Saturday, 11 May 2024
จันทบุรี

ผู้ว่าฯ จันทบุรี จัดประชุมเตรียมความพร้อมปฏิบัติแนวทางและมาตรการส่งออกผลไม้ปลอดภัย ปลอดโควิด-19 สร้างความมั่นใจผู้บริโภค

(1 มี..65) จันทบุรี-ที่ห้องประชุมสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 พืชสวนพลิ้ว นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นประธานการประชุม กำหนดแนวทางและมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 ในโรงคัดบรรจุผลไม้ โดยมี สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดจันทบุรี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ ผู้แทนสมาคมชาวสวนผลไม้ ร่วมประชุมในห้องประชุม และ มีการประชุมผ่านทางไกล ระบบ Zoom ที่มี ทูตเกษตรกรุงปักกิ่ง, ทูตเกษตรเมืองกวางโจว, ผู้แทนส่วนราชการส่วนกลางที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

โดยครั้งนี้เป็นการเตรียมพร้อมบูรณาการหน่วยงานและภาคเอกชนในการเตรียมความพร้อมส่งออกผลไม้ของเกษตรกรไปยังตลาดปลายทางโดยเฉพาะการส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และการขนส่ง

ทั้งนี้ที่ผ่านมาจังหวัดจันทบุรีได้เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติแนวทางและมาตรการควบคุมกลไกการผลิตผลไม้ให้ปลอดภัย ปลอดโควิด-19 สร้างความมั่นใจผู้บริโภค มีการออกมาตรการต่าง ๆ รองรับและเป็นผลดีต่อเกษตรกรชาวสวนผู้ผลิตทั้งด้านราคา และการกระจายผลผลิตโดยจังหวัดจันทบุรีมุ่งเน้นสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคภายใต้มาตรการโควิดเป็นศูนย์ มาตรการความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางสวนผลไม้ การเก็บผลผลิต โรงคัดบรรจุผลไม้ Covid free setting

ขณะที่ทางรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร กระทรวงการต่างประเทศและส่วนราชการ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องก็เตรียมพร้อมในการกระจายผลผลิต ผลไม้ของเกษตรกรมีการประสานงานตลาดปลายทาง และเพิ่มช่องทางการตลาดต่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้นป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19

‘พิธา’ หาเสียงเมืองจันท์ ชวนกาหน้าใหม่เข้าสภาฯ ลั่น!! เมืองหลวงผลไม้จันทบุรี จะมีอนาคตที่สดใส

‘พิธา’ หาเสียงเมืองจันท์ ให้ความเชื่อมั่น ‘ก้าวไกล’ คัดผู้สมัครอย่างดี ขอโอกาสให้คนใหม่เข้าสภาฯ ไปเปลี่ยนประเทศ โหวตผ่านสุราก้าวหน้า เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร

(11 เม.ย. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ช่วยหาเสียงผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี เขต1 และ 2 ของพรรคก้าวไกล สำหรับจุดแรก นายพิธาเดินทางถึงตลาดเจริญสุข พร้อมกับ นายวรายุทธ ทองสุข ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี เขต 1 (เบอร์ 4) เดินหาเสียงแนะนำตัวและขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน โดยนายพิธากล่าวอย่างชัดเจนว่า มาครั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชน ว่าพรรคก้าวไกลได้คัดสรรผู้สมัครเป็นอย่างดี ขอโอกาสให้นายวรายุทธได้เป็นคนใหม่เข้าไปในสภาฯ เป็นปากเสียงของคนจันทบุรี เป็นอีกหนึ่งเสียงในสภาฯ ที่จะโหวตให้กฎหมายที่ก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล

จากนั้น นายพิธา เดินทางต่อไปที่ตลาดห้วยสะท้อน เพื่อช่วยหาเสียงให้นายปรัชญาวรรณ ไชยสืบ ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี เขต 2 (เบอร์ 3) พร้อมกล่าวว่า ตลอด 4 ปี พรรคก้าวไกลได้พิสูจน์ให้ชาวจันทบุรีเห็นแล้วว่า ส.ส. ทุกคนทำงานอย่างคุ้มค่า คุ้มภาษีของประชาชน แม้หลายคนชอบบทบาทของพรรคก้าวไกลในฐานะฝ่ายค้าน แต่ตนต้องบอกว่ายิ่งก้าวไกลทำงานดี ยิ่งต้องให้โอกาสส.ส. ของพรรคเข้าสภาฯ ไปเลือกนายพิธาเป็นนายกฯ ให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เปลี่ยนประเทศไทยให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมหน่วยกองทัพเรือ พื้นที่รับผิดชอบของ กปช.จต.

วันนี้ (23 เมษายน 2566) เวลา 09.00 น. พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยกองทัพเรือ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ณ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ค่ายตากสิน อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยมี พลเรือโท เผดิมชัย สุคนธมัต ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน/ผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ได้ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และให้โอวาทกำลังพล โดยเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนในสภาวะที่ปกติอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่ประมาท รวมทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาความสงบสุขของประชาชนเป็นสิ่งแรก และให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ เท่าที่จะสามารถกระทำได้

ต่อมา ผู้บัญชาการทหารเรือได้ ทักทายกำลังพล ก่อนเข้ารับฟังการบรรยายสรุป จากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เพื่อรับทราบถึงปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้อง ตลอดจนข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงาน

จากนั้นในช่วงบ่าย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปยัง หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด และหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด  เพื่อตรวจเยี่ยมและบำรุงขวัญกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ห่างไกล พร้อมทั้งให้โอวาท ทักทายกำลังพล และไต่ถามถึงความเป็นอยู่ของกำลังพล ด้วยความห่วงใย

สำหรับ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เกิดขึ้นตามที่กองบัญชาการทหารสูงสุด ในขณะนั้น ปัจจุบันคือกองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้กองทัพเรือรับผิดชอบในการป้องกันพื้นที่บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด รวมทั้งให้มีหน้าที่ในการให้ความคุ้มครองเรือประมงในน่านน้ำไทยและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในการป้องกันมิให้เรือประมงไทยล้ำเขตน่านน้ำกัมพูชา เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด มีการตั้งหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่หลายหน่วยงาน โดยมีกองกำลังด้านจันทบุรี – ตราด ปฏิบัติภารกิจในการป้องกันชายแดน และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 1/1 ปฏิบัติภารกิจในการรักษาความมั่นคงภายใน ซึ่งกองทัพเรือเป็นหน่วยรับผิดชอบในการปฏิบัติของทั้งสองหน่วยงานดังกล่าว กองบัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น จึงสั่งการให้กองทัพเรือ จัดตั้งกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เมื่อ 3 พฤษภาคม 2522 เพื่อควบคุมบังคับบัญชากำลังที่ปฏิบัติในพื้นที่ ทั้งด้านการป้องกันชายแดนและการรักษาความมั่นคงภายใน ทั้งนี้ ภารกิจของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ในปัจจุบันคือการป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางทะเล อำนวยการในการปกครองพื้นที่ ควบคุมรักษาระเบียบ/ข้อบังคับ และกฎหมายทั้งปวงในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ

เนื่องจากพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด มีระยะทางตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด มีระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร เพื่อให้การป้องกันชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด จึงได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดขึ้น โดยมี ภารกิจในการปฏิบัติในเขตพื้นที่แต่ละจังหวัด ด้วยการป้องกันชายแดนทางบกและป้องกันการยกพลขึ้นบก ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

ตลอดจนให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ในการป้องกันปราบปราม การกระทำผิดกฎหมายทั้งปวงในพื้นที่รับผิดชอบ โดยในส่วนของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 ที่ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมในวันนี้ เป็นหน่วยขึ้นตรงของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด

‘เสี่ยหนู’ ขึ้นรถแห่ช่วยผู้สมัครหาเสียงรอบเมืองจันท์ ขอ ปชช.เทคะแนนให้คนพื้นที่ มีประสบการณ์ ทำงานเป็น

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66 ที่จังหวัดจันทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คณะผู้บริหาร และแกนนำพรรค อาทิ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ได้ลงพื้นที่ช่วย นายธวัชชัย อนามพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี เขต 1 เบอร์ 6 หาเสียง โดยนายอนุทิน และคณะ ได้เข้ากราบสักการะ และขอพรศาลพระเจ้าตากสินมหาราช และศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจันทบุรี ก่อนร่วมหารือสมาคมอัญมณี และเครื่องประดับ สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จากนั้น ขึ้นรถแห่รอบเทศบาลเมืองจันทบุรี และบริเวณโดยรอบตลาดน้ำพุ – ตลาดโต้รุ่ง – บริเวณสนามทุ่งนาเชย ก่อนลงพื้นที่พบปะประชาชนบริเวณชุมชน โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

นายอนุทิน กล่าวว่า การลงพื้นที่เพื่อช่วยผู้สมัครแนะนำนโยบาย และสร้างกำลังใจให้กับผู้สมัคร ไปจนถึงการเข้ามารับฟังปัญหาของประชาชน เพื่อไปหาทางแก้ไข สำหรับผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย คุณสมบัติเด่นๆ คือ ทุกคนมีความผูกพันกับชาวบ้าน รู้ปัญหา ทำงานเป็น มีประสบการณ์ เราเลือกคนที่เหมาะสมในการรับใช้ประชาชน เราก็หวังว่าถ้าเรามีโอกาสได้เข้าไปทำงาน ก็มั่นใจว่าสิ่งที่เราเสนอประชาชน เราทำได้แน่นอน การมาจังหวัดจันทรบุรี นโยบายที่เสนอ ได้แก่ การพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท นโยบายกลุ่มนี้ มันมาจากที่เรามองว่าโควิด-19 สร้างผลกระทบให้กับพี่น้องคนไทยจำนวนมากที่ต้องไปกู้เงินมาใช้ในการดำรงชีวิต เงินที่ไปกู้นั้นกลายมาเป็นดอกเบี้ย ที่ทำให้พี่น้องขยับลำบาก เราเลยเสนอทางออก ให้พวกเขาได้เวลาได้คิด ได้หายใจ นี้คือที่มาของนโยบายพักหนี้ ส่วนเรื่องเงินกู้ฉุกเฉิน เราเชื่อว่า ทุกคนสามารถเกิดอุบัติเหตุกับชีวิตได้ และบางคน เลือกไปกู้หนี้นอกระบบ กลายมาเป็นดอกเบี้ยมหาศาล ภาครัฐ ต้องเข้าไปช่วยเหลือ

จันทบุรี เป็นเจ้าภาพจัดประชุมร่วมคณะกรรมการชายแดน ส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 25 CBC – 25 เสริมสร้างความมั่นคง กระชับสัมพันธไมตรี

วันนี้ ( 19 พ.ค.66 ) ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมนิวส์แทรเวิลลอร์ดจังหวัดจันทบุรี พลเรือโท เผดิมชัย สุคนธมัต ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด อาทิ นายสันติ รังษิรุจิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี, นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 จังหวัดร่วมประชุมหารือกับผู้แทนจากราชอาณาจักรกัมพูชาที่มี พลเอก เยือน โซะคน รองผู้บัญชาการกองทัพบก และ ผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 3 ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมด้วย คุณหญิง มิถุนา ภูทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง นำหัวหน้าส่วนราชการจากจังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชาร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดน ส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา  ครั้งที่ 25 หรือ CBC – 25 โดยครั้งนี้เป็นการกระชับสัมพันธไมตรี ความร่วมมือชายแดน การค้า เศรษฐกิจ  ความมั่นคงชายแดน รวมทั้งประเพณีสังคมที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน โดยครั้งที่ประชุมเลขานุการคณะกรรมการฯ ฝ่ายไทย และเลขานุการคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชาได้อ่านทบทวน ผลการประชุมร่วมคณะทำงาน กองเลขานุการฯ  ประธานคณะกรรมการฯ ทั้ง 2 ฝ่ายรับทราบบันทึกการประชุมร่วมกองเลขานุการฯ และอนุญาตให้เลขานุการทั้ง 2 ฝ่าย จัดทำเอกสารเป็นทางการเพื่อลงนามต่อไป ซึ่งผลการประชุมของคณะกรรมการชายแดน ส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา  ครั้งที่ 25 จะเป็นข้อมูลในการประชุมคณะกรรมการทั่วไป ระดับประเทศของทั้ง 2 ประเทศในโอกาสต่อไป 

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก

‘ครูใหม่’ ได้บรรจุที่โรงเรียนในชุมชนไร้แผ่นดิน-น้ำประปาไม่มี แต่จะสู้ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู เพื่อนักเรียน 28 ชีวิต

เมื่อไม่นานนี้ ได้มีผู้ใช้งาน TikTok บัญชี kongphop_q แชร์เรื่องราวของคุณครูบรรจุใหม่ท่านนึง ที่ได้เล่าเรื่องราวการบรรจุครูครั้งแรกของตัวเอง ซึ่งขอบอกเลยว่า การมาบรรจุและสอนที่นี่เป็นอะไรที่มีความท้าทายมากๆ เรียกว่าเป็นคุณครูที่มี ‘จิตวิญญาณเต็มเปี่ยม’ ถึงเส้นทางจะดูไม่เรียบหรู ออกแนวจะต้องมีความลำบากในการใช้ชีวิต แต่คุณครูก็พร้อมที่จะสู้ไปพร้อมกับเด็กนักเรียนเลยทีเดียว

โดยคุณครูได้บรรยายคลิปเพิ่มเติมว่า “เมื่อเราได้บรรจุเป็นครูโรงเรียนกลางน้ำ นี่มันคิดถึงวิทยาชัดๆ”

ซึ่งในคลิปคุณครูได้เล่าว่า ได้บรรจุที่โรงเรียนวัดบางชัน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่บนชุมชนไร้แผ่นดิน ซึ่งคุณครูหาที่ติดต่อทางโรงเรียนไม่ได้ ไม่มีข้อมูลพื้นฐานบนโลกออนไลน์เลยด้วย โดยคุณครูได้ทำการติดต่อที่พักโฮมสเตย์ในพื้นที่ และขอข้อมูลติดต่อผู้ใหญ่บ้าน และก็ได้รู้ว่า ที่นั่นไม่มีน้ำประปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย มีเรือขายน้ำจืด ที่พักเสียค่าน้ำและค่าไฟเอง แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่สละสิทธิ์ โดยคุณครูคิดว่าถ้าสละสิทธิ์แล้วเด็กนักเรียนที่นั่นจะมีครูสอนมั้ย เพราะเด็กที่นั่นมีนักเรียนเพียงแค่ 28 คน มีครูอยู่ 4 คน

หลังจากที่คลิปของคุณครูได้ถูกแชร์ออกไป ก็เรียกว่ากลายเป็นคลิปไวรัลที่มียอดเข้าชมมากกว่า 3.1 ล้านครั้ง ยอดไลก์มากว่า 326,000 ครั้ง และยังมีคอมเมนต์อีกมากมายที่เข้ามาชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับคุณครูกันอย่างล้นหลาม เช่น

“เชื่อว่าครูที่มีแพชชั่นในการสอนมีเยอะมาก แต่สิ่งที่ขาดคือการสนับสนุนด้านศึกษาทั้งฝ่ายผู้เรียนและผู้สอนจากรัฐบาล”
“ขอให้เป็นที่รักของเด็กๆและผู้ปกครองนะ”
“จันทบุรียินดีต้อนรับค่ะ ถึงจะลำบากหน่อย แต่คนที่นี่น่ารักนะคะ”

'ทุเรียนไทย' เนื้อหอม!! เฉิดฉายในงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 เบิกทางผู้ประกอบการไทย พาสินค้าสยามสู่ชาวจีนตอนใต้มากขึ้น

(22 ส.ค.66) สำนักข่าวซินหัว เผยว่า 'ทุเรียน' ถือเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมชมชอบจากประชาชนในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะกับ 'ทุเรียนไทย' ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากชาวจีน และรวมถึงฝูงชนที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 ในนครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

เฉินเจี๋ย ผู้จัดแสดงสินค้าทุเรียนอบแห้งจากไทย กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าสู่จีนในปัจจุบันนั้นปลอดภาษี ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของการทำธุรกิจในตลาดจีนอย่างมาก ขณะกลุ่มประเทศหุ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียนยังช่วยมอบโอกาสทางธุรกิจอันดี

ผลิตภัณฑ์ของเฉินสามารถเข้าสู่ตลาดจีนอย่างรวดเร็วผ่านทางรถไฟจีน-ลาว ซึ่งตอนนี้ขยับขยายเส้นทางการเดินรถถึงจังหวัดจันทบุรี ไม่ไกลจากสวนทุเรียนที่เขาร่วมมืออยู่ด้วย ทำให้ขนส่งผลิตภัณฑ์สดใหม่สู่ผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ 'ทุเรียน' เปรียบเป็นนามบัตรใบสำคัญของไทย ท่ามกลางการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เฟื่องฟูยิ่งขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มบริษัททุเรียนไทยคาดหวังส่งออกผลิตภัณฑ์สู่จีนเพิ่มขึ้น

งานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 ในนครคุนหมิง จึงเป็นโอกาสใหม่แก่จีนและกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังเช่น บริษัท จันทบุรี ฟรุ๊ต โปรดักส์ จำกัด ที่ปีนี้ส่งออกผลไม้แปรรูปสู่จีน 12 ตู้คอนเทนเนอร์แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ในแง่ปริมาณ และร้อยละ 30 ในแง่มูลค่า เมื่อเทียบปีต่อปี

"งานแสดงสินค้าฯ ในคุนหมิงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภคชาวจีนตอนใต้" วิชญะ พฤกษากิจ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทฯ กล่าวทิ้งท้าย

‘แทนคุณ-เค สามถุยส์’ บุกสภาพา ‘อดีต ผอ.รร.’ ร้องขอความเป็นธรรม หลังถูก ‘ผู้ช่วย สส.ก้าวไกล’ บีบให้เซ็นใบอนุโมทนาทิพย์ เฉียด 1.2 ลบ.

(9 พ.ย.66) ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายนิยม นพรัตน์ หรือ ‘เค สามถุยส์’ นำผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.จันทบุรี มายื่นหนังสือผ่านตัวแทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม สืบเนื่องจากโดนผู้ช่วย สส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) คนหนึ่งของ จ.จันทบุรี โดยผู้ช่วยคนดังกล่าวมีอักษรย่อ จ. คุกคาม

นายแทนคุณกล่าวว่า วันนี้พา ผอ.โรงเรียนมาร้องเรียน เพราะถูกผู้ช่วย สส.ของพรรค ก.ก. โดยขอให้ ผอ.คนนี้ช่วยออกใบอนุโมทนา 2 ใบ โดยใบแรกจำนวน 8 แสนบาท และใบสองจำนวน 3.7 แสนบาท แต่ผอ.ไม่ยอมออกให้ เนื่องจากไม่มีอำนาจและไม่มีจำนวนเงินดังกล่าวเข้าโรงเรียนแต่อย่างใด ภายหลังเหตุการณ์นี้ ผอ.ได้รับความเดือดร้อนโดนใส่ร้ายป้ายสีกระทบเรื่องส่วนตัว อีกทั้งผู้ช่วย สส.รายนี้ยังบุกเข้ามาโวยวาย ผอ. ว่าทุจริตคดโกง

นายแทนคุณ กล่าวต่อว่า เรื่องของผู้ช่วย สส. คนนี้จะเชื่อมโยงไปถึง สส.จันทบุรี คนนั้นหรือไม่ เพราะเห็นเขาโพสต์เฟซบุ๊ก เรื่องต่างๆ และพวกเราไม่ใช่มุ่งอาฆาตมาดร้าย ไม่ใช่คนที่คิดจองเวร หรือมีความแค้นส่วนตัว แต่เมื่อได้รับเรื่องนี้มาเราก็ดำเนินการ ซึ่งยังมีอีกหลายเรื่องที่คล้ายๆแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วย สส. ผู้ชำนาญการ หลายพื้นที่ รวมทั้งตัว สส. เองด้วยที่มีอีกหลายเรื่อง แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เรียกว่าเป็น 10 เคสไม่ใช่ธรรมดา ถ้าพูดทุกวันถึงสิ้นปีคงไม่หมด

“ตอนนี้บอกได้เลยว่าตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลมาประเทศไทยไม่เหมือนเดิมจริงๆ ไม่เคยมีการเมืองครั้งไหนที่จะเรียกว่าเมาเสรี ฟรีกาม คุกคามประชาชน รุนแรงและเลวร้ายเท่ากับการมีอยู่ของพรรคก้าวไกล” นายแทนคุณกล่าว

ขณะที่ เค สามถุยส์ กล่าวว่า ผู้ช่วย สส. คนดังกล่าวเป็นเพศหญิง และเป็นหลานเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจันทบุรี แต่มีพฤติกรรมเข้าไปอยู่ในกุฏิวัด ซึ่งกุฏิดังกล่าวสร้างจากเงินผู้มีจิตศรัทธาในศาสนา เพื่อใช้รับรองพระสงฆ์ แต่ผู้ช่วย สส. กลับยึดครองไว้เอง ซึ่งเรื่องนี้อาจทำให้เจ้าอาวาสวัดเสียหายไปด้วย หากไม่รู้เรื่องด้วย

ด้าน ผอ. กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ตนไม่ยอมเซ็นใบอนุโมทนาให้ ต่อมาในวันที่ 28-29 มีนาคม ผู้ช่วย สส. ไปหว่านล้อมชุมชนเพื่อให้มากดดัน ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน ชีวิตวุ่นวาย ลามไปถึงลูกสาวด้วย สุดท้ายทนไม่ได้จึงลาออกจากการเป็นผอ. แต่ก็เปลี่ยนใจขอทบทวนไม่ลาออก เนื่องจากมีเวลา 30 วัน ในการทบทวน แต่ก็ถูกคำสั่งให้ออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ทบทวนการเซ็นคำสั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายแทนคุณ ได้เผยแพร่ภาพที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยเป็นภาพ สส.จันทบุรี เขต 2 พรรค ก.ก. คือ น.ส.ปรัชญาวรรณ ไชยสืบ พร้อมทีมผู้ช่วยดำเนินงานของผู้แทนราษฎร 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top