็น, นมสดเย็น, ชาดำเย็น และ ชามะนาวเย็น) จำกัด 150,000 สิทธิ์ วันเดียวเท่านั้นที่ร้านอินทนิลทุกสาขาทั่วประเทศ

-มา 5 จ่าย 4 ซื้อเครื่องดื่มอินทนิล 5 แก้ว จ่ายเพียง 4 แก้ว โดยมีเครื่องดื่มที่ร่วมรายการ คือ 9 เมนูยอดนิยมจากอินทนิล (เอสเพรสโซ่เย็น, อเมริกาโน่เย็น, โกโก้เย็น, ชาเขียวลาเต้เย็น, ชาไทยลาเต้เย็น, นมชมพูเย็น, นมสดเย็น, ชาดำเย็น และ ชามะนาวเย็น) ตั้งแต่ 11 - 17 เมษายน 2567 ที่ร้านอินทนิลที่ร่วมรายการ ไม่จำกัดสิทธิ์ตลอดโครงการ ติดตามรายละเอียดโปรโมชันอินทนิลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/inthanincoffeefanclub หรือ Line Official: @Inthaninofficial

>>เติมความพร้อม ดูแลเครื่องยนต์ช่วงเดินทางกับ น้ำมันหล่อลื่นพรีเมียม FURiO ขีดสุดเทคโนโลยีการปกป้องขั้นสูง มาตรฐาน API สูงสุดจาก USA พร้อมรับ Cash Card น้ำมันบางจาก มูลค่าสูงสุด 500 บาท และยังร่วมกับกรมการขนส่งทางบก จัดโครงการ ‘ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ไปกับ FURiO’ ที่ศูนย์บริการคาร์แคร์ FURiO Care และ Wash Pro ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก เพื่อเตรียมความพร้อมของรถก่อนเดินทางตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 - 30 มิถุนายน 2567 ตรวจสอบสาขาที่ร่วมโครงการได้ที่  www.bcpcarcare.com    

>>เติมไฟให้รถ EV Quick Charging Station ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากมีให้บริการมากถึง 284 สาขา ตั้งอยู่บนถนนสายหลักทุกระยะ 100 กิโลเมตร ครอบคลุมทุกทิศทั่วไทยรองรับรถ EV หลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ให้ผู้ใช้รถได้แวะชาร์จรถ EV และพักดื่มกาแฟอินทนิลเพื่อผ่อนคลายจากการเดินทาง ตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันบางจากที่มี EV Charging Station ได้ที่ Bangchak Mobile Application

>>เติมพลังในการเดินทาง ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก Unique Design ใหม่ที่ปั๊มบางจากหัวหิน (The Chlorophyll Hua Hin) จุดแวะพักรองรับนักเดินทางท่องเที่ยวในหัวหิน ด้วยคอนเซ็ปท์ Connecting with Nature เพียบพร้อมด้วยบริการหลากหลาย ได้แก่ Inthanin, Jin Dim Sum, Ai-Cha, Ciao Pizza พิเศษสำหรับผู้ใช้บริการที่ร้านค้าต่าง ๆ เพียงมียอดการใช้จ่าย (ไม่มีขั้นต่ำ) รับสิทธิ์ชาร์จไฟฟรีที่ EV Pavilion ระหว่าง 12 - 16 เมษายน 2567 ณ The Chlorophyll Huahin สถานีบริการน้ำมันบางจาก หัวหิน สาขาเดียวเท่านั้น

นอกจากนั้น บางจากฯ เตรียมเพิ่มพนักงานเพื่อดูแลการจราจรและอำนวยความสะดวก ร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี Lemon Green ร้านใบจาก แฟมิลี่ มาร์ท ท็อปส์ เดลี่ เตรียมอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภคครบครัน รวมทั้งมีตู้เอทีเอ็มไว้พร้อมให้บริการ ตลอดจนได้เตรียมห้องน้ำสะอาด ปลอดภัยและเพียงพอ สำรองน้ำมันและเพิ่มจำนวนรถขนส่ง ทั้งที่สถานีบริการและคลังน้ำมันในทุกภูมิภาค 

“เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ บางจากฯ ขอเชิญชวนทุกท่านแวะผ่อนคลายให้หายเหนื่อย เติมน้ำมัน เติมพลังให้พร้อมเดินทางต่อที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทุกสาขาทั่วประเทศไทยและสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่เดิม ซึ่งเป็น ‘Greenovative Destination for Intergeneration’ ที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางทุกช่วงวัย และขอให้ทุกท่านเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวพักผ่อนโดยสวัสดิภาพครับ” นายเสรีกล่าว

‘บางจากฯ’ ผนึกกำลัง SME D BANK เสริมแกร่ง SME เติมทุนคู่พัฒนา สร้างโอกาสธุรกิจในปั๊มน้ำมันบางจาก

(23 เม.ย.67) นายปริญญา กิตติการุญจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจค้าปลีก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางจากรีเทล จำกัด, นายวรากร โกศลพิศิษฐ์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และรองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC, นายโมกุล โปษยะพิสิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ และ นายนิพนธ์ ยุทธนาระวีศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME D Bank ร่วมเปิดงานสัมมนา ‘SME D Bank เสริมแกร่งเติมทุน สร้างโอกาสธุรกิจในปั๊มน้ำมันบางจาก’ เสริมความรู้ด้านธุรกิจและช่องทางแหล่งเงินทุน เสริมศักยภาพของผู้ประกอบการธุรกิจกลางและขนาดย่อมให้แข็งแกร่ง ต่อยอดธุรกิจได้อย่างมั่นคง 

โดยงานนี้ จัดขึ้นภายใต้บริษัท บางจากฯ บริษัท บางจากศรีราชา จำกัด (มหาชน) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย โดยมีผู้ประกอบการสถานีบริการบางจาก ผู้บริหารและวิทยากรจากทั้ง 3 หน่วยงาน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมปันสุข 1-2 สำนักงานใหญ่บริษัท บางจากฯ อาคาร M Tower เมื่อเร็ว ๆ นี้

สำหรับงานสัมมนา ‘SME D Bank เสริมแกร่งเติมทุน สร้างโอกาสธุรกิจในปั้มน้ำมันบางจาก’ จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจในสถานีบริการบางจาก ผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้าและ ซัพพลายเชน (Supply Chain) หรือผู้สนใจจะลงทุนเปิดร้านในสถานีบริการบางจาก ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ‘เติมทุนคู่พัฒนา’ และคำปรึกษาเพื่อพัฒนาการบริหารจัดการธุรกิจจาก SME D Bank เพื่อประโยชน์ในการต่อยอดธุรกิจเสริมในสถานีบริการ ให้สามารถตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกวัยตามแนวคิด Greenovative Destination for Intergeneration ของบางจากฯ ที่ไม่เพียงให้บริการน้ำมันคุณภาพสูง แต่ยังมีบริการเสริมที่หลากหลาย ครบครัน สามารถเติมเต็มและสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุด 

ก่อนหน้านี้ บางจากฯ ได้ร่วมกับ SME D Bank ในการจับคู่คู่ค้าที่มีความสนใจเช่าพื้นที่ในสถานีบริการบางจาก ทำให้ ได้กลุ่มลูกค้า SME ที่ทำธุรกิจ แต่ยังขาดทำเลพื้นที่เช่า มาร่วมทำธุรกิจในสถานีบริการบางจากเพิ่มเติมไปบ้างแล้ว

‘บางจาก’ เปิดบ้านต้อนรับผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร นพม.รุ่นที่ 22 เรียนรู้การบริหารจัดการองค์กร-พัฒนาชุมชน-สังคมอย่างยั่งยืน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน นางกลอยตา ณ ถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร และผู้บริหารบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมต้อนรับและบรรยายให้กับ คณะผู้เข้าฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นพม.) รุ่นที่ 22 สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการเยี่ยมชมและศึกษา ดูงาน ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท บางจากฯ อาคารเอ็มทาวเวอร์

โดยคณะผู้เข้าฝึกอบรมฯ ได้รับฟังกลยุทธ์การบริหารจัดการองค์กรและวิสัยทัศน์ของ บางจากฯ ในการดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้บริหารและพนักงานมี DNA ในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม มีวัฒนธรรมพนักงาน ‘เป็นคนดี มีความรู้ เป็นประโยชน์ ต่อผู้อื่น’ ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทจนปัจจุบันที่ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ของการดำเนินธุรกิจ โดยในส่วนของการพัฒนาศักยภาพบุคลากร มีกลยุทธ์การพัฒนาบุคลากร Bangchak 100X to 100X Happiness ให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต่อไป

‘บางจากฯ’ ส่งต่อพื้นที่สีเขียว ผ่านกิจกรรม ‘พืชพรรณปันสุข’ แจก ‘กล้าไม้-เมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์’ ที่ปั๊มบางจาก-ร้านอินทนิล

(25 ก.ค. 67) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนประชาชนรับกล้าไม้จำนวน 36,000 ต้น และเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์จำนวน 7,200 ชุด ผ่านกิจกรรม ‘พืชพรรณปันสุข’ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยจะแจกกล้าไม้จาก ‘กรมป่าไม้’ ณ สถานีบริการน้ำมันบางจาก 72 แห่งทั่วประเทศ และแจกเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ณ ร้านอินทนิล 72 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 27-29 กรกฎาคม 2567 (หรือจนกว่ากล้าไม้และเมล็ดพันธุ์จะหมด)

‘พืชพรรณปันสุข’ เป็นหนึ่งในการส่งต่อพื้นที่สีเขียว สนับสนุนนวัตกรรมและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ในโครงการ ‘เติมสุข สู่สังคม’ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่บางจากฯ ร่วมกับพันธมิตรเชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างพื้นที่สีเขียว โดยเป็นจุดบริการแจกกล้าไม้หลากหลายชนิดจากสถานีเพาะชำกล้าไม้ 29 แห่งและเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์จากศูนย์ปรับปรุงและผลิตเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ทั้งนี้ บางจากฯ ได้ริเริ่ม ‘พืชพรรณปันสุข’ ในปี 2565 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา และวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2565 โดยใช้พื้นที่สถานีบริการน้ำมันบางจากเป็นจุดบริการแจกกล้าไม้ให้กับประชาชน

ร่วมเพิ่มพื้นที่สีเขียวและปลูกผักเพื่อบริโภคที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกับ ‘พืชพรรณปันสุข’ รับ ‘กล้าไม้’ ได้ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก 72 แห่งทั่วประเทศ และรับ ‘เมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์’ ณ ร้านอินทนิล 72 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 27-29 กรกฎาคม 2567 (หรือจนกว่ากล้าไม้และเมล็ดพันธุ์จะหมด) ตรวจสอบรายชื่อสถานีบริการบางจากและร้านอินทนิลที่ https://www.bangchak.co.th/en/newsroom/bangchak-news/1411/

40 ปีบางจากโรงกลั่น-น้ำมันแลกข้าว สู่ธุรกิจนวัตกรรมพลังงาน ตั้งเป้าปี 2023 โต 10 เท่าตัว

เป็นเรื่องที่น้อยคนนักจะทราบว่า ‘บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)’ จะมีจุดเริ่มต้นจาก ‘พลเอกเปรม ติณสูลานนท์’ 

เมื่อ พ.ศ. 2527 รัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาบริหารงานโรงกลั่นที่มีอยู่แล้ว  

จึงได้จัดตั้ง บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (ชื่อในขณะนั้น) ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายปิโตรเลียมแห่งชาติ โดยได้มีการจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2527 โดยมี ‘เกษม จาติกวณิช’ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และโสภณ สุภาพงษ์ เป็นผู้จัดการใหญ่ 

ก่อนต่อมาในปี พ.ศ. 2533 บางจากได้ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรศรีประจันต์ จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งสถานีบริการน้ำมันหรือปั๊มน้ำมันชุมชนแห่งแรก และมีโครงการที่โดดเด่นอย่างน้ำมันแลกข้าว ถัดจากนั้นอีก 1 ปี ‘บางจาก’ ได้เป็นรายแรกของไทยที่ผลิตและจำหน่ายน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วและบางจากดีเซล 357 กำมะถันต่ำ

พ.ศ. 2558 บางจากได้พลิกโฉมผ่านการลงทุน ในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และเหมืองแร่ลิเทียม ก่อนได้มีการขายเหมืองแร่ลิเทียมในเวลาต่อมาโดยมีกำไรมากกว่า 4,000 ล้านบาท

พ.ศ. 2560 ‘บางจาก’ ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท บางจาก คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

และใน พ.ศ. 2566 ‘บางจาก’ ประกาศดีลใหญ่ด้วยการซื้อกิจการของเอสโซ่ประเทศไทย ทำให้บางจากมีโรงกลั่นน้ำมันระดับโลก 2 แห่ง สถานีบริการน้ำมันรวมมากกว่า 2,200 แห่งขึ้นเป็นแท่นจำนวนสถานีบริการน้ำมันเป็นเบอร์ 2 ของประเทศ

เจาะกลุ่มธุรกิจในมือ ‘บางจาก’

จากรายงานประจำปีและ Opportunity Day ในไตรมาสที่ 1 พบว่า บางจากมีการดำเนินกิจการใน 6 กลุ่ม ได้แก่ 

1. ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและการค้าน้ำมันดิบ ปัจจุบันมี 2 แห่ง ได้แก่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชาหรือโรงกลั่นน้ำมันของเอสโซ่เดิม มีกำลังการผลิตรวม 294,000 บาร์เรลต่อวันเป็นกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 

2. กลุ่มธุรกิจการตลาด มีสถานีบริการน้ำมันรวมมากกว่า 2,219 แห่ง มีส่วนแบ่งการตลาด 29 เปอร์เซ็นต์ ถ้านับเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ‘บางจาก’ จะมีปั๊มน้ำมันรวมอันดับ 1 นอกจากนี้ในกลุ่มธุรกิจนี้ยังมีร้านกาแฟอินทนิล ที่มีสาขาจำนวนมากถึง 1,020 สาขา 

3. กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด มีการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาดใน 7 ประเทศรวม มีกำลังการผลิตรวมมากกว่า 1,200 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 780 เมกะวัตต์

4. กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มีการผลิตธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพเอทานอล มีกำลังการผลิต 80 ตันต่อวัน 

5. กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ บริษัทได้มีการถือสิทธิ์โดยอ้อมในแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติและถือสิทธิ์การสำรวจปิโตรเลียมหลายแปลงผ่านสัมปทานทรัพยากรธรรมชาติในประเทศนอร์เวย์ 

6. ธุรกิจแห่งอนาคต กลุ่มนี้บางจากมี 2 ธุรกิจหลัก คือ  

ธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน หรือ SAF ธุรกิจส่วนนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโรงงานภายใต้งบประมาณ 8.5 พันล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 หากเปิดให้บริการแล้วคาดว่าจะมีกำลังการผลิตถึง 1 ล้านลิตรต่อวัน 

โดยจะมีการใช้วัตถุดิบจำพวกไขมัน จากน้ำมันเหลือใช้ น้ำมันจากสัตว์ และอื่น ๆ เพื่อผลิต HEFA เพื่อผสมกับน้ำมันเจ็ท ซึ่ง ICAO ได้รับรองให้ HEFA นำมาผสมถึง 50%

ธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (CDMO) โดย BBGI ร่วมทุนกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง Fermbox Bio บริษัทผู้นำด้านการวิจัยและผลิตผลิตภัณฑ์ชีววิทยาสังเคราะห์ด้วยกระบวนการหมักแม่นยำขั้นสูง และก่อตั้งบริษัทร่วมทุน BBFB (BBGI Fermbox Bio) ซึ่งเป็นโรงงานเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง (Precision Fermentation) เชิงพาณิชย์แห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย โดยระยะแรกจะผลิตเอนไซม์ และขยายการผลิตไปยังผลิตภัณฑ์ด้านชีววิทยาสังเคราะห์ (Synbio) ที่ล้ำสมัยอื่น ๆ ต่อไป

ในเฟสแรกโรงงานมีกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ 2,000 ตันต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จปลายปีนี้ และเริ่มผลิตช่วงต้นปี 2568 พร้อมขยายเป็นเฟสต่อเนื่องด้วยจุดแข็งคือ การมีพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่ง จะทำให้เราเติบโตในธุรกิจนี้ได้ และมีตลาดรองรับ พร้อมส่งออกไปจำหน่ายภายในภูมิภาค

เจาะลึกเป้าหมาย ธุรกิจในมือ ‘บางจาก’ ก่อนประกาศกลยุทธ์ 1 ก.ย. นี้ 

เป้าหมาย 10X New Growth Chapter 2023 คือมี EBITDA (กำไรก่อนภาษี ต้นทุนทางการเงิน ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์) ที่ 100,000 ล้านบาท จาก EBITDA เฉลี่ยในปี 2015-2021 คือช่วงปี 2558-2564 อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท หรือโตขึ้น 10 เท่าตัว 

จากงบการเงินปี 2566 ทางบางจากมี EBITDA รวม 41,680 ล้านบาท มีที่มาของแหล่งกำไรตามกลุ่มธุรกิจ ดังนี้ 

45% Refinery and Oil Trading Business ที่ประกอบด้วยโรงกลั่น และธุรกิจการตลาดในเครือของบางจาก
43% Natural Resources จากกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติที่มีแหล่งรายได้จาก OKEA ถือสัมปทานแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในนอร์เวย์หลายแห่ง

10% Clean Power Business
2% Bio-Base Products Business

นอกจากการตั้งเป้าหมายให้ EBITDA เติบโต 10 เท่าตัวแล้ว เป้าหมายนี้ของบางจากยังจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ EBITDA เป็น 

49% Natural Resources สัดส่วนเพิ่มขึ้น 6%
36% Refinery and Oil Trading Business ลดสัดส่วนลง 9%
8% Clean Power Business ลดสัดส่วนลง 2%
4% Bio-Base Products Business เพิ่มสัดส่วนขึ้น 2%
4% New Business กลุ่มนี้จะมีอัตรา EBITDA ถึง 4%

'บางจาก' แทงสวน!! กระแสพลังงานยุคใหม่ เลี่ยมทอง 'ปิโตรเลียม-SAF' แง้ม!! เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน พาอนาคต 'รายได้-กำไร' พุ่ง

ในช่วงบ่ายของวันที่ (2 ก.ย. 67) ที่ผ่านมา กลุ่มบางจากได้จัดแถลงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจาก 'Bangchak Group Way Forward to 2030' นำโดย นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้นำแต่ละกลุ่มธุรกิจของเครือบางจาก 

หลักใหญ่ใจความของการแถลงหนนี้ มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายในปี 2573 ของกลุ่มบางจากที่ตั้งเป้าจะต้องมีตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แท้จริงของธุรกิจ ซึ่งไม่รวมค่าดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในระดับทะลุ 1 แสนล้านบาทให้ได้ (เป้ารายได้รวมทะลุ 1 ล้านล้านบาท)

แผนการสู่เป้าหมายระดับนี้จะต้องทำอย่างไร ?

>> การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
หากพิจารณาจากแผนการลงทุนระหว่างปี 2568-2573 ที่ปักไว้ที่ 1.2 แสนล้านบาท จะเป็นเม็ดเงินเพื่อขยายการลงทุนในทุก ๆ กลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ โดยงบลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดในบริษัทบวกกับการกู้เงินเข้ามาเสริมศักยภาพ

เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะในขณะที่บริษัทพลังงานอื่น ๆ เริ่มวางแผนการลงทุนสเตปต่อไป ด้วยการ 'ลด' การพึ่งพาของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะ 'น้ำมัน' แต่ 'บางจาก' กลับสวนกระแสผ่านความเชื่อที่ว่า..

“ทรัพยากรธรรมชาติ ยังคงมีความจำเป็นต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ จะต้องมีการพัฒนาผ่านการเพิ่มศักยภาพของทรัพยากรเดิม ให้สะอาดขึ้น ควบคู่กับประสิทธิภาพที่สูงขึ้น"

เมื่อปักธงเช่นนี้ บางจาก จึงเลือกขยายการลงทุนในธุรกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ E&P (Exploration and Production) โดยปัจจุบัน OKEA ผู้ผลิตปิโตรเลียมในนอร์เวย์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบางจาก สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ถึง 2.8 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายการลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมแห่งอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยอาศัยจุดแข็งผ่านการนำองค์ความรู้จาก OKEA มาต่อยอดความสำเร็จ โดยเฉพาะการยืดอายุแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นความเชี่ยวชาญหลัก เพื่อการ 'แก้มือ' จากที่เคยลงทุนล้มเหลวกับแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในประเทศอินโดนีเซียมาก่อน 

ทั้งนี้กลุ่มบางจากตั้งเป้ากับแผนการในกลุ่มธุรกิจ E&P โดยจะต้องสร้างกำลังการผลิตปิโตรเลียมทั้งจาก OKEA และกลุ่มบริษัทที่จะไปลงทุนในภูมิภาคอาเซียนนี้ให้ได้ไม่น้อยกว่า 100,000 บาร์เรลต่อวัน 

>> เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน 
อีกหนึ่งธุรกิจบางจากปักธง คือ การผลิต SAF (Sustainable Aviation Fuel) หรือ 'เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน' เพราะมองว่าในอนาคตข้างหน้า ธุรกิจการบินจะยังมีความต้องการใช้พลังงานน้ำมันอย่างต่อเนื่องต่อไป 

"ขนาดการพกพาวเวอร์แบงก์ขึ้นเครื่องบิน ยังเป็นเรื่องต้องห้าม ดังนั้นเครื่องบินที่ใช้พลังงานแบตเตอรี ก็น่าจะยังต้องใช้เวลาเดินทางอีกยาวไกล" คุณชัยวัฒน์ เปรียบเทียบให้เข้าใจ

คุณชัยวัฒน์ เผยอีกว่า ในอนาคต SAF จะมีความจำเป็นต่ออุตสาหกรรมการบิน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับน้ำมันอากาศยานทั่วไป สอดคล้องกับเทรนด์โลก ที่ปัจจุบันสหภาพยุโรป (EU) กำหนดให้เครื่องบินที่จะบินเข้าไปในพื้นที่จะต้องมีการผสม SAF เข้าไปในเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่า 2% และในปี 2,593 ทาง EU กำหนดให้ต้องมีส่วนผสมของ SAF ไม่น้อยกว่า 65%

"ปัจจุบันบางจากได้มีการลงทุนสร้างหน่วยผลิตน้ำมันอากาศยานยั่งยืน (SAF) ในพื้นที่ 8.9 ไร่ ภายในพื้นที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง ภายใต้งบลงทุน 8.5 พันล้านบาท มีกำลังการผลิต 1 ล้านลิตรต่อวัน" คุณชัยวัฒน์ เสริม

ด้านนายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบางจาก กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ให้ข้อมูลถึงความได้เปรียบของบริษัทฯ จากการที่มีโรงกลั่นน้ำมันหลักเป็นของตนเอง จะทำต้นทุนการผลิต SAF ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยได้ถึง 3 เท่า 

โดยเบื้องต้นคาดว่า หน่วยการผลิตดังกล่าวจะแล้วเสร็จในวันที่ 31 มีนาคม 2568 ซึ่งได้มีการเจรจาซื้อขายไปแล้วประมาณ 30-40% ของกำลังการผลิต 

"ปัจจุบันทางกลุ่มบางจากอยู่ระหว่างการรวบรวมน้ำมันใช้แล้ว เพื่อเป็นสต๊อกในการผลิต SAF โดยสามารถรวบรวมได้ประมาณวันละ 5 แสนลิตรจากอัตราการใช้น้ำมันพืชของไทยที่มีการใช้วันละ 3 ล้านลิตร" คุณชัยวัฒน์เสริม พร้อมทั้งยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า "ในอนาคตจะต้องมีการจัดหาวัตถุดิบอย่างน้ำมันใช้แล้วในประเทศข้างเคียงด้วย"

บางจาก เผยอีกว่า สำหรับภาพรวมในไตรมาสแรกของปี 2567 โดยกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน รายงานว่ามีปริมาณการใช้น้ำมันอากาศยานอยู่ที่เฉลี่ย 16.7 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งยังไม่กลับเข้าสู่ปริมาณการใช้งานปกติแบบช่วงก่อนโควิดที่มีการใช้น้ำมันอากาศยานในไทยเฉลี่ย 20 ล้านลิตรต่อวัน และทาง บางจาก คาดว่า SAF ที่ผลิตได้จะเข้าไปเสริมในช่องว่างของปริมาณการใช้น้ำมันอากาศยานดังกล่าว 

สำหรับกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ นอกจาก E&P และ SAF ก็ยังมีอุตสาหกรรมไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่บางจากมีการลงทุนผ่าน บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ซึ่งมีการลงทุนโรงไฟฟ้าใน 7 ประเทศ มีกำลังการผลิต 1,183.2 MW และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 776.2 MW

โดยในกลุ่มธุรกิจส่วนนี้ บางจากได้มีการปรับกลยุทธ์ เพื่อดำเนินการพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จ จากนั้นจะนำระดมทุนสู่ตลาด เพื่อนำกระแสเงินสดมาลงทุนเพิ่มในพื้นที่อื่น ๆ อีก โดย BCPG ตั้งเป้าว่าจะเข้าสู่ SET50 ในปี 2573 

นอกจากในกลุ่มอุตสาหกรรมดั้งเดิมของบางจากแล้ว อีกหนึ่งธุรกิจของบางจากที่มีความน่าสนใจ คือ ธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง (Contract Development and Manufacturing Organization - CDMO) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานแห่งแรกของภูมิภาคอาเซียน โดยคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 

โดยในช่วงแรกธุรกิจนี้ จะมีกำลังการผลิต 200,000 ลิตรต่อปี ซึ่งระยะแรกจะผลิตเอนไซม์ และขยายการผลิตไปยังผลิตภัณฑ์ด้านชีววิทยาสังเคราะห์ (Synbio) ที่ล้ำสมัยอื่น ๆ ต่อไป โดยมีการตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเป็น 1 ล้านลิตรต่อปีในปี 2571

‘บางจาก’ จัดแคมเปญมอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวดแด่ผู้ประสบภัย ส่งต่อน้ำใจจากบางจาก-คนไทยให้ผู้ประสบภัยบรรเทาทุกข์

(9 ต.ค. 67) นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด, นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร 

ร่วมประชาสัมพันธ์แคมเปญ ‘บางจากฯ ชวนปันน้ำใจ ช่วยผู้ประสบภัย มอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวด’ เชิญชวนให้ลูกค้าที่ได้รับแจกน้ำดื่ม 1.5 ลิตรจากการเติมน้ำมันในสถานีบริการน้ำมันบางจากและเอสโซ่เดิมทั่วประเทศที่ร่วมรายการ ร่วมบริจาคน้ำดื่มให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต ตั้งแต่วันที่ 9 - 31 ตุลาคม 2567 หรือจนกว่าจะครบ 1 ล้านขวด

ลูกค้าที่ต้องการร่วมส่งต่อพลังน้ำใจทำได้โดยแจ้งความจำนงกับพนักงานหน้าลานในสถานีบริการ 
โดยบางจากฯ จะประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อกระจายน้ำดื่มไปยังผู้ที่เดือดร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ

‘บางจากฯ ชวนปันน้ำใจ ช่วยผู้ประสบภัย มอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวด’ เป็นการต่อยอดการส่งมอบ
ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย จากการช่วยเหลือผ่านบัตรเติมน้ำมัน เงินสด น้ำดื่ม ข้าวสาร วัตถุดิบในโรงครัว อุปกรณ์ของใช้จำเป็น ฯลฯ ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ 

รวมถึงการเชิญชวนให้ลูกค้าที่เป็นสมาชิกบางจาก กรีนไมลส์แลกแต้มสมาชิกเป็นเงินบริจาคมอบให้แก่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งพา (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยเพื่อนำไปปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ เพื่อบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ 

บางจากฯ หวังว่าการร่วมแรงร่วมใจในครั้งนี้ จะช่วยให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้ไปได้ พร้อมส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยในทุก ๆ พื้นที่ ด้วยความหวังว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติในเร็ววัน

ในการนี้ยังมีนายวัฒนา พรพัฒน์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานค้าปลีกน้ำมัน กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายวรากร โกศลพิศิษฐ์กุล  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) ร่วมกิจกรรมด้วย

12 ยอดฝีมือจาก 'บางจาก แชมเปี้ยนส์ คัพ 2024' รับทุนสนับสนุนพัฒนาฝีมือจากเครือ ‘บางจาก’

(16 ต.ค. 67) นายดาว์ปกรณ์ รัตนสุวรรณ ประธานจัดการแข่งขัน 'ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์' และนายพงษ์ศิริ ศิริมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายปรับปรุงและซ่อมบำรุงสถานีบริการ และนายรชต พืชจันทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการโรงกลั่น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติมอบรางวัลและร่วมแสดงความยินดีกับแชมป์กอล์ฟเยาวชน ในการแข่งขันรายการ 'บางจาก แชมเปี้ยนส์ คัพ 2024' แข่งขันระหว่างวันที่ 11-13 ต.ค.2567 ที่แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรี  
คลับ จ.นครราชสีมา 

รายการนี้เป็นอีกหนึ่งรายการที่นับคะแนนสะสมในอันดับนักกอล์ฟสมัครเล่นโลก (World Amateur Golf Ranking – WGAR) และคะแนนสะสมของ Junior Golf Scoreboard (JGS) 

สรุปผลการแข่งขัน 'บางจาก แชมเปี้ยนส์ คัพ 2024' รอบสุดท้าย  (13 ต.ค.67) มีดังนี้
รุ่น Special GENZ (ชาย) ที่ 1 ปุณยวัจน์ จงศรีอดิสรณ์ คว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 219 (74-73-72) 

รุ่น Special GENZ (หญิง) ที่ 1 เกณิกา บุญประเสริฐ สกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ 217 (68-73-76) 

รุ่น Super GENZ (ชาย) ที่ 1 ราชศักดิ์ สุระสัจจะ นักกอล์ฟเจ้าถิ่น ฟอร์มฮอตในรอบสุดท้าย เก็บเพิ่มอีก 3 อันเดอร์ คว้าแชมป์ไปด้วยสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 208  (70-69-69)  

รุ่น Super GENZ (หญิง) ในรุ่นนี้เป็นการเพลย์ออฟระหว่าง ภัสธนมนท์ สุทธิรักษ์พงศ์ และเขมมินทรา งามเหลา ที่เร่งเครื่องรอบเดียวเก็บไป 4 อันเดอร์ ทำให้สกอร์รวมในรอบสุดท้ายเท่ากันที่ 2 อันเดอร์พาร์ 214 หลังจบการเพลย์ออฟที่หลุม 1 ผลปรากฏว่า เขมมินทรา อาศัยความนิ่งพัตต์พาร์ลง คว้าแชมป์สนามนี้ได้สำเร็จ สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 214 (71-75-68)  

รุ่น Junior GENZ (ชาย) ที่ 1 อิทธิ์ชพัฒน์ บัณฑิตมหากุล รอบสุดท้ายตีโหดกดเพิ่มได้อีก 5 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมสองวันที่ 10 อันเดอร์พาร์ 206 (71-68-67) รุ่น Junior GENZ (หญิง) ที่ 1 ณชา สถิตย์สัมพันธ์ คว้าแชมป์ในสนามสุดท้ายไปครองด้วยสกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 211 (65-72-74) 

สำหรับนักกอล์ฟที่ได้เข้าร่วมโครงการ GENZ Crew 2024 และได้รับทุนสนับสนุนเพื่อพัฒนาฝีมือจากทาง 'บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)' จำนวน 12 คน มีดังนี้ รุ่น Super GENZ (ชาย) ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์, ปัญญาภัทร์ ขันติยู และณฐภัทร ตรงจิตภักดี รุ่น Super GENZ (หญิง) เขมมินทรา งามเหลา, ศศิศรร์ จงศรีอดิสรณ์ และภัสธนมนท์ สุทธิรักษ์พงศ์ รุ่น Junior GENZ (ชาย) อิทธิ์ชพัฒน์ บัณฑิตมหากุล, ฐิติวัฒน์ ปิตุรงคพิทักษ์ และสุรพิชญ์ พิชยเสาวภาคย์ รุ่น Junior GENZ (หญิง) สุริฏฐ์ปรียา พฤกษานุบาล, ณชา สถิตย์สัมพันธ์ และสุธันยา โกมลเกษรักษ์...ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และอัพเดทกิจกรรมต่างๆ ของ 'เดอะ เจ็นซ์' ได้ที่ Official Line : @genzgolf  หรือโทร. 065 696 2229

บางจากฯ กวาด 4 รางวัลใหญ่ อันทรงเกียรติจาก 3 เวที ตอกย้ำ!! ความแข็งแกร่งด้าน ‘ผลิตภัณฑ์-บริการ-แบรนด์’

(10 ธ.ค. 67) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ย้ำความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์ บริการและแบรนด์ จากรางวัลทรงเกียรติในปี 2567 รวม 4 รางวัล จาก 3 งานประกาศผลรางวัล ประกอบด้วย

1) รางวัลถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ 
สยามบรมราชกุมารี สาขาความเป็นเลิศด้านสินค้า/การบริการ (Product/Service Excellence) ในงานประกาศผลรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2024 จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

2) รางวัล Superbrands Thailand 2024 จากแบรนด์บางจาก โดยแบรนด์ ‘บางจาก’ ได้รับรางวัล Superbrands Thailand ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จากผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงของ ‘บางจาก ไฮ พรีเมียม 97’ น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง สูตรที่ดีที่สุดของบางจากฯ 

3) รางวัล Superbrands Thailand 2024 จากแบรนด์กาแฟอินทนิล โดยแบรนด์ ‘อินทนิล’ ได้รับรางวัล Superbrands Thailand ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในฐานะแบรนด์กาแฟรักษ์โลกอันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่มีความโดดเด่นในด้านการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนวิถีชีวิตที่ยั่งยืน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘อินทนิล เพื่อคุณ เพื่อโลก’

4) รางวัล ‘แบรนด์สร้างแรงบันดาลใจ’ ระดับภูมิภาคเอเชีย โดยแบรนด์ “บางจาก” ได้รับรางวัล 
Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2024 สาขา Inspirational Brand Award หรือ รางวัล ‘แบรนด์สร้างแรงบันดาลใจ’ ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil and Gas ที่ได้รับการยกย่องในด้านภาพลักษณ์และปรัชญาที่เป็นต้นแบบและสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น เป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มาตลอดระยะเวลา 40 ปี ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ด้วยแบรนด์ไอเดีย Greenovate to Regenerate: สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด

นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “รางวัลต่าง ๆ ที่บางจากฯ ได้รับในปี 2567 นี้ถือเป็นความภาคภูมิใจและนับเป็นบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จที่มาจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับสินค้าและบริการของบางจากฯ เพื่อส่งมอบความสุขพร้อมประสบการณ์ที่แตกต่าง จนได้รับการยกย่องการันตีด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ และเป็นรางวัลที่ได้รับอย่างต่อเนื่องในทุกปี ขอขอบคุณท่านผู้ประกอบการ คู่ค้า สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ และลูกค้าทุกท่าน สำหรับทุกการสนับสนุน ความเชื่อมั่น และรางวัลจากทุกเวทีที่มอบให้กับบางจากฯ เราจะยังคงสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย พร้อมพัฒนาธุรกิจอื่น ๆ เพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพการให้บริการควบคู่กันไป” 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top