(24 ก.พ. 66) ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของจังหวัดนครพนม มีดีกรีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นแทบทุกวัน หลังมีการวางปฏิทินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 บวกกับมีกระแส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจจะยุบสภาราวกลางเดือนมีนาคม ทำให้พรรคการเมืองใหญ่ต่างเอียงหูฟังเกี่ยวกับข่าวลือดังกล่าว พร้อมเร่งวางตัวผู้สมัคร และสร้างฐานการเมือง เพี่อสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครพนม ประกอบด้วย อ.ศรีสงคราม, อ.บ้านแพง, อ.นาทม และ อ.นาหว้า ถือเป็นฐานที่มั่นของ 'สหายแสง' นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ 'ครูแก้ว' พรรคภูมิใจไทย ที่สอดแทรกชนะการเลือกตั้งผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา โดยก่อนนี้ครูแก้วเคยพ่ายแพ้ให้กับนายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลังจากยุบพรรคพลังประชาชน นายศุภชัย โพธิ์สุ ทนแรงจีบของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่ไหว จึงย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยมีตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นของขวัญ หลังหมดวาระเมื่อปี 2554 จึงถูกประชาชนพิพากษาด้วยการเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทย ครูแก้วหรือสหายแสงจึงกลายเป็นผู้แทนสอบตกพักงานยาวกว่า 7 ปี ภายหลังกลับมาชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2562
ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 ที่จะมาถึงนี้ ต้องยอมรับว่า 'สหายแสง' นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว ส.ส.เขต 1 จ.นครพนม พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง พกความเชื่อมั่นในศักยภาพของตน หวังล้มช้างอย่างพรรคเพื่อไทย เพื่อดับฝันแลนด์สไลด์ โดยประกาศตัวข้ามจากเขต 1 นครพนมอันเป็นฐานที่มั่นเดิม ย้ายไปลงสมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม ชิงตั๋วเข้าสภากับ ดร.มนพร เจริญศรี หรือ 'เดือน' แชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทย โดยมีพื้นที่ อ.ท่าอุเทน, อ.โพนสวรรค์ และอำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะตำบลในเมือง ต.หนองแสง, ต.อาจสามารถ, ต.นาราชควาย, ต.หนองญาติ และตำบลท่าค้อ) โดยปูฐานทางการเมืองกับกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และ อสม. รวมถึงพ่อค้า นักธุรกิจภาคเอกชน
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 ครูแก้วส่งภรรยาคู่ชีวิต คือ นางพูนสุข โพธิ์สุ หรือ 'ครูตุ่น' อดีตข้าราชการครู อดีตรองนายก อบจ.นครพนม ลงสมัครแทน โดยชิงชัยกับ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ อดีต ส.ส.แบบสัดส่วน พรรคภูมิใจไทย และในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เคยเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ ภายหลังหันมาสังกัดพรรคเพื่อไทย ลงสมัครชิง ส.ส.เขต 1 นครพนม แทนนายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ ที่ยอมถอยจากการถูกชกใต้เข็มขัดเมื่อครั้งที่ผ่านมา
ดังนั้น ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ถือเป็นการวัดบารมีครั้งสำคัญ ว่า พรรคภูมิใจไทยจะปักธงชัยล้มแลนด์สไลด์พรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ หากไม่สามารถฝ่าด่านความรักความผูกพันของประชาชน งานนี้ปัญหาต้องตกมาที่พรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ จ.นครพนม อย่างแน่นอน อีกทั้ง ครูแก้วจะต้องฝ่ากระแสดรามา เพราะภาษาพาไปในการปราศรัยกล่าวหา ส.ส.พื้นที่จังหวัดใกล้เคียงที่ไม่เลือกภูมิใจไทย ว่า 'ไอ้โง่' เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565
รวมถึงประเด็นการตรวจสอบ เรื่องการครอบครองป่าดงพะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่ถูกตรวจสอบเรื่องจริยธรรม ถึงแม้เจ้าตัวยืนยันในการครอบครองชอบด้วยกฎหมาย แต่จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ถึงที่สุด เพราะยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของหน่วยงานเกี่ยวข้อง ที่อาจจะกระทบต่อความเชื่อถือของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดสำคัญในทิศทางความได้เปรียบเสียเปรียบ เชิงการเมือง ต้องยอมรับว่า พรรคภูมิใจไทยมีความเสี่ยงสูง ที่จะถูกกระแสต้าน ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ที่เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเคยประกาศจะไม่ร่วมกับฝ่ายเผด็จการ สุดท้ายต้องมาร่วมจับมือกับพลังประชารัฐ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ให้เข้าใจถึงอุดมการณ์การเมือง แต่ที่แน่ ๆ พรรคภูมิใจไทยใช้มุกเก่าไม่ได้อีกแล้ว
นอกจากนี้ สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว ต้องยอมทิ้งฐานคะแนนถิ่นเก่า มาสร้างฐานคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ชนกับแชมป์เก่า คือ ดร.มนพร เจริญศรี หรือเดือน พรรคเพื่อไทย ที่ครูแก้วจะต้องมีทั้งคะแนนนิยม ทั้งส่วนบุคคลและทั้งพรรค เนื่องจากเป็นฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทยมาตลอด ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 นครพนม อ.เมืองนครพนมบางส่วน อ.ธาตุพนม และ อ.เรณูนคร พรรคภูมิใจไทยส่ง นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ ชนกับ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน แชมป์ 12 สมัย พรรคเพื่อไทย ที่มีทั้งคะแนนนิยมพรรค และคะแนนนิยมส่วนบุคคล โอกาสที่พรรคภูมิใจไทย จะชิงความได้เปรียบคงมีโอกาสน้อย