Tuesday, 14 May 2024
ชัชชาติ_สิทธิพันธุ์

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่คว้าคะแนนเลือกตั้งสูงสุดในประวัติศาสตร์ ผู้ว่าฯ แห่งปี

ปี 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ทำให้หมายเลข 8 ที่ปักเสื้อเขาไว้นั้น สร้างสถิติใหม่ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ด้วยการกวาดคะแนนเสียงชาวกรุงเทพฯ ไปกว่า 1,386,215 คะแนน ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุดนับแต่ที่มีการเลือกตั้งมา

ชัชชาติ ในวัย 55 ปี ทำลายสถิติที่ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ทำไว้จากการเลือกตั้งปี 2556 ด้วยคะแนนเสียง 1,256,349 คะแนน และก่อนหน้านี้ คือ นายสมัคร สุนทรเวช ที่ชนะการเลือกตั้งปี 2543 ด้วยคะแนนเสียง 1,016,096 คะแนน

คะแนนของผู้ว่าฯ ผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีนี้ ตามรายงานผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อ 23 พ.ค. 2565 หลังจากนับคะแนนครบ 100% ทิ้งขาดคู่แข่ง 5 อันดับแรก ขนาดนี้ นำคะแนนมามัดรวมกันยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้

‘อัศวิน’ สอนมวย ‘ชัชชาติ’ ชี้ทาง เอาสายสื่อสารลงดิน ‘ไม่ต้องใช้เงิน’

‘อัศวิน’ สอนมวย ‘ชัชชาติ’ เอาสายสื่อสายลงใต้ดิน ไม่ต้องใช้เงินทุนซักบาท ใช้แค่กึ๋นเท่านั้น

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์รายการ TOP PEOPLE บันทึกคนสำคัญ ทางสถานีข่าว TOP NEWS โดยตอนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ ได้พูดถึงแนวคิดการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน โดยระบุว่า การนำสายสื่อสารลงใต้ดิน เป็นความตั้งใจอย่างมาก โดยแบ่งโปรเจกต์เป็น 4 ก้อน โดยมีระยะทางความยาวประมาณ 2,400 กิโลเมตร ที่อยู่บนถนนสายหลักและสายรอง โดยไม่รวมถึงในตรอก ซอก ซอย โดยในระยะแรกที่ดำเนินการนั้น สามารถทำไปได้ประมาณ 100 กิโลเมตร 

แต่พอเปลี่ยนมาเป็นผู้บริหารชุดใหม่ โปรเจกต์เอาสายสื่อสารลงใต้ดินก็หยุดไป ด้วยเหตุผลว่า ต้องใช้เงินเยอะ แต่ตนยืนยันได้ว่า ไม่จำเป็นจะต้องใช้ทุนเลย เพราะโปรเจกต์แรกที่ทำไปนั้นก็ไม่ได้ใช้ทุนของ กทม. แต่ใช้วิธีให้เอกชนมาประมูล แล้วลงทุนวางท่อใต้ดิน จากนั้นไปเก็บเงินกับเจ้าของสายสื่อสารที่ต้องการใช้ท่อสำหรับวางสายสื่อสาร

‘ศรีสุวรรณ’ บุกร้อง ‘ชัชชาติ’สอบเจ้าหน้าที่ กทม.  ปม ปล่อยให้เอกชนเก็บค่าผ่านสะพานพระโขนง

‘ศรีสุวรรณ’ บุกร้องผู้ว่ากทม. สอบ เจ้าหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้เอกชนเก็บเงินค่าผ่านสะพานพระโขนง

วันนี้(27 มี.ค.66)เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดพนักงานเจ้าหน้าที่ กทม.ที่เกี่ยวข้องกับการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ บ.แสนสิริ ได้ก่อสร้างสะพานข้ามคลองพระโขนง เขตวัฒนา แต่มีการเรียกเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) 

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก บ.แสนสิริได้ขออนุญาตสำนักการโยธา กทม.ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยขนาดใหญ่พิเศษโครงการ The Base Park East และโครงการ The Base Park West โดยจัดทำรายงาน EIA ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯแล้วทั้ง 2 โครงการ โดยได้ระบุไว้ในรายงานว่า ในการดูแล บำรุงรักษา ถนนภาระจำยอมบนโฉนดที่ดิน 8 แปลง และสะพานข้ามคลองพระโขนง ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคริมถนน ฯลฯ นั้น หากเกิดกรณีสะพานชำรุดเสียหาย นิติบุคคลอาคารชุดจะเป็นผู้ดำเนินการประสานไปยังสำนักงานเขตวัฒนาเพื่อซ่อมแซมด้วยค่าใช้จ่ายของบริษัทที่ถือครองกรรมสิทธิ์เองทั้งสิ้น รวมทั้งรับผิดชอบค่าไฟฟ้าส่องสว่างที่เกิดขึ้นในที่ดินภาระจำยอมนั้นด้วย 

‘ชัชชาติ’ ชี้ ‘ร้านอาหารปิ้งย่าง’ ทำค่าฝุ่นหนาแน่นเฉพาะจุด เร่งหามาตรการควบคุม

(13 ธ.ค. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงมาตรการควบคุมและแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไม่ได้มีแค่ในกรุงเทพฯ แต่ในพื้นที่ต่างจังหวัดก็เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละพื้นที่ ดังนั้นปัญหาจึงไม่ได้เกิดจากรถยนต์เท่านั้น กทม.จึงพยายามทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยงานอื่น ๆ อาทิ เตรียมร่วมกับกระทรวงพลังงาน ทำโครงการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองรถยนต์ โดยให้ส่วนลดเป็นแรงจูงใจสำหรับรถยนต์เก่าที่มีอายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป เพราะควันรถเป็นส่วนหนึ่งที่ปล่อย PM 2.5 เนื่องจากเผาไหม้ไม่หมด ซึ่งรถประเภทนี้มีกว่า 1 ล้านคันที่วิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ

“เราไม่สามารถไปบังคับให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ จึงร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทำโครงการนี้ขึ้น และหาความร่วมมือจากเอกชนเข้ามาช่วยสนับสนุน จุดหมายคือให้ PM 2.5 ลดลง” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวเพิ่มว่า รวมถึงองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ได้ประสานให้กรมการขนส่งทางบก เข้าไปตรวจควันดำของรถ ขสมก.ถึงอู่รถเมล์ ทั้งนี้การตรวจวัดค่าควันดำ ถึงแม้จะไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ปล่อยฝุ่น PM 2.5 

นอกจากนี้การเกิดฝุ่น PM 2.5 ยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น การเผาชีวมวล การควบคุมรถที่เข้าไซต์ก่อสร้าง ปัจจุบันนี้หากตรวจเจอรถควันดำในไซต์ก่อสร้างใดก็จะสั่งปิดไซต์งาน 3 วัน การตรวจสอบโรงงาน ซึ่งยังคงต้องทำอย่างเข้มข้นถึงแม้ในกรุงเทพฯ จะมีโรงงานไม่มากก็ตาม รวมทั้งฝุ่นที่ค้างอยู่ในอากาศซึ่งมาจากรถยนต์ที่ปล่อยออกมา ทำให้ในบางวันที่เป็นวันหยุดหรือไม่มีการจราจรที่คับคั่ง ก็ทำให้ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงขึ้นได้

“อีกเรื่องที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องใหญ่คือ ร้านจำหน่ายอาหารประเภทปิ้งย่าง อาจไม่ได้มีผลในภาพรวม แต่มีผลเฉพาะพื้นที่ทำให้มีค่าฝุ่น PM 2.5 หนาแน่นขึ้น หลังจากนี้ก็ต้องไปดูว่าต้องมีที่ดักควันหรือไม่ ไม่ได้ห้ามปิ้งย่างแต่ต้องมีตัวดูด หรือเก็บควันก่อนปล่อยออกมาไม่ใช่ปล่อยอิสระ เพราะหากช่วงที่อากาศปิดก็จะทำให้ค่า PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้น” นายชัชชาติกล่าว

‘ชัชชาติ’ วอนอย่าโยง ‘คลองโอ่งอาง’ เข้าประเด็นการเมือง ย้ำ!! กทม.พัฒนาอย่างเต็มที่-เคารพผลงานผู้ว่าฯ เก่าทุกคน

(14 มี.ค.67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงประเด็นที่นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กรุงเทพฯ (เขต 1 พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์) พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการพัฒนาย่านคลองโอ่งอ่างว่า

ขอร้องอย่าให้เป็นประเด็นเรื่องการเมือง กทม.พยายามพัฒนาย่านให้มีความยั่งยืน ไม่ใช่จัดงานอีเวนต์หรือตลาดนัด ที่เป็นกิจกรรมชั่วคราว แต่ก่อนคลองโอ่งอ่างเป็นหลังบ้านของผู้พักอาศัย ส่วนที่มีการถ่ายภาพที่จอดรถเยอะ เพราะมีพื้นที่ส่วนต่อขยายไปยังคลองบางลำพู ที่ยังก่อสร้างยังไม่เสร็จ รวมถึงบางช่วงที่เป็นหลังร้านหรือออฟฟิศ ที่ต้องมีการจอดรถบ้างเป็นปกติ

“ถามว่าเราจะไปคลองโอ่งอ่างเพื่ออะไร คำตอบคือ ไม่มีสินค้า ไม่มีอัตลักษณ์เหมือนกับปากคลองตลาด เสาชิงช้า บรรทัดทอง ตลาดน้อย การพัฒนาอัตลักษณ์ต้องใช้เวลา การนำผู้ค้าด้านนอกมาจัดตลาดนัด ผมว่าคนในพื้นที่ไม่ได้ประโยชน์อย่างยั่งยืน แต่เราก็น้อมรับฟังคำติชม” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติ กล่าวว่า หัวใจของคลองโอ่งอ่าง อยู่ใกล้กับวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ เบื้องต้นอาจจะทำเป็นสตรีตอาร์ต เพื่อช่วยดึงดูดคนมาเยี่ยมชม อย่างไรก็ตาม คนในชุมชนก็ต้องช่วยกันพัฒนาอัตลักษณ์ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่มาดูคลอง หรือมาพายเรือแคนู เรือคายัคก็ไม่ได้อีก เพราะคลองแคบและมีตลิ่งสูง ถ้าอยากพายเรือ ให้ไปที่สวนลุมพินี สวนรถไฟ และอีกหลาย ๆ ที่ ซึ่งเหมาะกับการพายเรือมากกว่า

“เรื่องย่านต้องพัฒนาจากตัวเอง จะเห็นได้จากลานคนเมือง เราจัดอีเวนต์ตลาดนัดได้ แต่จัดเสร็จต่างคนต่างไป คนที่มาขายก็ไม่ใช่คนแถวนั้น แต่เรียนว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง เราเคารพผลงานของทุกท่านที่ผ่านมา ไม่เคยคิดเป็นประเด็นการเมืองทั้งสิ้นเลย เราก็พัฒนาย่านเยอะแยะทั่วกรุงเทพฯ เลย” นายชัชชาติกล่าว

อย่างคลองผดุงกรุงเกษม มีการพัฒนาริมคลองให้มีความสวยงาม บางช่วงไม่ได้มีร้านค้าหรือกิจกรรมทางธุรกิจ ซึ่งคนก็มาวิ่งมาเดินชมความสวยงาม เดินไปถึงตลาดเทวราช มีขายของสด ขายต้นไม้

“ผมเบื่อเรื่องการเมืองนะ เราทำงานอย่างเดียว เพราะเราไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไร ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมาก็ทำผลงานได้ดี” นายชัชชาติ กล่าว

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยสุขภาพประชาชนในวิกฤตค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน มอบหน้ากากอนามัย และหน้ากาก N95 มูลค่า 3.2 หมื่นบาท ผ่าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.

วันนี้ 25 มีนาคม 2567) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ  พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ และนายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ กรรมการ เข้าพบ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อมอบหน้ากากอนามัย และหน้ากาก N95 จำนวน 206,000 ชิ้น รวมมูลค่า 320,000 บาท (สามแสนสองหมื่นบาทถ้วน) นำแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่เขตต่างๆ และบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือตามแต่ทางกรุงเทพมหานครเห็นควร เพื่อบรรเทาทุกข์ในช่วงสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน โดยมี นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และนางชญาน์นันท์ สรพลจิโรจเดชา หัวหน้าแผนกสื่อสารองค์กร (จีน) พร้อมคณะ ร่วมในพิธี ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) กรุงเทพฯ

ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
.
## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

‘กทม.’ ปักหมุด!! 10 จุดเติม ‘น้ำดื่มฟรี’ ทั่วกรุงเทพฯ ช่วยลดการใช้ขวดพลาสติก เล็งขยายเพิ่มอีก 200 จุด

(18 เม.ย. 67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เยี่ยมจุดบริการเติมน้ำดื่มตามโครงการ ‘Bottle Free Seas ลดก่อน ล้นโลก’ บริเวณอุโมงค์หน้าพระลาน และท่ามหาราช ภายใต้นโยบาย ‘น้ำดื่มสะอาด ปลอดภัย ฟรี ทั่วกรุง’

โดยกล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ร่วมกับมูลนิธิความยุติธรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation: EJF) ทำการติดตั้งตู้กดน้ำดื่มฟรี เพื่อบริการประชาชน และลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวไปพร้อมกัน ซึ่งทุกการกดเติมน้ำที่ตู้ 1 ครั้ง จะถือเป็นการลดการใช้ขวดน้ำพลาสติก 1 ขวด

>>เปิด 10 จุดเติมน้ำฟรี ‘ดื่มน้ำฟรี’ ดับร้อนทั่วกรุง ปัจจุบันมีการติดตั้งตู้กดน้ำดื่มฟรีแล้ว 10 แห่ง ได้แก่ 

1. บริเวณประตู 6 สวนเบญจกิติ 
2. สนามพิกเคิลบอล สวนเบญจกิติ 
3. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) 
4. ลานหน้าศาลพระตรีมูรติ เซ็นทรัลเวิลด์ 

5. ป้ายรถเมล์ติดแอร์ หน้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ 
6. ฟอร์จูนทาวน์ พระราม 9 
7. สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ 

8. สวนรถไฟหรือสวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร 
9. อุโมงค์หน้าพระลาน เขตพระนคร 
10. ท่ามหาราช เขตพระนคร

>>แผนดำเนินการติดตั้งตู้กดน้ำดื่มฟรี 200 จุดทั่วกรุงเทพฯ
โดยในส่วนของกรุงเทพมหานคร มีแผนดำเนินการติดตั้งตู้กดน้ำดื่มฟรี 200 จุด ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทุกแห่ง สำนักงานเขตทุกเขต และสวนสาธารณะ 

ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว รวมถึงประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนในการใช้พื้นที่เพื่อติดตั้งตู้กดน้ำเพื่ออำนวยความสะดวก และบริการประชาชนอย่างทั่วถึง

“ต้องขอบคุณ EJF ที่ช่วยทําสิ่งดี ๆ ให้คนกรุงเทพฯ สิ่งสําคัญคือ ต้องร่วมมือกับภาคเอกชน มูลนิธิต่าง ๆ ต้องเชิญชวนมาร่วมกัน ตึกต่าง ๆ ที่มีติดตั้งทุกตึก ที่ทำงานออฟฟิศต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานราชการ ถ้าร่วมมือร่วมใจกันจะติดตั้งครบตามเป้าที่กำหนดในพริบตาเดียว แต่ถ้าให้ กทม. ติดตั้งเองทุกแห่งอาจจะช้านิดนึง” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

>>ผลการดำเนินโครงการฯ ลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
ผลการดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมา สามารถลดการใช้ขวดพลาสติกไปแล้ว 456,894 ขวด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top